คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Who am I? 4
พลังของวีรชนในอดีตกาลไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากอัตลักษณ์
มันคือการฝึกฝนและประสบการณ์และความเชื่อของผู้คน
"นี่..จะไม่ออกกำลังกายกันจริงๆเหรอ? เคนโด้จัง?"
ฉันหันไปถามเคนโด้ที่กำลังติวหนังสือกับเพื่อนร่วมห้องด้วยความเป็นห่วง ทุกคนเล่นรวมตัวติวหนังสือเตรียมสอบอย่างเดียวโดยไม่ออกกำลังกายหรือฝึกฝนอัตลักษณ์กันเลย แล้วสอบปฏิบัติจะไหวเหรอ?
"ก็สุดท้ายก็สู้กับหุ่นยนต์เหมือนตอนสอบเข้านี่? ไม่เห็นเป็นไรเลย"
อาวาเสะหันมาตอบฉันพลางไหวไหล่ ก่อนจะมีเสียงพูดสนับสนุนมาเบาๆว่า ใช่ๆพวกเราไม่ได้เรียนเก่งเหมือนเธอนี่นา
....
ฉันก็ไม่ได้เรียนเก่งอะไรสักหน่อย แค่เรื่องพวกนี้มันเคยเรียนแล้วนี่นา? แถมก่อนหน้านี้ฉันเองก็เรียนพวกวิชาพวกนี้มาแบบจัดหนักด้วยสิ...
ก็ดั้นอยู่สายวิทย์ เลยกะจะเป็นนักวิศวกรรมน่ะ(.....)
".....งั้นฉันไม่กวนแล้วล่ะ ไปออกกำลังกายก่อนนะ"
ว่าแล้วฉันก็เดินออกจากห้องไป
ทางด้านห้องเรียนหลังจากคินากะออกไปแล้ว
"ดีนะที่คินากะจังกลับมาร่าเริงแล้วน่ะ.."
เคนโด้เอ่ยขึ้นมากลางวงติวหลังจากคินากะออกจากห้องไป พวกเธอทั้งห้องเองก็เป็นห่วงว่าคินากะจะแอบกลับไปซึมเหมือนก่อนหน้านี้อีกหรือเปล่า แต่พอเห็นใบหน้าท่าทางดูนิ่งๆปกติของเจ้าตัวเเล้วก็รู้สึกโล่งใจ
"ถ้าเธอกลับมาสนใจคนอื่นได้แบบนี้ฉันว่าคงกลับมาเป็นปกติแล้วล่ะ..." เซ็ตสึนะเอ่ยขึ้นมาบ้าง
"จะว่าไปแล้ว เรื่องข่าวลือที่ว่าที่หนึ่งของงานแข่งชอบคินากะนี่จริงหรือเปล่าคะ?"
"เอ้ะ--?"
ทันทีที่ได้ยินคำถามของโพนี่เพื่อนที่อยู่ในห้องก็หันขวับมาเป็นทางเดียวกัน.. เจ้าหมาบ้าของห้องเอนั่นน่ะนะ? ชอบคินากะ?
และแล้วข่าวลือนี้ก็กลายเป็นประเด็นพูดคุยกันยกใหญ่ของนักเรียนห้องบีเสียจนความตั้งใจที่จะติวสอบกันก็กลับกลายเป็นการนั่งคุยออกนอกเรื่อง ชนิดที่ว่านักสืบก็ต้องอายกับความสามารถเชื่อมโยงความเป็นไปได้(มโน)ของเหล่านักเรียน
ส่วนผลจะออกมาเป็นยังไง... ก็แล้วแต่เวรแต่กรรม
และแล้ววันสอบปลายภาคก็มาถึง ดูเหมือนการสอบข้อเขียนจะผ่านมาได้ด้วยดีสำหรับเหล่านักเรียนห้องบี แต่ว่า..
"ทำไมถึงมีอาจารย์มากันเยอะแบบนี้ล่ะ?"
จูโซเอ่ยขึ้นมาด้วยความแปลกใจ พวกเหล่านักเรียนร่วมห้องเองก็เช่นกัน พวกเขาหันไปคุยกันเรื่องความแปลกประหลาดและสังหรณ์ใจไม่ดีที่พวกเขารู้สึกลึกๆ แม้จะภาวนาว่าขอให้คิดไปเองแต่สุดท้าย..
"พวกเธอต้องสู้กับอาจารย์ โดยพวกเธอน่ะจะอยู่ทีม2คนแล้วหาทางรับมือจับกุมอาจารย์ให้ได้ หรือหนีออกไปให้ได้"
หลังจากที่อาจารย์ท่านหนึ่งอธิบายขึ้นมาพวกเขาก็หน้าซีดเผือกไปตามๆกัน..
"ฉันเตือนแล้วนะ..."
คินากะถอนหายใจพลางหันมองเพื่อนร่วมห้อง ใช่พวกเขาประมาทกันเกินไปอีกอย่างถ้าคิดดูดีๆในมุมมองของคนที่ปกครองแล้วล่ะก็ การที่เหตุการณ์นักเรียนปะทะกับวิลเลินบ่อยขึ้นขนาดนี้พวกเขาคงไม่ให้สอบกับหุ่นยนต์หรอก..
มันง่ายไปนี่..
และแล้วเหล่าเพื่อนๆร่วมชั้นเรียนก็ต้องทนจำใจสู้กับอาจารย์โดยที่พวกเขานั้นไม่พร้อมกันเลยนี่สิ..
เคนโด้ และ จูโซ เจอกับ สไนป์
คุโรอิโร่ และ โคโมริ เจอกับ พรีเซนต์ ไมค์
เรย์โกะ กับ เท็ตซึเท็ตซึ เจอกับ พาวเวอร์โหลดเดอร์
ไอบาระ กับ ยุย เจอกับ อีเรเซอร์เฮด
..
..
.
และคินากะคนเดียว เจอกับ ออลไมท์ อีเรเซอร์เฮด
"เดี๋ยวสิ! ทำไมอาจารย์ถึงให้คินากะคนเดียวรับมือกับอาจารย์ทั้งสองคนละคะ!? แบบนี้มัน..."
โพนี่ที่ได้ยินเสียงประกาศให้ฉันเข้าไปสู้กับอาจารย์ทั้งสองคนที่รับมือยากสุดๆอย่างอีเรเซอร์เฮดที่ลบอัตลักษณ์ได้ กับออลไมท์ที่มีพลังมหาศาล มันเป็นเรื่องยากมากแถมฉันคนเดียวด้วย
"เรื่องนั้นฉันเป็นคนเสนอเอง"
เซกิจิโร่เอ่ยออกมา เรียกสายตาที่แสดงถึงความไม่เข้าใจจากเหล่าเด็กนักเรียนได้เป็นอย่างดี ทำไมอาจารย์ประจำชั้นของเขาถึงเสนออะไรแบบนั้นล่ะ? แบบนี้มันรังแกเธอไปหน่อยหรือเปล่า
"ฟุโยริ คินากะจากที่ฉันได้ฟังข้อมูลจากอาจารย์ที่ปรึกษาเธอดูเหมือนเธอจะไม่เคยใช้พลังอย่างเต็มที่เลยนะ แถมตอนฝึกต่อสู้ที่ใช้วีรชน เธอก็แค่ให้เขาป้องกันนี่นา.."
ออลไมท์เอ่ยขึ้น
"ก็จริงอยู่ค่ะ..."
"เพราะงั้นครั้งนี้ถ้าเธอไม่เอาจริงแล้วละก็จะถูกปรับตกนะ"
"!!"
หลังจากได้ยินคำประกาศของออลไมท์ทุกคนก็มองมายังฉันด้วยสายตาเป็นห่วงทันที.. แต่ว่านะทุกคน...
ฉันยิ้มแห้งๆออกมาเล็กน้อยให้อาจารย์ตรงหน้า
"ถ้างั้น... วีรชนที่มาจากสนามรบฆ่าอาจารย์ก็ไม่ใช่ความผิดของหนูนะคะ เอมิยะเมอร์ลินเตรียมตัว"
หลังจากส่งยิ้มให้อาจารย์คินากะก็เอ่ยเรียกวีรชนของตนออกมา เอมิยะจึงออกมาในสภาพชุดพร้อมรบของเขา ขณะเดียวกันเมอร์ลินเองก็ยืนอยู่ข้างๆด้วยรอยยิ้ม
ตอนแรกก็ไม่อยากใช้พลังเต็มที่ของวีรชนเพราะอาจจะฆ่าคนอื่นได้ก็เถอะ แต่ว่าอาจารย์ขอมาเองก็ขอทดสอบความรุนแรงของพลังวีรชนหน่อยแล้วกัน
งานนี้ถ้าเละเทะอาจารย์ก็ไม่ว่าด้วย แถม...ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าควรจะใช้พลังเต็มที่กับศัตรูหรือเปล่า
อาเชอร์หลังจากได้ยินเสียงประกาศเริ่มดังขึ้นก็ถีบตัวพุ่งเข้าปะทะกับออลไมท์ เขากระโดดหลบผ้าที่อาจารย์ไอซาวะบังคับมาก่อนจะเทรซออนธนูขึ้นมาในมือและยิงใส่ไปยังไอซาวะ
"คาริฟอเนีย สแมช!!"
เสียงของออลไมท์ดังขึ้นพร้อมกับกระแสลมรุนแรงที่พัดเข้าปะทะกับลูกธนูพัดพาให้มันเบี่ยงออกไปได้ เอมิยะเห็นแบบนั้นก็สร้างดาบประจำตัวของเขาเข้าฟาดฟันออลไมท์ แต่ก็โดนผ้าของอาจารย์ไอซาวะคอยกั้นไว้ให้
"เมอร์ลิน บัพพลังโจมตีและบัพมานาเบิร์ส!"
"รับทราบ!"
สิ้นเสียงคำสั่งเมอร์ลินก็บัพพลังโจมตีให้กับเอมิยะ เขาเข้าไปปะทะกับออลไมท์อีกครั้ง
"อึก-"
เอมิยะรีบฟันผ้าของไอซาวะทิ้งก่อนที่เขาจะสร้างโล่ขึ้นมากันการโจมตีของออลไมท์ แต่ก็ถูกแรงกระแทกผลักออกไปด้านหลัง แต่ถึงแบบนั้นเอมิยะก็ไม่ได้ย่อท้อเขาหลบการโจมตีของออลไมท์และสร้างหอกขึ้นมาก่อนจะปามันไปหาไอซาวะ
"ชิ"
ไอซาวะรีบตะหวัดผ้าขึ้นมาหักเหวิถีของหอกสีแดงนั่น พวกเขาโจมตีกันอยู่สักพักก่อนที่คินากะจะสั่งขึ้นมาอีกครั้ง
"เมอร์ลินใช้อิลูชั่น A"
"รับทราบครับมาสเตอร์คุง"
เมอร์ลินกระแทกปลายคทาลงกับพื้นก่อนที่ดอกไม้สีสวยจะพัดวนขึ้นบดบังสายตา และร่างของทั้งสามคนหายไปจากสายตาของอาจารย์ทั้งสอง
"นี่มันภาพลวงตา?"
"เอมิยะ ด้วยตราเรย์จูนี้ขอสั่งปลดปล่อยโฮกุ!"
"รับทราบมาสเตอร์..."
"!!"
ทันทีที่ได้ยินเสียงของคินากะร่างของเธอก็ปรากฏตัวในสายตาของอาจารย์อีกครั้ง บนอกสัญลักษณ์ของเรย์จูหายไปหนึ่งเส้นพร้อมๆกับเสียงของเอมิยะที่เอ่ยออกมา
"I am the bone of my sword..."
ไอซาวะรู้ได้ทันทีว่าเด็กสาวกำลังสั่งให้วีรชนนั้นปลดปล่อยท่าไม้ตายเขาก็รีบใช้อัตลักษณ์ตัวเองเพื่อหยุดคำสั่งและพลังของเธอทันที..
แต่ว่า
พลังของวีรชนในอดีตกาลไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากอัตลักษณ์ มันคือการฝึกฝนและประสบการณ์และความเชื่อของผู้คน กลายมาเป็นพลังและทันทีที่คำสั่งถูกสั่งออกไปวีรชนจะทำให้มันสำเร็จโดยที่ไม่มีอะไรมาหยุดได้
คำพูดของคินากะดังขึ้นมาในหัวของไอซาวะ ทันทีที่เสียงร่ายของเอมิยะยังดังต่อไปและยังคงไม่หยุดเสียที ใช่อย่างที่เด็กสาวบอกอัตลักษณ์ของเขาไม่สามารถลบตัวตนของวีรชนหรือหยุดคำสั่งเธอได้
"ออลไมท์! รีบหยุดเด็กคนนั้นเร็ว!"
"โอ้ มิโซริ สแม-"
"so as I pray..."
ยังไม่ทันที่ออลไมท์จะพุ่งไปหาคินากะทัน ออลไมท์และไอซาวะก็ถูกดึงเข้าไปในเรียลลิตี้มาเบิลของเอมิยะเรียบร้อยแล้ว
บนท้องฟ้านั้นหม่นหมองเต็มไปด้วนฝุ่นและทรายที่พัดวนเสียจนท้องฟ้าเป็นสีน้ำตาล บนอากาศนั้นมีฟันเฟืองหมุนวน บนพื้นนั้นมีดาบหลายรูปแบบนับไม่ถ้วนถูกปักทิ้งไว้..
ตรงหน้าของทั้งสองคือวีรชนเอมิยะที่ค่อยๆยกมือขึ้น พร้อมๆกับดาบรอบๆตัวที่ค่อยๆสั่นและลอยขึ้นบนฟ้าราวกับถูกควบคุมโดยชายตรงหน้า
"unlimited blade works"
สิ้นเสียงคำร่ายดาบทั้งมวลก็ถูกปลดปล่อยให้พุ่งเข้าหาอาจารย์ทั้งสอง..
"....."
"อะ มาแล้ว"
ไม่นานนักร่างของทั้งสามก็กลับมาอีกครั้ง โดยที่ตรงหน้าของเอมิยะคือร่างของออลไมท์ที่มีสภาพบาดเจ็บเต็มตัว และไอซาวะในสภาพเลือดท่วม แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็มีเทปพันรอบตัวทั้งสองเป็นสัญญาณว่าอาจารย์ทั้งสองพ่ายแพ้เรียบร้อยแล้ว..
"พลังอะไรกันเนี่ย..."
มิทไนท์เบิกตากว้างหลังจากที่เห็นสภาพของเพื่อนร่วมงานและฮีโร่อันดับหนึ่งที่ตอนนี้สภาพดูบาดเจ็บสาหัสมาก ทั่วทั้งตัวมีรอยแผลที่เกิดจากการถูกฟันและแน่นอนว่าสภาพนั้นสยดสยองเหลือเกิน
เหล่านักเรียนที่เห็นสภาพของอาจารย์ก็รู้สึกกลัวจับใจ สภาพอันสยดสยองนั้นยังไม่น่ากลัวเท่า.. สายตาและสีหน้าของคินากะที่มองสภาพบาดเจ็บหนักนั้นด้วยความไม่รู้สึกอะไร
ราวกับคนที่เห็นอะไรแบบนี้มาครั้งไม่ถ้วน
"รีคัพเวอรี่เกิลทางนี้!!"
วลาดคิงวิ่งนำรีคัพเวอรี่เกิลไปทางสนามสอบ ในขณะเดียวกันคินากะก็วิ่งไปหาอาจารย์ของเธอ
"ให้ไนติงเกลช่วยนะคะ"
เธอเอ่ยเช่นนั้น เซกิจิโร่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเห็นว่าชายสองคนก่อนหน้านี้หายไปแล้วและแทนที่ด้วยหญิงสาวชุดแดงนามว่าไนติงเกล
"มาสเตอร์... สภาพนั่นน่ะไม่ออมมือสินะคะ"
"ก็อาจารย์เขาสั่งให้เต็มที่นี่นา.. มันก็..นะ"
คินากะหัวเราะแหะๆกลบเกลื่อนสายตาที่จับจ้องตัวเองอย่างกินเลือดกินเนื้อของไนติงเกล เจ้าตัวใช้ทักษะของตัวเองฟื้นฟูพลังชีวิตให้ทั้งคู่ ก่อนที่จะปล่อยให้รีคัพเวอรี่เกิลรับมือต่อ
"คนคนนั้น... มีแผลเก่าสาหัสบนร่างกายด้วยนะคะมาสเตอร์ ดิฉันคิดว่าควรจะให้เขาพักและรักษาตัวจะดีกว่าแท้ๆทำไมถึงได้มาต่อสู้ล่ะ?"
คุณพยาบาลเอ่ยถามฉัน พลางหันไปมองยังออลไมท์
"คิดว่า..เพราะเขาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและเป็นความเชื่อมั่นของทุกคนน่ะ เพราะงั้นเลยพักไม่ได้แต่ว่า.."
"ฉันเชื่อว่าจะมีสักวันหนึ่งที่เขาจะได้เกษียณนะตอนนั้นฝากคุณพยาบาลรักษาด้วยนะคะ...ฉันไม่อยากให้คนแบบนั้นจากไปคนเดียวอีกแล้ว..."
"........ถ้าคุณว่าแบบนั้น ฉันจะรอค่ะมาสเตอร์"
และหลังจากนั้นคินากะก็เดินออกจากสนามสอบไป.. โดยที่ไม่รอพบเพื่อนๆของเธอ..ตอนนี้จากปีศาจประจำห้องบี ฉายาเธอได้เปลี่ยนเป็นจอมมารของห้องบีไปเสียแล้วล่ะ
ความคิดเห็น