ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] stops functioning ปิดการทำงานมัดใจนายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #6 : [CHAPTER : 2] III [END]

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 54


     
              CHAPTER 2 : ONE DAY THREE DREAM  [III] [END]



                ห้องทดลอง

    “พระเจ้า!!...นี่มันอะไรกันเนี่ย”เบี้ยงกี้พึมพำหลังจากที่เขาได้ตรวจสอบผึ้งที่เก็บมาจากพื้นแถวๆหน้าฐานทัพของวองโกเล่ นี่มันตัวอะไรกันแน่เนี่ย!!

    “ได้เรื่องหรือเปล่า..เบี้ยงกี้”รัลที่กำลังเช็กข้อมูลเกี่ยวกับมอร์เต้แฟมมิลี่ก็ได้หันมาถามหญิงสาวข้างกาย

    “ก็ได้อยู่หรอก..แต่ฉันกำลังตกใจอยู่น่ะ”

    “เรื่องอะไร...??”รัลขมวดคิ้ว

    “ผึ้งนรกเนี้ย...โครงสร้างมัน...ตรงกับโครงสร้างของผึ้งธรรมดาทั่วไป..ทั้งรูปร่าง ลวดลาย ลักษณะเป็นผึ้งเลย...มีเพียงแต่เหล็กในที่แตกต่างจากผึ้งทั่วไป..มันใหญ่กว่าเหล็กในขนาดปกติ และพิษมันก็ร้ายกาจใช่เล่นเลย...”

    “ให้ตายสิ...แย่ล่ะ..ลืมซะสนิทเลย”รัลพึมพำพร้อมกับถอดถุงมือแล้ววางพาดไว้กับขอบโต๊ะก่อนที่จะเดินผ่านพ้นประตู เบี้ยงกี้ก็ขัดขึ้นมาซะก่อน

    “เดี๋ยวก่อนสิ...จะไปไหนน่ะ”

    “ฉันลืมบอกพวกสึนะน่ะ...เรื่องของหมอนั่น..”

    “หมอนั่น...???”

    “..โรคุโด มุคุโร่”

    “...!!!

    ด้านห้องมอนิเตอร์

    ติ๊ดดดๆๆๆๆ

    “เกิดอะไรขึ้น..จางนีนิ”รีบอร์นที่นั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจอยู่นั้น ก็ต้องคิ้วกระตุกกับเสียงสัญญาณที่ดังขึ้นในห้องมอนิเตอร์ ปกติแล้วมันจะดังอีกแบบหนึ่ง..แต่นี่มันแปลกๆกว่าทุกที

    “ยะ...แย่แล้วคร้าบ...มีคนกำลังแฮ๊กระบบเราเข้ามาน่ะคร้าบ”จางนีนิว่าแล้วก็เอามือปาดเหงื่ออย่างร้อนรน

    “ปล่อยมัน...ดูสิใครเป็นคนแฮ๊กเข้ามา...แฮ่กๆ”รัลที่วิ่งมาถึงว่าปนหอบ

    “เอ่อ...ทราบแล้วคร้าบ”ว่าแล้วจางนีนิก็ปล่อยให้ระบบแฮ๊กปล่อยผ่านไป

    ตี๊ดด..

    ตี๊ดด...

    “ท่านอาจาร์ย...เราแฮ๊กได้แล้วครับ”เสียงทุ้มแต่ติดกวนอวัยวะเบื้องล่างว่าแล้วโบกไม้โบกมือใส่กล้อง พร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกต่างหาก

    “ว่าแล้วเชียว...ต้องเป็นนาย..มุคุโร่”รีบอร์นว่าแล้วจิบกาแฟอย่างใจเย็น

    “คึหึหึๆโคลมที่น่ารักของผมเธอสบายดีมั้ย”มุคุโร่เปิดประเด็นถาม ทำให้คนทั้งห้องมอนิเตอร์ถึงกับสะอึก

    “...เธอกำลังพักผ่อนอยู่”โคโลเนโล่ที่เกิดอาการเข้มขึ้นได้ตอบแทนคนอื่นๆที่ก้มหน้าก้มตามองพื้นแทนมองจอมอนิเตอร์

    “แย่จังเลย...ผมอยากคุยกับเธอแท้ๆ...”มุคุโร่ว่าด้วยน้ำเสียงน่าเสียดาย ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มกวนประสาทให้ผู้ที่เพิ่งมาเยือนใหม่

    “อย่าใช้งานเธอมากนะครับ...คุณเมฆา..เธอก็เหมือนตัวผม ผมก็เหมือนตัวเธอ เรามีจุดที่เชื่อมโยงกันอยู่...”

    “...แล้วยังไง ไอ้หัวสับปะรด”คุณเมฆาที่เพิ่งเดินเข้ามา ก็ส่งสายตาและน้ำเสียงกวนประสาททำให้ชายหนุ่มตาสองสีถึงกับคิ้วกระตุก

    ปิ๊ด...

    เส้นขันติขาดหนึ่งเส้น

    “ผมเป็นห่วงว่าคุณจะใช้งานเธอเกินเหตุ...จนทำให้เธอไม่สบาย..”

    “...”

    “เมื่อไหร่ที่เธอรู้สึกเหนื่อยล่ะก็...ตัวผมจะรู้สึกง่วงนอนทันที”

    “...แล้วยังไง”

    “อ้อ!...อีกเรื่องนึง...ถ้าโคลมได้รับบาดเจ็บเมื่อไหร่...ผมจะกลับญี่ปุ่นทันทีนะครับ..นี่เป็นคำเตือน”

    “...หึ..ไร้สาระน่ะ”ฮิบาริว่าแล้วหันหลังเพื่อจะเดินออกไปจากห้องนี้

    “ผมฝากโคลมด้วยนะครับ...”

    “...”

    “เธอเป็นสมบัติที่มีค่าชิ้นเดียวและชิ้นสุดท้ายสำหรับชีวิตของผมแล้ว...”มุคุโร่ลดน้ำเสียงหยิ่งลง และเพิ่มน้ำเสียงขอร้อง...เขากล้าขอร้องคนอย่างฮิบาริ เคียวยะหรอ...ไร้สาระน่า!

    “...ถ้ายัยนั่นขัดใจฉัน..แกคงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น”ฮิบาริยิ้มเยาะ

    “ผมเปิดโอกาสให้คุณมาอัดผมแทนก็ได้นะครับ...อย่าเอาเธอมาแปดเปื้อนเพราะผมเลย”มุคุโร่ว่ายิ้ม...รอยยิ้มนี่..ราวกับกำลังสมเพชตัวเองอยู่

    “...ท่าทางแกจะปกป้องยัยนั่นเหลือเกินนะ น่ารำคาญจริงๆ...เลิกทำหน้าเหมือนสับปะรดเน่าเฟะสักทีได้มั้ย มันไม่เหมาะกับแก รู้ไว้ซะ”ฮิบาริทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินจากไป ปล่อยให้มุคุโร่อึ้งและทึ้งกับคำพูดเหมือนครู่นี้

    “คึหึหึๆ...ท่าทางเขาจะดูอ่อนโยนมากขึ้นนะครับ”มุคุโร่ก้มหน้าก่อนที่จะยิ้มบางๆ

    ครืนนนนน ซ่าาาาาาาาาาา

    จู่ๆภาพบนจอมอนิเตอร์ก็ดับลง พร้อมกับเสียงคลื่นแทรกขึ้นมา อัลโกบาเลโน่ที่ไม่มีบทอะไรเลยในบทสนทนาเมื่อครู่นี้ ก็หันมามองหน้ากันพร้อมกับยิ้มอย่างรู้ใจกัน แล้วก็ต่างพากันแยกย้ายไปพักผ่อนตามอารมณ์ของตัวเอง

    .

    .

    .

    สมบัติชิ้นสุดท้ายหรอ...พูดเป็นเล่น!’ชายหนุ่มผมสีดำรัตติกาล พูดทวนคำพูดของคู่อริที่เขาเกลียดขี้หน้ามากที่สุด หญิงสาวที่เป็นลูกน้องชั่วคราวของเขาน่ะหรอ..เป็นสมบัติของคู่อริที่เขาเกลียดมาที่สุด ชั่งน่าขัน...

    กริ๊ก...แอ๊ดดด

    เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องผู้ป่วยที่ลูกน้องชั่วคราวของเขากำลังนอนพักฟื้นอยู่ แต่ก็ต้องตกใจ เพราะเธอได้นั่งหย่อนขาลงข้างเตียง พร้อมกับทอดสายตามองมาที่เขาอย่างเหม่อเลย

    ยัยนั่น...ไม่ได้ตาบอดหรือไง?

    “คุณเมฆา...ใช่มั้ยคะ”เธอถามพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้กับเขา

    “...อืม”เขาตอบสั้นๆพร้อมกับปิดประตูลงช้าๆ แล้วเดินเข้ามายืนมองหน้าเธออย่างพินิจพิเคราะห์

    “เธอ...มองเห็นฉันหรือไง”เขาถามด้วยความสงสัย เพราะว่าตาอีกข้างของเธอก็ปิดลงอย่างสมบูรณ์แล้วนี่ จะเห็นอะไรได้อีกล่ะ

    “ไม่เห็นค่ะ...เพียงแต่”

    “...”

    “แค่เดาว่านั่นใช่คุณหรือเปล่า แค่นั้นเอง...แล้วก็ถูกด้วย”หญิงสาวยิ้มร่า ก่อนที่จะค่อยๆหย่อนขาสู่พื้นห้องและทว่า

    ตุบ!!

    ร่างกายมันไม่อำนวยสักนิดเดียว ขาเธอที่น่าจะแข็งแรงกับทำให้เธอล้มไปนั่งลงกับพื้นที่เย็นเชียบเพราะเครื่องปรับอากาศ เธอควานหาสิ่งที่ทำให้เธอได้ยืนหยัดขึ้นอีกครั้ง แต่มันก็ไม่สำรวจ เพราะเธอคลำหาสิ่งนั้นนานกว่า 5 นาทีแล้ว

    “เธอกำลังทำอะไรน่ะ...”ฮิบาริขมวดคิ้ว เพราะว่าเขายืนมองเธอตั้งแต่เธอล้มไปนอนกับพื้นแล้วคลำหาอะไรบางอย่างอยู่ที่พื้นนานสองนาน (ไม่คิดจะช่วยโคลมหรือไงจ๊ะ)

    “ฉันกำลังหาที่ๆทำให้ฉันยืนได้น่ะ”เธอว่าอย่างยิ้มๆ

    “ให้ตายสิ...คุณมันน่าหงุดหงิดชะมัด”เขาว่าแล้วกระตุกแขนเธอขึ้นมาพร้อมกับจับไหล่ทั้งสองข้างให้ยืนตรงๆแล้วม้วนตัวให้ประจัญหน้าเขา

    “...ขอโทษนะคะ ที่ทำให้ภาระคุณมีมากขึ้น”

    “...ผมบอกคุณแล้วนะ...ว่าให้คุณเดินมาพร้อมกับผม..”ฮิบาริว่าแล้วถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

    “ฉันไม่อยากให้คุณอึดอัด...เพราะว่าฉันเป็นตัวถ่วงของงานคุณ...คุณหัวหน้า”เธอว่าพลางก้มหน้างุดเหมือนเด็กที่ทำผิด

    “ให้ตายสิ..คุณกำลังทำให้ผมหงุดหงิดจริงๆนะเนี่ย”ฮิบาริว่าพลางขมวดคิ้ว ไม่รู้เธอจะเห็นเขาตอนนี้หรือเปล่านะ เพราะตอนนี่เขากำลัง

    ยิ้ม...ให้เธออยู่

    “ฉันเป็นตัวถ่วงจริงๆด้วย...คุณเมฆาคะ...ช่วยพาฉันไปหาบอสได้มั้ย..”เธอว่าแล้วเงยหน้าขึ้นมาให้เขา ทำสีหน้าอ้อนวอนขอร้องเขา

    “ไปทำไม”เขาชักน้ำเสียงหงุดหงิดทันที

    “ฉันจะบอกให้บอส...ดูแลฉันไปพร้อมๆกับคุณเคียวโกะไปเลย...ฉันไม่อยากทำให้คุณรำคาญและไม่สบายใจ”เธอถอนหายใจเบาก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด

    ตลอดเวลาที่เธอได้อยู่กับเขา เธอเป็นตัวถ่วงเขาตลอดเวลา เธอไม่เคยทำให้เขามีความสุขเลยแม้แต่น้อย สีหน้าที่เย็นชาของเขาบ่งบอกถึงความเหนื่อยและหน่ายใจที่เธอได้มาทำงานให้กับเขา เธอเองที่มองออกตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว...

    “เจ้าหนูบอกให้ผมดูแลคุณ...ผมก็ต้องดูแลคุณ”ฮิบาริพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับกระซิบ แต่ทว่า เธอที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาได้ยินเต็มทั้งสองหูเลย

    “ฉันจะพยายาม...ไม่ให้คุณเดือดร้อนแน่นอนค่ะ...ฉันสัญญา”เธอว่าแล้วยิ้มๆน้อยให้เขา แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน

    รอยยิ้มที่เธอยิ้มเหมือนกับรอยยิ้มที่เธอมักจะใช้กับโรคุโด มุคุโร่ เป็นรอยยิ้มที่ใครๆเห็นก็ต้องตกหลุมรักแน่ๆ

    รอยยิ้มนั่น...มันเป็นรอยยิ้มที่ให้ผมจริงๆหรือเปล่า

    เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มจากใจจริงหรือเปล่า

    เป็นรอยยิ้ม...เธอมอบให้คนอื่นบ่อยๆหรือเปล่า

    .

    .

    ผมไม่เคยเชื่อเรื่องพระเจ้า...

    แต่ถ้ามีจริง ผมขออะไรสักอย่าง...

    ถ้าสิ่งนั้นมันเกิดขึ้นกับผม...ผมจะเชื่อว่าคุณมีอยู่จริง

    ช่วยรับฟังคำขอของผมด้วย

    .

    .

    ผมขอให้รอยยิ้มนี่...ยิ้มให้กับผมแค่คนเดียว

    ++++++++++++++++++++++++++++

    อ่านมาสามพาร์ทรู้สึกยังไงบ้างคะ ถ้าสนุกก็ช่วยเม้น+โหวตหรือแอดเป็นเรื่องโปรดด้วยนะคะ แหะๆ เร่งปั่นสุดชีวิตเลยนะเนี่ย อันที่จริงโยชิจะลงวันล่ะ 1-2 ตอน แต่เอาไปเอามา อัพตามใจตัวเองล่ะกันเพราะว่าพี่ของโยชิชอบแย่งเล่น =_= ซึ่ง...พอโดนแย่งจะทำให้โยชิสมองฟ่อทันที หัวไม่ไบร์ทเลย ฮ่าๆ

    ขอกำลังใจดีๆจากรีดเดอร์ทุกคนด้วยนะคะ ^^ เม้น เม้น !

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×