ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC B.A.P] MADMAN เรื่องจริงหรือแสร้งกัน *'''

    ลำดับตอนที่ #5 : Part 4

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.พ. 59





         




    Part 4



    มีหลายคนที่ยอมแพ้กับหลายๆเรื่อง แต่ไม่ใช่กับคนที่เกิดมาเป็นเหมือนพี่คนโต...

     

    ยูยองแจ

     

    เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้มีน้อง รวมถึงไม่เคยคิดว่าคนเป็นพ่อจะแต่งงานใหม่กับแม่ม้ายยังสาวคนนั้น ยองแจไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับ เพียงแต่เขาแค่รู้สึกแปลกๆ... ก็เป็นลูกคนเดียวมานาน การมีพี่น้องมันก็เป็นเรื่องไม่ค่อยชินเสียเท่าไหร่ก็เท่านั้น

     

    ป๊าสอนให้เขาดูแลน้องให้ดี... เขาก็แค่ทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุดก็เท่านั้นเอง

     

    จากแค่รู้จักก็กลายเป็นผูกพัน จากความผูกพันมันกลับเป็นความลึกซึ้ง ...เพราะคำว่าไม่ใช่สายเลือดเดียวกันนั่นทำให้เขาคิดไปไกล... คิดไปไกลว่าบางที เชวจุนฮง อาจจะคิดอย่างเดียวอย่างที่เขาเป็น

     

    แต่มันก็ไม่ใช่...

     

    ไม่ใช่เลยสักนิด

     

    พี่แจบอมบอกว่าพี่ชอบผม... แบบไม่ใช่พี่น้อง

     

    บ บ้า... บ้าเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไง

     

    งั้นก็คบกับพี่แจบอมสิ เขาจะได้ไม่ต้องมาตามราวีหาเรื่องผมทุกวันแบบนี้!’

     

    จุนฮงเก็บของเถอะ เดี๋ยวจะได้เช็คว่าลืมอะไรหรือเปล่า

     

    พี่อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง อย่าให้ผมบินไปเมกาทั้งๆที่ยังงุ่นง่านอยู่แบบนี้ได้ไหม?!’

     

    จุนฮงคือน้องพี่โอเคไหม?! เป็นแค่... น้องชาย

     

    เด็กคนนี้คือน้องของเขา... จุนฮงคือน้องชายของยองแจ บทสนทนาในวันนั้นเขาจำได้ดี... เขาจำได้ดีว่าเขาหน้าชาขนาดไหน ความรู้สึกตอนนั้นมันเหมือนถูกกระชากหัวใจออกไปจนร่างกายมันเผลอกระตุก เขาควรจะยอมรับความเป็นจริงตั้งนานแล้ว

     

    จุนฮงน่ะ เห็นเขาเป็นแค่พี่ชาย เคารพเขาแค่คำว่าพี่ชาย เวลานึกถึงเขาก็เพียงเพราะว่าเขาเป็น...พี่ชาย

     

    ในเมื่อน้องอยากได้อะไร ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ชายคนนี้ก็ไม่เคยทำให้ไม่ได้อยู่แล้ว

     

    แดฮยอน จุนฮงห้ามกินของร้อนจัดนะ หมอนี่ไม่ค่อยชอบเป่า ไม่เคยระวังอะไรเลย ปากพองลิ้นพองทุกที

     

    ยาภูมิแพ้อยู่ในกระเป๋าเล็กนะ อย่าลืมให้จุนฮงกินด้วย

     

    ยึดหูฟังตอนไปเรียนด้วยนะ ไม่งั้นเสียบตลอดเวลา เกิดฟังเพลงตอนข้ามถนนขึ้นมาจะอันตรายเอา

     

    และก็พาสปอร์ต...

     

    พอแล้วได้ไหม? ทำยังกับผมเป็นเด็กไปได้... พี่แดฮยอนไม่ต้องไปฟังมากหรอก เข้าไปกันเถอะ

     

    น้องเขาโตมากแล้ว... ยังไงคนรักก็ต้องสำคัญกว่าพี่คนนี้ ขนาดวันสุดท้ายที่ได้เจอกันยังไม่มีการกอดลา แต่มีเพียงเสียงเหนื่อยหน่ายพร้อมกับภาพที่คนตัวสูงจูงมือคนรักพร้อมลากกระเป๋าแครี่ออนเดินเข้าไปก็เท่านั้นเอง

     

    โชคดีนะจุนฮง แดฮยอน ขยันเรียนนะ!’ ...เสียงที่เขาตะโกนไล่ตามหลังไปวันนั้นก็คงเป็นแค่คำพูดที่เหมือนกับธาตุอากาศแหละนะ

     

    แต่ยองแจก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ

     

    ถึงเด็กคนนั้นจะชอบทำอย่างนี้ แต่ก็ขาดเขาจริงๆไม่ได้สักทีหรอก ยองแจรู้จักนิสัยจุนฮงดี

     

    พี่จะส่งเมลไปหานายเรื่อยๆๆๆ จนนายรำคาญเลยล่ะจำได้ว่าหลังจากส่งอีกคนที่สนามบินเสร็จเขาก็ตั้งปฏิญาณกับตัวเองไว้อย่างนั้น แต่มันก็ได้แค่คิด... อิมแจบอมคนรักของเขาไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้นหรอก

     

    หลังจากวันนั้นไม่นานแจบอมก็มารับเขาไปอยู่บ้านอีกคนตามคำพูดที่ได้พูดไว้ ทุกอย่างมันก็เหมือนจะดี แจบอมดูแลเขาดี ดีเกินไปเสียด้วยซ้ำ... ดีเกินไปเสียจนเขาเกลียดมัน

     

    ถ้าฉันไม่ใช้วิธีนี้นายก็ไม่มีวันที่จะคบกับฉัน

     

    เลิกคิดถึงเด็กคนนั้นสักทีไม่ได้เหรอยองแจ...?

     

    น้ำเสียงอ่อนโยนที่มันทำให้ครั้งหนึ่งเขาเกือบจะลองเปลี่ยนใจ แต่บางทีเขาก็เป็นคนที่เชื่อคนง่ายเกินไป... ยองแจฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเองจริงๆ

     

    เราก็เป็นคนรักเหมือนคนปกติทั่วๆไป ออกงานสังคม มีเซ็กส์กัน เดท ทุกอย่างก็เหมือนกับคนรักปกติ... ทั้งๆที่เกือบจะให้ใจ แต่ยูยองแจก็บอกแล้วว่ายูยองแจเชื่อคนง่าย... จะเรียกว่าโง่ก็ไม่ผิด

     

    ไม่ผิดเลยสักนิด

     

    อิมแจบอมไม่ใช่คนดีอย่างที่คิด

     

    ฉันคือแฟนนายไม่ใช่หรือไงยองแจ ทุกคนก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกันแล้วเรื่องแค่นี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิด

     

    นายจะคิดยังไงถ้าจุนฮงรู้ว่าฉันกำลังจะทำอะไรกับนาย

     

    นายจะดับอนาคตน้องตัวเองงั้นหรอกเหรอ?

     

    ไม่มีทาง

     

    มันไม่มีทางอยู่แล้ว

     

    นายไม่มีทางอยู่อย่างมีความสุขอีกต่อไปแน่ยูยองแจ!!

     

    อย่า!!!” ร่างเล็กที่ตะโกนลั่นเบิกตากว้างเมื่อสะดุ้งตื่น เสียงหอบหายใจดังเสียจนเจ้าตัวยังรับรู้

     

    เมื่อกี้มันคืออะไร? ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดนั่น? ความฝันพวกนั้น...

     

    ...คุณหนู คุณหนูฟื้นแล้ว!” ดวงตากลมโตเริ่มหยีตาให้กับแสงสว่าง เสียงคุ้นเคยที่ตะโกนโหวกเหวกยิ่งทำให้คนบนเตียงขมวดคิ้วมุ่น เพียงไม่นานผิวสัมผัสที่ได้รับที่ฝ่ามือพร้อมร่างของเจ้าของเสียงทำให้คนได้รับค่อยๆเริ่มควบคุมลมหายใจของตัวเองให้เป็นปกติ... ป้านาบี

     

    คุณหนูรอแปปนะคะ เดี๋ยวป้าเรียกคุณหมอแปปนึงไม่ทันได้ปล่อยร่างคนสูงวัยให้ออกห่าง ร่างทั้งร่างของคนที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งจะผละไปก็โดนมือเล็กยื้อไว้ก่อนคนบนเตียงจะดันตัวลุกขึ้นนั่งและโอบกอดร่างคุ้นเคยนั้นไว้แนบตัว

     

    คุณหนู?” เธอว่าความรู้สึกตอนนี้มันแปลกไป แม้จะนึกสงสัยแต่นาบีก็ยังคงกอดตอบประคองร่างคุณหนูคนโตที่พึ่งฟื้นหลังจากหมดสติไปด้วยความหวงแหน

     

    โอ๊ย!” ทั้งๆที่เธอเกือบจะมั่นใจแล้วว่าคุณของเธอมีอะไรแปลกไป แต่ในตอนนี้ที่อีกคนยกมือกุมศีรษะโอดครวญผละออกจากอ้อมกอดไปทำเอาใจเธอเหมือนถูกฉุดลงไปยังปลายเท้าทันที

     

    คุณหนูนอนลงนะคะ! นอนลงก่อน! ไม่ต้องคิดอะไร นอนเฉยๆก่อนค่ะ เดี๋ยวป้าไปเรียกหมอมานะคะ!” มือเหี่ยวย่นบังคับนิ้วกดรัวที่ออดเรียกพยาบาลแต่ดูจะไม่ทันใจ หญิงสูงวัยพยายามรีบจับอีกคนนอนลงก่อนจะรีบกุลีกุจอวิ่งออกไปข้างนอก เธอน่าจะเรียกหมอมาตั้งแต่แรก ไม่น่ามานึกสงสัยอะไรในตัวคนป่วยที่พึ่งจะฟื้นคืนสติและตื่นมาเจอคนรู้จักก็ย่อมต้องให้ความสนใจเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเลย


    คนบนเตียงดูยังคงไม่รับรู้อะไร มือยังคงขยุ้มแน่นที่ศีรษะ


    เมื่อกี้เขาว่าเขาอยู่ในฝัน... พวกนั้นมันฝันหรือความทรงจำที่เขาหลงลืมไปกันแน่

     

    คิดสิ ...คิดให้ออกสิวะยองแจเริ่มทุบตีตัวเอง มือเล็กนั่นตบลงเข้าที่หน้าผากและขมับอย่างต่อเนื่องก่อนน้ำตาจะค่อยๆไหลออกมาเพราะความเจ็บปวดนี่

     

    คนนั้นคือป้านาบี เขาจำได้ ...ใช่ ผู้หญิงคนเมื่อกี้คือ ปาร์คนาบี เขาจำเธอได้... เขาจำได้ว่าเธอคือคนของพ่อ แต่เธอเกี่ยวข้องอะไรกับเขา? ... “โอ๊ย!” ทำไมหัวมันปวดอย่างนี้

     

    เขาคือใคร? แล้วทำไมเขาถึงจำผู้หญิงคนนั้นได้? จิตใต้สำนึก? ความเคยชิน? นี่เขาเป็นอะไร? ทำไมภาพมันเหมือนตีซ้อนอยู่ในหัววนไปมาจนเขาเวียนหัว

     

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น!

     

    'โดดยองแจ!! เปิดประตูออกไป!'

     

    จุนฮง เรียนจบแล้วมาช่วยพี่ดูแลบริษัทป๊านะ

     

    ยองแจ หนูเก็บนี่ไว้ดีๆนะลูก...เก็บมันไว้ให้ดีที่สุด สัญญากับม๊านะ

     

    จุนฮง!!!!!!!!!!!!

     

    ดวงตาพร่ามัวพยายามเปิดกว้าง ผ้าม่านที่สะท้อนเงาร่างของใครอีกคนมันทำให้เขาพึ่งนึกขึ้นได้ว่าห้องนี้ดูจะใหญ่เกินไปที่จะวางเตียงเล็กนี้ได้เพียงแค่หนึ่ง... จุนฮงเหรอ? คนที่นอนอยู่ตรงนั้นใช่คนที่จะโดนรถชนคนนั้นหรือเปล่า?

     

    อ่อก...อาเจียนออกมาทันทีอย่างไม่ทันต้องคิดอะไรให้มากความ ดวงตาโตปิดแน่นคิ้วขมวดแทบชนกัน มือยังคงกุมหัวตัวเองแน่น มันทรมานไปหมด ตอนนี้หัวของเขามันเหมือนจะระเบิดออกมา

     

    เขาไม่ไหวแล้ว ยองแจคือใคร...? เสียงผู้หญิงคนนั้นคือใคร?

     

    ช ช่วยด้วย...

     

    จ จุนฮง ฮึก จุนฮงช่วยพี่ด้วย!”

     

    ...

     

    ...เฮือก

     

    จุนฮง?

     

    จุนฮง... นายฟื้นแล้วจริงๆใช่ไหม จุนฮงอา ได้ยินเสียงพี่ไหม?” ร่างทั้งร่างลืมตาเบิกโพลงกับเสียงที่ยังคงดังก้องอยู่ในใบหู เสียกเรียกอ้อนวอนพร้อมกับร่างที่แดดิ้นราวกับจะขาดใจทำให้การกระทำแรกไม่ใช่สนใจน้ำเสียงที่เอ่ยถามตนด้วยความเป็นห่วง

     

    แต่เป็นการรีบหันสำรวจไปยังด้านข้างทั้งสองฝั่งที่ว่างเปล่าไร้คนที่ต้องการ

     

    เขา... นอนอยู่ที่นี่คนเดียวงั้นเหรอ?

     

    พ พี่แดฮยอนเริ่มละความสนใจและตั้งสติ ดวงตาที่เหม่อลอยรีบปรับเลนส์มาใส่ใจคนที่กุลีกุจอวิ่งวุ่นราวกับทำตัวไม่ถูกอยู่ด้านข้างตัว รอยยิ้มค่อยๆถูกเผยอออกกับจุมพิตที่หน้าผากที่เจ้าของชื่อรัวส่งมาให้เพราะดีใจอย่างปิดไม่มิด กินน้ำก่อนนะ ทุกอย่างโอเค ไม่ต้องกลัวนะ พี่กลับมหาแล้วอยากจะโอบกอดร่างสั่นๆนั่นแต่เขากลับไม่มีแรงมากพอ ทำได้เพียงเผยอยิ้มอ่อนแรงนั้นต่อไป

     

    นึกโมโหตัวเองนิดหน่อย แต่เมื่อย้อนกลับไปนึกดูถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาอ่อนแรงอยู่แบบนี้เขาก็ควรขอบคุณพระเจ้าแล้วล่ะที่ยังไม่คิดที่จะเอาตัวเขาตามบุพพการีไป เขายังมีเรื่องที่จะต้องจัดการ เขายังมีคนที่จะต้องดูแล... เดี๋ยวนะ

     

    ค่อยๆดื่มนะ นายหลับไปตั้งเกือบสองวัน ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมากมีปัญหาแค่ส่วนบั้นท้ายกับข้อเท้าที่พลิกนิดหน่อย เพราะนายตากฝนและก็เพราะร่างกายนายไม่ค่อยได้พัก หมอเขาเลยบอกเหมือนร่างกายแค่ปิดสวิตช์เฉยๆดื่มน้ำเปล่าที่อีกคนยื่นมา คำพูดจากคนรักกำลังสร้างเครื่องหมายคำถามติดบนใบหน้าคม ...เขาไม่ใช่โดนรถชนงั้นหรอกเหรอ? ทำไมร่างกายเขาถึงดูปกติและฟื้นตัวเร็วขนาดนี้

     

    ผม... ไม่ได้โดนรถชนเหรอ?” ปากก็ว่าไปตามคิด ภาพสุดท้ายที่เขาจำได้... พี่ยองแจ

     

    คู่กรณีหักหลบทันน่ะ เลยโดนแค่เฉี่ยว พี่พึ่งกลับมาถึงเมื่อเช้า รู้เรื่องก็ตอนที่... พ พี่ยงกุกไปรับน่ะ

     

    แล้วตอนนี้ป้านาบีอยู่ไหนครับ?! ...โอ๊ย!” ผลุดลุกขึ้นนั่งอย่างลืมตัวเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขายังไม่เห็นป้านาบีเลย แต่ก็ฝืนได้เพียงแค่ครู่เดียวเมื่อมันอ่อนแรงเกินกว่าจะฝืนร่างกาย ซ้ำอาการเจ็บแปลบที่ส่วนข้อเท้าที่เหมือนพลิกนั่น รวมถึงอาการปวดจนเสียวขึ้นสันหลังนั่นทำเอาอดจะร้องโวยขึ้นมาไม่ได้ ...บ้าเอ๊ย...

     

    จุนฮงดูจะไม่ได้สนใจคนใกล้ตัวเลยสักนิดในตอนนี้ ใบหน้าของจองแดฮยอนยังคงแสดงท่าทีเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด แม้ในตอนนี้มันจะเริ่มแฝงไปด้วยความน้อยใจที่เริ่มแทรกแซงเข้ามา ทั้งๆที่เขาบอกไปแล้วว่าใครเป็นคนไปรับเขามา... จุนฮงลืมอะไรไปแล้วหรือเปล่า? “พ พี่ก็ไม่รู้น่ะ จุนฮงนอนพักก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะตามหมอมาให้จุนฮงพึ่งฟื้นคงยังสับสนนิดหน่อย... อย่าคิดมากสิแดฮยอนอา

     

    พี่ยงกุก ใช่ พี่ยงกุก... พี่เรียกพี่ยงกุกมาหาผมที แล้วมือถือผมอยู่ไหน?” ลืม จุนฮงคงลืมไปแล้วว่าเมื่อไม่กี่วินาทียังยิ้มยินดีต้อนรับในการเจอกับอีกคนอีกครั้ง ยังยิ้มรับจุมพิตอ่อนหวานของคนที่แทบให้ทุกอย่างในชีวิต

     

    แต่ตอนนี้นี่มันอะไรกัน 

     

    ใจเย็นๆจุนฮง นายอย่าพึ่งขยับเยอะได้ไหม เดี๋ยวพี่จะไปเรียกพี่ยงกุกให้ ขอร้องล่ะ

     

    ...

     

    เสียงตัดพ้อเหมือนฟื้นคืนสติทุกอย่าง เชวจุนฮงนิ่งเงียบกับน้ำเสียงที่แม้จะไม่ได้ตะโกนโวยวายแต่มันกลับทำให้เขาหยุดนิ่ง ใช่... เขาพึ่งนึกได้ ผมแค่ห่วงพี่ยองแจแค่นั้นเอง พี่ชายผมทั้งคนนะงึมงำตอบกลับเสียงเบา

     

    แดฮยอนมองนิ่งกับเด็กที่หงอยลง เอาจริงๆจุนฮงก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ก็มีแค่เขางี่เง่าเองนั่นล่ะนะ พี่ไม่ได้ว่าอะไร เดี๋ยวพี่ไปเรียกพี่ยงกุกให้นะนายนอนเฉยๆนั่นล่ะยิ้มอ่อนพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพื่อที่จะไม่ให้คนป่วยคิดมาก คนอายุน้อยกว่าพยักหน้าอย่างยอมรับ มือหนาขยับผ้าห่มให้ขึ้นมาปิดคออย่างว่าง่าย

     

    ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกอีกครั้งหนึ่ง ยงกุกที่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้องยังคงไม่คิดที่จะขยับตัวราวกับไม่รับรู้การออกมาของคนในห้อง

     

    แดฮยอนเผลอเม้มปากตัวเองแน่น ไม่ใช่ว่าเขาพึ่งจะได้รับการกระทำแบบนี้จากอีกคน แต่เพราะบังยงกุกทำตัวเป็นหุ่นยนต์ที่รอเขาป้อนข้อมูลคำสั่งตั้งแต่เจอหน้ากันต่างหาก... จุนฮงเรียกพี่ให้แดฮยอนเดาได้ไม่ยากหรอก เดี๋ยวยงกุกก็เดินเข้าไปเพียงพร้อมคำพูดเพียงแค่ขานรับเหมือนเดิม

     

    ครับ

     

    ...นั่นไง เขาว่าผิดที่ไหน

     

    ไม่ต้องเลยจองแดฮยอน นายนี่น้า ทำอะไรดูตัวด้วยสิ

     

    พี่จะว่าผมเตี้ยหรือไงเล่า!

     

    นั่นงอน งอนอย่างนี้ฉันง้อไม่เป็นหรอกนะ

     

    ใครให้พี่ง้อกันเล่า ผมงอนที่ไหนกัน

     

    เราดูห่างเหินกันไปเยอะเลยนะครับ... พี่ยงกุก

     

    ...

     

    ป้านาบีอยู่ไหนเหรอพี่?” ทันทีที่ยงกุกก้าวเข้ามาในสายตาก็รีบโพล่งถามขึ้นทันที ยงกุกชะงักเท้าไปเพียงนิดก่อนจะสานเท้าเดินต่อเข้ามาใกล้เตียง ทำไมยงกุกจะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเขาต้องการถามถึงใครกันแน่ แต่ก็เป็นเพราะอย่างนั้นนั่นแหละที่มันทำให้เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ในตอนนี้... ก็อยู่บ้านสิครับทำได้เพียงตอบกลับตามหัวข้อที่อีกคนถาม ขอโทษจริงๆที่ไม่สามารถตอบคำถามโดยอ้อมนั่นได้

     

    บังยงกุกยังไม่ทันได้คิดเลย

     

    ผมรู้ว่าพี่รู้ว่าผมหมายถึงอะไร?” นัยน์ตาคมเริ่มหยีตาจับผิด ท่าทีผิดปกติที่เห็นไม่บ่อยนักของคนอายุมากกว่าทำให้ลมหายใจเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเพราะความกังวล

     

    บังยงกุกหลบสายตาจับผิด ร่างสูงกลืนน้ำลายก่อนจะถอนหายใจราวกับต้องการยืดเวลาไปให้มากที่สุด ก็คุณหนูถามมาอย่างนั้น ผมจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะครับ

     

    พี่ยงกุก! โอ๊ะ!” เป็นอีกครั้งที่เชวจุนฮงไม่ได้ดูสังขารตัวเอง มือหนาผลักดันร่างส่วนบนให้ลุกขึ้นอย่างหาเรื่องเต็มที่ แต่ร่างกายที่ยังไม่ฟื้นสภาพ ซ้ำยังไม่มีของหนักตกถึงท้องทำให้ทรุดฮวบลงกลับไปที่เดิมโดยที่มีพี่ชายตัวโตช่วยจัดท่า

     

    ยูยองแจอยู่ไหน? มันเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น? ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ตอนนี้พี่กระจ่างกับคำถามผมหรือยังฮะ!” สะบัดมือที่ช่วยตัวเองออก แม้ตอนนี้จะรู้สึกภาพตรงหน้ามัวเพียงใด แต่เขาจำเป็นต้องได้รับรู้ว่าอีกคนปลอดภัย! ก็ถ้าหากมันไม่มีอะไรทำไมจะต้องมาทำลับๆล่อๆแบบนี้ด้วย!

     

    ...

     

    คุณหนูยองแจ อยู่โรงพยาบาลครับ...

     

    สุดท้ายยงกุกก็พูดออกมา นัยน์ตาของคนเป็นพี่เสหลบทันทีที่สิ้นคำพูดขอตัวเอง

     

    งั้นพาผมไปหาเขาสิ พาไปตอนนี้เลย เอาวิลแชร์มาให้ผมที เขาไม่เป็นไรมากใช่ไหม แล้ว...

     

    อยู่โรงบาลฯทางจิตครับ ไม่ใช่ที่นี่

     

    ...

     

    ท่าทีดีใจเมื่อครู่เหมือนโดนกระชากลงมาให้อยู่ในระดับติดลบ ยงกุกค้อมหัวก่อนจะก้าวออกห่างระยะหนึ่ง ใบหน้าก้มลงมองพื้นนิ่ง... ท่าทีคุณหนูคนเล็กของตระกูลยูกำลังทำให้ปากเขาสั่น ...เขากลัวเกินกว่าจะอธิบายความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในตอนนี้

     

    ข เขา... เขาไปทำไม?”

     

    บอกผมมาซี่! อ้ำๆอึ้งๆทำไมวะ!”

     

    เพราะการที่ยงกุกไม่คิดจะขยับตัวนั่นยิ่งทำให้จุนฮงเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ความเจ็บปวดมันถูกพับเก็บหลงเหลือเพียงความกังวลและร้อนรนให้กับเรื่องของใครบางคนที่เขาเคยตีตราติดป้ายปิดหน้าผากตัวเองไว้ว่าจะไม่มีวันกลับไปญาติดีด้วยอีก

     

    ยองแจอยู่ไหน! พี่ยองแจของผม ย อยู่ไหน...ร่างที่โวยวายโผฮวบลงเตียงทันทีเมื่อเรี่ยวแรงถูกใช้จนเกินลิมิต แดฮยอนที่แอบดูอยู่นานรีบวิ่งเข้าไป พอๆกับยงกุกที่รีบเอี้ยวตัวเข้าไปรับคนเป็นนายที่กว่าครึ่งตัวโถมลงมาจากเตียง

     

    จุนฮง!/คุณหนู!”

     

    ...

     

    บ้านเงียบสงบเสียจนคนอายุมากใจสั่น เจ้าบีเกิลตัวน้อยวิ่งมาคลอเคลียทุกวันยิ่งทำให้ตัวเธอล่ะอยากจะร้องไห้ ป่านนี้เจ้าของจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอทั้งอยากรู้และไม่อยาก... ปาร์คนาบีไม่รู้จริงๆว่าตัวเธอควรจะรู้สึกยังไง

     

    ฮ่อง!” เสียงเห่าของเจ้าตัวน้อยทำให้เธอสะดุ้งเฮือก ขมวดคิ้วจุ๊ปากเอ็ดใส่เจ้าตัวเล็กที่ทำให้คนแก่หัวใจเกือบวาย แต่ท่าทีที่เจ้าสี่ขาวิ่งไปแล้วเห่าเรียกเธอเรื่อยๆดูเหมือนจะเป็นนัย ให้เธอรีบเดินตามไปอย่างที่ไม่คิดอะไรมากอีกต่อไปทันที

     

    นี่มันกล่องของคุณหนูหนิมีโซพึมพำเบาเมื่อเจ้าบีเกิลตัวน้อยพามาที่โต๊ะด้านในตัวห้องนั่งเล่นและทำท่ามุดเข้าไป นาบีที่เห็นก็อาสาก้มลงเอื้อมมือคว้าหยิบให้ ก่อนที่จะชะงักไปเมื่อเจ้าสี่ขาตะกายเสียจนเผลอทำของในมือตกลงจนของข้างในเปิดออกมา

     

    อ๊ะ!”

     

    เธอไม่เคยก้าวก่ายเรื่องของเจ้านายแม้จะมีจิตผิดปกติหรือไม่ แต่ในครั้งนี้มันดูเป็นอุบัติเหตุที่แม้จะกึ่งตั้งใจ เธอทำเพียงขมวดคิ้วแปลกใจกับสิ่งที่ได้เห็นเต็มๆตา... เครื่องประดับของคุณผู้หญิง?ถุงกำมะหยี่มากมายที่ช่วยปกคลุมสิ่งของมีค่าราคาสูงทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ เธอค่อยๆไล่เก็บมารวมกันหลังจากที่เผลอทำพวกมันตกออกจากกล่องไปแต่ดูเหมือนเจ้าสี่ขาตัวเล็กนี่จะยังคงไม่ยอมเลิกรา "งื่อ..."

     

    ขาเล็กตะกายคอยป่วนนั่นทำเอาคนสูงวัยเผลอนึกอารมณ์เสีย ครั้นจะเอ่ยดุก็เป็นอีกครั้งที่เผลอปล่อยกล่องในมือร่วงลงตามสิ่งที่เคยอยู่ภายใน

     

    มีโซ นี่หนูซนอีกแล้วนะลูก!” ว่าเขาให้ก่อนจะทำท่าจะตี บีเกิลตัวเล็กที่เห็นมือนั้นง้างสูง สัณชาตญาณก็ทำให้เจ้าตัวน้อยวิ่งหนีไปทันที จริงๆเลย เจ้ามีโซเอามือลงก่อนจะถอนหายใจส่ายหน้าขำๆ ตัดสินใจละความสนใจจากเจ้าสัตว์น่ารักแต่ดื้อแสนดื้อตัวนั้น มาเก็บของที่ตกเรี่ยราดนี่แทน

     

    ป้าขอโทษนะคะคุณหนู คุณผู้หญิง ป้าไม่ได้จะขโมยอะไรนะคะ อ๊ะ...เก็บไปก็เอ่ยพึมพำกับตัวเองไป แต่ยังไม่ทันจะได้เก็บของราคาสูงลิ่วนั่นลงกล่องธรรมดาก็เป็นอันต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อสายตาดันเหลือบเห็นข้างในกล่องมีการชำรุด

     

    มันจะไม่ได้รับการสนใจมากนักถ้ามันเพียงแค่ชำรุดอย่างที่กล่องกระดาษส่วนใหญ่เป็น แต่เพราะความหนาผิดปกติของก้นกล่องนั้นทำให้เธออดจะง้างรอยแยกนั้นเปิดอกมาไม่ได้

     

    นี่มันอะไรกัน?

     

    กระดาษจำนวนหนึ่งถูกพับเก็บไว้อย่างดีภายใต้รอยเชื่อมนั้น คนสูงวัยรอยฉีกง้างรอยแยกนั้นจนหลุดออกและเลือกที่จะหยิบสิ่งในนั้นขึ้นมากางอย่างที่ไม่คิดที่จะนึกถึงความเป็นนายบ่าวในเมื่อตอนนี้ความสงสัยมันมีกว่าเป็นร้อยเท่า... ก็จะไม่ให้เธอร้อนใจได้อย่างไรในเมื่อชื่อที่เธอเห็นตรงหน้ามันเป็นชื่อคุณหนูของเธอทั้งสองคน

     

    ...

     

    นี่ไม่มีคนอยู่เลยหรือไงฮะ!” เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้นาบีรีบเก็บทุกอย่างให้เข้าสู่ปกติดั่งเดิมให้เร็วที่สุด เสียงที่ไม่คุ้นเคยนั่นทำให้เธอนึกสงสัยแต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมาก เดินไปต้อนรับเพราะช่วงนี้คนในบ้านก็อาศัยช่วงเจ้านายทั้งสองไม่ได้กลับมาบ้านลาหยุดกันไป

     

    คุณจินรี?มันนานมากแล้วที่นาบีไม่ได้เห็นผู้หญิงคนนี้ และถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากที่จะได้พบได้เจอผู้หญิงคนนี้เลยจริงๆ แล้วเธอมาทำไมกัน?

     

    ว้าว... บ้านนี้ยังจ้างเธออยู่ด้วยเหรอเนี่ย นาบี

     

    ฉันนึกว่าเธอจะไปพร้อมๆกับเจ้านายเธอแล้วนะ อุ๊ย... ฉันพูดอะไรผิดไหมเนี่ย

     

    เอาความจริงเธอล่ะไม่ชอบเลยจริงๆกับท่าทีจีบปากจีบคอแบบนั้น คุณจินรีก็ยังคงเป็นคุณจินรีที่ไม่เคยเห็นหัวใครอยู่ดี ถ้าตอนนี้คุณหนูคนโตของเธออยู่คงมีอันฉะกันเข้าให้เป็นแน่แท้

     

    จินรีกับยองแจไม่ถูกกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

     

    ไม่สิ... ก็เพราะคุณจินรีเองที่ชอบไม่แยแสคนเป็นหลานแท้ๆอย่างคุณหนูจุนฮงนั่นแหละที่ทำให้คุณหนูคนโตเกลียดคุณเธอเข้าไส้

     

    แล้วทำไมตอนนี้ถึงกล้ามาเหยียบที่นี่ได้?

     

    คุณมาที่นี่ทำไมเหรอคะ?จำต้องนึกถึงคำนำหน้าชื่อไว้ว่าตัวเป็นได้แค่ขี้ข้า มารยาทที่สั่งสมมาควรจะหยิบยื่นเพื่อไว้หน้าแก่เจ้านาย ถึงเธอจะไม่ถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้แค่ไหน เธอก็ควรรีบถามและรีบทำหน้าที่ให้จบๆไปเผื่ออีกคนจะได้ไปจากตรงนี้เสียที

     

    ฉันก็มาหาหลานฉันสิ ฉันคุยกับจุนฮงตั้งแต่มันยังไม่กลับมาเลยว่าฉันจะย้ายมาอยู่ที่นี่ หลานฉันก็ตอบตกลงแล้วด้วย... ตอนนี้คนของฉันยกของอยู่ มีห้องไหนทำความสะอาดไว้แล้วบ้างล่ะ?ท่าทียืดคอแสนหยิ่งผยองนั่นไม่ทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจได้เท่ากับคำพูดที่เหมือนเธอไม่มีสิทธิ์รับรู้อะไรมากกว่านี้มากกว่า

     

    ตอนนี้คุณๆเธอก็ไม่อยู่กันสักคน แต่เพราะผู้หญิงตรงหน้ามีศักดิ์เป็นอาของคุณหนูคนเล็กของเธอนั่นทำให้จะเอ่ยปฏิเสธก็คงทำไม่ได้ ยิ่งข้าวของที่ในตอนนี้ถูกคนยกเข้ามา ทำให้เหมือนสถานการณ์บังคับให้เธอจำต้องตอบรับทราบไป

     

    เดี๋ยวรบกวนคุณนอนห้องรับรองไปสักพักก่อนนะคะ ต้องรอพวกคุณหนูกลับมากันก่อนถึงจะจัดการย้ายไปห้องใหญ่ได้จินรีไม่ได้มีท่าทีโวยวายอะไร เธอพยักหน้ารับนั่นทำให้นาบีโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

     

    แล้วจุนฮงจะกลับจากที่ทำงานกี่โมงล่ะ? อ่อ แล้วยองแจอยู่ไหนล่ะ ฉันว่าฉันยังไม่เห็นเลยนะย้ายกระเป๋าเข้าห้องได้เพียงชั่วครู่ ไม่ทันที่นาบีจะได้เดินออกไปก็เป็นอันต้องชะงักกับคำถามที่ทำให้เธอเกือบไปไม่เป็น

     

    ...อย่าบอกนะว่าคุณจินรียังไม่รู้เรื่อง?

     

    เอ้า... ฉันถามแล้วยังจะมายืนเป็นใบ้อีก

     

    คุณจุนฮงโดนรถเฉี่ยวเข้าโรงบาลฯตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ส่วนคุณยองแจเธอช็อคเพราะคุณจุนฮงเกิดอุบัติเหตุต่อหน้าต่อตา พึ่งฟื้นเมื่อวานแต่ถูกย้ายตัวไปที่โรงบาลฯทางจิตที่เดิมที่เคยรักษาเมื่อคืนค่ะ

     

    ...ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนฟัง จินรีนิ่งไปสักพักก่อนดวงตาจะหันไปมองรอบๆตัวที่ยังคงมีคนของตัวเองช่วยจัดการเสื้อผ้าข้าวของเข้าตู้ให้

     

    ไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะถูกสอบสวนอยู่หรือเปล่านาบีพึมพำแผ่วเบากับตัวเอง เธอไม่ได้มีความสุขนักที่ต้องส่งคุณหนูของเธอกลับไปในสถานบำบัดที่ทำให้อีกคนเคยโดดเดี่ยวแบบนั้น ซ้ำยังนึกถึงข้อหาที่ถูกป้ายให้เป็นครั้งที่สองจากคู่กรณีที่บอกว่า... ยูยองแจเป็นคนว่าจ้าง

     

    บ้าที่สุด คุณหนูของเธอที่จิตผิดปกติจะมาว่าจ้างให้ฆ่าคนได้อย่างไรกัน

     

    งั้นเหรอ...ทันทีที่ได้ยินเสียงพึมพำกับตัวเองอย่างไม่รู้ตัวของอีกคน คนที่มีศักดิ์เป็นอาก็ยกมือขึ้นมาเกาะอก นิ้วยาวที่มีแหวนเพชรเม็ดงามสวมอยู่ยกขึ้นมาเคาะแก้มนิ่มของตัวเองก่อนจะพูดสิ่งที่ทำให้นาบีโวยขึ้นทันที

     

    โดนข้อหาพยายามฆ่าจุนฮงสินะ

     

    นี่คุณพูดอะไร คุณจินรี?!”

     

    ทำไม? ใช่เรื่องจริงสินะ? ฉันได้ยินมาแต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ระวังคุณหนูใหญ่ของเธอไว้เถอะ หายบ้าเมื่อไหร่คุกอยู่ตรงหน้าแน่

     

    ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน นาบีมองจินรีอย่างโมโหต่างกับจินรีที่มองอย่างเยาะเย้ยกลับไป? ทำไมล่ะ? เธอพูดอะไรผิดกัน คนที่มีคดีติดตัวแบบนั้น จะอย่างไรเสียสุดท้ายถ้าไม่ตายก็คงไปตายในคุกอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?

     

    คุณไม่ควรแช่งคุณหนูอย่างนั้นนะคะ!” อะไรกัน คุณหนูเข้าโรงบาลฯก็ไม่เห็นมีท่าทีตกใจอะไร ยังจะมาตีหน้าแช่งคุณหนูคนโตของเธอนี่มันใช่เรื่องที่คนมีอายุคิดเป็นควรทำงั้นหรอกเหรอ?

     

    แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรฮะ! ระวังตัวเองไว้ด้วยละกัน เดี๋ยวจะโดนเด้งออกจากบ้านไม่รู้ตัว!”

     

    "คุณจินรี!..." ไม่ทันจะได้เถียงอะไรกลับไป เสียงโทรศัพท์บ้านก็เรียกให้นาบีกลั้นใจหันหลังกลับไม่ต้อล้อต้อเถียงต่อ เชวจินรีทำเพียงยิ้มส่ง มือเรียวกลับไปวางแนบลำตัวก่อนจะหันไปคุมงานของคนของตัวเอง แต่เสียงของคนที่พึ่งเปิดศึกกับเธอเมื่อครู่ทำให้เธอต้องรีบหันกลับมาสนใจทันที

     

    ว่าไงนะคะ! คุณหนูหนีออกจากโรงพยาบาล?!” เชวจุนฮงหรือยูยองแจกัน?  
















    TBC.












    talk; น้อมรับคำว่ากล่าวทุกทางที่หายไปเลยค่ะ มีปัญหาหลายอย่างต้องขอโทษด้วยจริงๆ มีหลายคนที่เมนชั่นมาหา ขอโทษนะคะที่ไม่ได้เข้ามาตอบกลับมาอีกจะเมนชั่นตอบมันก็ผ่านมานานแล้วกลัวจะทำให้เสียความรู้สึก แต่ตอนนี้กลับมาแล้วนะคะ จะพยายามอัพเรื่อยๆไม่ให้หายไปอีกค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะที่ยังจำนามปากกาปลายได้ ขอโทษหลายๆคนที่ทำให้ผิดหวังด้วย สำหรับหลายๆคนที่ถามมาเรื่องแท็กของเรื่องแมดแมนนี้ ถ้าหากแท๊คเป็นอิงคงไปตีกับพวกคนต่างชาติที่แท๊คกันงงแย่เลย งั้นเอาเป็นแท๊ค #แมดแมนโล่แจ แทนนะคะ จะมีคนเล่นไหมไม่รู้ นักอ่านถามมาเราก็สร้างให้ ขอบคุณและขอโทษจริงๆ มันอาจจะไม่สนุกแล้วเนอะ แต่ยังไงก็ยังอยากแต่ง เจอกันตอนหน้านะคะ 

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×