ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เพื่อนใหม่
เพื่อนใหม่
"ชิหายล่ะ!"มาร์ชพูดเสียงดังลั่น แต่ดีที่ไม่มีใครอยู่ระแวกนั้นเลยไม่งั้นทุกสายตาคงจ้องมาที่มาร์ชหมด
"เปิดระบบริงซิสเตม ดีนะไม่มีคนอยู่ไม่งั้นต้องกลับเข้าไปในห้องอีกรอบ"มาร์ชพูดจบก็นึกไปถึงคำเตือนของมีน่า
'ริงซิสเตมสีแดงนั้นมีแต่เริ่องที่เป็นปริศนามากมายและไม่ค่อยมีให้เห็นโดยทั่วไปดังนั้นการที่น้องจะเปิดระบบ ต้องระมัดระวังอย่าทำในที่สาธารณะจะดีกว่า'มาร์ชเลื่อนเมนูจากระบบริงซิสเตมอยู่สักพักหนึ่ง
"เจอแล้ว!!! ดันลืมซะได้"เมือมาร์ชกดปุ่มยืนยันที่หน้าต่างกลางอากาศ ก็ปรากฏรองเท้าผ้าใบสีดำขึ้นที่เท้าของเขา มาร์ชอมยิ้มพอใจกับรองเท้าที่ใส่ ก่อนจะเอะใจกับข้อความในริงซิสเตมของตน
' ท่านสามารถเรียกระบบ ปฏิบัติการสมองอัจฉริยะได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดหน้าต่างริงซิสเตมในที่สาธารณะ เพราะเนื่องจากท่านเป็นบุคคลที่อยู่ในระบบเรดริงซิสเตม'
"เรื่องนี้คงจะมีเฉพาะคนที่มีริงซิสเตมสีแดงสินะที่รู้ ฉันขอเปิดใช้ระบบที่ว่าก็แล้วกัน"สิ้นคำพูดมาร์ชหน้าต่างกลางอากาศก็จางหายไปเหมือนกับตอนที่ปิดระบบอยู่ ก่อนจะมีเสียงดังขึ้นในหัวของมาร์ช
"ยินดีตอนรับสู่ระบบสมองอัจฉริยะค่ะ กรุณาตั้งชื่อสมองอัจฉริยะเพื่อความสะดวกในการใช้งานด้วยค่ะ"
"ฉันขอเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้ไหม"มาร์ถามกลับแทนที่จะทำการตั้งชื่อให้เลย สร้างความแปลกใจให้กับระบบของเขาอย่างมาก
"ป...เปลี่ยนแปลงอะไรหรอค่ะ"
"ผมอยากให้ระบบสมองอัจฉฉริยะเป็นเสียงผู้ชายอายุใกล้เคียงกับผมจะได้ไหมครับ"
"ระบบทำการเปลี่ยนเสียงของสมองอัจฉริยะเรียบร้อยแล้ว กรุณาตั้งชื่อให้ด้วยค่ะ"
"ไอล์สไตน์! ถ้าสมองอัจฉริยะชื่อนี้เหมาะที่สุดแล้ว"มาร์ชพูดจบก็อมยิ้มให้กับความฉลาดของตัวเอง ที่ตั้งชื่อให้ระบบของตัวเองได้แบบภาคภูมิใจขนาดนี้
"ไอสไตน์ ฝากตัวด้วยนะ"
"ครับ ฝากตัวด้วยเช่นกันครับ"เสียงระบบที่ดังในหัวของมาร์ชตอบกลับ
"อีกเรื่องนะ เอาแแบบไม่มีหางเสียง ฉันจะลุยโลกใบใหม่นี้กับเพื่อน ไม่ใช่ลูกน้อง เข้าใจนะ"มาร์ชพูดกับระบบของตัวเองอย่างสนิทสนม
"อืม ได้เลยถ้านายต้องการอะไรแค่เรียกชื่อเรา ระบบริงซิสเตมก็จะเปิดใช้งานทันที"เสียงเด็กหนุ่มของระบบสมองอัจฉริยะตอบกลับมาร์ชด้วยสำนวนที่ใช้ในหมู่เพื่อน ทำให้มาร์ชรู้สึกพอใจถึงกลับยิ้มออกมาให้เห็นฟันที่มุมปาก
"ไอสไตน์"จู่ๆมาร์ชก็เรียกเพื่อนคนใหม่ขึ้น
"มีไรหรอมาร์ช"
"คือฉันเพิ่งนึกขึ้นได้อ่ะ ว่าฉันยังไม่ได้จ่ายค่ารักษาเลยทำไงดี"
"ขอเวลาแปปนึงนะ"ไอสไตน์เงียบหายไปสักพัก
"ในระหว่างที่ฉันกำลังตรวจสอบ มีคนทำการจ่ายค่ารักษาให้นายพอดี ซึ่งค่ารักษาค่อนข้างสูงเพราะการรักษาร่างกายนายต้องใช้ยาพิเศษ เนื่องจากร่างกายนายมีความแข็งแรงมาก..."ไอสไตน์ต้องหยุดพูดเพราะมาร์ช
"เดี๋ยวนะ ก่อนอื่นเลยใครจ่ายเงินค่ารักษาให้ฉัน?"
"ไม่รู้เหมือนกัน ดูเหมือนเค้าไม่ประสงค์ออกนาม"
"แล้วไอ้ที่ว่าร่างกายฉันมีความแข็งแรงมากคือยังไง"
"คนในยุคนี้มีกล้ามเนื้อที่ต่างจากนาย การรักษาเลยใช้ยาที่มีทั่วไป แต่ของนายยาต้องไปขุดตัวยามาจากอดีตเพื่อรักษา"
"ก็ดีมีคนจ่ายให้แล้วจะได้ไม่ต้องมีปัญหา"มาร์ชถอนหายใจ เพราะเขาคิดว่าจะต้องย้อนกลับไปขอความช่วยเหลือจากมีน่าอีกแต่ในใจก็อดสงสัยเรื่องการจ่ายค่ารักษาไม่หยุด
'คนๆนั้นเป็นใครกันแน่ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จ่ายค่ารักษาให้ฉัน ปัญหาหนึ่งแก้ไม่ตก ปัญหาสองก็มาเพิ่มอีกแล้ว ขอบคุณก็แล้วกันไว้มีโอกาสฉันจะตอบแทนนะ'
"นี่ไอสไตน์ ช่วยเปิดระบนำทางให้ฉันทีซิ"มาร์ชหลังจากคิดเรื่องคนจ่ายค่ารักษาปริศนาก็พูดกับไอสไตน์
"แล้วจะให้นำทางไปไหนล่ะ แต่ฉันขอแนะนำให้ไปร้านเสื้อผ้า เพราะในเมนูการแต่งตัวนาย ไม่มีเสื้อผ้าเหลืออยู่เลยล่ะ"
"ก็รู้อยู่หรอกว่าไม่มีเสื้อผ้าจะใส่แล้ว แต่ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ"มาร์ชตอบทำหน้าหงอย
"เงินในบัญชีนายไง"ไอสไตน์ยังคงแนะนำ
"เช็คแล้ว ยอดเงินในบัญชีฉันคือไข่ต้มว่ะ"ใบหน้าที่ว่าหงอยตอนนี้แย่เข้าไปอีก
"นั่นมันยอดของตอนเช้า ตอนนี้นายมีเงินในบัญชีแล้ว พอดีคนที่จ่ายค่ารักษาเค้าโอนเข้ามาให้นายด้วย ขอโทษทีที่ฉันยังไม่ได้แจ้งนาย"
"เดี๋ยวนะ นอกจากจ่ายค่ารักษายังโอนเงินเข้าบัญชีอีกด้วย โอ๊ยย!!!ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจตั้งแต่ตื่นมา คนแรกที่ฉันรู้จักคือพี่มีน่า ต่อมาก็นายแล้วใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้"มาร์ชเอามือมาขยี้หัวตัวเองจนผมยุ่งเหยิงด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"สรุปให้นำทางไปร้านเสื้อผ้าอยู่ไหม"ไอสไตน์ถามขึ้นเพราะเห็นว่ามาร์ชยืนคิดนานแล้ว
"อืม นำทางที"มาร์ชหลังจากคิดไม่ออกก็ต้องปล่อยไปก่อนเพราะขืนยังคิดต่อคงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
จากนั้นมาร์ชก็เดินตามทางที่ไอสไตน์นำ จนกระทั่งเข้ามาถึงลิฟต์ มาร์ชไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะไอสไตน์จัดการเลือกชั้นที่จะไปให้เขาเรียบร้อย มาร์ชสังเกตเห็นว่าในลิฟต์เป็นห้องเหล็กสี่เหลี่ยมที่ไม่แผงหรือปุ่มอะไรเลย คงใช้ระบบริงซิสเตมในการควบคุมทั้งหมดและลิฟต์ก็ไม่ได้เคลื่อนที่ลงตรงๆอย่างเดียวบางทีก็เคลื่อนในแนวขนาน ลิฟต์ตัวนี้ดูเหมือนจะมีมาร์ชใช้อยู่คนเดียวเพราะไม่มีการเปิดออกระหว่างทางเลย
ติ๊ง เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อมาร์ชลงมาถึงชั้นล่างสุดตามที่ไอสไตน์เลือกไว้ เขามองดูไปรอบๆอย่างรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นอยู่. หุ่นยนต์เดินทำหน้าที่ของมันเองตามที่ได้กำหนดเอาไว้ ห้องโถงกว้างขวางถึงจะมีผู้ป่วยค่อนข้างเยอะแต่การจัดการกลับมีระเบียบและรวดเร็ว มาร์ชหันไปเห็นผู้บาดเจ็บรายหนึ่งที่นอนอยู่บนแผ่นใสๆคล้ายกระจกแต่มันลอยได้ เพียงแค่หมอควบคุมมันผ่านหน้าต่างกลางอากาศของริงซิสเตม
"มนุษย์พัฒนามาถึงจุดนี้ได้จริงๆหรอเนี่ย"มาร์ชพูดขึ้นเพราะอดไม่ได้
"จริง"เสียงไอสไตน์ดังขึ้นในหัว สั้นๆได้ใจความ
"นี่ไอสไตน์ เมื่อกี้ฉันพูดกับตัวเอง ไม่ได้ถามนาย"
"อ่าวหรอ ฉันจะไปรู้ไหมละ"ไอสไตน์ตอกกลับมาคำนี้ทำเอามาร์ชเกือบหงายหลัง
'คือมันไม่รู้จริงๆหรือมันกวนเบื้องล่างฟ่ะ'มาร์ชคิดในใจ
"ไปกันต่อเถอะ"มาร์ชกลัวโดนอีกดอกจึงรีบบอกให้เดินต่อ จากนั้นมาร์ชก็เดินต่อตามที่ไอสไตน์บอก พอมาร์ชเดินออกมานอกศูนย์การรักษา เขาย้อนกลับไปมองสิ่งก่อสร้างมโหฬารที่เขาเพิ่งเดินออกมา
"ห้องที่เราอยู่มันชั้นไหนกัน"มาร์ชพูดขึ้น ในตอนนี้เขาแหงนหน้ามองตึกความสูงที่ระดับ 1,200 เมตร
"....."
"ไอสไตน์ คือฉันถามนายอยู่นะ ว่าห้องที่รักษาฉันอยู่ชั้นไหน"มาร์ชต้องถามรอบที่ 2 เมื่อไม่มีเสียงตอบกลับมาในหัวของเขา
"อ่าวหรอ นึกว่าพูดกับตัวเอง"คราวนี้ไม่เงียบ ไอสไตน์ตอบเขาแล้ว
"ช่างมันฉันไม่อยากรู้แล้วล่ะ ไปกันต่อจริงๆเหอะ"มาร์ชพูดแบบกัดฟัน และเมื่อมาร์ชหันหลังกลับเพื่อเดินไปตามที่ไอสไตน์บอกเขาในหัว เขาต้องหยุดเท้าหัวแทบทิ่ม เพราะสิ่งที่ยืนตรงหน้าเขาในตอนนี้
"ด..ด..เดี๋ยวสิ น...น..นี่มัน เอเลี่ยนของจริงไม่ใช่หรอ!"มาร์ชพูดทั้งที่ตัวสั่น เขาทำท่าจะตะโกน และคงทำไปแล้วหากไม่ได้ยินเสียงห้าม
"หยุดก่อนมาร์ช ห้ามตะโกนนะ ทำใจให้เย็นๆลงก่อน แล้วนายลองมองไปรอบๆสิ"ไอสไตน์พูดขึ้นได้ทันท่วงที. มาร์ชเมื่อสงบเพราะไอสไตน์บอกแล้วก็มองไปรอบๆตาม แล้วเขาก็ได้เห็นเอเลี่ยนอีกหลายๆตัว และอีกหลายๆชนิดกำลังเดินปะปนอยู่กับมนุษย์
"มีอะไรหรอพี่ชาย?"ดูเหมือนเอเลี่ยนตรงหน้าจะสังเกตเห็นว่ามาร์ชหน้าถอดสี และยืนนิ่งอยู่นานแล้ว
"ม..ไม่มีอะไรครับ รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยเองครับ"มาร์ชตอบกลับ
"มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะพี่ชาย"เอเลี่ยนตัวนั้นพูดกับเขาด้วยความเป็นมิตร มาร์ชพูดขอบคุณเสร็จก็หลบทางให้เอเลี่ยนตัวนั้นเดินเข้าไปในศูนย์การรักษา
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันไอสไตน์ ทำไมเอเลี่ยนมาเดินในโลกแบบนี้"มาร์ชถามขึ้นเพราะภาพเหล่านี้เขาเคยเห็นก็แค่ในหนังและไม่คิดว่าจะมีจริงๆ
"มันเป็นเรื่องปกติสำหรับยุคนี้ เทคโนโลยีบางอย่างก็ได้พวกนี้ช่วยพัฒนา แล้วถ้าเมื่อกี้นายแหกปากออกไป นั่นแหละจะเกิดเรื่องไม่ปกติ เคยมีกลุ่มคนต่อต้านความคิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเอเลี่ยนอยู่เหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เป็นผลเพราะเอเลี่ยนเองก็เรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับมนุษย์พวกมันนำเทคโนโลยีมาแลก และเจรจาต่อรอง"ไอสไตน์อธิบาย
"ยังต้องเจอและเรียนรู้อะไรอีกเยอะสินะ ฉันยังใหม่มากสำหรับโลกนี้"มาร์ชพูดโดยที่สายตาจับจ้องภาพตรงหน้าเขาอย่างตั้งใจ
ในที่สุดมาร์ชก็เดินทางมาถึงที่ร้านขายเสื้อผ้า เขาใช้เวลาเลือกเสื้อพานานพอสมควรเพราะชุดในยุคนี้เขาไม่คุ้นตากับมันเท่าไหร่ เลยตัดสินใจยากถึงแม้จะมีไอสไตน์คอยแนะนำอยู่
"ทั้งหมดนี่ 8700 รูนค่ะ"พนักงานกล่าวเสียงหวาน ไอสไตน์รีบทำการโอนเงินให้โดยที่มาร์ชไม่ต้องพูดอะไรเลย
"ได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว โอกาสหน้าเชิญใหม่นะค่ะ ขอบคุณค่ะ"พอซื้อเสื้อผ้าเสร็จมาร์ชก็เดินเล่นไปเรื่อยๆเพื่อถามข้อมูลที่สงสัยจากไอสไตน์ไปด้วย แต่ข้อมูลต่างๆนอกจากส่วนสาธารณะแล้วมาร์ชก็ไม่รู้อะไรเพิ่มอีก เพราะไอสไตน์บอกว่าข้อมูลจะมาจากสมองด้วย เขามีหน้าที่รักษาข้อมูลต่างๆในสมองแล้วนำมาใช้ในเวลาต้องการ แต่มาร์ชกลับมีความทรงจำให้รักษาน้อยมาก ไอสไตน์ยังพูดอีกว่าเหมือนกับว่ามีใครตัดมันทิ้งไปความทรงจำของมาร์ช มาร์ชหิวแล้วเลยแวะกินข้าวตอนนี้ก็บ่าย 2 กว่าแล้ว
"นายจะทำไรต่อหรอ"ไอสไตน์ถามขึ้นหลังจากจัดการค่าอาหารให้มาร์ชเรียบร้อยแล้ว
"ที่คิดเอาไว้หลักๆก็เรื่องเรดริงซิสเตมทำไมฉันถึงอยู่ในประเภทนี้ แล้วก็คนที่ให้เงินฉันมากินมาใช้เป็นใครกันแน่ ส่วนวิธีการหาคำตอบยังไม่รู้"มาร์ชพูดจบก็เครียดขึ้นมาทันที
"ให้สถานการณ์พาไปดีกว่าคิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ"
"นั่นสินะ เมื่อก่อนเวลาฉันนักเล่นเกมเครียดก็จะหาเกมเล่น ยุคนี้มีเกมให้เล่นไหม" มาร์ชสะบัดหัวไล่ความเครียดออกไป
"มีสิจะเอาแนวไหนล่ะ"
"มีคนเล่นเยอะๆสิ เพราะเกมไหนที่คนเล่นเยอะย่อมหมายความว่ามันสนุก"
"The Immortal ตำแหน่งร้านที่เปิดให้บริการเกมนี้ ที่ใกล้ที่สุดใช้เวลาเดินไป 10 นาทีก็ถึง ให้นำทางเลยไหม"ไอสไตน์หาข้อมูลได้จึงรีบบอกมาร์ชทันที
"รออะไรล่ะ ช่วงเวลาแห่งความสุขของชีวิตนักเล่นเกมเชียวนะ นำทางโลด"
มาร์ชเดินทางตามที่ไอสไตน์นำ 10 นาทีมาร์ชก็มาโผล่ที่ตึกกระจกขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีคนเดินเข้าเดินออกไม่ขาดสาย พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของพวกเขาทุกคนช่างแสดงออกถึงความสุขอย่างไม่ต้องบอก
"ถึงเวลาพระเอกคืนชีพแล้วจ้าา"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น