คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Dear Master 1 +
**ควรอ่าน ข้อมูลfgoเบื้องต้น**
FGO หรือ fate grand order เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมาสเตอร์คนที่48ขององค์กรหนึ่งที่มีชื่อว่า คาลเดีย เป็นองค์กรของจอมเวทย์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงจุดจบของมวลมนุษยชาติ โดยการที่ให้มาสเตอร์อัญเชิญเหล่าวีรชน(ผู้กล้าจากอดีตกาลหรือเหล่าบุคคลในประวัติศาสตร์)มาร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน
แต่เนื่องจากในตอนที่กำลังจะดำเนินภารกิจได้เกิดเหตุระเบิดที่ห้องบัญชาการ ทำให้มาสเตอร์คนอื่นๆที่กำลังจะเรย์ชิฟ(คล้ายการย้ายจิตเข้าไปยังช่วงเวลา)เสียชีวิตทั้งหมด จึงเป็นเหตุให้ตัวเอกต้องเดินทางร่วมกับเซอร์เเวนต์ก้าวข้ามผ่านอดีตไปจัดการหยุดความผิดปกติในอดีตที่จะส่งผลให้อนาคตดับสูญ
หลังจากที่เดินทางผ่านจุดผิดเพี้ยนทั้ง7ที่ ตัวของมาสเตอร์จะมายังจุดสุดท้ายคือวิหารแห่งกาลเวลาของโซโลมอน โดยมาสเตอร์ของเราต้องสู่กับเสาเทพมารที่เป็น1ใน72ปีศาจในหนังสือของโซโลมอน แน่นอนว่าแม้เราจะเอาชนะปีศาจเหล่านั้นมาได้ แต่พวกเราไม่อาจจะจัดการกับบอสสุดท้าย หรือก็คือโกเอเทียที่รวมร่างกับศพของโซโลมอนได้
และ..เพราะเป็นจุดตัดสินสุดท้ายที่กำลังเป็นจุดชี้ขาดถึงอนาคตของมวลมนุษย์ ในตอนนั้นเองที่ดอกเตอร์โรมันนี อาร์คมัน ชายผู้ที่รับหน้าที่เป็นผู้คอยบัญชาการให้เราและคนสำคัญของมาสเตอร์ได้ก้าวออกมา ต่อหน้ามาสเตอร์ เขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองและเสียสละตัวเองเพื่อที่จะเปิดโอกาสให้มาสเตอร์สามารถจัดการกับบอสสุดท้ายได้..
ในที่สุดมาสเตอร์ของเราก็กอบกู้โลกมาได้ แต่ในตอนที่คิดว่าทุกอย่างจะจบลงและกลับมาเป็นปกติ ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น
ตัวตนของพวกวีรชนร่างทรง (มนุษย์กึ่งเซอร์เเวนต์)ได้เข้ามาแทรกแทรงองค์กรคาลเดียจนเกิดการล่มสลาย มาสเตอร์และคนอื่นๆจึงต้องหนีกันออกมา หลังจากที่หนีออกมาตั้งหลักกันได้เรียบร้อยมาสเตอร์จึงได้รู้ว่า เหล่ามาสเตอร์คนอื่นๆที่เคยตายไปตอนเกิดเหตุระเบิด ได้ถูกพวกเทพต่างแดนช่วยชีวิตเอาไว้ และได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนโลก
ประวัติศาสตร์ของโลกถูกแทนที่ใหม่ และครั้งนี้หน้าที่ของมาสเตอร์ของพวกเราคือการ"ทำลาย"ประวัติศาสตร์ของผู้แพ้เหล่านั้นทิ้งเพื่อที่จะพาประวัติศาสตร์เดิมกลับมา..
**มุมคำอธิบายศัพท์และเซ็ตติ้งหลายๆอย่าง**
การอัญเชิญวีรชน โดยปกติแล้วในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่ได้รับตราอาคมบัญชา (เรย์จู) จะมีสิทธิในการอัญเชิญวีรชนออกมา โดยการใช้สื่ออัญเชิญที่เกี่ยวกับวีรชนนั้นๆ หรือสุ่มตามลักษณะนิสัยและจิตใจที่เข้ากันได้ของมาสเตอร์เซอร์แวนต์
สงครามจอกฯ สงครามจอกฯคือสงครามของเหล่าจอมเวทย์ที่อัญเชิญวีชนขึ้นมาต่อสู้กันเพื่อแย่งจอกฯที่สามารถดลบันดาลความปรารถนาใดๆให้กลายเป็นจริงได้ โดยช่วงที่เกิดสงครามจอกจะมีตราบัญชา(เรย์จู)กำเนิดขึ้นบริเวณร่างกายของเหล่าผู้คนที่ถูกเลือก(รวมทั้งคนธรรมดาๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นจอมเวทย์ก็เข้าร่วมได้) หากสูญเสียตราบัญชาไปก็จะหมดสิทธิ์การเข้าร่วมสงคราม
ตราบัญชา(เรย์จู) เรย์จูเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นมาสเตอร์และผู้มีสิทธิเข้าร่วมสงคราม โดยปกติแล้วมีเพียงสามเส้นเท่านั้น ตราบัญชาแต่ละเส้นสามารถใช้สั่งการหรือเพิ่มพลังให้กับวีรชนได้
**จะมาเพิ่มเติมภายหลัง หากสงสัยกรุณาสอบถาม**
ในโลกที่ความวุ่นวายก่อกำเนิดขึ้นไป พร้อมๆกับความสงบสุข
ผู้คนมากมายเกิดมาพร้อมกับพลังที่สามารถทำอะไรหลายๆอย่างได้ดั่งใจต้องการ
แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนหนึ่งที่ไร้ซึ่งพลังใดๆ..
ถ้างั้นแล้ว
การที่ผู้ที่ไร้พลัง.. ต้องการจะปกป้องคนอื่นมันเป็นไปได้หรือเปล่านะ?
ในโลกอนาคตที่ผู้คนได้เกิดการพัฒนากันไปจนมีความสามารถอันแปลกประหลาด สิ่งที่เรียกว่าเรื่องมหัศจรรย์แฟนตาซีและไร้สาระในอดีต ตอนนี้กลับเป็นเรื่องราวทั่วไปของผู้คน การที่มีคนที่เกิดมามีพลังประหลาด หรือเหตุการณ์ที่เรียกว่าฮีโร่ และวิลเลินเกิดขึ้น..
เหตุใดโลกใบนี้ถึงได้เปลี่ยนไปได้เช่นนี้กันนะ?
"......"
เอมิยะ ชิโร่ วีรชนตนหนึ่งที่เป็นหนึ่่งในเคาท์เตอร์การ์เดี้ยนในอดีต ก่อนหน้านี้เขาได้ถูกอัญเชิญไปร่วมกับองกรณ์เพื่อปกป้องอนาคตของมนุษยชาติคาลเดีย และสามารถเผชิญหน้าไปกับวีรชนตนอื่นและ"มาสเตอร์"ของตนจนถึงจุดจบ..
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ในตอนนี้เขาถึงได้ถูกเรียกมาอีกครั้งโดยอะไรบางอย่าง และถูกพันธนาการไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่ง..
"....."
แม้จะรู้สึกได้ว่ามานานั้นลอยตัวเต็มไปหมดในอากาศ แต่ถึงเเบบนั้นเขาก็ไม่อาจที่จะสลัดตัวเองให้หลุดออกจากเงาที่พันธนาการเขาได้เลย..
และนั่นก็ทำให้เขาต้องเฝ้ามองโลกนี้ต่อไป เรื่อยๆ เรื่อยๆโดยไม่อาจทำอะไรได้..
โลกที่ไม่มีจอมเวทคนใดจะมองเห็นเขาหลงเหลืออยู่อีก..
4ปีผ่านไป...
อา เนิ่นนาน เนิ่นนานเหลือเกิน...
เพราะเป็นวีรชนเลยไม่อาจจะตายไปได้อีก แต่ถึงแบบนั้นมานาก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้อยู่ แม้จะไม่ตายแต่ก็ไม่อาจจะขยับตัวได้..
ฉันต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน..?
จนกว่ามานาในโลกนี้จะหมดหรือ? หรือว่าจนกว่าบริเวณนี้จะถูกทำลายราบกัน..?
"...."
เอมิยะเหม่อมองเหล่าผู้คนที่เดินไปมาอย่างไร้จุดหมาย มีทั้งผู้คนที่มีร่างกายปกติแบบที่เขาเคยเห็น และคนที่มีรูปร่างหรือพลังที่แปลกประหลาดตามสิ่งที่เรียกว่าอัตลักษณ์
เอมิยะถอนหายใจออกมา เขาทำแบบนี้มารอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่แน่ใจแต่นั่นคือสิ่งเดียวที่เขาพอจะทำได้ นอกจากสรรสร้างอาวุธที่อยู่ในเรียลลิตี้มาเบิลของเขา.. หรือจะลองทำอาวุธที่เห็นผู้คนถือเดินผ่านไปมา
ใช่ นั่นคือสิ่งที่เขาพอจะทำได้ในเวลา4ปีนี้..
".....? คุณแม่คะๆ.."
ในระหว่างที่เขาที่เขานั่งหลับตาลงแบบไม่รู้จะทำอะไร เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาของใครสักคนมองมายังเขา เมื่อลืมตาก็เห็นเด็กหญิงตัวเล็กมัดผมทวิลเทลหันมองมาทางเขา..
ถ้าเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองไปเสียหน่อย เขารู้สึกว่าตัวเองสบตากับเธอ
เด็กหญิงเอ่ยคุยกับคุณแม่ของเธอสักพักก่อนที่จะยิ้มออกมาและวิ่งมาทางเขา
"คือว่าพี่ชายๆ พี่ชายเป็นฮีโร่ ที่กำลังมีปัญหาหรือเปล่าคะ?"
เธอพูดออกมาด้วยคำพูดง่ายๆและเนิบนาบ ดวงตาสีแดงแกมชมพูของเธอจ้องมองตรงมายังผม ผมสีน้ำเงินอ่อนมัดขึ้นไปตัดกับชุดวันพีชสีครีม
"คือว่า.. พี่ชายออกมาจากอ่า..นั่นมัน?...งืม..."
"ให้หนูช่วยนะคะ!" เด็กสาวยิ้มออกมาด้วยความร่าเริงโดยที่ไม่รอให้เอมิยะตอบ เขาเบิกตามองเด็กสาวอย่างแปลกใจ
"เธอ..มองเห็นฉันด้วยเหรอ?"
"ค่ะ? พี่ชายเป็นฮีโร่ที่ล่องหนได้..อะไรแบบนั้นเหรอคะ? ม่าม๊าก็พูดเหมือนกันว่าไม่เห็นอะไรเลย."
"......."
เด็กสาวแกะเจ้าเงานั่นออกอย่างง่ายดายด้วยมือเล็กๆ เอมิยะได้แต่จ้องมองเธอด้วยความแปลกใจ
"นี่เธอน่ะ ทำไมถึงมาช่วยฉันล่ะ? ถ้าเจ้าเงานั่นมีคำสาปอยู่เธอจะเจ็บตัวเอานะ"
"........?"
เด็กสาวชะงักมือก่อนจะมองเขาด้วยท่าทางไม่เข้าใจและเอียงคอ
"ก็ปะป๊าเคยบอกหนูไว้ว่า ถ้าเห็นใครก็ตามที่กำลังเดือดร้อนก็ต้องช่วยเหลือค่ะ เพราะนั่นคือหน้าที่ของฮ๊โร่!"
"และหนูอยากเป็นฮีโร่เหมือนปะป๊า!"
เด็กสาวยิ้มออกมาด้วยแววตามั่นใจ ก่อนที่จะเเกะเจ้าเงาออกจากเขาต่อไป เพราะอะไรบางอย่างเขาถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กสาวอย่างประหลาด ความรู้สึกบางอย่างร้องบอกกับเขาว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบกับเธอ
คำตอบของเธอทำให้เขารู้สึกเหมือนเห็นตัวเองในอดีต..
อา...
ไม่อยากให้เด็กคนนั้น แตกสลายเลยนะ
ความคิดเห็น