คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Dear Master 11
พลังน่ะจะดีหรือเลวมันขึ้นอยู่กับผู้ใช้.. ก็เหมือนอาวุธนั่นแหละ
ถ้าหากใช้ในทางที่ดีมันก็คือสิ่งที่ไว้ปกป้อง แต่ถ้าใช้ในทางที่แย่มันก็คือเครื่องมือทำร้ายผู้อื่น
ณ วันงานกีฬา
ระหว่างที่มาสเตอร์ตัวน้อยของพวกเขากำลังนั่งฟังรายละเอียดของงานกีฬาอยู่นั้น อาเธอร์และเอมิยะก็ลากตัวเมอร์ลินออกมาคุยในที่ลับสายตาจากมาสเตอร์ พวกเขายืนอยู่ในทางเดินเข้าสนามกลางที่ตอนนี้ไม่มีคนเดินผ่าน แต่เพื่อความปลอดภัยเลยใช้ร่างวิญญาณคุยกัน
ฝ่ายอาเธอร์กับเอมิยะที่ตอนนี้ยืนอยู่ตรงข้ามเมอร์ลินที่ถูกโซ่มัด(อีกแล้ว)เพื่อไม่ให้เขาแอบหนีก็จับจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจังเสียจนเมอร์ลินเหงื่อแตกพลั่กๆราวกับคนทำความผิด
แม้จะไม่รู้ว่าความผิดที่ทำนี่คือเรื่องไหนก็เถอะ...
"นี่เมอร์ลิน"
"จ๋าจ้ะ?"
เมอร์ลินขานรับพลางทำใจดีสู้เสือว่าอาเธอร์คงไม่ฆ่าเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ของมาสเตอร์หรอกมั้ง... แต่พอมองหน้าวีรชนอีกสองตนก็รับรู้ได้เลยว่าความซวยกำลังจะมาเยือน
ชิบหายแล้วไงล่ะ...
"ไม่ใช่ว่านายต้องถูกขังอยู่ในอวาลอนไม่ใช่หรือไง? คราวนี้ออกมาได้ยังไง?"
ตอนแรกก็คิดว่าเรื่องอะไร สุดท้ายก็เรื่องนี้เองเหรอ? เมอร์ลินลอบถอนหายใจเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบเหล่าวีรชนตรงหน้า
"ก็..รู้สึกว่าทางต้นไม้โลกมีบางอย่างแปลกๆน่ะ... แถมตัวตนของจอกศักดิ์สิทธิ์ที่ควรจะหายไปตั้งแต่จบการเดินทางของมาสเตอร์คุงเมื่อหลายร้อยปีก่อนก็ดันกลับมาเนี่ยสิ มันผิดปกติน่ะนะ...."
"ผมเลยลองออกมาจากอวาลอนแล้วมาสำรวจหาข้อมูลดูเสียหน่อย!"
"แต่ท่าทางที่เจอนายตอนแรกเนี่ยไม่เหมือนที่ว่ามาเลยนะ"
เสียงของเอมิยะทำเอาเมอร์ลินสะดุ้ง ถึงเรื่องที่บอกไปจะจริงแต่ไอเรื่องที่เขาแอบอู้เนี่ยก็แถไม่ออกเหมือนกัน..
"เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะ ผมว่าตอนนี้เรื่องความปลอดภัยของมาสเตอร์ต้องมาก่อนแล้วล่ะ..."
เอมิยะพยักหน้าเห็นด้วยกับอาเธอร์ตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่มีใครรู้ ถึงแม้เขาจะแอบออกไปหาข้อมูลโดยปล่อยให้อาเธอร์ดูแลคินากะบ้าง แต่นอกจากเรื่องของฮีโร่และสมาพันวิลเลินก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย..
"แล้วนายจะเอายังไงต่อล่ะ เมอร์ลิน?"
"นั่นสิน้า... ตอนนี้ผมก็ไม่มีเป้าหมายอะไรด้วยเพราะงั้นไปกับมาสเตอร์คุงนั่นแหละ"
หลังจากที่ตัดสินใจได้พวกเขาก็กลับไปหามาสเตอร์ของตนอีกครั้งเพื่อปกป้องเธอ งานกีฬาของยูเอย์น่ะเป็นการแข่งที่ถูกจับตาด้วยคนทั่วประเทศ แน่ละว่าแม้แต่พวกวิลเลินเองก็ต่างจับตามองเพื่อหาเด็กที่ดูมีประโยชน์และหาพวกที่น่าจะทำให้เกิดปัญหาและเป็นเป้าหมายกำจัดด้วย
[งั้นก็ขอเชิญนักเรียนตัวแทน บาคุโก คัตสึกิคุงขึ้นมากล่าวเปิดงานสักหน่อยคร้าบบบ โฮ้วว]
สิ้นเสียงฟรีเซนต์ไมค์เหล่านักเรียนและคนดูก็หันไปมองเจ้าของชื่อผู้ที่ทำหน้าเหมือนจะไปฆ่าใครเสียให้ได้ ถ้าไม่ติดว่าคินากะรู้จักเจ้าตัวมาก่อน ก็คงคิดว่าไอหมอนี่เป็นวิลเลินหลงมาหรือเปล่า
ยังไม่ทันคิดอะไรนักเสียงพูดประกาศศัตรูกับนักเรียนทุกคนก็ทำเอาคนรอบตัวไม่พอใจ แต่ถึงอย่างนั้นไหงเจ้าตัวหันไปมองเพื่อนร่วมห้องบางคนด้วยสายตาเจ้าคิดเจ้าแค้นแล้วหันมามองเธอด้วยล่ะเนี่ย...
เดี๋ยวสิเฮ้ย... ฉันไปทำอะไรให้นายกัน
แต่ถึงอยากจะถามแค่ไหนเจ้าตัวก็ไม่เปิดโอกาสให้ถามหรอก ในขณะเดียวกันอาจารย์ผู้ทำหน้าที่พิธีกรอย่างฟรีเซนต์ไมค์กับอาจารย์ไอซาวะก็ประกาศเรื่องการแข่งรอบแรก
บางทีก็รู้สึกว่าอาจารย์ไอซาวะเหมือนจะตายคาที่นั่งแล้วนะ ปล่อยอาจารย์ไปที่ชอบๆดีกว่าไหมเห็นแล้วสงสารแค่นี้อาจารย์ก็อายุสั้นเพราะนักเรียนห้องตัวเองอยู่แล้วนะ...
[งั้นการแข่งวิ่งมาราธอนของยูเอย์... START!!]
สิ้นเสียงพรีเซนต์ไมค์ สัญชาตญาณฉันก็ร้องเตือนบางอย่างให้กระโดดขึ้นเพื่อหลบอะไรบางอย่างที่ใกล้เข้ามา เพราะแบบนั้นฉันจึงรีบกระโดดก่อนที่จะ-
กึก กึก
พื้นสนามก่อเกิดเป็นน้ำแข็งมาแช่แข็งเท้าทุกคนภายในเสี้ยววินาที เห็นแบบนั้นฉันก็โล่งออกที่ตัวเองกระโดดได้ทัน
แต่แล้วความซวยก็มาเยือนอยู่ดี
"ว หวา!-"
ทันทีที่เท้าเหยียบพื้น ด้วยความไม่เคยชินฉันก็ถลาล้มจนก้นกระแทกพื้นน้ำแข็งเย็นๆนั่นด้วยความเจ็บปวด เรียกสายตานักเรียนคนอื่นๆที่หันมองมาแบบงงๆปนขำกับความซุ่มซ่ามของฉัน
ก็คนมันไม่เคยเล่นสเก็ตน้ำแข็งนี่หว่า!
อาเธอร์ปรากฏตัวขึ้นมาทันทีด้วยความเป็นห่วง เท้าทั้งสองข้างของเขาในชุดลำลองก็ดูจะไม่มีปัญหากับการยืนเท่ากับฉัน ตัวฉันก็ได้แต่ยิ้มแห้งตอบไปด้วยความอับอายเท่านั้น..
"งั้นเดี๋ยวฉันช่วยให้ออกจากตรงนี้ล่ะกัน มาสเตอร์"
ว่าแล้วพลธนูประจำกลุ่มอย่างคุณแม่เอมิยะที่มองมาอย่างสมเพชก็ช้อนตัวฉันขึ้นในท่าอุ้มเจ้าหญิง ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้อาเธอร์ อาเธอร์เรียกดาบขึ้นมาในมือก่อนจะง้างขึ้น...
และฟาดลงเรียกคลื่นกระแทกใส่ตัวการอย่างโทโดโรกิทันที
"!!"
เจ้าตัวก็เหมือนจะรู้สึกตัวทันเลยสร้างน้ำแข็งมากันไว้ได้อย่างเฉียดฉิว ถึงแม้จะโดนคลื่นกระแทกนั่นจนน้ำแข็งแตกละเอียดก็ตาม
[โอ้! ตอนนี้ฟุโยริ คินากะจากห้องบีได้เรียกวิญญาณข้ารับใช้ของเธอมาอุ้มเธอผ่านจุดเจ้าปัญหาไปแล้วครับ!! ช่างเป็นอัตลักษณฺ์ที่Cool! แถมขี้โกงซะไม่มี!! คิดว่าไงบ้างอิเลเซอร์เฮด?]
[น่าสนใจดีนี่ ถ้าสั่งการดีๆก็คงจะเป็นอัตลักษณ์ที่โกงสุดๆ]
โถ่อาจารย์ อย่าสร้างความเกลียดชังให้เจ้าเนย์โตะกับหนูนักสิคะ..
"เฮ้อ..."
ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ส่วนเอมิยะที่อุ้มอยู่ก็ยิ้มด้วยท่าทางสงสารราวกับกำลังจะบอกว่า เหนื่อยหน่อยนะมาสเตอร์ อะไรยังงั้น..
"ไม่ยอมแพ้หรอกเว้ย!!"
ได้ยินเสียงของคนหัวไหม้ดังมาจากไกลๆพร้อมกับเสียงระเบิดตู้มมาเป็นระยะๆ คนทำก็ไม่ใช่ใครอื่นบาคุโกผู้หัวร้อน ตลอดกาลนั่นแหละ
[อุปสรรคต่อไปคือหุ่นยนต์ยักษ์นั่นเองครับบบเหล่านักเรียนจะทำยังไงกันเอ่ย!?]
ด้านหน้าฉันก็มีหุ่นยนต์0คะแนนมาขวางทางอย่างน่ารำคาญ แต่กับอาเชอร์แค่นี้ไม่เป็นปัญหานัก เขาไม่คิดจะช่วยจัดการหุ่นยนต์พวกนี้ให้นักเรียนคนอื่นหรอก หนำซ้ำ
ผัวะ!
"โว้ย! เจ้าบ้านั่น!!!"
อาเชอร์ยกยิ้มกวนๆใส่เหล่านักเรียนที่ต้องรับมือกับหุ่นยนต์ยักษ์ที่โดนเขาถีบมันไปหา จนเหล่านักเรียนมองค้อนมาอย่างแค้นเคือง
อย่าสร้างศัตรูให้หนูเลยค่ะ แง
คินากะได้แต่ร้องบ่นในใจเงียบๆ อาเชอร์เขาไปโกรธใครมาล่ะนั่นน่ะ
"อาเชอร์.. เอาลำดับกลางๆก็พอนะ.."
ฉันรีบพูดขัดก่อนที่อาเชอร์จะทำอะไรมากไปกว่านี้ ไม่งั้นเจ้าตัวคงระเบิดทางจนคนอื่นไม่ได้ไปต่อแถมสร้างศัตรูให้เพียบแน่ๆ..
อย่าลืมสิคะว่านี่มันการแข่ง ไม่ใช่สนามรบซะหน่อย ฉันยังไม่อยากได้ศัตรูมากกว่าเพื่อนหรอกนา..
ผ่านการปีนเชือกที่อาเชอร์เล่นกระโดดผ่านราวกับว่าผากว้างตรงหน้ามันก็แค่ช่องว่างเเคบๆเสียจนเรียกเสียงบ่นจากเพื่อนร่วมห้องและคนอื่นมาได้ถนัด
"ขี้โกงอ่ะคินากะ!!"
เธอเองก็ได้แต่หันไปเอ่ยขอโทษเพื่อนตัวเองที่ตามมาทีหลัง ฉันก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้สักหน่อยอ่า! แต่พอบอกอาเชอร์ให้ปล่อยลงเขาก็ตอบมาว่า ไม่มีทางซะหรอก
ไอเจ้าพวกนั้นที่ระเบิดใส่ชาวบ้านแบบไม่สนสี่สนแปดอะไร ไหนจะพวกของแปลกๆจากคนอื่นอีก ฉันไม่ปล่อยให้มาสเตอร์ไปเจ็บตัวไม่เข้าเรื่องหรอกนะ
สุดท้ายเลยทำได้แค่เกาะอาเชอร์ให้แน่นแล้วมองความวุ่นวายของคนอื่นนั่นแหละ
"โอ้นั่น.. บาคุโกกับ..?"
ฉันหันไปมองบาคุโกที่ใช้ระเบิดเป็นเเรงส่งให้บินผ่านกับระเบิดด่านล่างในขณะเดียวกันก็ต่อล้อต่อเถียงกับเด็กผู้ชายผมสองสีข้างๆ ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะชื่อโทโดโรกิล่ะนะ
ตู้ม!!
"ชิทำอะไรไม่คิดกันเป็นบ้า"
เสียงบ่นของเอมิยะดังออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อเกิดแรงระเบิดใหญ่จากด้านหลัง เขาสร้างโล่ดอกไม้สีชมพูขึ้นมากัน ก่อนจะมองตามตัวต้นเหตุที่ลอยข้ามหัวไปอยู่ด้านหน้าสุดพร้อมกับใบหน้าตกใจของเด็กคนอื่นๆ
อิคคุง เข้าใจคิดดีนี่นา!
"ฮะๆ สมกับเป็นอิคคุงเลยน้า ไม่ระวังเล้ย"
ฉันหัวเราะออกมา พวกเราหลังจากหลบกับระเบิดเสร็จก็วิ่งต่อไปกันจนถึงเส้นชัย.. โดยไม่วายโดนเจ้าบาคุโกหันมาระเบิดใส่หน้าทุกครั้งที่เห็นหน้าละนะ
ถามจริงเถอะ ฉันไปฆ่าปลาทองที่นายเลี้ยงไว้หรือไงอ่ะ
สุดท้ายพวกเราก็เข้าเส้นชัยเป็นคนที่4 ซึ่งฉันก็พึงพอใจกับเรื่องนั้นล่ะน้า?
"เเม่มาหรือยังนะ...?"
ฉันพึมพำออกมาสายตาก็เหลือบดูรอบๆอัฒจรรย์ที่มีผู้คนอยู่มากมาย แต่ก็ไม่เห็นใครที่สีผมเหมือนฉันเลยสักคน.. จะว่าไปคนผมน้ำเงินซีดเหมือนฉันนี่ก็ไม่ค่อยจะมีนะ หรือว่าสีนี้มันเป็นยีนต์ด้อยกัน?
นี่คิดอะไรอยู่ระหว่างแข่งเนี่ย?
[การแข่งขันต่อไปคือขี่ม้าส่งเมืองโดยที่พวกเราจะเเย่งผ้าคาดหน้าผากที่มีคะแนนตามลำดับที่เข้าจากการวิ่งมาราธอนรอบแรก! ซึ่งผู้ที่ได้อันดับหนึ่งนั้นมีคะแนนถึง10ล้านเชียวล่ะ!]
เสียงของมิดไนท์ซังเอ่ยออกมาสร้างความตกใจให้แก่อิสึกุคุงอย่างมาก แน่ละ10ล้านเชียวนะนั่นแบบนี้มีหวังโดนหมายหัวแน่นอน..
หลังจากนั้นคุณมิดไนท์ก็อธิบายถึงลักษณะการแข่งขันงานนี้มีการแข่งเป็นทีมล่ะนะ เอาล่ะได้เวลาไปหาทีมแล้ว-
"อาเร้ะ..."
พอหันมองเพื่อนร่วมชั้นแต่ละคนก็หนีไปมีทีมกันหมดแล้ว ทางด้านอิสึกุคุงก็ได้ทีมเรียบร้อย.. พอจะไปถามเพื่อนร่วมห้องที่ทีมยังมีสามคนก็โดนเมินเพราะโกรธจากการแข่งรอบก่อน
ขอโทษได้ไหมเล่า...
"นี่..คือว่าขออยู่ทีมด้วยได้ไหมอ่ะ.."
ฉันเดินไปทักทางด้านกลุ่มของนักเรียนห้องอื่นที่ไม่รู้จัก คิดว่าน่าจะมาจากสายทั่วไปแต่ก็นะ.. มันไม่มีทีมจะอยู่แล้วนี่นา! จะเอาอาเชอร์กับอาเธอร์มาเป็นม้าเนี่ยนะ? ไม่มีทาง!
"เธอที่ได้ที่4? อ่าได้สิ.."
เด็กชายหัวชี้ๆผมสีม่วงกับดวงตาที่เหมือนใครสักคนเสียเหลือเกินจนอดสงสัยไม่ได้ พอหันไปมองทางด้านกรรมการก็นึกขึ้นมาได้... เหมือนอาจารย์ไอซาวะนี่เอง!
"แล้วใครจะเป็นคนขี่ดีล่ะ? เธอไหม?"
เด็กนักเรียนอีกคนเอ่ยถาม พวกเขาเสนอว่าเขาจะเป็นม้าให้เพราะมีฉันคนเดียวเป็นผู้หญิงทั้งกลุ่ม
"จริงๆอัตลักษณ์ฉันมันป้องกันผ้านี่ไม่ได้หรอก แต่พอจะแย่งได้ง่ายๆนะ แล้วของนาย..?"
"ฉันชินโซ ฮิโตชิ อัตลักษณ์ก็ล้างสมองน่ะ.."
เจ้าตัวว่าพลางหลบตาหน่อยๆ ตอนที่พูดถึงอัตลักษณ์ตัวเอง
"งั้นเหรอฉันฟุโยริ คินากะ จะเรียกคินากะก็ได้งั้นนายเป็นคนขี่แล้วกันนะฮิโตชิคุง"
ฉันเอ่ยออกไปพร้อมรอยยิ้ม ส่วนเจ้าตัวก็หันมามองพลางเลิกคิ้วด้วนสีหน้าแปลกใจอะไรสักอย่าง สงสัยคงกังวลเรื่องที่ฉันจะเป็นม้าล่ะมั้ง?
"ถึงแบบนี้ฉันก็ออกกำลังกายมาพอๆกับอิคคุงนะ! ถึงจะไม่มีอัตลักษณ์เสริมพลังก็เถอะ"
ฉันทำท่าเบ่งกล้ามให้ดูพร้อมพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ เพื่อนห้องอื่นที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะกับท่าทางของฉัน ส่วนชินโซคุงจะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องนั้นก็ตาม
"ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย... ฉันแค่แปลกใจที่เธอไม่ว่าอะไรเรื่องอัตลักษณ์น่ะ..."
"แล้ว? มันก็พลังของนายนี่นาทำไมฉันต้องว่าอะไรล่ะ? พลังน่ะมันไม่อันตรายหรอกมันขึ้นอยู่กับคนใช้ต่างหาก ก็เหมือนปืนหรือดาบนั่นแหละนะ อยู่เฉยๆมันก็เป็นแค่อาวุธที่ทำอะไรใครไม่ได้ แต่ถ้าคนใช้มันแย่มันก็จะเป็นของที่เลวร้ายใช่ไหมล่ะ?"
ฉันว่าไปแบบที่ฉันคิดและเข้าใจมา เอมิยะและอาเธอร์เองก็ว่ามาแบบนั้น อีกอย่างการที่โดนเกลียดเพราะอัตลักษณ์เธอก็พอจะเข้าใจความรู้สึก.. แต่มันไม่ใช่ความผิดเธอสักหน่อยนี่..
"พูดได้ดีนี่มาสเตอร์คุง โอนี่จังจะกอดคุณลูกศิษย์ผู้น่ารักเป็นรางวัลเองน- แอ่ก"
อยู่ๆเมอร์ลินที่ปรากฏตัวออกมาจากด้านหลังฉันที่พุ่งเข้ามาหมายจะกอดน้วยให้ได้ก็โดนฉันเสยคางเข้าให้ พร้อมกับเอมิยะที่ใส่ชุดสูทสวมแว่นดำพร้อมกับบัตรในมือ
"FBIขอจับนายในข้อหาพรากผู้เยาว์นะเมอร์ลิน"
ทำเอาเพื่อนร่วมทีมฉันมองมาด้วยสายตาแปลกๆเลยล่ะ...
ใครจะคิดเล่าว่าวีรชนรอบตัวฉันจะเป็นงั้นกันไปได้.. เฮ้อ....
ความคิดเห็น