ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตื่นจากนิทรา อันยาวนาน
ตื่นจากนิทรา อันยาวนาน
ท่ามกลางเศษซากปรักหักพังของอิฐปูนจากสถานที่แห่งหนึ่ง แสงไฟจากหลอดไฟที่ติดๆดับๆเผยให้เห็นสิ่งต่างๆภายใน ทั้งสายไฟที่ห้อยระโยงระยางอย่างไม่เป็นระเบียบ บางเส้นที่ขาดทำให้ได้ยินเสียงและเห็นแสงของกระแสไฟฟ้าที่ช็อตเป็นจังหวะ หากมองไม่เห็นหลอดแก้วทดลองที่มีร่างของมนุษย์แช่อยู่ คงไม่มีใครบอกได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้เดิมทีคือ สถานที่ทดลองทางวิทยาศาสตร์ ภายในซากปรักหักพังไม่เหลือเอกสารบันทึก การทดลองใดๆ ไม่มีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์เลยสักชิ้น จะมีก็แต่โต๊ะตัวสีขาวตั้งอยู่หน้าหลอดแก้วทดลองก็เท่านั้น โต๊ะที่มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไรวางเอาไว้ แท้ที่จริงมีแหวนวงใสๆ ฝุ่นจับเขรอะวางอยู่และหากสังเกตจะเห็นฝุ่นเข้าไปจับตัวกันในร่องตัวอักษรที่ถูกสลักไว้
"มาร์ช" นั่นคงเป็นชื่อของนักวิทยาศาสตร์สักคนที่เคยใช้สถานที่ทดลองวิทยาศาสตร์แห่งนี้แล้วลืมมันเอาไว้บนโต๊ะตัวนี้
"หวออออออ......หวออออออ!!" ทันใดนั้นเองเสียงไซเลนเตือนภัยจู่ๆก็ดังขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แสงสีแดงจากหลอดไฟเตือนภัยก็ส่องสว่างขึ้นมองเห็นไปทั่วห้องทั้งๆที่ไม่น่าเป็นไปได้ ในตอนนี้ห้องที่เดิมทีเงียบไร้ซึ่งสิ่งมีลมหายใจ กลับดังสนั่นหวั่นไหวราวกับว่ามันตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง และก็เป็นจริงอย่างที่ว่า
ร่างที่ถูกแช่ไว้ในหลอดทดลองตอบสนองต่อสภาวะรอบตัว ร่างนั้นค่อยๆขยับนิ้วมืออย่างช้าๆและดูเหมือนกำลังพยายามลืมตาขึ้นมา แต่ทำไม่ได้
"บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง" เหมือนโสตประสาทของร่างนั้นจะทำงานได้ดีที่สุด ทันทีที่ได้ยินเสียงฟองอากาศหลายสิบลูกที่พยายามดันตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ ร่างนั้นก็ขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนมีท่าทีที่ครุ่นคิดอยู่ และในที่สุดการพยายามลืมตาอยู่นานก็ประสบความสำเร็จ เมื่อลืมตาได้ย่อมเห็นว่าอะไรเป็นอะไร ร่างนั้นกลับแน่นิ่งไปอีกรอบ จะมีก็แค่เพียงฟองอากาศที่ออกมาจากทางปากที่ยืนยันว่าร่างนั้นยังมีชีวิตอยู่ สักพักด้วยอากาศที่ใกล้จะหมดทำให้ร่างนั้นกลับมาตะเกียกตะกายอีกครั้ง ไวเท่าความคิดร่างนั้นรีบดันตัวขึ้นเพื่อที่จะรับอากาศเหนือผิวน้ำ
"ตึง!!!"เสียงดังกังวานราวกับเสียงระเบิดก็ไม่ปานดังขึ้น เมื่อศรีษะของร่างนั้นชนเข้ากับกระจกที่ปิดหลอดทดลองอยู่ ด้วยความเจ็บมือที่มีสายบางอย่างติดอยู่ค่อยๆถูกยกขึ้นไปคลำศรีษะบริเวณที่ชน ก่อนที่ออกซิเจนที่เหลืออยู่ในปอดจะหมดลง ร่างนั้นได้ดิ้นทุรนทุรายอย่างมาก เกิดฟองอากาศขึ้นรอบตัวนับร้อยนับพัน แต่ร่างนั้นคงไม่มีอารมณ์มานั่งนับมันหรอก เพราะเขากำลังจะตาย
"โครม!เพล้ง!" พระเจ้าทรงช่วย กล้วยทรงเครื่อง หรือจะเรื่องอะไรไม่รู้ได้ แต่ตอนนี้ร่างนั้นสามารถหายใจได้แล้ว เขานอนหายใจถี่ๆบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำและมีเศษกระจกกระจัดกระจายอยู่รอบๆตัว นอนได้ไม่นานร่างนั้นก็เริ่มพลิกตัวและพยายามลุกขึ้นมองไปรอบๆตัว โดยที่มือของเขาพยายามดึงสายต่างๆที่ติดตามตัวออก
"ว..ว...แหวน" คำพูดที่แทบจะไม่มีเสียงประโยคแรกของร่างนั้นพูดหลังจากสอดส่ายสายตาอยู่นาน เขาก็ใช้ศอกยันเพื่อลากร่างกายที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปที่โต๊ะสีขาว ก่อนจะออกแรงทั้งหมดที่มีเพื่อเอื้อมมือไปหยิบของเพียงอย่างเดียวบนโต๊ะ แล้วลงมานอนกองกับพื้นอีกครั้งหนึ่ง เขาหยิบของนั้นขึ้นมาใช้มือที่เปียกอยู่เช็ดฝุ่นก่อนจะดูมัน
"มาร์ชงั้นหรอ นี่ชื่อของผมนิ แต่นึกไม่ถึงว่าหลังเฉียดความตายมาได้ สมองก็คิดได้อยู่อย่างเดียวคือแหวน มีเรื่องมากมายที่ไม่เข้าใจ คงต้องหาใครสักคนมาตอบหน่อยแล้วล่ะ"ร่างนั้นหรือมาร์ช พอพูดกับตัวเองเสร็จก็ยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันไปที่ต้นเสียงของฝีเท้าที่กำลังตรงมาหาเขา เขาได้ยินเสียงคุยกันแต่ไม่สามารถเข้าใจความหมาย เห็นรองเท้าบู๊ทสีดำเป็นภาพสุดท้ายและทุกอย่างก็เงียบและมืดสนิทลงอีกครั้ง
"ผมชื่อมาร์ชครับ อายุ 22 ปี คนไทยแท้ๆ 100% ส่วนสูง 173 ซม. อาศัยอยู่ตัวคนเดียวเพราะพ่อและแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่ผมอายุ 8 ขวบ ส่วนญาติก็มีนะแต่ผมไม่มีปัญญาเดินทางไปหาตั้งแต่เด็กๆ โตมาเลยไม่อยากโผล่ไป เลยใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวมาเรื่อยๆ ตอนนี้ผมไม่ได้เรียนแล้วล่ะ เพราะจบม.6แล้ว เลยมุ่งทำงานเก็บเงินเสียมากกว่า และงานที่ผมทำก็คือการเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ ผมเล่นเกมทุกแนวที่มีการจัดแข่งขัน ทุกๆวันผมต้องนั่งดูเทคนิคการเล่นเกมของคู่ต่อสู้วนซ้ำๆ 9-10 รอบต่อวัน และเข้าไปฝึกเทคนิคเล่นของตัวเอง วันละ 4-5 ชั่วโมง ก่อนจะมานั่งวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของตัวเองแล้วแก้ไข ทดลองทำเรื่อยๆให้ดีที่สุด เพื่อชัยชนะและเงินรางวัลที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ได้นอนแค่ 5 ชั่วโมงต่อวัน แต่มันก็สบายและสนุกที่สุดในบรรดางานแล้วล่ะสำหรับผม จนกระทั่งผมได้รับรางวัลชนะเลิศแชมป์ 10 เกมและได้ไปเจอ..... โอ๊ย!!! ทำไมถึงได้นึกอะไรไม่ออกเลยล่ะเรื่องราวต่อจากนี้ ปวดหัวเอามากๆ"
"ตี้ด..ตี้ด!!!"เสียงมรณะอีกแล้ว ถ้าจำไม่ผิดวันนี้มาร์ชจะได้ยินเสียงแปลกๆตอนตื่นเป็นรอบที่สองแล้ว หรือว่าจะเรื่องก่อนหน้านี้จะเป็นแค่ความฝัน แต่มันก็รู้สึกเหมือนจริงเอามากๆ จนนึกว่าต้องตายเพราะจมน้ำซะแล้ว แต่ถ้าเป็นฝันได้ก็ดี
" ภาวนาให้มันเป็นแค่ความฝันจริงๆเถอะ ตอนนี้ที่สำคัญคือทำไมปวดหัวแบบนี้"มาร์ชเมื่อภาวนาเสร็จบวกกับทนอาการปวดหัวไม่ได้จึงรีบลืมตาขึ้น แต่แสงสว่างที่ส่องเข้าตามันช่างจ้า ราวกับว่าเอาหลอดไฟมาเปิดจ่อตาอย่างงั้นแหละ ตาของมาร์ชปิดเองโดยอัตโนมัติ ก่อนจะค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสง เมื่อลืมตาได้เต็มที่ภาพที่เห็นคือเพดานสีขาวดูสะอาดตา มีหลอดไฟตรงหัวของมาร์ชพอดี ซึ่งปกติห้องที่มาร์ชใช้สถิตอยู่จะเป็นเพดานโทรมๆกว่านี้
'หรือที่นี่จะเป็นโรงพยาบาล สงสัยเจออุบัติเหตุอะไรสักอย่าง ดีจริงๆที่การภาวนาเป็นผล'มาร์ชรู้สึกขอบคุณที่คำภาวนาเป็นจากนั้นก็พยายามประคองร่างของตัวเองให้ลุกนั่ง แต่ดูเหมือนทำไม่ได้ มันช่างรู้สึกหนักราวกับว่ามีอะไรทับอยู่ มาร์ชจึงล้มเลิกความคิดที่จะลุกนั่ง เป็นการลดระดับสายตาจากเพดานมาที่ปลายเท้าของเขาแทน และนั่นก็ทำให้มาร์ชเกือบสติแตกอีกครั้ง
'นี่มันเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรอีกล่ะครับ'มาร์ชอยากตะโกนออกมาเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ตอนนี้คงไม่เหมาะคงได้แต่พูดเบาๆในใจ ก่อนจะค่อยๆเรียกสติกลับมาแล้วจ้องมองสิ่งที่ทับร่างของเค้าอยู่
"หรือว่านี่จะเป็น...?"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น