ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สู่ LIMBO (ขอบนรก) และก้าวแรกสู้การเป็นเกรียนเกม(ยอดฝีมือ)(50%)
“เฮ้ย คนเค้ามีชื่อเว้ย มาเรียกผีลืมหลุม เดวปั๊ดเหนี่ยว” เจ้าของเสียงแหบพร้าพูดขึ้นด้วยความหัวเสีย ดูเหมือนหน้าที่ขาวซีดอยู่แล้วจะซีดยิ่งกว่าเดิมซะอีก (หมอนี้ก็เป็นอีกตัวที่สีผิวแสดงอารมณ์ได้สินะ ฉันคิด)
..
“ไอ้พวกหน้าตายังกะผีตายซากก็สมควรที่จะได้รับชื่อว่าผีลืมหลุมแล้วแหละวะ รีบๆตายกลับลงหลุมไปซะไป้ !!” หมาน้อยอ่อยเหยื่อเถียงกลับพร้อมด่าสมทบ
“หน่อยไอ้บ้านี้” ฉันไม่ได้คิดไปเองนะว่าเจ้าของฉายา (ที่เจ้าตัวไม่เต็มใจรับ) ผีตายซากเหมือน ผิวจะขาวจนดูโปร่งใสอยู่แวบหนึ่ง “มาถึงยังไม่ได้ทำเหวไรเลย แม่มด่าอย่างเดียว วันนี้ปากปีจออย่างแกไม่ได้ตายดีแน่ พวกเราลุย”
ฉันมองภาพผู้เล่นสามสิบกว่าคนวิ่งอิรุงตุงนังเข้าใส่กลุ่มอัศวินในชุดเกราะทองอย่างเนื่อยๆ ก่อนที่สายตาจะพลันไปสบตากับคนข้างๆ ดูเหมือนพวกเราจะมีความคิดตรงกันนะ
“เธอ ใช้ไอ้ทักษะใหม่นั้นเป็นแล้วใช่ไม้ ?” หน้าจืดกระซิบถามฉัน
“อืม ไปกันเถอะ ไงเราก็ไม่เกี่ยวอยู่แล้ว” ฉันตอบ จริงๆ ในจังหวะที่หน้าจืดมันกำลังเจรจา ฉันแอบศึกษาจนใช้ทักษะใหม่ได้แล้ว
“แยกกันคนระทางนะ เจอกันที่ เอ่อเธอรู้จักที่ไหนบ้างเนี้ย”
“ตอนฉันออกไปล่ามอน(ก่อเรื่อง) เหมือนจะเห็นว่ามีเสาที่ส่องแสงได้อยู่ในป่าด้วย เราไปเจอกันที่นั้นก็ได้”
“อืม Linbo งั้นหรอ อืมๆ จริงๆ ก็กะพาเธอไปอยู่แล้ว เจอกันที่นั้นแล้วกัน” สิ้นสุดคำพูดพี่หน้าจืดของเราก็พริ้วสไหวขึ้นไปบนฟ้าด้วยวิชาตัวเบาที่เหมือนกับเหาะมากกว่า เหล่าผู้เล่นที่กำลังตะลุมบอนกันอยู่หันมาดูกันด้วยสายตาที่เบิกค้าง สงสัยมันจะเป็น ability ขั้นสูง หึหึ ดูเหมือนฉันจะมาเจอไอ้หน้าโง่สุดเจ๊ง ที่แสนจะหลอกง่ายใช้คล่องซะแล้วสิ
ส่วนฉันเองก็เรียกการ์ดทักษะสไลด์ออกมา “อิลสตอล” ฉับพลันการ์ดก็กลายเป็นแสงแล้วหายเข้าไปในร่าง และเพียงฉันก้าวขาไปข้างหน้า ร่างของฉันก็พุ่งเหมือนกับคนที่ลื่นบนพื้นน้ำแข็ง แต่เนื่องจากไม่สามารถบังคับทิศทางได้ ทำให้ทิศที่ฉันพุ่งเข้าไปคือกองซากปรักหักพัง
ตูมมม !!
โอ๊ย นี้มันบ้าอะไรเนี้ย ฉันที่กำลังหัวทิ่มอยู่ในกองซากปรักหักพังโวยวายในใจ ตอนลองครั้งแรกมันไม่ได้พุ่งไกลขนาดนี้นี่นา หรือมันขึ้นอยู่กับความเร็วตอนก้าว
หลังจากที่เริ่มจับหลักได้ฉันก็ลองใช้ทักษะอีกครั้ง เสียงดังโวยวาย ประมาณว่ามันหนีไปแล้ว มันหนีไปแล้ว ดังไล่หลังฉันมา แถมไอ้หน้าจืดมันก็ไปแล้วไปรับแบบไม่คิดจะหันกลับมาห่วงกันซักนิด T^T ความเป็นสุภาพบุรุษหน่ะมีม้ายยยยยยยยยยยยยย ขอสาปแช่งให้หน้าแกมันจืด จืดสนิทตอลดปายยยย
..
ฮัดชิ่ววว อยู่ๆ ผมก็จามออกมา พึ่งรู้ว่าเกมนี้มันมีฟังชันจามด้วย รึเราเป็นหวัด
“เกมนี้มันมีหวัดรึเปล่าหว่า” ผมถามไปแบบไม่ได้ต้องการคำตอบ
“มีสิครับ”
กรู ไม่ได้ต้องการคำตอบ ผมกะจะตะโดนกลับไปอย่านั้น แต่พลันสำนึกได้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาทำอย่างนั้น ผมรู้ว่าตัวผมเองไม่ธรรมดา และแน่นอนคนที่สามารถเข้ามาใกล้บร๊ะเจ้าแห่งเมืองเริ่มต้นผู้ไม่ธรรมดาโดนไม่ให้บร๊ะเจ้าคนนี้รู้สึกตัวได้ก็ย่อมไม่ธรรมดา แต่ ผมมองไปยังต้นเสียง
“ผมเคยได้ยินว่าทางเหนือของคีซาน มียุงยักษ์ที่ทำให้เป็นหวัดได้อยู่”
นั้นมันไข้เลือดออกรึเปล่า และมันก็ไม่ใช่หวัด ผมเถียงอยู่ในใจ พลางมองเจ้าของเสียงด้วยความรู้สึกอันแปลกประหลาด มีดวงตาและผมสีฟ้า หน้าเด็กจนเหมือนเด็กประถม แถมหมอนั้นสูงแค่เอวผมอีก แต่เหตุที่สามารถจ่องตาผมได้ตรงๆ ก็เพราะหมอนี้มันลอยอยู่ บนตัวของมันติดเครื่องจักรไว้เต็มไปหมด และที่ทำให้ลอยได้ก็คงเป็นเพราะเครื่องจักรเหล่านั้น พวกนักประดิษหรอ
“นายเป็นใคร” ผมเอ่ยถามออกไปด้วยประโยคสุดคลาสสิค
“อ๋อ ขอโทดทีครับลืมแนะนำตัว” หมอนั้นหัวเราะแหะๆ แบบถ้าพวกรักเด็กมาคงบอกว่าหน้ารักสุดขีด แต่อารมณ์ผมตอนนี้อยากจะเอาทีนไปลูบหน้ามันชะมัด “ผมชื่อ เอพพิล ครับ อาชีพ นักรบจักรกล จากเมืองอลูซินอร์ ”
อาชีพขั้นสอง ผมหลิ่วตาอย่างไม่ไว้ใจ “ต้องการอะไร”
“พอดีพวกเราได้เห็นการต่อสู้ของพวกคุณในเมืองเริ่มต้น จึงอยากมาชวนไปเข้าพวกครับ”
จะบอกว่าถ้าเราไม่มีประโยขน์ก็ไม่ต้องการสินะ ผมถอนหายใจออกมา และคำตอบในใจผมมันก็แน่นอนอยู่แล้ว ผมไม่ต้องการเข้าร่วมกับใคร ผมไม่ต้องการไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามใดๆ
“ขอโทษนะ ชั้นคงไม่”
“ตกลง พวกเราจะเข้าร่วมด้วย” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังผมฉับพลัน พร้อมกับการปรากฏของเจ้าของดวงตาที่ตอนนี้กำลังเปล่งประกายแวววับ(อย่างไม่หน้าไว้ใจนัก)
“น่ารักจังเลยยยย !”
นั้นแหละครับ เหตุผลของเธอ
หลังจากนั้นผมก็ต้องยืนมองภาพอันสิ้นท่าของนักรบจักรกลที่กำลังดิ้นพลาดๆ อยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาว นั้นทำให้ผมเกิดอารมณ์อย่างจะกระตืบมันเข้าไปอีก อ๊ากกกก !! อิจฉาว้อยยยยยยยยยย !!!!!
“หัวหน้าครับ พวกมันหนีไปแล้ว”
“เออ กรูเห็น นึกว่ากรูโง่รึไงฟร่ะ” อวารอน ตอบลูกน้องกลับไปแบบหัวเสีย ไอ้บ้าผมเทากับผู้หญิงคนนั้นไวมาก ไม่มีทางเลยที่พวกเค้าจะสามารถตามได้โดยมีไอ้พวกอัศวินเกราะทองเส็งเคร็งพวกนี้ขวางอยู่
“จัดรูปขบวนไว้ ตั้งรับพวกมัน” หนึ่งในอัศวินตะโกนสั่งการ ทั้งหมดรับอย่างพร้อมเพรียงวิ่งมาเข้าแถวเรียงเป็นหน้ากระดาน เหล่าอัศวินที่รวมเป็นหนึ่งนั้นน่าเกรงขามมาก ท่าโจมตีอันทรงพลังที่ถูกปล่อยมาเป็นแถวหน้ากระดานค่อยๆทำให้ศตรูกลายเป็นแสงหายไปทีระคน ถึงแม้ฝั่งตรงข้ามจะมีจำนวนมากกว่าก็ตาม
“ฮึ่ม พวกแก” อวารอนกัดฟันอย่างหัวเสีย ควันสีดำดูหน้าหวาดหวันลอยออกมาจากความว่างเปล่าหมุนวนอยู่รอบๆอวารอนนั้น ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหมาป่าสีดำจำนวนเจ็ดตัว
“บ้าหน้า นั้นมันสกิลอะไรกัน แกเป็น summoner ไม่ใช่เราะ” หมาน้อยอ่อยเหยื่อร้องขึ้น
“ข่าวของพวกแกยังคงตกยุคไม่เปลี่ยนเลยนะ นี้คืออาชีพขั้นที่สามของ summoner” อวารอนแสยะยิ้ม “เนโครแมนเซอร์”
เหล่าอัศวินต่างสีหน้าซีดเผือด
“ทุกคน ใช้ใบวาร์ปกลับเมืองเร็ว” หมาน้อยอ่อยเหยื่อตะโดนก้อง พวกเค้าไม่ได้คาดคิดว่าศตรูในตอนนี้มีอาชีพขั้นสามอยู่ด้วย และหากเป็นเช่นนั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเค้าจะสามารถสู้ได้
“Warp”
พร้อมกันนั้นเสียงแหบพร้าก็ดังขึ้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น