ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC B.A.P] MADMAN เรื่องจริงหรือแสร้งกัน *'''

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 57







        



    PART 1




     

    ถ้าหากภายในระยะเวลาสองปีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถึงแก่กรรม

     

    สมบัติทั้งหมดจะถูกโอนเป็นของสาธารณะโดยทางรัฐบาลจะเข้ามาจัดการทันที

     

    ...กึกๆๆ

     

    กึก

     

    กึก...

     

    ปากกาในมือยังคงเคาะบนโต๊ะรัวอย่างเผลอไผลเมื่อเรื่องราวเมื่ออาทิตย์ก่อนยังคงคาอยู่ในสมอง ความคิดที่ว่าเมื่อทันทีที่ได้แบ่งแยกสมบัติจะจัดการส่งคนจิตผิดแปลกนั่นไปอยู่ยังสถานที่บำบัดเป็นอันต้องพับโครงการเมื่อถูกดักคอจากพินัยกรรมบ้าๆนั่น

     

    ป๊าคิดอะไรอยู่กันแน่

     

    พึมพำฟันคมขบกันเสียจนได้ยินเสียงดังกรอด แน่นอนว่าเรื่องสมบัติจะได้น้อยได้มากเขาไม่ได้นึกกังวลอย่างใด แต่สิ่งที่เขาหวังเพียงอย่างเดียวคือการตัดขาดกับบุคคลที่เคยขึ้นชื่อว่าพี่ชาย ที่ในตอนนี้ศักดิ์นำหน้ามันไร้ความหมายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...

     

    ความผูกพันมันถูกตัดขาดตั้งแต่ที่อีกคนถูกผ้าคาดหน้าว่าเป็นคนวางแผนการฆาตรกรรมผู้เป็นพ่อและแม่เลี้ยงตัวเองนั่นแล้ว

     

    ยิ่งเห็นก็นึกสมเพช ยิ่งได้เจอก็ยิ่งเพิ่มความเกลียด...

     

    กับอีแค่เป็นบ้าก็ปล่อยให้ลอยนวลไม่มีความผิดอะไรเลยเนี่ยเหรอ?

     

    แม่งเอ๊ย สบถกับตัวเองก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะตรงหน้าด้วยความอ่อนแรง ความรู้สึกที่พยายามเข้มแข็งมันถูกทำลายเพียงรูปภาพในกรอบตรงหัวมุมโต๊ะที่ไม่พอดีนั่น

     

    ...รูปคนสี่คนที่หนึ่งในนั้นถูกฉีกออกไป

     

    สมบัติงั้นเหรอ...

     

    จุนฮงต้องช่วยป๊าเขานะลูก ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกลูกจะได้ป๊าเขาทุ่มเทมาตลอดทั้งชีวิตเลยนะ

     

    ...เขาไม่อยากได้

     

    ป๊าเหนื่อยแทบตายกว่าจะเลี้ยงพวกเราสบายขนาดนี้ บุญคุณต้องทดแทนเข้าใจไหม?

     

    ทำไมม๊าต้องบังคับผมด้วย

     

    ยองแจน่ะเขาเก่งมากนะ เรากับพี่น่ะ ถ้าช่วยกันยังไงมันก็ต้องสำเร็จอยู่แล้ว

     

    ถ้าม๊ามาเป็นผมตอนนี้... ม๊าจะยังรักคนที่จงใจจะฆ่าตัวเองหรือเปล่าครับ

     

    ...

     

    การแถลงเจ้าของบริษัทในเครือยูคนใหม่ผ่านพ้นไปหลังจากให้ผู้ถือสิทธิ์ใหญ่ได้ปรับตัวมาร่วมนับสัปดาห์ จุนฮงโค้งรับกับบุคคลอาวุโสกว่าหลายสิบคนที่ถึงแม้จะมองเขาอย่างดูถูกแต่ตลอดระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ตนก็ได้แสดงให้เห็นชัดกับยอดกำไรที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างมีรากฐานอย่างเป็นการพิสูจน์ศักยภาพให้ทุกฝ่ายให้เห็น

     

    วันนี้คุณจะต้องย้ายเข้าบ้านแล้วนะครับ... ทันทีที่การตีหน้ายิ้มรับจบเสียงคนดูแลก็แทรกมาให้อารมณ์ที่คงที่กดลงต่ำแทบจะในทันที

     

    พี่เลิกย้ำเรื่องนี้สักทีเถอะ ผมรู้อยู่แล้วน่า เอ่ยปัดก่อนจะเดินนำออกจากห้องประชุมใหญ่สู่ห้องทำงานผู้มีศักดิ์เป็นบิดาที่ในตอนนี้ได้กลายมาเป็นของตนอย่างไร้ข้อกังหา คนตัวสูงก้าวเท้ายาวเดินโครมๆไปทิ้งตัวลงโซฟารับรองก่อนจะตวัดสายตาไปยังอีกคนที่ยังคงเดินตามาด้วยสีหน้าแน่นิ่งอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

     

    พี่ยงกุกครับ ตอนนี้ไม่ได้มีคนอื่นก็ช่วยทำตัวสบายๆกับผมไม่ได้หรือไง? แค่นี้ผมก็ประสาทกินจะแย่อยู่แล้ว

     

    เจ้าของชื่อส่ายหน้าน้อยๆกับท่าทีหมดอาลัยตายอยาก บังยงกุกก็โตมาพร้อมๆกับคนตรงหน้าแต่คนละสถานะก็เท่านั้น แน่นอนว่าพวกเราก็นับถือกันเป็นพี่ชายน้องชาย แต่ตนก็ชินชากับการให้บริการเด็กดื้อรั้นคนนี้มานานนมเช่นกัน

     

    คุณยื้อเวลาจนถึงที่สุดแล้วนะครับ... เป็นจริงอย่างบังยงกุกบอก ตั้งแต่การเปิดพินัยกรรมวันนั้นก็เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเด็กตัวสูงที่ต้องกลายมาเป็นกึ่งหัวหน้าตระกูล แน่นอนว่าจุนฮงยื่นคำขาดขอเวลายื่นออกไปหนึ่งเดือนซึ่งแน่นอนว่ามันได้และมันก็จะกำหนดนั่นคือวันนี้แล้ว

     

    ทางคุณหมอก็แจ้งมาแล้วว่าคุณยองแจมีโอกาสหาย อย่างน้อยเขาก็เป็นพี่ชายคุณนะครับ

     

    บังยงกุกก็รู้พอๆกับที่เชวจุนฮงรู้

     

    แต่ทำไมเขาถึงมั่นใจนักว่ายูยองแจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

     

    ผมขอสั่งให้พี่หยุดพูด!” จุนฮงตะโกนลั่น บังยงกุกค้อมตัวลดปลายเท้าไปด้านหลังอย่างสุขุม... ไม่มีการโต้แย้งเอื้อนเอ่ยเถียง คงมีเพียงดวงตาคมของคนอายุมากกว่าที่สบจ้องอย่างต้องการสื่อความหมาย

     

    มั่นใจว่าเชวจุนฮงเข้าใจ เพียงแต่แค่ไม่ยอมรับ

     

    และเหตุผลที่อีกคนยอมที่จะกลับไปไม่ใช่เพียงต้องการสานต่อมรดกของตระกูลผู้มีพระคุณเพียงอย่างเดียว เพราะเหตุผลอีกข้อที่บังยงกุกได้เอ่ยปากไปเมื่อกี้...

     

    ยูยองแจมีโอกาสหาย

     

    เรื่องอะไรที่เชวจุนฮงจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปกัน

     

    พี่ชายงั้นเหรอ?... หึ

     

    .

     

    .

     

    .

     

    เสียงประตูเปิดปิดดังขึ้นยามค่ำคืน บ้านหลังใหญ่ที่ดวงไฟถูกปิดหมดกำลังมีแสงไฟเล็กๆจากโคมไฟพกพาด้วยฝีมือคนตัวเล็กที่ค่อยๆเดินลงมาจากบรรไดกลางบ้านพร้อมเจ้าบีเกิ้ลที่วิ่งนำไปยังที่เดิมที่คุ้นชิน

     

    มีโซอย่าไปวิ่งชนอะไรนะ พูดแผ่วเบาแทบไร้เสียงกับเจ้าตัวเล็กที่นำไปลิ่ว ฝีเท้าบางรีบก้าวฉับๆตามไม่ลืมจะลงเท้าเบากันคนดูแลจะตื่นขึ้นมาให้ไฟเปิดในยามดึกเสียจนสว่างโล่ให้แสบตาและถูกมองอย่างคนโดนจับได้ให้รู้สึกตื่นตระหนกจนแทบจะร้องไห้อย่างที่เคยเป็นอีก

     

    ก็แค่ลงมากลางดึก นาบีก็บอกว่านี่เป็นบ้านของเขาแล้วทำไมคนอื่นต้องมองมาอย่างไม่ชอบใจทุกที

     

    ฮ่อง!”

     

    มีโซ! ชู่วววววว

     

    เจ้าตัวเล็กโวยขึ้นทำเอาเจ้าของรีบเอ่ยห้าม ยองแจรีบย่อตัวไปนั่งเทียบเท่าก่อนจะลูบหัวสัตว์สี่ขาข้างตัวสักพักและค่อยๆมุดตัวลงไปใต้ตู้โชว์ในมุมหนึ่งของบ้านที่ไม่ค่อยมีใครมายุ่งมากเสียเท่าไหร่

     

    อ๊ะ!” ใบหน้าหวานขมวดมุ่นเมื่อสิ่งที่เคยอยู่กลับไม่ได้อยู่ที่เดิม ริมฝีปากเล็กเริ่มเบะก่อนที่เพียงไม่นานแสงไฟทั้งบ้านจะถูกเปิดเมื่อผู้เป็นเจ้าของตะโกนเหวกลั่น

     

    หายไปไหน? ทั้งตัวแทบจะพาตัวเองเข้าไปในรูเล็ก เจ้าคู่หูตัวเล็กที่พอเข้าใจก็อาสาเข้าไปมุดให้ทั้งตัวแต่ก็ยังคงไร้ความหมาย... มีโซ มันหายไปไหนอ่ะ ฮึก...

     

    มีโซ!! กล่องฉันหายไปไหน ฮือ

     

    ป้านาบี!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

    ประตูหลังถูกไขออกก่อนเจ้าของชื่อจะรีบวิ่งมาตามเสียง คนใช้คนอื่นๆที่ถูกปลุกก็แห่กันวิ่งเข้ามา และป็นอันที่แน่นอนว่าข้าวของใกล้เคียงกำลังถูกเจ้าของบ้านทำลาย...

     

    คุณยองแจหยุดค่ะ! คุณของป้าหยุดนะคะคนตัวเล็กยังคงรื้อข้าวของในตู้ออกมาราวกับกำลังรื้อหาสิ่งของที่ต้องการ มีโซถูกใครบางคนอุ้มไปเข้ากรงและนั่นทำเอาคนที่สติยับยั้งไม่ได้ยิ่งสติแตก

     

    เอามีโซมานะ ไอ้บ้า! เอามีโซคืนมาเดี๋ยวนี้นะ เพื่อนคลายเหงาเพียงอย่างเดียวกำลังถูกคลาดกันยิ่งทำเอาคนที่รู้สึกเหมือนไม่มีใครใจหาย นาบีและคนอื่นช่วยกันหยุดยั้งแต่ก็ดูเหมือนอีกคนจะไม่สนใครเว้นเสียแต่เจ้าบีเกิ้ลตัวเล็กที่ค่อยๆห่างไปเรื่อยๆ

     

    โวยวายอะไรกันฮะ!!!!”

     

    ประตูใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงโปร่งที่เดินมาพร้อมกับคนดูแลโวยลั่น ใบหน้าง่วงงุนฉายแววไม่สบอารมณ์เสียจนเหตุการณ์ยื้อยุดหยุดลงแต่คงเว้นแต่คนตัวเล็กที่ดิ้นหลุดวิ่งไปตามทางตามหาเพื่อนตนด้วยท่าทีหว้าวุ่น

     

    คุณจุนฮงช่วยจับคุณยองแจไว้หน่อยค่ะ!” ไม่ใช่เวลามาตกใจว่าใยคุณคนรองถึงดันโผล่มาในยามค่ำคืนเกือบข้ามวันใหม่ในวันนี้ การวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายทั้งน้ำตาของคนโตของบ้านทำเอาอดจะเป็นห่วงไม่ได้ว่าหลังจากนี้จะเลิกตามหาแต่กลับหันมาทำร้ายตัวเองอีก

     

    แม่ง ทำไมมีแต่ปัญหาวะเนี่ย... จุนฮงโยนสูทให้ยงกุกที่น้อมรับก่อนที่คนอายุมากกว่าจะเดินขึ้นไปยังบันไดเพื่อไปเก็บกระเป๋าใบโตด้านบน

    ปล่อยทิ้งคนเป็นเด็กที่จำต้องก้าวเท้ายาวตรงไปยังร่างคนสติหลุดที่เดินตามหาในสิ่งที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไร

     

    ปล่อยนะ!” ช่วงขายาวไล่ตามอย่างง่ายดายจนเพียงครู่เดียวก็ถึงตัว ลำตัวเล็กถูกอุ้มพาดบ่าไม่ได้สนใจถึงเล็บที่พยายามจิกกระชากให้ตนปล่อยเลยสักนิดเดียว

     

    รีบขึ้นมาเปิดประตูห้องมันสิ คนจะหลับจะนอน!” เอ่ยกับนาบีที่จากที่ทำตัวไม่ถูกกลับต้องรีบหุนหันพาร่างที่เริ่มอ่อนแอตามไววิ่งตาม คนโดนพาดบ่ายังคงแดดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ใช่ว่าคนดูแลจำเป็นจะถนอมให้สมศักดิ์ที่เป็นน้องชายเสียเมื่อไหร่ คนเหมือนกันนะเว้ย...

     

    หุบปากเหอะ ตีเข้ากับสะโพกกลมกลึงก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าเมื่อเริ่มปราบพยศไม่ไหว ยงกุกที่อยู่อีกฝากของบันไดทำเพียงยืนมองเจ้านายตนที่กำลังสู้รบจนถึงห้องยองแจด้วยรอยยิ้มขำขัน... อย่างไรเสียคุณจุนฮงก็ยังพอหลงเหลือความรู้สึกกับอีกคนอยู่เหมือนกันล่ะนะ

     

    ไม่งั้นคุณยองแจได้โดนเหวี่ยงตกบันไดไปแล้วเป็นแน่

     

    นี่มันดื้ออย่างนี้ทุกวันเลยไหมเนี่ย? ทันทีที่วางไม่สิ โยนร่างอีกคนลงบนเตียงได้ก็สบถกับตัว เชวจุนฮงหอบแฮกซ้ำยังเอามือกุมหัวเมื่ออีกคนยังคงบีบน้ำตามากมายพร้อมตะโกนตามหากล่องบ้าและไอ้หมาตัวน้อยอย่างไม่คิดเลิกรา

     

    ... ก็ไม่บ่อยนักหรอกนะคะ แต่คราวนี้หนักเอาการอยู่จริงๆ รู้ดีว่าในตอนแรกอีกคนเพียงแค่สบถแต่นาบีก็อยากจะเอ่ยตอบ คนตัวสูงหันไปตามเสียงก่อนจะทำหน้าเบ้อย่างนึกเหนื่อยแทน

     

    ฉีดยานอนหลับซะก็สิ้นเรื่อง...

     

    ร่างกายคุณของป้าก็แย่พอดีน่ะสิคะคุณจุนฮง

     

    เจ้าของชื่อกุมหัวบีบขมับแน่นเข้าไปใหญ่ นี่มันบ้าไรวะเนี่ย...!

     

    ก็ตามใจจนเคยตัว เดี๋ยวผมสอนมันเองละกัน!”

     

    ปัง!

     

    อยากจะตบปากตัวเองซ้ำยังอยากจะทุบมือให้แหลก อะไรดลใจให้เขาพูดไม่คิดและปฏิบัติเลยอย่างไม่นึกถึงหน้าหลังเลยสักนิดนี่ ตามจริงก็คิดว่าตัวเองประชดไปแต่ทำไมมันถึงกลายเป็นตนพาร่างหญิงสูงวัยออกไปนอกห้องพร้อมกระแทกประตูดังลั่นไม่ลืมกดล็อคและเผชิญหน้าอยู่กับใครอีกคนที่ยังคงไม่มีวี่แววลดเสียงอย่างไร้ตัวช่วยรอบด้านแบบนี้

     

    โอเคๆ ตั้งสติหน่อยเชวจุนฮง สูดหายใจเข้าออกยาวๆกับภาพที่อีกคนเริ่มกระชากผ้าปูที่นอนปลอกหมอนออกมาด้วยอารมณ์โทสะ จะว่าตนร้อนแต่ถ้าจะต้องมาเสี่ยงกับคนที่ควบคุมสติไม่ได้มากกว่าไม่แน่เขาอาจจะพลั้งมือรุนแรงเป็นแน่แท้

     

    โอเค ใจเย็นนะจุนฮง... ใจเย็น

     

    พลั่ก!

     

    เอามีโซคืนมาเดี๋ยวนี้นะ!!!!!!!!”

     

     






    **






    หมอนใบโตเหวี่ยงเข้าเต็มหน้า เชวจุนฮงแทบจะโผตัวพุ่งเข้าใส่ถ้าไม่ติดเจ้าดวงตาไม่รักดีดันสบกับอีกคนเต็มๆตาจนเผลอชะงักงัน... ยองแจไม่ได้หลบสายตา คงมีเพียงริมฝีปากที่เบะออกและเหมือนจะยอมแพ้ไปในทีเมื่อคนตัวเล็กเลือกที่จะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงถดตัวขึ้นไปนั่งกอดเข่าซบใบหน้าร้องไห้กับตัวเอง

     

    จุนฮงถอนหายใจให้กับทั้งตนเองและอีกคน เขาเห็นแล้วเขายังเหนื่อยแทนเลยกับอาการเอาแน่เอานอนของอีกคนไม่ได้แบบนี้

     

    นี่... เลือกจะเริ่มบทสนทนา ริมฝีปากหนาพ่นลมหายใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตัดใจเดินเข้าไปหา

     

    ...

     

    เงยหน้ามาคุยกันก่อนได้ไหม จิ๊ปากเมื่อไม่มีปฏิกิริยาจากอีกคน มือหนาสะกิดยิกๆที่ลำแขนเล็กก่อนจะเลือกโยงเรื่องออกไป... นี่เมื่อกี้หาอะไรเหรอ? ฉันช่วยหาไหม?

     

    เหมือนจะได้ผลเมื่ออีกคนยอมเงยหน้าขึ้นมา และดูจะได้ผลดีเมื่อใบหน้ามู่ทู่ประดับรอยยิ้มอย่างง่ายดายเหมือนกับไม่เคยมีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเมื่อสักครู่เกิดขึ้นเลยสักนิด

     

    ยิ้ม?

     

    ...ทั้งๆที่เมื่อเดือนก่อนเขาเป็นคนทำให้อาการอีกคนกำเริบแท้ๆ

     

    คนเป็นบ้านี่ก็ไม่ต่างจากความจำเสื่อมเท่าไหร่หรอกสินะ

     

    คือคุณเคยเห็นกล่องเท่านี้ม๊า? มันเป็นกล่องกระดาษแข็งๆอ่ะ สีออกขาวๆ คุณเคยเห็นไหมๆ? สีหน้ากระตือรือร้นถูกส่งมา มือบางถูกยกขึ้นมาประกอบถึงขนาดเจ้ากล่องที่ว่าที่เท่าที่ดูก็เป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กทั่วไป

     

    ในนั้นมันมีอะไรสำคัญงั้นเหรอ? เผลอหลุดถามออกไป ร่างสูงชะงักกึกแต่ก็เพียงชั่วครู่เมื่อผลตอบรับที่คิดว่าอีกคนจะเริ่มโวยวายกลับกลายเป็นการตีหน้าเศร้าเล่าความเพียงอย่างเดียว

     

    ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่ามันสำคัญ... มันสำคัญมากจริงๆนะ

     

    ตอนนั้นซึงมีจะเอาไปทีนึงแล้ว ต้องเป็นซึงมีแน่ๆ เราอุตส่าห์เอาไปซ่อนในที่ๆคิดว่าจะไม่มีคนเห็นแล้วแท้ๆ

     

    ใบหน้างุ้มเรียกรอยยิ้มอ่อนๆจากคนตัวใหญ่กว่าที่เอื้อมมือไปลูบผมนุ่มอย่างเผลอไผลกับความน่าเอ็นดู ถอนหายใจน้อยๆกับความคิดตัวเองที่ยังคงมีอีกส่วนที่ยังคงคิดแค้นเคืองกับภาพลักษณ์ไร้เดียงสา... แต่ก็นะ

     

    คนบ้าก็คือคนบ้า

     

    ...จะถามจะทำอะไรอีกคนในตอนนี้ก็เป็นเพียงคนจิตผิดปกติที่ไม่รู้อะไรถูกอะไรผิดก็เท่านั้น

     

    เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาหากันไหม? มันดึกมากแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ตื่นสายผมจะไม่มาช่วยหานะ นิ้วชี้ยกขึ้นชี้นาฬิกาบนผนังก่อนจะหันมาหาอีกคนที่พยักหน้าตามเมื่อหยุดคิดไปสักพัก จุนฮงหลุดเสียงขำก่อนสุดท้ายจะสูดหายใจล้มเลิกความอ่อนโยนที่ถูกขุดมาจากไหนของตนเองให้หายไปเสียที

     

    หมับ

     

    ไม่ทันจะได้ไปไหนก็ต้องกลับมาอยู่ที่เดิมเมื่อโดนมือเล็กยื้อแขนไว้ หันมาเลิกคิ้วถามอีกคนที่กระพริบตาไปมาก่อนจะเอ่ยขึ้น... แล้วคุณเป็นใครเหรอ? จะว่าไปก็ลืมไปเสียสนิท จุนฮงลงนั่งยองกับพื้นโดยมีเจ้าของคำถามนั่งบนเตียงกระพริบตาปริบมองตามทุกการกระทำ...

     

    หน้าผมไม่คุ้นบ้างเลยเหรอฮึ? เอื้อมมือคนตัวเล็กมาลูบไล้ใบหน้าตัวเอง กกหูยันปลายคางถูกมือนิ่มไล้ผ่านแต่ก็ได้คำตอบเพพียงใบหน้าใสซื่อนั่นส่ายหน้าเพียงเท่านั้น

     

    เชวจุนฮง...

     

    น้องชายพี่ไงครับ

     

    ...

     

    บอกตามตรงเลยว่าที่จุนฮงพูดไปไม่ได้มีอะไรแฝงนัยเลยสักนิด แต่การที่อีกคนนิ่งไปก็ทำเอาพึ่งนึกขึ้นได้ แน่นอนว่าบางทีเขาก็แอบเข้าข้างตัวเองว่าอีกคนอาจจะจำเขาได้เมื่อมือที่เขาเคยยื้อไว้กระชากออก แต่ก็ได้เพียงครู่เดียวเมื่อเรียวคิ้วสวยเริ่มขมวดเป็นปมต่างจากคำพูดที่เอาตามจริงก็ไม่ได้ซีเรียสเลยสักนิด

     

    เราเป็นพี่ชายของคุณ?

     

    แต่จุนฮงหน้าแก่กว่าเราอีกนะ!”

     

    คนตัวสูงล่ะอยากจะขำลั่นกับความตรงไปตรงมาเสียเหลือเกิน จากที่นั่งเอ๋อกลายเป็นกอดอกงอนอย่างหาต้นเหตุไม่เจอ ริมฝีปากหรือก็ย่นเสียจนชิดปลายจมูก นี่ถ้าไม่คิดตื้นๆเสียหน่อยอีกคนคงอยากจะเด็กกว่าเขาเป็นแน่แท้

     

    อืมๆ เป็นพี่ชายแทนก็ได้ มุมปากยังคงยกยิ้ม คนตัวสูงส่ายหน้าน้อยๆเมื่ออีกคนแย้มยิ้มกว้างกระชากต้นคอตนไปกอดแน่นทีก่อนจะผละออกมา

     

    พี่จุนฮง! โหย เรามีพี่ชายด้วยอ่ะ ไปบอกป้านาบี!... ใช่ๆ ไปบอกป้านาบี ฮะๆ

     

    แทบจะกระชากร่างเล็กที่ลุกพรวดลงนั่งไม่ทันเมื่ออีกคนหรือก็ปากเร็วมือเร็วไปเสียหมด ชี้หน้าดุไปหนึ่งทีก่อนจะทำการบ่นสอนถึงการไปรบกวนคนอื่นเวลานอน เอาจริงก็ไม่เชิงได้รับความเชื่อฟังเมื่ออีกคนใช้น้ำตามางอแงใส่อีกรอบเข้าจนได้

     

    หยุดร้องแล้วนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ถ้าตื่นสายพี่ไปทำงานไม่ช่วยเราแล้วนะ!” เนียนจริงนะเชวจุนฮง แปปๆก็เผลอตัวทำตัวแก่กว่าอย่างปีนเกลียวในความเป็นจริงเข้าจนได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ น้องชาย คนใหม่ยอมที่จะฮึบกลั้นน้ำตาตัวเองแล้วพาร่างตัวเองมุดลงเข้าผ้าห่มโดยไม่ได้โวยวายอะไรเลยสักนิด

     

    ...ฝันดีนะ

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ป้าครับ ป้าพอจะรู้ไหมว่ากล่องที่ยองแจตามหาคืออะไร ลงมาจากห้องไม่ทันไร ทันทีที่เจอหน้าผู้ดูแลสูงวัยก็รีบโผเข้าถามทันที นาบีขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจก่อนที่จะเอ่ยปฏิเสธกลับไปและเลือกที่จะไปถามเด็กในบ้านคนอื่นๆเพื่อคลายความสงสัยเช่นกัน

     

    ตึงๆๆ!!

     

    คุณของป้า! วิ่งลงมาเดี๋ยวพลัดตกทำยังไงฮึ?! ไม่ระวังเลยนะคะ ไม่ทันจะได้เอื้อนเอ่ยถามคนในบ้านที่พึ่งจะมารวมตัวกันก็ต้องเป็นอันต้องหันไปดุคุณตัวดีที่พรวดพราดลงมาจากชั้นสอง

     

    จุนฮงที่ได้ยินเสียงก็เดินออกมาจากห้องอาหาร โดยที่มียงกุกเดินตามมาไม่ละสายตาเช่นกัน

     

    ไม่เป็นไรหรอก โถ่... อ๊ะ!”

     

    แทบจะหน้าคว่ำเมื่อเท้าไปชนกับขอบโซฟาอย่างไม่ทันได้จบคำพูดให้สวยหรู ยงกุกรีบพุ่งเข้าไปพยุงแต่ก็ถูกจุนฮงสั่งให้หลบโดยสายตาก่อนจะหันมาเอ่ยกับหญิงสูงวัยที่ใจหายใจคว่ำความรู้สึกแล่นลงเท้าไปเมื่อครู่

     

    ป้าไม่ต้องเป็นห่วงมันมากหรอก โตแล้วนะครับ ล้มนิดล้มหน่อยก็ประสบการณ์... ที่พูดไม่ใช่ว่าคิดร้ายแม้จะแอบสะใจอยู่เล็กๆ แต่ก็ตั้งแต่เด็กเขาชินกับการถูกสอนให้ช่วตัวเอง ไม่ใช่การดูแลประคบประหงมขนาดนี้... ไม่ต้องถามเลยว่าใครสอน

     

    ก็ยูยองแจนั่นแหละที่เคยทำให้ลูกติดแม่เสียอย่างอะไรมาติดพี่ชายอย่างง่ายดาย

     

    ...แต่มันกลายเป็นเพียงอดีตก็เท่านั้นเอง

     

    ชิ!” คนตัวเล็กสะบัดก้นหนีเมื่อโดนดุ จุนฮงถอนหายใจน้อยๆ ไม่ต้องถามไรมากเพราะมั่นใจแน่นอนว่าอีกคนจำเขาไม่ได้แล้วล่ะ รวมถึงเรื่องไอ้เจ้ากล่องบ้านั่นอีก

     

    แต่ที่แน่ๆมั่นใจได้เลยว่าถ้าไอ้กล่องนั่นไม่ได้กลับที่เดิมนี่ได้บ้านแตกอีกรอบ

     

    มีโซ!~ อยู่ไหนนนนนน เป็นอย่างที่คิดที่อีกคนเดินผ่านเขาไปราวกับไม่เคยรู้จักกัน มือเล็กป้องปากตะโกนหาเพื่อน(?)ตน เดินเท้าไปเรื่อยรวมถึงห่างไปเรื่อยๆเช่นกัน

     

    กลับเข้าเรื่องเดิม... คือผมขออนุญาตถามหน่อยได้ไหมครับว่าคนไหนคือซึงมี? ไม่ทันได้ให้คนที่นับถือเป็นป้าเอ่ยถามก็เลือกที่จะเอ่ยเองแทบจะในทันที

     

    ร่างหญิงสาวผอมบางยกมือสูงเหนือหัวเล็กน้อยด้วยท่าทีผิดปกติและนั่นทำเอาอดไม่ได้ที่จะเลือกถามไถ่อย่างมั่นใจในสิ่งที่คิดนิดหน่อย... เมื่อคืนที่ยองแจโวยวายเรื่องกล่องของเขา คุณพอจะรู้ไหมว่ามันคืออะไร?

     

    ค คือ... คือดิฉันไม่ทราบค่ะ ดวงตาเลิ่กลั่กยิ่งทำให้ความมั่นใจพุ่งขึ้นสูง ก้อนเนื้อด้านซ้ายตนรู้สึกว่ามันทำงานผิดปกติเล็กน้อย ไม่ใช่ว่ายินดีที่จะได้คนร้าย ...แต่เขาจะได้รู้แล้วต่างหากว่าของที่ว่าที่อีกคนบอกมีความสำคัญหนักหนามันคืออะไร

     

    ขอผมตรวจห้องคุณได้ไหมครับ เพราะเมื่อคืนเขาเอาแต่พูดถึงคุณ ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจจริง นัยตาชั้นเดียวเบิกกว้าง ไรผมใบหน้าอ่อนวัยประกอบไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กที่แข่งกันซึมออกมา...

     

    มีอะไรจะสารภาพไหมครับ?

     

    ...

     

    ถ้าคุณเอามาคืน ผมจะไม่ไล่คุณออก

     

    แทบจะไม่ต้องถามอะไรต่อในเมื่อทุกอย่างเผยชัดเสียขนาดนี้ จุนฮงส่ายหน้าน้อยๆกับหญิงสาวตรงหน้าที่รีบพยักหน้าและผลุนผลันออกไปพร้อมกับเอ่ยบอกตนให้รอสักครู่

     

    ไม่มีอะไรแล้วล่ะครับ ไปทำงานกันเถอะ เลือกที่จะเอ่ยกับคนที่เหลือที่จำต้องไม่ปฏิเสธแม้จะอยากรู้มากแค่ไหน นาบีส่งสายตาขออยู่ แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับอย่างเช่นคนอื่นๆเช่นกัน... ถือซะว่าซึงมียังไม่ได้ทำความผิดก็แล้วกันครับ ให้ผมรับรู้คนเดียวก็พอ ป้ากับคนอื่นจะได้สนิทใจกับซึงมีเขาเหมือนเดิม

     

    เจ้านายว่ามมาส่วนขี้ข้าจะหือกรือได้อย่างไรกัน นาบีพยักหน้าน้อมรับก่อนจะค้อมตัวลดเท้าก้าวไปห้องอื่นทำตามหน้าที่ของตัวเองต่อไป... งั้นป้าไปดูคุณยองแจก่อนละกันนะคะ

     

    ...

     

    นี่ค่ะ... เป็นกล่องสีขาวขนาดพอๆกับที่อีกคนว่าเมื่อคืนถูกวางอยู่ตรงหน้า ซึงมีกุมมือก้มหน้าด้วยใบหน้าเสียใจเต็มที่แต่มันก็เป็นเพียงความกลัวเพียงชั่วคราวที่เชวจุนฮงก็พอเข้าใจ... ถ้าคราวหน้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกผมจะไม่ไล่ออกหรอกนะครับ

     

    แต่คงต้องเปลี่ยนจากนอนที่บ้านคนใช้เป็นห้องขังแทน

     

    สิ้นคำก็ผายมือให้อิสระกับอีกคนที่รีบก้มหัวพล่ามคำขอบคุณแล้ววิ่งหลบฉากออกไป มือหนากำของในมือแน่นก่อนที่จะเลือกขึ้นไปยังห้องของตัวเองและสั่งบังยงกุกให้แจ้งว่าในวันนี้ตนจะเข้าบริษัทในตอนเที่ยงแทน

     

    กึก

     

    ฝาสีขาวขุ่นถูกเปิดออก ร่างที่นั่งอยู่ปลายเตียงตัวชาวาบเมื่อเห็นทุกอย่างเต็มๆตา... ของสำคัญ?

     

    นั่นสินะ

     

    ...เครื่องประดับของแม่เขา

     

    แม่ของเชวจุนฮงคนนี้

     

    ทำไม? ...ไม่เข้าใจ เชวจุนฮงไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมอีกคนถึงปกป้องสิ่งของนอกกายพวกนนี้ทั้งๆที่มันไม่มีความจำเป็นเลยสักนิดในเมื่อผู้ที่เคยสวมใส่ได้หายจากไปอย่างไม่มีการหวนกลับ

     

    ไม่เข้าใจ

     

    ...ไม่เข้าใจเลยสักนิด

     

    แกร๊ก

     

    ...คนมาใหม่ไม่ได้เรียกให้สนใจหรือแม้แต่สายตาเบนหาง ยงกุกค่อยๆปิดประตูก่อนจะเดินเข้ามา เบนสายตามองสิ่งในมือของคนตรงหน้าสมองประมวลความคิดเอ่ยไปอย่างรวดเร็ว

     

    บางที ของพวกนี้มันคงเป็นสิ่งของต่างหน้าแทนรูปภาพที่คุณยองแจเก็บไว้ให้คุณก็ได้นะครับ

     

    รูปภาพมันมีค่าก็จริง แต่ของพวกนี้ก็มีราคามากเกินกว่าที่จะยอมสูญเสียในเมื่อเจ้าของรองลงมายังไม่ย้อนกลับมาตัดสินความเป็นอยู่มัน

     

    ... ... จุนฮงเงยหน้ามองคนอายุมากกว่าสลับกับสิ่งของในมือ... แน่นอนว่าคิดตามสิ่งที่อีกคนพูด แต่อีกด้านของตัวเองกลับพยายามยับยั้ง

     

    ไม่มีใครไม่เห็นแก่ตัวหรอกนะจุนฮง... ก็ใช่ว่าอาจะคิดว่ายองแจไม่มีส่วนดีเลย

     

    ยองแจเขาก็ดี แต่เรารู้จักเขาดีแล้วงั้นเหรอ?

     

    พี่ก็คิดไปไกล เอาอะไรกับคนบ้ากัน ปิดฝากล่องในมือก่อนจะลุกไปไว้หัวเตียง ยงงกุกทำเพียงมองตามพร้อมส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะเอ่ยแย้งไป

     

    คนบ้าก็คือคนนะครับ ทุกคนมีจิตสำนึก... จิตใต้สำนึกนั่นแหละครับ มันไม่มีทางเปลี่ยนต่อให้คุณจะจำความเสื่อมหรือช่วงลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก็ตาม

     

    ร่างที่กำลังวางกล่องชะงักงัน ใบหน้าคมเผลอหลุบตาลงต่ำก่อนที่เพียงชั่วครู่จะกลับมาเป็นเช่นเดิม

     

    ตอนนี้ผมก็ไม่ได้อะไรกับเขานี่ครับ ผมไม่ใจร้ายกับคนสติไม่ดีนักหรอก เลือกที่จะเอ่ยและพาสิ่งในมือเดินผ่านคนเป็นพี่และเปิดประตูออกไป ไม่มีการเอ่ยห้ามอะไรอีกต่อไป คงมีเพียงแต่บังยงกุกที่ได้แต่ส่ายหน้าให้กับคนดื้อรั้นที่ปากไม่เคยจะตรงกับใจของอีกคน

     

    คุณคิดว่าคนเลวที่ไหนจะคอยไปดูว่าของสำคัญของคุณยังอยู่หรือเปล่าในทุกคืนกันล่ะครับ

     






    TBC.

    © themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×