NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    | MHA/BNHA x FGO | Undefined [END]

    ลำดับตอนที่ #16 : Who am I? 4

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 63


    พลังของวีรชนในอดีตกาลไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากอัตลักษณ์

    มันคือการฝึกฝนและประสบการณ์และความเชื่อของผู้คน

    "นี่..จะไม่ออกกำลังกายกันจริงๆเหรอ? เคนโด้จัง?"

    ฉันหันไปถามเคนโด้ที่กำลังติวหนังสือกับเพื่อนร่วมห้องด้วยความเป็นห่วง ทุกคนเล่นรวมตัวติวหนังสือเตรียมสอบอย่างเดียวโดยไม่ออกกำลังกายหรือฝึกฝนอัตลักษณ์กันเลย แล้วสอบปฏิบัติจะไหวเหรอ?

    "ก็สุดท้ายก็สู้กับหุ่นยนต์เหมือนตอนสอบเข้านี่? ไม่เห็นเป็นไรเลย"

    อาวาเสะหันมาตอบฉันพลางไหวไหล่ ก่อนจะมีเสียงพูดสนับสนุนมาเบาๆว่า ใช่ๆพวกเราไม่ได้เรียนเก่งเหมือนเธอนี่นา

    ....

    ฉันก็ไม่ได้เรียนเก่งอะไรสักหน่อย แค่เรื่องพวกนี้มันเคยเรียนแล้วนี่นา? แถมก่อนหน้านี้ฉันเองก็เรียนพวกวิชาพวกนี้มาแบบจัดหนักด้วยสิ...

    ก็ดั้นอยู่สายวิทย์ เลยกะจะเป็นนักวิศวกรรมน่ะ(.....)

    ".....งั้นฉันไม่กวนแล้วล่ะ ไปออกกำลังกายก่อนนะ"

    ว่าแล้วฉันก็เดินออกจากห้องไป

     

    ทางด้านห้องเรียนหลังจากคินากะออกไปแล้ว

    "ดีนะที่คินากะจังกลับมาร่าเริงแล้วน่ะ.."

    เคนโด้เอ่ยขึ้นมากลางวงติวหลังจากคินากะออกจากห้องไป พวกเธอทั้งห้องเองก็เป็นห่วงว่าคินากะจะแอบกลับไปซึมเหมือนก่อนหน้านี้อีกหรือเปล่า แต่พอเห็นใบหน้าท่าทางดูนิ่งๆปกติของเจ้าตัวเเล้วก็รู้สึกโล่งใจ

    "ถ้าเธอกลับมาสนใจคนอื่นได้แบบนี้ฉันว่าคงกลับมาเป็นปกติแล้วล่ะ..." เซ็ตสึนะเอ่ยขึ้นมาบ้าง

    "จะว่าไปแล้ว เรื่องข่าวลือที่ว่าที่หนึ่งของงานแข่งชอบคินากะนี่จริงหรือเปล่าคะ?"

    "เอ้ะ--?"

    ทันทีที่ได้ยินคำถามของโพนี่เพื่อนที่อยู่ในห้องก็หันขวับมาเป็นทางเดียวกัน.. เจ้าหมาบ้าของห้องเอนั่นน่ะนะ? ชอบคินากะ?

    และแล้วข่าวลือนี้ก็กลายเป็นประเด็นพูดคุยกันยกใหญ่ของนักเรียนห้องบีเสียจนความตั้งใจที่จะติวสอบกันก็กลับกลายเป็นการนั่งคุยออกนอกเรื่อง ชนิดที่ว่านักสืบก็ต้องอายกับความสามารถเชื่อมโยงความเป็นไปได้(มโน)ของเหล่านักเรียน

    ส่วนผลจะออกมาเป็นยังไง... ก็แล้วแต่เวรแต่กรรม

     

    และแล้ววันสอบปลายภาคก็มาถึง ดูเหมือนการสอบข้อเขียนจะผ่านมาได้ด้วยดีสำหรับเหล่านักเรียนห้องบี แต่ว่า..

    "ทำไมถึงมีอาจารย์มากันเยอะแบบนี้ล่ะ?"

    จูโซเอ่ยขึ้นมาด้วยความแปลกใจ พวกเหล่านักเรียนร่วมห้องเองก็เช่นกัน พวกเขาหันไปคุยกันเรื่องความแปลกประหลาดและสังหรณ์ใจไม่ดีที่พวกเขารู้สึกลึกๆ แม้จะภาวนาว่าขอให้คิดไปเองแต่สุดท้าย..

    "พวกเธอต้องสู้กับอาจารย์ โดยพวกเธอน่ะจะอยู่ทีม2คนแล้วหาทางรับมือจับกุมอาจารย์ให้ได้ หรือหนีออกไปให้ได้"

    หลังจากที่อาจารย์ท่านหนึ่งอธิบายขึ้นมาพวกเขาก็หน้าซีดเผือกไปตามๆกัน..

    "ฉันเตือนแล้วนะ..."

    คินากะถอนหายใจพลางหันมองเพื่อนร่วมห้อง ใช่พวกเขาประมาทกันเกินไปอีกอย่างถ้าคิดดูดีๆในมุมมองของคนที่ปกครองแล้วล่ะก็ การที่เหตุการณ์นักเรียนปะทะกับวิลเลินบ่อยขึ้นขนาดนี้พวกเขาคงไม่ให้สอบกับหุ่นยนต์หรอก..

    มันง่ายไปนี่..

    และแล้วเหล่าเพื่อนๆร่วมชั้นเรียนก็ต้องทนจำใจสู้กับอาจารย์โดยที่พวกเขานั้นไม่พร้อมกันเลยนี่สิ..

    เคนโด้ และ จูโซ เจอกับ สไนป์

    คุโรอิโร่ และ โคโมริ เจอกับ พรีเซนต์ ไมค์

    เรย์โกะ กับ เท็ตซึเท็ตซึ เจอกับ พาวเวอร์โหลดเดอร์

    ไอบาระ กับ ยุย เจอกับ อีเรเซอร์เฮด

    ..

    ..

    .

    และคินากะคนเดียว เจอกับ ออลไมท์ อีเรเซอร์เฮด

    "เดี๋ยวสิ! ทำไมอาจารย์ถึงให้คินากะคนเดียวรับมือกับอาจารย์ทั้งสองคนละคะ!? แบบนี้มัน..."

    โพนี่ที่ได้ยินเสียงประกาศให้ฉันเข้าไปสู้กับอาจารย์ทั้งสองคนที่รับมือยากสุดๆอย่างอีเรเซอร์เฮดที่ลบอัตลักษณ์ได้ กับออลไมท์ที่มีพลังมหาศาล มันเป็นเรื่องยากมากแถมฉันคนเดียวด้วย

    "เรื่องนั้นฉันเป็นคนเสนอเอง"

    เซกิจิโร่เอ่ยออกมา เรียกสายตาที่แสดงถึงความไม่เข้าใจจากเหล่าเด็กนักเรียนได้เป็นอย่างดี ทำไมอาจารย์ประจำชั้นของเขาถึงเสนออะไรแบบนั้นล่ะ? แบบนี้มันรังแกเธอไปหน่อยหรือเปล่า

    "ฟุโยริ คินากะจากที่ฉันได้ฟังข้อมูลจากอาจารย์ที่ปรึกษาเธอดูเหมือนเธอจะไม่เคยใช้พลังอย่างเต็มที่เลยนะ แถมตอนฝึกต่อสู้ที่ใช้วีรชน เธอก็แค่ให้เขาป้องกันนี่นา.."

    ออลไมท์เอ่ยขึ้น

    "ก็จริงอยู่ค่ะ..."

    "เพราะงั้นครั้งนี้ถ้าเธอไม่เอาจริงแล้วละก็จะถูกปรับตกนะ"

    "!!"

    หลังจากได้ยินคำประกาศของออลไมท์ทุกคนก็มองมายังฉันด้วยสายตาเป็นห่วงทันที.. แต่ว่านะทุกคน...

    ฉันยิ้มแห้งๆออกมาเล็กน้อยให้อาจารย์ตรงหน้า

    "ถ้างั้น... วีรชนที่มาจากสนามรบฆ่าอาจารย์ก็ไม่ใช่ความผิดของหนูนะคะ เอมิยะเมอร์ลินเตรียมตัว"

    หลังจากส่งยิ้มให้อาจารย์คินากะก็เอ่ยเรียกวีรชนของตนออกมา เอมิยะจึงออกมาในสภาพชุดพร้อมรบของเขา ขณะเดียวกันเมอร์ลินเองก็ยืนอยู่ข้างๆด้วยรอยยิ้ม

    ตอนแรกก็ไม่อยากใช้พลังเต็มที่ของวีรชนเพราะอาจจะฆ่าคนอื่นได้ก็เถอะ แต่ว่าอาจารย์ขอมาเองก็ขอทดสอบความรุนแรงของพลังวีรชนหน่อยแล้วกัน

    งานนี้ถ้าเละเทะอาจารย์ก็ไม่ว่าด้วย แถม...ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าควรจะใช้พลังเต็มที่กับศัตรูหรือเปล่า

     

    อาเชอร์หลังจากได้ยินเสียงประกาศเริ่มดังขึ้นก็ถีบตัวพุ่งเข้าปะทะกับออลไมท์ เขากระโดดหลบผ้าที่อาจารย์ไอซาวะบังคับมาก่อนจะเทรซออนธนูขึ้นมาในมือและยิงใส่ไปยังไอซาวะ

    "คาริฟอเนีย สแมช!!"

    เสียงของออลไมท์ดังขึ้นพร้อมกับกระแสลมรุนแรงที่พัดเข้าปะทะกับลูกธนูพัดพาให้มันเบี่ยงออกไปได้ เอมิยะเห็นแบบนั้นก็สร้างดาบประจำตัวของเขาเข้าฟาดฟันออลไมท์ แต่ก็โดนผ้าของอาจารย์ไอซาวะคอยกั้นไว้ให้

    "เมอร์ลิน บัพพลังโจมตีและบัพมานาเบิร์ส!"

    "รับทราบ!"

    สิ้นเสียงคำสั่งเมอร์ลินก็บัพพลังโจมตีให้กับเอมิยะ เขาเข้าไปปะทะกับออลไมท์อีกครั้ง

    "อึก-"

    เอมิยะรีบฟันผ้าของไอซาวะทิ้งก่อนที่เขาจะสร้างโล่ขึ้นมากันการโจมตีของออลไมท์ แต่ก็ถูกแรงกระแทกผลักออกไปด้านหลัง แต่ถึงแบบนั้นเอมิยะก็ไม่ได้ย่อท้อเขาหลบการโจมตีของออลไมท์และสร้างหอกขึ้นมาก่อนจะปามันไปหาไอซาวะ

     

    "ชิ"

    ไอซาวะรีบตะหวัดผ้าขึ้นมาหักเหวิถีของหอกสีแดงนั่น พวกเขาโจมตีกันอยู่สักพักก่อนที่คินากะจะสั่งขึ้นมาอีกครั้ง

    "เมอร์ลินใช้อิลูชั่น A"

    "รับทราบครับมาสเตอร์คุง"

    เมอร์ลินกระแทกปลายคทาลงกับพื้นก่อนที่ดอกไม้สีสวยจะพัดวนขึ้นบดบังสายตา และร่างของทั้งสามคนหายไปจากสายตาของอาจารย์ทั้งสอง

    "นี่มันภาพลวงตา?"

    "เอมิยะ ด้วยตราเรย์จูนี้ขอสั่งปลดปล่อยโฮกุ!"

    "รับทราบมาสเตอร์..."

    "!!"

    ทันทีที่ได้ยินเสียงของคินากะร่างของเธอก็ปรากฏตัวในสายตาของอาจารย์อีกครั้ง บนอกสัญลักษณ์ของเรย์จูหายไปหนึ่งเส้นพร้อมๆกับเสียงของเอมิยะที่เอ่ยออกมา

    "I am the bone of my sword..."

    ไอซาวะรู้ได้ทันทีว่าเด็กสาวกำลังสั่งให้วีรชนนั้นปลดปล่อยท่าไม้ตายเขาก็รีบใช้อัตลักษณ์ตัวเองเพื่อหยุดคำสั่งและพลังของเธอทันที..

    แต่ว่า

    พลังของวีรชนในอดีตกาลไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากอัตลักษณ์ มันคือการฝึกฝนและประสบการณ์และความเชื่อของผู้คน กลายมาเป็นพลังและทันทีที่คำสั่งถูกสั่งออกไปวีรชนจะทำให้มันสำเร็จโดยที่ไม่มีอะไรมาหยุดได้

    คำพูดของคินากะดังขึ้นมาในหัวของไอซาวะ ทันทีที่เสียงร่ายของเอมิยะยังดังต่อไปและยังคงไม่หยุดเสียที ใช่อย่างที่เด็กสาวบอกอัตลักษณ์ของเขาไม่สามารถลบตัวตนของวีรชนหรือหยุดคำสั่งเธอได้

    "ออลไมท์! รีบหยุดเด็กคนนั้นเร็ว!"

    "โอ้ มิโซริ สแม-"

    "so as I pray..."

    ยังไม่ทันที่ออลไมท์จะพุ่งไปหาคินากะทัน ออลไมท์และไอซาวะก็ถูกดึงเข้าไปในเรียลลิตี้มาเบิลของเอมิยะเรียบร้อยแล้ว

    บนท้องฟ้านั้นหม่นหมองเต็มไปด้วนฝุ่นและทรายที่พัดวนเสียจนท้องฟ้าเป็นสีน้ำตาล บนอากาศนั้นมีฟันเฟืองหมุนวน บนพื้นนั้นมีดาบหลายรูปแบบนับไม่ถ้วนถูกปักทิ้งไว้..

    ตรงหน้าของทั้งสองคือวีรชนเอมิยะที่ค่อยๆยกมือขึ้น พร้อมๆกับดาบรอบๆตัวที่ค่อยๆสั่นและลอยขึ้นบนฟ้าราวกับถูกควบคุมโดยชายตรงหน้า

    "unlimited blade works"

    สิ้นเสียงคำร่ายดาบทั้งมวลก็ถูกปลดปล่อยให้พุ่งเข้าหาอาจารย์ทั้งสอง..

     

    "....."

    "อะ มาแล้ว"

    ไม่นานนักร่างของทั้งสามก็กลับมาอีกครั้ง โดยที่ตรงหน้าของเอมิยะคือร่างของออลไมท์ที่มีสภาพบาดเจ็บเต็มตัว และไอซาวะในสภาพเลือดท่วม แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็มีเทปพันรอบตัวทั้งสองเป็นสัญญาณว่าอาจารย์ทั้งสองพ่ายแพ้เรียบร้อยแล้ว..

     

    "พลังอะไรกันเนี่ย..."

    มิทไนท์เบิกตากว้างหลังจากที่เห็นสภาพของเพื่อนร่วมงานและฮีโร่อันดับหนึ่งที่ตอนนี้สภาพดูบาดเจ็บสาหัสมาก ทั่วทั้งตัวมีรอยแผลที่เกิดจากการถูกฟันและแน่นอนว่าสภาพนั้นสยดสยองเหลือเกิน

    เหล่านักเรียนที่เห็นสภาพของอาจารย์ก็รู้สึกกลัวจับใจ สภาพอันสยดสยองนั้นยังไม่น่ากลัวเท่า.. สายตาและสีหน้าของคินากะที่มองสภาพบาดเจ็บหนักนั้นด้วยความไม่รู้สึกอะไร

    ราวกับคนที่เห็นอะไรแบบนี้มาครั้งไม่ถ้วน

    "รีคัพเวอรี่เกิลทางนี้!!"

    วลาดคิงวิ่งนำรีคัพเวอรี่เกิลไปทางสนามสอบ ในขณะเดียวกันคินากะก็วิ่งไปหาอาจารย์ของเธอ

    "ให้ไนติงเกลช่วยนะคะ"

    เธอเอ่ยเช่นนั้น เซกิจิโร่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเห็นว่าชายสองคนก่อนหน้านี้หายไปแล้วและแทนที่ด้วยหญิงสาวชุดแดงนามว่าไนติงเกล

    "มาสเตอร์... สภาพนั่นน่ะไม่ออมมือสินะคะ"

    "ก็อาจารย์เขาสั่งให้เต็มที่นี่นา.. มันก็..นะ"

    คินากะหัวเราะแหะๆกลบเกลื่อนสายตาที่จับจ้องตัวเองอย่างกินเลือดกินเนื้อของไนติงเกล เจ้าตัวใช้ทักษะของตัวเองฟื้นฟูพลังชีวิตให้ทั้งคู่ ก่อนที่จะปล่อยให้รีคัพเวอรี่เกิลรับมือต่อ

    "คนคนนั้น... มีแผลเก่าสาหัสบนร่างกายด้วยนะคะมาสเตอร์ ดิฉันคิดว่าควรจะให้เขาพักและรักษาตัวจะดีกว่าแท้ๆทำไมถึงได้มาต่อสู้ล่ะ?"

    คุณพยาบาลเอ่ยถามฉัน พลางหันไปมองยังออลไมท์

    "คิดว่า..เพราะเขาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและเป็นความเชื่อมั่นของทุกคนน่ะ เพราะงั้นเลยพักไม่ได้แต่ว่า.."

    "ฉันเชื่อว่าจะมีสักวันหนึ่งที่เขาจะได้เกษียณนะตอนนั้นฝากคุณพยาบาลรักษาด้วยนะคะ...ฉันไม่อยากให้คนแบบนั้นจากไปคนเดียวอีกแล้ว..."

    "........ถ้าคุณว่าแบบนั้น ฉันจะรอค่ะมาสเตอร์"

    และหลังจากนั้นคินากะก็เดินออกจากสนามสอบไป.. โดยที่ไม่รอพบเพื่อนๆของเธอ..ตอนนี้จากปีศาจประจำห้องบี ฉายาเธอได้เปลี่ยนเป็นจอมมารของห้องบีไปเสียแล้วล่ะ

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×