ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Arris Mistress

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 มิสเทรส

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 49


    บทที่ 1 มิสเทรส

                " แครีน ฉันขอโทษ... ฉันขอโทษจริงๆ " หญิงสาวกล่าวขึ้นพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น เจ้าหล่อนน่าสงสารจนอีกฝ่ายอดที่จะยกโทษให้ไม่ได้ จึงได้คว้าร่างบางเข้ามากอดไว้แล้วเอ่ยขึ้นว่า

                " ไม่เป็นไร... อย่าร้องไห้เลยนะเรล่า... ฉันยกโทษให้เธอแล้ว " คนกอดกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นแล้วลูบหลังอีกฝ่ายเป็นการปลอบขวัญ เธอดีใจที่ได้เพื่อนรักกลับคืนมามากกว่าที่จะโกรธกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำลงไป

                " ขอบใจนะแครีน ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นกับเธออีกแล้ว... ฉันสัญญา " เสียงสะอื้นของเรล่าหยุดลง นัยน์ตาสีครามวาวโรจน์ขึ้น!

    ฉึก!

    เลือดสดๆไหลรินจากบาดแผลที่กลางหลังของแครีนอย่างน่าสยดสยอง ...แผลที่เพื่อนรักขอเธอเป็นคนมอบให้กับมือ... นัยน์ตาสีน้ำตาลของแครีนเบิกกว้าง จ้องมองเพื่อนรักที่ลงมือสังหารเธอได้อย่างเลือดเย็นเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเธอก็สิ้นใจโดยไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาสักคำ

    เสียงหัวเราะของผู้ลงมือดังขึ้นหลังจากเห็นผู้ที่เธอเคยเรียกว่า " เพื่อนรัก " สิ้นใจ มือเรียวจับแน่นที่มีดสั้นซึ่งปักอยู่หลางหลังของอีกฝ่ายและดึงออกสุดแรง แล้วเจ้าหล่อนก็ทิ้งร่างของอีกฝ่ายลงพื้นอย่างไม่ใยดี นัยน์ตาสีครามบ่งบอกถึงความสมเพช ริมฝีปากสีแดงสดดั่งกลีบกุหลาบปรากฏรอยยิ้มหยันขึ้นก่อนเอ่ย

    " เธอแส่หาเรื่องเองนะแครีน ...ถ้าเธอไม่ขัดขวางฉันเธอก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้ ขอให้มีความสุขกับโลกหน้านะ ...ลาก่อน... " เธอส่งรอยยิ้มหยันให้ร่างไร้วิญญาณของอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเช็ดหยดเลือดสีสดที่เปื้อนมีดแสนรักแล้วก้าวเดินเพื่อไปพบเป้าหมายต่อไป ... เป้าหมายที่คงมีจุดจบไม่ต่างอะไรกับแครีน...

    ตึก!  ตึก!  ตึก!

                เสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว! ก็ในยามรัตติกาลเช่นนี้จะมีใครเล่าที่เข้ามาเยี่ยมคนป่วย... คิดแล้วก็หันไปมอง ' คนป่วย ' ที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงสีขาว... การหลับที่ยาวนานเหลือเกิน เจ้าหล่อนหลับเพราะอะไรก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ รู้แต่ว่าเธอคงจะเป็นเจ้าหญิงนิทราอย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน

                " สวัสดีค่ะ คุณพยาบาล " เสียงที่ทักขึ้นทำให้พยาบาลสาวสะดุ้งอีกครั้งหนึ่งก่อนจะค่อยๆหันไปมองผู้มาเยือนอย่างกล้าๆกลัวๆ พอเห็นแล้วเธอถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยผู้หญิงตรงหน้าก็เป็นคนล่ะนะ

                " สวัสดีค่ะ คุณเรล่า " หญิงสาวทักกลับแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ถึงแม้จะแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้มาในยามวิกาลเช่นนี้

                " คือ... พรุ่งนี้ฉันจะไปต่างเมืองน่ะค่ะ ก็เลยอยากจะมาลาซาเรียสักหน่อย " เจ้าตัวว่าแล้วทำนัยน์ตาเศร้าสร้อยจนอีกฝ่ายนึกสงสารถึงได้พยักหน้ารับแล้วส่งสายตาเห็นใจมาให้ แถมยังพูดปลอบอีกว่า

                " ถ้าอย่างนั้นก็เชิญตามสบายเถอะนะคะ... ดิฉันเชื่อว่าคุณซาเรียเธอจะต้องรับรู้ถึงความห่วงใยที่คุณมีให้อย่างแน่นอนค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ "

                " ค่ะ " ตอบรับแล้วก็ส่งรอยยิ้มเศร้าๆเป็นครั้งสุดท้าย แต่พออีกฝ่ายหันหลังให้ เรล่าก็จัดการดึงมีดเล่มโปรดที่ซ่อนไว้ออกมาทันที!

                ฉึก!

                มีดเล่มงามลิ้มรสเลือดอีกครั้งหนึ่งในค่ำคืนนี้และยังไม่มีท่าทีว่าจะจบสิ้น คนแรกคืออดีตเพื่อนรักของเธอ อีกคนคือพยาบาลผู้โชคร้ายที่คอยเฝ้าอดีตเพื่อนรักอีกคนหนึ่งที่เธอทำให้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราแล้วยังตามมาฆ่าถึงที่ เหลืออีกคนเดียวเท่านั้นในค่ำคืนนี้... อีกคนเดียว แล้วเส้นทางชีวิตของเธอก็จะราบรื่น ต่อจากนี้จะไม่มีใครหรือสิ่งใดมาขัดขวางเธอได้อีกต่อไป

                นัยน์ตาสีครามของเรล่าไม่หันไปเหลียวแลร่างของนางพยาบาลแม้แต่เพียงนิด มือเรียวดึงมีดสั้นอีกเล่มหนึ่งออกมาจากที่ซ่อน นัยน์ตาของเธอจับจ้องเหยื่อรายสุดท้ายอย่างไม่วางตา อีกไม่นาน... เจ้าหญิงนิทราจะไปนอนหลับอย่างผาสุกในโลกหน้า ไม่มาอยู่ขัดขวางเธอให้รำคาญใจ

                เจ้าของร่างบางสมส่วนยังคงนอนอยู่อย่างไม่รับรู้สิ่งใด เรือนผมสีดำเงางามเป็นประกายล้อกับแสงจันทร์ ดวงหน้างามดูสงบนิ่ง เจ้าหล่อนยังคงหลับตาพริ้ม สิ่งเดียวที่บ่งบอกถึงความมีชีวิตคือลมหายใจเข้าออกและหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ แต่อีกไม่นาน... ลมหายใจและชีวิตของเธอจะถูกพรากไปตลอดกาล

                " ลาก่อนนะ... ซาเรีย " รอยยิ้มเ หี้ ย มเกรียมปรากฏขึ้นบนดวงหน้า นัยน์ตาสีครามบ่งบอกถึงความพึงพอใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะลงมือกับเป้าหมายที่แท้จริงเสียที

                ฉึก!

                เลือดสดๆไหลทะลักจากปากและหน้าอกทางด้านซ้ายของผู้ที่นอนเป็นเป้านิ่งให้อีกฝ่าย ร่างบางมีปฏิกิริยาก่อนจะสงบลง ลมหายใจเข้าออกที่เคยมีกลับหยุดนิ่งไป... อย่างน้อยๆ เจ้าหล่อนก็จากไปอย่างสงบกว่าคนอื่นๆ

                ฉึก!

                นัยน์ตาของเรล่าเบิกกว้างเมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากด้านหลัง โลหิตสีสดไหลย้อยจากมุมปากทีละน้อย ร่างบางค่อยๆทรุดลงกับพื้น มือเรียวเอื้อมไปแตะด้านหลังบริเวณที่รู้สึกเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เจ้าตัวสัมผัสได้ถึงโลหิตของตัวเองและ... มีดแสนรักของเธอ!

                เรล่าค่อยๆหมุนตัวกลับมาอย่างยากลำบาก เธอเห็นศพของพยาบาลสาวที่แน่นิ่งอยู่แทบเท้า กลางหลังของศพไม่มีมีดของเธอที่เคยปักไว้ เพราะบัดนี้ มันได้สนองคืนแก่เจ้าของเสียแล้ว!

                นัยน์ตาสีครามวาวโรจน์ด้วยความเคืองแค้นในขณะที่เลือดยังคงไหลรินจากบาดแผลเป็นระยะๆ ทั้งๆที่เธอทำทุกอย่างสำเร็จแล้วแท้ๆ แต่กลับต้องมาจบลง ด้วยน้ำมือของพยาบาลคนหนึ่ง...ผู้ซึ่งเคยไร้พิษสง ...นัยน์ตาของเรล่าเริ่มพร่ามัวเพราะความเจ็บปวด สติสัมปชัญญะที่มีเริ่มขาดหาย แล้วร่างบางก็แน่นิ่งไปในที่สุด...

                " คัท! " เสียงผู้กำกับสั่งทันทีที่การแสดงจบลง นักแสดงแต่ละคนค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสำเร็จ ผู้รับบทแสดงเป็นเรล่าและนางพยาบาลต่างก็ดึงมีดออกจากร่างของตน ฝ่ายทีมงานเข้ามาเคลียร์พื้นที่และพานักแสดงเข้าไปพักผ่อน มีเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมลุกไปไหน... คนที่ติดใจที่นอนเข้าเสียแล้ว

                " ใครก็ได้ ปลุกเอร่าที! "

    ---***---***---***---***---

                ณ งานเลี้ยงเต้นรำสุดหรูใจกลางมหานครที่ยิ่งใหญ่อย่างเครนิส ร่างบางในชุดสีเพลิงเข้ากับดวงตาและเรือนผมอันงดงามที่ปล่อยยาวถึงกลางหลัง ผิวขาวผุดผ่องตัดกับสีชุดทำให้เจ้าหล่อนดูโดดเด่น นัยน์ตาสีทับทิมทรงอำนาจเข้ากับท่าทางแสนสง่าดุจนางพญาหงส์ ดวงหน้าของเจ้าหล่อนสวยแบบคมเข้ม... สวยแบบหาตัวจับได้ยาก ริมฝีปากสีกุหลาบแย้มยิ้มให้กับคู่สนทนา ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเจ้าหล่อนจะดูโดดเด่นที่สุดในงาน

                " ค่ะ งานนี้รับรองว่ามิสเทรสจะไปอย่างแน่นอน " เจ้าหล่อนตกปากรับคำคนตรงหน้าพร้อมกับแย้มรอยยิ้มกว้างขึ้น แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นขัดบทสนทนาที่กำลังจะว่าเรื่องรายละเอียดของงาน

                " ขอตัวสักครู่นะคะ " หญิงสาวกล่าวแล้วยิ้มให้ปิดท้าย ก่อนจะเดินไปหาที่คุยในมุมสงบของงาน

                " มีอะไรหรือคะ ถึงได้โทรมาตอนนี้ " เจ้าหล่อนถามเสียงเรียบ ในหัวเริ่มเดาเรื่องราวต่างๆได้ลางๆ

                " คือ... คุณโรสครับ ผมโทรมาจากกองถ่ายละครเรื่องลางโลหิตนะครับ " อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจสุดๆ เธอเดาได้เลยว่าคงเป็นทีมงานคนใดคนหนึ่ง เพราะผู้กำกับคงยุ่งอยู่กับเรื่องวุ่นๆตามที่เธอคิดไว้

                " ค่ะ " เธอตอบรับเบาๆ คาดว่าอีกไม่นานเธอคงได้ออกจากงานนี้เสียที ก็ดีไปอีกแบบ ถ้าไม่ใช่ว่าสาเหตุมันเป็นเพราะ...

                การนั่งรอคอยคนที่เป็นผู้นัดทำให้เธออารมณ์เสียเป็นอย่างมาก นัยน์ตาสีฟ้าเริ่มขุ่นลงเรื่อยๆทั้งๆที่อีกฝ่ายเพิ่งช้าไปแค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง แต่สำหรับเจ้าหล่อน 5 นาทีนี้มีค่าพอที่จะทำให้เธอตัดสินใจอะไรบางอย่างได้... การตัดสินใจที่จะทำให้เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นครั้งที่สองเป็นอันขาด

                ในขณะที่เธอกำลังนั่งคิดอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้เธอหลุดจากภวังค์ นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองหมายเลขที่โทรเข้ามาอย่างแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะกดรับสายแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามปรับให้เป็นปกติ เพราะเธอรู้ดีว่า ความหงุดหงิดใดๆนั้นไม่ควรไปลงที่เพื่อนรัก โดยเฉพาะกับเพื่อนรักคนนี้

                " มีอะไรเหรอโรส "

    >

                " เทียร์ ขอโทษทีนะที่มาช้าไปหน่อย ฉัน... " ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาที่มีดีกรีเป็นถึงพระเอกภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์พยายามอธิบายกับแฟนสาวที่พึ่งคบกันมาได้แค่ 2 วันเท่านั้น

    >

                " ไม่ต้องพูด ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ตอนตัดสินใจคบกับนายฉันบอกไปแล้วว่าฉันจะไม่ฟังคำอธิบายหรือคำแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เราเลิกกันนะซีฟ! " เจ้าหล่อนว่าแล้วก็เดินเชิดหน้าออกไปจากร้าน ปล่อยให้สายตาของชาวบ้านจ้องมองพระเอกหนุ่มอย่างอยากรู้อยากเห็นเต็มที่

    ---***---***---***---***---

                ณ ร้านอาหารร้านเดิม ชายหนุ่มนักธุรกิจหน้าตาสูสีกับพระเอกภาพยนตร์ที่กำลังนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่อีกฟากหนึ่งของร้านกำลังนั่งจิบกาแฟอย่างใจลอย นัยน์ตาสีนิลจับจ้องอยู่ที่นาฬิกาเรือนสวยหรูของร้านชื่อดังแห่งนี้ เขากำลังรอหญิงสาวที่นัดเอาไว้ อีกไม่กี่วินาทีก็จะถึงเวลานัดแล้ว... และเจ้าหล่อนก็ตรงเวลาเสมอ

                เมื่อเข็มวินาทีชี้ที่เลข 12 นัยน์ตาสีนิลของเขาก็หันไปจับจ้องอยู่ที่ประตูร้านซึ่งมีคนกำลังเปิดเข้ามาพอดี และคนๆนั้นเป็นคนที่เขารอคอย ริมฝีปากบางส่งยิ้มมาให้แต่ไกลเมื่อมองเห็นเขา

                นัยน์ตาสีอำพันของเธอยังคงเป็นประกายและแลดูอ่อนโยนอย่างที่เคยเป็นเสมอ เส้นผมสีเงินถูกจัดแต่งอย่างดีไร้ที่ติ ดวงหน้าหวานละมุนที่แลดูคุ้นตาทำให้คนในร้านหันมามองเจ้าหล่อนอย่างสนใจ ...ใช่... เธอดูน่าสนใจ อ่อนโยน น่ารัก อ่อนหวาน และเป็นแม่ศรีเรือน อัธยาศัยก็ดี ...เขาคงไม่ตัดสินใจทำแบบนี้ถ้าไม่ได้เห็นเหตุการณ์เมื่อวาน เหตุการณ์ที่เขาคงจำไปจนกระทั่งหมดสิ้นลมหายใจ

                " รอนานหรือเปล่าคะ " เธอถามแล้วนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม ส่วนเขาก็ตอบตามแบบฉบับสุภาพบุรุษทั่วไป

                " ไม่นานหรอกครับ ผมเองก็เพิ่งมา " ...เพิ่งมา แต่สามารถดื่มกาแฟไปได้เกือบหมดถ้วย น่าเชื่อถือเสียเหลือเกิน พ่อสุภาพบุรุษ... เจ้าหล่อนคิดในใจ ริมฝีปากบางส่งรอยยิ้มหวานให้อีกฝ่ายอย่างที่เคยทำ

                " แล้วที่นัดมาวันนี้... "

                " มาย... คือ... ผมมีเรื่องอยากจะบอกคุณนิดหน่อยน่ะครับ แต่ทานข้าวกันก่อนก็ได้ "

                " ไม่ดีกว่าค่ะ ...ฉันมีธุระที่ต้องรีบไปทำ เข้าเรื่องของคุณเลยดีกว่านะคะ " พอเห็นอีกฝ่ายยังนิ่งเงียบไม่กล้าเอ่ยเริ่ม มายจึงได้ถามขึ้น

    " เรื่องเมื่อวานหรอคะ " ถามตรงประเด็นเพราะนึกเอาไว้อยู่แล้ว แต่ใจหนึ่งเธอก็หวังว่ามันจะไม่เป็นจริง

                " ใช่ครับ คือ... ผม... "

                " คุณรับไม่ได้ ก็เลยจะมาขอเลิกกับฉันใช่ไหมคะ " เจ้าหล่อนถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่สื่ออารมณ์ใดๆ

                " เอ่อ... ก็ทำนองนั้นแหละครับ " เขาเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายเดาอะไรได้จนหมด ส่วนตัวเขาเองไม่สามารถเดาอารมณ์หรือความคิดของเจ้าหล่อนได้เลย

                " ฉันหวังว่าเราคงยังเป็นเพื่อนกันได้นะคะ ลาก่อน " มายไม่อยู่รอฟังคำตอบใดๆก็รีบเอ่ยลาทันที อยู่ฟังไปก็มีแต่ช้ำใจเปล่าๆจะฟังไปทำไม สู้เอาเวลาไปปลุกเพื่อนที่น่ารักซะยังดีกว่ามาเสียเวลากับคนที่ไม่รู้ค่าของเธอ

    ---***---***---***---***---

                " เอร่า! ตื่นเดี๋ยวนี้นะ! " โรสเริ่มหมดความอดทน จากแรกๆที่ปลุกด้วยวิธีดีๆกลายเป็นตะโกนใส่หู แต่อีกฝ่ายยังไม่สะดุ้งสะเทือนสักนิด นัยน์ตาสีแดงเพลิงที่วาวโรจน์ด้วยโทสะนั้นทำให้คนในกองถ่ายออกห่างจากรัศมีอันตรายของเธอ

                " เอร่า! ตื่นได้แล้ว! " เทียร์เองก็เริ่มจะเป็นแบบโรส โทสะของทั้งคู่ทำให้ทุกคนออกห่างมากกว่าเดิม แต่เป็นใครก็ต้องโกรธ ในเมื่อใช้สารพัดวิธี ทั้งแบบละมุนละม่อม และแบบใช้กำลัง แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิดเดียว

                " ฉันมาแล้ว! " เสียงของมายราวกับเสียงสวรรค์ที่ช่วยให้รังสีอำมหิตที่น่ากลัวของทั้งคู่ลดลง ซึ่งก็ทำให้คนในกองถ่ายนี้ใจชื้นขึ้นอีกเป็นกอง ที่ดีใจที่สุดเห็นจะเป็นผู้กำกับที่ไม่ต้องเสี่ยงกับการอาละวาดของโรสและเทียร์ที่อารมณ์ก่อนหน้านี้ใกล้จะระเบิดเต็มทน

                " มาช้าจังเลยนะมาย... ถ้ามาช้ากว่านี้เธออาจจะได้เห็นเอร่ากลายเป็นศพแบบในละคร " เทียร์พูดขึ้นอย่างหงุดหงิด จากเดิมที่หงุดหงิดอยู่แล้ว พอมาเจอแบบนี้เข้าเลยกลายเป็นหงุดหงิดยกกำลังสองซึ่งอาการนี้เสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ที่เข้าใกล้อย่างเห็นได้ชัด

                " ตื่นได้แล้ว เอร่า "

                " ขออีกนอนแป๊บนึงนะมาย " คำตอบนั้นทำให้โรสและเทียร์แอบหมั่นไส้เล็กๆ ทีพวกเธอปลุกล่ะไม่กระดิกสักนิด พอมายพูดปลุกนิดหน่อยก็ดันตื่นมาตอบ มันน่านัก!

                " กลับไปนอนที่บ้านดีกว่านะเอร่า ตอนนี้คนอื่นเขาวุ่นวายกันใหญ่แล้ว "

                " อืม " เอร่าตอบรับอย่างว่าง่าย เปลือกตาบางค่อยๆเผยอขึ้นก่อนจะกะพริบสองสามครั้ง เผยให้เห็นนัยน์ตาสีนิลที่ส่อแววง่วงอย่างเห็นได้ชัด

                เป๊าะ!

                เอร่าดีดนิ้วขึ้น แล้วร่างทั้งร่างก็ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีขาว ก่อนจะหายไปจากตรงนั้นในพริบตา ซึ่งก็คาดเดาได้ไม่ยากว่าเจ้าหล่อนคงไปหลับต่อที่บ้านอย่างที่มายบอกจริงๆ แต่ที่สำคัญก็คือ... อารมณ์ของคนสองคนที่อุตส่าห์ปลุกอยู่เนิ่นนานแถมยังถูกอีกฝ่ายทิ้งชิ่งหนีไปแบบนี้อีก ...กลับไปล่ะน่าดู!

    -----------------------------------------------------------------------------------------------

    aris : บทนี้ยังไม่มีอะไรมาก แค่แนะนำตัวละครและคาแรกเตอร์ให้รู้จักค่ะ ในบทหน้าจะบอกว่ามิสเทรสและชาร์โดว์ ( ที่กล่าวถึงในบทนำ ) คืออะไร ส่วนเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงนั้นคงต้องติดตามกันเองในบทที่ 2 ซึ่งออยเองก็ยังไม่ทราบว่าจะลงได้เมื่อไหร่ ยังไงก็ขอคอมเม้นต์ ( และคะแนนโหวต ) สำหรับบทนี้ด้วยนะคะ ^^ พบกันบทหน้าค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×