ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 500 ปี
500 ปี
"ป...ป...เป็นเอเลี่ยน!!!" ในสุดสติที่พยายามรวบรวมกลับมาของมาร์ชก็แตกกระเจิง แถมยังปล่อยเสียงให้เล็ดลอดออกมาจากปากอีกด้วย สิ่งที่ทับมาร์ชอยู่ในตอนแรกที่มาร์ชลดระดับสายตามองไปทางเท้าของเขา มันเองนั่งทับตรงลำตัวมาร์ชและหันหน้าไปทางเท้าของมาร์ชเช่นกัน ถึงดูๆไปลักษณะจะคล้ายกับมนุษย์ แต่ด้วยการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนของมาร์ชแล้ว เขาไม่สามารถจะระบุตัวตนมันเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจาก "เอเลี่ยน"
เหตุผลผลที่จะใช้ยืนยันมีอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายที่ไม่ต้องบอกก็มองออกได้ในทันที ว่ามันสร้างมาจากโลหะอะไรสักอย่างและน่าจะมีน้ำหนักพอสมควร เพราะมันเพียงพอที่จะทำให้มาร์ชลุกไม่ขึ้น ยังหรอกนี่ต่างหากจุดไคลแมก วิทยาการที่อยู่ตรงหน้ามาร์ชตอนนี้ มันเป็นได้แค่จินตนาการสำหรับมนุษย์เท่านั้น ภาพโฮโลแกรมที่กำลังฉายออกมาจากแหวนวงใสๆ ที่สวมนิ้วชี้มือขวาของเจ้าเอเลี่ยนนั้น เป็นโมเดลจำลองร่างกายมนุษย์สีฟ้าๆ เพียงแต่ภาพยังไม่สมบูรณ์เพราะขาดส่วนขาและเท้า
มาร์ชที่ได้สังเกตในตอนแรกก่อนสติจะแตก เขาคิดว่าโมเดลจำลองนั่นคือร่างกายของเขาไม่ผิดแน่นอน เพราะแหวนวงดังกล่าวนอกจากจะฉายภาพโฮโลแกรมด้านบน ด้านล่างก็ปล่อยเส้นแสงสีฟ้ามาบนส่วนขาของมาร์ชอีกด้วย ราวกับว่ากำลังสแกนขาของเขาอยู่นั่นเอง แต่ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเลย เพราะทันทีที่มาร์ชทำเสียงให้หลุดจากปากออกไป เจ้าเอเลี่ยนนั่นก็หันกลับมามองทางหน้าเขาทันทีเช่นกัน ภายใต้หน้ากากนั่นมาร์ชจินตนาการถึงสายตาโหดๆ ปากที่กำลังฉีกออกเป็นหลายๆส่วน พร้อมจะกินเขาทุกวินาที
"ซวยที่สุดเลย ก็แค่นักเล่นเกมคนหนึ่ง ทำไมต้องจับผมมาทดลองด้วยครับ"และนี่อาจจะเป็นประโยคสุดท้ายสำหรับมาร์ชในตอนนี้ เพราะทันทีที่มาร์ชพูดจบประโยค หน้ากากส่วนที่ปิดตรงปากเจ้าเอเลี่ยนนั่นก็เปิดออก แล้วยิ้มออกมาที่มุมปาก
'อย่างน้อยก็ไม่ได้ฉีกปากออกเป็นหลายๆส่วนล่ะนะ'มาร์ชได้แค่ปลอบใจตัวเองอย่างน้อยสัก1เรื่อง ตอนนี้มาร์ชรู้สึกบนตัวของเขาได้ว่า มันกำลังค่อยๆพลิกตัวกลับมาอย่างช้าๆ แต่สำหรับมาร์ชมันคือความไวระดับสูงสุด ขนาดที่ว่านั่งดูหนังแล้วกดเร่งสปีด x16ไปดูกลางเรื่องยังว่าช้าเลย ในที่สุดการพลิกตัวกลับมาก็เสร็จสมบูรณ์ มันนั่งจ้องหน้ามาร์ชแล้วก็พูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เหมือนว่ามาร์ชจะไม่สามารถเข้าใจได้เลยแม้แต่วลีเดียว
ความตกใจของมาร์ชไม่ได้จบลงแค่นี้ เมื่อเจ้าเอเลี่ยนกำลังยื่นมือออกไปด้านข้าง มาร์ชมองตามมือที่ยื่นออกไป
'มี 2 ต้องดีกว่า 1 สินะ แต่แค่ตัวเดียวผมก็จะบ้าตายอยู่แล้ว'เพราะปลายมือที่ยื่นออกไปมีเอเลี่ยนอีกตัวยืนอยู่ และดูเหมือนกำลังนำของบางอย่างมาส่งให้เจ้าตัวที่นั่งทับเขา ถึงมาร์ชจะมองไม่เห็นสิ่งของที่ว่านั่น แต่ด้วยการประมวลภาพทุกอย่างที่ไหลเข้ามาในหัวอย่างไม่หยุดในตอนนี้ ตั้งแต่ตื่นมาเจอแช่น้ำ แล้วมานอนตรวจสภาพร่างกาย เขาสรุปได้ว่า
"โดนผ่าทดลองแน่ๆ" มาร์ชในตอนนี้ความกลัวตายมาเยี่ยมเยียน ถึงแม้ว่าจะเคยบ่นว่าเหนื่อยกับชีวิตตัวคนเดียวและอยากตายก็เหอะ แต่นี่มันก็ดูจะปัจจุบันทันด่วนเกินไป มือทั้งสองข้างของมาร์ชถูกพนมขึ้นระหว่างอกแบบไม่รู้ตัว แล้วตามมาด้วยเสียงแหกปากดังลั่นห้อง
"อย่าฆ่าผมเลยยย!!!"มาร์ชตะโกนซ้ำๆด้วยประโยคเดิม คอเริ่มแสดงอาการไม่ไหวเพราะเสียงที่เริ่มแหบและมีอาการไอ แต่ยังคงทำต่อเรื่อยและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
'ถึงคอมันจะแตกจนกระอักเลือดออกมา เราจะตะโกนต่อไป แค่พูดไม่ได้เรายังเขียนสื่อสารได้'มาร์ชคิดว่าอย่างน้อยคงมีความเมตตาในหมู่เอเลี่ยนอยู่มั่ง พลันสายตามาร์ชก็เห็นว่าเจ้าตัวที่นั่งทับเขาหันไปสั่งอะไรบางอย่างให้อีกตัว ซึ่งอีกเหตุผลที่ทำให้มาร์ชคลั่งขนาดนี้คงจะมาจากการไม่รู้ว่ามันพูดอะไรกันอยู่ เพราะอย่างน้อยถ้ามาร์ชฟังออกประมาณว่า
"ขอยาชาหน่อย ฉันจะฉีดส่วนหูก่อนตัดออกมาแบบสดๆ" ก็คงไม่ต้องมานั่งคิดเอาเองไปต่างๆนานาแล้วคลั่งแบบนี้ เมื่อได้รับคำสั่งเจ้าเอเลี่ยนตัวนั้นก็เดินไปตรงประตู ก่อนจะลงมือกดแผงอะไรบางอย่างที่ติดกับผนัง ทันทีที่กดเสร็จภายในห้องที่มาร์ชนอนอยู่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น แสงสีฟ้าวิ่งตัดกันเป็นตารางเล็กๆที่ผนังห้องทุกด้านและเพดานด้วย จากนั้นก็ปรากฏวัสดุกันเสียงโผล่ขึ้นมาแทนที่ผนังว่างเปล่าเอาไว้
'ความปรานีไม่มีในหมู่เอเลี่ยนสินะ ฆ่าปิดปากเลยนี่หว่า'แน่นอนล่ะว่า ที่มาร์ชแหกปากก็หวังในใจว่าในตอนที่เขาหายไป อาจจะมีการออกตามหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและผ่านมาได้ยินแล้วเข้ามาช่วยเขาไว้ได้ทัน แต่ตอนที่วัสดุกันเสียงโผล่ออกมา มาร์ชก็หมดหวังลงในทันที มาร์ชเลือกที่จะเงียบเอเลี่ยนเองก็ดูสงสัยในท่าทีของมาร์ช มันยื่นมือมาตรงหน้ามาร์ช ก่อนจะยื่นของบางอย่างให้เขา
"แหวนงั้นหรอ?"มาร์ชเมื่อเห็นสิ่งที่เอเลี่ยนยื่นให้ก็ถามด้วยความสงสัย และจ้องมองแหวนวงนั้นก่อนจะใช้มือที่พนมอยู่รับมันมาแบบสั่นๆ
"นี่มันแหวนที่มีชื่อของผมนิ"มาร์ชมองมันพลางนึกย้อนกลับไปตอนที่ได้มันมาตอนแรก ก่อนจะได้สติกลับมาเมื่อเอเลี่ยนตรงหน้าพยายามพูดบางอย่างกับเขา พร้อมทั้งทำท่าทางเหมือนบอกว่าให้สวมแหวนที่นิ้วชี้ มาร์ชมองมันเข้าใจไม่ยากและทำตาม ทันทีที่มาร์ชใส่แหวน
"โอ๊ย!"มาร์ชร้องเสียงหลง และแอบมองเห็นเจ้าเอเลี่ยนยิ้มทำหน้าเหมือนสะใจ ที่มาร์ชร้องเสียงหลงเพราะเมื่อสวมแหวนเข้าที่นิ้ว เหมือนโดนเข็มเล็กๆจำนวนมากทิ่มเข้าที่นิ้ว ตามด้วยความรู้สึกเหมือนเวลาโดนไฟดูดตั้งแต่ปลายนิ้วก่อนจะลามไปทั้งตัว แต่มันก็ไม่ได้เจ็บมาก
"ระบบทำการวิเคราะห์ DNA จากเม็ดเลือดเพื่อทำการระบุเจ้าของเสร็จเรียบร้อย ท่านสามารถใช้งาน Ring system(ระบบแหวน)ได้แล้ว" อยู่ๆเสียงดังกล่าวก็ดังขึ้นในหัวของมาร์ช เขาทำท่าทีครุ่นคิดไม่ใช่เพราะฟังไม่เข้าใจ แต่สงสัยว่ามันคืออะไรเจ้าระบบแหวนที่ว่า เค้าเงยหน้ามองเอเลี่ยนตรงหน้า เอเลี่ยนเองเหมือนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมาร์ชตอนที่เขาสวมแหวน มันจึงพูดกับมาร์ชด้วยภาษาเดิมที่มาร์ชก็ไม่เข้าใจเหมือนเดิม
"ระบบได้ทำการวิเคราะห์ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารเรียบร้อยแล้ว"เสียงในหัวของมาร์ชดังขึ้นอีกครั้ง และเป็นที่น่าอัศจรรย์ตอนนี้สิ่งที่เอเลี่ยนพูด มาร์ชสามารถเข้าใจได้แล้ว
"ขอโทษนะค่ะที่ทำให้ตกใจ"เอเลี่ยนที่นั่งทับมาร์ชพูดขึ้น มาร์ชคิดว่ามันทำไมช่างดูอบอุ่นเช่นนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขามีแต่ความกลัวอยู่เลย
"ขอโทษนะครับ ที่นี่คือที่ไหนหรอ?" มาร์ชเมื่อเห็นว่าสามารถสื่อสารกันเข้าใจแล้วก็เลยไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป
"ศูนย์กลางการรักษาภายใต้กลุ่มอำนาจ ทาซีน่า เขตนาคอนธอมและฉันเป็นหมอค่ะ"เสียงที่ฟังดูนุ่มนวลตอบกลับ และรอยยิ้มที่น่ารักภายใต้หน้ากากที่ต่างจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิง มาร์ชได้รับคำตอบแล้วแต่ก็ไม่อาจเข้าใจได้ในทันที เพราะศัพท์ที่ได้ยินมาไม่คุ้นหูเอาเสียเลย
"ไม่ทราบว่าที่นี่ดาวอะไรหรอครับ?"มาร์ชตัดสินใจถามคำถามเด็ดออกไป เขาไม่อยากอ้อมค้อมแล้ว แต่ดูเหมือนหมอจะยิ้มและมีท่าทีตกใจเล็กน้อยกับคำถามนี้
"โลกค่ะ"หมอยังคงยิ้มทุกครั้งที่ตอบคำถามมาร์ช
"ไม่เอาซิครับหมอ อย่าอำผมแบบนี้สิ"มาร์ชฟังไม่ผิดหรอกก็หมอตอบว่า "โลก"จริงๆ แต่มาร์ชทำใจยอมรับกับสิ่งที่เขาเห็นไม่ได้ มันไม่สมเหตุสมผลกันเลย
"หมอไม่ได้อำคุณหรอกนะ และจากผลการตรวจหมอไม่สงสัยเลยว่าทำไมคุณถึงมีอาการต่างๆเหล่านี้ เพราะสมองของคุณเหมือนจะพักผ่อนด้วยการนอนที่นานมากๆ เลยเกิดผลข้างเคียงบางอย่างกับสมอง เช่น ความจำไม่ปะติดปะต่อ เป็นต้น"หมออธิบายอาการของมาร์ช
"ที่ว่าสมองพักผ่อนด้วยการนอนที่นานมากๆ นานขนาดไหนหรอครับ ผมไม่เคยได้ยินอาการของโรคแบบนี้มาก่อน"มาร์ชยังคงสงสัย แต่หมอเลือกที่จะทำบางอย่างแทนการตอบคำถาม หมอเลื่อนมือไปในอากาศซึ่งต่อมาปรากฏหน้าจอสีฟ้าใสๆ มีตัวอักษรปรากฏในอากาศ ก่อนจะทำท่าเหมือนออกแรงผลักมันเล็กน้อย หน้าจอดังกล่าวเลื่อนมาตามอากาศหยุดตรงหน้ามาร์ช มาร์ชมองตัวเลขต่างๆ ที่อยู่ในตาราง ก่อนจะแหกปากดังลั่นเหมือนครั้งก่อนหน้านี้
"8 กรกฎาคม พ.ศ.3068"มาร์ชทำท่าทางนับนิ้วมือก่อนจะพูดเบาๆกับตัวเอง แบบไม่เชื่อเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
"500 ปี!"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น