ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC B.A.P] MADMAN เรื่องจริงหรือแสร้งกัน *'''

    ลำดับตอนที่ #3 : Part 2

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 57






         



    Part 2







    เสียงเจื้อยแจ๋วจากในสวนเรียกให้ฝีเท้าก้าวไปลอบพิงดูที่ปากประตู หนังสือนิทานในมือคนตัวเล็กถูกเปิดออกโดยที่มีสุนัขตัวข้างๆถูกมือเล็กอีกข้างจับหันหน้าให้มาสนใจอยู่กรายๆ

     

    มีโซต้องดูรูปด้วยสิ เดี๋ยวไม่เข้าใจนะ!” ปากเล็กงองุ้ม เอ่ยดุเจ้าของชื่อสี่ขาที่อย่างไรเสียก็คงไม่มีวันเข้าใจ บีเกิ้ลตัวเล็กขยับตัวที่กำลังนอนแผ่หลาเป็นลุกยืนอย่างดูเบื่อเต็มทน เหยียดขาหน้าบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะวิ่งหนีออกไปท่ามกลางคนข้างกายที่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอก

     

    เบื่อไหม? ไม่ทันจะลุกไปตาม คนที่หลบแอบดูมานานก็มาโผล่อยู่ตรงหน้า จุนฮงยิ้มให้คนนัยน์ตาเศร้าที่เขยิบตัวหนีแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีกลัวอะไร

     

    หมามันไม่รู้เรื่องหรอกนะ ทำไมไม่ไปคุยกับพวกพี่ๆป้าๆคนอื่นล่ะฮึ ผลันตัวมานั่งข้างคนที่พลิกหนังสือในมือไปมา ดวงตาหวานกระพริบปริบช่างต่างกับริมฝีปากที่เม้มแน่น....

     

    พี่ๆป้าๆเหรอ...

     

    ป้านาบีไม่ค่อยว่าง... เอ่ยเสียงนิ่งอย่างถ้าเพียงมองเผินๆก็ราวกับคนปกติทั่วไปกำลังพูดคุย หนังสือในมือถูกจับอย่างมั่นคงมากขึ้นพร้อมๆกับเรียวนิ้วที่กรีดแต่ละหน้าให้ผ่านไปเรื่อยๆ

     

    ...ก็พี่คนอื่นไง

     

    ...

     

    พี่คนอื่นมีตั้งเยอะแยะ

     

    ท่าทีผิดปกติเริ่มเกิดเมื่อมือบางชะงักงันก่อนจะเปลี่ยนเป็นกำหนังสือในมือแน่น ริมฝีปากที่เม้มสนิทนั้นสั่นอย่างเห็นได้ชัดท่ามกลางสีหน้าไม่เข้าใจของคนเอ่ยถามที่เริ่มขมวดคิ้วมุ่นเช่นกัน

     

    ...เขาจะตี

     

    ...

     

    เขาจะบอกให้หุบปาก เขาบอกถ้าโวยวายจะไม่ได้เจอป้านาบีอีก เขาบอกว่าเรา... บ้า

     

    เขามัดเรา เขาขังเราไว้ในห้องเก็บของ

     

    ถ้าไม่ใช่ป้านาบีกับมีโซ เราไม่เล่นด้วยหรอก...

     

    แค่เพียงคำบอกเล่าผ่านๆอย่างไม่ต้องเจาะจงลึกก็แทบเข้าใจได้ไม่ยาก มือหนาคว้าหมับเข้ากับข้อมือเล็กของคนที่กำลังลุกเดินหนี...

     

    นี่มาล็อคห้องไม่ได้ดูกันเลยหรือไงว่าจุนฮงอยู่นะฮะ!’

     

    ถ้าน้องเป็นอะไรขึ้นมาผมไล่ออกหมดบ้านแน่!!’

     

    แล้วไม่อยากเล่นกับผมเหรอครับ? มุมปากหนายกยิ้มสูง ยองแจมีท่าทีหวาดๆแต่กลับไม่ได้ปัดมือสะบัดหนีแต่อย่างไร ดวงตาใสกระพริบปริบเอียงคอใส่คนชวนก่อนสุดท้ายจะยิ้มอ่อนเอ่ยถามตอบกลับไป... คุณ... อยากเล่นกับเราเหรอ?

     

    อืม... เรียกจุนฮงสิพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นมายืนเทียบเท่า ยองแจขมวดคิ้วใบหน้าหวานประดับด้วยเรียวคิ้วที่ขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกคุ้นกับชื่อที่อีกคนพึ่งเรียกแทนตัว เราเคยรู้จักกันแล้วหนิ?

     

    พี่?

     

    อืม พี่จุนฮงเอง ไม่คิดจะขัดเพราะอย่างน้อยอีกคนก็ยังพอรื้อฟื้นตนได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะอย่างไรเสียในตอนนี้อีกคนก็คงจะตีอายุตัวเองได้ไม่ถูกนักหรอก

     

    แต่พี่ต้องไปทำงานก่อน แล้วจะรีบกลับมาเล่นด้วยโอเคไหม? เอื้อมมือยีกลุ่มผมนุ่มก่อนจะเอ่ยขึ้น ยองแจตาลุกวาวก่อนจะกระโดดโลดเต้นราวกับพึ่งได้รับของเล่นชิ้นใหม่ ต่างฝ่ายต่างยิ้มกว้างให้แก่กันและกัน แต่นาฬิกาที่ข้อมือหนาก็เตือนให้หลุดมายังโลกความเป็นจริงในสิ่งที่ตนจะต้องรับผิดชอบในตอนนี้

     

    สุดท้ายก็จำต้องโบกมือลาก่อนจะก้าวจากมาทั้งๆที่ยังคงเปรมปรีดิ์กับรอยยิ้มหวานใสที่ดูจะกว้างกว่าทุกที สูดหายใจตัดปลายเท้าหันกลับโบกมือลาอีกครั้งก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าเดินออกไป

     

    พี่จุนฮง! แจจะรอนะ!”

     

    พี่ยองแจรีบๆกลับมาหาผมนะ!’

     

    พี่จะรีบกลับมา

     

    ... ไม่มีการเอ่ยตอบกลับในทันที คงมีเพียงการหยุดปลายเท้าและจมอยู่กับความคิดเพียงชั่วครู่

     

    ผมก็จะรีบกลับมา... เสียงกระซิบเอ่ยแผ่วเบาก่อนจะสานต่อปลายเท้าเดินจากไป

     

    .

     

    .

     

    .

     

    คุณจุนฮงคะ เอกสารพวกนี้เอาไว้เซ็นต์พรุ่งนี้ดีกว่าค่ะ สัญญามันเยอะเกรงว่าคุณจะไม่ไหว เลขาเอ่ยเตือนคนเป็นใหญ่กว่าเมื่ออุ้มแฟ้มเล่มหนามาหาอีกเซตใหญ่

     

    เวลาตอนนี้ก็เกือบหนึ่งทุ่มตรงแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอเหนื่อยที่จะต้องมานั่งทำโอทีจำเป็นเพราะปกติพนักงานจะเลิกงานเวลาห้าโมงตรงแต่อย่างใด แต่สภาพของหัวหน้าใหญ่ที่เป็นหนุ่มไฟแรงที่ถือคติทำงานวันต่อวันจะเหนื่อยสายตัวแทบขาดเอา

     

    ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ซูจอง หรือถ้าพี่อยากกลับแล้วก็เขียนโน๊ตไว้บนโต๊ะก็ได้ครับ เดี๋ยวให้คนของผมเป็นคนจัดการต่อเอง เจ้าของชื่อทำได้แค่ถอนหายใจและส่ายหน้าแผ่ว ยงกุกที่ยืนอยู่ไม่ไกลกันนักทำได้เพียงยิ้มอ่อนๆและพยักหน้าเห็นด้วยเพราะบริษัทนี้เป็นบริษัทใหญ่สุดในเครือตระกูลยู การต้องดูแลบริษัทส่วนย่อยมากมายและไม่ให้งานสั่งสมก็จำจะต้องทำให้เสร็จวันต่อวันไป

     

    คุณน่าจะดูแลตัวเองบ้างนะคะ เฮ้อ... เซ็นต์ชุดเก่าเสร็จแล้วใช่ไหมคะ ดิฉันจะไปจัดการต่อให้ จุนฮงทำได้เพียงยิ้มรับพร้อมกับยงกุกที่เข้ามายกแฟ้มชุดที่ว่านั่นส่งคืนเป็นคำตอบ หญิงสาวล่ะเหนื่อยใจนัก กลัวเสียเหลือเกินว่าอีกคนจะล้มพับไปในวันใดวันหนึ่ง... ทำไมคุณจุนฮงถึงไม่ได้ความผ่อนปรนมาจากคุณยองแจเลยน้า...

     

    เสียงพึมพำของเลขาที่เดินหันหลังออกไปทำเอาสายตาที่กำลังไล่อ่านตัวอักษรมากมายชะงักกึก เรียวคิ้วหนาย่นเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจยาว...

     

    เดี๋ยวนะ

     

    หนึ่งทุ่ม... นาฬิกาข้อมือถูกยกดูก่อนที่ดวงตาจะเริ่มมีความกังวลเข้าฉาย ไม่อยากจะบอกเลยว่าจุนฮงลืมคำกึ่งสัญญานั่นไปเสียแทบจะสนิท แต่ถ้ามองตามความเป็นจริง ยูยองแจก็คงจะลืมเขาไปแล้วเหมือนวันนั้นเช่นกันนั่นแหละนะ

     

    ...ช่างเถอะ

     

    สุดท้ายก็เลือกที่จะสบถแผ่วเพื่อสลัดความวุ่นวายใจของตัวเองออกไป เอกสารกลับมาถูกไล่อ่านอย่างไตร่ตรองพิจารณาในทุกๆแผ่นไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เช่นเดิม

     

    ...

     

    สามแฟ้มสุดท้ายค่ะ เอกสารถูกวางลงพร้อมๆกับรอยยิ้มกว้างของสาวเจ้าที่คนเป็นนายก็ยิ้มตาม เวลาที่ตีเป็นสามทุ่มทำให้รู้สึกหวั่นไม่น้อยสำหรับจุนฮง แต่เอกสารตรงหน้าก็สำคัญเกินกว่าที่จะล้มเลิกมันและรีบกลับไปทำในสิ่งที่บางสิ่งกำลังเรียกร้อง

     

    ของบริษัทคุณบาดา เล่มนี้ไม่ต้องยื่นด่วน คุณเอากลับไปทำที่บ้านก็ได้นะคะ ยงกุกลอบขำกับท่าทีที่ผู้เป็นนายที่ทันทีที่ได้ยินก็คว้ากุญแจรถและโอบแฟ้มที่ว่ายื่นให้ ซูจองรีบรวบงานที่พึ่งเสร็จบนโต๊ะออกไปก่อนเพื่อจัดการประสานงานต่อก่อนที่จุนฮงจะก้าวออกไปตามๆกัน

     

    เอาใส่รถผมเสร็จก็ขึ้นมาดูพี่ซูจองให้เก็บของกลับบ้านให้เรียบร้อยด้วยนะครับพี่ยงกุก

     

    คนโดนสั่งพยักหน้ารับและรีบเดินตาม แต่เสียงสั่นของสิ่งของในความเงียบกลับดึงความสนใจให้รีบส่องหาต้นเหตุ...  มือถือของใครอีกคนกำลังสั่นเตือนข้อความเข้า

     

    ...ไฟล์ทบินพี่เลื่อน คงจะถึงวันศุกร์แทนนะจุนฮงอา...

     

    ไม่ได้อยากจะก้าวก่ายเรื่องของเจ้านาย แต่ข้อความที่เผยอยู่บนหน้าจอพร้อมกับชื่อต้นทางทำเอาแฟ้มในมือถูกกำแน่น...

     

    ...จองแดฮยอน

     

    ไม่มีเวลาให้นึกถึงอะไรอีกต่อไป หน้าที่ที่ต้องทำปลุกให้ตื่นจากภวังค์ก่อนบังยงกุกจะรีบเร่งฝีเท้าเดินตามเจ้านายไปไม่ลืมมือถือราคาแพงที่ถูกถือตามไปเฉกเช่นเดียวกัน

     

    แฟ้มถูกวางที่นั่งข้างคนขับเป็นตุ๊กตาหน้ารถไร้ชีวิต จุนฮงจัดการคาดเข็มขัดจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะต้องเป็นอันชะงักเมื่อคนดูแลยื่นสิ่งของที่ลืมไว้ให้พร้อมคำเอ่ยถามที่ทำเอาจำต้องหลบสายตา

     

    คุณแดฮยอนกำลังจะกลับมาแล้วเหรอครับ

     

    มือที่สตาร์ทรถชะงักกึก จุนฮงเอื้อมรับสิ่งของในมืออีกคนหน้าจอที่ฉายคำตอบทุกอย่างทำเอาเสียงของเจ้าของสั่นพร่า... “ค ค คือผม... ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกพี่

     

    ไม่มีการตอบรับสำหรับคำพูดขอโทษขอโพย บังยงกุกยังคงรักษาใบหน้าสงบเสงี่ยมได้เช่นเดิม พร้อมกับท่าทีปกติเสียเป็นคนอย่างเชวจุนฮงเองที่ใจหาย ดูเหมือนไฟล์ทจะเลื่อนนะครับ ต้องขอโทษด้วยที่ก้าวก่าย พอดีเห็นพอดี

     

    พี่...

     

    รบกวนฝากบอกให้เดินทางปลอดภัย

     

    ...ผมขอโทษ

     

    ยงกุกเขยื้อนตัวถอยหลังเท้าชิดก่อนจะค้อมตัวอย่างเอ่ยขอตัวเป็นนัยและหันหลังกลับเข้าไปในตัวตึก จุนฮงมองตามคนที่ตนนับถือเป็นพี่ชายจนอีกคนหายลับไป ก่อนจะค่อยๆหันมาเหยียบคันเร่งพาตัวเองออกไปท่ามกลางเสียงแห่งความรู้สึกผิดที่ดังกว่าเสียงเครื่องยนต์

     

    ไฟแดงที่ฉายชัดทำให้ปลายเท้าค่อยๆกดเหยียบเบรค... เก๊ะหน้ารถถูกเปิดออกขณะเครื่องยนต์สี่ล้อหยุดลงตามสัญญาณไฟที่ว่า กล่องกำมะหยี่สีดำสนิทถูกเปิดออกเผยแหวนเงินสองวงที่ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายถูกคล้องด้วยสร้อยเส้นเล็กที่กำลังรอเจ้าของมันกลับมาใส่อีกครั้ง

     

    ...มือหนายกขึ้นดูเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บกลับลงไปเช่นเดิม มันนานแล้วที่เขาขออีกคนคืน และแน่นอนว่าเขาจะรอเวลาที่เหมาะสมส่งกลับคืนให้อีกทีเช่นกัน

     

    อีกไม่นาน... พี่ยงกุกจะเข้าใจเราสองคน

     

    พี่แดฮยอน

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ... ก้าวเข้าบ้านที่คงมีเพียงความเงียบและความมืด จุนฮงก้มหน้าขันตัวเองในใจเมื่อความว่างเปล่าเป็นคำตอบในสิ่งที่เขาร้อนใจมาตลอดทั้งวัน

     

    ตอนนี้ไม่อยากจะบอกเลยว่าอยากจะออกไปคว้ากุญแจรถคืนจากคนรถที่เอารถไปเก็บ รู้งี้ป่านนี้เขานั่งทำงานยันเช้าไปเลยเสียดีกว่า เหอะ... คนบ้ามันก็จะจำอะไรได้กัน

     

    แล้วนี่หวังให้หมอนั่นมารองั้นเหรอ เชวจุนฮงอา

     

    นี่จะบ้าตามแล้วสินะ พึมพำกับตัวเอง เดินส่ายหน้าตรงไปหาน้ำดื่มตรงส่วนครัว ถอนหายใจยาวๆตั้งสติที่เดี๋ยวนี้ดูไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวนัก และก็เป็นอันต้องหูผึ่งเมื่อได้ยินเสียงเห่าเบาๆที่คุ้นเคยดังขึ้นอยู่ไม่ไกล

     

    ...มีโซ?

     

    เสียงมันมาจากข้างนอก ไม่ว่าเปล่า ปลายเท้าก็หันพาตัวเองไปยังสวนด้านนอกทันที

     

    ไม่อยากจะบอกว่าอยู่ๆร่างกายมันก็ชาไปเสียทุกส่วน ไม่รู้เหมือนกันว่าในตอนนี้ควรจะรู้สึกเช่นไรเมื่อมีใครคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในจุดๆเดิมที่ได้กล่าวอำลาในตอนเช้าแต่คงจะเปลี่ยนจากหนังสือนิทานเป็นกล่องสีขาวกล่องเดิมที่อีกคนตระกองกอดอยู่

     

    อ๊ะ คุณจุนฮงมาแล้วเหรอคะ เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อไม่ได้สังเกตว่านาบีนั่งอยู่ข้างๆตรงปากประตู ท่าทีที่เหมือนพึ่งสะดุ้งตื่นทำเอาอดจะค้อมหัวขอโทษไม่ได้ที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น

     

    คือเมื่อเย็นป้าโทรไปหาคุณแต่คุณติดประชุมเลยโทรหาคุณยงกุกเรื่องกล่องนั่นเพราะมันคงเป็นสิ่งเดียวที่คุณยองแจอาจจะยอมเข้าบ้าน ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เข้าไปเอาโดยพลการ ส่ายหน้าน้อยๆอย่างปฏิเสธ ถอนหายใจน้อยๆอย่างเข้าใจความหมายในประโยคนั้น

     

    อาจจะ แต่ก็ไม่ยอม...

     

    นั่งมาตั้งแต่เช้าเลยเหรอ?

     

    ใช่ค่ะ คุณเขาบอกว่ารอพี่อยู่... ฉันพยายามถามแล้วว่าคือใครก็บอกว่าจำไม่ได้ ดึงดันจะพาเข้าบ้านก็ร้องลั่นเสียจนใจป้าจะขาด

     

    ...ผมเองแหละครับ

     

    ...

     

    ป้าไปนอนเถอะ เดี๋ยวผมเอาเขาเข้านอนเอง

     

    คำถามมากมายติดอยู่ในสายตาคนสูงวัยแต่เชวจุนฮงก็เลือกที่จะเมินเฉย เขาไม่อยากจะเอ่ยปากอะไรมากเพราะความเป็นจริงระหว่างตนกับอีกคนอย่างไรเสียในตอนนี้ถ้าไม่ติดว่าอีกคนจิตผิดปกติเราก็คงเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันจะมาชนกันตลอดกาล

     

    เพราะเขาก็คงไม่ปล่อยให้คนผิดมาอยู่สุขสบายได้ขนาดนี้

     

    ถือซะว่าเลี้ยงเด็กสักคน... ป้าคงไม่ว่าอะไร เดินออกห่างไปยังคนตัวเล็กที่ยังคงแกว่งขารอ นาบีทำเพียงมองตามก่อนจะตัดสินใจเดินกลับไปยังบ้านคนใช้ที่อยู่ถัดหลังออกไป

     

    ไม่อยากจะคิดเลยว่าจุดจบมันจะเป็นเช่นไร...

     

    ไง รอนานไหม? ยองแจฉีกยิ้มกว้างก่อนจะพุ่งกระโดดกอดคอคนตัวสูงกว่าที่ผวารับเข้าอย่างลืมตัว เสียงร้องอื้ออึงพร้อมหยดน้ำสีใสที่ชื้นตรงไหล่ทำเอาต้องเขยือนตัวห่างมาตรวจดูคนขี้แงที่ยังคงร้องไห้ทั้งๆที่ยังคงมีรอยยิ้ม

     

    เป็นอะไร ร้องไห้ทำไมเนี่ย!” เกลี่ยน้ำตาจากใบหน้าหวานที่เริ่มแดงก่ำ ยองแจส่ายหน้าทันควันก่อนจะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากยึดแผ่นอกตนกอดแน่นเสียจนต้องเลยตามเลย

     

    พี่มาช้า อึก ก ก็นึกว่าจะไม่มาแล้ว สุดท้ายก็ได้ยินคำบอกเล่าของคนตัวเล็ก จุนฮงลูบหัวคนในอ้อมกอดอย่างปลอบขวัญ พี่จุนฮงบอกแล้วไงว่าจะกลับมาเล่นด้วย... นี่ไง เห็นไหม พี่อยู่ตรงหน้ายองแจแล้วไง จุนฮงยอมรับเลยว่าไม่ได้สังเกตคนตรงหน้าใกล้ๆขนาดนี้มานานมาก อายุอานามที่ผ่านมานานพอสมควรกลับไม่ได้ทำร้ายใบหน้าอ่อนเยาว์ราวกับเด็กมัธยมนี่ได้เลย

     

    ดูบริสุทธิ์เสียจนกลัวว่าจะแปดเปื้อน

     

    และยิ่งอีกคนไม่ปกติอย่างนี้กิริยาที่แสดงออกมายิ่งทำเอาไม่อยากคิดเลยว่าถ้าไปปล่อยทิ้งไว้ไหนจะเป็นยังไง

     

    ฮือ จุนฮง... อึก จุนฮง จุนฮง... เราจะท่องชื่อจุนฮงจนกว่าจะจำได้ขึ้นใจเลย ร่างเล็กผละออกก่อนจะยกมือขยี้ตาที่แดงก่ำอยู่แล้วยิ่งแดงกว่าเดิมเพราะดูเหมือนจะร้องไห้จนปวด เสียงหวานพยายามกลั้นสะอื้นปากก็เอาแต่พร่ามในสิ่งที่ทำเอาเจ้าของชื่ออดจะบีบจมูกรั้นนั่นไม่ได้

     

    ทำไมพี่ชายของเขาถึงได้น่ารักน่าชังขนาดนี้กัน

     

    พี่ชายผมน่ะ... น่ารักที่สุดในโลกเลยรู้ไหม?

     

    แต่ก็ไม่ได้น่ารักเท่าครึ่งพี่แดฮยอนของนายใช่ไหม?

     

    กึก

     

    มือที่กำลังยื้อให้อีกคนไม่ขยี้ตาหยุดนิ่งราวกับลานไขหยุดชะงัก จุนฮงจ้องมองนัยน์ตาของอีกคนที่จ้องกลับมาเช่นกัน เสียงในอดีตที่ตามมาหลอกหลอนกำลังทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง เรื่องราวที่ตามติดตัวกำลังทำให้ลมหายใจติดขัด...

     

    พี่แจบอมบอกว่าพี่ชอบผม... แบบไม่ใช่พี่น้อง

     

    บ บ้า... บ้าเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไง

     

    งั้นก็คบกับพี่แจบอมสิ เขาจะได้ไม่ต้องมาตามราวีหาเรื่องผมทุกวันแบบนี้!’

     

    จุนฮงเก็บของเถอะ เดี๋ยวจะได้เช็คว่าลืมอะไรหรือเปล่า

     

    พี่อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง อย่าให้ผมบินไปเมกาทั้งๆที่ยังงุ่นง่านอยู่แบบนี้ได้ไหม?!’

     

    จุนฮงคือน้องพี่โอเคไหม?! เป็นแค่... น้องชาย

     

    ยองแจรู้จักคนที่ชื่ออิมแจบอมไหม? ปากดันไวกว่าสมองให้หยุดคิดทบทวน จุนฮงพลั้งปากถามไปอย่างไม่ได้ทันคิด ครั้นจะทำเป็นลืมๆไปแต่ปฏิกิริยาที่ตอบรับก็ทำเอาราวกับมีไม้หน้าสามมาฟาดหน้า... ร่างกายเล็กกำลังสั่นสะท้านอย่างบ้าคลั่ง น้ำตามากมายทยอยไหล... แต่กลับไม่มีเสียงร้องอะไรราวกับเสียงมันออกมาหมดจนไม่หลงเหลือให้กรีดร้องอีกต่อไป

     

    ยองแจ? …พี่ยองแจ!” นัยน์ตาหวานเลิ่กลั่ก มือบางที่เคยกอบกุมอีกคนไว้พยายามสะบัดออกราวกับถูกของร้อน ยังคงไม่มีเสียงร้องคงมีเพียงแต่ท่าทีตะเกียกตะกายตีออกห่างราวกับจะเป็นจะตายเสียให้ได้

     

    นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน!!

     

    ป้านาบี! ป้าครับ!!” ตะโกนลั่น มืออีกข้างกดเบอร์ต่อสายทันที มีโซวิ่งตรงเข้าหาเจ้านายที่เผลอสะดุดขาตัวเองล้มแต่ยังไม่วายปล่อยโฮอยู่เงียบๆ เจ้าสี่ขาตัวเล็กพุ่งเข้าซุกตรงช่วงเอวแต่สุดท้ายก็โดนสะบัดออกไม่ต่างกัน

     

    เกิดอะไรขึ้นคะคุณจุนฮง?!!” วิ่งมาแทบจะไม่ไหวเมื่อทั้งเสียงตะโกนและเสียงโทรศัพท์ดังลั่นเสียจนคนในบ้านแตกตื่น คนดูแลวิ่งตามกันมาก่อนที่จะเป็นคนดูแลใหญ่ที่เอ่ยปากลั่นขยับตัวเข้ามาใกล้

     

    ขอร้องบอกป้าว่าพูดอะไรกับคุณยองแจ!” ท่าทีปฏิเสธจากคุณที่รักทำเอานาบีใจหล่นไปตาตุ่ม หันมาตวาดอย่างลืมตัวกับคุณคนเล็กที่ท่าทีสงบตีแตกไปเสียแทบจะเรียกได้ว่าไม่หลงเหลือ

     

    ...ผม ผมถามเขาเรื่องพี่แจบอม

     

    มุนอีไปเอายานอนหลับมาฉีดคุณยองแจเดี๋ยวนี้!”

     

    ยงกุกที่ได้ยินเสียงโวยวายเดินเข้ามาก็อดจะผงะไม่ได้กับความวุ่นวาย ท่าทีเจ้านายที่ยืนนิ่งดวงตาเบิกค้างจ้องมองร่างจะเป็นจะตายที่พยายามปกป้องตัวเองในสิ่งที่คนนอกเข้าไปไม่ถึงทำเอาจำต้องก้าวเข้าใกล้ไปสะกิด

     

    ...ยงกุก

     

    ไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้ผมช่วยคุณนาบีเอง

     

    จุนฮงส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเลือกเข้าไปหาพี่ชายตัวเองที่ในตอนนี้ถอยไปคุ้ดตู้ตัวเองอยู่ใต้โต๊ะม้าหินแสนคับแคบ เสียงสมเพชจากคนดูแลบ้านคนอื่นๆเริ่มดังเซ็งแซ่ แน่นอนว่าเชวจุนฮงไม่มีวันยอมให้ใครมาพูดกับพี่ชายของเขาแน่

     

    มีแค่เขาที่มีสิทธิ์

     

    ถ้าไม่อยากมีเจ้านายแบบนี้ทำไมไม่ลาออกไป

     

    ฉันยังไม่ได้เคลียเรื่องที่มีคนเคยขังพี่ชายของฉันนะ...

     

    แทบจะในทันทีที่เกิดภาวะเงียบสงบ จุนฮงไล่มองกราดก่อนที่จะพุ่งเข้าไปกระชากตัวคนทึคุ้ดคู่อยู่ภายในออกมาทันที ทำเอานาบีที่อยู่ใกล้เคียงเข้าไปห้ามไม่ทัน คุณจุนฮง

     

    เสียงสะอื้นดังแทนเสียงกรีดร้องที่สมควรมี มือบางพยายามจิกนิ้วลงเนื้อผ้า ตีตบคนที่ในตอนนี้พาร่างตัวเองลงสู่อ้อมกอดพร้อมกดใบหน้าให้จมลึกอยู่กับความอบอุ่นที่ในตอนนี้ไม่ใช่เวลามารู้สึก "จุนฮงเอง... ผมจุนฮงไงพี่ยองแจ"

     

    จุนฮงเอง ไม่มีคนอื่น มีแค่จุนฮงนะครับ

     

    ไม่มีอะไรแล้วนะคนเก่ง ใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ...

     

    เหมือนสะกดจิตพี่ชายตัวบางที่เริ่มจะผ่อนคลาย เสียงสะอื้นไห้เริ่มหดหายคงเหลือเพียงแต่เสียงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน จุนฮงส่งสายตาให้ป้านาบีที่พยักหน้าเข้าใจและสั่งให้คนที่ชื่อมุนอีจัดการฝังเข็มลงที่หัวไหล่คนตัวเล็กที่สะดุ้งเฮือกแต่ก็ถูกตนกอดไว้แน่น... ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร... มันจะโอเค

     

    เพียงไม่นานก็เหมือนแรงต่อต้านเริ่มหมด ยองแจค่อยๆจมสู่นิทราพร้อมๆกับเสียงสุดท้ายที่แสนแผ่วเบาและคงมีเพียงเชวจุนฮงที่จะได้ยินเพียงคนเดียว

     

    จุนฮงช่วยพี่ด้วย...

     

    ...พี่?

     

    เดี๋ยวผมอุ้มคุณยองแจเองครับ มา สติถูกเรียกคืนเมื่อยงกุกเดินเข้ามาเอ่ย คำพูดเมื่อกี้ยังคงสะท้อนก้องหู... มันเหมือน

     

    จิตใต้สำนึกงั้นเหรอ

     

    ...แต่มันไม่ใช่เวลามานึกถึงเรื่องนี้

     

    ทุกอย่างปกติแล้วเชิญทุกคนไปนอนต่อเถอะครับ เอ่ยเสียงเรียบกับคนที่เคยล้อมให้กลับไปยังเรือนหลังเช่นเดิม นาบีกำลังจะเดินไปเช่นกันแต่แน่นอนว่าคงต้องติดที่จุนฮงยื้อไว้... คะ?

     

    ผมว่าป้าจำพี่แจบอมได้นะครับ... สุดท้ายก็ต้องมานั่งจับเข่าคุยกันภายใน แค่เพียงเอ่ยคำกึ่งคำถามไปก็เรียกเสียงถอนหายใจเป็นสิ่งแรกเข้าเสียแล้ว

     

    ป้าก็ไม่รู้อะไรมากหรอกนะคะ แต่ตั้งแต่คุณจุนฮงบินไปอเมริกา คุณแจบอมก็มารับคุณยองแจไปอยู่ด้วย

     

    ตอนแรกคุณท่านก็จะให้ป้าไปดูแล แต่คุณยองแจอกว่าไม่ต้อง... และอยู่ๆก็หายเป็นเดือนๆ พอคุณยองแจกลับมาหลังจากนั้นป้าก็ไม่เห็นคุณแจบอมอีกเลย

     

    ... อ่อ แต่ป้าเห็นคุณเขาอีกครั้งก็ตอน เอ่อ

     

    พูดมาเถอะครับ

     

    งานศพคุณท่านกับคุณผู้หญิงค่ะ

     

    แต่มันจะไม่อะไรเลยนะคะ ถ้าหลังจากนั้นถ้าเพียงแค่ป้าพูดถึงคุณแจบอมทีไรคุณยองแจก็จะมีอาการแบบนั้นทุกครั้ง ป้าจะถามทีไรคุณเขาก็เป็นอย่างนี้ตลอดจนคนที่จะตายเองนี่จะกลายเป็นป้าแทนอยู่แล้ว

     

    ไม่มีเสียงต่อหลังจากนั้นของทั้งสองคน จุนฮงทำเพียงถอนหายใจตั้งสติกับความร้อนที่สุมในอกจากการที่ต้องการอยากรู้อะไรแล้วดันไม่เป็นดั่งใจ...

     

    ทุกอย่างมันถูกล็อคอยู่ แล้วแม่กุญแจคือยูยองแจหรือไง

     

    มีแต่ปัญหาที่แก้ไม่ได้เนอะครับ นาบียิ้มตอบ ส่ายหน้าน้อยๆให้กับท่าทีเหนื่อยอกเหนื่อยใจนั้น

     

    ลองคิดอีกแง่ บางทีมันอาจจะเป็นปัญหาที่ไม่ต้องการแก้ก็ได้นะคะ

     

    ... พระเจ้าดลบรรดาลให้คุณยองแจจำอะไรไม่ได้ ไม่สิ แต่ก็ไม่เชิง... อย่างน้อย ถ้าเราไม่ไปรื้อฟื้นเรื่องร้ายๆคุณยองแจก็คงจะได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เป็นคนปกติเหมือนเดิม

     

    จุนฮงเพยิดไหล่ เรียวลิ้นเดาะเข้ากระพุ้งแก้มก่อนจะเสหน้าหนี แล้วก็ปล่อยให้ลอยนวลไป...

     

    แล้วมันไม่ดีกว่าหรือไงถ้าจะเริ่มใหม่...

     

    เป็นคำตอบที่ไม่ได้คิดว่าจะได้รับจากคนที่นับถือ จุนฮงหลบสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาก่อนจะที่จะเลือกบอกลาและผลุดลุกออกไปอย่างที่ไม่ต้องการต่อบทสนทนาให้ตัวเองก้าวสู่คำว่าผู้แพ้โดยสมบูรณ์

     

    ...เริ่มใหม่?

     

    พูดง่ายไปหรือเปล่า

     

    เรียบร้อยแล้วเหรอ? จุนฮงละอยากจะตบหัวตัวเองให้หายเหม่อและเดินตามทางไปห้องตัวเองไม่ใช่ห้องของใครอีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่มีบันไดกั้นอยู่แบบนี้ จะแก้ตัวอะไรได้ในเมื่อบังยงกุกก็ออกมาพอดีเลยต้องถามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

     

    เรียบร้อยครับ ยงกุกยิ้มรับ แต่ไม่ทันจะให้คนเป็นเจ้านายเอ่ยผ่านก็เอ่ยในสิ่งที่ทำเอาร่างกายที่เริ่มอ่อนแออ่อนยวบลงไปอีกครั้ง

     

    บางทีคุณคงอยากจะเข้าไปดูคุณยองแจเสียหน่อย เพราะเขาเอาแต่ละเมอว่า...

     

    พี่ขอโทษ

     

    ... ...

     

    อ่อ ผมลืม

     

    กล่องเครื่องประดับของคุณหญิงคุณยองแจเอาใส่ไว้ข้างในเสื้อ ถ้าจะเอาอยู่ตรงหัวเตียงในห้องนะครับ ผมขอตัวก่อน

     

    พี่นี่มันบ้าจริงๆ...

     

    ยูยองแจบ้าที่สุด

     

     

     


    TBC.

     

     




    © themy  butter
    talk ; โล่แจ บังแด้ เอ็นจอยค่ะ ^_^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×