ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เรียนรู้โลก(ยุค)ใหม่
เรียนรู้โลก(ยุค)ใหม่
มาร์ชเงยหน้าขึ้นสบตากับคุณหมอที่มองผ่านมาภายใต้หน้ากาก หลังจากที่เขาก้มหน้าลงไปนับนิ้วมืออยู่พักหนึ่ง หมอพยักหน้าให้เขาช้าๆเป็นเชิงบอกว่า 'เรื่องปีพ.ศ. 3000 กว่าเป็นเรื่องจริง' แต่มาร์ชเลือกที่จะส่ายหน้าตอบกลับแทน เพราะตั้งแต่เกิดมาถึงจะเคยผ่านเรื่องราวมามากมาย แต่เรื่องที่กำลังเกิดมันมากและยากเกินไปที่ทำใจให้เชื่อโดยง่าย ถึงอย่างนั้นทุกๆอย่างในตอนนี้ตั้งแต่มาร์ชลืมตาตื่นขึ้นมา ก็บ่งชี้ความเป็นไปได้แค่เพียงอย่างเดียว
"ทั้งหมดนี้ คือเรื่องจริง!"มาร์ชตกอยู่ในภวังอีกครั้งเมื่อเขานึกถึงความทรงจำ แต่ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวก็สิ้นสุดลงที่เดิม ตรงที่ได้รับรางวัลจากการเป็นแชมป์ 10 เกมติดเท่านั้น และเมื่อมาร์ชพยายามฝืนนึกภาพความทรงจำต่อจากนี้ ก็จะปวดหัวอย่างรุนแรงทันที
"คุณมาร์ชค่ะ"เสียงคุณหมอที่แสนจะนุ่มนวล ช่วยดึงเขาที่อยู่ในห้วงความทรงจำกลับมา
"ค...ครับ"มาร์ชตอบตะกุกตะกักตามประสาคนเพิ่งได้สติ
"หมอเห็นใจคุณนะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ตอนนี้หมออยากให้หยุดคิดเอาไว้ก่อน แล้วนอนพักผ่อนให้มากๆจะดีกว่า"หมอกล่าวพร้อมกับขยับตัวออกจากการนั่งค่อมตัวมาร์ช แล้วลงจากเตียง
"ผมนอนยังไม่พออีกหรอครับ?"มาร์ชถามสีหน้าลอยๆราวกับคนไร้วิญญาณ เขาไม่ได้มีเจตนากวนหมอแต่อย่างไร แต่อยากใช้เวลาที่ควรคิดว่าจะทำยังไงต่อมากกว่า
"มันไม่เหมือนกันนะ นอนครั้งนี้เพื่อให้ร่างกายพักฟื้นจากอาการอ่อนเพลีย โดยมีสมองหลั่งสารต่างๆออกมาเอง แต่นอนครั้งก่อน..." หมอหยุดพูดเพื่อดูอาการของมาร์ช เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดก็จึงพูดต่อ
"เหมือนกับการจำศีลของสัตว์ เอาเป็นว่านอนพักจะได้หายไวไวด้วย คุณมาร์ชคงไม่ใช่คนที่ชอบนอนแบบนี้หรอกจริงไหมค่ะ"มาร์ชพยักหน้า เขายอมรับเลยว่าเดิมทีเขาไม่ค่อยเข้าโรงพยาบาลอยู่แล้ว เพราะเสียค่ารักษาสูงเกินจำเป็นแถมยังเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ ยิ่งเป็นตอนนี้เกิดเรื่องที่ไม่เข้าใจมากมายยิ่งไม่อยากนอนไปใหญ่ ดูเหมือนตอนนี้หมอกำลังบันทึกการรักษาลงในแบบฟอร์มกลางอากาศ เหมือนอย่างตอนที่ส่งปฏิทินให้มาร์ชดู มาร์ชเองก็ดูจะสนใจวิทยาการนี้มากเป็นพิเศษ
"หมอครับ ที่หมอกำลังทำอยู่ตอนนี้คืออะไรหรอครับ?"สุดท้ายนิสัยเดิมที่แก้ไม่หายของมาร์ชก็โผล่ออกมา
"คุณมาร์ชค่ะ"หมอเริ่มลากเสียงยาว
"หมอบอกแล้วนะให้พักผ่อนจะได้หายไวไว ถ้าอยากรู้อะไร เอาเป็นพรุ่งนี้แล้วกัน วันนี้หมอออกเวรพอดี แต่ขอกลับไปนอนยืดเส้นยืดสายหน่อย เหนื่อยมาทั้งเดือนแล้ว ไว้หมอมาเยี่ยมอีกทีพรุ่งนี้ ถึงตอนนั้นจะตอบทุกอย่างที่คุณมาร์ชอยากรู้ ตกลงตามนี้นะค่ะ"คุณหมอพูดด้วยเสียงที่กำลังดุเด็กดื้ออยู่ มาร์ชเมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้ก็พยักหน้าเป็นการตอบรับแทน คุณหมออมยิ้มเมื่อเห็นท่าทีของมาร์ชในตอนนี้ เมื่อทำการบันทึกเสร็จก็พูดบางอย่างขึ้นมา ซึ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาของมาร์ช
"ลดระดับแสงไฟลง ปรับอุณหภูมิห้องให้คงที่ ที่ 27องศาเซลเซียส ปิดระบบผนังกันเสียงและระบบควบคุมเชื้อโรค เปิดระบบรักษาความปลอดภัยที่ระดับ 3 "สิ้นเสียงคุณหมอ แสงไฟในห้องก็หรี่เป็นสีส้มอ่อนๆ อุณหภูมิอุ่นขึ้นช่วยให้มาร์ชรู้สึกสบายตัว วัสดุกันเสียงหายไป ตอนนี้หมอกับอีกคนที่น่าจะเป็นพยาบาลก็เดินออกจากห้องไป เหลือแค่มาร์ชในห้องเพียงคนเดียว มาร์ชเองคงจะเพลียเต็มที่กับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งวัน เขาเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวด้วยซำ้ทั้งๆที่ตั้งใจจะเตรียมคำถามไว้สำหรับพรุ่งนี้
"ติ๊งต่อง...ติ๊งต่อง!"
"ด...เดี๋ยวสิ!"มาร์ชสะดุ้งตื่นขึ้นในท่าทีที่ตกใจเอาการ เมื่อได้ยินเสียงคล้ายกดกริ่ง ก็แน่ละสิทุกครั้งที่มีเสียงบางอย่างปลุกให้ตื่น ก็มักจะมีเรื่องให้ได้เจอทุกครั้ง ถ้าจะระแวงหรือคิดมากคงไม่ใช่เรื่องแปลก ครั้งนี้ก็คงไม่พ้นที่จะต้องคิดมาก เมื่อปรากฏร่างหญิงสาวคนหนึ่งที่ประตูห้อง ผิวขาว ผมยาวดำ ส่วนสูงหากวัดด้วยระดับสายตาของมาร์ชราวๆ 163 ซม.
"สวัสดีครับ"มาร์ชกล่าวทักทายทันที ที่หญิงสาวเดินมาใกล้ หญิงสาวดูเหมือนจะสงสัยอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังยิ้มให้กับมาร์ชเพราะทำตั้งแต่เดินเข้ามา
"สวัสดีค่ะ ไม่สงสัยหรอว่าฉันเป็นใคร? เข้ามาทำไม?" หญิงสาวทักทายกลับ และยิงคำถามมาด้วย
"ก็หมอไงครับ ที่รักษาผมเมื่อวาน"มาร์ชตอบด้วยทีท่าที่ไม่ต้องขบคิดสักเท่าไหร่
"แล้วมั่นใจได้ไงว่าฉันคือหมอที่รักษาคุณเมื่อวาน"หญิงสาวยังคงถามต่อ เหมือนต้องการทดสอบอะไรบางอย่าง มาร์ชยิ้มและเริ่มอธิบาย
"อย่างแรกนะครับ คงไม่มีใครเข้ามาในห้องผู้ป่วยด้วยท่าทีสบายๆได้หรอก หากไม่ได้นัดหรือรู้จักกับผู้ป่วย เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าผู้ป่วย ป่วยเป็นโรคอะไร หากเดินเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้า อาจติดโรคกลับไปก็ได้ อย่างที่สองก็คือ..."มาร์ชไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เลือกที่จะยิ้มแล้วชี้มาที่มุมปากของตัวเอง หมอเห็นท่านี้แล้ว ถึงกับอมยิ้มขึ้นมาอีกที
"เก่งมากจ้า ยอดนักสืบ แต่ไปล้างหน้าก่อนสิ ฉันซื้อข้าวต้มมาฝาก"หมอพูดแซวมาร์ชด้วยรอยยิ้มเฉกเช่นเคย
"ผมว่าผมยังไม่หิวเลย ผมอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับโลกในตอนนี้มากกว่า ผมถามเลยได้ไหมจะได้ไม่เสียเวลาคุณหมอมากด้วย"มาร์ชมีทีท่ากระตือรือร้นเอามากๆ
"ไปล้างแล้วมากินข้าวต้ม ฉันมีเวลาให้เธอทั้งวัน อ่ะ..แล้วก็นะ ฉันชื่อ 'มีน่า'เลิกเรียกคุณหมอได้แล้ว ไม่ได้อยู่ในหน้าที่"มีน่าเริ่มทำเสียงดุเหมือนเมื่อวานอีกครั้ง
"ครับ"มาร์ชตอบด้วยสีหน้าสลดก่อนจะลงจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำ
"ค..คือว่า...."มาร์ชตะโกนจากในห้องน้ำออกมาทันทีเมื่อเข้าไปถึง มีน่าจึงรีบเดินตามไปดู
"มีอะไรหรอ"มีน่าถาม
"จะให้ผมล้างหน้ายังไงล่ะครับคุณมีน่า?" มาร์ชใช้วิธีถามกลับแทนที่จะตอบ เพราะห้องน้ำที่มาร์ชยืนอยู่ตอนนี้มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมโล่งๆไม่มีอะไรเลย
"อุ้ย!ขอโทษทีจ้า ฉันลืมไป"มีน่ารีบขอโทษมาร์ชแล้วเดินมายืนติดด้านหลังมาร์ช เธอจับที่แขนขวาของมาร์ช แล้วทำท่าวาดวงกลมกลางอากาศ เกิดแสงสีแดงจากแหวนที่สวมนิ้วมือของมาร์ชตามด้วยตัวหนังสือ กลางอากาศ
'อ่างล้างหน้า ฝักบัว ชักโครก อ่างอาบน้ำ'
"ขอบคุณครับ"มาร์ชพูดจบก็หันหลังไปหามีน่า แต่มาร์ชได้เห็นบางอย่างจากสีหน้ามีน่าแวบหนึ่งมันมีความวิตกกังวลมาก
"ไม่เป็นไรจ๊ะ รีบทำธุระส่วนตัวเลยนะ มีไรเรียกฉันได้ตลอด" มีน่าพูดเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องน้ำไป
'มีอะไรหรือเปล่านะ'มาร์ชรู้สึกไม่สบายใจ
หลังทำธุระส่วนตัวเสร็จมาร์ชเดินออกจากห้องน้ำมานั่งทานข้าวต้มของมีน่า จากนั้นก็เริ่มศึกษาเรื่องต่างๆเกี่ยวกับโลกในตอนนี้จากมีน่า ซึ่งทุกคำถามนั้นเรียกได้ว่า ทำให้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกในตอนนี้ทั้งหมด เล่นเอามีน่าที่คิดว่าตัวเองอยู่ในช่วงเวลานี้แท้ๆอายไปเลย เพราะบางอย่างที่เธอเหมือนไม่รู้ก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับมาร์ช ผ่านไปเพียง 8 ชั่วโมง ข้อมูลที่มาร์ชต้องรู้เพื่อนำไปใช้ในชีวิตก็ถูกฝังลงในสมองของเขาเรีบร้อย
'โลกยุคนี้ถูกเรียกว่า "ยุคเอฟอี(F.E.World)" เป็นยุคที่ปกครองโดยผู้นำกลุ่ม 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ทาซีน่าเป็นกลุ่มที่อยู่บนเขตเส้นศูนย์สูตรโลก มีอาหารจากการเกษตรที่สามารถเพาะปลูกได้เพราะสภาพแวดล้อม เอื้ออำนวย กับอีกกลุ่ม รอก้าเป็นกลุ่มที่อยู่นอกเหนือเส้นศูนย์สูตร มีพลังงานมากมาย ทั้งจากธรรมชาติและกระบวนที่คิดค้นขึ้นเองของบุคลากรในกลุ่ม ที่ผ่านมาทั้ง 2 กลุ่มช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด จนกระทั่งเกิดการระเบิดของโรงงานผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ของกลุ่มรอก้าขึ้น ซึ่งไม่สามารถหาสาเหตุได้ มีการพูดต่อๆกันว่าเพราะผู้นำกลุ่มทาซีน่าวางแผนการเพื่อแย่งชิงดินแดนพลังงาน จึงเกิดการสงครามขนาดกลางขึ้น เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผลดีกับทั้งคู่จึงเลิกทำสงครามไปแต่เรื่องราวยังไม่จบ เพราะทุกวันนี้ก็มีการแข่งขันบางอย่างของสมาชิกผู้นำกลุ่ม เพื่อที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่กลุ่มของตนไม่มี
เทคโนโลยีที่ใช้ในยุคนี้ล้ำหน้ามาก เรียกว่าระบบแหวน เพราะทุกอย่างจะวนเวียนมาบรรจบกันหมด จะทำอะไรต้องผ่านระบบนี้ทุกอย่าง ตั้งแต่ตื่นยันนอน ระบบนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ แต่ว่าระบบนี้ก็มีความจำเพาะของมัน ไม่สามรถทำเกินหน้าที่ของเจ้าของ เช่นแหวนของมีน่าที่เป็นหมอ จะมีทุกอย่างที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้และอุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับการแพทย์ จะไม่สามารถมีปืน ระเบิดได้อย่างทหารและตำรวจ แต่จะหามาใส่เพิ่มได้ตามที่กฎหมายของกลุ่มผู้นำตัวเองออกมาบังคับใช้'
"ขอบคุณมากนะครับ คุณมีน่า"มาร์ชพูดขึ้นเมื่อได้รู้ทุกอย่างที่ต้องการ มีน่าเองก็ดูเหมือนจะอึ้งไม่น้อยกับคนตรงหน้า เพียงเวลาแค่นี้สามารถศึกษาข้อมูลต่างๆได้อย่างกว้างขวาง ที่สำคัญเลยมีน่าเองตอบคำถามมาร์ชเพียงไม่มากเท่าที่คิดไว้ เพราะส่วนใหญ่มาร์ชใช้ประโยชน์จากระบบแหวนหาคำตอบที่ตัวเองสงสัยเสียมากกว่า
"ฉันว่าขอบคุณตัวเองดีกว่าไหม"มีน่ากล่าวด้วยทีท่าที่มาร์ชรู้สึกไม่ปกติตั้งแต่ตอนอยู่ในห้องน้ำแล้ว มาร์ชเองก็ไม่กล้าถามตรงๆเหมือนกันว่าเป็นอะไร
"ทำไมพูดแบบนั้นละครับ ถ้าไม่มีคุณมีน่าสอนเรื่อง ริงซิสเตม ผมก็เป็นเหมือนทารกสำหรับโลกนี้เท่านั้นละครับ"มาร์ชยกมือเกาหัวหลบหน้ามีน่าแบบรู้สึกผิด มีน่าในตอนนี้ทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง
'คนยุคนี้เก็บอาการไม่เก่งเอาซะเลย'คิดเสร็จมาร์ชก็ดึงมีน่าเข้ามากอด
"อยากร้องไห้อยู่ไม่ใช่หรอ?"มาร์ชถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่แฝงไปด้วยความสุขุมอบอุ่น มีน่าคงตกใจที่อยู่ๆโดนดึงไปกอด แต่สักพักก็ได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้ บรรยากาศที่เงียบเหงา มีเพียงเสียงสะอื้นร้องไห้ของผู้หญิง ทำเอามาร์ชทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดมาร์ชก็แก้ไขปัญหาตรงหน้าลงได้
"ร้องให้เต็มที่เลยนะครับ พี่...สาว"
วันนี้เริ่มด้นสดแล้ว เลยลงตอนช้า และอีกอย่างเรื่องยังไม่ไปไหนเลย แต่ผมคิดว่ามันก็สำคัญจริงๆนะครับตอนนี้. เอาเป็นพรุ่งจะพยายามเดินเรื่องให้ตัวเอกมากๆแล้วกันนะครับ ขอโทษด้วยน้าา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น