ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องเก่าเล่าใหม่

    ลำดับตอนที่ #6 : เผ่าพงศ์วงศ์ทศกรรฐ์

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 54


    สวัสดีคร้าบ ^/\^ ช่วงนิมาแบบเต็มๆ มาลงให้หลายตอนหยุนา แบบว่าคนมันว่าง (ที่จริงไม่ว่างเท่าไหร่ แต่มะก่อนตัวขี้เกียจมันขึ้นสันหลังT^T) มาคราวนี้ก็มาลงเรื่อง เผ่าพงศ์วงศ์ทศกรรฐ์ ไม่รู้ว่าจะเบื่อกันรึเปล่าเรื่องนี้ แบบว่า “ชั้นรู้แล้วเหอะ!” อะไรทำนองนี้ แต่ผมรับรองว่า ผมหามาแบบถึงใจสุดๆ ทุกท่านที่เคยอ่าน นั่นมันเบๆ ว่ะ
    เริ่มต้นกันเลยครับ เรารู้จักกันดีนะครับ ทศกรรฐ์คือเจ้ากรุงลงกาที่มี 10 พักตร์ 20 กร อิทธิฤทธิ์เกรียงไกรไฉไลเฉิด 5555+ มาเล่าถึงอดีตชาติของทศกรรฐ์ครับ ในอดีตชาติเป็นนนทก อสูรเทพบุตรที่มีหน้าที่ล้างเท้าบนสวรรค์ให้กับเทวดานางฟ้าที่จะเข้าเฝ้าพระอิศวรยังเขาไกรลาส แต่ด้วยความ “คัน” (มือ) ของเหล่าเทวดานางฟ้า พวกเนี้ยก็มักจะเขกหัวนนทก จนหัวเนี่ยล้านเตียนโล่งโจ้งจนหมดความหล่อไปเลยทีเดียว คิดดูสิครับว่าพวกเทวดาจะเขกกันมันมือแค่ไหน ทีนี้ นนทกก็แค้นขึ้นมา ไปขอพรพระอิศวรให้มินิ้วเพชร ยิงทีไรยังก็ฉายแสงเลเซอร์ ปิ้วๆ พอวันต่อมา ไอ้พวกเทวดานางฟ้าก็มากันอีก เขกกันอีก ไม่รู้ฤทธิ์ไอ้อสูรเทพบุตรนนทกซะแล้ว สุดท้าย จะเหลือเหรอ ตายเรียบ ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องมาอวตารเป็นนางอัปสร (นางสวรรค์ชนิดหนึ่ง มีจำนวนสามสิบล้านโกฏิ มีหน้าที่บำเรอเทวดา คล้ายๆ นางสาธารณะ ที่ใครใช้บริการก็ได้น่ะครับ เกิดตอนกวนเกษียรสมุทร) ชื่อว่านางสุวรรณอัปสร มาหลอกล่อให้นนทกหลงรักแล้วก็ชวนรำ รำไปรำมาถึงท่านาคาม้วนหาง นนทกก็ชี้ตรงถูกหาง เอ๊ย!! ถูกเพลาตัวเองทันที ทีนี้นางสุวรรณอัปสรก็คืนร่างเป็นพระนารายณ์ เหยียบอกนนทกจะฆ่า แต่นนทกก็สกัดทันซะก่อน “ไอ้ผู้ใหญ่รังแกเด็ก!!!!!!!!!!! แน่จริงมาสู้กันสิ ได้ซี่ มีตั้งสี่กร มาราญรอนไอ้นนทกสองมือ ซ้ำยังแปลงร่างมาเป็นอิสตรี ราวกับไม่มีความกล้า กลัวนิ้วเพชร (ยักษ์ 555+) ของข้าใช่หรือไม่” พระนารายณ์ก็ตอบไปทันควัน “ชะช้า ไอ้นนทกหัวหกก้นขวิด สิ้นฤทธิ์แล้วยังทำอวดทระนงว่าตนเก่ง กูนั้นจะมาสี่กรให้มึงเกรงก็ย่อมได้ แต่มึงไซร้ต้องตายเพราะ “หอ-หีบ” จึงต้องรีบแปลงจำแลงเป็นอัปสร ชาตินี้มึงมีแต่สองกรไม่หนำใจ จงไปอุบัติร่างอุบาทว์ในชาติใหม่เป็นสิบพักตร์ชาติยักษ์ยี่สิบกร กูก็จะตามไปราญรอนเยี่ยงมนุษย์ จะตามไปกุดหัวมึงให้จงได้” ว่าแล้วก็สังหารนนทกตายทันที

     
    นารายณ์ปราบนนทก


    ตรงอัปสราวตารที่พระนารายณ์อวตารเป็นนางสุวรรณอัปสร (บ้างเรียกนางอนันนารี) นี้ มีเรื่องเล่าเรื่องกำเนิดของหนุมานว่า พระนารายณ์หลังจากได้แปลงอินทรีย์เป็นอิสตรีแล้ว ก็ได้เข้าเฝ้าพระอิศวร พระอิศวรได้ตกตะลึงในความงามจะอสุจิได้เคลื่อนออกจากศิวลึงค์ (ของจริง) พระองค์เสียดายจึงเก็บไว้ในขวดแก้ว (ผมสันนิษฐานว่าพระนารายณ์ตรองทรงแปลงกายได้เอ็กซ์กว่ามิยาบิหลายเท่า เพราะแค่เห็นยังขนาดนี้ (ลามกอย่างแรง อีนังคนเขียน!!!!) ^5^) ต่อมา เมื่อพระอิศวรทรงทราบว่านางสวาหะยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลมอยู่ที่เชิงเขาจักรวาล จึงบัญชาให้พระพายนำเทพศาสตราวุธและอสุจินี้ซัดเข้าปากนางสวาหะ กำเนิดเป็นหนุมาน ผมมิได้นั่งเข้าฌานเอาเองนะครับเรื่องนี้ เอามาจากหนังสือเรื่อง รามเกียรติ์ ฉบับ มหาชน ของคุณสมบัติ พลายน้อย ศิลปินแห่งชาติครับ
    ต่อครับ นนทกนั้นได้มาเกิดในครรภ์ของนางรัชฎา มเหสีของท้าวลัสเตียน ซึ่งอยู่ในพรหมพงศ์ เราก็มากล่าวกันต่อในเรื่อง เผ่าพงศ์วงศ์ทศกรรฐ์กันต่อเลยครับ (หลังจากที่อารัมภบทมานานแล้ว -^-)
    พรหมพงศ์นี้ ผมอ่านเจอแล้วพบว่า มีตำนานเล่ากันเป็น 3 ทาง เอาทางแรกนะครับ
    จากในบทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ว่าไว้ว่า เริ่มจากที่ท้าวธาดาพรหมได้ครองเมืองลงกา เป็นกษัตริย์นามว่า ท้าวจตุรพักตร์ และมีมเหสีนามว่านางมลิกา ทั้งสองมีบุตรด้วยกันคือ ท้าวลัสเตียนอันเป็นบิดาของทศกรรฐ์
    ทางที่สอง ผมอ่านเจอจากหนังสือชื่อ โคตรวงศ์ทศกรรฐ์ ต้องกราบขออภัยที่จำชื่อผู้เขียนไม่ได้ แต่ในหนังสือเล่มนั้น ได้เรียบเรียงจากการแสดงโขนของท่านอาจารย์เสรี หวังในธรรม และท่านได้บรรยายไว้ว่า มีอยูครั้งหนึ่ง ฤาษีสุขได้นำเอาไม้ไผ่ขึ้นถวายพระอิศวรเพื่อทำธนู พระอิศวรจึงลองก่งดู แต่ไม่ไผ่เปราะเกินไปจึงหักลง พระอิศวรจึงขว้างทิ้งเสีย ปลายไม้ไผ่ส่วนหัวเกิดเป็นยักษ์ตนแรกของโลก ชื่อว่า เวรัมภาสูร ส่วนปลายท้ายเกิดเป็นลิงตัวแรกของโลก นาม นิลเกสร หรือชามภูวราช และพระอิศวรได้ทำนายว่าทั้งสองเผ่าพันธุ์จะเกิดศึกกัน และลิงจะมีชัย ต่อมาเวรัมภาสูรได้สร้างเมืองลงกาขึ้น เมื่อจะสิ้นชีพจึงมอบบัลลังก์ให้กับลัสเตียนผู้เป็นบุตร
    สุดท้าย มาจากหนังสือ รามายณะ กล่าวว่า ท้าวมหาพรหม มีมนัสบุตรนามว่า ปุลสัตย์มุนี ซึ่งมีจริยาวัตรเรียบร้อยสมราวกับเป็นวงศ์พรหม ต่อมาได้มีบุตรกับนางไกกะสี ธิดาท้าวสุมาลี เกิดเป็นทศกรรฐ์ กุมภกรรณ พิเภก (วิเภษณ์) และสำมนักขา (ศูรปนขา)


     

    ทศกรรฐ์
    เอาเป็นว่าเราจะเล่ากันเรื่องวงศ์ทศกรรฐ์ตามบทละครรามเกียรติ์ของเราละกัน แผนผังครับ

              


          
    เริ่มต้นที่ท้าวจตุรพักตร์ธาดาพรหม มีมเหสีนามมลิกา และมีโอรสนามว่าลัสเตียน ครองเมืองลงกา ต่อมาท้าวลัสเตียนครองราชย์ต่อ มีมเหสี 5 องค์ คือ นางสุนันทา นางจิตรมาลี นางสุวรรณมาลัย นางวรประไพ และนางรัชฎาเทวี
    นางสุนันทามีโอรสองค์หนึ่ง นามว่าท้าวกุเปรัน ครองเมืองกาฬจักรนคร เนินป่าหิมพานต์ องค์นี้ที่แท้ก็คือท้าวกุเวร ราชาแห่งโภคทรัพย์ โลกบาลสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
    นางจิตรมาลีมีโอรสชื่อท้าวทัพนาสูร ครองเมืองจักรวาล นางสุวรรณมาลัยมีโอรสชื่อ ท้าวอัครธาดา ครองเมืองวัทกัน นางวรประไพมีโอรสชื่อ ท้าวมารัน ครองเมืองโสฬส
    ส่วนนางรัชฎาเทวีนี่พระสวามีรักหน่อย มีโอรส 6 องค์ ธิดา 1 องค์ คือ ท้าวทศกรรฐ์ กุมภกรรณ พิเภก พญาขร พญาทูษณ์ พญาตรีเศียร และนางสำมนักขา
    ท้าวทศกรรฐ์ เป็นเจ้านครลงกา มีมเหสี 2 องค์ องค์แรก นามว่านางกาลอัคคี ธิดาท้าวกาลนาค มีโอรสกับทศกรรฐ์ชื่อ บรรลัยกัลป์ พระอัยกามาของไปเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ มเหสีองค์ที่สองนามว่า นางมณโฑ มีโอรสธิดากับทศกรรฐ์ คือ รณพักตร์ (หรือ อินทรชิต) นางสีดา (คงเข้าใจกันดีครับ ไม่ต้องอธิบาย) และไพนาสุริยวงศ์ (หรือท้าวทศพิน) นอกจากนี้ทศกรรฐ์ยังมีพระสนมอีก 1,010 คน (ที่ใช้คน เพราะเป็นพระสนม แสดงว่ามิใช่เจ้า ถ้าเป็นเจ้าจะได้เป็นชายา พระชายา พระอัครชายา ภรรยาเจ้ามิใช่เจ้าแต่กำเนิด ก็ถือเป็นสามัญชน) มีโอรสกับนางสนม 1,000 องค์ เรียกรวมกันว่า สหัสกุมาร มีโอรสกับนางสนมอีก 10 องค์ นอกจากนี้ยังมีโอรสธิดาจากการแปลงร่างไปสมสู่กับสัตว์อีก คือ แปลงร่างเป็นช้างสมสู่กับนางช้าง เกิดเป็นทศคิรีวัน และทศคิรีธร ท้าวอัศกรรณมารา สหายทศกรรฐ์มาขอเอาไปเลี้ยง และแปลงเป็นปลาสมสู่กับนางปลา เกิดเป็นนางสุพรรณมัจฉา
    อินทรชิตมีชายานามว่านางสุวรรณกันยุมา มีโอรสนามว่า ยามลิวัน (พญาวันยุพักตร์ เจ้านครกุรุราชในบาดาล) กับกันยุเวก (พญากันนุชิต ครองนครจักรวาล)
    กุมภกรรณ มีชายานามว่านางจันทวดี ไม่มีโอรสธิดา เพราะว่ากุมภกรรณใช้เวลาทั้งหมดไปกับการหลับ หลับ แล้วก็หลับ ทำไมกุมภกรรณช่างขี้เซาแบบนี้น่ะหรอครับ ในรามายณะกล่าวไว้ว่า เพราะตอนที่กุมภกรรณพร้อมด้วยทศกรรฐ์และพิเภก ทำพิธีบูชาขอพรพระพรหม เมื่อพระพรหมมาปรากฏ ทศกรรฐ์ขอพระให้ตัวเองไม่ตายด้วยฝีมือเทวา ทานพ แทตย์ อสูร รากษส คนธรรพ์ กินนร นักสิทธิ์ และเผ่าพันธุ์ชั้นสูงทั่วไตรภพ แต่กลับต้องมาตายเพราะพระรามที่เป็นมนุษย์ สายพันธุ์เดียวที่ทศกรรฐ์มิได้ยำเกรง ส่วนพิเภกขอพระให้ตนมีคุณธรรม สามารถแยกแยะดีชั่วได้ทุกสถานการณ์ คงความดีได้ชั่วกาลปาวสาน จึงได้พรจากพระพรหมให้มีชีวิตตราบสิ้นดินฟ้า ส่วนกุมภกรรณนั้น เดิมทีมีร่างที่ใหญ่โตมโหฬารมาก มีอิทธิฤทธิ์เยอะ นิสัยใจบาปหยาบช้า (ผิดกับทางไทยที่มีจิตใจทรงคุณธรรม เห็นได้จากหอกโมกขศักดิ์ที่มิเคยขึ้นสนิม) เหล่าวเทวดาพากันห้ามปราม พระนางสุรัสวดีเทวีพรหม เทวีแห่งการพูดจึงสถิตที่ลิ้น กล่าวขอพระว่า “มหาบิดร ได้โปรดให้ข้าหลับใหลตราบนานเท่านานเถิด” (ชื่อกุมภกรรแปลว่า หูเท่าหม้อ ส่วนคำว่ากุมภัณฑ์ ที่หมายถึงยักษ์ แปลว่า อัณฑะเท่าหม้อ 555+ ใหญ่มาก^^)
    พิเภก หรือ ท้าวทศคิรีวงศ์ มีชายานามว่านางตรีชฎา มีธิดานามว่า นางเบญกาย ส่วนพญาขร มีมเหสีนามว่านางรัชฏาสูร มีโอรสนามว่า มังกรกัณฐ์และแสงอาทิตย์
    นางสำมนักขานั้นแต่งงานกับชิวหา ลูกพี่ลูกน้อง มีโอรสธิดา 3 องค์ คือ กุมภกาศ วรณีสูร และนางอดูลปิศาจ โคตรวงศ์ชิวหานั้นสืบมาจากนางกากนาสูร ดังนี้
    นางกากนาสูร รากษสแห่งกรุงลงกา มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของท้าวจตุรพักตร์ ญาติชั้นยายของท้าวทศกรรฐ์ มีโอรส 2 องค์ คือ พญาสวาหุ และพญามารีศ พญามารีศนี้ มีชายานามว่านางเจษฎา และมีโอรสนามว่า ชิวหา นนยวิก และวายุเวก
    นอกจากพรหมพงศ์สายนี้แล้ว ก็ยังมีสายของท้าวสหมลิวันอีก คือ ท้าวสหมลิวัน อันเป็นญาติกับท้าวจตุรพักตร์ มีโอรสนาม ท้าวศากยวงศ์ (มหายมยักษ์) ซึงมีมเหสีนามว่านางจันทรประภา และมีธิดานามว่านางพิรากวน โอรสนามท้าวมัยราพณ์ นางพิรากวนมีโอรสชื่อ ไวยวิก (หรือวันยวิก)
    แทบกระอักครับ T_T ที่ผมไม่อธิบายไรมากเพราะว่าเรื่องนี้เป็นที่รู้ๆ กันอยู่แล้ว หรือไม่ก็หาข้อมูลได้ง่าย ที่ผมจะทำก็เพียงมาโยงให้ง่ายขึ้นต่อการลำดับญาติ ที่จริงยังมี 7 พันธมิตรของทศกรรณ์อีกนะครับ แต่คงเยอะไป แล้วไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ไว้โอกาสหน้านะครับ สวัสดีครับ^/\^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×