คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : บทที่ 14 ตามหาหัวใจ [1]
14
ตามหาหัวใจ
"แม่ชีเหรอ"
กานต์พงศ์ถามคนที่เขากำลังปรึกษาด้วยความแปลกใจ รวิกานต์บอกกับเขาว่าวิมลกานต์อาศัยอยู่กับแม่ชีคนหนึ่ง
จะว่าไปเขาก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอมากนัก เพราะเขาไม่เคยใส่ใจ มัวแต่ตักตวงสิ่งที่ต้องการจากเธอก็เท่านั้น...
"ค่ะ วิเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมลมากนัก แต่วิพอรู้มาว่ามลอาศัยอยู่กับป้าคนหนึ่ง เธอเรียกว่าแม่ปราณี ยังไม่ถึงกับบวชชีค่ะกานต์ แต่ท่านนุ่งขาวห่มขาว และชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าท่านอาจจะบวชชีในสักวันข้างหน้า ท่านไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้านกับวัด"
กานต์พงศ์พยักหน้ารับ พอจะเข้าใจได้ว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่อาจจะละทางโลกไปอย่างถาวร และหากถึงวันนั้นท่านคงเป็น 'แม่ชี' อย่างที่รวิกานต์บอกเขา หากให้สันนิษฐานถึงรูปลักษณ์ภายนอก ท่านคงนุ่งขาวห่มขาวแต่อาจจะไม่โกนผมบนศีรษะ
คำบอกเล่าจากรวิกานต์ทำให้คำถามมากมายผุดขึ้นมา
"แล้วท่านเป็นแม่ของมลหรือเปล่า"
"ไม่ใช่ค่ะ มลไม่มีพ่อแม่ มลไม่มีใครเลย..."
คำเอ่ยบอกเสียงเศร้าของรวิกานต์ทำให้กานต์พงศ์มองนิ่ง อดนึกไปถึงอีกคนไม่ได้ ยังจำได้ดีถึงท่าทีและคำบอกในคืนนั้น
'ฉันไม่มีใคร...' คำบอกนั้นพร้อมแววตาเศร้าสร้อยของเธอดึงดูดให้เขาอยากรู้อย่างบอกไม่ถูก
"หมายความว่ายังไงกันแน่วิ"
"วิทราบมาว่ามลเคยอยู่กับป้า เพราะถูกแม่ทิ้งเอาไว้ที่บ้านเอ่อ... ชาวบ้านเขาบอกว่ามลเป็นเด็กที่แม่ไม่ต้องการ แล้วหลังจากเอามลมาทิ้งไว้ ป้าของมลก็ติดต่อแม่ของมลไม่ได้อีกเลย ส่วนพ่อมลเสียชีวิตไปแล้ว แต่หลังจากนั้นป้าของมลก็เอามลไปทิ้งไว้ที่บ้านเด็กกำพร้า แต่ก็มีเหตุให้มลต้องหนีออกมาจากที่นั่นอีก วิเองก็ไม่แน่ใจว่าจริงหรือเปล่า แต่ชาวบ้านแถวนั้นพูดกัน..."
กานต์พงศ์รับฟังด้วยใจสั่นไหวไม่คิดเลยว่าชีวิตของวิมลกานต์ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะเป็นเช่นนี้
"แล้วยังไงต่อ"
"คนที่มลหนีมาเจอคือแม่ปราณีค่ะ หลังจากนั้นมลก็อยู่กับแม่ปราณี ตอนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมลก็อาศัยอยู่กับท่าน แต่หลังจากนั้น... มลก็ย้ายโรงเรียน..."
เล่ามาถึงตรงนี้รวิกานต์ก็น้ำเสียงสั่นจนกานต์พงศ์สังเกตได้
"เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าวิ"
"วิคิดว่า... มันอาจจะเป็นเพราะวิด้วยค่ะกานต์"
แล้วเหตุการณ์ในวันเก่าก่อนก็ถูกเล่าออกมาจากปากอิ่มที่สั่นระริกของรวิกานต์เพียงแค่เริ่มต้นเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกผิดมาจนถึงวันนี้...
ร่างใหญ่โตเดินมาหยุดลงตรงเตียงนอนภายในห้องที่เคยมีร่างบอบบางให้เขาได้โอบกอดในทุกค่ำคืน กานต์พงศ์ยกหมอนที่มีกลิ่นหอมจางขึ้นแนบอก สูดดมเข้าไปจนเต็มปอด กลิ่นของเธอยังกรุ่นอยู่จาง ๆ แต่อีกไม่นานมันคงจะเหลือน้อยลงไปเรื่อย ๆ
กานต์พงศ์หลับตาลง แค่คิดถึงวันนั้นเขาก็รู้สึกหายใจไม่สะดวกเสียแล้ว ครั้นลืมตาขึ้นใหม่ มือหนาก็เอื้อมคว้าขวดยานอนหลับบนหัวเตียง อดคิดไปถึงคำพูดของรวิกานต์ไม่ได้
'วิว่ามลไม่ได้ตั้งใจจะทานยานอนหลับเพื่อ... เอ่อ... ฆ่าตัวตายหรอกค่ะ แต่เธออาจจะทนความเจ็บไม่ไหว'
'ทนไม่ไหว...'
'มลเป็นโรคหัวใจค่ะ เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนที่เกิดเหตุวิเองเพิ่งรู้ในกระเป๋าของมลมียาของคนเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย'
'วิเลยคิดว่าอาการของมลเจ็บจนต้องทานยานอนหลับเหรอ'
'ค่ะ วิคิดว่าอย่างนั้น'
"ขอโทษ... ขอโทษนะมล"
ไม่ต้องเดาก็พอรู้ได้ว่า ทำไมวิมลกานต์จึงทานยาพวกนั้นเข้าไป เหมือนที่รวิกานต์เคยบอก หัวใจของวิมลกานต์ไม่ได้เข้มแข็งเลยสักนิด ท่าทีของเธอครั้งแรกเจอเฉยชาจนเขามองว่าเธอแปลก แต่ความจริงแล้วมันคงเป็นเกราะป้องกันที่จะไม่ให้ใครเข้าไปทำให้เธอเจ็บปวดได้
แต่เธอให้โอกาสเขา... แต่แล้วอย่างไรในเมื่อเขาเป็นคนที่ทำให้เธอเจ็บปวดที่สุด
กานต์พงศ์ถอนหายใจ ทว่าในนาทีต่อมาเขากลับลุกขึ้นยืน ไหล่บ่าที่เคยงองุ้มไม่สง่าผ่าเผยเพราะความรู้สึกผิดตั้งแต่วันที่ได้รับรู้ความจริงกลับมานิ่งตรงได้ใหม่ พร้อมกับความตั้งใจที่แน่วแน่
ชายหนุ่มกดโทร.หาคนสนิทของตัวเองก่อนคำสั่งต่าง ๆ จะตามมา
จังหวัดเชียงใหม่
รถโดยสารแล่นมาถึงจุดหมายปลายทางในตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ วิมลกานต์รับสัมภาระจากที่เก็บของรถแล้วกระชับกรงของเจ้ากีวี่แน่น ริมฝีปากแย้มรอยยิ้มออก เมื่อเดินไปไม่กี่ก้าวก็สามารถมาหยุดยืนอยู่ตรงบ้านหลังกะทัดรัดสีขาวตัดกับสีฟ้าน้ำทะเล บริเวณบ้านมีต้นไม้น้อยใหญ่ เมื่อเดินมายังหน้าบ้านกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกแก้ว ดอกกุหลาบ ดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ก็ลอยคละคลุ้งเข้ามาปะทะจมูก
วิมลกานต์สูดดมเข้าไปจนเต็มปอด ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางแทบจะมลายหายไปในทันที
"คอยแป๊บนะกีวี่" หญิงสาวเอ่ยกับเจ้าขนปุยที่คงอยากออกมาเต็มแก่แล้ววางมันลง ก่อนจะปิดประตูรั้วบ้านอย่างแน่นหนาแล้วเดินไปยังประตูบ้าน หยิบเอากระเป๋าใบเล็กที่สุดออกมาจากกระเป๋าสะพายของตัวเอง เมื่อเจอเข้ากับกุญแจดอกหนึ่งที่หมายตาเอาไว้จึงหยิบออกมาไขประตูเข้าไปภายในบ้าน
หญิงสาวปิดประตูหน้าบ้านเมื่อมาหยุดยืนอยู่ภายในตัวบ้านเปิดล็อกให้เจ้ากีวี่ออกมา ก่อนจะรีบเปิดประตูหลังบ้านออก เพราะบริเวณนี้มีพื้นดินที่พอจะทำให้เจ้ากีวี่ 'ปล่อยของ' ได้สะดวก
และก็เป็นดังคาด เจ้าแมวดอมดมพื้นที่ใหม่เพียงไม่นานก็จัดการปล่อยของ จับจองพื้นที่เป็นของตัวเองในทันที วิมลกานต์ยิ้มให้กับภาพนั้น ก่อนจะหันมาสำรวจบ้านทั้งหลัง
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยสักนิด ยิ่งนึกถึงเจ้าของบ้านความอบอุ่นก็เกิดขึ้นไหลบ่าเข้าสู่ดวงใจ อดนึกถึงคำพูดในวันที่เธอเลือกจากไปไม่ได้
'แม่ไม่ว่าหรอกที่มลอยากออกไปเผชิญโลก อยากจะพึ่งพาตัวเอง แต่จำเอาไว้นะมลว่าที่ตรงนี้เป็นของมล มลจะกลับมาเมื่อไรก็ได้'
นั่นคือคำพูดของคนที่เธอเรียกว่า 'แม่' และแทนตัวเองกับเธอว่า 'แม่' ทั้ง ๆ ที่ตัวเธอและท่านรู้ดีถึงสถานะที่แท้จริง
_______________________________________________
ขอโทษที่หายไปนานเลยค่ะ เนื่องจากว่าขลุกอยู่กับการแก้ต้นฉบับยอมรักเข้าสู่กระบวนการพิมพ์เลยหายไปเลย ขอโทษนักอ่านด้วยนะคะ ไรต์กลับมาอัปแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ <3
ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ :)
วอนรักปิดจองแล้วนะคะ แต่นักอ่านยังสามารถสั่งจองหนังสือได้ค่ะ มีเผื่อมาแค่ 3 เล่มค่ะ สนใจสอบถามได้ที่เพจ ปลอบขวัญ จุมพิตหวาน หรือเฟซส่วนตัวที่ ปลอบขวัญ นักเขียน ได้เลยค่ะ รายละเอียดตามภาพที่แนบนี้เลยค่ะ ^^
วอนรักพร้อมโหลดในราคา 139 บาท ระบบแอปเปิล 149 บาทค่ะ ฝากคุณกานต์กับมลและทุกตัวละครด้วยนะคะ หากนักอ่านกดโลดจากลิ้งก์ seller link จะยิ่งเพิ่มกำลังใจให้ไรต์มากยิ่งขึ้นค่ะ ^_^
วอนรัก จุมพิตหวาน www.mebmarket.com วันนั้นเขาเป็นคนอ้อนวอนให้เธอปล่อยเขาไป ทว่าวันนี้ใจกลับโหยหา... หากว่า 'ไม่มีอะไรสายไป สำหรับการเริ่มต้นใหม่' เขาจะใช้มันเริ่มต้นใหม่กับเธอ...
ยอมรัก ภาคต่อวอนรัก อ่านแยกกันได้ค่ะ แต่อ่านด้วยกันทั้งสองเรื่องจะฟินกว่าและเข้าใจเรื่องราวได้ดีกว่าค่า หากนักอ่านกดโลดจากลิ้งก์ seller link จะยิ่งเพิ่มกำลังใจให้ไรต์มากยิ่งขึ้นค่ะ ^_^
ยอมรัก
จุมพิตหวาน
www.mebmarket.com
เธอก่อปราการแห่งความเชื่อใจ ถักทอความรักเอาไว้ในใจจนแน่นหนา เพียงเพราะคำมั่นสัญญาที่เคยได้จากวันวาน...
กระทั่งวันหนึ่ง รวิกานต์จึงได้ประจักษ์แก่ใจ คำ...
ปลอบขวัญสำหรับนวนิยายโรมานซ์ ฝากผลงานด้วยค่ะ หากนักอ่านกดโลดจากลิ้งก์ seller link จะยิ่งเพิ่มกำลังใจให้ไรต์มากยิ่งขึ้นค่ะ ^_^
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น