ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ตะรนา
“เฮ้อ...”หญิงสาวผิวขาว ร่างโปร่งถอนหายใจหลังจากก้าวออกมาจากห้องสอบด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน เธอเดินตรงไปยังริมทางเดินที่ยังไม่มีเด็กนักเรียนคนอื่นมาจับจอง
“ฟลายด์ เป็นไงบ้าง”หญิงสาวอีกคนวิ่งตามมาพร้อมกับลอนผมสีน้ำตาลยาวที่พริ้วไปมาระหว่างทาง
ฟลายด์เสยผมสีดำที่ปรกหน้าอยู่ออกแล้วจึงหันหน้ามาทางต้นเสียง
“ลิเดียเงียบๆหน่อย คนอื่นยังสอบกันไม่เสร็จนะ”พูดจบเธอก็ส่ายหัวไปมาเบาๆทำให้ผมที่ยาวระอยู่แถวต้นคอเธอทำให้รู้สึกจั๊กจี้จึงหยุดพร้อมยิ้มน้อยๆ
“เออๆ รู้แล้วน่า”ลิเดียพูดเสียงเบื่อ เธอมองออกไปยังสนามกีฬาข้างล่างแล้วก็หันกลับมาทางฟลายด์ “เราว่านะ ผมของฟลายด์น่ะกลายเป็นผมสั้นที่เริ่มยาวเกินไปแล้ว”
“ว่างไปตัดที่ไหนเล่า นี่ก็พึ่งจะสอบเสร็จ”
“หรือว่าฟลายด์จะไว้ผมยาวอ่ะ”
“เหอะๆ ไว้แล้วเป็นแบบเธอเราก็ไม่ไว้หรอก”
“แหม ยังไงก็น่ารักไม่เท่าเราหรอก ไม่ต้องกลัวๆ”
ฟลายด์หันมาจ้องหน้าลิเดีย ลิเดียเป็นคนน่ารัก เธอมีผมสีน้ำตาลยาวที่หยักเป็นลอนกับใบหน้าสไตล์ยุโรปพร้อมผิวขาวซีดทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตาที่เด็กหญิงเล็กๆเห็นตามห้างสรรพสินค้าที่ใครเห็นเแล้วต้องร้องอยากมีไว้ครอบครอง
“วันนี้กลับยังไงล่ะลิเดีย”ฟลายด์เริ่มเก็บของใส่เป้
“ก็แบบเดิมแหละ บอกว่าตอนนี้ยังมารับไม่ได้ ยังไม่ว่างซักที” ลิเดียเริ่มบ่นกระปอดกระแปดเพราะพี่ชายเธอไม่ยอมมารับเธอตั้งแต่เธอสอบวันแรก และนี่มันก็วันสอบวันสุดท้ายแล้ว เธอเลยกำลังสงสัยว่าพี่ชายเธอต้องติดแฟนทำให้ไม่ยอมกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอสักทีแหง
“เอาน่า  พี่เธอเค้าคงมีธุระน่ะ”
ลิเดียพ่นลมหายใจออกมาแรงๆขณะเริ่มเก็บของ “ตอนอยู่ม.4ก็ไม่มารับซักที นี่ก็สอบปลายภาค ม.5แล้วก็ยังไม่ยอมมารับอีก”
“ก็เหลือ ม.6อีกตั้งปีนะ”
ทั้งสองเริ่มเดินลงบันไดมาเรื่อยๆ แล้วลิเดียก็บ่นเมื่อลงมาถึงชั้นสาม
“พึ่งจะชั้นสามเอง! บอกแล้วให้ลงลิฟต์ อยู่ตั้งชั้นเจ็ดแน่ะ”
“ไม่ต้องอารมณ์เสียหรอกน่า ประหยัดพลังงานไง”
“เออๆ ยัยแม่คนอนุรักษ์พลังงาน”
ฟลายด์รู้ว่าลิเดียยังไม่หายอารมณ์เสียจึงเปลี่ยนเรื่องคุย
“พ่อกับแม่ลิเดียจะมาหาวันไหน”
“อืม อีกสองสามวันก็มาแล้วล่ะ เห็นบอกแม่บอกว่าพ่อต้องต่อวีซ่าที่จะต้องอยู่ในไทยก่อน”
พ่อกับแม่ของลิเดียเป็นคนต่างชาติที่มาทำธุรกิจอยูในเมืองไทยและเกิดชอบวัฒนธรรมที่นี่จึงให้ลิเดียเรียนและโตที่นี่ ส่วนริชาร์ดนั้นจะกลับมาไทยช่วงปิดเทอม ซึ่งเท่าที่ฟลายด์ฟังลิเดียมา เธอก็คิดว่าพี่ชายของลิเดียต้องปิดเทอมนานพอควร
“ดีแล้วๆ งั้นลิเดียมีอะไรต้องไปทำต่อมั้ยเนี่ย”
“ไม่อ่ะ คงไปนอนอืดที่บ้านมั้ง”
“ไปดูหนังกันป่ะ วันนี้เราแอบเอารถเข้ามาจอดในโรงเรียนได้”ฟลายด์พูดเมื่อทั้งสองเดินมาใกล้ลานจอดรถ
ลิเดียหันซ้ายหันขวาเพื่อเช็คดูว่าไม่มีอาจารย์อยู่ในรัศมีการได้ยิน เพราะโรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนเอารถมาและที่สำคัญ ทั้งคู่ยังไม่มีใบขับขี่
“จิงดิ ป๊ากับม้าเธอให้เอามาเหรอ”
ฟลายด์ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าม้าเรารู้ก็ไม่ได้เอามาหรอกน่า โทรไปอ้อนป๊านิดหน่อยอ่ะ ตอนนี้ป๊ากับม้าไปประชุมบ้าอะไรก็ไม่รู้อยู่ที่ฝรั่งเศสอ่ะ ป๊าเลยบอกว่าเงียบๆไว้อย่าให้เกิดเรื่องยุ่งนะ”
“เราอยากให้พ่อเราใจดีแบบนี้มั่งจัง ขนาดเราแค่ขอซื้อรถเอาไว้ก่อนก็ไม่ให้ ป๊าเธอยังให้ซื้อไว้ก่อนเลย”
ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นทั้งคู่ก็ถูกขัดจังหวะขึ้น
“น้องฟลายด์คนน่ารักกับน้องลิเดียคนสวยคร้าบบบ”เสียงของเด็กผู้ชายสี่คนดังขึ้นมาจากม้านั่งที่อยู่ไม่ห่างจากจุดที่ทั้งสองยืน
ฟลายด์กับลิเดียหันขวับไปมอง
“อะไร”ฟลายด์พูดขึ้นพร้อมเดินมาบังลิเดียไว้เพราะลิเดียค่อนข้างจะบอบบางกว่าเธอ
“หนิฟลายด์”ลิเดียเบียดฟลายด์ขึ้นมา “เรายังไม่ถึงสายดำเหมือนเธอก็จริงนะ แต่เราว่าเราดูแลตัวเองได้น่า”
“โห พวกเราไม่ทำอะไรคนสวยสองคนหรอกน่า แค่อยากจะบอกว่าน้องสวยมากก็แค่นั้น พวกพี่ปลื้มน้องมาตั้งนานแล้วนะครับ”สี่คนนั้นพูดขึ้นอย่างกวนๆ
ฟลายด์กับลิเดียยังยืนนิ่ง ทั้งสองมีคนมาจีบเยอะก็จริง แต่ก็ยังไม่มีแฟนซักที และนั่นก็ทำให้คนแข่งกันจีบมากขึ้น
ทั้งสี่เห็นหญิงสาวไม่ตอบจึงพูดต่อ “ไปดูหนังกับพวกพี่มั๊ย รถจอดอยู่หลังโรงเรียนน่ะ วันนี้พี่เอา    ปอร์ชมาด้วยนะครับน้อง”
“ไม่ค่ะ มีมือมีเท้าเหมือนกัน กลับเองได้”ฟลายด์ตอบเสียงยียวน
“แต่มันอาจไม่สบายเท่าปอร์ชพี่นะครับ”
“ถ้าอยากนั่งปอร์ช เราโทรบอกพี่ชายมารับได้”ลิเดียพูดขึ้นมาทั้งๆที่ริชาร์ดก็ยังไม่กลับมา
“แต่น้องแน่ใจว่าหล่อเท่าพี่เหรอครับ”
“นายว่าพี่ชายชั้นขี้เหร่หรอ! อยากจะบอกว่านายตายแล้วเกิดอีกสิบครั้งก็ยังไม่หายหน้าทุเรศหรอก” ที่จริงสี่คนนั้นก็ไม่ได้หน้าตาหน้าเกลียดอะไรขนาดนั้นหรอก ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดูดีด้วยซ้ำ
“เอาน่าๆ ไปกันเถอะ เดี๋ยวอาจารย์ลงมาก่อน ตอนนี้คนอื่นยังสอบไม่เสร็จกัน”ฟลายด์หันซ้ายหันขวาแล้วก็ลากลิเดียวิ่งไปยังบีเอ็มสปอร์ตของเธอที่จอดหลบอยู่หลังแคนทีนปล่อยให้สี่คนนั้นนั่งตะลึงกับความปากเสียของลิเดียอยู่ เพราะใครๆก็มีแต่คิดว่าคุณหนูอย่างฟลายด์กับลิเดียคงจะเรียบร้อยเหมือนผ้าที่พับไว้ แต่ความจริงแล้วทั้งคู่เป็นผ้ายับๆที่พับไว้ต่างห่าง
“ลิเดียมานอนกับเราดีกว่ามั๊ย ปล่อยให้คนใช้ที่บ้านเธออยู่กันสบายๆดีกว่า”ฟลายด์พูดขึ้นระหว่างทางกลับบ้าน
ลิเดียขมวดคิ้ว “ฟลายด์แอบว่าเรายุ่งรึเปล่าเนี่ย” แต่คิดไปคิดมา หล่อนก็ตกลงว่าจะไปนอนที่บ้าน ฟลายด์ดีกว่า เพราะจะได้ปล่อยให้อีตาพี่ชายจอมขี้เกียจอยู่บ้านคนเดียว และที่แน่ๆ อดทำความรู้จักกับฟลายด์ เหตุก็เนื่องมาจากว่าพี่ชายของหล่อนเห็นฟลายด์ที่ปาร์ตี้ตอนซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วก็เกิดตกหลุมรัก แต่โชคไม่เข้าข้างทำให้ไม่ได้ทำความรู้จักกันซักที
สมแล้วล่ะ ลิเดียคิด อยากไม่มารับดีนัก ปล่อยให้ปลูกไร่แห้วเพิ่มอีกสักไร่สองไร่ก็แล้วกัน
ฟลายด์หัวเราะขึ้น “ก็ทั้งใช่และไม่ใช่อ่ะ เห็นสอบเสร็จแล้วเลยชวนมาคลายเครียดน่ะ อยู่สองสามวันเอง เดี๋ยวพ่อกับแม่เธอก็มาแล้วหนิ”
“อือ คล้ายๆพ่อกับแม่จะเคยพูดไว้ว่าตอนจบ ม.5 แล้วอยากให้ไปเรียนที่อื่น”
“อ่าว ทำไมล่ะ ทำไม่ไม่ให้จบ ม.6 ก่อนล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกันนะ ยังไม่ได้คุยจริงๆจังๆซะที แต่คล้ายๆแม่จะบอกไว้ว่าโรงเรียนที่แม่จะให้ไปน่ะ ต้องอายุเกิน 16 ปี แล้วเราสองคนก็ดันเรียนก่อนเกณฑ์ไง เลยต้องรอให้จบ ม.5”ลิเดียถอนหายใจ “คล้ายๆพ่อจะไม่อยากให้ออกกลางคันด้วย
“อ๋อ ก็แสดงว่าโรงเรียนที่เธอจะไปก็ต้องดีกว่าโรงเรียนนี้ดิ”
“แต่ฟลายด์ก็ต้องรับมือกับไอ้พวกบ้ากามคนเดียวดิ”
“เฮ้ย...เว่อร์แล้ว พวกนั้นไม่ถึงขั้นบ้ากามหรอกน่า แต่เราก็ไม่ต้องคอยปฏิเสธเค้าที่ว่าเรากับเธอเป็นคู่เลสกันนะ”ฟลายด์หัวเราะ “น่าเบื่อชะมัดเลย”
ลิเดียหัวเราะไปด้วย “เออ ไม่เห็นเหมือนเลย ฟลายด์เป็นทอมบอยไม่ได้หรอก เพราะหน้าอกฟลายด์มันไม่แบนเลยซักนิด”
“บ้าแล้วลิเดีย หื่นจังเลยเนี่ย พูดถึงเรื่องนี้ประจำ”
“ฮะๆๆ เปล่าหรอก ฟลายด์เหมือนผู้ชายแค่ตอนนั้นน่ะ ตอนที่ตัดผมสั้นเด๋อๆแล้วใส่เสื้อกันหนาวตัวสีดำตัวนั้นน่ะ”ลิเดียเริ่มหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง
“เหอะๆ”ฟลายด์หัวเราะแห้งๆก็ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวตลกเลย เพราะมีผู้หญิงต่างโรงเรียนที่เจอเธอที่เรียนพิเศษตอนใส่เสื้อกันหนาวตัวนั้นเข้ามาจีบเธอ เล่นเอาลิเดียที่ตอนนั้นกำลังดูดน้ำอยู่ใกล้ๆสำลักเลย แล้วลิเดียก็เริ่มเอามาล้อตั้งนานจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ยอมเลิก
“เราเหมือนผู้ชายจริงหรอ”
“คงงั้นมั้ง เพราะฟลายด์ชอบใส่กางเกนยีนส์หลุดตูดกับเสื้อยืดพอดีตัวเฉยๆมั้งเลยคล้ายทอมบอยอ่ะ”
“ก็...งั้นให้ใส่ไงเล่า กระโปรงน่ารำคาญออก หนีคนก็ยากอ่ะ”ฟลายด์หมายถึงตอนที่หลบหลีกจากการทำร้ายร่างกายของลิเดีย
“ขนาดไม่ค่อยหญิงเท่าไหร่ยังเสน่ห์แรงขนาดนี้เลย”แล้วลิเดียก็เริ่มหัวเราะ
“แต่งตัวแบบเราสิบนาทีก็เสร็จแล้ว ไม่ต้องเป็นชั่วโมงแบบคนใส่กระโปรงหรอก”
“เราว่านะ...ฟลายด์ใส่แหวนเยอะไปนิดน่ะ เลยดูไม่ค่อยหญิงเท่าไหร่”
“สิบนิ้วห้าวง แหม...ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เอง”
“เฮ้อ...”ลิเดียส่ายหัวเซงๆ เธอไม่ค่อยชอบให้ฟลายด์แต่งตัวแบบนี้เลย แต่พยายามเปลี่ยนยังไงก็ไม่สำเร็จซะที
“ถอนหายใจมากเดี๋ยวแก่เร็วนะ”ฟลายด์หันมายิ้ม “ถึงจุดหมายแล้วครับคุณหนูลิเดีย”
ลิเดียเห็นดังนั้นจึงเชิดหน้าและนั่งตัวตรงพร้อมดัดเสียง “เร็วสารถี ชั้นหิวน้ำแล้ว เร็วๆ”
ฟลายด์เห็นดังนั้นจึงคว้าเอากล่องทิชชูมาตีหัวลิเดียทีหนึ่งเบาๆ “แหมๆ เอาใหญ่เชียว”
“ขับรถต่อไปๆ เรายังไม่ถึงโรงจอดรถนะยะ นาย สารถี”
ฟลายด์ส่ายหัวเบาๆ
“มาเปิดประตูให้ชั้นเร็วสารถี”ลิเดียพูดขึ้นเมื่อฟลายด์จอดรถเสร็จ
“เหอะ รออีกสิบปีเถอะลิเดีย”ว่าแล้วฟลายด์ก็ลงรถแล้วเดินตัวลิ่วเข้าบ้านโดยไม่รอลิเดียทำให้ลิเดียต้องวิ่งตามมาเพราะกลัวหมาตัวยักษ์สองตัวพันธุ์ร็อดไวเลอร์ของฟลายด์
ทั้งคู่เดินผ่านศาลากลางน้ำ  โถงทางเดิน ห้องครัวและ...
“คุณฟลายด์!!! ทำไมไม่บอกป้าซักคำว่าคุณฟลายด์จะเอารถออกไป”เสียงแม่บ้านสูงอายุร่างเล็กพูดขึ้น
“บอกป้าก็ไม่ให้ฟลายด์เอาออกไปดิ”
“แล้วใครอนุญาตค่ะเนี่ย คุณแม่รู้ยังคะ”
“ป๊าอนุญาต ม้ายังไม่รู้ แล้วป้าก็...เงียบๆไว้ล่ะ”
“คุณฟลายด์นะ ป้าตกใจหมดตอนที่มาเสิร์ฟอาหารตอนเช้าแล้วนายพลบอกว่าคุณฟลายด์ออกไปแล้ว”
“แหมป้า ตื่นตระหนกไป”ฟลายด์หันไปมา “แล้วถุงเงินถุงทองหายไปไหน”
“ไม่นะฟลายด์!”ลิเดียพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
“ป้าให้นางมันเอาไปไว้ในกรงแล้วค่ะ เพราะนายพลบอกว่าเห็นคุณลิเดียนั่งรถเข้ามาด้วย”
“ขอบคุณค่ะป้า”ลิเดียยิ้มแล้วหันไปตีฟลายด์ “ถ้าปล่อยเจ้ายักษ์สองตัวนั่นออกมา เราจะฆ่าฟลายด์เอง”
ฟลายด์ยักคิ้วใส่ลิเดียแล้วโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเธอก็ดังขึ้น เธอจึงรับโทรศัพท์แล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ปล่อยให้ลิเดียหาของกินอยู่ในห้องครัวไปพลางๆ
“หวัดดีค่ะม้า”ฟลายด์รับโทรศัพท์พลางคิดเสียวในใจว่าแม่ของเธอรู้เรื่องที่เธอเอารถออกไปหรือเปล่า
“ลูกฟลายด์”แม่ของฟลายด์ทักเสียงใส
“คะ?”
“หนิ เดี๋ยวจะมีคนมาหาฟลายด์นะลูก มาคุยเรื่องเรียนต่อน่ะจ้ะ”
“แต่นี่ก็พึ่งจะสอบปลายภาคของ ม.5เสร็จนะคะม้า”
“ไม่ใช่จ้ะ คนละเรื่องกัน เอาเป็นว่า...เดี๋ยวจะมีคนมาหาลูกก็แล้วกันจ้ะ มาคุยเรื่องเรียน คนที่มาหาลูกน่ะ เค้าชื่อเลียนนะจ้ะลูก”
“เลียนใช่มั๊ยคะ”
“ใช่แล้วลูก ม้ากับเค้าคุยกันแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ก็เหลือแต่ลูก อ่อ...รวมถึงป๊าลูกด้วยก็คุยแล้ว”
“เรื่องอะไรคะ ฟลายด์ไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลย”
“ก็ยังไม่คุยเลยจะเข้าใจได้ไงล่ะจ้ะลูกฟลายด์ เอาเป็นว่าไว้ใจเค้าได้น่า เค้าเป็นหญิงวัยกลางคนที่ดูใจดีน่ะ”
“ค่ะ วัยกลางคนดูใจดี”
“สูงน้อยกว่าลูกนิดนึง ผิวก็เข้มกว่าลูกนิดนึง แต่...สวยไม่เท่าลูกหรอก”พูดจบแม่ของฟลายด์ก็หัวเราะ
“เหอะๆ”ฟลายด์หัวเราะแห้งๆ “ม้าปล่อยมุขอ่ะป่ะเนี่ย”
“เปล่าๆ ม้าพูดจริงนะ”แม่ของฟลายด์ยังไม่หยุดหัวเราะ
“จริงก็ดี ฮะๆๆ”ฟลายด์เริ่มหัวเราะแบบการ์ตูนใส่แม่ของเธอ
“อุ๊ย ม้าต้องเข้าประชุมแล้ว ป๊ามาเรียกแล้ว เดี๋ยวยังไงม้าจะโทรมาหาอีกรอบนะจ้ะฟลายด์”
“ค่ะ บายค่ะม้า ฝากบอกป๊าด้วยนะคะว่าคิดถึง”
“ได้จ้ะๆ บาย”แล้วสายก็ตัดไป
ฟลายด์เก็บโทรศัพท์แล้วก็กำลังคิดอยู่ว่าแม่ของเธอโทรมาอำให้งงเล่นหรือเปล่า เธอคิดไปคิดมาก็ไม่แน่ใจ จึงเดินไปบอกสาวใช้ให้จัดการเตรียมห้องนอนและของใช้ต่างๆให้ลิเดียให้เรียบร้อย เพราะลิเดีย...ยุ่งมิใช่น้อย หลังจากที่จัดการเสร็จเธอจึงเดินออกไปเล่นกับถุงเงินถุงทองที่กรงเพราะปล่อยออกมาไม่ได้
“เจ้าตัวน้อยที่น่าสงสาร”ฟลายด์พูดพลางเอื้อมมือไปลูบหัวสุนัขทั้งสอง
“น่าสงสารๆ”เธอเริ่มขยี้หัวมันเล่นเบาๆแล้วก็ถูกขัดจังหวะ
“คุณฟลายด์คะ”เสียงของสาวใช้เรียกขึ้น
“อะไรเหรอพี่ข้าว”
“มีคนมาขอพบค่ะ ตอนนี้พี่ให้รออยู่ในห้องรับแขกค่ะ”สาวใช้ขมวดคิ้ว “เค้าเป็นผู้หญิงอายุประมาณห้าสิบปีน่ะค่ะ พี่ไม่เคยเห็นเค้ามาก่อน”
ฟลายด์เลิกคิ้วขึ้น “ชื่ออะไรเหรอพี่ข้าว”
“เลียนค่ะ ชื่อแปลกๆ พี่ว่า...เดี๋ยวพี่จะเรียกนายพลไปอยู่แถวๆห้องรับแขกด้วยค่ะ เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น”
“ขอบใจจ้ะพี่ข้าว”แล้วฟลายด์ก็เดินไปหาหญิงชื่อเลียนซึ่งตรงตามที่แม่ของเธอบอกไว้
เรื่องตลกอะไรกันเนี่ย เธอคิดอย่างงงๆระหว่างที่เดินไปพบเลียน
“เฮ้อ...”หญิงสาวผิวขาว ร่างโปร่งถอนหายใจหลังจากก้าวออกมาจากห้องสอบด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน เธอเดินตรงไปยังริมทางเดินที่ยังไม่มีเด็กนักเรียนคนอื่นมาจับจอง
“ฟลายด์ เป็นไงบ้าง”หญิงสาวอีกคนวิ่งตามมาพร้อมกับลอนผมสีน้ำตาลยาวที่พริ้วไปมาระหว่างทาง
ฟลายด์เสยผมสีดำที่ปรกหน้าอยู่ออกแล้วจึงหันหน้ามาทางต้นเสียง
“ลิเดียเงียบๆหน่อย คนอื่นยังสอบกันไม่เสร็จนะ”พูดจบเธอก็ส่ายหัวไปมาเบาๆทำให้ผมที่ยาวระอยู่แถวต้นคอเธอทำให้รู้สึกจั๊กจี้จึงหยุดพร้อมยิ้มน้อยๆ
“เออๆ รู้แล้วน่า”ลิเดียพูดเสียงเบื่อ เธอมองออกไปยังสนามกีฬาข้างล่างแล้วก็หันกลับมาทางฟลายด์ “เราว่านะ ผมของฟลายด์น่ะกลายเป็นผมสั้นที่เริ่มยาวเกินไปแล้ว”
“ว่างไปตัดที่ไหนเล่า นี่ก็พึ่งจะสอบเสร็จ”
“หรือว่าฟลายด์จะไว้ผมยาวอ่ะ”
“เหอะๆ ไว้แล้วเป็นแบบเธอเราก็ไม่ไว้หรอก”
“แหม ยังไงก็น่ารักไม่เท่าเราหรอก ไม่ต้องกลัวๆ”
ฟลายด์หันมาจ้องหน้าลิเดีย ลิเดียเป็นคนน่ารัก เธอมีผมสีน้ำตาลยาวที่หยักเป็นลอนกับใบหน้าสไตล์ยุโรปพร้อมผิวขาวซีดทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตาที่เด็กหญิงเล็กๆเห็นตามห้างสรรพสินค้าที่ใครเห็นเแล้วต้องร้องอยากมีไว้ครอบครอง
“วันนี้กลับยังไงล่ะลิเดีย”ฟลายด์เริ่มเก็บของใส่เป้
“ก็แบบเดิมแหละ บอกว่าตอนนี้ยังมารับไม่ได้ ยังไม่ว่างซักที” ลิเดียเริ่มบ่นกระปอดกระแปดเพราะพี่ชายเธอไม่ยอมมารับเธอตั้งแต่เธอสอบวันแรก และนี่มันก็วันสอบวันสุดท้ายแล้ว เธอเลยกำลังสงสัยว่าพี่ชายเธอต้องติดแฟนทำให้ไม่ยอมกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอสักทีแหง
“เอาน่า  พี่เธอเค้าคงมีธุระน่ะ”
ลิเดียพ่นลมหายใจออกมาแรงๆขณะเริ่มเก็บของ “ตอนอยู่ม.4ก็ไม่มารับซักที นี่ก็สอบปลายภาค ม.5แล้วก็ยังไม่ยอมมารับอีก”
“ก็เหลือ ม.6อีกตั้งปีนะ”
ทั้งสองเริ่มเดินลงบันไดมาเรื่อยๆ แล้วลิเดียก็บ่นเมื่อลงมาถึงชั้นสาม
“พึ่งจะชั้นสามเอง! บอกแล้วให้ลงลิฟต์ อยู่ตั้งชั้นเจ็ดแน่ะ”
“ไม่ต้องอารมณ์เสียหรอกน่า ประหยัดพลังงานไง”
“เออๆ ยัยแม่คนอนุรักษ์พลังงาน”
ฟลายด์รู้ว่าลิเดียยังไม่หายอารมณ์เสียจึงเปลี่ยนเรื่องคุย
“พ่อกับแม่ลิเดียจะมาหาวันไหน”
“อืม อีกสองสามวันก็มาแล้วล่ะ เห็นบอกแม่บอกว่าพ่อต้องต่อวีซ่าที่จะต้องอยู่ในไทยก่อน”
พ่อกับแม่ของลิเดียเป็นคนต่างชาติที่มาทำธุรกิจอยูในเมืองไทยและเกิดชอบวัฒนธรรมที่นี่จึงให้ลิเดียเรียนและโตที่นี่ ส่วนริชาร์ดนั้นจะกลับมาไทยช่วงปิดเทอม ซึ่งเท่าที่ฟลายด์ฟังลิเดียมา เธอก็คิดว่าพี่ชายของลิเดียต้องปิดเทอมนานพอควร
“ดีแล้วๆ งั้นลิเดียมีอะไรต้องไปทำต่อมั้ยเนี่ย”
“ไม่อ่ะ คงไปนอนอืดที่บ้านมั้ง”
“ไปดูหนังกันป่ะ วันนี้เราแอบเอารถเข้ามาจอดในโรงเรียนได้”ฟลายด์พูดเมื่อทั้งสองเดินมาใกล้ลานจอดรถ
ลิเดียหันซ้ายหันขวาเพื่อเช็คดูว่าไม่มีอาจารย์อยู่ในรัศมีการได้ยิน เพราะโรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนเอารถมาและที่สำคัญ ทั้งคู่ยังไม่มีใบขับขี่
“จิงดิ ป๊ากับม้าเธอให้เอามาเหรอ”
ฟลายด์ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าม้าเรารู้ก็ไม่ได้เอามาหรอกน่า โทรไปอ้อนป๊านิดหน่อยอ่ะ ตอนนี้ป๊ากับม้าไปประชุมบ้าอะไรก็ไม่รู้อยู่ที่ฝรั่งเศสอ่ะ ป๊าเลยบอกว่าเงียบๆไว้อย่าให้เกิดเรื่องยุ่งนะ”
“เราอยากให้พ่อเราใจดีแบบนี้มั่งจัง ขนาดเราแค่ขอซื้อรถเอาไว้ก่อนก็ไม่ให้ ป๊าเธอยังให้ซื้อไว้ก่อนเลย”
ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นทั้งคู่ก็ถูกขัดจังหวะขึ้น
“น้องฟลายด์คนน่ารักกับน้องลิเดียคนสวยคร้าบบบ”เสียงของเด็กผู้ชายสี่คนดังขึ้นมาจากม้านั่งที่อยู่ไม่ห่างจากจุดที่ทั้งสองยืน
ฟลายด์กับลิเดียหันขวับไปมอง
“อะไร”ฟลายด์พูดขึ้นพร้อมเดินมาบังลิเดียไว้เพราะลิเดียค่อนข้างจะบอบบางกว่าเธอ
“หนิฟลายด์”ลิเดียเบียดฟลายด์ขึ้นมา “เรายังไม่ถึงสายดำเหมือนเธอก็จริงนะ แต่เราว่าเราดูแลตัวเองได้น่า”
“โห พวกเราไม่ทำอะไรคนสวยสองคนหรอกน่า แค่อยากจะบอกว่าน้องสวยมากก็แค่นั้น พวกพี่ปลื้มน้องมาตั้งนานแล้วนะครับ”สี่คนนั้นพูดขึ้นอย่างกวนๆ
ฟลายด์กับลิเดียยังยืนนิ่ง ทั้งสองมีคนมาจีบเยอะก็จริง แต่ก็ยังไม่มีแฟนซักที และนั่นก็ทำให้คนแข่งกันจีบมากขึ้น
ทั้งสี่เห็นหญิงสาวไม่ตอบจึงพูดต่อ “ไปดูหนังกับพวกพี่มั๊ย รถจอดอยู่หลังโรงเรียนน่ะ วันนี้พี่เอา    ปอร์ชมาด้วยนะครับน้อง”
“ไม่ค่ะ มีมือมีเท้าเหมือนกัน กลับเองได้”ฟลายด์ตอบเสียงยียวน
“แต่มันอาจไม่สบายเท่าปอร์ชพี่นะครับ”
“ถ้าอยากนั่งปอร์ช เราโทรบอกพี่ชายมารับได้”ลิเดียพูดขึ้นมาทั้งๆที่ริชาร์ดก็ยังไม่กลับมา
“แต่น้องแน่ใจว่าหล่อเท่าพี่เหรอครับ”
“นายว่าพี่ชายชั้นขี้เหร่หรอ! อยากจะบอกว่านายตายแล้วเกิดอีกสิบครั้งก็ยังไม่หายหน้าทุเรศหรอก” ที่จริงสี่คนนั้นก็ไม่ได้หน้าตาหน้าเกลียดอะไรขนาดนั้นหรอก ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดูดีด้วยซ้ำ
“เอาน่าๆ ไปกันเถอะ เดี๋ยวอาจารย์ลงมาก่อน ตอนนี้คนอื่นยังสอบไม่เสร็จกัน”ฟลายด์หันซ้ายหันขวาแล้วก็ลากลิเดียวิ่งไปยังบีเอ็มสปอร์ตของเธอที่จอดหลบอยู่หลังแคนทีนปล่อยให้สี่คนนั้นนั่งตะลึงกับความปากเสียของลิเดียอยู่ เพราะใครๆก็มีแต่คิดว่าคุณหนูอย่างฟลายด์กับลิเดียคงจะเรียบร้อยเหมือนผ้าที่พับไว้ แต่ความจริงแล้วทั้งคู่เป็นผ้ายับๆที่พับไว้ต่างห่าง
“ลิเดียมานอนกับเราดีกว่ามั๊ย ปล่อยให้คนใช้ที่บ้านเธออยู่กันสบายๆดีกว่า”ฟลายด์พูดขึ้นระหว่างทางกลับบ้าน
ลิเดียขมวดคิ้ว “ฟลายด์แอบว่าเรายุ่งรึเปล่าเนี่ย” แต่คิดไปคิดมา หล่อนก็ตกลงว่าจะไปนอนที่บ้าน ฟลายด์ดีกว่า เพราะจะได้ปล่อยให้อีตาพี่ชายจอมขี้เกียจอยู่บ้านคนเดียว และที่แน่ๆ อดทำความรู้จักกับฟลายด์ เหตุก็เนื่องมาจากว่าพี่ชายของหล่อนเห็นฟลายด์ที่ปาร์ตี้ตอนซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วก็เกิดตกหลุมรัก แต่โชคไม่เข้าข้างทำให้ไม่ได้ทำความรู้จักกันซักที
สมแล้วล่ะ ลิเดียคิด อยากไม่มารับดีนัก ปล่อยให้ปลูกไร่แห้วเพิ่มอีกสักไร่สองไร่ก็แล้วกัน
ฟลายด์หัวเราะขึ้น “ก็ทั้งใช่และไม่ใช่อ่ะ เห็นสอบเสร็จแล้วเลยชวนมาคลายเครียดน่ะ อยู่สองสามวันเอง เดี๋ยวพ่อกับแม่เธอก็มาแล้วหนิ”
“อือ คล้ายๆพ่อกับแม่จะเคยพูดไว้ว่าตอนจบ ม.5 แล้วอยากให้ไปเรียนที่อื่น”
“อ่าว ทำไมล่ะ ทำไม่ไม่ให้จบ ม.6 ก่อนล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกันนะ ยังไม่ได้คุยจริงๆจังๆซะที แต่คล้ายๆแม่จะบอกไว้ว่าโรงเรียนที่แม่จะให้ไปน่ะ ต้องอายุเกิน 16 ปี แล้วเราสองคนก็ดันเรียนก่อนเกณฑ์ไง เลยต้องรอให้จบ ม.5”ลิเดียถอนหายใจ “คล้ายๆพ่อจะไม่อยากให้ออกกลางคันด้วย
“อ๋อ ก็แสดงว่าโรงเรียนที่เธอจะไปก็ต้องดีกว่าโรงเรียนนี้ดิ”
“แต่ฟลายด์ก็ต้องรับมือกับไอ้พวกบ้ากามคนเดียวดิ”
“เฮ้ย...เว่อร์แล้ว พวกนั้นไม่ถึงขั้นบ้ากามหรอกน่า แต่เราก็ไม่ต้องคอยปฏิเสธเค้าที่ว่าเรากับเธอเป็นคู่เลสกันนะ”ฟลายด์หัวเราะ “น่าเบื่อชะมัดเลย”
ลิเดียหัวเราะไปด้วย “เออ ไม่เห็นเหมือนเลย ฟลายด์เป็นทอมบอยไม่ได้หรอก เพราะหน้าอกฟลายด์มันไม่แบนเลยซักนิด”
“บ้าแล้วลิเดีย หื่นจังเลยเนี่ย พูดถึงเรื่องนี้ประจำ”
“ฮะๆๆ เปล่าหรอก ฟลายด์เหมือนผู้ชายแค่ตอนนั้นน่ะ ตอนที่ตัดผมสั้นเด๋อๆแล้วใส่เสื้อกันหนาวตัวสีดำตัวนั้นน่ะ”ลิเดียเริ่มหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง
“เหอะๆ”ฟลายด์หัวเราะแห้งๆก็ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวตลกเลย เพราะมีผู้หญิงต่างโรงเรียนที่เจอเธอที่เรียนพิเศษตอนใส่เสื้อกันหนาวตัวนั้นเข้ามาจีบเธอ เล่นเอาลิเดียที่ตอนนั้นกำลังดูดน้ำอยู่ใกล้ๆสำลักเลย แล้วลิเดียก็เริ่มเอามาล้อตั้งนานจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ยอมเลิก
“เราเหมือนผู้ชายจริงหรอ”
“คงงั้นมั้ง เพราะฟลายด์ชอบใส่กางเกนยีนส์หลุดตูดกับเสื้อยืดพอดีตัวเฉยๆมั้งเลยคล้ายทอมบอยอ่ะ”
“ก็...งั้นให้ใส่ไงเล่า กระโปรงน่ารำคาญออก หนีคนก็ยากอ่ะ”ฟลายด์หมายถึงตอนที่หลบหลีกจากการทำร้ายร่างกายของลิเดีย
“ขนาดไม่ค่อยหญิงเท่าไหร่ยังเสน่ห์แรงขนาดนี้เลย”แล้วลิเดียก็เริ่มหัวเราะ
“แต่งตัวแบบเราสิบนาทีก็เสร็จแล้ว ไม่ต้องเป็นชั่วโมงแบบคนใส่กระโปรงหรอก”
“เราว่านะ...ฟลายด์ใส่แหวนเยอะไปนิดน่ะ เลยดูไม่ค่อยหญิงเท่าไหร่”
“สิบนิ้วห้าวง แหม...ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เอง”
“เฮ้อ...”ลิเดียส่ายหัวเซงๆ เธอไม่ค่อยชอบให้ฟลายด์แต่งตัวแบบนี้เลย แต่พยายามเปลี่ยนยังไงก็ไม่สำเร็จซะที
“ถอนหายใจมากเดี๋ยวแก่เร็วนะ”ฟลายด์หันมายิ้ม “ถึงจุดหมายแล้วครับคุณหนูลิเดีย”
ลิเดียเห็นดังนั้นจึงเชิดหน้าและนั่งตัวตรงพร้อมดัดเสียง “เร็วสารถี ชั้นหิวน้ำแล้ว เร็วๆ”
ฟลายด์เห็นดังนั้นจึงคว้าเอากล่องทิชชูมาตีหัวลิเดียทีหนึ่งเบาๆ “แหมๆ เอาใหญ่เชียว”
“ขับรถต่อไปๆ เรายังไม่ถึงโรงจอดรถนะยะ นาย สารถี”
ฟลายด์ส่ายหัวเบาๆ
“มาเปิดประตูให้ชั้นเร็วสารถี”ลิเดียพูดขึ้นเมื่อฟลายด์จอดรถเสร็จ
“เหอะ รออีกสิบปีเถอะลิเดีย”ว่าแล้วฟลายด์ก็ลงรถแล้วเดินตัวลิ่วเข้าบ้านโดยไม่รอลิเดียทำให้ลิเดียต้องวิ่งตามมาเพราะกลัวหมาตัวยักษ์สองตัวพันธุ์ร็อดไวเลอร์ของฟลายด์
ทั้งคู่เดินผ่านศาลากลางน้ำ  โถงทางเดิน ห้องครัวและ...
“คุณฟลายด์!!! ทำไมไม่บอกป้าซักคำว่าคุณฟลายด์จะเอารถออกไป”เสียงแม่บ้านสูงอายุร่างเล็กพูดขึ้น
“บอกป้าก็ไม่ให้ฟลายด์เอาออกไปดิ”
“แล้วใครอนุญาตค่ะเนี่ย คุณแม่รู้ยังคะ”
“ป๊าอนุญาต ม้ายังไม่รู้ แล้วป้าก็...เงียบๆไว้ล่ะ”
“คุณฟลายด์นะ ป้าตกใจหมดตอนที่มาเสิร์ฟอาหารตอนเช้าแล้วนายพลบอกว่าคุณฟลายด์ออกไปแล้ว”
“แหมป้า ตื่นตระหนกไป”ฟลายด์หันไปมา “แล้วถุงเงินถุงทองหายไปไหน”
“ไม่นะฟลายด์!”ลิเดียพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
“ป้าให้นางมันเอาไปไว้ในกรงแล้วค่ะ เพราะนายพลบอกว่าเห็นคุณลิเดียนั่งรถเข้ามาด้วย”
“ขอบคุณค่ะป้า”ลิเดียยิ้มแล้วหันไปตีฟลายด์ “ถ้าปล่อยเจ้ายักษ์สองตัวนั่นออกมา เราจะฆ่าฟลายด์เอง”
ฟลายด์ยักคิ้วใส่ลิเดียแล้วโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเธอก็ดังขึ้น เธอจึงรับโทรศัพท์แล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ปล่อยให้ลิเดียหาของกินอยู่ในห้องครัวไปพลางๆ
“หวัดดีค่ะม้า”ฟลายด์รับโทรศัพท์พลางคิดเสียวในใจว่าแม่ของเธอรู้เรื่องที่เธอเอารถออกไปหรือเปล่า
“ลูกฟลายด์”แม่ของฟลายด์ทักเสียงใส
“คะ?”
“หนิ เดี๋ยวจะมีคนมาหาฟลายด์นะลูก มาคุยเรื่องเรียนต่อน่ะจ้ะ”
“แต่นี่ก็พึ่งจะสอบปลายภาคของ ม.5เสร็จนะคะม้า”
“ไม่ใช่จ้ะ คนละเรื่องกัน เอาเป็นว่า...เดี๋ยวจะมีคนมาหาลูกก็แล้วกันจ้ะ มาคุยเรื่องเรียน คนที่มาหาลูกน่ะ เค้าชื่อเลียนนะจ้ะลูก”
“เลียนใช่มั๊ยคะ”
“ใช่แล้วลูก ม้ากับเค้าคุยกันแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ก็เหลือแต่ลูก อ่อ...รวมถึงป๊าลูกด้วยก็คุยแล้ว”
“เรื่องอะไรคะ ฟลายด์ไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลย”
“ก็ยังไม่คุยเลยจะเข้าใจได้ไงล่ะจ้ะลูกฟลายด์ เอาเป็นว่าไว้ใจเค้าได้น่า เค้าเป็นหญิงวัยกลางคนที่ดูใจดีน่ะ”
“ค่ะ วัยกลางคนดูใจดี”
“สูงน้อยกว่าลูกนิดนึง ผิวก็เข้มกว่าลูกนิดนึง แต่...สวยไม่เท่าลูกหรอก”พูดจบแม่ของฟลายด์ก็หัวเราะ
“เหอะๆ”ฟลายด์หัวเราะแห้งๆ “ม้าปล่อยมุขอ่ะป่ะเนี่ย”
“เปล่าๆ ม้าพูดจริงนะ”แม่ของฟลายด์ยังไม่หยุดหัวเราะ
“จริงก็ดี ฮะๆๆ”ฟลายด์เริ่มหัวเราะแบบการ์ตูนใส่แม่ของเธอ
“อุ๊ย ม้าต้องเข้าประชุมแล้ว ป๊ามาเรียกแล้ว เดี๋ยวยังไงม้าจะโทรมาหาอีกรอบนะจ้ะฟลายด์”
“ค่ะ บายค่ะม้า ฝากบอกป๊าด้วยนะคะว่าคิดถึง”
“ได้จ้ะๆ บาย”แล้วสายก็ตัดไป
ฟลายด์เก็บโทรศัพท์แล้วก็กำลังคิดอยู่ว่าแม่ของเธอโทรมาอำให้งงเล่นหรือเปล่า เธอคิดไปคิดมาก็ไม่แน่ใจ จึงเดินไปบอกสาวใช้ให้จัดการเตรียมห้องนอนและของใช้ต่างๆให้ลิเดียให้เรียบร้อย เพราะลิเดีย...ยุ่งมิใช่น้อย หลังจากที่จัดการเสร็จเธอจึงเดินออกไปเล่นกับถุงเงินถุงทองที่กรงเพราะปล่อยออกมาไม่ได้
“เจ้าตัวน้อยที่น่าสงสาร”ฟลายด์พูดพลางเอื้อมมือไปลูบหัวสุนัขทั้งสอง
“น่าสงสารๆ”เธอเริ่มขยี้หัวมันเล่นเบาๆแล้วก็ถูกขัดจังหวะ
“คุณฟลายด์คะ”เสียงของสาวใช้เรียกขึ้น
“อะไรเหรอพี่ข้าว”
“มีคนมาขอพบค่ะ ตอนนี้พี่ให้รออยู่ในห้องรับแขกค่ะ”สาวใช้ขมวดคิ้ว “เค้าเป็นผู้หญิงอายุประมาณห้าสิบปีน่ะค่ะ พี่ไม่เคยเห็นเค้ามาก่อน”
ฟลายด์เลิกคิ้วขึ้น “ชื่ออะไรเหรอพี่ข้าว”
“เลียนค่ะ ชื่อแปลกๆ พี่ว่า...เดี๋ยวพี่จะเรียกนายพลไปอยู่แถวๆห้องรับแขกด้วยค่ะ เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น”
“ขอบใจจ้ะพี่ข้าว”แล้วฟลายด์ก็เดินไปหาหญิงชื่อเลียนซึ่งตรงตามที่แม่ของเธอบอกไว้
เรื่องตลกอะไรกันเนี่ย เธอคิดอย่างงงๆระหว่างที่เดินไปพบเลียน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น