คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เขียวหวานเชื่อมรัก
“ทั้งหมด ก็มีเขียวหวานสองถุง ขนมจีนสองถุง หมี่กรอบอีกหนึ่ง เป็นหนึ่งร้อยบาทพอดีค่ะ”
เสียงใครบางคนบอกลูกค้าที่กำลังมุง และรุมกันแย่งซื้อของที่หน้าร้าน ชั้นหันไปมอง เห็นยายแตง สาวน้อยร่างเล็กหัวหน้าชั้นปี
กำลังยกหม้อแกงเขียวหวานที่เพิ่งขายหมดเหลือแต่หม้อเปล่าๆ เข้ามาด้านใน ตรงที่ส่วนชั้นกำลังยืนอยู่
“นี่คุณแม่ครัวใหญ่ เขียวหวานได้หรือยังจ๊ะ” ยัยแตงส่งเสียงมาแต่ไกลถามหาแกงหม้อต่อไปที่ชั้นกำลังบรรจงปรุงอยู่
ซึ่งตอนนี้มันก็เริ่มเดือดได้ที่แล้วแถมยังส่งกลิ่นหอมหวนออกมา ซึ่งชั้นเชื่อว่าแค่ได้กลิ่นก็ต้องมีคนอยากชิมเป็นแน่ๆ
ยัยแตงเดินเข้ามาสมทบกับชั้นตรงหน้าเตาไฟ ก่อนจะยื่นหน้ามองลงไปในหม้อแกงเพื่อให้แน่ใจอีกทีพลางปาดเหงื่อที่หน้า
และท้าวเอวมองหน้าชั้น
”OK ๆๆ ได้แล้วจ้า” ชั้นหันไปหยิบใบโหระพาโรยหน้าลงไปก่อนบอกให้เพื่อนผู้ชายบางคนมาช่วยยก
“ขายดีมากเลยนะแก นี่สามหม้อเข้าไปแล้วนะ ขืนเป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้หน้าชั้นต้องเขียวตามแกงนี่แน่ๆๆ”
ยัยแตงบ่นอุบก็ใครจะไปคาดคิดเล่าว่าแค่เมนูพื้นๆ ขนมจีนแกงเขียวหวานธรรมดาๆ นั้นจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนพวกที่ทำ
หน้าทีตักขายอยู่หน้าซุ้มนั้นตักกันมือเป็นระวิงทีเดียว
วันนี้เป็นวันแรกของการออกร้านในงานของมหาลัยซึ่งคณะต่าง ๆ จะต้องมาเปิดซุ้มกัน ซึ่งพวกเราทุกคนคงไม่ต้องบอกคุณหรอก
นะ ว่าชั้นอยู่คณะอะไร เพราะคงไม่มีเด็กสถาปัตย์คนไหนมายืนคนหม้อแกงอยู่หรอก
ถูกต้องแล้วคร๊าบ .ชั้นอยู่คณะคหกรรมศาสตร์
“เป็นไงสาวๆๆ ขายดีไหมจ๊ะ” อาจารย์ภาณี ซึ่งเป็นที่ปรึกษาเดินเข้ามาถามที่ซุ้มด้วยท่าทีรื่นเริง
“โอ๊ย จารย์ขา ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ มีแม่ครัวเอกอยู่ทั้งคน” ยัยชั้น หรือขนมชั้นตอบแทนคนอื่น ๆ อาจารย์หันมาทางชั้นแล้วยิ้ม
“นั่นสิ ลองคุณพร้อมลงมือ ไม่มีใครกล้าว่า ว่าแกงเราไม่อร่อยหรอกเน๊อะ” อาจารย์ภาณีพูดพลางตบไหล่ชั้นเบาๆๆ
ก็อาจารย์แกเป็นรุ่นพี่พวกชั้นสี่ปี พอเรียนจบแกก็อยู่ทำงานที่ภาคต่อไม่ไปไหนเลยสนิทกับพวกเรามาก
และพร้อมใจเรียกชั้นตามที่พวกยัยแตงและยัยหนมชั้นมันเรียก ว่า คุณพร้อม
ก็ชื่อเต็มๆ ของชั้นคือ พร้อมพิลาศ ซึ่งเวลาใครๆๆ รู้เข้าก็ต้องคิดว่าเป็นนางเอกลิเกหลงมาเรียนคหกรรมนะสิ
______________________________________///
ชั้นเอามือทุบหลังไหล่ตัวเองเบาๆๆ ก็ถ้าลองใครมายืนแกงเขียวหวานสี่ห้าหม้อติดๆ กันไม่ปวดเมื่อยบ้างก็ต้องไหว้ล่ะ
อาจารย์ภาณีเดินกลับมาบอกให้ปิดครัวได้ เพราะใกล้เวลาเลิกงานแล้ว (จริงซินี่เกือบทุ่มแล้ว)
ชั้นเลยเดินออกมาช่วยเพื่อนคนอื่นๆๆ ขายของหน้าร้านแทน
“เฮ้ย! นั่นไงๆๆ” เสียงยัยเจนนี่หรือถ้าจะให้ดีเรียกว่านายเจนภพ จะถูกต้องกว่า กระดี้กระด้าขึ้นมาผิดหูผิดตา
แถมชี้โบ้ชี้เบ้อะไรไม่รู้
“ก็นั่นไงๆๆๆ หวานใจชั้นไงแก” ยัยเจนนี่ หน้าบานยิ่งกว่ากระดง แถมใช้สองมือของมันแหวกเพื่อนออกมาและทั้งผลักทั้ง
ดันตัวเองให้มันได้ออกมาอยู่หน้าร้านสุดๆๆชั้นหันไปมองตามทางก็เห็นแค่พวกเด็กวิดวะเดินมากลุ่มเดียวเท่านั้น
<แต่แหม นายพวกนี้มีของแถมเป็นสาวๆๆ เดินตามกันต้อยๆๆ เชียวเหมือนแมลงวันตอม .? หึๆๆ> ชั้นคิดแล้วหันมา
ช่วยหมูแดงเก็บจานชามที่วางไว้ไปล้างด้านหลัง
“อุ๊ย หนุ่มๆๆ ขา แวะ ซุ้มนี้หน่อยสิค้า ”เสียงยัยเจนนี่ สตอสุดฤทธิ์ แถมควักมือเรียกพวกที่เดินมาใหม่
“มีอะไรบ้างละ แกงเขียวหวานหรอ ยี้ ไม่เห็นน่ากินเลย” เสียงใครบ้างคนที่บังอาจมาตำหนิแกงของชั้นดังขึ้น
ชั้นหันไปมองทันที ยัยนั่นพอกหน้าเสียขาวเหมือนเล่นละครใบ้ แถมดัดผมหยิกตามแบบเด็กสยาม
แต่ชั้นว่ายัยนี่ทำแล้วเสียสถาบันเด็กสยามหมดเพราะหน้าหล่อนนะกระเดียดออกมาทางพุดเดิลเสียมากกว่า
“ไม่เห็นมีอะไรน่ากินเลยนี่ ไปเถอะค่ะเซ็นต์” ยัยหน้าวอกอีกคนจีบปากจีบคอ หันไปออเซาะนายคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“นี่เธอจ๋า ไม่ลองชิมจะรู้ได้ไงว่าไม่อร่อยนะ ถ้าไม่อร่อยนะวันนี้พวกชั้นไม่ขายได้เกือบหมื่นหรอกย่ะ” ยัยเจนนี่เถียงแทน
“โธ่ๆๆ คงลดแลกแจกแถมใหญ่ละสิ งั้นฟ้าก็อุดหนุนเขาหน่อยสิ หน้าสงสารออก” ยัยพุดเดิลหัวเราะดังลั่น
แล้วยัยพวกลิ่วล้อทั้งหลายก็หัวเราะตาม
“ไม่ต้องขาย หยุดตักเดี๋ยวนี้!” ชั้นตวาดยัยเจนนี่ที่กุลีกุจ้อจักแกงให้นายผมยาวนั่นกับหนุ่มอื่นๆ ในกลุ่มชิม
เสียงชั้นทำให้ยัยเจนนี่สะดุ้งจนกระบวยตักแกงกระเด็นออกจากมือ ส่วนชั้นเดินมาเผชิญหน้ากับยัยพุดเดิลที่หน้าร้าน
“แต่ชั้นจะซื้อ นี่เธอตักมาสองถุง” ยัยพุดเดิลยังดื้อด้าน แถมยังกระชากถุงแกงจากมือชั้น
หน้อยแนะ ยัยนี่ ไม่รู้จักคุณพร้อมสะแล้วฝันไปเถอะว่าจะได้กินแกงของชั้น
ชั้นกับยายนั่นเลยเล่นชักขะเย่อถุงเขียวหวานกันยกใหญ่
“นี่แจ๋ม เขาไม่ขายก็ไม่เห็นต้องไปซื้อเลย มีอย่างอื่นน่ากินกว่าตั้งเยอะ แกงนี่นะมันจะตายมีแต่พวกอ้วนๆๆ กินเท่านั้น
ล่ะ” เสียงนายผมยาวนั่นบอกแฟนมัน แถมหันหน้ามายิ้มเยาะแกงสูตรชาววังของคุณยายชั้น
“แกงนี่สูตรชาววังสมัยร.5 ไม่ใช่แกงทั่วๆๆ ไป มีไว้ให้พวกผู้ดีกิน ส่วนไอ้พวกปากตลาดสดนะ ชั้นว่าแค่เอาปากถู
กระดานก็อร่อยแล้ว” ชั้นด่าตอบทันที วิชามารยาทที่เรียนมาลืมสนิทไปเรียบร้อยแล้ว
ยัยพุดเดิลจ้องหน้าพลางเดินเข้าหา ชั้นก็เลยหันไปคว้ามีดคว้านผลไม้มาถือไว้ เล่นเอายัยนั่นชะงักทันที แต่นายผมยาวนั่นยังคงจ้องหน้าชั้นตาไม่กระพริบเลยพลางท้าวเอว กวนโทสะสุดๆๆ
<เอาสิ อยากลองของกับพร้อมพิลาศหรอ แม่จะเสียบให้เหมือนลูกชิ้นปิ้งเลย>ชั้นคิด ก็ชั้นนะเวลาโกรธและก็ไม่มีถอย
อยู่แล้ว จนเพื่อนเรียกว่าแม่ครัวตลาดแตกนั่นแหละ
“นี่พวกเธอพอได้แล้ว อะไรกันเรียนที่เดียวกันแท้ๆๆ” เสียงอาจารย์สังคม อาจารย์คณะสถาปัตย์เดินเข้ามาหย่าศึก
พวกยัยแจ๋มเจ๋อนั่นก็เลยหันไปฟ้อง แต่จารย์แกให้แยกย้ายกันไปเพราะกลัวเสียชื่อมหาลัยหมด
“ไปดีกว่าไพน์ แจ๋มว่าเราไปหาอะไรที่มันเดิ้ลๆๆ ทานดีกว่านะคะ ฮันนี่” ยัยเจ๋อเชิดหน้าพูด ควงแขนนายผมยาว
ที่ชื่อไพน์แล้วก็สะบัดก้นเดินออกไปทันที
“แกงหะ-หรี่” ชั้นเอ่ยลอยๆๆ ยัยแจ๋มหันหน้ามามองแต่ไม่กล้าเข้ามาหรอก ก็ชั้นยังถือมีดควานผลไม้อยู่ในมือนะสิ
แต่นายหน้าผอม ผมยาวนั่นมองจ้องชั้นราวกับจะฝากแค้นเอาไว้ แต่ชั้นไม่สนหรอก (เก่งจริ๊งๆๆ)
“เป้ง ๆๆๆๆ ยกแรกนางสาวพร้อมพิลาศชนะ” เพื่อนตะโกนลั่นซุ้ม อย่างสะใจ แถมยกมือให้ชั้นราวกับได้เหรียญทอง
โอลิมปิค ( ก็ใครใช้ให้มาดูถูกเด็กคหกรรมล่ะ ทำอย่างกับเกิดมาพวกนายไม่กินข้าวงั้นแหละ ไม่รู้จักบุญคุณคนหุงข้าวต้มแกงอย่างพวกชั้นแล้วยังจะมาปากหะมาอีก เชอะ) ชั้นนึกค่อนในใจ
นี่เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ชั้นได้เจอกับนายเก๊กนั่น และก็ลืมเขาทันทีภายในเวลาไม่เกินสามนาที
ความคิดเห็น