ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Blood School เลือดรัก นักเลงช่าง ~JackBam [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #7 : Sec 7 / I'm not your toy

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.54K
      42
      4 ม.ค. 58



                                                      


    หลังจากเกิดกรุ่นมาคุขึ้นเล็ก ๆ ทำให้ผมต้องระเห็จตัวเองเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้คนที่ถือวิสาสะยึดเตียง นอนดูทีวีอย่างสบายใจ...ถึงแม้ว่าหน้าตาหล่อเหลานั่นจะยังนิ่งสนิทเหมือนเดิม แต่ก็พอรู้ว่ารีแลกซ์กว่าที่เคยเจอที่โรงเรียน...

     

    กูมานอนบ้านแฟนตัวเองไง...แต่มึงกล้าให้ชายอื่นเข้าบ้าน..วันนี้กูจะเคลียร์

     

    นึกถึงคำพูดของอีกคนที่ทำให้ผมปิดหูปิดตาตัวเอง ไม่ยอมรับว่าอะไร..ยังไงกับคนที่พูดคลานขึ้นเตียงผม ก่อนจะนอนหงายเอามือหนุนต่างหมอน ตาคมจ้องผมที่เก้ ๆ กัง ๆ เพราะกำลังงง ๆ หันหลังคว้าผ้าเช็ดตัวได้ก็วิ่งเข้าห้องน้ำเลย ...

     

    “ ผมจะไปนอนกับคุณย่า”

     

    “ ไปนอนด้วย” ...มองคนที่พูดออกมาหน้าตาเฉย...หลังจากที่เดินออกจากห้องน้ำก็ตั้งใจพูดสิ่งที่คิดตลอดการอาบน้ำ...แต่คำตอบมันไม่ได้เป็นไปตามที่คิดเท่าไหร่...

     

    “ ไม่ได้ครับ! เฮียจะนอนนี่ก็นอนไป”

     

    “ มึงยังไม่นอนเลย”

     

    “เฮียแจ็คสัน!

     

    “ อะไร”

     

    “......................” ... อดทนไว้...อดทนไว้นะ...แบมแบม...สูดลมหายใจเข้าปอดจนลึกสุด ๆ สะบัดหน้าเชิดเข้าไว้ แล้วเดินออกจากห้องทันที ก่อนที่จะอดรนทนไม่ไหว ต้องเล่นอาวุธแบบมีดหรือไม้เบสบอลที่วางอยู่ในห้อง...

     

    “ แล้วพี่แจ็คล่ะลูก ตามพี่เขาลงมาทานข้าวด้วยนะ ย่าทำแกงเลียงฟักทองของโปรดแบมแบมด้วย”

     

    “ ย่าครับ...แบมแบมอยากไปนอนกับคุณย่า...”

     

    “ ได้ยังไงลูก แล้วใครจะนอนกับพี่เขาล่ะ” 

     

    “ พี่แจ็คสันเขานอนคนเดียวได้ คุณย่าไม่อยากนอนกับแบมแบมเหรอ”  กอดเอวแล้วทำหน้าอ้อนคุณย่าที่กำลังยืนมองพวกแม่บ้านจัดโต๊ะอาหารอยู่ในห้องอาหาร...คนสูงวัยทำท่าจะเอ็ดผมเรื่องที่จะปล่อยให้ไอ้เฮียนั่นนอนคนเดียว...มันโตจนหมาเลียสะดือไม่ถึงแล้วเหอะ...

     

    “ หือ เด็กคนนี้ ทำไมล่ะ เราเป็นเจ้าบ้านนะลูก เราต้องเทคแคร์แขกด้วย เอาไว้วันหลังแบมแบมไปนอนกอดย่าให้สมใจเลยดีไหม..”

     

    “...ก็ได้ครับ...”

     

    “ ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนี้เลย ไปตามพี่เขาลงมาทานข้าวได้แล้ว”

     

    “ ...ครับคุณย่า...”  อิดออด ออดอ้อนคุณย่าอีกพักใหญ่เพราะยังไม่อยากขึ้นห้องตัวเอง... แต่ก็ต้องทำตามที่คุณย่าบอก เพราะเดี๋ยวท่านจะมองว่าผมเป็นพวกต่อต้าน หรือไม่เชื่อฟัง...วิ่งขึ้นไปบันไดกะว่าจะชะเง้อหน้าเข้าไปในห้องแล้วตะโกนบอกให้ลงมากินข้าวแค่นั้นพอ...

     

    “ คุณย่าตามลงไปทานข้าวครับเฮีย!

     

    “........................”

     

    “  ผมลงไปก่ะ

     

    “ มีผ้าเช็ดตัวอีกผืนไหมจะเช็ดผม”

     

    “มะ มีครับ”   เปิดประตูเข้าไปชะโงกหน้าตามที่คิดไว้ แต่สายตาดันไปสะดุดกับร่างกายขาว ๆ ที่มีหยดน้ำเกาะพราวอยู่ มือหนายกขึ้นเสยผมที่เปียกจนน้ำหยดลงพื้น...แล้วทำไมผมต้องรู้สึกหน้าร้อน ๆ ด้วยทั้งที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน....

     

    ...แต่ก็ต้องยอมรับ...ว่าเท่ห์ชะมัด.....

     

    “ นี่ครับ ใช้เสร็จใส่ตะกร้าไว้เลย”

     

    “ เช็ดผมให้หน่อย ตะกี้ลื่นในห้องน้ำแขนเคร็ด”

     

    “จริงเหรอ?

     

    “ มึงว่ากูโกหก?

     

    “....................”  ทำไมต้องมาเป็นภาระของผมด้วย...อยากจะไล่กลับไปซะตอนนี้เลย แต่มันก็คงจะไม่ดี...จะอยู่ลำบากยิ่งกว่าเดิม รับผ้าเช็ดตัวคืนมา..แหงะมองหน้าอย่างระแวง...

     

    “ ไม่เต็มใจก็ไม่ต้องทำ กูไม่ชอบ”

     

    “ นั่งลงดิ!

     

    “..................”  เฮียแจ็คสันหันมามองหน้า ก่อนจะเดินไปนั่งที่ปลายเตียงแล้วส่งสายตาให้ผมตามขึ้นไปเพื่อเช็ดผมให้ตัวเอง...เลยจำใจต้องคลานขึ้นเตียงไปนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังคนที่อ้างว่าแขนเคล็ด...ห้องน้ำผมมันก็ไม่ลื่นซักหน่อย...

     

    กลิ่นแชมพูสระผมกลิ่นเดียวกับผมทำให้รู้สึกแปลก ๆ เส้นผมที่ถูกจัดและใส่เจลอยู่เป็นประจำกลับยังนุ่มมือไม่แข็งกระด้าง...ผมใช้ผ้าเช็ดตัวสีขาวซับ ๆ เช็ด ๆ อยู่บนหัวของผู้นำแกงค์เพการ์ จะภูมิใจดีไหมที่ได้เล่นหัวเฮียแจ็ค....

     

    แชะ!

     

    “ ทำอะไรครับ”

     

    “ ถ่ายรูปให้ช่างผมกูดูว่ามันยาวแล้ว”

     

    “................”  ...ไม่สนใจ...เช็ดอีกสองสามทีก็ลงจากเตียงเอาผ้าไปตากไว้ตรงราวในห้องน้ำ...

     

    ดูเหมือนว่าคุณย่าจะถูกใจคนมาอาศัยไม่น้อย พูดคุยหัวเราะสนุกสนาน แต่สิ่งนึงที่ผมไม่คาดว่าจะได้เห็นคือ การเอาอกเอาใจคนมีอายุ พูดเรื่องที่ไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างนี้จะรู้จักด้วย แม้แต่ผมเองยังแอบเงี่ยหูฟัง...ไม่ว่าจะเป็นการตอนกิ่งต้นไม้เพื่อขยายพันธุ์  การทำขนมหวานที่ย่าชอบ การเลือกซื้อผ้าไหม...สิ่งพวกนี้ทำผมอึ้งพอสมควร และย่าก็ชอบจนบอกว่าให้มาบ่อย ๆ ....ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผมว่าไม่เข้าท่าซักนิด...

     

    จะนอนซ้ายหรือขวา

     

    ข้างไหนก็ได้ครับ

     

    นอนคว่ำหรือหงาย

     

    .....................หันมองคนที่ถาม ก่อนจะเอาหมอนข้างไปกั้นกลางไว้ อาจจะเหมือนสาวน้อยแรกแย้มกลัวการนอนข้างผู้ชาย มันจะไม่เป็นอย่างนี้ถ้าผมจำไม่ได้ว่าช่วงหัวค่ำ ผู้ชายคนนี้พูดว่ามานอน...บ้านแฟน...และจะไปนอนข้างล่างก็จะลงไปนอนด้วย ผมเลยต้องยอมนอนข้างบน...แล้วยิ่งมาถามนอนคว่ำ นอนหงาย มันคงไม่ใช่นิมิตหมายที่ดีเท่าไหร่...ไม่ตอบคำถามก่อนจะรีบนอนลงตะแคงข้างหันหน้าออกจากคนที่นอนอยู่อีกฝั่ง ดีที่เตียงพอจะรองรับผู้ชายตัวโตได้...

     

    ให้กูนอนกอดไหม

     

    ผมจะนอนกับย่า

     

    ไปด้วย

     

    ..................  หันไปมองคนที่เท้าแขนตะแคงข้างมองผมอยู่ รู้สึกเสียวหลังแปลก ๆ รีบพันผ้าห่มรอบ ๆ ตัว ตัวเอง...ผมจะนอนหลับไหมคืนนี้..

     

    กูไม่ชอบขืนใจใคร

     

    .......................

     

    ถ้ากูไม่เงี่-น

     

    แล้วเงี่-นไหมคืนนี้!!”  หมดความอดทนจริง ๆ  หันไปเหวใส่คนที่พูดสองแง่สามง่าม บอกมาเลยว่าเงี่ยนไหม ถ้าเงี่ยนผมจะได้รีบออกจากห้อง ไม่ต้องมานอนรอเวลาให้ใครมาง่งมาเงี่ยนใส่...

     

    ทำไม ถ้ากูเงี่-นมึงจะยอม

     

    ......................

     

    มานอนลง จะไปไหน ถ้านอนนิ่ง ๆ อย่างนี้กูไม่ทำอะไรหรอก สะดีดสะดิ้งมาก จัดแมร่งให้คางเหลืองเลย

     

    ปล่อยเซ่! จะกอดบ้าอะไร!”  แกะมือหนาที่รั้งเอวผมมานอนกอดหลังจากที่กำลังจะลุกจากเตียง.....หมอนข้างที่เอากั้นไว้ถูกโยนออกจากเตียงทันทีที่ล้มลงทั้งขาทั้งแขนก็กอดพันผมไว้แน่นจนขยับไม่ได้...

     

    ให้กอดปลอดภัย ขยับออกไปไกล..เสียตัว..เลือกเอา..

     

    ไอ้บ้านี่!”

     

    ...แค่กอดมันไม่ตายหรอก..

     

    ผมนอนไม่หลับ

     

    นอนไม่หลับ กับเสียตัวเอาอันไหน

     

    เชี่ย!!”

     

    นิ่ง ๆ ปลอดภัย ปากไวเสียตูด

     

    ....................  นอนหายใจฟืดฟาดเมื่อไอ้คนที่กอดยอมเอาขาออก แต่วงแขนแข็งแรงนั่นยังกอดเอวผมไว้แน่น ลมหายใจเป่ารดอยู่บนหัว พยายามข่มใจให้นิ่งที่สุด...แต่พอนิ่งหัวใจผมก็เริ่มเต้นแรงขึ้น....

     

    ....แล้วทำไมผมต้องยอมอะไรมันขนาดนี้ด้วย....

     

      นอนเถอะ ฟอด!”

     

    ......................  ห้ามไม่ได้แล้ว เสียงทุ้มนุ่มที่พูดอยู่เหนือหัว สัมผัสแผ่วเบาที่กลุ่มผมจากจมูกโด่ง ทำให้หัวใจผมเต้นรัว จนเหมือนจังหวะกลองที่เร็วขึ้น....อีกคนนิ่งไป...และผมเองก็นิ่ง....จนได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอ...

     

    .....ต้องการอะไรกันแน่....มาดีหรือมาร้าย....หรือแค่ต้องการเล่นตลกกับผม....

     

     

    ตอนนี้กำลังส่อง ๆ มองตามเสียงที่ได้ยินอยู่ในห้องนั่งเล่น...  เมื่อคืนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ หลับสนิทจนไม่รู้ว่าเฮียแจ็คออกจากห้องตอนไหน เพราะตื่นขึ้นมาผมก็นอนอยู่บนเตียงคนเดียว  รีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะมีเรียนเช้า  ลงมาก็ได้ยินเสียงย่าหัวเราะคิกคัก ส่วนคนที่หายไปจนผมดีใจว่าอาจจะกลับบ้านแล้ว กำลังนั่งคุยกับคุณย่าอยู่....

     

    ตื่นสายจังลูก ดูซิพี่เขาลงมาหาย่าแต่เช้าแล้ว

     

    ก็ตื่นปกติครับคุณย่า ได้หลานใหม่แล้วลืมแบมแบมน่ะสิ  ทำท่างอน ๆ ใส่คุณย่า ที่ดูเหมือนว่าหายใจเข้าออกก็จะเป็นผู้ชายคนนี้ดีที่สุดไปซะแล้ว...

     

    งอน ๆ ไม่ใช่หรอก ฟอด! ไปทานข้าวเช้ากับย่าทั้งสองคนเลยไป ย่าสั่งให้คนทำอาหารเช้า  แล้วก็ข้าวต้มกุ้งไว้

     

    ครับ  อยากจะเบะปากใส่คนที่ขี้ประจบ  กอดเอวคุณย่าไปห้องอาหารที่ตอนนี้มีข้าวต้มกุ้งหอมฉุยอยู่ในถ้วยเรียบร้อยแล้ว...เพราะหิวหรือผมเจริญอาหาร เลยซัดไปซะอิ่มแปล้เลย....ปกติตอนเช้าไม่ค่อยกินอะไรแท้ ๆ เพราะกลัวง่วงนอน...

     

    ย่าจะรอทานข้าวนะ พี่แจ็คสันมาอีกไหมลูก

     

    ไม่แน่ใจครับคุณย่า แต่ก็อยากมาคุยกับคุณย่าอีก

     

    พี่แจ็คสันของคุณย่า ยุ่งครับ กิจกรรมเยอะ ไม่ว่างหรอก เดี๋ยวตอนเย็นแบมแบมมาทานข้าวด้วยนะครับ

     

    จ้าลูก ไปเถอะ บุญรักษาทั้งสองคน

     

    ตลอดทางทั้งผมทั้งเฮียเงียบกันทั้งสองคน ถ้าอีกคนไม่ยั่วหรือพูดอะไร ผมก็ไม่พูดอยู่แล้วเพราะปกติอยู่กับเพื่อนก็เป็นผู้ฟังที่ดี ยกเว้นเวลาอยากกัดพวกมันบ้าง พอหอมปากหอมคอ....รถกำลังเลี้ยวเข้าไปจอดในซองลานจอดรถของสถาบัน ซึ่งมันบังเอิญที่เพื่อนผมยืนคุยกันอยู่หลังรถพวกมันที่จอดอยู่...

     

    เฮียหวัดดีครับ!!”

     

    ดี ไปก่อน

     

    ครับบ!!”  สี่สหายขานรับพร้อมเพียง อีกคนพยักหน้ารับไหว้ ก่อนจะเหลือบมองผมน้อย ๆ แล้วเดินออกไปเป็นเหยื่อ อาหารตาของสาวๆ  แถวตึกอำนวยการ...แต่ทำไมรู้สึกขนลุกแปลก ๆ  รู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่จ้องมา รวมทั้งไอ้สี่ตัวนั่นด้วย...

     

    สลัดด แบมแบม! ไอ้นี่ปากว่าตาขยิบนะมึงงงง

     

    อะไรของมึง  ผมพูดแล้วเดินนำพวกนี้ไปหาที่นั่งแถว ๆ ตึกอำนวยการรอเวลาขึ้นเรียน....มันคงแซวเรื่องที่ผมนั่งรถมากับเฮียแจ็คสันแน่ๆ  เพราะเรื่องที่ไปค้าง ผมคิดว่าไม่มีใครรู้....แต่พอเดินเข้าไปในเขตม้าหินอ่อนข้างตึกอำนวยการ ก็เหมือนตัวผมกำลังทะลุทะลวงเพราะสายตาสาว ๆ ที่นั่งแถวนั้น...จะว่าวันนี้หล่อผิดปกติก็ไม่ใช่...

     

    ตกลงมึง ฟิทเจอริ่งกันยัง

     

    ฟิทเจอริ่งอะไร!” 

     

    มึงตกลงคบกับเฮียแจ็คสันแล้วอ่อ!”

     

    ไอ้มาวิน! มึงอย่าปากหมาแต่เช้า!กูไม่ได้อยากนั่งหรอกนะรถเฮียพวกมึง อย่ามาเข้าใจผิด!”   ทำไมพวกนี้ต้องพูดแล้วมองผมแปลก ๆ กะอีแค่นั่งรถมาด้วยกัน...หรือว่ามันจะรู้เรื่องที่เฮียไปนอนค้างบ้านผม...

     

    แล้วนี่อะไร ได้กันแล้วอ่ะดิ

     

    ไม่เคลียร์กูต่อย

     

    งั้นเอา ไอ้ระดับโซเชียลต่ำ อัพเดทบ้างนะมึง เอาไป!”

     

    ...................  มองหน้าไอ้ยูคยอมที่เป็นคนยื่นไอโฟนมันมาให้ผม  ก่อนจะก้มมองรูปที่มันเปิดค้างไว้หน้าจอ...พอเห็นชัด ๆ แล้ว....โทรศัพท์แทบล่วง...

     

    ...ไอ้เฮียแจ็คสัน!!!....

     

    อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก เมื่อภาพที่ปรากฏคือภาพ ที่ผมกำลังเช็ดหัวให้เฮีย ความจริงมันไม่ได้อะไรมากมาย แต่พอถ่ายออกมาแล้วทำไมมันดูกระหนุ๋งกระหนิ๋งแบบนี้.... แล้วยังภาพที่ผมหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของคนที่ทำหน้านิ่งๆ  ยิ้มมุมปากน้อย ๆ แบบหล่อบาดจิต... มันถูกโพตส์ลงอินสตราแกรม....พร้อมกับข้อความสั้น ๆ ที่ทำให้ผมอึ้ง...

     

    ...Is mine...

     

    เขารู้กันทั้งวิดลัยแล้วล่ะ

     

    ......................

     

    เป็นอะไรแบมแบม....พวกกูไม่ได้ว่าอะไรมึงนะ เรื่องแค่นี้เอง...ดีใจซะอีก ได้เฮียเป็นเพื่อนเขย...อะไรจะได้ง่าย..

     

    จริงด้วย แล้วมึงไม่ต้องไปโวยวายเฮียเขานะโว้ย....มันเรียลใช่ไหม เพราะปกติคบใคร กูไม่เห็นเฮียแกจะให้ความสนใจอะไรแบบนี้ เดินควงแทบจะไม่มี พูดง่ายว่าเอามันส์ๆ เช้ย ๆ   ดูเหมือนว่าพวกมึงจะเข้าข้างเฮียมึงมากใช่ไหม....ดีเหมือนกัน...

     

    แกร็ก!

     

    ฝากให้เฮียพวกมึงด้วย...ตัวใครตัวมัน!”

     

    เชี่ย!! เฮ้ยยแบมแบม! รอก่อน!”   ตื่นตกใจกันใหญ่ เมื่อผมตัดสินใจถอดแหวนวางไว้ตรงหน้าพวกมัน นั่นหมายถึงว่าชีวิตพวกมันจะหาไม่ตามคำขู่ของหัวหน้าแกงค์เพการ์...ตอนนี้ผมโกรธ...โกรธมากจนทำอะไรไม่ถูก...ไม่ได้คิดจะไปโวยวาย...แต่ความรู้สึกปวดหนึบๆ  ที่หัวใจเหมือนกับถูกหักหลังอย่างบอกไม่ถูก....

     

    ....ผมเป็นตัวตลกจริงๆ....

     

    0----------------------0

     

    เดินลงจากตึกช่างหลังจากที่เรียนเสร็จ ไม่รอใครทั้งนั้นไม่สนใจแม้แต่พวกที่วิ่งตึกตักตามหลัง...เลิก พอซักที ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งนั้น...ตลอดทั้งวันไม่คุย ไม่เสวนากับใคร จนกระทั่งเลิกเรียน..

     

    แบมแบมกลับยังไงกูไปส่งนะ

     

    .....................

     

    แบมแบมพวกกูขอโทษ ถ้าทำให้มึงไม่พอใจ ก็ไม่รู้นี่หว่าว่าเรื่องมันเป็นยังไง

     

    กูกลับเองได้ ไม่ได้โกรธหรอก ขอเวลากูนิดนึง

     

    รถที่บ้านมารับรึเปล่า

     

    เปล่าจะกลับรถเมล์  เป็นเพราะไอ้บ้านั่นบอกคุณย่าว่าจะไปส่งผม คุณย่าเลยให้ลุงจันทร์ขับรถออกไปทำธุระต่างจังหวัด  คนขับรถอีกคนของคุณพ่อก็ไปขับรถส่งเอกสารที่บริษัทฯ  และผมก็ไม่มีทางให้มันไปส่งแน่ ๆ

     

    งั้นกูไปส่ง มึงรู้เหรอว่าต้องลงที่ไหน ยังไง

     

    ก็เดา ๆ เอาเดี๋ยวก็ถึง

     

    เชี่ยแบมแบม มึงจะไปทั้งช็อปอย่างนี้ ได้ตายก่อนถึงบ้านแน่ กูดูแล้วสายแกงค์เราไม่ถึงบ้านมึง มึงต้องต่อรถ ไปกับกู!”

     

    ไม่ต้องกูอยากอยู่คนเดียว!!”

     

    ..............................

     

    ขอโทษแต่ไม่ต้องตามกูหรอก กูขอร้อง!”

     

    ..............................  หันไปขอโทษเพื่อนที่เงียบไปหลังจากที่ผมเผลอตวาดใส่เพราะรู้สึกหงุดหงิด และเหนื่อยกับเหตุการณ์วันนี้ สายตาทุกคู่แทบจะจับจ้องผมเป็นตาเดียวเพราะข่าวเชี่ย ๆ ของไอ้บ้านั่น...ผมถอดช็อปเก็บใส่กระเป๋า พร้อมทั้งเข็มขัดให้เหลือแค่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงแสล็คสีกรม...ก่อนจะไปยืนรอที่ป้ายหน้าโรงเรียน...มีรุ่นใหญ่ของเพการ์มอง ๆ ผมอยู่แต่ไม่สนใจ....ไม่แม้แต่จะก้าวเข้าไปขึ้นรถเมล์สายที่พวกนั้นส่งเด็กในแกงค์อยู่  เพราะรถเมล์คันอื่น ผ่านแถวบ้านผมก็มี...ทำไมผมจะอยู่ไม่ได้ แค่ขึ้นรถเมล์ไม่ได้จะไปหาเรื่องใคร...

     

    “นายเป็นเด็กแกงค์เพการ์รึเปล่า”

     

    “..............”   ผมหันตามเสียงทักหลังจากที่ชะเง้อมองรถเมล์ที่จะขึ้น ผู้ชายในชุดเด็กมหาลัยรูปร่างเท่าๆ  กับผม ผิวขาวตัดกับผมดำสนิท ดวงตาเรียว แต่ไม่ตี่มาก รวม ๆ แล้วดูน่ารักมากกว่าหล่อ

     

    ....ไม่แปลกใจที่ใคร ๆ จะรู้ว่าผมอยู่แกงค์เพการ์...เพราะรูปในไอจีไอ้บ้านั่นแหละ...

     

    “...คือ...”

     

    “มีอะไรรึเปล่าครับ”

     

    “นายรู้จักมาร์คไหม”

     

    “...ครับ...พอรู้ พี่มีอะไรรึเปล่า..”  น่าจะคนรู้จักเฮียมาร์ค แต่หน้าตาเหมือนคนขาดความมั่นใจ และดวงตาที่วูบไหวมีแววหม่นแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด..

     

    “..ปะ..เปล่า..แต่เขามาเรียนใช่ไหม..”

     

    “ ผมไม่แน่ใจครับ เพราะปกติก็ไม่ได้เจอกัน”

     

    “พี่ชื่อจูเนียร์...เป็น ฟะ...เอ่อ เพื่อนมาร์ค..พอดีว่าไม่ได้เจอเขาหลายวันแล้ว เลยแค่อยากรู้ว่าเขายังอยู่ดีไหม..”

     

    “..น่าจะยังดีครับ..พี่ไม่ลองโทรหาละครับ..”  ผมไม่อยากเดาว่าจริง ๆ แล้วเพื่อนพี่มาร์คคนนี้เป็นเป็นอะไร แต่ท่าทางที่เห็นมันทำให้ผมอึดอัดตามไปด้วย

     

    “..ไม่หรอก...เขาคงเบื่อที่จะคุยกับพี่แล้วล่ะ...”

     

    “.................”   จ้องคนที่พูดพร้อมน้ำตาคลอหน่วย...ผมว่าความรู้สึกของคนตรงหน้าที่มีต่อพี่มาร์คมันมากกว่าเพื่อนแน่นอน เรื่องอย่างนี้ไม่อยากจะยุ่งกับใครจริง ๆ

     

    “ขอโทษนะที่รบกวน”

     

    ปี๊นน!

     

    “...เฮียมาร์ค...”

     

    “...จะไปไหน...”  คงไม่ได้ถามผมแน่...

     

    “..ปะ..เปล่า...พี่ไปก่อนนะ...”

     

    “ เอ่อ “

     

    “ หยุดอยู่ตรงนั้น! กูถามว่าจะไปไหน!”  ผมเหมือนส่วนเกินแล้วตอนนี้ หลังจากรถราคาแพงมาจอดตรงหน้า.. เฮียมาร์คลดกระจกลง ก่อนจะมองหน้าคนที่ยืนข้างผม ตวาดออกมาเสียงดัง เมื่อพี่จูเนียร์บอกลาและทำท่าจะเดินหนี..

     

    “..จะกลับบ้าน..”

     

    “ ขึ้นรถ”

     

    “ มะ เป็นไร กู กลับเองได้”

     

    “ กูบอกให้มึงขึ้นรถ หรือจะให้กูไปลากขึ้นมา”

     

    “....................”

     

    “ มึงท้าทายกูเหรอ..คุณหนูจูเนียร์..”

     

    “...................”  พี่จูเนียร์มองหน้าเฮียมาร์คแบบตึง ๆ แต่ก็แค่ชั่ววูบ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูขึ้นไปนั่งคู่คนขับ แบบเงียบๆ เห็นตาเรียวมีน้ำตาคลอเหมือนตอนที่ผมเห็นตอนแรก...รับรู้ได้ว่ากดดันและอึดอัดใจแค่ไหน...

     

    ...เหมือนความรู้สึกของคนที่ โหยหา แต่ ไม่อยากเข้าใกล้....

     

    “ กลับยังไงแบมแบม!

     

    “เดี๋ยวมีคนมารับครับเฮีย”

     

    “อืม..กลับดี ๆ..”

     

    “..ครับ..”  รถคันสวยถูกระชากออกไปจากบริเวณด้านหน้าผม ถึงได้ถอนหายใจแบบโล่ง ๆ ที่ได้ผ่านเหตุการณ์แบบงง ๆ ไปเมื่อครู่  ตัดสินใจโกหกเพราะไม่อยากให้คนในแกงค์มาวุ่นวายส่งผมขึ้นรถสายแกงค์..

     

    ตัดสินใจก้าวขึ้นรถเมล์สายที่ผ่านป้ายหน้าปากซอย...ถ้าขึ้นถูกฝั่งก็น่าจะผ่าน....ขึ้นด้านหลังไปก็นั่งเบาะหลังสุดที่ว่างอยู่...ไม่ได้สนใจด้วยว่าใครจะขึ้นไม่ขึ้น....รถออกตัวได้ซักพัก ถึงได้รู้สึกว่ากำลังถูกจ้องอยู่...หันมองถึงได้เห็นว่าพวกที่นั่งและโหนกันอยู่เสียงดังเซ็งแซ่...ไม่ใช่เด็กสถาบันเดียวกับผม....กลืนน้ำลายลงคอและทำใจร่มๆ  พวกมันคงไม่หาเรื่องผมหรอกมั้ง...

     

    เด็กเอ็กซ์ โซคลัส แมร่งหน้าตาน่ารักเหี้ยๆ แถมหลงขึ้นมาแบบละมุนละม่อมสุด ๆ อ่ะ

     

    .................... ภาวนาว่าอย่าหมายถึงผม แต่มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล....เมื่อพวกที่ยืนโหนอยู่เดินเข้ามาใกล้...

     

    ผ่านหน้าสถาบันมึงทุกวัน ทำไมไม่เคยเห็นวะ

     

    มึงจะเห็นอะไรวะเหี้ยโต้ง มัวแต่กลัวมันแห่ขึ้นมาตี

     

    พูดไม่ให้เกียรติเลย... สายใครสายมันโว้ย ไม่เกี่ยว แค่ผ่านหน้าโรงเรียนไม่ได้ไง...ใช่ไหมครับ...  ไอ้คนที่หน้าตาเถื่อนเดินมานั่งใกล้ผมหลังจากที่มันส่งสายตาให้คนที่นั่งข้างผมลุกขึ้นไปยืนแทนมัน...

     

    ....................

     

    จะรีบไปไหนครับ มาได้แค่ป้ายเดียวเอง ถึงบ้านแล้วเหรอ  มือผมถูกปัดออกจากกริ่งรถ  หลังจากที่ลุกมาตั้งใจจะลงป้ายที่จะถึง....นี่คงเป็นผลจากการขาดสติของผมเอง...ที่ไม่ฟังเพื่อน...

     

    ถึงแล้วครับ

     

    อุ๊บ๊ะ เสียงเพราะด้วย!”  เสียโห่แซวทั้งรถ ทำเอาผมต้องกลืนน้ำลายอีกรอบ.....หรือว่างานนี้จะถูกเล่นงานจนได้....

     

    มึงกล้ายุ่งกับเด็กไอ้แจ็คสันเหรอวะ

     

    ....................  เงยหน้ามองเสียงทุ้ม ๆ ที่พูด ก่อนที่ร่างที่สูงพอ ๆ กับเฮียแจ็คสันจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาหาผม....ไม่แปลกที่มันจะรู้และเห็นภาพที่ใครต่อใครก็เห็นเมื่อเช้า....มันจะไม่กล้ายุ่งหรือผมจะโดนหนักว่าเดิมกันแน่...

     

    เฮ้ย จริงสิ กูว่าแล้วแมร่งหน้าคุ้น ๆ มึงรู้ตัวไหมไอ้หน้าอ่อน มึงอ่ะ ดังไปทั้งเซนท์โซเทียร์แล้ว  สาวๆ  ฝั่งพาณิชย์งี้แทบชักดิ้นชักงอ ที่ไอ้แจ็คสันมันเปิดตัวแฟน แถมเป็นผู้ชายด้วย....แต่ก็ไม่แปลกว่ะ ถ้าเป็นมึง...

     

    ผมจะลงแล้วครับ  ผมย้ำให้พวกมันรู้ว่าต้องการจะลงแล้ว และไม่ต้องการสานต่ออะไรทั้งนั้น....ที่แท้พวกนี้ก็คือเด็กแกงค์จากเซนท์โซเทียร์ สถาบันที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่แข่งกับเอ็กซ์โซคลัสอย่างจริงจัง...และเป็นสถาบันที่จะมีการจัดงาน ไหว้พ่อ...ซึ่งพวกผมจะต้องไปเข้าร่วมด้วย...

     

    เอาไงดีวะ ไม่อยากให้ลงเลยอ่ะครับ

     

    เล่นสนุก ๆ แล้วจับส่งคืนไอ้หัวหน้าแกงค์เพการ์ดีไหม!”

     

    นี่!! ปล่อย เชี่ย!!” 

     

    โอ๊ย! ไอ้นี่ฤทธิเยอะจริง!! มานี่!!”

     

    ปล่อยกู ไอ้สัด!!”   คนที่ปัดมือผมออกจากกริ่งรถ ยื่นมือมาจับแขนผมเหมือนจะลากเข้าไปหาตัวเอง  แต่โดนเท้าและลูกถีบผมซะติดเบาะ มันลุกขึ้นกุมท้องทำหน้าเหยเก... กำลังจะตะโกนบอกให้รถจอดทั้งที่รู้ว่าไอ้คนขับมันก็คงไม่กล้าจอด สุดท้ายคนตั้งสามคนก็รุมจับผมไว้ก่อนจะลากไปนั่งบนตักของใครซักคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว....หันหน้ามองถึงได้รู้ว่าเป็นไอ้คนที่ผมเห็นลุกขึ้นแล้วบอกเพื่อนมันว่าผมเป็นเด็กไอ้เฮียแจ็คสัน...ทั้งที่รถจอดป้ายแล้วแต่ผมยังลงไม่ได้ และรถก็เคลื่อนออกมาแล้ว...

     

    สมัยนี้เขานิยมผู้ชายกันเหรอวะ  เห็นแมร่งล่อกันเองตั้งเยอะ....กูยืนยันนะว่ากูยังคงนิยมผู้หญิง นมอึ๋ม ๆ ตูดใหญ่ๆ  รูฟิต ๆ ร่อนเก่งๆ แต่...แบบมึงนี่มันน่า....

     

    โธ่ พี่กาย สมัยนี้แมร่งไม่แยกแยะกันแล้ว...เพราะเขาว่าผู้ชายแมร่งเร้าใจกว่าว่ะพี่! ฮ่าๆๆ!”

     

    ปล่อยกู!! ไอ้โรคจิต เชี่ย!!”

     

    เพี๊ยะ!!

     

    ปากดีนักนะมึง เสียงดังอย่างนี้อยากครางไหม..   หน้าผมหันตามแรงตบของไอ้คนที่ถูกผมถีบตอนแรก...รู้สึกว่าทั้งเจ็บและแสบ  รสชาติเลือดคาวคลุ้งในปาก...ก่อนที่ปากผมถูกบีบพร้อมกับจับคางให้หันไปหาไอ้คนที่ผมนั่งตักอยู่ หน้าผมกับหน้ามันห่างกันแค่คืบ...ตัวถูกไอ้เพื่อนมันกดไว้กับอกกว้าง...ก่อนที่ไอ้บ้านี่จะใช้มือกดท้ายทอยผมให้แหงนหน้าขึ้น อีกมือมันก็บีบปากผมไว้...

     

    “..อื้อ! ไอ้เอี้ยย!!..

     

    “เสียดายนะ ปากแตก กูรักษาให้นะ”

     

    ....อย่าบอกนะว่ามันจะ....ความรู้สึกขยะแขยงก่อเกิดจนขนลุกไปหมด....

     

    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดด!!! ปื้นน!! ปื้นนน!!

     

    ไอ้ลุง รถมึงเป็นเชี่ยอะไร!”

     

    มีรถตัดหน้า ขวางหน้ารถอยู่นี่ อยากไปต่อไปเคลียร์ให้หน่อย! มันลงจากรถมาแล้ว!”

     

    “ปล่อยกูไอ้พวกเหี้ย!”  เหตุการณ์ทุกอย่างหยุดลงแต่ผมก็ยังไม่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ถ่มน้ำลายลงพื้นรถ เลือดสีแดงผสมออกมา..พวกมันจับแน่นจนผมขยับตัวไม่ได้..

     

    นิ่งสิวะ! ใคร! ไปดูดิ๊!”

     

    ครับพี่!” หนึ่งในแถวที่รุมผมอยู่เดินลงจากรถไปส่อง ๆ ดู  แต่สุดท้ายมันก็รีบวิ่งขึ้นมา พวกในรถจากที่เฮฮาก็เงียบกริบ แต่ก็ไม่ได้ตื่นตกใจอะไร เหมือนกำลังระวังภัยและเตรียมพร้อมกันมากกว่า...เสียงบีบแตรจากด้านหลังรถเมล์คันนี้ดังสนั่น...เพราะตอนนี้รถจอดขวางถนนอยู่....

     

    ไอ้แจ็คสันพี่! รถไอ้แจ็คสัน!”

     

    เชี่ย มันตามมาเอาเมียมันอ่ะดิ!”

     

    เอาไงพี่กาย!แต่มันมาคนเดียวนะพี่!”

     

    .........................  ..เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที  ...ทุกคนที่นั่งอยู่ในรถก็ลุกขึ้นยืนกันหมด....เมื่อจู่ ๆ ไอ้คนที่จอดรถขวางหน้าก็เดินดุ่ม ๆ ขึ้นมาหน้ารถ  เข้ามาหาผมที่นั่งอยู่เบาะหลังสุด....ใบหน้าหล่อยังนิ่งสนิท เดินมาแบบชิว ๆ ไม่ได้หวาดกลัวอะไร...

     

    ....ทำไมถึงได้รู้สึกโล่งใจ...ที่ได้เห็นหน้ามัน....

     

    กูมารับคนของกูคืน...แค่นั้น..

     

    แต่คนของมึงขึ้นสายพวกกูเอง มึงจะว่ายังไง!”

     

    “.....................”  คนที่ขึ้นมาอย่างอุกอาจ ไม่สนใจคำถาม แต่ตาคมจ้องมุมปากผม ที่ตอนนี้คงจะเป็นรอยเด่นพอสมควรจากการถูกตบ...สีหน้ายังนิ่งเหมือนเดิม...แต่ดวงตาหรี่ลงจับจ้องคนที่จับตัวผมอยู่ จนพวกนั้นยึกยักลังเล...

     

    หรือพวกมึงจะไปขึ้นสายแกงค์กูมั่งไหม

     

    “ งานนี้คนของมึงผิด!

     

    “ กูยอมรับ คนของกู กูยอมรับเอง และกูคือ...หัวหน้าแกงค์เพกาซัส..ฉะนั้นคนที่มาชำระความกับกู คือ หัวหน้าแกงค์เซนธอร์ ไม่ใช่พวกมึง!..

     

    “เอาไงพี่กาย”

     

    “เร็ว ๆ พวกมึง! ตำรวจจะมาลากคอพวกมึงแล้ว!! รถติดยาวเลย!!” เสียงคนขับตะโกนมา ทำให้พวกนี้หันซ้ายขวาดูเหตุการณ์

     

    เฮ้ย ปล่อย!”

     

    ..................  เมื่อร่างกายเป็นอิสระ ก็ถลาเข้าหาคนที่ยืนอยู่แขนยาวนั่นโอบเอวผมไว้ ยืนอย่างมั่นคงไม่ได้กลัวอะไร...แม้แต่มีดด้ามยาวที่สาบานว่าผมเห็นมันเหน็บอยู่ข้างๆ เบาะรถ....

     

    แล้วเจอกันวันไหว้พ่อ หวังว่าจะต้อนรับสถาบันกูเป็นอย่างดี ฝากบอกได้เปรูด้วย ว่ากูคิดถึง..

     

    จัดให้ มึงกล้ามากไอ้เชี่ย!”

     

    หึๆ!”  เฮียแจ็คสันหัวเราะในลำคอ ก่อนจะดันผมเบาๆ  ให้ออกเดิน และก้าวลงจากรถคันนั้น....ผมถูกโอบไว้จนกระทั่งขึ้นมานั่งบนรถ ก่อนที่รถคันสีดำจะเคลื่อนตัวออกจากหน้ารถเมล์สายแกงค์เด็กต่างสถาบัน...

     

    ถ้าพวกไอ้โจไม่เห็น แล้วจะเป็นยังไง อย่าบ้าให้มากได้ไหม!!”

     

    ....................

     

    ..มึงควรมีขอบเขตความรั้นบ้างนะแบมแบม..

     

    ...................  ..ไม่โต้ตอบอะไร  ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมเฮียต้องโมโหขนาดนี้และก็พึ่งจะเคยเห็นสีหน้าอื่นๆ นอกเหนือจากนิ่งสนิท...ไม่รู้ว่า ห่วงผมจริงๆ  หรือว่ากลัวพวกนั้น...มองผมเป็นตัวปัญหา...กลัวว่าสถาบันอื่น แกงค์อื่นจะมองว่าเด็กตัวเองโง่ที่ไปขึ้นรถผิดสาย....แต่ยังไงซะผมก็ควรจะขอบคุณ...

     

    ..ใส่ซะ! ถ้าถอดอีก มึงได้เป็นเมียกูจริงๆ  แน่!”

     

    ....................  ผมจ้องแหวนที่เคยใส่แต่ถอดไปเมื่อเช้าที่ตอนนี้มันวางแหมะอยู่บนตัก....

     

    ใส่นิ้วนางซ้ายเหมือนเดิม

     

    ...ผมขอบคุณครับที่ไปช่วย...แต่เรื่องแหวน...ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเฮีย...เลิกทำให้ผมอายคนซักที...ผมเป็นผู้ชาย!..  ผมวางแหวนไว้คอนโซลหน้ารถเมื่อกำลังจะใส่นิ้วชี้ แต่อีกคนกลับบอกให้ใส่นิ้วเดิม... เรื่องเมื่อเช้าที่ไอ้บ้านี่ทำเรื่องให้ผมอายเริ่มผุดขึ้นมา....แต่ใบหน้าหล่อนั่นกลับตึงเครียดจนผมรู้สึกอึดอัด มีเรื่องอะไรไม่พอใจนักหนานอกจากเรื่องผมขึ้นรถเมล์ผิดสาย...หรือว่าโกรธที่ผมพูดความจริง...

     

    จะไปไหน ไม่ใช่ทางกลับบ้าน!”

     

    คอนโดกู!”

     

    Talk:  สกรีมฟิค  #Ficbloodsch  Twitter:  @Namtal1a

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×