คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Dear Master 5
หากอยากที่จะเป็นผู้เขียนที่ดีก็ต้องรู้จักอ่านให้มาก....
และถ้าหากอยากเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง ก็ต้องรู้จักฝึกฝน..
ส่วนถ้าหากอยากเป็นฮีโร่เอง ก็ต้องรู้จักเสียสละเช่นกัน
เบื้องหน้าของราชาอัศวินนั้น มีร่างของหญิงผมสีน้ำเงินซีดมองตรงมายังเขาด้วยสีหน้าที่แปลกใจ ดวงตาสีทัวมาลีนแกมเเดงมองสบตากับเขาด้วยความไร้เดียงสา
เด็กสาวตรงหน้าย่อตัวลง ก่อนจะยื่นมือมายังเขา
"คือว่า... ให้ฉันช่วยนะคะ"
เด็กสาวพูดออกมาเป็นเชิงขออนุญาต ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือมาดึงกระชากเถาวัลย์ที่แม้แต่แรงของวีรชนก็ไม่สามารถดึงออกได้ เธอดึงออกมาอย่างง่ายดาย
"ขอบคุณที่ช่วยนะ คุณหนู"
อาเธอร์จับมือของเด็กสาวยกขึ้นจุมพิษบริเวณหลังมือด้วยความเคยชิน เด็กสาวแปลกหน้าใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาชายอีกคนที่ยืนอยู่ห่างๆไม่ใกล้ไม่ไกล
"อาเชอร์... คือว่านี่น่ะ เขาเป็นวีรชนเหมือนกันเหรอ?"
อาเธอร์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เด็กสาวถาม
เท่าที่เขารู้มาจากความรู้ที่น่าจะได้มาจากจอกศักดิ์สิทธิ์ โลกใบนี้นั้นผู้คนได้เกิดมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่าอัตลักษณ์ ว่ากันว่าเป็นพลังที่ได้มาจากการวิวัฒนาการของร่างกาย และเพราะเหตุนั้นตระกูลจอมเวทย์หรือผู้คนจากหอนาฬิกาในตอนที่เขาถูกอัญเชิญครั้งล่าสุดนั้น คงไม่มีเหลืออีกแล้ว..
แต่ว่าสิ่งที่เด็กสาวพูดนั้นเรียกความสนใจให้แก่เขาเป็นอย่างดี เมื่อมองตามไปเขาก็เห็นใบหน้าของชายหนุ่มผิวแทนผมสีเงินเดินเข้ามาใกล้ ใบหน้านั้นราชาอัศวินเองก็รู้จัก
"วีรชนเอมิยะ ไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอกันอีกครั้งแบบนี้"
อาเธอร์กล่าวทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส เขาสบัดข้อมือที่ถูกตรึงด้วยเถาวัลย์มายานั่นเป็นเวลานาน เอมิยะพยักหน้าและเอ่ยออกมาเช่นกัน
"ไม่คิดว่าจะโดนอัญเชิญมาในโลกเดียวกันเช่นนี้เหมือนกัน ท่านราชาอัศวิน"
"..รู้จักกันเหรอ?"
เด็กสาวหันมองทั้งสองคนด้วยความสงสัย อาเชอร์พยักหน้า
"ใช่แล้ว มาสเตอร์ ก่อนหน้านี้ฉันกับท่านราชาอัศวินเคยรับใช้มาสเตอร์คนเดียวกันมาก่อนน่ะ.. เพื่อช่วยโลก"
เด็กสาวตาเป็นประกายวาววับเมื่อได้ยินว่าช่วยเหลือโลก เธอหันไปทักทายอาเธอร์ทันที
"สวัสดีค่ะ หนูฟุโยริ คินากะเป็นมาสเตอร์ของอาเชอร์.. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ!"
คินากะเเนะนำตัวด้วยรอยยิ้มสดใส อาเธอร์ยิ้มตอบ
"ส่วนผม เรียกว่าเซเบอร์ได้นะ.."
เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปหาเอมิยะและชวนกลับบ้าน
สายตาของอาเธอร์นั้นหันไปมองเอมิยะด้วยท่าทางที่เหมือนกับว่ามีคำถามจะถามให้ได้ แต่เขาก็โดนขัดไปก่อนเมื่อเอมิยะชี้ไปยังเด็กสาวและบอกว่าไว้ค่อยคุยกัน..
ทั้งสามกลับมาถึงบ้านของคินากะโดยสวัสดิภาพ
ไม่นานนักเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คินากะตอนนี้นั้นได้เข้านอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนอาเธอร์และเอมิยะตอนนี้พวกเขากำลังออกมาด้านนอกในร่างของวิญญาณเพื่อที่จะไปสอดส่องดูเหล่าฮีโร่กำลังจัดการกับวิลเลินนั่นเอง
ใช่แล้ว ฟังไม่ผิดหรอก..
แถวบ้านคินากะมีเหตุก่อคดีของวิลเลินเสียบ่อยครั้ง แต่เด็กสาวถูกอาเชอร์ปิดหูปิดตาจากเรื่องนี้อยู่ตลอดหลายปี
"งั้นผมคงจะถามเรื่องที่ผมคาใจได้แล้วสินะ?"
"อือ"
เอมิยะพยักหน้าให้กับคำถามของอาเธอร์ ทั้งคู่เลือกที่จะไปหยุดอยู่ที่ดาดฟ้าตึกเรียนของคินากะ ในยามค่ำคืนเช่นนี้บนดาดฟ้าของโรงเรียนสามารถของลงไปเห็นถึงความวุ่นวายไม่สงบภายในเมืองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหล่าวิลเลินที่กำลังก่อการร้ายจนเกิดเปลวเพลิงและควันพวยพุ่งขึ้นมา แต่ก็ไม่อาจจะทำให้เหล่าวีรชนสนใจได้
ก็ตอนนี้เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำนี่นา..
"ทำไม.. ถึงยังมีจอมเวทย์หรือมาสเตอร์เหลืออยู่อีกล่ะ? ไม่ใช่ว่าตอนนี้ตระกูลจอมเวทย์น่าจะหายไปหมดเหมือนที่จอกศักดิ์สิทธิ์บอกมาไม่ใช่รึ?"
"ไม่หรอกฉันยืนยันได้เลยล่ะว่ายังเหลืออยู่.. อย่างน้อยก็มาสเตอร์ตัวน้อยของฉันไม่สิ ของพวกเรานั่นแหละ"
อาเชอร์ผุดยิ้มขึ้นมาระหว่างตอบ เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆในตอนที่เจอกับมาสเตอร์ได้อย่างดี
"แล้ว...นายพอจะมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมนอกจากที่จอกบอกมาหรือเปล่า อาเชอร์?"
"....."
เอมิยะยกยิ้มขึ้นมาเล็กๆ และเผลอหัวเราะออกมาในลำคอ ตอนที่เขาถูกอัญเชิญมาน่ะตัวเขาไม่รู้อะไรเลยสักอย่างและต้องใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะได้ข้อมูล แต่ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะให้ข้อมูลแก่วีรชนที่มาใหม่สินะ..
"เท่าที่ฉันรู้ ต้นไม้ที่นายและฉันถูกตรึงไว้ก่อนหน้านี้น่ะ คือต้นไม้แห่งโลก.."
"ว่าไงนะ? ต้นไม้โลก..งั้นเหรอ?"
เอมิยะพยักหน้าแทนคำตอบให้แก่อาเธอร์ เขาขมวดคิ้วแน่นพลางทำท่าทางครุ่นคิด แต่อาเชอร์เองก็ไม่ยอมปล่อยให้พูดอะไรต่อ
"มาสเตอร์ของฉัน คินากะน่ะไม่ใช่เด็กที่เกิดมาพร้อมอัตลักษณ์ เธอเป็นแค่มนุษย์ที่มีพลังเวทย์เอ่อล้นจากการที่โลกใบนี้ไม่มีผู้ใช้เวทย์คนอื่นเลย หลายปีก่อนเด็กคนนั้นเจอฉันที่ต้นไม้แห่งนั้นและเชื่อว่ามันเป็นพลังของอัตลักษณ์น่ะ.."
"แต่ถึงเธอจะหลอกตัวเองยังไง ความจริงก็คือความจริง เด็กคนนั้นไม่ได้มีร่างกายแข็งแกร่งเป็นพิเศษหรือมีพลังเฉพาะตัวเเบบพวกคนที่เกิดมาใหม่ เพราะงั้นฉันถึงคอยฝึกและทำสัญญาเป็นเซอร์แวนต์กับเธอเพื่อจะช่วยปกป้องเธอเอาไว้น่ะ..."
"ทำไมนายถึงต้องทำแบบนั้นกันล่ะ? บุญคุณเหรอ..?"
อาเธอร์เอ่ยถามขึ้นมา เอมิยะส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธ
"ไม่ใช่หรอก สาเหตุน่ะมันเป็นเพราะเธอเหมือนกับ ริทสึกะ.."
"!!"
เห็นท่าทางตกใจเเบบนั้นของอาเธอร์เอมิยะก็ผุดยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ เมื่อเขาเอ่ยชื่อมาสเตอร์คนสุดท้ายของมนุษยชาติ ที่เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องอนาคตของโลกใบนี้ และเข้าต่อสู้ร่วมกับพวกเขา..
ใช่... อดีตมาสเตอร์เพียงคนเดียวที่ปกป้องโลกใบนี้เมื่อหลายร้อยปีก่อน...
และนี่คือโลกในอนาคตจากนั้นไงล่ะ
"แต่ไม่ใช่เเค่นั้น อีกสาเหตุน่ะมันก็เพราะ..."
เอมิยะเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะเสมองไปยังทางที่ฮีโร่และวิลเลินกำลังต่อสู้กันอยู่เขาเงียบไปสักพักด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย ก่อนจะเปิดปากเล่าต่อ
"โลกใบนี้น่ะมันโหดร้าย มาสเตอร์น่ะต้องการจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยเหลือผู้คน แต่เธอไร้ซึ่งพลัง ไม่แม้แต่จะมีพลังพอที่จะปกป้องตัวเองด้วยซ้ำ หนำซ้ำคุณรู้อะไรไหม ยอดคนที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่มีอัตลักษณ์น่ะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทวีคูณขึ้นทุกๆปี
จะว่าไปแล้วก็น่าขำนะ ก่อนหน้านี้มาสเตอร์ถูกบังคับให้ต้องเสียสละต่อสู้เพื่อมนุษยชาติเพราะไม่อาจหลีกหนีได้ แต่ตอนนี้ที่เธอต้องการปกป้องคนอื่น เธอกับไม่มีพลังอะไรเลย แถมถึงมีพลังเวทย์แต่ไม่รู้ถึงวิธีใช้ด้วยซ้ำ"
เอมิยะแค่นเสียงหัวเราะออกมา อาเธอร์นั้นมองชายตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งเรียบไม่ได้เอ่ยอะไร
"แล้วคุณ.. จะทำยังไงต่อราชาอัศวิน?"
ในฐานะที่เป็นอดีตคนที่สนิทกับมาสเตอร์ที่สุดเขาคงจะไม่ปฏิเสธแล้วบอกว่าไม่เกี่ยวกับตัวเขาหรอกนะ?
"..........."
อาเธอร์ปิดปากเงียบไม่ให้คำตอบ เอมิยะเห็นสีหน้าเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาเล็กๆ ก่อนจะเอ่ยข้อเสนอไป
"พรุ่งนี้ไม่ลองแอบเดินสำรวจโรงเรียนของมาสเตอร์ดูหน่อยล่ะ? นายจะ- ไม่สิคุณจะรู้ว่าทำไมฉันถึงต้องปกป้องมาสเตอร์ขนาดนี้"
....
และนั่นจึงกลายเป็นข้อตกลงระหว่างเขากับอาเธอร์ขึ้นมา
"ขอบคุณที่มาส่งนะอาเชอร์.. ว่าแต่ว่าเซเบอร์เขาไปไหนแล้วเหรอ?"
คินากะเอ่ยถามเอมิยะด้วยความสงสัย เมื่อวานพวกเขาก็อยู่กันเเท้ๆแต่เช้านี้เธอไม่เห็นเลย
"เขาไปทำธุระน่ะมาสเตอร์ ไม่ต้องกังวลหรอก"
เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจก่อนที่เธอจะวิ่งเข้าโรงเรียนไปด้วยรอยยิ้มสดใส เอมิยะหลังจากที่โบกมือลามาสเตอร์ของตนเขาก็ได้เวลาที่ต้องไปแอบดูแลเธอเหมือนกัน..
เขาไม่ยอมให้ใครมาแกล้งมาสเตอร์หรอกนะ
Arthur Part
ทำไมไม่ลองไปที่โรงเรียนของมาสเตอร์ดูล่ะ
อาเธอร์หวนคิดถึงคำพูดของเอมิยะเมื่อยามค่ำคืน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในร่างวิญญาณเพื่อจะสอดส่องดูโรงเรียนทั่วๆไปที่มาสเตอร์คนนั้นเรียนอยู่..
และเขา ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่ามันน่าเป็นห่วงเเค่ไหน
ภาพตรงหน้าเขาคือเด็กชายผมหยิกสีสาหร่ายคนหนึ่ง กำลังโดนดูถูกดูแคลนจากกลุ่มเพื่อน
หรือแม้แต่... จากอาจารย์ประจำวิชาที่สอนก็เช่นกัน
คนไร้อัตลักษณ์อย่างแกน่ะไม่มีทางจะเป็นฮีโร่ได้หรอก ไอ้เดกุ
จะเข้าUA?อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลยน่า!
คนอย่างแกไม่ลองไปตายแล้วเกิดใหม่ดูล่ะ?
ไม่คิดเลยว่าสังคมนี้จะน่ารังเกียจได้เช่นนี้..
ถ้าเธอมาเห็น ว่าโลกในอนาคตที่เธอต้องเสียสละมาเพื่อที่จะปกป้องมันขนาดนี้เธอจะเศร้าแค่ไหนกันนะ..
ทั้งตัวเธอ ทั้งคนคนนั้น คนสำคัญของเธอ..
ทั้งที่เธอยอมรับและยิ้มรับมันแม้จะแอบร้องไห้ขนาดนั้น..
ผมน่ะ ผม...
ผมจะปกป้องเธอ...
ไม่ใช่เพื่อโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว
แต่จะปกป้องเธอ จากโลกใบนี้
เย็นวันนั้น
"อ้าว เซเบอร์..ตัดสินใจได้แล้วเหรอ?"
เอมิยะหันไปเอ่ยถามชายผมทองในชุดลำลองข้างๆ เขาผุดยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจอีกครั้งเมื่อเห็นดวงตาสีมรกตใสฉายแววมุ่งมั่นนั้นปรากฏขึ้นมา
"อื้ม"
อาเธอร์พยักหน้า ใช่เขาตัดสินใจแล้วล่ะ...
"ทั้งสองคนขอบคุณที่มารับนะ!"
เสียงใสของเด็กสาวกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มอารมณ์ดี และนั่นทำให้อาเธอร์เห็นภาพซ้อนทับของคนคุ้นเคยออกมา
มาสเตอร์...
ใบหน้าเปื้อนยิ้มสดใสที่เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งมันเคยส่งมาให้เขายามที่พบกันครั้งแรก และรอยยิ้มนั้นได้แปรเปลี่ยนไปในครั้งสุดท้าย
มันถูกแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ราวกับจะร้องไห้ แต่เธอคนนั้นก็สามารถฝ่าฟันและทำให้เรื่องพวกนั้นมันจบลงไปแล้ว..
ตัวเธอที่ปกป้องโลกใบนี้..
ตอนนี้ผมน่ะ
"........."
"กลับบ้านกันเถอะ มาสเตอร์"
จะปกป้องเธอเอง มาสเตอร์
ความคิดเห็น