ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Princess of Time

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 6 ชมรม และกลุ่มเวทย์

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 47


                                                                 บทที่ 6 ชมรม และกลุ่มเวทย์



    “ ครั้งหนึ่ง ฉันเคยมีพร้อมทุกอย่าง แต่... ไม่มีเพื่อน เพราะใครๆก็กลัว ...มันก็คงคล้ายๆกับเธอในตอนนี้ ...  แต่แล้ววันหนึ่งฉันก็พบเพื่อน ฉันดีใจและมีความสุข จนกระทั่งเพื่อนคนนั้นได้หักหลังฉันเอง แต่ฉันก็ยังเปิดใจรับเพื่อนอยู่ดีเพราะไม่อยากปิดกลั้นตัวเอง จะว่าไม่เข็ดก็ได้ แล้วในที่สุดฉันก็ได้พบเพื่อน ที่มั่นใจว่าจะไม่มีทางหักหลังกันอย่างที่เคยเป็น แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น ฉันยังมีความสุขดีทุกอย่าง



    …เพียงแค่ลองเปิดใจและให้โอกาสคนอื่นเข้ามาเท่านั้น... ฉันมองเห็นอดีตของตัวเองในตัวเธอจึงอยากจะบอกกับเธอเพียงว่า ลองให้โอกาสตัวเองดูสักครั้ง อย่าปิดกลั้นตัวเองเพราะคำนินทาของคนอื่น มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ถ้าเธออยากมีเพื่อนเมื่อไหร่ล่ะก็ มาหาฉันได้เสมอนะ ...ฉันจะรอ… ”




    เสียงหวานชวนฟังของใครคนหนึ่งยังดังก้องในโสตประสาท ในขณะที่เธอเดินไปเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย แล้วใช้ความคิด จากนั้นจึงตัดสินใจ...



    ---***---***---***---***---



    “ ไปลงชื่อกันก่อนเลยนะ เดี๋ยวตามไป ” อลิซบอกเพื่อนๆ เมื่อเห็นคนๆหนึ่งเดินมาหา

    “ ตกลงใช่มั๊ย ” เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าเธอจึงส่งยิ้มให้แล้วยื่นมือมา

    “ งั้นก็...ยินดีต้อนรับสู่กลุ่มจ้ะ ” อีกฝ่ายยื่นมือมาจับเป็นการรับคำแล้วส่งยิ้มรับ



    “ เคท...เธอจะเข้าชมรมเดียวกับฉันรึเปล่า ชมรมนักเวทย์น่ะ ”

    “ อืม...เอาสิ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเข้าชมรมอะไรเหมือนกัน ”

    “ งั้นเราก็ไปลงชื่อกันดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนๆจะรอนาน ” พูดจบเจ้าตัวก็ลากเพื่อนไปที่ห้องชมรมด้วยความรวดเร็ว



    ---***---***---***---***---



    หลังจากลงชื่อและบอกเพื่อนเรื่องเคทเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เข้าห้องชมรมเพื่อฟังการนิเทศน์



    “ สวัสดีครับทุกคน พี่ชื่อเบสท์ เพเทล เรียกว่าพี่เบสท์ก็ได้นะครับ พี่เป็นประธานชมรมนี้..สำหรับชมรมของเราจะว่าเป็นชมรมการกุศลก็ไม่ผิดนะครับ เพราะเราจะมีการฝึกให้ทุกคนเก่งเวทย์ขึ้น แต่จะไม่มีการต่อสู้ใดๆทั้งสิ้น เพราะการต่อสู้ด้วยเวทย์จะอยู่อีกชมรมหนึ่งซึ่งก็คือชมรมการต่อสู้นั่นเอง...



    ชมรมของเราจะมีการส่งคนไปช่วยชมรมอื่นในงานต่างๆที่แต่ละชมรมต้องแสดงถึงได้เรียกกันว่าชมรมการกุศลน่ะนะ ในแต่ละครั้งเราจะมีคนมาวัดระดับเวทย์ คอยแนะนำช่วยเหลือ และแต่ละคนจะถูกส่งไปตามชมรมต่างๆในการช่วยเหลือชมรมนั้นๆตามที่พวกกรรมการชมรมเป็นคนจัด สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำชื่อกันก่อนนะครับ เริ่มจากคนแรกเลย...  ”



    ดูจากรุ่นพี่ที่เป็นประธานชมรมอลิซจึงได้รู้ว่าทำไมชมรมนี้สาวๆถึงได้เยอะเป็นพิเศษ แถมสาวๆพวกนั้นยังปรายตามาเผื่อคนที่นั่งอยู่รอบๆเธอทำให้อดหัวเราะไม่ได้ เพราะนอกจากไคกับเอ๊ดที่นั่งเฉยไม่สนใจแล้ว เชกับเดรนั้นนั่งเบียดกันอย่างขนลุกและท่าทีของทั้งคู่ทำให้อดที่จะหัวเราะไม่ได้



    ---***---***---***---***---



    “ อลิซ ทางนี้! ” เสียงจากพี่ชายดังแว่วมาแต่ไกลทำให้อลิซหันไปมองแล้วพาเพื่อนๆเดินไปที่แถวบ้านโรสควอตซ์ของเธอ



    “ หาแถวไม่เจอรึไง ”

    “ เปล่านะ ลิซแค่มองหาเพื่อนบางคนเท่านั้น ว่าแต่...เขาจะให้ทำอะไรบ้างเนี่ย ” แก้ตัวแล้วแสร้งเปลี่ยนเรื่องพลางกวาดตาไปรอบๆแล้วส่งยิ้มเจื่อนๆให้รุ่นพี่ที่กำลังส่งทั้งยิ้มทั้งเก๊กมาให้



    “ ก็ฟังสิน้อง ” ยังไม่ทันจะได้ถามเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น



    “ ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่การคัดแยกนักเรียนสู่สายเวทย์ต่างๆ ” มีเสียงปรบมือดังขึ้นเป็นพิธีแล้วผู้อำนวยการสาวสวยก็พูดต่อ “ ทีนี้ก็ขอให้นักเรียนปีสองถึงปีสี่ที่รู้สายเวทย์ รู้กลุ่มของตนแล้วแยกออกมาตั้งกลุ่มเหมือนปีที่แล้วนะจ๊ะ ” หลังจากที่รุ่นพี่แต่ละบ้านจับกลุ่มกันตามสายเวทย์เสร็จแล้วก็เหลือแต่ปีหนึ่งที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อจนผู้อำนวยการสาวพูดขึ้น



    “ สำหรับนักเรียนปีหนึ่งนั้นคงจะเห็นป้ายกลุ่มเวทย์ต่างๆที่จะมีรุ่นพี่ประธานถืออยู่ คาดว่าทุกคนคงรู้สีเวทย์ของตัวเองแล้ว เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนแยกย้ายไปเข้ากลุ่มของตัวเองด้วย สำหรับเวทย์พิเศษใส สีทอง สีเงิน และสีดำ เนื่องจากมีจำนวนน้อยเราจึงให้เรียนรวมกัน ส่วนสีอื่นเรียนแยก เชิญจ้ะ ”



    จากนั้นนักเรียนก็แยกย้ายกันไปเอ๊ดนั้นไปกลุ่มสีน้ำเงิน วีนได้ไปอยู่สีเขียว แคตสีฟ้า เซียสีแดง เดรสีน้ำตาล เชสีฟ้าเช่นเดียวกันกับแคต แคลร์สีเขียวเหมือนวีน ส่วนเคทนั้นอยู่ที่สีเหลือง ไคสีเงิน และ อลิซสีทอง อลิซจึงเดินไปเข้ากลุ่มพร้อมกับไค



    “ หวัดดีพี่ ” อลิซกล่าวทักทายพี่ชาย พี่เฟิร์ซนั้นก็ได้อยู่กลุ่มเดียวกันเพราะสีเวทย์ของเขาคือสีเงิน

    “ ดีน้อง…ไม่ต้องมองป้ายเลย อย่างที่คิดนั่นแหละ พี่เป็นประธานอีกแล้ว... ” เสียงพี่ชายไม่ได้ฟังดูเศร้าสร้อยเหมือนตอนที่พูดว่าเป็นประธานบ้านแสดงว่าถึงไม่เต็มใจก็ไม่ได้หมายความว่าหนักใจ ซึ่งยากจะเดาว่าพอใจหรือเปล่า



    “ คนน้อยจังเลย ” อลิซพูดพลางกวาดตามองแล้วส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ทุกคนในกลุ่มซึ่งมีน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ



    “ อืม...ก็มีสีใส 2 คน สีดำ 5 คน สีทอง 10 คน แล้วก็สีเงินอีก 18 คน รวมแล้วก็ 35 คน ”

    “ กลุ่มอื่นมีมากกว่า 40 อีก ” พูดพลางหันไปมองกลุ่มอื่นที่มีเยอะกว่า ขนาดกลุ่มเธอรวมกัน 4 สีแล้วยังเยอะสู้กลุ่มอื่นไม่ได้



    “ น้อยๆแหละดีแล้ว เวลาสอนจะได้ทั่วถึง ” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของทั้งคู่ทำให้หันไปมองแล้วอลิซก็รีบนั่งลงข้างๆไคที่พยายามสะกิดบอกเธอแล้วแต่ไม่เป็นผล เพราะเจ้าตัวดันคุยเพลิน



    “ สวัสดีทุกๆคนจ้ะ ครูชื่อทีนาเรีย วาร์ล เป็นครูประจำสีเวทย์กลุ่มของพวกเธอจ้ะ ” คุณครูวัยกลางคนที่ดูยังแข็งแรงและยังสวยกล่าวอย่างเป็นมิตรกับทุกคน



    “ อาจารย์ขา คือ...อาจารย์เวทย์สีอะไรหรอคะ ” เสียงหนึ่งถามขึ้นจากนักเรียนปีหนึ่งต่างบ้านที่อลิซไม่รู้จัก



    “ สีใสจ้ะ ” คำตอบนั้นเรียกเสียงพึมพำเล็กๆจากปีหนึ่ง เพราะเวทย์สีใสนั้นหาได้ยากมาก บางเมืองแทบไม่มีด้วยซ้ำ



    “ อาจารย์สอนกลุ่มนี้คนเดียวหรือคะ ” เสียงถามจากเด็กสาวเจ้าปัญหาคนเดิมเพราะเห็นกลุ่มอื่นมีครูประมาณ 2 – 3 คน



    “ มีครูอีกคนหนึ่งจ้ะ แต่ครูเขาติดธุระ คราวหน้าพวกเธอก็คงจะได้เจอ ” จากสรรพนามที่ครูเอ่ยเรียกและจากคำบอกของรุ่นพี่ทำให้อลิซรู้ว่าครูอีกคนเป็นผู้ชาย



    “ สำหรับวันนี้เราก็มาแนะนำตัวกันนะจ๊ะ เริ่มจากรุ่นพี่ปีสี่แนะนำรุ่นน้องก่อนเลย ” แล้วการแนะนำตัวก็เริ่มขึ้น เริ่มจากพี่เฟิร์ซประธานชมรมไล่ไปเรื่อยๆจนจบปีสี่ซึ่งก็มีพอๆกันกับปีสามและปีอื่นๆ ในจำนวนนั้นมีรุ่นพี่ที่เป็นประธานชมรมนักเวทย์ด้วย จากนั้นต่อด้วยปีสามและปีสอง จนกระทั่งปีหนึ่งที่มีอยู่ 8 คน



    “ จีนารีก้า โมนาร์บ้านเพริดอต เวทย์สีทอง จากไพคัสค่ะ ” เสียงหยิ่งๆเอ่ยขึ้นทำให้อลิซหันไปจ้อง ดูจากนามสกุลแล้วถึงทำให้รู้ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงของเมืองไพคัส เมืองแห่งรูปภาพ จีนารีก้าหันมาจ้องตาเธอตอบอย่างท้าทายทำให้อลิซไม่ชอบหน้าเธอเอาซะเลยแล้วก็รู้ได้ว่าจีนารีก้าเองก็ไม่ชอบเธอเช่นกัน



    “ มาช่า ลาซาเวียร์ บ้านเพริดอต เวทย์ดำ จากไพคัสค่ะ ” น้ำเสียงหยิ่งน้อยกว่าจีนารีก้านิดหน่อยดังขึ้น เธอนั่งอยู่ข้างๆจีนารีก้าดูท่าทางจะเป็นเพื่อนสนิทกัน แถมยังหันมามองอลิซอีกทำให้เธอหมายหัวไว้ว่าไม่ชอบเป็นคนที่สอง จากนามสกุลทำให้อลิซรู้ว่าเธอเป็นลูกหลานตระกูลพิเศษซึ่งมีชื่อเสียงว่าจมูกดีเป็นเลิศ ( ดียิ่งกว่า...ซะอีก )



    “ แอลลี่ โฮซัล บ้านเพริดอต เวทย์สีเงิน จากไพคัสค่ะ  ” คนที่สามที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนสองคนนั้นกลับดูต่างกันเพราะดูเจ้าหล่อนเรียบร้อยน้ำเสียงราบเรียบปกติไม่หันไปมองหรือนินทาใคร เธอเป็นลูกหลานของตระกูลที่มีชื่อเสียงทางด้านการสร้างภาพลวงตาซึ่งแนบเนียนและเหมือนจริงยิ่งกว่าผู้ใช้เวทย์กระจกลวงตาซะอีก



    “ พลอสเซอร์ เดวิล บ้านโรสควอตซ์ เวทย์ดำ จากเดวิลัส ” คำแนะนำตัวสั้นๆห้วนๆจากพลอซ แต่นามสกุลที่บ่งบอกว่าเป็นเจ้าชายแห่งเดวิลัส เมืองแห่งปีศาจทำให้เป็นที่จับตามอง ส่วนรุ่นพี่นั้นก็คิดกันในใจว่าปีหนึ่งรุ่นนี้...ไม่ธรรมดา



    \" จัส เมเจอร์ บ้านโรสควอตซ์ เวทย์เงิน จากฟอล์คกอต ” คราวนี้เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่เอ๊ดเคยชี้ให้ดูครั้งหนึ่งว่าอยู่บ้านเดียวกันกับเขา และจากนามสกุลก็ทำให้รู้อีกนั่นแหละว่าเขาเป็นลูกหลานของตระกูลผู้สื่อสารกับเทพ



    ท่าทางของจัสนั้นดูเย็นชาและนิ่งเงียบพอๆกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆเธอในขณะนี้เลยทีเดียว จากนั้นอลิซและไคก็แนะนำตัวแล้วก็มาถึงปีหนึ่งคนสุดท้ายซึ่งก็คือสาวเจ้าปัญหา ที่ยกมือถามครู 2 รอบก่อนหน้านี้



    “ เฟียร่า ฟลาว บ้านคริสตัล เวทย์เงิน จากฟลอรัสค่ะ ” เธอคือเจ้าหญิงจากฟลอรัส ซึ่งได้ฉายาว่าเมืองแห่งดอกไม้ เธอเป็นนักเรียนปีหนึ่งเพียงคนเดียวในกลุ่มที่มาจากบ้านคริสตัล ปีหนึ่งปีนี้ประทับอยู่ในใจรุ่นพี่เพราะแต่ละคนไม่ธรรมดาเลยจริงๆ



    “ อืม...ปีหนึ่งปีนี้รู้สึกเราจะได้แต่คนดีๆมานะ ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของประธานแล้วล่ะจ้ะ ” พอครูบอกเฟิร์ซก็ลุกขึ้นบอกอย่างรู้หน้าที่



    “ ก่อนอื่นต้องขอบอกปีหนึ่งว่าเราจะจับกันเป็นคู่ๆนะ โดยที่ทุกคนจะมาจับลูกบอลเล็กๆจากกล่องที่พี่ถืออยู่นี้ คู่ของเธอจะเป็นคู่ซ้อมฝึกปรือฝีมือกัน ลูกบอลเวทย์ที่ให้จับนี้จะเป็นตัวเลือกคู่ให้ เพียงแค่ยื่นมือไปในกล่องลูกบอลจะลอยเข้ามาในมือเอง ในวันนี้เราจะให้ทักทายกันก่อน เอาล่ะ น้องๆปีหนึ่ง เชิญครับ ”



    บรรยากาศทางปีหนึ่งเป็นไปอย่างเงียบกริบ แต่ละคนเดินมาจับฉลากซึ่งก็คือลูกบอลเล็กๆสีต่างๆทั้งหมด 4 คู่ ทุกคนเดินต่อแถวกันมาอย่างเงียบๆ ไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบซึ่งพวกรุ่นพี่เองก็แปลกใจอยู่กับน้องๆรุ่นนี้



             คนแรกที่ยื่นมือออกมาจับคือเฟียร่าผู้มีเวทย์สีเงิน หลังจากเธอจับแล้วก็กำไว้แน่นไม่มีใครรู้ว่าเธอจับได้สีอะไร คนต่อๆมาก็ปิดลูกบอลของตนเอาไว้ และเนื่องจากมันค่อนข้างเล็กถ้าเจ้าตัวไม่โชว์ก็คงไม่มีใครเห็น บรรยากาศของปีหนึ่งยังคงเงียบสงัด มีแต่เสียงรุ่นพี่คุยกันที่แว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ อลิซเป็นคนสุดท้ายที่ได้จับแล้วก็ได้แต่ภาวนาถึงคู่ฝึกของเธอ



    พอรุ่นพี่บอกให้โชว์คนแรกที่เปิดออกมาคือพลอซซึ่งได้คู่เป็นมาช่าที่มีเวทย์สีเดียวกัน นั่นยิ่งทำให้อลิซใจคอไม่ดีเพราะกลัวสิ่งที่คิดจะเป็นจริง เธอกำลูกบอลสีทองในมือแน่น คู่ต่อมาคือจัสกับไค เวทย์สีเงินทั้งคู่ เหลืออีกเพียงแค่สองคู่เท่านั้นและจีนารีก้าก็ตัดสินใจโชว์ลูกบอลออกมามันเป็น...สีทอง!!



    แล้วอลิซก็ได้ตระหนักว่า...ถึงคราวความซวยมาเยือนใครก็หยุดไว้ไม่ได้ เธอจึงได้แต่ทำใจกลบเกลื่อนสีหน้าไม่ชอบใจแล้วโชว์ลูกบอลออกมาบ้าง จากนั้นก็มองตาคู่ของเธออย่างไม่สะทกสะท้านแล้วกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉยชาจนคนรอบข้างรู้สึกได้



    “ สวัสดีโมนาร์ ”

    “ หวัดดี ครูเว่น ” อีกฝ่ายตอบกลับเสียงเย็นไม่แพ้กันทำให้บรรยากาศชักอึมครึม



    “ คือ เอ่อ...ทีนี้ก็ทุกคนตามสบาย ทำความรู้จักกับคู่ตัวเองไปก่อนนะ ส่วนอลิซ...ถ้าน้องจะช่วยกรุณาพาคู่ไปคุยทางอื่นก็ได้นะ พี่ไม่ว่า ” คำพูดจากพี่เฟิร์ซทำให้หลายๆคนชักเห็นด้วยเพราะไม่ชอบบรรยากาศหนาวๆแบบนี้ก็ในห้องมันก็เปิดแอร์อยู่แล้ว ยิ่งสองคนนี้มาคุยกันแม้จะสั้นๆก็ทำให้หนาวขึ้นถนัดตา



    “ เชิญ ” เจ้าหญิงแห่งมัลเลนเป็นฝ่ายออกปากรักษามารยาท ทั้งคู่เดินไปที่อีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นที่ว่าง



    “ ครูเว่นมีธรรมเนียมทดสอบคู่ฝึกอะไรก็ว่ามา จะเอาของวีเชอร์ก็ได้ ดูท่าทางเธอจะได้สายเลือดมาเยอะนี่... ” น้ำเสียงนั้นบอกได้ยากว่าผู้พูดต้องการสื่ออะไร แต่คำพูดและท่าทางทำให้อลิซไม่ชอบเลย แม้จะพยายามทำใจมองในแง่ดีก็เถอะ เพราะเธอคงต้องทนคู่กับจีน่าถึง 4 ปี...คำพูดของจีน่านั้นแปลได้อีกนัยหนึ่งว่า ...เธอมีอะไรดียะ



    “ ขอบใจ แต่ฉันกลัวว่าเจ้าหญิงจากไพคัสจะรับไม่ไหว ” คำพูดตอกกลับด้วยน้ำเสียงพอกัน อีกฝ่ายก็พอจะรู้ทันว่าความหมายของมันคือ ...อย่างเธอจะไหวหรอ...พูดง่ายๆว่าดูถูกกันนั่นเอง จีน่าที่พอจะเข้าใจความนัยนั้นก็จัดการสวมหน้ากากต่อตามที่ได้รับการสั่งสอนมาจากในวังของเธอ



    “ ฉันไหวแน่นอน อยู่ที่ว่าเธอจะมีดีจริงรึเปล่า ” คราวนี้คำพูดสื่อความหมายออกมาตรงๆเพราะรู้กันถึงความนัยอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นอีกที่จะต้องปิดบัง





    “ นั่นก็ต้องดูว่าลูกหลานตระกูลโมนาร์อย่างเธอจะทำให้ธรรมเนียมของนักล่าอย่างวีเชอร์แสดงออกมาได้แค่ไหน ” อลิซกล่าวถึงตระกูลทางแม่ของเธอที่ได้ชื่อว่าเป็นนักล่าปีศาจ ส่วนครูเว่นตระกูลทางพ่อที่เป็นนักสะกดย่อมไม่มีธรรมเนียมแบบนี้ ...จากคำพูดที่ผ่านมาของจีน่าทำให้เธอคิดว่า คนตรงหน้าต้องรู้ดีเรื่องของเธอพอสมควร



    ขณะที่ทั้งคู่กำลังจมอยู่ในห้วงแห่งความคิดและพิจารณาฝ่ายตรงข้ามที่รู้กันแล้วว่าฝีปากก็ร้ายไม่แพ้กัน แต่ก็ยังจ้องตากันอยู่โดยพยายามปิดบังกันสุดฤทธิ์ถึงสิ่งที่ตนกำลังคิด แต่ถึงเจ้าหญิงแห่งไพคัสอย่างจีน่าจะสามารถสวมหน้ากากได้ดีเพียงไรก็คงไม่สามารถสู้เจ้าหญิงแห่งมัลเลนที่ได้ฉายา หน้ากากทองคำ ได้  อลิซจึงรู้ความคิดของจีน่า ในขณะที่อีกฝ่ายอ่านไม่ออกเลย





    ลมหนาวเริ่มพัดเย็นยะเยือกรอบด้านทั้งๆที่ประตูโถงนั้นก็ปิดสนิทแต่บรรยากาศในห้องกลับเย็นเยียบ มันไม่ได้เป็นเพราะเครื่องปรับอากาศหลายตัวในนี้ แต่เป็นเพราะคนสองคนที่กำลังจ้องกันเอาเป็นเอาตายราวกับว่าใครกระพริบตาแพ้



    ...รังสีของทั้งคู่นั้นแผ่ไปทั่ว แต่มันเป็นรังสีที่ไม่บ่งบอกเลยซักนิดว่าทั้งคู่เป็นสายเวทย์สีทอง เพราะมันเหมาะกับสีดำมากกว่า รังสีนั้นบ่งบอกได้ถึงความเกลียดกันราวกับมีมาแต่ชาติปางก่อนทั้งที่พึ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน แล้วเจ้าหญิงแห่งไพคัสก็เป็นฝ่ายออกปากก่อน



    “ ว่าไงล่ะ... ”

    “ ธรรมเนียมการวัดคู่ฝึกของวีเชอร์คือการวัดว่าคู่ของเรามีฝีมือมากน้อยแค่ไหน...วัดด้วยการต่อสู้อย่างที่เธอรู้มานั่นแหละ ” อลิซพูดอย่างรู้ทัน เพราะเธอมั่นใจว่าจีน่าต้องรู้เรื่องราวในตระกูลของเธอ แต่ทำไมถึงสนใจนั้น...เธอเองก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดี



             ตามปกติแล้วหนึ่งในความสามารถพิเศษของอลิซคือความสามารถทางตา เพียงแต่จ้องตาก็รู้ความลับ ดูท่าจีน่าจะรู้ความสามารถข้อนี้ด้วยจึงหาวิธีปิดกั้นมันจนได้ อลิซจึงไม่เห็นถึงความคิดหรือความลับของเธอ





    “ งั้นฉันนับหนึ่งถึงสามแล้วก็ค่อยเริ่มธรรมเนียมของเธอ ”

    “ ไม่...ให้เธอนับฉันเสียเปรียบ อีกอย่างสู้กันตอนนี้จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน รอไว้คราวหน้าเรียนเมื่อไหร่จะมีคาบแรกที่ให้วัดพลังกันตามที่ประธานตั้ง ไว้ถึงตอนนั้นเราก็มาวัดกันว่าฝีมือจะมีแค่ไหน ” พูดจบเจ้าตัวก็เดินจากไปไม่สนใจคู่ของตนอีก



    “ คอยดูเถอะครูเว่น ฉันจะต้องเอาชนะเธอให้ได้ จะได้รู้กันไปว่าเจ้าหญิงแห่งมัลเลนแน่แค่ไหนกัน… ”



    ------------------------------------------------------------------------------



    ในที่สุดบทนี้ก็จบลงแล้วค่ะ ต่อไปนี้ก็จะมาลงสม่ำเสมอทุกอาทิตย์ค่ะ บทหน้าก็เกี่ยวกับการประลองวัดฝีมือของจีน่ากับอลิซค่ะ ^^



    ขอบคุณ mishell สำหรับคำผิดจ้า

    ขอบคุณคุณ guest อีกหลายๆรอบสำหรับภาพที่ท่านส่งมาเกือบเดือนแล้วเราพึ่งเปิด ^^\"

    ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยค่ะ ^^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×