คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Who am I? 2
แม้ตอนนี้ร่างกายจะรู้สึกแทบจะขยับไม่ไหวแล้วก็ตาม
แต่ชีวิตนี้ก็ต้องดำเนินต่อไปอยู่ดี
ฝนตกพรำๆกระทบหลังคาเสียงดังปะปนคลอเคลียกับเสียงของเปียโนที่ถูกดีดบรรเลงให้กับงานแห่งนี้ เป็นเสียงฟังดูสงบและดูชวนให้น่าหลับใหลราวกับกำลังช่วยปลอบประโลมตัวฉันที่หลบมานั่งคนเดียวอยู่ด้านนอกงานแบบนี้
ร่มสีดำสนิทกับชุดสุภาพสีดำที่ฉันสวมใส่บ่งบอกได้ดีถึงงานด้านหลังที่ฉันหนีออกมา.. เสียงผู้คนพูดคุยแสดงความเสียใจของผู้คนและเสียงของเปียโนที่ถูกบรรเลงยังคงดังเข้ามากระทบโสตประสาทโดยที่ฉันไม่ได้ต้องการมันด้วยซ้ำ
ยังไม่อยากยอมรับเรื่องพวกนั้นหรอก และก็ไม่อยากเห็นสีหน้าเวทนาของพวกเขาด้วย
แค่นี้ก็เจ็บปวดมากพอแล้วล่ะ
ทั้งความสับสนและความเศร้าโศก ไหนจะเรื่องสิ่งที่ตัวเองเคยแบกรับและเผชิญมาในอดีต ยิ่งจำได้ก็ยิ่งรู้สึกปวดลึกไปในจิตใจ
ทำไมตัวเราต้องมาเจออะไรแบบนี้?
เอ่ยถามตัวเองขึ้นมาในใจโดยที่รู้ดีว่าถึงถามไปนั้นก็ไม่ได้คำตอบ หยาดน้ำตาใสๆเอ่อล้นออกมาจากขอบตาบวมๆนั้นอีกครา
ถึงแม้จะรู้ว่าเคยเจอ ถึงจะรู้ว่าตัวเองในอดีตยังกัดฟันทนมันไปได้อยู่... แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ จิตใจที่มีมันต่างกันนะ ถึงจะจำได้แล้วมันยังไงกัน? จิตใจของคนเรามันเข้มแข็งขึ้นมาในชั่วข้ามคืนไม่ได้หรอก
ก็เหมือนกับความด้านชาของจิตใจฆาตกร เพราะผ่านความรู้สึกซ้ำๆเดิมมาๆ และเจอเรื่องที่ใกล้เคียงมาจนชินมันถึงได้ทำใจรับได้ไง..
แต่ตอนนี้น่ะมันไม่ใช่
เพราะตอนนี้ฉันเป็นแค่เด็กธรรมดายังไงล่ะ...
"มาสเตอร์ คุณน่ะไม่ควรออกมาตากฝนแบบนี้นะคะ กรุณารักษาสุขภาพด้วยค่ะ"
เสียงหนักแน่นของไนติงเกลดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่สวมชุดทางการสีดำสนิท ในมือถือผ้าขนหนูผืนเล็กๆมองตรงมายังฉัน อีกมือนึงก็ถือร่มไว้ ดวงตาสีแดงไม่ได้ฉายแววความรู้สึกอะไร มันเรียบนิ่งไม่ต่างจากปกติและมองมายังเด็กสาวเหมือนมองคนไข้คนหนึ่ง
เป็นคนไข้ที่บาดเจ็บหนักมาอีกแล้ว แต่ไม่ใช่ทางกายเเต่เป็นทางใจ
ฉันนั่งนิ่งๆกอดตัวเองอยู่แบบนั้นเพียงเพื่อที่จะหวังว่าความอบอุ่นที่ได้รับจากอ้อมกอดตัวเอง จะช่วยบรรเทาความเศร้าโศกนี่ลงไปได้บ้าง.. เพียงสักนิดก็คงจะดี
หลายวันถัดมา
หลังจากวันนั้นมาสเตอร์ก็ต้องจำใจกลับไปโรงเรียนอีกครั้ง แต่ที่ต่างออกไปคือใบหน้าที่ไม่ยินดียินร้ายและเธอไม่เอ่ยตอบใครหรือขานรับอะไรเลย ถ้ามีใครเรียกก็แค่มองตามไปนิ่งๆ ถ้าไม่มีอะไรก็เสมองออกไปด้านนอก ไม่ยินดียินร้ายไม่มีอารมณ์จะทำอะไรสักอย่าง
ต่อให้ใครมาล้อเลียนหรือพูดชวนคุยก็ทำเป็นเมิน หรือจะด่าว่าก็ไม่สนใจสักอย่าง... จนความอดทนของคนที่เกลียดขี้หน้าอยู่แล้วมันหมดลง
"ไอท่าทีแบบนั้นของเธอมันอะไรกันนักกันหนาฮะ!! หงุดหงิดลูกตาชะมัด คิดว่าตัวเองได้เข้ารอบไปแข่งกับพวกห้องเอแล้วจะหยิ่งได้เหรอเธอน่ะ!!"
เสียงของเนย์โตะที่ตะโกนออกมาพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่กระชากปกเสื้อคินากะขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แต่คนตรงหน้ากลับทำเพียงเเค่เหลือบมองเนย์โตะนิ่งๆเท่านั้น สีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์เสียเหลือเกิน
"เนย์โตะใจเย็นสิ.."
แม้แต่เคนโด้ที่เอ่ยห้ามเขาก็ไม่ฟัง หนำซ้ำยังกระชากหนักกว่าเก่า
"ไอท่าทีแบบนั้นมันยังไงกันห้ะ มีอะไรอยู่ในใจก็บอกมาซะสิ! อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละรู้บ้างไหมว่าเพราะเธอบรรยากาศในห้องมันถึงแย่น่ะ!!"
"......."
"ขอโทษ"
หลังจากเงียบอยู่นานเสียงเบาหวิวของเจ้าตัวก็เปล่งออกมา มือซีดของเธอจับที่ข้อมือของเนย์โตะก่อนจะทำให้เนย์โตะขยับไม่ได้จากอาการชาอีกครั้งหนึ่ง
คินากะแกะตัวเองออกมาจากมือเขา ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่สนใจว่าอาจารย์ประจำชั้นจะเดินสวนมา พอถามว่าจะไปไหนเธอก็ตอบแค่ว่า ไม่รู้ และเดินต่อไปเท่านั้น..
"แล้วเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?"
สุดท้ายวลาดคิงก็ต้องเอ่ยถามเรื่องที่เกิดขึ้นเสียก่อนที่จะบอกเรื่องการไปฝึกฝนงานกับพวกโปรฮีโร่ เมื่อฟังดูแล้วก็ทำให้รู้ว่าเกิดการทะเลาะกันขึ้นระหว่างเนย์โตะและคินากะ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ
"อาจารย์คะ เกิดอะไรขึ้นกับคินากะเหรอคะ?"
สุดท้ายแล้วด้วยความสงสัยเกี่ยวกับท่าทางเเปลกๆที่ดูต่างไปอย่างสิ้นเชิง ไอบาระจึงถามเปิดประเด็นขึ้นมาทันที
"ตั้งแต่ตอนนั้นที่คินากะซังเขาขอยอมแพ้ไป นั่นน่ะไม่ใช่เพราะเขาหมดสติไปเพราะใช้อัตลักษณ์มากไปใช่่ไหมคะ?"
"....อ่าได้เข้าใจล่ะ... ฉันจะตอบพวกเธอก็ได้"
สุดท้ายอาจารย์ประจำชั้นก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากความสงสัยและความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงของเหล่านักเรียน และบรรยากาศเศร้าหมองมากเกินไปนี้
"พวกเธอรู้จักโปรฮีโร่มิราจ ที่ใช้ภาพมายาคอยหาข้อมูลอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า?"
สิ้นเสียงคำถามของอาจารย์ เด็กบางคนก็พยักหน้ารับบางคนก็เพียงส่ายหน้า และมีบางคนที่ไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร
"เธอเป็นแม่แท้ๆของคินากะ และดูเหมือนว่าหลังจากหายไปทำงานหลายสัปดาห์เมื่อตอนบ่ายของการแข่งขันเธอจะเสียชีวิตลงจากการถูกทำร้ายและบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้น่ะ"
"ไม่จริงน่า..."
"........"
"เหนือสิ่งอื่นใด เธอเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่คินากะเหลืออยู่ เพราะงั้นคงเข้าใจที่ฉันพูดนะ?"
เด็กนักเรียนพยักหน้ารับ ส่วนเนย์โตะนั้นก็หันไปมองทางอื่นด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์อะไรบางอย่าง
"จริงสิ เรื่องนี้น่ะทำเป็นไม่รู้ซะ เพราะเจ้าตัวเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้เท่าไหร่..."
"......."
สุดท้ายวันนี้ฉันก็โดดโฮมรูมมานั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้นอกอาคารเรียน แต่มันก็ดีกว่าทำให้พวกเพื่อนร่วมห้องรู้สึกแย่ล่ะนะ
".....ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ซะหน่อย"
ฉันที่นั่งกอดเข่าตัวเองพลางเอาหน้าซุกลงไป ความเหนื่อยล้าจากการที่ต้องไปงานศพของแม่แท้ๆไหนจะเศร้าใจและคิดมากจนนอนไม่หลับ... ทั้งสีหน้าเวทนาสงสารจากคนอื่นๆที่มองมาหลังจากรู้ข่าวของฉัน
หัวสมองเองก็ยังคงคิดไม่หยุดจนปวดหัว เหนื่อยล้าทั้งกายและใจเสียจนอยากหนีไปจากตัวตนที่เป็นอยู่ตอนนี้
แต่ก็รู้ทั้งรู้ว่าหนีไม่ได้ เพราะต้องมีชีวิตต่อไป...
ก็เขาอุส่ารักษาไว้... ก็แม่อยากเห็นฉันเดินตามความฝัน
แต่ตอนนี้น่ะเริ่มไม่แน่ใจเเล้วล่ะว่าจะทำอะไร
"มาสเตอร์..."
"ไนติงเกล?"
พอเงยหน้าตามเสียงเรียกก็พบกับไนติงเกลอีกครั้ง พักหลังมานี้พอฉันหลบอยู่คนเดียวก็ได้ไนติงเกลมาช่วยปลอบเสียทุกครั้งเลย คุณพยาบาลนั่งลงข้างๆฉันก่อนจะถอดเสื้อนอกที่คลุมใหล่ตัวเองมาคลุมให้ เธอจับใหล่ฉันและดึงให้ไปนอนบนตักก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยน
"พักเสียหน่อยสิคะ คุณน่ะไม่ยอมดูแลตัวเองแบบนี้ดิฉันคงต้องบังคับคุณจริงๆแล้วนะคะ"
".....คุณพยาบาล หนูน่ะ... ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี.."
ไออุ่นจากความห่วงใยและกลิ่นไอความเป็นแม่ถูกส่งต่อมาให้ยังฉัน แม้เธอจะไม่ได้เป็นแม่ใครเลยตลอดชีวิตก่อนที่จะเป็นวีรชนแต่ความห่วงใยที่ส่งมาให้ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก..
"ก็ไม่จำเป็นต้องรีบตัดสินใจนี่มาสเตอร์? คุณน่ะยังเป็นเด็กอยู่เลยใช้ชีวิตให้สมกับเป็นเด็กไปเสียก่อนสิสนุกสนานกับชีวิต..ที่ชาติก่อนคุณไม่มีโอกาสได้รับ"
".........งั้นเหรอ?"
มืออันอบอุ่นของไนติงเกลลูบผมสีน้ำเงินซีดของมาสเตอร์อย่างแผ่วเบา ทำให้เด็กสาวตรงหน้านั้นหลับตาลงและสงบได้ในที่สุด
สุดท้ายเธอก็ตื่นอีกทีตอนพักกลางวัน และนั่งทางอาหารอยู่ตรงนั้นก่อนจะลากสังขารกลับห้อง.. เมื่อมาถึงก็ไม่เห็นเพื่อนร่วมชั้น แต่บนกระดานกลับมีเขียนไว้ว่าให้ไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาที่ห้องพักครู พอรู้แล้วก็ช่วยไม่ได้และเดินตามไปอยู่ดี
ครืด
เสียงเปิดประตูของเด็กสาวเรียกความสนใจของอาจารย์ในห้องได้เป็นอย่างดี ไม่ใกล้ไม่ไกลนักมีอาจารย์ไอซาวะที่นอนเป็นหนอนอยู่ในถุงนอนโดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะเดินเข้ามา พอมองสำรวจรอบๆก็ไม่เห็นอาจารย์คนอื่นนอกจากอาจารย์เซกิจิโร่ที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะทำงาน
"มาจนได้นะฟุโยริ มาดูสถานที่ของโปรฮีโร่ที่เธอจะไปฝึกงานสิ"
ว่าพลางก็ยื่นใบรายชื่อมาให้ดู ถึงคนที่เสนอตัวจะลากเธอไปเป็นเด็กฝึกงาน ไล่สายตาดูสักพักพลางฟังรายละเอียดเรื่องต่างๆ แต่ตอนนี้น่ะไม่รู้จะเลือกใครดี
"......."
"อาจารย์ ถ้าหนูอยากหาที่สงบๆมีที่ไหนแนะนำไหมคะ?"
สุดท้ายพอเลือกไม่ได้ก็เอ่ยถามขึ้นมาแบบนั้น เซกิจิโร่ก็ชี้สถานที่ที่เสนอชื่อให้เธอไปฝึกอย่างที่ป่าไกลของไวล์ ไวล์พุซซี่แคทที่ทำงานกันเป็นทีม หรือจะเป็น...ทำงานช่วยโปรฮีโร่อย่าง.. อีเลเซอร์เฮดที่นอนนิ่งสงบเป็นหนอนอยู่ตรงนั้น
โดยปกติอาจารย์ในยูเอย์มักจะไม่เสนอไปหรอก แต่นี่เป็นกรณีพิเศษที่ผอ.เนสุเอ่ยตอนประชุมว่า อย่างน้อยๆให้เจ้าตัวที่ตอนนี้สภาพจิตใจยังไม่ไหวอยู่ในการดูแลฝึกงานกับอาจารย์ก็ยังไม่เสียหาย...
ตอนนี้ที่เธอสับสนอยู่ มันเป็นเรื่องง่ายที่พวกสมาพันจะลากเธอให้กลายเป็นวิลเลิน เพราะงั้นแล้วนี่จึงเป็นอีกวิธีที่พวกเราจะแอบดูแลเจ้าตัวได้ โดยที่เธอไม่รู้สึกอึดอัดน่ะ
"........"
"งั้นไปช่วยงานอาจารย์ไอซาวะก็ได้ค่ะ"
"อือ วันนี้เธอกลับบ้านไปก่อนก็ได้พรุ่งนี้ค่อยเริ่มฝึกงานที่โรงเรียน อย่ามาสายล่ะไอซาวะน่ะเป็นพวกตรงต่อเวลานะ"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
ถึงจะไม่มีแรงจะทำอะไรนัก ถึงจะไม่อาจจะกลับมาร่าเริงสดใสได้เหมือนเมื่อก่อนแต่ว่ายังไง ชีวิตมันก็ต้องเดินต่อไปอยู่ดี เพราะงั้นแล้วถึงจะสับสนถึงจะไม่รู้จะทำยังไงฉันก็จะเดินต่อ...
ก็ยังมีชีวิตอยู่นี่นะ
ความคิดเห็น