ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~•ll (SF) All x Youngjae [B.A.P] ll•~

    ลำดับตอนที่ #4 : [LOJAE] INDESTRUCTIBLE 60%

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 59


    title : INDESTRUCTIBLE 
    author : PLaimalill
    couple : LoJae  
    rate : DRAMA





    ...INDESTRUCTIBLE...
     

    "Divine" - SNSD





     

    ...เชวจุนฮงไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้

     

    ไม่เคยแม้แต่จะคิด

     

    ...

     

    ฉันจะดูยองแจให้ นายไม่ต้องห่วงเสียงของรุ่นพี่คนสนิทที่เข้ามากระซิบไม่ได้เรียกสติของคนได้รับฟังให้รับรู้ ใบหน้าคมของเจ้าของร่างสูงทำเพียงจ้องมองไปยังคนที่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ท่ามกลางผู้คนที่แห่มาส่งเขาถึงหน้าห้องหอ... เข้าใจไม่ผิดหรอก

     

    เชวจุนฮงพึ่งเข้าพิธีแต่งงาน และมันกำลังจะจบพิธีอย่างเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่นาทีนี้ ภรรยาที่เขายังคงกอบกุมมือท่ามกลางผู้คนช่างสวยและงดงามจนดูว่าเขาเป็นคนที่น่าอิจฉา ฮันซอนฮวา เพียบพร้อมไปทั้งรูปร่าง หน้าตา ชาติตระกูล รวมถึงชื่อเสียง ช่างเหมาะกับอนาคตประธานบริษัทขนส่งของตระกูลเชวอย่างเขาอย่างที่หาขอติแทบไม่ได้

     

    ซอนฮวาอ่อนหวานและร่าเริงเกินกว่าที่เขาจะทำร้าย ...ยูยองแจก็เช่นกัน

     

    แต่ยองแจเป็นได้แค่ อดีต คนรักที่ทำได้เพียงรักอยู่แค่ในใจ ในเมื่ออีกคนหลอกเขามาตลอดหลายปีที่คบกัน ยังไงเขาก็ควรปล่อยคนที่เขารักให้ได้มีความสุขกับคนที่อีกคนเลือก แม้คนที่ยูยองแจเลือกจะยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้

     

    ถ้าพี่ห้ามไม่ให้ผมไป ผมก็จะไม่มีวันไปจากพี่... แค่พี่พูดมาคำเดียว

    ...

    พี่ยองแจ...

     

    จุนฮงยังจำบทสนทนานั้นได้ดี ภาพที่เขาเก็บกระเป๋าออกมาจากห้องเล็กๆของอีกคนท่ามกลางคราบน้ำตาที่ไหลโดนไร้เสียง ไม่มีเสียงอะไรเอ่ยมาอีก ใบหน้าสุดท้ายของอีกคนที่เขาเห็น มีเพียงรอยยิ้มที่อีกคนพยายามฝืนก่อนที่เขาจะตัดใจเดินออกมาและไม่หันกลับไปอีก แม้เขาจะอยากหันกลับไปโอบกอดร่างเล็กให้จมอกอย่างที่เคยเป็น แต่เสียงในใจกลับตีขึ้นสมองย้ำเตือนเขาให้ก้าวต่อไปอย่าคิดที่จะใจอ่อนกับความรู้สึกของตัวเอง

     

    ร้องไห้เพื่อความโง่ของเด็กที่พี่เคยโกหกว่ารักคนนี้ทำไมกันครับ

     

    จุนฮง เข้าห้องได้แล้วลูกเดี๋ยวเสียฤกษ์เอาสายตาสั่นไหวกระพริบตาปริบราวกับถูกเรียกสติ จุนฮงพยักหน้าให้กับผู้เป็นมารดาก่อนจะหันไปยิ้มกับเจ้าสาวที่ยังคงยืนเคียงข้าง

     

    ประตูคอนโดชุดสุดหรูถูกเปิดออก ก่อนผู้เป็นผู้ให้กำเนิดทั้งสองฝั่งจะเข้าไป ตามด้วยเจ้าบ่าวเจ้าสาว

     

    ดูแลเขาให้ดีกว่าผมนะ พี่แดฮยอนคนตัวสูงพูดประโยคสุดท้ายเสียงเบาให้กับรุ่นพี่คนสนิทตรงหน้าเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายลับไปกับประตูบานใหญ่ที่ถูกปิดสนิทลงในที่สุดและก็ถือว่านอกจากครอบครัวบ่าวสาวแขกผู้ร่วมงานก็ถือว่าได้ดำเนินมาจนถึงจุดจบเพื่อให้เป็นส่วนตัวกับครอบครัวทั้งสองฝั่ง

     

    แดฮยอนทำได้แค่ยิ้มอ่อนแรงให้กับบานประตูที่ปิดสนิท รับรู้ว่าน้องคนสนิทไม่ชอบเขา แต่อย่างน้อยอีกคนก็ยังไว้หน้า ผู้คนเริ่มทยอยกันเดินทางกลับ นานพอดูที่จองแดฮยอนยังคงยืนอยู่นิ่ง... เขายังไม่พร้อมที่จะเห็นน้ำตาของคนที่กำลังร้องไห้แทบขาดใจอยู่เบื้องหลังตนเอง เสียงสะอึกสะอื้นอย่างพยายามกักกั้นยิ่งดูน่าสงสาร แขกคนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว แต่เขายังไม่กล้าพอที่จะไปโอบกอดปลอบอีกคน

     

    จองแดฮยอนไม่กล้าทำหน้าที่ของเชวจุนฮง

     

    กลั้นใจหันกลับและเดินมาหาคนที่ทรุดลงนั่งกอดเข่าหลังพิงกำแพง เสียงสะอื้นเงียบลงไปแล้ว แต่ร่างกายยังคงสั่นแม้เขาจะเห็นว่าอีกคนจะพยายามบังคับมันขนาดไหน ...กลับกันเถอะแดฮยอนทำได้แค่ยื่นมือออกไป ขอบคุณอีกคนที่ยอมทำตัวว่าง่าย ฝืนร่างกายตั้งสติเอื้อมมือมากุมและพาร่างตัวเองเดินคู่ไปอย่างเงียบๆ

     

    ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก แดฮยอนเดินนำเข้าไป ยองแจตามไปยืนด้านข้างด้วยท่าทีปกติ แต่อาการซีดปากและกอบกุมศีรษะทำให้คนอายุมากกว่าขมวดคิ้วอย่างอดสงสัยไม่ได้ ไม่ทันจะได้เอ่ยถามอะไร ทันทีที่ประตูลิฟต์เคลื่อนตัวถึงชั้นที่ต้องการอีกคนก็ทรุดลงไปต่อหน้าต่อตาทันที

     

     “ยองแจ!!”

     

    ...

     

    เพียงแค่พี่คิดถึงผม ผมก็จะไปหาทันทีเลยล่ะ

    เด็กขี้โม้

    โถ่ ไมพี่พูดงี้อ่ะ ผมเชวจุนฮงรักษาสัญญา แถมรักพี่ยองแจด้วยนะ

    มันคนละรักกันแล้ว เด็กบ้า...

     

    ร่างบางค่อยๆลืมตาเผชิญกับแสงไฟที่แยงตาอยู่บนเพดาน ใบหน้าหวานดวงตาบวมเป่งช่างรับกับริมฝีปากซีดได้อย่างน่ากลัวพิลึก คงไม่ต้องสงสัยว่าที่นี่ที่ไหน ยองแจจำได้เพียงว่าเขาปวดหัวมาก และน่าจะมากพอให้เขาหมดสติไปในตอนนั้น

     

    หมอว่าไงนะ! มันไม่ใช่แล้ว หมออย่ามาล้อผมเล่นนะ!!!” เรียวคิ้วขมวดปมอย่างสงสัยกับน้ำเสียงที่คุ้นเคย ดูเหมือนว่าบุคคลทั้งสองที่ยืนอยู่ปลายเตียงจะไม่ทันสังเกตว่าเขาตื่นแล้วแน่ๆ

     

    คนไข้ทราบเรื่องนี้สักพักแล้วครับ ตอนแรกคนไข้ไม่ให้ผมบอกกับญาติ แต่ตอนนี้มันจำเป็นจริงๆ ยิ่งคนไข้ไม่มีญาติมาหาหมอเป็นเพื่อนหมอยิ่งเป็นห่วง คนไข้ต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร็วที่สุดริมฝีปากสีซีดแย้มยิ้มอย่างอ่อนแรง ...รู้แล้วสินะ

     

    จองแดฮยอนต้องดุเขาแน่ๆ

     

    ค่าใช้จ่ายผมไม่สน ผมมีปัญญาจ่ายแน่ แต่หมอต้องช่วยเขา คุณหมอต้องช่วยเขาให้ได้เข้าใจไหม!”

     

    จะมาลำบากกันทำไม เขาไม่ใช่คนสำคัญอะไร... แดฮยอนโวยวายขนาดนี้ ยองแจพึ่งเห็นอีกคนโมโหหนักสุดก็คงต้องเป็นตอนนี้ล่ะ

     

    แน่นอนว่าผมจะต้องทำอย่างนั้น ตอนนี้ทำได้แค่รอคนไข้ยอมรับการผ่าตัดและเตรียมตัวให้พร้อม เนื้องอกกำลังกดทับเส้นประสาทตาขึ้นเรื่อยๆ รบกวนคุณช่วยพูดกับคนไข้ด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อน

     

    แดฮยอนฮึดฮัดแต่ก็โค้งตัวตอบคุณหมอที่ดูจะอายุมากกว่า สีหน้าเคร่งเครียดของคนปลายเตียงทำให้อดจะเอ่ยทักให้คิ้วหนาคลายปมไม่ได้ บ่นอะไรน่ะ แดฮยอนอา

     

    เสียงแหบแห้งเรียกสติคนอารมณ์ไม่ดี ร่างหนารีบพุ่งเข้ามาข้างเตียงก่อนจะรีบเทน้ำใส่หลอดหยิบยื่นความชุ่มชื้นให้คอคนป่วยทันทีทันใด

     

    ดื่มน้ำก่อนนะยองแจ ค่อยๆดื่มยิ้มรับก่อนจะค่อยๆดูดดื่มกับน้ำเปล่าที่วันนี้เขารู้สึกว่ามันช่างลำบากเหลือเกิน มันเหมือนมีก้องสะอื้นมาจุกที่ลำคอ ยิ่งการที่คนตรงหน้ากลั้นน้ำตาไม่อยู่ละล่ำละลักถามอย่างคนไร้สติทำเอาต้องรีบผลักแก้วคืนอีกคนและเลื่อนมือไปสัมผัสมือสากนั้นไว้หลวมๆ

     

    ทำไมไม่บอกฉัน ฮึก ทำไม... ทำไมถึงเป็นอย่างนี้กันยองแจจองแดฮยอนน้ำตาไหลราวกับเขื่อนแตก ไม่มีเสียงตอบรับอะไร และนั่นดูจะเป็นการเปิดโอกาสให้อีกคนได้ระบายออกมาเต็มที่เช่นกัน

     

    ที่นายไม่ยื้อจุนฮงไว้ก็เพราะเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม นายก็ต้องการไล่ให้มันไป มันเป็นความต้องการของนายทุกอย่างเลยใช่ไหมฮะ!”

     

    พ่อแม่จุนฮงก็รู้ใช่ไหม? แล้วนายโกหกจุนฮงทำไม? นายฝืนตัวเองทำไม!”

     

    แดฮยอนยังคงเก่งเรื่องประติดประต่อสมกับเรียนบริหารมา ถ้าเอาตามความเป็นจริงก็ถูกอย่างที่แดฮยอนพูดเกือบทั้งหมด ถูกแล้ว... ยูยองแจทำทุกวิถีทางให้เลิกกับจุนฮง

     

    มีใครอยากให้คนที่คุณรักมาจมปลักอยู่กับภาระก้อนโตอย่างคนป่วยใกล้ตายแบบนี้กัน

     

    ผ่าตัดนะยองแจ ฉันจะหาเงินมาให้ ได้โปรดผ่าเถอะ ฉันขอร้อง

     

    ...ไม่มีคำตอบ การบังคับด้วยสายตาไปในทีทำให้คนตัวเล็กอดที่จะเสตาหนีไม่ได้ ยูยองแจกลัวว่าเขาจะใจอ่อน ทุกอย่างที่เขาจัดเตรียมไว้จะต้องไม่มาล้มลงด้วยฝีมือของตัวเองเด็ดขาด ผ่าตัดงั้นเหรอ?...

     

    ...หมอบอกว่าฉันอาจจะความจำเสื่อม

     

    ฉันไม่อยากจำจุนฮงไม่ได้ ทั้งชีวิตฉันไม่เหลือใครแล้วแดฮยอน อย่างน้อยถ้าหากไม่ผ่าตัดก็คงอยู่ได้ไม่ถึงสองปี ถึงตอนนั้นต่อให้ตาบอดฉันก็แค่ทนกับมันแค่สองปีเอง แต่ถ้าฉันความจำเสื่อม ฉันคงต้องมานั่งงอแข้งงอขารอให้นาย ให้จุนฮงมาดูแล ฉัน... ฉันทำไม่ได้เขาอยู่คนเดียวมาโดยตลอด การที่มีเพื่อนรวมถึงคนรักมันทำให้เขาผูกพันเกินกว่าที่จะยอมรับได้ว่าที่เขาทำทุกอย่างลงไปเขาไม่เจ็บ แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อเขาไม่อยากให้คนอื่นเจ็บปวดเหมือนอย่างที่เขาเป็น มันอีกนิดเดียวแท้ๆ ทั้งๆที่ถ้าเขาทนอีกนิดเดียวแดฮยอนก็คงไม่รู้เรื่องนี้

     

    ป่านนี้แดฮยอนคงไม่ต้องมาทน มารู้ มาเจ็บปวดร่วมกันแบบนี้

     

    ห่วงตัวเองก่อนได้ไหม! พวกฉันเต็มใจที่จะดูแลนาย ถ้าหากฉันรู้ ไม่สิ ถ้าฉันกับจุนฮงรู้ตั้งแต่แรก งานแต่งบ้าๆนั่นคงไม่มีวันเกิดขึ้น นายต้องการให้จุนฮงมีความสุขแต่นายไม่คิดเหรอว่านายคือความสุขของจุนฮงมัน นายไม่คิดเหรอว่านายคือความสุขของพวกเรา...

     

    แต่ถ้าพวกนายเสียฉันไปฉันก็กลายเป็นความทุกข์ของพวกนายไม่ใช่เหรอ! ฉ ฉัน ฮึก ...ฉันแค่อยากให้พวกนายเจอคนที่จะทำให้ลืมฉันได้ ฉันก็แค่อยากจะเห็นพวกนายมีความสุขก่อนฉันตาย นี่ฉันทำผิดมากหรือไง!”

     

    ยองแจตะโกนออกมาอย่างสุดจะทน ดวงตาคลอไปด้วยหน่วยน้ำที่ในตอนแรกพยายามกลั้นไว้แต่สุดท้ายก็ผลัดกันเทลงมาอย่างไม่ขาดสาย เขาไม่อยากเห็นแก่ตัว... เขาไม่อยากเห็นแก่ตัวแย่งความรักของจุนฮงมาเป็นของตัวเองและเขี่ยมันทิ้งเพราะความตายมาพลัดพรากหลอกนะ

     

    อย่างน้อยตัดตั้งแต่ตอนนี้

     

    ... คุณซอนฮวาเป็นคนดี เดี๋ยวจุนฮงต้องรักเธอมาก น แน่ อื้อเสียงถูกกลืนหายด้วยริมฝีกปากอีกคน คนตัวเล็กเบิกตากว้างผลักอีกคนออกสุดชีวิต ไม่ทันจะได้ขาดอากาศหายใจคนที่ลำตัวพาดมาบนเตียงผู้ป่วยกว่าครึ่งก็ยอมถอนตัวออกไป

     

    ยองแจที่ตั้งสติได้เตรียมเอ่ยปากถามอย่างไม่เข้าใจ แต่คำพูดของอีกคนที่ตอกกลับมาก่อนมันกลับทำให้รู้สึกหน้าชาราวกลับมีคนเอาน้ำเย็นมาสาดใส่

     

     “นายรู้สึกไหม... เป็นนาย นายรังเกียจไหมถ้าคนที่จูบนายไม่ใช่คนที่นายรัก และนายลองคิดถึงจุนฮงสิ มันจะต้องเจ็บและสมเพชตัวเองแค่ไหนที่คนที่มันรักที่สุดมาบอกว่ารักไอ้รุ่นพี่คนนี้ ยูยองแจที่มันรักมากที่สุดกลับบอกว่าหลงรักฉันจองแดฮยอนคนนี้ มันจะรู้สึกว่าถูกทรยศหักหลังแค่ไหนคิดดูสิยองแจ!” ถ้าจองแดฮยอนรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกเขาจะค้านเสียหัวชนฝา แต่เป็นเพราะเหตุผลโง่ๆนั่นที่เขาหลงเชื่อ ยองแจมาขอร้องให้ใช้ชื่อเขาด้วยเหตุผลที่ว่าจุนฮงทำผู้หญิงคนนั้นท้อง ถ้าไม่ทำแบบนี้เด็กคนนั้นคงไม่ยอมแต่งงานแน่ๆ

     

    ตรงไหนมันคือความสุขที่จุนฮงและฉันได้รับเหรอยองแจ?

     

    หลอกฉัน หลอกจุนฮง... ทั้งๆที่คิดว่าจะมีโอกาสแล้วแท้ๆ...

     

    ตอนนี้จุนฮงมีความสุขอยู่เหรอ? ตอนนี้ฉันมีความสุขอยู่เหรอ? นายอย่าคิดเองเออเองโทษแต่ตัวเองและยัดเยียดความรู้สึกให้คนอื่นเถอะได้โปรด...

     

    ...

     

    ฉันจะกลับไปเอาเสื้อผ้า ช่วยคิดทบทวนในสิ่งที่ฉันพูดด้วยเถอะ

     

    จองแดฮยอนเหมือนคนโง่ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะเห็นแก่ตัวแย่งคนรักของใคร ตอนแรกที่ยอมช่วยก็เพื่อรักษาความถูกต้อง แต่ในตอนนี้ คนที่สมควรมีความสุขก็คือคนบนเตียงตอนนี้... อย่างน้อยยองแจก็ควรมีความสุขให้มากพอจนอยากจะเก็บเกี่ยวความสุขให้ยาวนานต่อไป อย่างน้อยถ้าอีกคนได้มีความสุขและสภาพจิตใจดีมากพอ คงจะพอกล่อมให้ผ่าตัดได้ไม่ยากนัก

     

    ...สายไปแล้วแหละเท้าหนาที่กำลังจะเดินไปทางประตูชะงักนิ่ง ใบหน้าคมหันกลับมาพร้อมทั้งขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ยองแจหมายถึงอะไร?

     

    ฉันรู้ว่านายอยากให้ฉันผ่าตัด... แต่ถ้าตอนนี้นายพอจะสังเกต

     

    อีกไม่นานซีกขวาฉันก็มองไม่เห็นแล้วล่ะ ต่อให้ผ่ายังไงก็มีแต่ตายกับตายตอนนี้การมองเห็นซีกขวาเขาเริ่มเบลอขึ้นทุกที การพยายามทำตัวปกติมันไม่ง่ายเลย... และการพูดมันด้วยท่าทีสบายๆมันก็ไม่ได้ง่ายเช่นเดียวกัน

     

    ฉันก็พยายามคิดให้ดีที่สุดแล้ว แต่ก็อย่างที่หมอบอกล่ะมั้ง เนื้อมันอยู่ที่สมองซีกซ้ายความคิดเป็นเหตุเป็นผลของฉันคงจะเริ่มรวนในไม่ช้าแล้วล่ะ ที่ฉันตัดสินใจตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงๆเพราะฉันต้องการแบบนั้นหรือเพราะความคิดความอ่านของฉันเริ่มย่ำแย่พลิกตัวหันหนีคนที่เปลี่ยนเส้นทางจากประตูสู่เตียง มือที่อบอุ่นคอยเคียงข้างเขามาตลอดกำลังจะทำให้เขาร้องไห้ ยิ่งมันแตะลงที่หัวลูบไปมอย่างปลอบประโลมอย่างนั้น...

     

    เอาความจริงนะแดฮยอน... ปล่อยฉันไว้และไปใช้ชีวิตปกติเถอะนะ อย่ากลับมาหาและอย่าจำฉันอีกต่อไปเถอะ

     

    อย่ามาอยู่ใกล้กันให้ยิ่งผูกพัน อย่ามาดูแลกันให้ยิ่งตัดไม่ขาด มันคงจะดีกันทั้งสองฝ่าย จุนฮงก็ควรมีชีวิตใหม่ นายก็เหมือนกันตอนนี้คงทำได้แค่ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม... ถึงจะรู้ว่าไฟมันจะดับไม่ได้ง่ายๆก็ตาม

     

    ก่ที่ฉันจะพูดไม่รู้เรื่องกว่านี้ ก่อนที่ฉันจะมองไม่เห็นไปมากกว่านี้... ช่วยให้ฉันชินกับการที่ไม่มีใครเถอะนะ


    ...

     

    ดวงอาทิตย์กำลังค่อยๆฉายแสง กลิ่นทะเลมันช่างเป็นเอกลักษณ์เสียจนสุดท้ายก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้กับความผ่อนคลาย ลมทะเลที่พัดผ่านดูเหมือนจะช่วยปัดความเครียดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้สักระยะหนึ่ง... ก็ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ชอบทะเล

     

    ทะเล... พี่อยากไปทะเล

    ...ตอนนี้?

    ก็จุนฮงถามหนิ นายก็รู้ว่าพี่ชอบทะเลแค่ไหน

     

    ... คิดอะไรอยู่ฮึ?คำถามมาพร้อมกับแรงโถมตัวจากด้านหลัง ลำแขนบอบบางพาดไหล่โอบกอดเขาหลวมๆ ใบหน้าหวานใสวางคลอเคลียที่หัวไหล่ จุนฮงสัมผัสมือนุ่มนั้นเบาๆก่อนจะส่ายหน้าแผ่วๆตอบกลับไป

     

    ร่างสูงไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอดยามเช้าตรู่นี้ ซ้ำยังอดจะหันไปหอมแก้มเป็นการขอโทษไม่ได้เมื่อรู้สึกว่าตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ภรรยาตัวเองต้องตื่นมาเช้าขนาดนี้เพราะไร้อ้อมกอดอบอุ่นของคนเป็นสามี ผมออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเฉยๆ เห็นพี่ยังนอนหลับสบายเลยไม่กล้าปลุก ไม่โกรธนะครับ

     

    ซอนฮวาส่ายหน้าตอบกลับเช่นกัน ร่างบางผละออกก่อนจะมานั่งข้างๆ เสียดายเนอะ ฉันน่าจะตื่นมาเร็วกว่านี้รอยยิ้มสวยยังคงแย้มกว้าง ปากก็บ่นนึกเสียดายเมื่อดวงอาทิตย์ตรงหน้าขึ้นเต็มดวงเสียแล้ว

     

    ก็เพราะซอนฮวาเป็นอย่างนี้

     

    มันสดใสเสียจน เชวจุนฮง ก็อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนกัน

     

    ...พี่เข้าหานายก็เพราะจะได้เข้าใกล้แดฮยอน

    พี่อย่ามาล้อผมเล่น... คิดว่าผมจะเชื่อกับคำโก...

    พี่สงสารนาย พี่ไม่รู้จะพูดยังไง พอดีทีเรื่องงานแต่งของนายเข้ามา... พี่ขอโทษนะ

     

    เชวจุนฮงไม่เคยคิดจะเชื่อคำพูดบ้าๆนั่น แต่ภาพที่จองแดฮยอนรีบเข้ามาบังร่างของคนที่เขารักและกอดปลอบประโลม ก่อนจะหันมาประชันหน้ากับเขาพร้อมคำพูดรู้สึกผิดเสียเต็มประดานั่นมันทำให้ความเชื่อใจของเขาสั่นคลอน ทุกอย่างมันโกหกทั้งหมดเลยเหรอ? ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคนที่อยู่ในใจพี่ไม่เคยเป็นผมเลยงั้นเหรอ?

     

    ขอโทษ...

    พี่จะเลิกขอโทษได้หรือยัง

    ขอโทษ พี่รักนายไม่ได้... พี่รักแดฮยอนมากจริงๆ

     

    คราวหน้ามาดูด้วยกันนะครับจุนฮงเอ่ยกับคนข้างตัว มือหนากอบกุมมือบางที่ก็ประสานกระชับแน่นไม่ต่างกัน เชวจุนฮงน่ะเป็นคนเข้ากับคนไม่ค่อยได้ แต่ทำไมกันนะ เขากับผู้หญิงคนนี้กลับเข้ากันอย่างง่ายดาย หรือจะเป็นเพราะการแต่งงานแบบคลุมถุงชนนั่น บางทีการมีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนก็คงจะเป็นหลักประกันส่วนหนึ่งว่าจะอยู่ด้วยกันจนสุดท้ายก็ค่อยๆช่วยกันปรับให้เข้ากันได้

     

    และอย่างน้อย ฮันซอนฮวา ก็คงเหลือทางเลือกแค่เชวจุนฮงคนนี้ ไม่เหมือนใครคนนั้นที่หลอกเขามาตลอด...

     

    เดี๋ยวกว่าจุนฮงจะว่างพาฉันมาฮันนีมูนอีกก็คงต้องรออีกนานอ่ะ งานนายยุ่งจะตาย นี่ถ้าไม่ใช่ของขวัญแต่งงานคุณพ่อคุณแม่นายคงไม่ปล่อยให้เราได้มีเวลาส่วนตัวแบบนี้หรอกหญิงสาวอมลมแก้มป่อง ร่างสูงละมือที่ว่างอยู่หันไปจิ้มแก้มกลมนั่น ใบหน้าคมยิ้มขำกับคนช่างงอน ก่อนจะบีบจมูกมนนั่นไปอย่างหมั่นเขี้ยว

     

    โอ๊ย เด็กบ้า... อย่าบีบสิมันเจ็บนะ!” จุนฮงขำอย่างนึกสนุก ยิ่งอีกคนหลบหนีนั่นก็ยิ่งทำให้เขาเข้าหา

     

    ก็ใครให้พี่ทำตัวเด็กไม่เข้ากับอายุล่ะครับ มันหมั่นไส้นี่พูดไปก็เริ่มเลื่อนมือมาจี้เอวคอด ซอนฮวาร้องโวยวายก่อนดิ้นไปดิ้นมาจนสุดท้ายก็ตกอยู่ในอ้อมกอดคนตัวใหญ่ในที่สุด ร่างหนาโอบกอดอีกคนจากด้านหลังทั้งๆที่ยังนั่งอยู่ แผ่นหลังและศีรษะถูกจมลงกับอก จุนฮงโอบกอดอีกคนแน่นก่อนจะสูดความหอมจากกลุ่มผมนั่นให้เต็มปอด

     

    ยังไม่อยากกลับเลยเนอะ น่าจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักอาทิตย์เงียบไปสักพักใหญ่ก่อนจะจุนฮงจะพูดขึ้น ซอนฮวาเอื้อมมือไปตีหน้าผากเบาๆก่อนจะเอ็ดเข้า ได้ยังไงล่ะ เราอยู่มาเต็มอาทิตย์แล้วนะ นายมีงานกองท่วมหัวอยู่ที่บริษัทแล้วแน่ๆ

     

    เรายังไม่รู้จักกันมากกว่านี้เลยนะครับ...ตีหน้าโอดโอยก่อนจะเอ่ยอ้อนเข้า

     

    หญิงสาวส่ายหน้าขำๆก่อนจะยกมือราวกับจะตีซ้ำอีกทีแต่กลับกลายเป็นโน้มต้นคอของอีกคนมาจุมพิตเบาๆ...ฉันกับนายยังมีเวลาศึกษากันไปตลอดชีวิตล่ะน่าจุนฮงนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะกดจูบลงแนบแน่นกับคนในอ้อมกอดที่เงยหน้าน้อมรับเช่นกัน

     

    จุนฮงตัดสินใจแล้วจริงๆ... ในเมื่อยองแจเลือกที่จะมีชีวิตใหม่ ตัวเขาก็เช่นกัน ...เชวจุนฮงไม่ควรจมปลักอยู่กับคนหลอกลวงอย่างยูยองแจอีกแล้วล่ะ

     

    ในเมื่อผมเลือกจะเริ่มต้นใหม่แล้ว พระเจ้าอย่าพรากคนที่ผมรักไปอีกเลยนะครับ







    INDESTRUCTIBLE





    คุณเคยรู้สึกว่าฟ้ากำลังกลั่นแกล้งตัวคุณบ้างไหม? รู้สึกบ้างไหมว่าทำอะไรก็มีแต่แย่กับแย่ไปเสียหมด รู้สึกเหมือนกับถูกจับวางอยู่ในห้องที่มืดสนิทไม่มีทางหาทางออกได้บ้างหรือเปล่า ถ้าเคยก็อย่าพึ่งคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตเลยนะ แต่มันเป็นเพียงสัญญาณเตือนก็เท่านั้นเอง

     

    เป็นสัญญาณเตือนที่ยูยองแจก็พึ่งจะรู้ความหมายของมัน

     

    นายยังไม่ได้เคลียบาร์โค้ดใหม่นะยองแจเสียงเข้มสั่งให้ร่างที่กำลังถูพื้นต้องรีบหันมาโค้งให้ คนตัวเล็กหันกลับไปรีบจัดการกับพื้นต่อ แต่เสียงเร่งเร้าทำเอาร่างทั้งร่างลุกลี้ลุกลนเสียจนโดนดุซ้ำ วางไอ้นี่และก็ไปรีบไปทำ เรียงลำดับความสำคัญไม่เป็นหรือไงฮะ?

     

    สมองมีปัญหาหรือไง

     

    ขอโทษครับพี่มินวู ผมจะไปทำเดี๋ยวนี้ขานรับอย่างแข็งขัน ไม่มีเสียงขุ่นมัวในคำพูดตอบกลับนั่นเลยสักนิด ยองแจไม่โกรธหรอกที่โดนว่า ก็มันเป็นความผิดของเขาเองที่คิดอะไรไม่เป็นเองจะว่าคนอื่นเขาได้ยังไง อย่างน้อยที่นี่รับเขาเข้าทำงาน มีเงินกินพอแต่ละวันก็ดีจะตายแล้ว

     

    ร้านขายของชำเล็กๆนี่ ในต่างจังหวัดแบบนี้ ถึงจะเงียบไปหน่อยแต่ก็สงบดี... ไม่คิดหรอกว่าจะมาที่นี่ งานเก่าเขายังไงก็โดนพิจารณาให้ลาออกอยู่แล้ว โชคชะตาก็เริ่มเล่นตลกเสียจนเขาก็อดสมเพชตัวเองไม่ได้ คนฉลาดที่มีเด็กคนหนึ่งคอยชื่นชมตลอดสุดท้ายก็มาตกม้าตายเป็นได้แค่แคชเชียร์ร้านขายของชำที่นอกเมือง น่าขำดี

     

    สมองบ้าๆนี่ก็ดูจะโง่ลงทุกวัน ถ้ามันแย่ยิ่งกว่านี้บางทีแค่รับงานล้างจานเขาก็คงจะทำไม่ได้เพราะไปทำของเขาแตกหมดแน่ๆ

     

    จริงๆที่นี่ก็ไม่ได้ถึงกับบ้านนอกขนาดนั้นหรอก มันก็ห่างจากเมืองหลวงไม่ไกลมากเลยสักนิด แต่ส่วนที่เขาอยู่ไม่ได้อยู่ตรงส่วนท่องเที่ยวขนาดนั้น เพราะฉะนั้นพนักงานมีแค่เขาและผู้จัดการอย่างพี่ซอมินวูก็พอแล้ว ร้านนี้ก็เป็นแค่ปลีกย่อย ถ้าจะต้มรามยอนกิน ได้ฟรีวันละหนึ่งถ้วยแหนะ... เห็นไหม ถึงพี่มินวูจะชอบดุแต่ก็ใจดีตลอดแหละ

     

    วันนี้นายคิดราคาผิดไปกี่อย่างแล้วฮะ! ไม่ได้เปลี่ยนบาร์โค้ดหรือไง!?” เวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น นึกว่าวันนี้จะผ่านไปได้ด้วยดีแต่สุดท้ายมันก็แย่ไม่ต่างจากเดิม ทั้งๆที่เขาขยันมาทั้งวันและพยายามให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดแล้วแท้ๆ

     

    ผมคิดว่าผมเปลี่ยนแล้วนะครับ บางที...

     

    ข้ออ้างอะไรอีก? ค่าจ้างแต่ละวันนายยังอยากจะได้อยู่ไหมฮะยองแจ ถ้าเอาค่าใช้จ่ายที่นายยิงบาร์โค้ดผิดรวมกับที่ทอนเงินลูกค้าผิดเผลอๆนายคงมีเงินแค่ซื้อน้ำดื่มอย่างเดียวแน่ๆ ทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อที่จะซื้อน้ำขวดเดียวต่อวันหรือไงฮะ!” มินวูตะโกนว่าอย่างสุดจะทน ทั้งๆที่เขาคิดว่าสอนงานไปเรื่อยๆอีกคนคงจะเป็นงานเป็นการขึ้นแต่กลับกลายเป็นมีแต่แย่ลงๆ นี่ก็จะครบอาทิตย์อยู่แล้วที่อีกคนมาทำงานที่นี่ เอารายได้วันต่อวันอย่างนี้ จะรอดสักกี่น้ำกัน

     

    ...

     

    ไปทำงานต่อไป ก่อนจะปิดร้านก็มาเอาเงินด้วย เดี๋ยวไม่มีข้าวกินจะตายเสียก่อน

     

    ความเงียบดูเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ยองแจโค้งตัวให้อีกคน ดวงตาเรียวทำได้เพียงเหล่มองปลายเท้าที่ค่อยๆเดินผ่านไปพ้นสายตา ริมฝีปากเล็กเริ่มเม้มแน่น ยิ่งแรงสั่นของเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงทำงาน ความอดทนที่พยายามสร้างมันก็เหมือนกับจะถูกพังทลายอย่างช้าๆ

     

    ...แดฮยอน

     

    แม้อยากจะกดรับแต่ก็ทำได้แค่ตัดใจเก็บลงที่เดิม เขาจะต้องไม่ให้ใครลำบาก แค่ที่หนีออกจากโรงพยาบาลในวันนั้นแดฮยอนก็คงเป็นคนจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้แน่ๆ ได้แต่หวังว่าคงไม่ตามหาเขาที่ห้อง ไม่อย่างนั้นคงจะโดนทวงค่าห้องแทนเขาที่เก็บของหนีออกมาแน่ๆอีกเช่นกัน... มีฉันเป็นเพื่อนก็มีแต่ซวยกับซวย ตอนนี้ก็จะได้สบายแล้วนะแดฮยอนอายิ้มให้กับตัวเองก่อนจะจัดการเช็ดเคาน์เตอร์อย่างขะมักเขม้น เวลานี้ไม่ใช่เวลาอ่อนแอ สมองปัดไล่ความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะจัดการสิ่งที่ทำด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม

     

    ยินดีต้อนรับครับ!” เอ่ยต้อนรับทันทีที่ได้ยินเสียงสัญญาณประตูร้านเปิด มือบางยังคงขะมักเขม้นเช็ดเคาน์เตอร์ที่เอาไว้นั่งทานอาหารขนาดย่อม ก่อนจะรีบเดินไปเตรียมคิดเงินที่แคชเชียร์ถัดจากประตูเมื่อดูเหมือนลูกค้ามาใหม่จะเสร็จจากการเลือกซื้อของแล้ว

     

    ยองแจ?มือที่กำลังวุ่นกับการแสกนสินค้าชะงักไป ใบหน้าหวานค่อยๆเงยมองเจ้าของเสียงที่สบตากลับมาไม่ต่างกัน

     

    คุณ... ซอนฮวาเหมือนโลกหยุดหมุนเพียงชั่วครู่ ร่างกายทั้งร่างชาวาบ เหมือนเสียงที่เคยมีถูกดูดกลับกล่องเสียงไป นานพอสมควรที่กว่าเขาจะตั้งสติกลับมาเอาของใส่ถุงให้อีกคนได้ ตอนนี้ยองแจไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงตรงหน้าเอ่ยถามอะไรต่อ ...โลกมันกลมเกินไป

     

    โลกมันกลมจนน่ากลัวเหลือเกิน

     

    ...ถ้าฮันซอนฮวาอยู่ที่นี่ งั้นก็หมายถึง...

     

    พี่มินวูครับช่วยรับลูกค้าทางนี้หน่อยครับ!” ไม่สนใจที่จะเงยมองหน้าอีกคนต่อ ยูยองแจคิดไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าถ้าหากเข้าหันขวาเพื่อไปมองให้เต็มตาน้ำตาเขาจะทะลักออกมาแค่ไหน

     

    ขอบคุณไอ้ตาบอดครึ่งเดียวของเขา ขอบคุณจริงๆที่มันทำให้เขาเห็นเพียงมือหนาที่กำลังกอบกุมมือของคนตรงหน้าอยู่... ขอบคุณโรคบ้านี่ที่ทำให้กระดาษแผ่นกว้างหดเหลือเพียงการมองเห็นแผ่นซีกซ้ายเพียงฝั่งเดียว

     

    ร่างเล็กรีบเดินหนี สวนทางกับผู้จัดการที่เดินเข้ามาแทนที่ มินวูมองตามอีกคนอย่างงงๆ แต่ไม่ทันจะได้พ้นสายตาลูกจ้างคนใหม่ก็ดันเดินชนเข้าที่กดน้ำร้อนถังใหญ่หล่นโครมลงมาจากขอบโต๊ะทันที ยองแจ!” ซอนฮวากับมินวูตะโกนเรียกเสียงประสาน แต่ก็ไม่ได้เข้าประสาทคนที่ละล่ำละลักผลุดลุกขึ้นมาขอโทษเป็นการใหญ่ ยองแจพยายามก้มลงเก็บสิ่งที่ตนทำตกเมื่อสักครู่ ไม่ได้สนใจความร้อนองศาสูงของมันเลยสักนิด

     

    เด็กมันตาไม่ค่อยดี ไม่ต้องสนใจหรอกครับ นี่ครับเงินทอนมินวูรีบเรียกร้องความสนใจ มือรีบยื่นเงินทอนให้หนึ่งในนั้นรับให้เสร็จๆไป เพื่อที่เขาจะได้จัดการกับคนเจ้าปัญหาได้สะดวก

     

    จากสงสารมันกลายเป็นรำคาญแล้วจริงๆ

     

    ไปเถอะคนที่เงียบมานานเอ่ยกับหญิงสาวข้างกาย จุนฮงไม่ได้แม้แต่จะมองไปยังใครคนนั้นเลยสักนิด ซอนฮวาหันมามองคนตัวสูงอย่างไม่เข้าใจ เธอแปลกใจตั้งแต่ที่อีกคนยังนิ่งได้ ปกติจุนฮงไม่ใช่คนแบบนี้ ต่อให้ไม่รู้จักถ้าเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆที่อีกคนพอจะช่วยได้ เด็กคนนี้ก็ไม่เคยคิดที่จะลังเลยื่นมือเข้าไปช่วยเลยสักนิด

     

    เดี๋ยวจะกลับถึงบ้านดึก วันนี้ต้องไปนอนบ้านคุณแม่ พี่ลืมไปแล้วเหรอครับ? ไม่รอให้ซอนฮวาลากเสียงกลับมือหนาฉุดลากคนที่ขึ้นชื่อว่าภรรยาออกมาจากร้านเล็กๆนั่นทันที

     

    ด เดี๋ยวสิจุนฮง!”

     

    คุณเคยรู้สึกเหมือนกลายเป็นแค่ธาตุอากาศไหม? จุนฮงกำลังรู้สึกแบบนั้น ทั้งๆที่ตาสบตาแต่กลับทำท่าว่าไม่เห็นกันมันหมายถึงอะไร? การได้เจอเชวจุนฮงคนนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องกล้ำกลืนที่จะแสร้งทำเป็นมองเห็นอย่างนั้นหรอกเหรอ? ทักทายคนข้างตัวเขาได้แต่กลับไร้การทักทายกันและกันในความเป็นนัยนั่นคือต้องการเล่นสงครามประสาทกันสินะ

     

    คนเรามันลืมกันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ

     

    ตอนแรกก็ตกใจว่าทำไมถึงมาเจออีกคนที่นี่ได้ แต่ไม่ทันจะได้เอ่ยทักทายการที่ยูยองแจทำตัวราวกับมองเขาไม่เห็นแบบนั้นมันทำเอาเขาจุกจนพูดไม่ออก แม้ตอนที่คนๆนั้นโดนน้ำร้อนลวกตัวเขาจะอยากโผเข้าไป แต่ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องไปคอยใส่ใจคนที่เห็นความรักของเขาเป็นเรื่องล้อเล่นแบบนั้น

     

    ตัดคือตัด

     

    ในเมื่อไม่อยากจะยุ่งกันขนาดนั้นก็ถือซะว่าเราไม่เคยรู้จักกัน

     

    ทำไมยองแจถึงมาอยู่ที่นี่ได้นะ?เสียงพึมพำของคนข้างกายทำเอาคนตัวสูงอดคิดตามไม่ได้ มือหนาพาร่างอีกคนจับเข้ารถก่อนจะอ้อมกลับมาขึ้นรถฝั่งตัวเอง แม้ในใจจะยังคงสงสัย แต่ถ้าเขายังไม่คิดที่จะออกไปจากรัศมีนี้มันจะจบลงไม่สวยแน่ๆ

     

    จุนฮงหยุดๆ!” เหยียบคันเร่งออกตัวไปได้ไม่ทันไรก็ต้องแตะบรคตามที่เสียงหวานบอก ใบหน้าคมขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัยแต่เมื่อมองตามสายตาไปกลับเห็นร่างของใครคนนั้นกำลังถูกผลักออกมาล้มลงอยู่หน้าร้านที่พวกเขาพึ่งออกมาเมื่อครู่ คำถามมากมายที่ว่าจะไม่คิดใส่ใจกลับแล่นขึ้นสู่หัวสมอง

     

    ผู้ชายแสนฉลาดจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยม ทำไมถึงละจากการทำงานในตึกใหญ่กลายมาเป็นร้านขายของข้างทางแบบนี้... แล้วตัวจองแดฮยอนอยู่ไหน? คนที่สมควรอยู่ดูแลอีกคนที่สุดทำไมเขาถึงไม่เห็นหน้าเลยสักนิด

     

    ผมปล่อยสิ่งที่เคยสำคัญที่สุดในชีวิตไปให้ แต่ทำไมกลับไม่รักษาอย่างที่พูดกัน?

     

    พี่จะลงไปดูยองแจไม่ใช่ประโยคขอความเห็นจุนฮงรู้ดี เขาไม่ได้ห้ามเฉกเช่นกัน ซอนฮวารีบวิ่งไปยังคนที่ตัวเปียกซกอยู่หน้าร้าน ไม่รู้หรอกว่าคุยอะไรกัน แต่มันก็ใช้เวลานานพอสมควรก่อนสุดท้ายซอนฮวาจะประคองยองแจเดินกลับมาที่รถด้วยกัน

     

    เป็นการปิดทริปฮันนีมูนที่แปลกดี ตอนแรกมาแค่สองตอนกลับได้ใครก็ไม่รู้เสนอหน้ามาเพิ่มอีกหนึ่ง

     

    ทันทีที่ประตูรถเปิดคนตัวสูงก็เผลอหลุดปากพูดเหน็บแนมให้คนมาใหม่ได้สะดุ้งเล่น คนตัวเล็กก้มหน้านิ่งไร้การโต้เถียง มือเรียวไล้รูปผิวกายที่แดงก่ำเพราะโดนความร้อนอย่างไม่ต้องการใส่ใจกับน้ำเสียงที่ไร้ความเป็นมิตรนั่น จริงอยู่ที่ซอนฮวาหันไปหยิกแขนขาวของคนขับอย่างลงโทษจนอีกคนร้องโอดโอย แต่มันก็ดูจะสายไปในความรู้สึกที่รับคำพูดนั่นไปคิดเต็มๆแบบนี้

     

    ผิวมันแสบแต่ใจมันเจ็บ ...ความเจ็บภายนอกนี่มันเทียบกับความรู้สึกภายในไม่ได้เลยจริงๆ เรากลายเป็นแค่คนแปลกหน้ากันจริงๆแล้วใช่ไหม? จุนฮง

     

    บ้านนายอยู่ไหน ทำไมมาอยู่อินชอนนี่ได้ล่ะยองแจเสียงหวานของหญิงสาวเรียกให้คนที่พยายามตัดขาดโลกภายนอกเบิกตาขึ้นมาสบอย่างใส่ใจ แต่คำถามที่ดูจะยากเกินไปนั่นดูเหมือนจะเตือนสติคนตัวเล็กนี่อีกครั้ง

     

    ให้ผมลงข้างหน้าเถอะครับ

     

    นายจะไม่ตอบคำถามฉันเหรอ?ซอนฮวาเอ่ยดักอย่างรู้ทัน เสียงหวานมาพร้อมกับใบหน้าน่ารักที่โผล่มาหายังคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง

     

    ยองแจอึกอัก ก่อนสุดท้ายก็เอ่ยตอบไปแต่ก็ยังคงเลี่ยงตอบอ้อมๆ ผมย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วครับ... คงจะไม่กลับโซลอีก

     

    แล้วแดฮยอนล่ะ แดฮยอนได้ย้ายมาด้วยไหม?เสียงเจื้อยแจ๋วยังคงเอ่ยถาม คนตัวเล็กสังเกตรถที่ชะลอตัวรวมถึงฝีเท้าคนตัวสูงที่ขยับไปแตะเบรค สายตาที่มองอยู่ยังสะใภ้ตระกูลเชวก็มองเลยไปยังสัญญาณไฟจราจรที่ปรับเปลี่ยนเป็นสีแดง

     

    ผ ผมขอตัวนะครับ อีกไม่ไกลก็ถึงห้องพักผมแล้ว

     

    ไม่รอคำตอบของคนอื่น ยองแจรีบเอ่ยตอบเมื่อหาทางหนีทีรอดของตัวเองได้ ร่างเล็กรีบงัดปลดล็อคประตูรถคันหรูออกมากลางถนนท่ามกลางใบหน้าเหวอๆของคนขับและตุ๊กตาหน้ารถแสนสวยคนนั้น ถ้าไม่ใช่ว่าคุณซอนฮวาพูดจากึ่งบังคับว่าถ้าหากเขาไม่ยอมขึ้นรถเธอก็จะไม่ไปไหน เขาก็คงจะไม่ทนมานั่งเล่นสงครามประสาทกับคนที่ทำหน้าที่ขับรถชั่วคราวคนนั้นให้เสียเวลาหรอก

     

    เจอนายแล้วยังต้องมาโดนไล่ออกจากงานนี่มันเป็นเรื่องที่แย่จริงๆ ...แต่มันก็คงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องแย่ที่ช่วยต่อลมหายใจเขาได้ระดับหนึ่งล่ะนะ...นายดูสดชื่นกว่าตอนที่อยู่กับพี่นะจุนฮงอา

     

    เดินตามทางด้วยรอยยิ้มแสนสุข จริงอยู่ที่มันอาจจะดูบ้าแต่มันก็เป็นทางที่ตัวเขาเองเป็นคนเลือกมาแต่ต้น แม้มันจะเจ็บไปบ้างแต่อีกเดี๋ยวสักพักมันคงด้านชา มันคงต้องมีสักวันที่มันเป็นวันของเรา ชีวิตคนมันไม่มีแต่เรื่องแย่ๆไปตลอดชีวิตหรอกเนอะ

     

    เห?ทันทีที่ถึงหน้าห้องก็เป็นอันต้องขมวดคิ้วมุ่น เดินมาเหนื่อยๆแทนที่เขาจะได้รีบๆเข้าไปพักร่างกายแต่ดูเจ้ากุญแจเจ้ากรรมนี่จะไม่เห็นด้วย

     

    ฝืนตัวเองอีกนิด เดินกลับลงมายังเคาน์เตอร์ที่สภาพดูจะเก่าเกินจะเรียกอย่างคำข้างต้นที่ว่า ป้าครับ ผมขอกุญแจหน่อยได้ไหม มันน่าจะมีปัญหาผมไขเข้าห้องไม่ได้เลยครั้นจะพังประตูเข้าไป เขาหรือก็กลัวจะไม่มีเงินจ่ายเข้าน่ะสิ

     

    ค่าเช่าล่วงหน้าคุณยังไม่ให้ฉันซักวอน นี่มันก็เลยห้าวันแล้ว ฉันก็ให้อยู่ไม่ได้หรอกนะคนอายุมากกว่าไม่ได้ใส่ใจที่จะมอง เอ่ยผ่านๆทั้งมือก็ยังคงทำงานของตัวเองไป คนตัวเล็กยืนนิ่งกับคำตอบที่ได้รับ ร่างกายที่อ่อนล้าเหมือนจะล้มลงในไม่ช้า

     

    ผ ผมขอจ่ายครึ่งหนึ่งก่อนได้ไหมครับ พอดีผมตกงาน เดี๋ยวขอเวลาผมเก็บเงินอีกแค่แป๊ปเดียว

     

    พยายามตั้งสติเอ่ยขอร้องไป ดวงตาเริ่มพร่ามัวเส้นสมองเต้นตุบๆเพราะความเครียด ยองแจมั่นใจว่าอีกไม่นานมันจะต้องปวดเหมือนโดนของแข็งบีบแน่ๆ

     

    ข้าวของฉันรื้อมาหมดแล้ว โทษจริงๆนะคุณ มันมีคนอื่นมาเช่าห้องแล้วห้องมันไม่พอ เขาจ่ายเงินแล้วแต่คุณยังไม่จ่ายฉันก็คงรอคุณไม่ได้น่ะ ไปหาที่อื่นเอาละกันนะเย็นขนาดนี้แล้วเขาจะไปหาได้ที่ไหน การหาที่พักในเมืองท่องเที่ยวราคาถูกมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ค่ารถจะไปจากที่นี่ก็คงไม่พอ ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอะไรเลยเหรอ...

     

    ป ป้าครับ!” ไม่ทันจะได้คิดได้ตัดสินใจอีกคนก็จัดการโยนกระเป๋าใบไม่ใหญ่นักของเขาออกมา ไม่มีการสนใจใดๆอีกต่อไปเมื่อคนสูงวัยเดินหนีออกไปอีกทางทันที

     

    ยองแจทำได้เพียงแค่มองตาม ดวงตาที่การมองเห็นเริ่มติดลบไปทุกทีพร่าเลือนสนิทเพราะหยาดน้ำสีใสที่ไหลลงตามแรงโน้มถ่วงอย่างหมดสภาพ การสั่นสะเทือนของเครื่องมือสื่อสารเป็นอีกครั้งที่คนตัวเล็กทำเพียงล้วงหยิบออกมาดู หน้าจอที่ยังคงแสดงชื่อคนเดิมๆทำให้ร่างทั้งร่างทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนล้าเต็มที

     

    แดฮยอน... ฉันจะทำยังไงดี

     

    อ๊ะ!” สิ่งของในมือถูกกระชากไปเต็มมือ ยองแจมองตามก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้าง ตอนนี้เขาเห็นคนๆนี้เต็มๆตา ไม่ใช่แค่เสียงและเงาเลือนรางอีกต่อไป... จุนฮง

     

    มาได้ยังไง?

     

    ทำไมถึงไม่รับ?ร่างสูงมองหน้าจอโทรศัพท์สลับกับใบหน้าที่ดูไม่ได้ของคนที่กอมอยู่กับพื้น สีหน้าเรียบนิ่งอย่างที่แทบไม่เคยได้เห็นจากคนสดใสทำให้ยองแจไม่กล้าตอบอะไรกลับไป ทำเพียงแค่พยายามพยุงร่างกายให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ...อยากอ้วกจัง

     

    จุนฮงทำเพียงเหล่มองคนตรงหน้า เขาไม่ได้อยากจะตามกลับมาถ้าไม่ใช่คำขอร้องแกมบังคับของ คนรัก ของตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะซอนฮวาเขาจะไม่มีวันหักรถตามคนที่กล้าลงรถกลางถนนแบบนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะซอนฮวาเขาจะไม่ลงทุนเดินลงมาลากคนๆนี้จากตึกแสนเปลี่ยวนี่แน่ๆ

     

    ...เขาไม่ปล่อยให้คนที่เขารักเขาห่วงมาอยู่ที่อันตรายแบบนี้อยู่แล้ว

     

    หน้าจอของโทรศัพท์อีกคนทำให้เขาอดจะเบะปากไม่ได้ เขาเป็นคนอย่างนี้เมื่อไหร่กันนะ... ไม่รู้สิ  เชวจุนฮงไม่มีความสงสารให้กับคนทรยศแล้วล่ะ

     

    มือหนากดรับโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ตอนนี้เขาต้องการเพียงแต่อยากรู้ว่าสรุปความคืออะไรยังไง เขาจะได้รีบส่งคนๆนี้กลับไป แล้วภาวนาให้ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย

     

    ขอบคุณพระเจ้า นายรับสายฉันแล้วน้ำเสียงดีใจของปลายสายทำเอาร่างสูงขมวดคิ้วมุ่น คนตัวเล็กที่พึ่งตั้งหลักได้พยายามที่จะคว้ายื้อคืนแต่ดูท่าจะไม่เป็นผล

     

    นายอยู่ที่ไหนยองแจ ตอนนี้นายอยู่ไหน ได้โปรดเถอะ นายต้องกินยานะ นายไม่ได้เอายาไปเลย นายหนีไปดื้อๆแบบนี้รู้ไหมว่าฉันตกใจแค่ไหนจุนฮงยังคงเงียบไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป มืออีกข้างที่ว่างก็จัดการยื้อยุดกับใครอีกคนที่จะยังคงพยายามในสิ่งที่ไร้ผลไปเรื่อยๆ

     

    มีเงินติดตัวไปหรือเปล่า... บอกฉันได้ไหมว่านายอยู่ไหน ได้โปรดกลับมาอยู่กับฉันเถอะนะ ขอร้องล่ะ ฉันจะไปรับนายเดี๋ยวนี้เลยยองแจ ลาออกจากงานแล้วนายไปทำงานที่ไหนฮะ? ที่ห้องนายก็ไม่อยู่ นายย้ายไปอยู่ที่ไหน อย่าทำแบบนี้ได้ไหมยองแจ...

     

    พอสักทีเถอะจุนฮง!” ใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนลั่น มือเล็กรีบใช้จังหวะที่อีกคนผงะกระชากมือถือตนกลับและกดตัดสายทันที เขาไม่ไหวแล้ว เขากลัว... กลัวไปหมดว่าแดฮยอนจะพูดอะไรออกมา ยิ่งสีหน้าที่เริ่มสงสัยขึ้นเรื่อยๆของคนตัวสูงตรงหน้ามันเหมือนจะทำให้เขาตายลงไปตรงนี้

     

    ขอร้องล่ะ... ทำไมพระเจ้าเล่นตลกได้ขนาดนี้กัน

     

    ท่าทีนิ่งเงียบของจุนฮงยิ่งทำให้ยองแจหน้าเสีย เขาไม่รู้ว่าจุนฮงได้ยินอะไรมาบ้าง เขาไม่อยากจะให้สิ่งที่ตัวเองทำมันสูญเปล่า  เขาตต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะตัดสินใจได้เชวจุนฮงคงไม่เคยรู้ เขาต้องฝืนตัวเองแค่ไหนจุนฮงเองก็ไม่ควรจะได้รับรู้เหมือนกัน

     

    ชีวิตยูยองแจมันจะยิ่งแย่ได้มากกว่านี้สินะ

     

    ...พระเจ้าไม่เคยให้ความสงสารเขาเลย

     

    จุนฮงเกิดอะไรขึ้น?ร่างหญิงสาวที่โผวิ่งมาเหมือนกระชากร่างของเจ้าของชื่อให้ได้สติ ใบหน้าคมขมวดคิ้วรีบหันไปเอ็ด มองซ้ายมองขวาตีมือเข้าหน้าผากอีกคนเบาๆอย่างลงโทษ ผมให้พี่รออยู่ที่รถไม่ใช่หรือไง? ทำไมถึงดื้อลงมาครับ มันอันตราย

     

    ฉันให้มาตามยองแจ แต่เล่นหายมานานฉันก็เป็นห่วงสิซอนฮวาเอ่ยทั้งๆที่ตาก็ลอบมองข้ามแผ่นหลังหนา คนที่เธอห่วงไม่ใช่คนสูงโย่งตรงหน้าของเธอคนนี้ แต่เป็นคนตัวเล็กคนนั้นต่างหาก... หญิงสาวทำได้แค่รู้สึกผิดในใจ จะให้เธอพาจุนฮงหายไปจากชีวิตอีกคนคงทำไม่ได้ เพราะเธอห่วงคนๆนั้น ...เธอห่วงยูยองแจคนที่ให้ของขวัญที่ดีที่สุดกับเธอ

     

    มาเจอยองแจเป็นอย่างนี้ จะให้เธอตัดหางปล่อยวัดมันก็ใจร้ายเกินไป

     

    นายโอเคใช่ไหม?เหล่ตามองกระเป๋าเสื้อผ้าก็พอจะเข้าใจอะไรได้ไม่ยาก ซอนฮวาก้าวผ่านคนตัวสูงไปหาคนที่น้ำสีใสยังคงเกาะหน้า เสียงสะอื้นที่อีกคนกลั้นไว้มันกำลังทำให้เธอเจ็บไม่ต่างกัน

     

    ไปอยู่กับฉันก่อนไหม? นะยองแจยา เดี๋ยวอะไรเข้าที่เข้าทางค่อยว่ากันเนอะแม้จะไม่รู้เรื่องลึกอะไรแต่ก็อยากช่วยเหลือ ยองแจนิ่งเงียบเขาไม่กล้าเงยหน้าสบตากับหญิงสาวแสนดีคนนี้ ยิ่งเสียงกระซิบที่เธอก้าวมาพูดใกล้ไม่ให้อีกคนได้ยินมันยิ่งทำให้เหมือนทุกอย่างเริ่มพังคลืน ... ...มาอยู่ช่วยดูแลจุนฮงด้วยกันเถอะนะ

     

    ทำไมยองแจจะไม่อยาก ที่เลือกมาอยู่อินชอนก็เพราะมันเคยเป็นสถานที่ที่ พวกเรา เคยคิดถึงเป็นอย่างแรกเวลาอยู่ด้วยกัน ยองแจแค่หวังว่าเขาอาจจะได้เจอจุนฮงที่นี่ แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ และยิ่งมาเจอกันในเหตุการณ์บ้าๆแบบนี้อีก

     

    น่าสมเพชขึ้นเรื่อยๆจริงๆ

     

    มาอยู่กับฉันก่อนนะ ได้ใช่ไหมจุนฮงซอนฮวาย้ำอีกครั้ง ยังคงไร้เสียงใดๆของยองแจ จุนฮงที่เสมองไปทางอื่นราวกับไม่อยากยุ่งอยู่ตลอดจำต้องหันกลับมาสนใจเมื่ออยู่ในชื่อร่วมวงสนทนา ร่างสูงมีสีหน้าหน่ายแต่ใบหน้าก็พยักหน้าตอบกลับไป

     

    ทุกอย่างมันก็เกือบจะดี และยองแจก็คงจะตอบตกลงไปแล้วถ้าอีกคนจะไม่เอ่ยสิ่งที่ทำให้ร่างทั้งร่างชาเหมือนถูกกดทับให้จมลงฝังดินอย่างนี้...

     

    คนที่บ้านขาดพอดี ตำแหน่งคนใช้ว่างให้นายอยู่

     

    ก็บอกแล้ว...

     

    ยูยองแจน่ะน่าสมเพชขึ้นเรื่อยๆจริงๆ




    60%

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×