ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Thirteen's

    ลำดับตอนที่ #3 : บทตอนรับของเจ้าบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 49


    หลังจากที่ทุกคนได้ก้าวเข้าประตูมาแล้ว บรรยากาศเหนือคำอธิบาย ลมกรรโชกอย่างแรก ขณะนั้นเวลาประมาณ1ทุ่มเศษๆ
    คนที่ก้าวเข้าไปคนแรกคือพงศ์ และคนที่เข้ามาคนสุดท้ายคือ อิน สองคนที่ไม่กลัวเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

    เพราะทั้งสองต่างไม่เชื่อในเรื่องพวกนี้ แต่ทว่า เพียงแค่ก้าวเข้าประตูมาครบคนเท่านั้น ก็มีเสียงหน้าต่าง กระแทกปิดๆเปิดๆ ปังๆๆ!!

    ทุกคนต่างหวาดกลัว ตอนนี้ทุกคนอยู่ในห้องโถงชั้นหนึ่งของอาคาร เพียงพงศ์ก้าวขึ้นบันไดไป ยังไม่ทันวางเท้าลง
    ประตูใหญ่ที่ทุกคนเดินเข้ามาก็ถูกปิดดังปัง แล้วค่อยๆเปิดออกอีกครั้ง พลอยซึ่งเดินอยู่คนเกือบท้ายๆ ก็กุมมือนานะที่อยู่ข้างๆไว้อย่างแน่นหนา
    เพียงกระนั้น สิ่งที่นานะได้เหลือบไปเห็นคือ ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงทางแยกตรงบันไดขึ้นสู่ชั้นสอง กำลังจ้องมาที่พงศ์ พลอยเห็นดังนั้น จึงสะกิดเอก

    เอกหันขวับไปที่ทางแยกนั้น แต่ก็ไม่เห็นอะไร พงศ์เห็นท่าทีตกใจและระแวงของเอก ก็พูดขึ้นมาว่า "ไม่เห็นมีอะไรเลย เพิ่งเข้ามา อย่าเพิ่งกลัวน่า"

    แล้วพงศ์ก็หันหน้าเดินต่อ นานะมองไปที่พงศ์ด้วยสายตาหวาดกลัว พงศ์ไม่เห็นอะไรเลย แต่ทว่า

    สิ่งที่อยู่ต่อหน้าพงศ์คือชายคนนั้นยืนอยู่ต่อหน้าพงศ์แล้วจ้องตากับพงศ์อยู่ พงศ์เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ชายคนนั้นก็เดินจ้องตามไปเรื่อยๆ

    แต่แล้วชายคนนั้นก็หายลับไปเมื่อทั้งกลุ่มเดินผ่านหน้าต่าง เนื่องจากมีแสงจันทร์ส่องเข้ามา

    บอล ผู้ที่เงียบมาตลอดเรื่องได้กล่าวขึ้น "เฮ่ย หยุดแปปดิ๊.."

    "มีไร?" พงศ์ถาม... "ถ้าเกิดมีใครเป็นอะไรขึ้นมาระหว่างทางจะทำยังไง?.." บอลใช้เสียงอันเย็นเยียบจนน่ากลัว ถามพงศ์
    พงศ์ได้แต่งึมงำๆ แล้วบอลก็พูดว่า "ใครเป็นอะไรหรือไม่ไหวยังไงก็บอกมาละกัน ก่อนขึ้นชั้น4 ลงไปพร้อมเรา..

    แต่ถ้าเลยชั้น4แล้ว...หมดโอกาสถอนตัวนะ" ประโยคสุดท้ายที่บอลพูด ทำให้หลายคนขนลุก

    แต่แล้วฟิว เกิดอาการควมคุมสติไม่อยู่ขึ้นมา ก็วิ่งไปนำหน้าเพื่อนๆประมาณ5เมตรถึง6เมตร

    แล้วหันไปทางหน้าต่างแล้วก็กำมือแล้วปล่อยหมัดออกไป กระจกหน้าต่างก็แตก แล้วก็พูดขึ้นว่า

    "555+ มาถึงขั้นนี้แล้ว ใครจะไปบ้าถอยกลับวะ" ถึงจะพูดด้วยเสียงที่แน่วแน่ แต่ร่างกายของฟิวนั้นกลับสั่นไปทั้งร่าง
    "ให้มันได้อย่างปากเหอะ" บอลพึมพำ แล้วสักพัก ก็มีเงาบางอย่าง ผ่านมาตามประตูห้องเรียนเก่า ติดกำแพงผ่านกลุ่มทั้งกลุ่มไป นานะหันตามเงานั้นไปพร้อมกับเอกและบอล สายตาทั้งสามนั้น มีความรู้สึกที่แตกต่างกัน

    นานะมองด้วยความหวาดกลัว เอกมองด้วยสายตาที่สงสัย บอลมองด้วยสายตาเจาะลึก แล้วเงานั้นก็ไปหยุดอยู่ที่สุดระเบียง
    หรือบันไดทางขึ้นชั้น3นั่นเอง แล้วนานะก็ล้มลง บอลรับตัวนานะไว้แล้วพยุงขึ้นมา "เฮอะ เป็นไงล่ะ เดี๋ยวชั้นพายัยลูกครึ่งนี่ลงไปเอง ถ้าพวกคุณจะเดินต่อก็เชิญเหอะ"

    "ชั้นไปด้วย" พลอยรีบพูดขึ้น แล้วพลอยก็เดินไปอยู่ข้างบอล "เออ ฝากเมิงด้วยละกัน บอล อย่าลืมนะ เกิดอะไรขึ้น อย่าทัก..." เอกย้ำ
    บอลยกนิ้ว]กลาง[ ใส่เอกก่อนจะยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "คนอย่างกู ฉลาดพอว่ะ.." บอลพูดเชิงตอบโต้อย่างรุนแรง

    แล้วทั้งสามคนคือ บอล พลอย และนานะ ก็หยุดอยู่ตรงนั้น ดูเพื่อนๆเดินขึ้นบันไดไป แต่แล้วเงานั้นก็กลับมาอีกครั้ง

    ยืนอยู่ที่ประตูบันไดนั้น เมื่อคนอื่นๆเดินขึ้นไปหมดแล้ว นานะสลึมสลือ เงยหน้ามามอง แล้วเห็นเงานั้น

    เป็นภาพของหญิงสาวใส่ชุดแม่บ้าน ผมปิดหน้า โค้งคำนับให้ แล้วปิดประตู แล้วก็หายไป

    บอลรีบพยุงตัวนานะขึ้น แล้วพลอยก็เกาะตามหลังบอลไป จนเดินออกมาถึงด้านล่าง หน้าตึกเก่า

    เมื่อบอลวางตัวนานะลง มีบางอย่างผิดสังเกต เศษกระจกที่ฟิวต่อยแล้วกระเด็นลงมา มันหายไปหมดเลย

    /มีคนอยู่ในนี้หรือ/...

    แล้วเมื่อบอลหันไปทางประตูอีกครั้ง ประตูกลับเปิดอ้าออกจนสุด แล้วลมที่พัดอยู่โดยรอบก็หยุด

    แล้วบอยก็เห็นเด็กนักเรียนชายรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่ง เดินเข้าไป แล้วลมก็พัดมาอย่างแรง ประตูก็ปิดปัง!

    ในตึกนี้เริ่มมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นอีกครั้ง
    --
    ตัดมาทางกลุ่มที่เดินต่อระหว่างทาง มีลมพัดมาตลอดเวลา ทุกคนเดินกันอย่างหวาดกลัว เว้นแต่พงศ์และฝน

    ที่แม้จะอยู่ในสถานที่ไหนก็ยังกัดกันได้ไม่เลิกรา และแล้วนาว เด็กขยันเรียนผู้นี้ก็เอ่ยขึ้น

    "แนนๆ.. ตอนนี้ห้องเรียนเราแต่ละระดับชั้นมันมีแค่10ห้องใช่มะ.."

    "อื้อ"แนนตอบอมพะงำ "เอ่อ แล้วสมัยก่อนมีถึง13ห้องเลยหรอ....."

    เพียงคำถามนั้นจบ วินและภูมองหน้ากัน แล้วกระซิบให้เอกรู้ว่า "ที่ชั้นสองมันเป็นของม.1 มีแค่12ห้อง แล้วชั้นนี้ของม.2 ทำไมมันถึงมี13ห้องล่ะวะ

    แล้วทั้ง6ลูกตาก็ค่อยๆหันมองไปที่ห้องหมายเลข13นั้น ก็ได้เห็นสภาพที่ไม่น่าจะเป็นห้องเรียน

    เนื่องจากมีทั้งกระจกที่แตกแล้ว โต๊ะไม้กลางห้องที่หัก กระดานที่ถูกเขียนไว้ยังไม่ได้ลบ แล้วสิ่งที่ทุกคนเห็นแล้วสยองมากที่สุดคือ

    เชือกผูกคอตาย ที่ห้อยอยู่เหนือโต๊ะตัวที่หักนั้น...

    แล้วแนนและนาวก็หันหลังมาพร้อมกัน "กรี๊ดดดดดดด!!!!~~~~~~..." เสียงกรีดร้องของทั้งสองดังลั่น เมื่อสิ่งที่ทั้งสองหันมาเจอ

    คือเลือดที่เปื้อนทั้งกำแพง แล้วยังมีภาพเหมือนที่ถูกวาดไว้ด้วยเลือด เป็นใบหน้าเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังก้มหน้าลง

    เหมือนถูกห้อยเอาไว้........

    และแล้ว เสียงกรีดร้องของทั้งสอง เหมือนไปทำให้อะไรสักอย่างได้ตื่นตัว เพราะเมื่อเสียงกรีดร้องได้จบลง ลมก็พัดผ่านมาอย่างแรง พัดลมในห้องนั้นเริ่มหมุน หน้าต่างหวั่นไปหวั่นมา ส่วนเชือกที่ห้อยอยู่นั้น กลับนิ่งเฉย แล้วตึงเปรี๊ยะ

    เหมือนมีอะไรแขวนอยู่ ทุกคนต่างก็วิ่งกันออกมา อิน วิ่งออกมาเป็นคนสุดท้าย ประตูห้องนั้นก็ปิดดังปัง!! แต่มันกลับหนีบเสื้อของอินเอาไว้ อินก็สลัดตัวแล้วล้มลง

    ทุกคนหันมามองอินแล้วตะโกนเรียกให้ลุกขึ้นมาเร็วๆ ระยะห่างของอินกับเพื่อนๆ ห่างกันถึง13เมตร เพื่อนๆ หยุดอยู่ที่ทางขึ้นชั้นต่อไป แต่อินล้มอยู่กลางระเบียง

    และระหว่างอินกับเพื่อนๆ อินได้เห็นเลือดหยดลงมา แล้วมันค่อยๆหยดมาใกล้อินเรื่อยๆ

    อินพะงึมพะงำในปาก ว่าเลือด..เลือด.....  ริน อ่านภาษาปากออก ก็บอกกับทุกคนว่า อินกำลังเห็นเลือด

    เอกไม่รู้จะช่วยยังไง จนในที่สุด เลือดก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าอิน แล้วอินก็พยายามจะไม่เงยหน้าขึ้นไปมอง

    เพราะอินพอจะรู้ว่าอะไรจะอยู่เหนือเธอ...

    แต่แล้วอินก็ถูกหลอนประสาท อินเห็นภาพในสมัยเก่าของตึกนี้ เป็นภาพที่ชั้นเรียนนี้มีคนเดินไปเดินมา

    แล้วตัวอินเองก็เดินมาหยุดอยู่ตรงนี้ แล้วมีคนเรียกชื่อเธอมจากด้านบน แล้วเธอก็มองขึ้นไป

    แล้วภาพก็ตัดกลับมาที่ปัจจุบันอีกครั้ง อินเงินหน้ามองอยู่แล้ว เป็นเด็กผู้หญิงที่แขวนคออยู่บนเพดานกำลังจ้องอินด้วยสายตาเขม็งจัด..

    อินจะกรีดร้องก็กรีดร้องไม่ออก พงศ์เห็นท่าจะแย่ เอกก็ช่วยไม่ได้ พงศ์เลยกระโดดเข้าไปหาอินแล้วเอามือบีบจมูกอินไว้

    แล้วอินก็ตัวสั่น เหงื่อแตกทั้งตัว หอบหนัก.. แล้วอินก็ค่อยๆลุกขึ้นมาเดินเข้ามาที่กลุ่ม พงศ์ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จะถามอิน อินก็คงจะไม่กล้าพูด

    เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นที่4 ทุกคนมองไปทางหน้าต่าง มองลงไปข้างล่าง ทั้ง3คนที่อยู่ข้างล่างก็โบกมือตอบ

    แต่ทั้ง3คนข้างล่างหยุดการโบกมือชะงัก ทางด้านบนก็คิดว่า ทักทายก็พอแล้ว จึงเดินต่อไปแต่ทว่าตั้งแต่ชั้น4ไป

    กลับไม่มีอะไรเลย ทุกคนเพียงหวาดกลัวต่อเสียงลม เสียงไม้เสียดสีกันเท่านั้นจนไปถึงชั้นดาดฟ้า

    พงศ์และฝนรีบวิ่งไปกดลิฟท์ เมื่อกดได้แล้ว ก็หันมากัดกันอีก เนื่องจากลิฟท์นี้เก่ามาก จึงไม่มีเสียงเวลาเปิดหรือปิด
    แล้วระหว่างที่ฝนกับพงศ์โต้วาทีกันอยู่นั้น ลิฟท์ก็ได้เปิดออก เพื่อนๆคนอื่นๆต่างตกตะลึง แต่ทว่าคู่กัดทั้งสองยังไม่รู้สึกตัว
    ภายในลิฟท์นั้นเต็มไปด้วยเมือกที่อยู่ตามผนังลิฟท์ บนเพดานลิฟท์ก็มีโคมไปเล็กๆห้อยไว้ เมื่อคู่กัดทั้งสองหันไปมองสภาพนั้น

    ทั้งสองล้มตึงก่อนที่เอกและวินจะวิ่งไปที่ลิฟท์พร้อมกันแล้วพูดว่า" รีบเข้ามาเร็ว ลิฟท์มันกดได้แค่ชั่วโมงละครั้งเองนะเว่ย"

    ทุกคนต่างพากันวิ่งเข้าไปในลิฟท์ แล้วก็ลงมาถึงด้านล่างในที่สุด บอล นานะและพลอยรีบวิ่งมาหา

    ภูถามขึ้นว่า "เป็นไงล่ะ ตอนที่โบกมือมาน่ะ ตะลึงอ่ะดิว่ากล้าขึ้นถึงนั่นได้ไง"

    "มึงไม่ต้อวมาอวดเก่งเลย" พงศ์แทรก แล้วหัวเราะ ฝนจึงแทรกขึ้นมาบ้าง

    "เชอะ ทำเป็นอวดดีไป ผู้ชายมันก็อย่างนี้ล่ะว้า"

    "เฮ่ย เอาไงแน่ยัยฝน ตังแต่เมื่อวานยันวันนี้เลยนะ"

    ทั้งสองเริ่มกัดกันอีกครั้ง แต่แล้วบอลก็ตีหน้าเครียดแล้วก็เส้นเลือดขึ้นหัว แล้วพูดตะคอกใส่ทั้งสองว่า

    "ฟังก่อนดิวะ!!!"

    "เอ่อ...ครับ/ค่ะ" พงศ์และฝนสงบเสงี่ยมเจียมตัวขึ้นทันตา

    แล้วบอลก็เริ่มเล่าว่า

    "ตอนแรกที่โบกมือให้น่ะ ให้รีบๆไป เพราะตอนชั้น3 พวกเราสามคนเห็นคนคนนึงเดินตามกลุ่มพวกแกอยู่

    แล้วที่ชั้น4 ที่หยุดโบกมือชะงักนั้นไม่ใช่ตะลึงพวกเมิง แต่ตะลึงคนที่ยืนอยู่ข้างหลังมึงตะหากล่ะวะ"

    สิ่งที่บอล นานะ และพลอยได้เห็น ด้านหลังของคนที่อยู่ในตึกตอนชั้น4นั้น มีชายท่าทางรุ่นราวคราวเดียวกับพวกพงศ์ ยืนอยู่ด้านหลังกลุ่ม
    แล้วยังมีเด็กนักเรียนผู้หญิงอีกคนยืนข้างเด็กชายคนนั้น แล้วกวักมือเรียกพวกบอลเข้าไปหา

    แต่แล้วเมื่อกลุ่มพงศ์เดินต่อ เด็กทั้งสองนั้น ก็เดินกลับเข้าห้องไป....ข้างหลังของเด็กทั้งสองนั้น เด็กหญิงมีรอยมีดแทงที่หลัง

    เด็กชายที่ท้ายทอยไม่มีหนังและเนื้อปิดไว้เลย เห็นเพียงอวัยวะภายใน

    ทั้งสามเลยตะลึง... แต่แล้วตอนนี้ทุกคนกลับมาอยู่พร้อมหน้า แล้วบอลก็พูดถึงเศษกระจกที่ฟิวทำแตกและกระเด็นลงมา ซึ่งมันน่าจะอยู่ แต่มันหายไป

    ทุกคนเริ่มสงสัย แต่แล้ว เมื่อประตูใหญ่ทางเข้าห้องโถงนั้นเริ่มเปิดออก บอลตะโกนบอกทุกคน "วิ่ง!!" ทุกคนต่างวิ่ง เหลือเพียงนานะกับใครอีกคนหนึ่ง เป็นคนที่เมื่อสักครู่ยังไม่ได้อยู่ในกลุ่มเลย

    เอกเห็ยอย่างนั้น ก็นับจำนวนคนในกลุ่ม.."12..13..นานะอยู่นั่นเป็น14 แล้วคนที่ยืนข้างๆนั่นใครล่ะ"

    ทุกคนมองหน้ากัน เอกไม่มองด้วย เอกรีบวิ่งเข้าไป กอดใต้แขนนานะ มือหนึ่งรองที่หัวไหล่ถึงคอ

    อีกมือหนึ่งรองที่ข้อพับขา แล้วอุ้มนานะขึ้นแล้วรียวิ่งออกมา เด็กผู้หญิงที่ยืนข้างๆนั้นก็หันตามมา

    ทุกคนในกลุ่มจำใบหน้าเด็กหญิงคนนั้นไว้ได้ดี ก่อนจะวิ่งออกมาตามๆกัน

    เวลาตอนนั้นก็ประมาณ4ทุ่มแล้ว สำหรับเด็กวัย13แล้วมันเป็นเวลาที่ยังไม่ดึกสำหรับพวกเขาหรอก แต่ว่าจะดึกสำหรับทางบ้าน

    แต่สำหรับพวกเขานั้นดันไม่เป็นปัญหาเลย เนื่องจากทุกคนจะพักอยู่ที่คอนโดของหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งพงศ์และฝนก็อยู่คอนโดเดียวกัน แค่ห้องอยู่คนละชั้น และห้องของพงศ์ก็กว้างพอสำหรับ14คน

    ทุกคนตกลงจะไปพักที่ห้องของพงศ์ แยกที่นอนชาย หญิง และแล้วทุกคนก็กลับไปที่คอนโด

    ส่วนบอลนั้น ยังคิดถึงใบหน้าเด็กคนที่ยืนอยู่ข้างนานะในตอนนั้นอยู่....

    เมื่อกลับมาถึง ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ มี2ห้องน้ำ ผู้ชายก็ผลัดกันอาบ แต่ผู้หญิงกลับอาบพร้อมกันหมดเลย ไม่ใช่เพราะกลัว

    แต่ผู้หญิงเค้าไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่ผู้ชายนี่แน่นอน ถ้าได้พบประสบกันแล้ว ปากไม่นิ่งแน่ จึงผลัดกันอาบ...

    แล้วทุกคนก็เข้านอน ที่นอนของชายจะอยู่ฝั่งซ้าย หญิงจะอยู่ฝั่งขวา เอกจะนอนขวาสุดของกลุ่มชาย ส่วนนานะ จะนอนซ้ายสุดของกลุ่มหญิง

    ทั้งสองเลยนอนใกล้กัน และมองหน้ากันทั้งคืน

    พงศ์นอนนอกสุดกลุ่มชาย ฝนนอนนอกสุดกลุ่มหญิง เลยหยุดสงครามไปได้หนึ่งคืน และวันพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ โรงเรียนหยุด

    ทุกคนก็จะรวมตัวกันอย่างนี้ มีเพียงบอล วิน  ภู พลอย นาว แนน ที่ต้องเรียนพิเศษ...

    ทุกคนหลับลง โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีอะไรรออยู่....

    To Be Continue...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×