ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วนลดา…มรรคาแห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5 เงือกทอง- แครนบรู๊ค เบลล์

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 54


    - แครนบรู๊ค เบลล์ (Cranbrook Bell-Darwinia meeboldii) ใบเรียวยาวประมาณหนึ่ง เซนติเมตร มีกลิ่นหอม มีดอกตรงปลายกิ่ง ดอกเป็นรูประฆัง ความยาวดอกประมาณ 3 เซ็นติเมตร กลีบสีขาวปลายกลีบเป็นสีแดงสด มีอีกชื่อว่า Mountain bells



    เวลาสี่ทุ่ม คืนเดียวกันนั้น  เจ้าชองเรือนร่างงามในภาพเขียน เพิ่งวางหูจากการโทรศัพท์เปลี่ยนแปลงกำหนดนัดหมายกับปานใจ เพื่อนสนิทซึ่งกลับไปบ้านที่สงขลาตั้งแต่บ่าย  บิดาของปานใจเป็นคนสงขลาจากครอบครัวเชื้อสายเจ้าเมืองเก่า ส่วนมารดาเป็นชาวกรุงเทพ มีลูกสาวสองคน คือปานจิตและปานใจ กับลูกชายคนโตชื่อปราณทำงานอยู่ธนาคารทหารไทยสาขาสงขลา

    เด็กสาวกับปานใจนัดจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษากันตั้งแต่ก่อนปานใจจะกลับบ้าน พวกเธอวางแผนกันว่าจะพักสมองเต็มที่สุดสัปดาห์นี้ก่อนจะทุ่มดูหนังสือสุดตัวในสัปดาห์ต่อไป โดยเธอกะว่าจะขับมินิคูเปอร์สีแดงคันเล็กไปเอง แต่เมื่อพวงพอลไปด้วยและเขาอาสาจะเป็นคนขับก็เลยว่าจะเพิ่มรายการนำเที่ยวที่คิดว่าน่าสนใจนอกเหนือไปจากพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา

    ตอนนี้เธออยู่ที่ห้องเพียงลำพัง ด้วยปานใจไปค้างบ้าน กว่าอรชาจะลงจากวอร์ดหลังเที่ยงคืน และสุนทรามีนัดไปดูหนังกับแฟนหนุ่ม

    พูดถึงแฟน เธอไม่อยากจะนึกถึงคำนี้เลย แม้พี่กฤษณ์...ชายหนุ่มที่เป็นคู่หมั้นตามการจัดการของผู้ใหญ่จะดีกับเธอ แต่เธอไม่ได้รู้สึกกับเขาฉันคนรัก ไม่มีความรู้หวาบไหว ท้องไส้ปั่นป่วน ไม่เหมือนกับเวลาอยู่กับ...กับพอล...

    เด็กสาวหยิบผลการสอบ โทเฟลและไอเอลส์ กับเอกสารใบสมัครที่ปริ๊นท์จากคอมมาดู คะแนนของเธอเท่าที่ผ่านมาสูงพอจนมีงานเป็นอาจารย์ที่คณะรออยู่ เธอกะจะทำงานหาประสบการณ์สักพัก แล้วจะส่งใบสมัครเรียนที่ Sinclare School of Nursing ของมหาวิทยาลัยมิสซูรี ซึ่งน้าคนหนึ่งของเธอทำงานเป็นหัวหน้าพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งและกำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ที่นี่ กับเลือกสถาบันสำรองอีกสองสถาบันคือ Curtin’s School of Nursing ที่เวสเทิร์นออสเตรเลีย School of nursing and Midwifery ที่ควีนสแลนด์ การเรียนต่อเป็นทั้งความใฝ่ฝันทางวิชาชีพและโอกาสประวิงเวลาแต่งงาน

    เช้าวันเสาร์ เก้านาฬิกาตรง

    พอลดูแลจนเด็กสาวนั่งรัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย ทั้งคู่ดูแผนที่ตามที่ปานใจแนะนำเส้นทางว่าให้เธอพาพอลไปตามทางหลวงหมายเลข 407 ถนนกาญจนวนิชย์ไปเก้าเส้งก่อน จากเก้าเส้งก็ไปดูรูปปั้นนางเงือกแหลมสมิหลาตรงหาดชลาทัศน์ แวะดื่มกาแฟที่โรงแรมบีพีสมิหลา แวะแหลมสนอ่อน ปานใจจะไปเจอที่นั่นแล้วไปพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยาที่เกาะยอ กินกลางวันที่เกาะยอ ส่งปานใจที่บ้าน แล้วย้อนกลับมาสวนสาธารณะและร้านอาหารบนเขาในสวน ก่อนกลับเข้ามหาวิทยาลัย

    พอลเตรียมน้ำดื่มไว้แล้วในรถ ก่อนออกรถเขาถามเธอว่า

    “อยากแวะซื้ออะไรก่อนไปมั๊ย”

    “เตรียมไว้แล้วค่ะ”

     พรมาตาเปิดเป้สีชมพูให้เขาดูในนั้นมีขนมจุกจิกเพียบ เขาจึงออกรถ เด็กสาวหยิบลูกอมรสกาแฟออกมาแกะจะส่งให้กับมือ แต่เขากำลังจะเลี้ยวรถ จึงทำกริยาบุ้ยใบ้ให้เธอป้อน เด็กสาวไม่ทันคิดป้อนลูกอมเข้าปากอิ่มสีชมพูรูปสวย

    ด้วยความลืมตัว พอลตวัดลิ้นไล้เลียนิ้วเรียวหอมกรุ่น ทำให้คนป้อนหน้าเป็นสีชมพูก่ำ รีบหดมือกลับแกะลูกอมอีกเม็ดส่งเข้าปากตัวเองด้วยความเขิน ก่อนขยุ้มห่อลูกอมใส่กลับไปในเป้

    ทั้งคู่เงียบกริบ ถ้ามีตาทิพย์คงเห็นบรรยากาศในรถเต็มไปด้วยประกายไฟสป๊าคแปลบปลาบ

    ไม่ถึงสามสิบนาทีก็ถึงสามแยกสำโรงตรงโรงพยาบาลประสาทสงขลา เขาจึงเลี้ยวรถเข้าไปยังหาดเก้าเส้ง ที่หาดมีเรือประมงลำเล็กของชาวบ้านจอดเรียงราย เด็กสาวกับพอลเดินขึ้นเขาเก้าเส้งหรือเก้าแสนซึ่งไม่สูงมาก ไปดูหินก้อนใหญ่ “หัวนายแรง” ซึ่งตั้งเด่นอยู่เหนือโขดหิน เด็กสาวเล่าประวัตินายแรงผู้เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ตามตำนานปรัมปราให้เขาฟัง พรมาตาวางมือทั้งสองลงบนก้อนหินใหญ่ พอลวางมือชิดมือเธอ นิ้วก้อยทาบทับบนนิ้วเรียวกลมกลึง สัมผัสผิวนุ่มนวล หากดังมีกระแสไฟแล่นแปลบปลาบถึงกัน  ทั้งคู่ลองขยับออกแรงผลัก หากไม่สามารถขยับเขยื้อนหินก้อนใหญ่นั้นได้

    “สงสัยเราไม่ได้เป็นลูกหลานนายแรง เลยขยับไม่ได้ค่ะ” เด็กสาวบอก หน้าเป็นสีชมพูเรื่อ

    “นั่นซิ เราเลยไม่พบสมบัตินายแรง” พอลประสมโรงยิ้มๆ ตาคมมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู

    จากนั้นก็ขับรถไปอีกเพียงสามกิโลเมตรถึงหาดชลาทัศน์ จอดรถและลงเดินไปยังรูปปั้นบรอนซ์รมดำของ “เงือกทอง” เงือกสาวสัญลักษณ์ของแหลมสมิหลา ซึ่งเบื้องหลังของนางคือเกาะหนูและเกาะแมว

    “ในคืนวันหนึ่ง วันที่ท้องฟ้าสวยงาม ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มชาวประมงรูปงามก็ได้พบเงือกสาวแสนสวยนั่งหวีผมยาวสลวยด้วยหวีทองคำ เมื่อเขาตื่นตัวจากอาการตกตะลึง และขยับตัว นางเงือกซึ่งหันมาเห็นก็ตกใจ หนีลงน้ำไป ทิ้งไว้แต่หวีทองคำ ชายหนุ่มผู้นั้นเฝ้าแต่รอนางหวนคืนมา หากนางก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย”  พรมาตาเล่าตำนานเงือกสาวตามคำบอกเล่าของขุนวิจิตรมาตรา

    “น่าสงสาร ผู้ชายคนนั้น...” ในมโนภาพ พอลมองเห็นภาพชายหนุ่มผู้เฝ้ารอนางในฝัน อย่างชัดเจน เขาตั้งใจจะวาดภาพของเงือกทองและชายหนุ่มตามจินตนาการ

    จากนั้นขับรถอ้อมเพียงนิดชายหนุ่มก็นำรถไปจอดยังลานจอดรถของโรงแรมบีพีสมิหลา แล้วทั้งคู่ก็เข้าไปในห้องอาหารและพบปานใจที่นั่งรออยู่

    ขณะนั่งดื่มกาแฟ และรับประทานของว่าง ปานใจมองชายหนุ่มชาวตะวันตกรูปงามและเพื่อนสาว รับรู้ได้ถึงกระแสสัมพันธ์บางเบาแต่แน่นเหนียวที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างสองหนุ่มสาว  ได้แต่ภาวนาเอาใจช่วย เพราะรู้ดีว่า เพื่อนรักไม่ได้มีใจต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นที่ผู้ใหญ่จัดการ

    จากบีพีสมิหลา ไม่นานก็ถึงแหลมสนอ่อน มีต้นสนยีนเรียงรายอยู่สองข้างทางนับเป็นร้อยร้อยต้น ทั้งสามคนเข้าไปถวายความเคารพศาลและอนุสาวรีย์ของเสด็จเตี่ย หรือหมอพร พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาของทหารเรือไทย

    แล้วขับรถข้ามสะพานติณสูลานนท์ไปยังสถาบันทักษิณคดีศึกษาที่เกาะยอ

    เด็กสาวทั้งสองกับพอลเข้าชมตัวอาคารอันเป็นสถาปัตยกรรมภาคใต้ ที่สร้างลดหลั่น ห้องที่แสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์  จัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ทั้งโบราณวัตถุที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น และโบราณวัตถุอันแสดงว่ามีการติดต่อระหว่างคนพื้นเมืองภาคใต้กับชนภายนอก ได้แก่ จีน อินเดีย มลายู อาหรับ และกลุ่มประเทศทางตะวันตก

    ทังสามไปชมห้องที่แสดงถึงศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอาณาจักรโบราณในภาคใต้ นั่นคือ อาณาจักรตามพรลิงก์ อาณาจักรลังกาสุกะ อาณาจักรศรีวิชัย และสทิงปุระ กับชนกลุ่มน้อยอย่างชาวเลและเงาะป่าซาไก

    ห้องเครื่องประดับโบราณ โดยเฉพาะลูกปัดนั้นน่าตื่นตาตื่นใจมาก พอลสนใจห้องแสดงศาตราวุธที่ใช้กันในภาคใต้ จำพวก ดาบโค้งแบบเปอร์เซีย ดาบแบบซามูไร กริช มีดชายธง และ มีดหางไก่  ส่วนเด็กสาวทั้งสองสนใจผ้าทอพื้นเมือง อันได้แก่ผ้าทอพุมเรียง ผ้าทอนาหมื่นศรี ผ้าทอปัตตานี  โดยเฉพาะผ้ายกดิ้นเงินดิ้นทองอันมีชื่อเสียงมาแต่โบราณ

    อาคารถัดมาพอมาถึงห้องกระต่ายขูดมะพร้าวอันเต็มไปด้วยรูปทรงต่าง ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หลายตัวเป็นแบบอีโรติค ที่ทำให้สองสาวหน้าแดงก่ำ และพอลอมยิ้มอย่างขำๆ ดังเช่น รูปเงาะตัวดำผมหยิกในท่าโก้งโค้งมีที่ขูดมะพร้าวโผล่ออกมาตรงหว่างขา

    แล้วเดินวนชมห้องอื่นๆ ทั้งห้องแสดงการละเล่นอย่างหนังตะลุง โนรา ลิเกป่า ห้องแสดงวิถีชีวิตชาวใต้ มีทั้ง การแสดงการละเล่นและของเล่นเด็ก รวมทั้ง การเล่นซัดราว การเล่นว่าว ลูกข่าง ห้องแสดงประเพณีการบวช  แล้วก็ที่พอลและสองสาวสนใจและแสดงความคิดเห็นกันมากที่สุดคือ ห้องแสดงการรักษาพยาบาลแบบโบราณ

    เกือบบ่ายโมง ทั้งสามจึงไปร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของเกาะยอริมทะเลสาบสงขลา ขณะที่เดินเข้าไปในร้าน ก็มีชายหญิงกลุ่มหนึ่งเดินสวนออกมา ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำดูท่าเป็นผู้ใหญ่มีอำนาจ หากชายหนุ่มคนหนึ่งผิวสีแทนรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเดินอยู่ข้างๆ ชายผู้นั้นชะงักกึก เอ่ยขออนุญาตจากชายผู้นำ แล้วเดินเข้าตรงมาทักพรมาตา...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×