ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Touch Lover : สัมผัสใจ กระต่ายตัวร้ายกับแมวไร้เล็บ[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 57


    บทนำ
    +++++++++++++++++

     

       "ตื่นว้อยเดม!!" เสียงห้าวของพี่ชายอันคุ้นเคยตะเบ็งเสียงเรียกเด็กหนุ่มที่กำลังนอนฝันหวานต้องผงะตกใจกลิ้งตกเตียงหัวฟาดพื้นจนตื่นเต็มตา

        "โอ๊ย..ตกใจหมด" ผมร้องโอดครวญเบาๆพร้อมกับลูบหัวตัวเองป้อยๆ..ให้ตายเถอะ หน้าผากเจ็บหนุบๆเหมือนว่ากำลังจะช้ำเขียวช้ำม่วง ไม่ก็บวมออกมาซะอย่างนั้น..

         ผมตกลงมาอีท่าไหนให้หัวจิ้มพื้นแบบนี้ล่ะครับเนี่ย!

         "มาทำขวัญอ่อนไรไอ้น้อง ได้ข่าววันนี้มีโปรจีบสาวอนุรักษ์ไม่ใช่เหรอไง" พี่แอมโม่พี่ชายของผมยืนกอดอกพิงประตู พลางจ้องมายังผมด้วยแววตาสะใจ

        "ก็ใช่ไง มาทำน้องเสียโฉมก่อนได้เหล่หญิงนี่มันดีแล้วเหรอ" ผมเบะปากพูดงอนๆก่อนจะยังตัวเองลุกขึ้น เดินไปหยิบผ้าขนหนูเตรียมออกไปเข้าห้องน้ำ

        "ฮ่าๆๆ รีบลงไปกินข้าวละกัน แม่รออยู่" พูดเสร็จพี่แอมโม่ หรือขอเรียกสั้นๆว่าพี่โม่ ก็หันหลังเดินลงบันไดไป

        ดูดู๊ดู... แม่ให้มาเรียกกินข้าวนี่ถึงกับทำน้องที่รักบาดเจ็บเลยเนี่ยนะ

        ที่สำคัญ..

        ประตูก็ไม่ปิดให้ นิสัยไม่ดีจริงๆ(เกี่ยวมั้ย?)

       ลืมแนะนำตัวไปนิดนึง ผมชื่อ'โมเดม'ครับ อายุ 16  ปี สูง 169 เซน. และความสูงไม่กระเตื้องขึ้นมาสามปีแล้วครับ ผิวค่อนข้างขาวเพราะชอบหมกตัวอยู่ในที่ร่ม ไม่สู้แสง ตัวบางๆ กินเยอะแค่ไหนก็ไม่อ้วน บางที่ผมก็คิดว่าตัวเองอาจเป็นโรคพยาธิก็เป็นได้.. ผมสีดำซอยสั้นประบ่า หน้าตี๋ๆที่บางคนก็บอกว่าเหมือนแมว ผมเองก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ฮ่า

        วันนี้เป็นวันที่น่าตื่นเต้นแต่ไม่น่าตื่นเต้นสำหรับผม ออกจะน่าเบื่อด้วยซ้ำไป เพราะผมต้องไปร่วมค่ายอบรมอนุรักษ์ป่าไม้ด้วยใจอาสา ถามว่าผมอาสามั้ย?.. ก็ไม่  เป็นกิจกรรมที่ทางโรงเรียนได้จัดขึ้นครับ สำหรับชมรมจิตอาสาอันพิเศษยิ่ง ได้รับสิทธิในการออกไปทำกิจกรรมชมรมนอกโรงเรียน แถมยังได้เข้าค่ายค้างคืนและรับประสบการณ์ป่าไม้ของจริงในทุกๆปีอีก

        มันเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับชมรมอื่น แต่ทำไมผมรู้สึกว่าผมคิดผิดที่มาเข้าชมรมนี้กันนะ..

        ผมมาเข้าชมรมจิตอาสา ทั้งๆที่ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับตัวผมเลยซักนิด เหตุมันมาเพราะไม่อยากติด มผ. วิชานี้ให้เสียประวัติ จึงตัดสินใจ เพื่อนไปไหนเราไปกัน... แต่ที่เขาว่าตามเพื่อนมากมันอาจไม่ใช่ทางของเรา อันนี้ผมเริ่มเชื่อ

        พอเข้าชมรมมา ก็เจองานจิตอาสาถาโถมกระหน่ำหนัก ไม่ให้พักให้หายใจ พอคิดว่าจะได้หยุดนอนให้สบาย กลับต้องมาเข้าค่ายติดกันสามวันสองคืน ผมควรดีใจใช่มั้ย.. เด็กอายุ 16 แบบผมควรภูมิใจกับเรื่องแบบนี้รึเปล่านะ//น้ำตาไหล

        อาจารย์ที่ปรึกษามักบอกเสมอว่า คนหนุ่มต้องทำงานจิตอาสาให้มากๆ สภาพจิตใจจะได้มีความสุขอยู่เสมอ ผู้ชายผู้หญิงที่มีจิตสาธารณะ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ใครๆก็ชอบ แถมยังได้บุญอีกต่างหาก

        อาจารย์ครับ..มันก็จริงที่ทำแล้วมันมีความสุข แรกๆผมก็สนุก แต่ถ้าทำบ่อยไปจิตใจมันก็ไปในทางลบได้นะครับ..

        เห้อ.. ก็ยังดีที่สาวๆชมรมนี้มีแต่คนสวยจิตใจงาม น่ารักทุกคน..

        พอๆ หยุดคิดให้ปวดหัว คิดไปก็ไม่ทำให้ผมได้นอนพักสบายอย่างที่หวังหรอก... ผมออกจากห้องน้ำมาในสภาพชุ่มน้ำกับผ้าพันตัวผืนเดียว ผมเปียกโชคเพราะเผลอสระไปด้วยความรู้สึกร้อน เดินลัดทางเดินเข้ามาเปลี่ยนชุดในห้องตัวเอง(พอดีบ้านมีห้องน้ำเพียงสองห้อง อยู่ชั้นบนกับชั้นล่าง) ลมพัดเข้ามาจากทางหน้าต่างทำให้รู้สึกเย็นสบาย อากาศปรอดโปร่งค่อยทำให้สบายใจขึ้นมาหน่อย

        ผมหยิบชุดวอร์มของโรงเรียนที่แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้ามาใส่ ตามที่ทางโรงเรียนกำหนดไว้ เพื่อนเป็นการแสดงตนเกี่ยวกับสถานศึกษา

        สำหรับผม เข้าค่ายครั้งนี้มันก็มีโรงเรียนผมโรงเรียนเดียว ไม่รู้จะใส่ไปแสดงอะไร..

        เมื่อแต่งตัวเสร็จพร้อมเช็ดผมลวกๆ และใช้มือสางๆแทนการหวีด้วยความขี้เกียจ ผมวิ่งลงบันไดกระโดดกอดแม่แล้วกดจมูกหอมพวกแก้มขาวที่ยังดูไม่เหี่ยวสมกับอายุใกล้ห้าสิบของเธอเท่าไหร่ เธอหันมายิ้มอ่อนโยนให้แล้วเอื้อมมือมาหยิกแก้มผมเบาๆ

        "ขี้อ้อนจริง ลูกคนนี้นี่"

        "ฮ่าๆ เป็นลูกก็ต้องอ้อนแม่สิ ทำไรกินเหรอคับแม่?" ผมยื่นหน้าไปดูหม้อที่แม่กำลังใช้ทัพพีตักอาหารในนั้นใส่ชามแล้วยื่นให้ผม

        "ข้าวต้มหมูสับน่ะ ชอบไม่ใช่เหรอ หืม?" แม่ยิ้มให้ ผมรับข้าวต้มฝีมือแม่มาแล้วยิ้มกลับ

        "อะไรก็ชอบหมดแหละ ถ้าแม่ทำอะ" แม่ยิ้มเขินๆรับ ผมเดินมานั่งตรงข้าวกับพี่ชายที่นั่งจ้วงข้าวในชามกินอย่างเอร็ดอร่อย

        "เบาๆหน่อยพี่โม่ เดี๋ยวข้าวกระเด็นติดหน้าผมนะ" ผมแขวะไปอย่างนั้น แล้วก็ก้มหน้ากินต่อ

        "ตัวเตี้ยงั้นก็ติดหน้าได้ดิ หัดทำตัวให้สูงๆแบบพี่บ้าง ข้าวจะได้กระเด็นไม่ถึง ฮ่าๆ" มันหัวเราะสะใจ..เออนะ โดนเล่นกลับอีก กรรมจริง

        ผมก็เตี้ยกว่าพี่แค่ 16 เซนเอง มาว่าผมเตี้ยได้ไง!!(ไม่เจียมเลย)

        "ยังเด็กอยู่หรอกน่า เดี๋ยวโตมาก็สูง" ผมเบะปากพูด คิดแง่บวกไว้ๆ

        "ได้ข่าวว่าแกสูงเท่าเดิมสามปีแล้วนะน้องรัก ฮ่าๆๆ" โว้ย นี่ก็ขัดตรูซะจริง! เคืองงงงง

        "อิ่มยัง เดี๋ยวไปส่ง" ผมพยักหน้าตอบพร้องยกแก้วนมสดที่แม่พึ่งเอามาวางไว้ให้ขึ้นกระดก(กินทุกวันเผื่อจะสูงขึ้น) "ดี พี่ไปรอที่รถนะ" พี่โม่ว่าพลางเดินออกบ้านไปลิ่วๆ ผมจึงวิ่งขึ้นไปหิ้วกระเป๋าที่จัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวิ่งตามมันไป ไม่ลืมที่จะกอดลาแม่ก่อนออกบ้านมา

        "ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะลูก" แม่ยิ้มให้และโบกมือเบาๆ ผมวิ่งแล้วกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ตัวเก่งของพี่ชาย โบกมือลาแม่และยิ้มแป้นกลับไปให้


        หวังว่าเข้าค่ายครั้งนี้จะไม่น่าเบื่อซักเท่าไหร่หรอกนะ..


     
    ++++++++++++++++++++++++++++++

    เริ่มมาไม่ค่อยน่าอ่านเท่าไหร่ ขออภัยในความไม่สะดวก//โค้ง
    อย่าเพิ่งเพื่อเค้าเลยน้า จิทำการปรับปรุ่งตัว
    แบบว่าเค้าไม่รู้จะใช้คำยังไงถูก ไม่รู้จะเรียงเรื่องยังไงดี งือออ
    ขอบคุณคนที่หลงเข้ามาอ่านทุกท่าน ติชมกันหรือแนะนำเค้าด้วยก็ได้นะ ><!


    to be continue...


     
    *ลืมใส่แนะนำตัว! แก้แล้วค่ะ//โค้งๆ*
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×