NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    | MHA/BNHA x FGO | Undefined [END]

    ลำดับตอนที่ #5 : Dear Master 5

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 63


     

    หากอยากที่จะเป็นผู้เขียนที่ดีก็ต้องรู้จักอ่านให้มาก....

    และถ้าหากอยากเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง ก็ต้องรู้จักฝึกฝน..

    ส่วนถ้าหากอยากเป็นฮีโร่เอง ก็ต้องรู้จักเสียสละเช่นกัน

     

    เบื้องหน้าของราชาอัศวินนั้น มีร่างของหญิงผมสีน้ำเงินซีดมองตรงมายังเขาด้วยสีหน้าที่แปลกใจ ดวงตาสีทัวมาลีนแกมเเดงมองสบตากับเขาด้วยความไร้เดียงสา

    เด็กสาวตรงหน้าย่อตัวลง ก่อนจะยื่นมือมายังเขา

    "คือว่า... ให้ฉันช่วยนะคะ"

    เด็กสาวพูดออกมาเป็นเชิงขออนุญาต ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือมาดึงกระชากเถาวัลย์ที่แม้แต่แรงของวีรชนก็ไม่สามารถดึงออกได้ เธอดึงออกมาอย่างง่ายดาย

     

    "ขอบคุณที่ช่วยนะ คุณหนู"

    อาเธอร์จับมือของเด็กสาวยกขึ้นจุมพิษบริเวณหลังมือด้วยความเคยชิน เด็กสาวแปลกหน้าใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาชายอีกคนที่ยืนอยู่ห่างๆไม่ใกล้ไม่ไกล

    "อาเชอร์... คือว่านี่น่ะ เขาเป็นวีรชนเหมือนกันเหรอ?"

    อาเธอร์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เด็กสาวถาม

    เท่าที่เขารู้มาจากความรู้ที่น่าจะได้มาจากจอกศักดิ์สิทธิ์ โลกใบนี้นั้นผู้คนได้เกิดมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่าอัตลักษณ์ ว่ากันว่าเป็นพลังที่ได้มาจากการวิวัฒนาการของร่างกาย และเพราะเหตุนั้นตระกูลจอมเวทย์หรือผู้คนจากหอนาฬิกาในตอนที่เขาถูกอัญเชิญครั้งล่าสุดนั้น คงไม่มีเหลืออีกแล้ว..

    แต่ว่าสิ่งที่เด็กสาวพูดนั้นเรียกความสนใจให้แก่เขาเป็นอย่างดี เมื่อมองตามไปเขาก็เห็นใบหน้าของชายหนุ่มผิวแทนผมสีเงินเดินเข้ามาใกล้ ใบหน้านั้นราชาอัศวินเองก็รู้จัก

    "วีรชนเอมิยะ ไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอกันอีกครั้งแบบนี้"

    อาเธอร์กล่าวทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส เขาสบัดข้อมือที่ถูกตรึงด้วยเถาวัลย์มายานั่นเป็นเวลานาน เอมิยะพยักหน้าและเอ่ยออกมาเช่นกัน

    "ไม่คิดว่าจะโดนอัญเชิญมาในโลกเดียวกันเช่นนี้เหมือนกัน ท่านราชาอัศวิน"

    "..รู้จักกันเหรอ?"

    เด็กสาวหันมองทั้งสองคนด้วยความสงสัย อาเชอร์พยักหน้า

    "ใช่แล้ว มาสเตอร์ ก่อนหน้านี้ฉันกับท่านราชาอัศวินเคยรับใช้มาสเตอร์คนเดียวกันมาก่อนน่ะ.. เพื่อช่วยโลก"

    เด็กสาวตาเป็นประกายวาววับเมื่อได้ยินว่าช่วยเหลือโลก เธอหันไปทักทายอาเธอร์ทันที

    "สวัสดีค่ะ หนูฟุโยริ คินากะเป็นมาสเตอร์ของอาเชอร์.. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ!"

    คินากะเเนะนำตัวด้วยรอยยิ้มสดใส อาเธอร์ยิ้มตอบ

    "ส่วนผม เรียกว่าเซเบอร์ได้นะ.."

    เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปหาเอมิยะและชวนกลับบ้าน

    สายตาของอาเธอร์นั้นหันไปมองเอมิยะด้วยท่าทางที่เหมือนกับว่ามีคำถามจะถามให้ได้ แต่เขาก็โดนขัดไปก่อนเมื่อเอมิยะชี้ไปยังเด็กสาวและบอกว่าไว้ค่อยคุยกัน..

    ทั้งสามกลับมาถึงบ้านของคินากะโดยสวัสดิภาพ

     

    ไม่นานนักเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คินากะตอนนี้นั้นได้เข้านอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ส่วนอาเธอร์และเอมิยะตอนนี้พวกเขากำลังออกมาด้านนอกในร่างของวิญญาณเพื่อที่จะไปสอดส่องดูเหล่าฮีโร่กำลังจัดการกับวิลเลินนั่นเอง

    ใช่แล้ว ฟังไม่ผิดหรอก..

    แถวบ้านคินากะมีเหตุก่อคดีของวิลเลินเสียบ่อยครั้ง แต่เด็กสาวถูกอาเชอร์ปิดหูปิดตาจากเรื่องนี้อยู่ตลอดหลายปี

    "งั้นผมคงจะถามเรื่องที่ผมคาใจได้แล้วสินะ?"

    "อือ"

    เอมิยะพยักหน้าให้กับคำถามของอาเธอร์ ทั้งคู่เลือกที่จะไปหยุดอยู่ที่ดาดฟ้าตึกเรียนของคินากะ ในยามค่ำคืนเช่นนี้บนดาดฟ้าของโรงเรียนสามารถของลงไปเห็นถึงความวุ่นวายไม่สงบภายในเมืองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหล่าวิลเลินที่กำลังก่อการร้ายจนเกิดเปลวเพลิงและควันพวยพุ่งขึ้นมา แต่ก็ไม่อาจจะทำให้เหล่าวีรชนสนใจได้

    ก็ตอนนี้เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำนี่นา..

    "ทำไม.. ถึงยังมีจอมเวทย์หรือมาสเตอร์เหลืออยู่อีกล่ะ? ไม่ใช่ว่าตอนนี้ตระกูลจอมเวทย์น่าจะหายไปหมดเหมือนที่จอกศักดิ์สิทธิ์บอกมาไม่ใช่รึ?"

    "ไม่หรอกฉันยืนยันได้เลยล่ะว่ายังเหลืออยู่.. อย่างน้อยก็มาสเตอร์ตัวน้อยของฉันไม่สิ ของพวกเรานั่นแหละ"

    อาเชอร์ผุดยิ้มขึ้นมาระหว่างตอบ เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆในตอนที่เจอกับมาสเตอร์ได้อย่างดี

    "แล้ว...นายพอจะมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมนอกจากที่จอกบอกมาหรือเปล่า อาเชอร์?"

    "....."

    เอมิยะยกยิ้มขึ้นมาเล็กๆ และเผลอหัวเราะออกมาในลำคอ ตอนที่เขาถูกอัญเชิญมาน่ะตัวเขาไม่รู้อะไรเลยสักอย่างและต้องใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะได้ข้อมูล แต่ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะให้ข้อมูลแก่วีรชนที่มาใหม่สินะ..

    "เท่าที่ฉันรู้ ต้นไม้ที่นายและฉันถูกตรึงไว้ก่อนหน้านี้น่ะ คือต้นไม้แห่งโลก.."

    "ว่าไงนะ? ต้นไม้โลก..งั้นเหรอ?"

    เอมิยะพยักหน้าแทนคำตอบให้แก่อาเธอร์ เขาขมวดคิ้วแน่นพลางทำท่าทางครุ่นคิด แต่อาเชอร์เองก็ไม่ยอมปล่อยให้พูดอะไรต่อ

    "มาสเตอร์ของฉัน คินากะน่ะไม่ใช่เด็กที่เกิดมาพร้อมอัตลักษณ์ เธอเป็นแค่มนุษย์ที่มีพลังเวทย์เอ่อล้นจากการที่โลกใบนี้ไม่มีผู้ใช้เวทย์คนอื่นเลย หลายปีก่อนเด็กคนนั้นเจอฉันที่ต้นไม้แห่งนั้นและเชื่อว่ามันเป็นพลังของอัตลักษณ์น่ะ.."

    "แต่ถึงเธอจะหลอกตัวเองยังไง ความจริงก็คือความจริง เด็กคนนั้นไม่ได้มีร่างกายแข็งแกร่งเป็นพิเศษหรือมีพลังเฉพาะตัวเเบบพวกคนที่เกิดมาใหม่ เพราะงั้นฉันถึงคอยฝึกและทำสัญญาเป็นเซอร์แวนต์กับเธอเพื่อจะช่วยปกป้องเธอเอาไว้น่ะ..."

    "ทำไมนายถึงต้องทำแบบนั้นกันล่ะ? บุญคุณเหรอ..?"

    อาเธอร์เอ่ยถามขึ้นมา เอมิยะส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธ

    "ไม่ใช่หรอก สาเหตุน่ะมันเป็นเพราะเธอเหมือนกับ ริทสึกะ.."

    "!!"

    เห็นท่าทางตกใจเเบบนั้นของอาเธอร์เอมิยะก็ผุดยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ เมื่อเขาเอ่ยชื่อมาสเตอร์คนสุดท้ายของมนุษยชาติ ที่เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องอนาคตของโลกใบนี้ และเข้าต่อสู้ร่วมกับพวกเขา..

    ใช่... อดีตมาสเตอร์เพียงคนเดียวที่ปกป้องโลกใบนี้เมื่อหลายร้อยปีก่อน...

    และนี่คือโลกในอนาคตจากนั้นไงล่ะ

     

    "แต่ไม่ใช่เเค่นั้น อีกสาเหตุน่ะมันก็เพราะ..."

    เอมิยะเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะเสมองไปยังทางที่ฮีโร่และวิลเลินกำลังต่อสู้กันอยู่เขาเงียบไปสักพักด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย ก่อนจะเปิดปากเล่าต่อ

    "โลกใบนี้น่ะมันโหดร้าย มาสเตอร์น่ะต้องการจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยเหลือผู้คน แต่เธอไร้ซึ่งพลัง ไม่แม้แต่จะมีพลังพอที่จะปกป้องตัวเองด้วยซ้ำ หนำซ้ำคุณรู้อะไรไหม ยอดคนที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่มีอัตลักษณ์น่ะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทวีคูณขึ้นทุกๆปี

    จะว่าไปแล้วก็น่าขำนะ ก่อนหน้านี้มาสเตอร์ถูกบังคับให้ต้องเสียสละต่อสู้เพื่อมนุษยชาติเพราะไม่อาจหลีกหนีได้ แต่ตอนนี้ที่เธอต้องการปกป้องคนอื่น เธอกับไม่มีพลังอะไรเลย แถมถึงมีพลังเวทย์แต่ไม่รู้ถึงวิธีใช้ด้วยซ้ำ"

    เอมิยะแค่นเสียงหัวเราะออกมา อาเธอร์นั้นมองชายตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งเรียบไม่ได้เอ่ยอะไร

    "แล้วคุณ.. จะทำยังไงต่อราชาอัศวิน?"

    ในฐานะที่เป็นอดีตคนที่สนิทกับมาสเตอร์ที่สุดเขาคงจะไม่ปฏิเสธแล้วบอกว่าไม่เกี่ยวกับตัวเขาหรอกนะ?

    "..........."

    อาเธอร์ปิดปากเงียบไม่ให้คำตอบ เอมิยะเห็นสีหน้าเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาเล็กๆ ก่อนจะเอ่ยข้อเสนอไป

    "พรุ่งนี้ไม่ลองแอบเดินสำรวจโรงเรียนของมาสเตอร์ดูหน่อยล่ะ? นายจะ- ไม่สิคุณจะรู้ว่าทำไมฉันถึงต้องปกป้องมาสเตอร์ขนาดนี้"

     

     

    ....

    และนั่นจึงกลายเป็นข้อตกลงระหว่างเขากับอาเธอร์ขึ้นมา

     

    "ขอบคุณที่มาส่งนะอาเชอร์.. ว่าแต่ว่าเซเบอร์เขาไปไหนแล้วเหรอ?"

    คินากะเอ่ยถามเอมิยะด้วยความสงสัย เมื่อวานพวกเขาก็อยู่กันเเท้ๆแต่เช้านี้เธอไม่เห็นเลย

    "เขาไปทำธุระน่ะมาสเตอร์ ไม่ต้องกังวลหรอก"

    เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจก่อนที่เธอจะวิ่งเข้าโรงเรียนไปด้วยรอยยิ้มสดใส เอมิยะหลังจากที่โบกมือลามาสเตอร์ของตนเขาก็ได้เวลาที่ต้องไปแอบดูแลเธอเหมือนกัน..

    เขาไม่ยอมให้ใครมาแกล้งมาสเตอร์หรอกนะ

     

     

    Arthur Part

    ทำไมไม่ลองไปที่โรงเรียนของมาสเตอร์ดูล่ะ

    อาเธอร์หวนคิดถึงคำพูดของเอมิยะเมื่อยามค่ำคืน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในร่างวิญญาณเพื่อจะสอดส่องดูโรงเรียนทั่วๆไปที่มาสเตอร์คนนั้นเรียนอยู่..

    และเขา ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่ามันน่าเป็นห่วงเเค่ไหน

    ภาพตรงหน้าเขาคือเด็กชายผมหยิกสีสาหร่ายคนหนึ่ง กำลังโดนดูถูกดูแคลนจากกลุ่มเพื่อน

    หรือแม้แต่... จากอาจารย์ประจำวิชาที่สอนก็เช่นกัน

    คนไร้อัตลักษณ์อย่างแกน่ะไม่มีทางจะเป็นฮีโร่ได้หรอก ไอ้เดกุ

    จะเข้าUA?อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลยน่า!

    คนอย่างแกไม่ลองไปตายแล้วเกิดใหม่ดูล่ะ?

     

    ไม่คิดเลยว่าสังคมนี้จะน่ารังเกียจได้เช่นนี้..

    ถ้าเธอมาเห็น ว่าโลกในอนาคตที่เธอต้องเสียสละมาเพื่อที่จะปกป้องมันขนาดนี้เธอจะเศร้าแค่ไหนกันนะ..

    ทั้งตัวเธอ ทั้งคนคนนั้น คนสำคัญของเธอ..

    ทั้งที่เธอยอมรับและยิ้มรับมันแม้จะแอบร้องไห้ขนาดนั้น..

    ผมน่ะ ผม...

    ผมจะปกป้องเธอ...

    ไม่ใช่เพื่อโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว

    แต่จะปกป้องเธอ จากโลกใบนี้

     

     

    เย็นวันนั้น

    "อ้าว เซเบอร์..ตัดสินใจได้แล้วเหรอ?"

    เอมิยะหันไปเอ่ยถามชายผมทองในชุดลำลองข้างๆ เขาผุดยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจอีกครั้งเมื่อเห็นดวงตาสีมรกตใสฉายแววมุ่งมั่นนั้นปรากฏขึ้นมา

    "อื้ม"

    อาเธอร์พยักหน้า ใช่เขาตัดสินใจแล้วล่ะ...

    "ทั้งสองคนขอบคุณที่มารับนะ!"

    เสียงใสของเด็กสาวกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มอารมณ์ดี และนั่นทำให้อาเธอร์เห็นภาพซ้อนทับของคนคุ้นเคยออกมา

    มาสเตอร์...

    ใบหน้าเปื้อนยิ้มสดใสที่เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งมันเคยส่งมาให้เขายามที่พบกันครั้งแรก และรอยยิ้มนั้นได้แปรเปลี่ยนไปในครั้งสุดท้าย

    มันถูกแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ราวกับจะร้องไห้ แต่เธอคนนั้นก็สามารถฝ่าฟันและทำให้เรื่องพวกนั้นมันจบลงไปแล้ว..

    ตัวเธอที่ปกป้องโลกใบนี้..

    ตอนนี้ผมน่ะ

    "........."

    "กลับบ้านกันเถอะ มาสเตอร์"

    จะปกป้องเธอเอง มาสเตอร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×