ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Blood School เลือดรัก นักเลงช่าง ~JackBam [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : Sec 4 / First Kiss

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 57





                                



    จากบ้านเฮียแจ็คสัน เดินออกมาจนถึงหน้าปากซอยถึงจะมีแท็กซี่วิ่งผ่าน...แต่ตอนนี้ยังไม่มีคันไหนว่างจึงเดินไปรอที่ป้ายรถเมล์เล็ก ๆ ที่มีอยู่แถวนั้น หรือว่าจะโทรหาย่าให้ลุงจันทร์มารับดีนะ...อย่าว่าแต่ขึ้นรถเมล์เลย ที่นี่ที่ไหนผมก็ยังงงๆ  ถ้าขึ้นแท็กซี่ผมจะบอกทางคนขับถูกรึเปล่าว่าให้ไปที่ไหนถึงจะถึงบ้าน...นั่งคิดก่อนว่าจะเอายังไง เพราะสติสตังก็ยังไม่เข้าที่เท่าไหร่...มองซ้ายขวาดูนั่นนี่ไปเรื่อย ๆ ทั้งที่มีแท็กซี่ว่างวิ่งผ่านก็ยังไม่ได้โบก เพราะคิดอยู่ว่าผมจะบอกว่าไปไหน...

     

    ...เอาวะ...ไปลงห้างดัง ๆ ก่อนก็ได้ แล้วค่อยให้ลุงจันทร์มารับ...

     

    บรืนน!..

     

    เสียงล้อรถบดกับผืนซีเมนท์จนต้องรีบเงยหน้าหลังจากก้มลงกดโทรศัพท์เพื่อส่งข้อความให้พวกที่นอนแผ่อยู่ที่ห้องในบ้านเฮียแจ็คสันรู้ว่าผมกลับบ้านก่อน ไม่ต้องเป็นห่วง...ทันทีที่เงยหน้าก็เจอรถสีดำจอดอยู่ตรงหน้า...น่าจะเป็นรถสปอร์ตมั้งผมก็ไม่แน่ใจเพราะไม่สันทัด แต่รูปทรงเท่ห์มากราคาคงไม่น้อย...รถคันนี้ผมเห็นตั้งแต่เลี้ยวออกจากซอยที่ผมเดินออกมา...

     

    “ จะไปไหน”

     

    “...กะ กลับ บ้าน..”  พูดติดขัดไปเลยเมื่อเห็นหน้าคนขับหลังจากกระจกเลื่อนลง....

     

    ...เจบี...

     

    หัวหน้าแกงค์ยูนิคอน...แล้วทำไมถึงเลี้ยวออกมาจากซอยเดียวกับบ้านเฮียแจ็คสัน...หรือบังเอิญมาธุระ...แต่จะอะไรก็แล้วแต่พวกนั้นมันให้ผมระวังตัวไว้...เลยถอยหลังก้าวนึงแล้วก้มลงกดโทรศัพท์ต่อ..

     

    “ ขึ้นมาสิ เดี๋ยวไปส่ง”

     

    “ ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้”  รีบปฏิเสธพร้อมกับก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อ...พวกนั้นมันเตือนผมแล้วว่าให้อยู่ห่าง ๆ ไว้...ใครจะไปรู้มันอาจจะแค้นผมที่ไปมีเรื่องกับลูกน้องมันก็ได้...

     

    “ กูบอกให้ขึ้นรถ...จะให้พูดซ้ำอีกที หรือจะให้ลงไปลากขึ้นมา”

     

    “ ผมบอกว่ากลับเองได้...ไม่จำเป็นต้องลงมาลากหรอกครับ...พี่ไปเถอะ..”  จู่ ๆ ก็จะลงมาลาก ที่นี่มันนอกสถาบันฯ ไม่เห็นจะต้องมาอวดเบ่งกันได้ แล้วผมก็ไม่ใช่สมาชิกแกงค์ที่จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของคนในรถนั่น...

     

    “ งั้นเชิญขึ้นรถ จะไปส่ง...จะคุยเรื่องไอ้เปอร์ด้วย...ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย กูไม่ทำอะไรไอ้ลูกหมาอย่างมึงหรอก..”

     

    “...................”   ผมก็ยังมึนต่อไป...เกือบจะดีแล้ว ถ้าไม่ว่าผมเป็นลูกหมา...

     

    “ ..................”

     

    “ นี่พี่!! มันเรื่องอะไร!! ผมไม่ไปก็คือไม่ไป..ฮึบ!..โอ๊ย!

     

    “... เทควันโดสายดำทำอะไรกูไม่ได้หรอก..”  จ้องหน้าไอ้คนที่บิดแขนผมแล้วรั้งไว้ข้างหลัง หลังจากที่พยายามตัดขาเพื่อให้มันล้ม...ว่าแต่รู้ได้ยังไงว่าผมเรียนเทควันโดสายดำ...แต่ตอนนี้มันกลับใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เพราะถูกจับทางไว้หมด...สิ่งที่ภาคภูมิใจว่าผมสามารถล้มรุ่นพี่ ปวส .2 ที่เรียนด้วยกันได้ตั้งแต่ ปีที่แล้ว..มันกำลังดับลง...

     

    “ ต้องการอะไรกันแน่ ผมไม่มีอะไรจะคุยกับพี่หรอก!

     

    “ แต่กูมีขึ้นรถ ก่อนจะไม่ได้เห็นหน้าพ่อหน้าแม่...ตีเอาชอปอิเล็กฯ..เอาไปเช็ดรถมันก็ดีเหมือนกันนะ..”

     

    “ ปล่อย! ผมขึ้นเอง”  ไม่ได้กลัวหรอก แต่ถ้าขัดขืนไปก็คงจะเป็นอยู่อย่างนี้...ผมเป็นพวกประเภทถ้ามันเกินความสามารถก็จะไม่ทู่ซี้ทำ แต่จะหาหนทางอื่น เช่น...ลองคุยกับไอ้บ้านี่ดู...

     

    คำไหนคำนั้น ผมกระชากประตูรถก่อนจะเข้าไปนั่งในรถที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ทั้งที่อากาศก็หนาวอยู่แล้วเจออย่างนี้ก็ถึงกับปากสั่น...มองคนที่อ้อมหน้ารถก่อนจะเข้ามานั่งฝั่งคนขับ...

     

    “ ไปหากินข้าวกัน”

     

    “ ...ไม่ครับ มีอะไรจะคุยหรือเปล่า ตั้งแต่เมื่อคืนผมยังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟัน ไม่พร้อมไปไหนทั้งนั้น...”  พูดน้ำด้วยเสียงธรรมดานิ่งๆ  รถคันหรูถูกกระชากออกจนตัวผมเอน....คิดผิดใช่ไหมที่ขึ้นรถพวกนี้...มันมีแต่ตีนผีกันนั้นเลย...ถ้าไม่มีภูมิคุ้มกันจากรถไอ้ยองแจเมื่อวานผมคงแย่...

     

    “ ขอโทษแทนได้เปอร์ด้วย “

     

    “................”   ..ทำหน้านิ่ง ๆ แต่ก็เหลือบมองคนพูดอะไรที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้...ขอโทษแทนลูกน้อง...

     

    “ แค่นี้แหละที่จะพูด..”

     

    “ ปกติเวลาลูกน้องทำผิด พี่ขอโทษแทนตลอดรึเปล่าครับ”  เพราะอารมณ์โกรธทำให้กล้าถามอะไรที่ไม่ควรออกไป...ถ้าลูกน้องทำผิดทีก็เที่ยวไปลากคนอื่นขึ้นรถเพื่อที่จะขอโทษทุกทีรึเปล่า..

     

    “ ไม่เคย... จบไหม...ไปอาบน้ำบ้านกูละกัน...”

     

    “ ไม่ไป! ให้ผมลงเถอะ ครอบครัวผมรออยู่!

     

    “ งั้นบ้านไปทางไหน จะไปส่ง”

     

    “ ผมไม่รู้ พึ่งมาอยู่ที่นี่ ไม่รู้ทาง ปล่อยผมลงแล้วพี่จะไม่เสียเวลา”

     

    “ กดโทรหาคนที่บ้าน...แล้วกูจะคุยเอง..”

     

    “.................”  ผมจะปฏิเสธได้ไหม...ก็คงไม่ได้...ถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ยอมกดโทรศัพท์ไปที่บ้าน....ให้มันจบ ๆ ไปละกัน ผมอยากจะเข้าบ้านเต็มทีแล้ว...ย่าคงจะรออยู่...

     

    “ ย่าเหรอครับ แบมแบมเอง...พอดีมีคนไปส่ง แต่แบมแบมไม่รู้ทาง..”

     

    / เหรอลูก...บ้านเราอยู่../

     

    “ เอามานี่!.....สวัสดีครับคุณย่าครับ...ผมเป็นรุ่นพี่แบมแบมครับ....ครับทราบครับ...รู้จักครับ...ครับ...ได้ครับ ยินดีครับ.....เอาคืนไป!..”  รับโทรศัพท์ซัมซุงรุ่นใหม่กว่าฮีโร่หน่อยนึงมาถือไว้ หลังจากที่อีกคนแย่งไป แล้วจัดการคุยกับคุณย่าเรียบร้อย...

     

    ...หวังว่าผมคงจะถึงบ้านอย่างปลอดภัยนะ....

     

    รถวิ่งฉิวบนถนนอย่างน่ากลัว แต่ผมก็ทำนิ่งไม่ตื่นตกใจ เพราะเดี๋ยวจะถูกหัวเราะเยาะ...แค่ลำพังวิชาเทควันโดที่ร่ำเรียนมาก็ถูกล้มไปแล้ว ถ้ามานั่งสั่นเพราะรถวิ่งเร็วคงไม่เหลืออะไรอีก...ในที่สุดรถคันสีดำก็วิ่งมาจอดหน้ารั้วบ้านจนได้...ป้าเนืองแม่บ้านเป็นคนมาเปิดประตู...

     

    “ ผมลงตรงนี้ก็ได้ครับ”

     

    “ใจคอจะไม่ให้กูพักรถเลยเหรอ”

     

    “ พักรถ!

     

    “อืม”  คงไม่ทันแล้วล่ะ เพราะคนขับเลี้ยวเข้าบ้านแล้ว....วิ่งมาแค่นี้ถึงกับต้องพักรถ....

     

    “ คุณย่าครับ..”

     

    “มาแล้วเหรอลูก หืม..เหม็นเหล้า...ไปอาบน้ำเลยจะได้ลงมาทานข้าว..”  ย่าย่นจมูกหลังจากที่ผมเข้าไปกอดคนที่ยืนรออยู่....

     

    “ สวัสดีครับคุณย่า”

     

    “ สวัสดีจ๊ะ ขอบใจมากที่มาส่งแบมแบม...ทานข้าวเช้าด้วยกันนะ..”

     

    “ พี่เขาจะกลับแล้วครับย่า”

     

    “ อ้าวเหรอ”  คุณย่าเชื่อผม...เลยหันไปถามคนที่ยืนเท่ห์ ๆ ให้เด็กในบ้านแอบมองกันใหญ่ จนป้าเนืองหันไปทำเขม่นใส่ให้สลายตัวกันไป...

     

    “ ยังไม่กลับครับ หิวข้าวพอดี”

     

    “ อ้าวยังไง  งั้นเรารีบไปอาบน้ำแต่งตัว  จะได้ลงมา ไปสิ”

     

    เหล่มองคนที่จะทานข้าวเช้าด้วยกัน ในใจก็นึกว่าจะมาไม้ไหนกันแน่...รู้สึกพะอืดพะอมจนรู้สึกว่าคงกินข้าวได้ไม่เยอะ..ยอมที่จะขึ้นห้องและจัดการพาตัวเองเข้าห้องน้ำ...เข้าห้องน้ำได้ก็ยังพิจารณารอยที่คอ และที่ลำตัวอยู่...มันชัดเจนเกินไป...

     

    “ ..มาแล้ว มาเร็ว ๆ ลูก พี่เจบีเขารออยู่รู้ไหม ย่านึกว่าเป็นลมในห้องน้ำซะแล้ว..หนาวมากเหรอ ทำไมไม่อาบน้ำอุ่น ใส่เสื้อซะปิดคอเชียว”

     

    “ ครับแบมแบมหนาว”  นั่งลงข้างคุณย่าก่อนจะมองคนที่มองผมยิ้มกวน ๆ อยู่ตรงข้ามโต๊ะอาหาร...คงจะไม่เห็นหรอกนะรอยที่คอผม...ตอนที่ขึ้นรถมาผมก็มัวแต่โกรธที่โดนลากขึ้นรถ จนลืมที่จะปิดบังรอยที่คอ...

     

    “ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายล่ะสิ เดี๋ยวพี่พาไปออกดีไหม”

     

    “ ไม่เป็นไรครับ คุณย่าทานข้าวเถอะครับ”  บอกปฏิเสธคนที่พูดแทรกขึ้นมา...สายตานิ่ง ๆ แต่รอยยิ้มกวนตีนอย่างนั้นอยากจะไล่ออกจากบ้านจริงๆ  และอยากจะบอกคุณย่าว่าผมไม่ได้สนิทขนาดต้องมานั่งทานข้าวร่วมกันแบบนี้...แล้วตอนนี้ก็ยังรู้สึกอึน ๆ มึน ๆ นิดหน่อย...เลยรู้สึกหงุดหงิด...

     

    นั่งทานข้าวกันเงียบๆ  คุณ...ทานได้ซักพักก็เริ่มพูดคุย ถึงได้ความว่าหัวหน้าแกงค์ยูนิคอนเป็นคนเกาหลี แต่มาอยู่ไทยตั้งแต่เด็ก ๆ เลยพูดไทยชัดแจ๋ว...ย่าก็ไม่ถามอะไรมาก ท่านทานเสร็จแล้วก็เดินออกไปย่อยที่สวนปล่อยให้ผมต้องรีบอิ่มตาม...แต่ถ้าผมจะลุกเลยก็คงจะน่าเกลียดเพราะแขกยังนั่งทานอย่างสบายใจ ไม่มีท่าทีรีบร้อนอะไร

     

    “ ปิดรอยที่คอรึไง...”

     

    “ รอยอะไรครับ”   ใจหาบวูบ เมื่ออีกคนถาม...เห็นจริงๆ ด้วย...เฉไฉยกน้ำขึ้นดื่ม...ทั้งที่หัวใจผมเริ่มเต้นแรง...

     

    “ รอยอะไรล่ะ กูก็ไม่รู้...แต่อยากรู้คนทำมากกว่า..”

     

    “ ถ้าอิ่มแล้วก็กลับไปเถอะ ขอบคุณครับที่มาส่ง”

     

    “ ไอ้แจ็คสัน หรือ เดอะแกงค์มัน....อิ่มก็อิ่ม ห้องน้ำอยู่ไหน..”

     

    “ ทางนั้น..”  อีกคนลุกจากโต๊ะ ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่าง....จะทำยังไง...ทำไมมันซวยขนาดนี้ ผมจะโกรธคนทำขึ้นมาตงิด ๆ  อย่าให้รู้ว่าเป็นพ่อจะจับทุ่มให้กระดูกหัก...

     

    “ ไปส่งรถหน่อย เดี๋ยวย่าสงสัย ว่าเป็นคนรู้จักยังไงไม่เทคแคร์”

     

    “ คุณย่าอยู่สวนหลังบ้าน ไปเถอะครับ ไม่มีใครสงสัยหรอก ขอบคุณอีกรอบ”

     

    “ มารยาท?

     

    “เชิญครับ” 

     

    จำใจต้องลุกขึ้นมาเมื่อถูกทวงถามเรื่องมารยาทของเจ้าของบ้าน...เดินมาส่งคนที่เดินออกมาเองไม่ได้...ยืนอยู่ข้างรถ มองคนที่ยืนล้วงกระเป๋ามองผมอยู่...ทำไมตอนนี้ผมถึงได้รู้สึกร้อน ๆ กับท่าทางนิ่ง ๆ นั่นด้วย...

     

    “ไปล่ะ”

     

    “ครับ”  พูดแล้วมองคนที่เดินอ้อมไปเปิดประตูเข้ารถตัวเอง....แต่ก็ต้องมองเพราะกระจกฝั่งที่ผมยืนอยู่มันลดลงจนเห็นหน้าคนขับที่ยื่นมาฝั่งนี้..

     

    “ลืมของ ขึ้นมาเอา!

     

    “..................”  ลืมอะไรวะ....ย่นคิ้ว พร้อมกับกับคิดว่าลืมอะไร เดินเข้าไปยืนใกล้ๆ  กระจกเพื่อรับของคืน แต่อีกคนก็ไม่ยื่นอะไรให้...

     

    “ เข้ามาเอา จะให้กูประเคนให้ทุกอย่างหรือไง”

     

    “ลืมอะไรครับ”

     

    “ เข้ามาดูเอง หล่นอยู่นี่”  ..เจ้าของรถชี้ไปที่ตรงวางเท้า...จำต้องเปิดประตูเข้าไปส่อง ๆ

     

    “ ไอ้!!..จะทำอะไร!!

     

    “ นิ่งๆ  เถอะหน่าถ้าไม่อยากให้ใครเห็น!

     

    “ ปล่อย ไอ้โรคจิต เชี่ยปล่อยกู! โอ๊ย!!

     

    ปึก!

     

    “................”  ทุกอย่างเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทันและทำอะไรไม่ถูก...ทันที่ขยับตัวเปิดประตูก้มมองตรงที่วางเท้า แขนก็ถูกมือหนานั่นฉุดให้ขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนที่จะทำให้ผมช็อค.

     

    ..ใบหน้าหล่อนั่นก้มลงมาตรงซอกคอผม..มือหนารั้งคอเสื้อลง...ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ลำคอบริเวณที่เสื้อถูกถกลงพร้อมกับสัมผัสเปียกชื้นจากริมฝีปากอีกคน.....สัญชาติญาณทำให้ฟันศอกพร้อมกับผลักคนทำออกไปจนสุดแรง ศอกผมกระแทกที่มุมปากสีส้มพีชนั่นอย่างจังจนคนโดนต้องยกมือขึ้นจับ...ผมรีบดีดตัวออกจากรถ มายืนใจสั่นอยู่ข้างรถ ไม่ใช่ว่ารู้สึกดี แต่โกรธ โกรธจนไม่รู้จะทำยังไง...

     

    “ หึ..ไปก่อนนะ...แบมแบม...”

     

    “..............”  ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงจะกรี๊ดไปแล้ว...รถคันหรูนั่นค่อย ๆ เคลื่อนออกไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร...ยืนนิ่งค้างเพราะทำอะไรไม่ได้...เรียกสติตัวเอง แล้ววิ่งขึ้นห้อง ก่อนที่คุณย่าจะมาเห็นท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของผม...

     

    วิ่งขึ้นห้องได้ก็วิ่งเข้าหากระจก  ดึงคอเสื้อลงเพื่อจะดูบริเวณที่รู้สึกเจ็บจากริมฝีปากของไอ้บ้านั่น...ชิบหาย...เป็นรอยจริง ๆ ด้วย...แดงสดเด่นกว่า เพราะที่มีอยู่มันเริ่มคล้ำ  ๆ ลง แต่รอยมันก็เด่นพอ ๆ กัน เพียงแต่คนละสี...

     

    ...มันเรื่องบ้าอะไรกัน...เป็นบ้าอะไรกันไปหมด.!!...

     

    0………………..0

     

    เช้าวันจันทร์...ผมจัดเต็มมาจนเพื่อนมอง...ทั้งเสื้อแขนยาว ผ้าพันคอสีดำสนิท...มันจะโชคร้ายไปไหมที่อุณหภูมิดันสูงขึ้น จนตัวผมเองก็รู้สึกร้อนแต่จะให้ทำยังไงได้ ก็รอยที่คอมันจางลงแค่นิดเดียว...แต่มันก็ยังเด่นอยู่...ผมจะทำยังไงดี...มาถึงโรงเรียนถึงคิดได้ว่าผมน่าจะติดพาสเตอร์มา...

     

    “ไม่ร้อนเหรอวะ มึงไม่สบายรึเปล่า”

     

    “หนาวอ่ะ คงจะไม่สบายมั้ง”

     

    “ ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า”  ไอ้ยูคยอมเอามือทาบหน้าผากผม หลังจากที่เก็บแผ่นวงจรพิมพ์เข้ากระเป๋าแบบไม่ถนอมซักนิด...เอียงหน้าหนี แล้วรีบเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า...

     

    “ ไปกินข้าวเหอะ หิวแล้ว”

     

    “ ไป ๆ “

     

    “ แบมแบม!! กูมีข่าวมาบอก!!

     

    “ เสียงดังทำเตี่ยมึงหรา!

     

    “ทำเตี่ยไม่ได้อ่า ฟ้าผ่า แต่ทำเมียมึงได้อ้ายวิน!

     

    “เล่นของสูง!”  มาวินกับหมากหอมเริ่มโบกหัวกันไปมา หลังจากที่หมากหอมหายออกไป เกือบยี่สิบนาที....ไอ้ยูคยอมกับยองแจเดินเข้ามาหาคนที่บอกว่ามีข่าวมาบอกผม...

     

    “ มีอะไรเชี่ยหมาก ไม่มีสาระพ่อตบฟันโยก!

     

    “มีเด้ วันนี้นะ เฮียแจ็คสันนัดแบมแบมไปที่วิน!

     

    “ จริงเหรอวะ”

     

    “ จริงดิ คนเดียวด้วย พวกเราไม่มีเอี่ยว...ตอนนี้เลย ยังไม่ต้องไปกินข้าว..เฮียรออยู่...การบ้านค่อยมาทำ..”

     

    “ ตื่นเต้นว่ะ ผ่านแน่ ๆ เลย!”  ผมเลยพลอยตื่นเต้นไปด้วยเพราะตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ก็ยังไม่มีข่าวจากรุ่นใหญ่ว่าผมผ่านรึเปล่า มันยากเหมือนกับการไปสัมภาษณ์งานยังไงยังงั้น..

     

    “ เดี๋ยว ๆ ที่วิน คือที่ไหน”

     

    “ เดี๋ยวพวกกูพาไป...ไป ๆ ไปกันเลย...”

     

    ..วินที่ว่าคือ...ห้องล็อคเกอร์ของนักกีฬาโรงเรียน...ซึ่งมีสองฝั่ง ถ้าให้ผมเดา ถ้าฝั่งนี้เป็นที่ตั้งของเพกาซัส อีกฝั่งก็ต้องเป็นที่ตั้งของยูนิคอน เพราะคาดว่าทั้งสองทีมคงมีนักกีฬาในทีมเยอะพอสมควร...ผมถูกส่งตัวเข้ามาในห้องล็อคเกอร์ ก่อนที่ประตูจะปิดลง...

     

    ...แล้วทำไมต้องล็อคประตูด้วย...โดนแกล้งรึเปล่า เพราะเดินเข้ามาแล้วก็ยังไม่เห็นมีใคร....

     

    “ มาช้า”

     

    “ ...เฮีย...หวัดดีครับ...คือ..”  หันหลังกลับมองคนที่ยืนกอดอกหลังพิงกำแพงอยู่ข้างๆ  ประตู...ผมเดินผ่านมาได้ยังไงทำไมไม่เห็น...ยกมือขึ้นไหว้ก่อนจะมองซ้ายขวาเพราะทำอะไรไม่ถูก...

     

    “ มันร้อน ถอดผ้าพันคอออก กูเห็นแล้วอึดอัด..ถ้าจะปิดรอยพวกนั้น กูก็เห็นแล้วไง”

     

    “.................”   ..อึกอักพูดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก.. แล้วจะบอกได้ยังไงว่าจากวันนั้นมีเพิ่มขึ้นอีกรอย...

     

    “ หรือจะให้กูถอดให้”

     

    “ ไม่ครับ..เฮียมีอะไรไหมครับ..”  รีบเปลี่ยนเรื่อง...ก่อนที่ผมจะต้องถอดผ้าพันคอออกจริง ๆ ...แต่ก็ต้องผงะมอง เพราะรู้สึกว่าอีกคนเข้ามาถึงตัวผมแล้วอย่างไม่ทันตั้งตัว...

     

    ฝึบ!

     

    “ เฮีย!” 

     

    “..............”  คว้าตามผ้าพันคอไม่ทัน เมื่อสิ่งที่ผมคิดว่าผูกปมไว้แน่นๆ  กันคนกระชากออก เผื่อไอ้สี่ตัวนั่นจะอุตริเล่น แต่ทำไมคนตรงหน้ากลับปลดและกระชากออกอย่างง่ายดาย...

     

    “ ขอคืนเถอะครับ”

     

    “ กูจำได้ว่ารอยตรงนี้ไม่มี”

     

    “ เฮียมีอะไรไหมครับ ถ้าไม่มีผมจะออกไป”

     

    “ใครทำ!”  หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อเสียงทุ้มนิ่ง ๆ เริ่มดังขึ้น...ตาคมนั่นยังจ้องรอยที่มีเพิ่มใหม่บนลำคอผม...

     

    “ ถ้าไม่มีอะไร ผมขอตัวนะครับ!

     

    แกร็ก!!

     

    “ มันล็อคจากข้างนอก.”

     

    “ แล้วเฮียมีอะไรกับผมก็พูดสิครับ!”   รู้สึกอึดอัด...เบี่ยงตัวหนีคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า...ก่อนจะวิ่งไปที่ประตูตั้งใจจะออกไปจากบรรยากาศอึดอัดนี่ ทำไมหัวใจผมมันเต้นแรงทุกครั้งที่ถูกผู้ชายคนนี้จ้อง...

     

    “ ...มีสิ..มานี่!

     

    “ เฮีย! ฟะ!...อุ๊บ...อื้ออ...”

     

    หัวใจกระตุกและเต้นรัว...หลังจากที่แขนผมถูกกระชากออกมาจากประตู  ตัวกระแทกเข้ากับอกกว้างของหัวหน้าแกงค์เพกาซัส...ท้อยทอยถูกกดเพื่อแหงนขึ้นรับริมฝีปากที่ทาบทับลงมา...ตัวชาดิกไปหมด...รู้สึกเหมือนลมหายใจขาดช่วง...

     

    ...จูบ...ผมกำลังถูก..จูบ...

     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×