ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Blood School เลือดรัก นักเลงช่าง ~JackBam [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : Sec 3 / New Member

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 57




     



    เสียงลูกบาสกระทบพื้นดังเป็นจังหวะ เสียงกรี๊ดดังขึ้นทุกครั้งที่การชู๊ตลง...ผมจ้องมองคนเล่นในสนามตาไม่กระพริบ...เก่งมาก เก่งทุกคนเลย...โดยเฉพาะหัวหน้าแกงค์ทั้งสองแกงค์ที่ได้ลูกเมื่อไหร่หมายถึงแต้มเพิ่ม...เสียงกรี๊ดดังจนผมรู้ตัวว่าถ้าเดินออกจากโรงยิมแล้วต้องหูอื้อแน่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้น หัวใจก็ยังเต้นไปตามเสียงกระแทกพื้นของลูกบาส...เสียงรองเท้าดังเสียดสีกับพื้นโรงยิม...เหงื่อที่ออกพราวตามแผ่นอกและแผ่นหลังของคนเล่น...มันเหมือนเสน่ห์ที่ดึงดูดผมและคนอื่น ๆ ให้จ้องมองจนจบเกมส์....ปีกเพกาซัสสีดำทะมึนกางปีกขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา เหมือนมันกำลังโผบินอยู่ในเกมส์ด้วย...ยูนิคอนที่เขาขยับการแรงขยับของเนื้อกายของคนแข่ง มันก็เหมือนกำลังยกขาหน้าตะกายอากาศประกาศศักดา...นี่คงเป็นมนต์เสน่ห์ให้คนเต็มโรงยิมจนล้นออกไปทั้งที่วันศุกร์อย่างนี้คนส่วนมากเลิกเร็ว แต่ก็ยังไม่กลับ...และผมก็พึ่งสังเกตว่าไม่มีการเบรคควอเตอร์...จนกระทั่งลูกสุดท้ายที่เป็นการตัดสิน...

     

    ...ผลการแข่งขันคือ...เสมอ....

     

    มองคนเล่นจนลืมมองสกอร์...แม้แต่การเล่นที่ดุเดือดขนาดนี้แต่ผลยังเสมอ...หลังจากที่เสียงนกหวีดดัง ทุกคนยังทำตัวปกติไม่มีสีหน้าของความเหนื่อยอ่อน...มีเพียงเหงื่อที่ไหลชุ่มเหมือนน้ำ....ทุกคนเคลื่อนตัวออกจากสนามไม่สนใจฝ่ายตรงข้าม  เสียงกรี๊ดและแสงแฟรชสาดส่องจนแสบตาไปหมด...เสียงเรียกชื่อคนที่ตัวเองชอบดังสนั่นโดยเฉพาะหัวหน้าแกงค์ของทั้งสองทีม...ที่เป็นคนทำแต้มและท่วงท่าการเล่นถูกใจคนดูมากที่สุด...

     

    “เจ๋ง!

     

    “..............”  หัวหน้าแกงค์เพการ์เพียงแค่ยิ้มมุมปาก  ก่อนจะรับผ้าจากเพื่อนไปเช็ดหน้าและเหงื่อที่ท่วมตัว....หัวใจผมยังเต้นไม่หยุดเลย....ไม่เคยดูเกมส์การแข่งขันที่ไหนสนุกและดูสวยงาม สง่า แบบนี้มาก่อน....ดูเหมือนว่าคนอื่นจะชินหรือเคยเห็นมาก่อนแล้ว...เลยไม่มีคนรู้สึกอะไรเวอร์เหมือนผม...

     

    “ ไปด้วยกันนะ!

     

    “ ไปไหน!

     

    “ บ้านเฮียแจ็คสัน คืนนี้เขาจะมีเลี้ยงแกงค์ว่ะ”   ไอ้ยูคยอมถามผมที่เดินออกมาด้วยกันหลังจากเกมส์จบ...สวนพวกเฮีย ๆ ก็ตกอยู่ในวงล้อมสาวๆ  กระดิกตัวออกมาไม่ได้...

     

    “ กูไม่ใช่คนในแกงค์ซักหน่อย”

     

    “ ไม่มีปัญหาหายห่วง ๆ ไปกับพวกกู...แล้วถือโอกาสเข้าแกงค์ด้วยไง...ไอ้วิน ติดสัดเหรอมึงเดินช้าเชี่ย!”  ไอ้หมากหอมพูดกับผม ก่อนจะหันไปด่าได้คนที่เดินช้ากว่าคนอื่นเพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์...

     

    “ อย่าเสียงดังสิควาย! กูอายสาว...ว่าไงจ๊า...”

     

    “ เดี๋ยวกูจับทุ่มดิน...มึงจะล่อสาวให้หัวถลอกรึไง...เปลี่ยนแมร่งไม่เว้นวัน..เบา ๆ หน่อย..เป็นโรคขึ้นมาพวกกูเลิกคบแมร่ง!”  หมากหอมเทศนาเพื่อนต่อ...พวกเราเดินมานั่งโต๊ะแถว ๆ โรงยิม มองพวกสาวๆ  ทยอยออกมา...

     

    “ ว่าไงแบมแบม ให้พวกกูไปขอที่บ้านให้ไหม”

     

    “ไม่ต้องหรอก...เจอกันที่ไหน...”

     

    “ บ้านไอ้ยองแจ มึงจะได้ไปเจอพี่กัสก่อน...พวกกูมั่นใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ว่ามึงได้เข้าแกงค์แน่”

     

    “อืม...ได้แล้วเจอกัน...”   ผมตอบตกลงพวกมันไป...ใจก็กลัวว่าย่าจะว่า  แต่หน้าตากระตือรือร้นของพวกมันที่อยากจะช่วยผมให้เข้าแกงค์ให้ได้ก็รู้สึกว่าผมควรจะต้องทำ... เพราะเพื่อนจะช่วยแต่ผมกลับนิ่งมันก็คงไม่ดี....

     

    พอกลับบ้านผมก็ขออนุญาตย่า...กลัว ๆ กล้า ๆ เหมือนกัน แต่ย่าก็อนุญาต แค่เตือนว่าอย่าไปมีเรื่องหรือทำตัวไม่ดีเด็ดขาด...ที่ตัดสินใจไปกับพวกมันก็เพราะอยากจะเข้าแกงค์ให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไป...เพราะดูแล้วโอกาสที่จะได้เจอเฮีย ๆ ของพวกมันที่วิทลัยฯ มันก็ยากพอสมควร...ทำตัวไม่เด่นอะไรก็คงไม่มีใครสนใจหรอก เพราะเด็กแกงค์เพการ์ก็เยอะพอสมควร...

     

    “ อืม ถึงหน้าบ้านมึงแล้ว ออกมารับกูหน่อย”

     

    “ ได้ ๆ ลงรถเลย” 

     

    “ อืม”  รับคำมันก่อนจะวางโทรศัพท์แล้วก้าวลงจากรถแท็กซี่ที่ตอนแรกย่าจะให้ลุงจันทร์มาส่ง แต่ผมไม่อยากให้ยุ่งยากเลยมาเอง...รถแท็กซี่จอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่...ผมไม่แปลกใจกับฐานะทางบ้านของพวกมัน...เพราะแต่ละคนโปรไฟล์กินขาดจนสาว ๆ  วิ่งตามได้ไม่ยาก...

     

    “ แบมแบมทางนี้จ้าที่รัก!

     

    “ ไอ้ยองแจล่ะ”  ผมถามไอ้คนที่ออกมารับ เป็นไอ้ยูคยอมไม่ใช่เจ้าของบ้าน....ก่อนจะเดินตามมันเข้าบ้าน...จากประตูรั้วต้องเดินเข้าไปอีกพอสมควร...ถ้าผมไม่ได้อยู่บ้านพ่อ คงรู้สึกว่ามาผิดที่ผิดทาง...

     

    “ คุยกับพี่มันอยู่ เรื่องมึงนั่นแหละ มันหักดิบวอนโดนเตะ เพราะปกติเฮียออกัส แกไม่คุยเรื่องแกงค์ที่บ้าน”

     

    “ แล้วจะไม่ทะเลาะกันเหรอวะ”

     

    “ ไม่หรอก มันก็แรงทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ ไปเหอะเข้าบ้าน วันดีเว้ย พ่อแม่มันไม่อยู่บ้านด้วย”  พ่อแม่ไม่อยู่บ้านแล้วเป็นวันดี ไอ้บ้ายูคยอม...สำหรับผมแล้วการอยู่กับพ่อแม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว...

     

    “ ..................”

     

    “เข้ามาดิแบมแบม”

     

    “ เฮียกัสหวัดดีครับ”   ผมเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนจะยกมือไหว้ผู้ชายร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มือก็สไลค์ไอโฟนไปมาอย่างสบายใจ ไอ้ยองแจตีคิ้วให้ผม...ดูเหมือนว่าไม่มีปัญหาอะไร...ยังมีหมากหอม กับมาวิน ที่ทักทายแล้วตั้งใจมองเฮียกัสกับผม...

     

    “ ดี...พึ่งเข้าใช่ไหมมึง..”

     

    “ ครับ “

     

    “ ชื่อเล่น ชื่อจริง”

     

    “ แบมแบมครับ ชื่อจริงกันต์พิมุกต์”

     

    “ วันนั้นที่ชั้นช่างไฟ มึงเป็นตัวต้นเหตุหนิ คิดว่ากูจะรับเข้าแกงค์เหรอ”

     

    “..................”  ผมเงียบแต่ก็เงยหน้ามองหน้าเฮียกัสที่เงยหน้าจากไอโฟนแล้วมองผม...ถึงจะไม่ดูจริงจังอะไร แต่คำถามมันทำให้ไปไม่เป็นเหมือนกัน

     

    “ การที่ดึงพวกน้อง ๆ กูเข้าไปด้วยรู้สึกยังไง”

     

    “ ก็ไม่รู้สึกยังไงครับ”  ...รู้ตัวว่าเสียงผมเริ่มแข็งขึ้น จนไอ้ยูคยอมนั่งกัดเล็บตัวเองเพราะลุ้นไปด้วย....คำถามกวนอารมณ์ชัด ๆ ...

     

    “ ไม่รู้สึกได้ยังไง ถ้าวันนั้นพวกกูลงไปไม่ทัน แล้วน้องพวกกูเป็นอะไรไปมึงจะรับผิดชอบยังไง!”

     

    ก็ไม่ทำยังไงครับ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เพื่อนควรทำ...พวกมันเป็นเพื่อนผม! มันก็ต้องทำอย่างนั้น เพราะถ้าเป็นผม ผมก็จะทำเหมือนพวกมัน เหรือว่าเวลาเฮียเห็นเพื่อนกำลังถูกหาเรื่อง เฮียจะยืนอยู่เฉย ๆ รึเปล่า!”

     

    ...................”  เงียบกันไปหมด มีเพียงเฮียกัสเท่านั้นที่เลิกคิ้วมองผม....

     

    เอ่อ...แบมแบมใจเย็นมึง....เฮีย อย่าถือสาเพื่อนผมเลยมัน...

     

    เดี๋ยวกูจะเล่าให้ไอ้แจ็คสันมันตัดสินอีกทีละกัน

     

    ...ฮะ แค่นี้เหรอ แล้วเฮียสัมภาษณ์น้องตัวเองแท้ ๆ เป็นชาติเลย!”

     

    ก็น้องกูมันโง่! จบไหม

     

    จบครับเฮีย แล้วไปได้ยังอ่ะครับแล้ว

     

    ไปดิ!”  ผมลุกตามแรงฉุดของไอ้ยองแจก่อนจะเดินตามพวกมันออกไปที่หน้าบ้าน ตอนนี้รถออดี้สีดำจอดอยู่หน้าบ้านสองคัน คันนึงของเฮียออกัส อีกคันของไอ้ยองแจ...ให้ตายเถอะผมยังขับรถไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่พวกนี้มีรถราคาแพงกันขนาดนี้แล้ว...ไอ้ยองแจกำลังซิ่งรถตามพี่มันอย่างสุดชีวิต ผมถึงกับนั่งตัวแข็งจนไอ้หมากหอมหัวเราะ ส่วนไอ้ยูคยอมกับมาวินขึ้นคันของเฮียที่พุ่งฉิว เฉียดรถชาวบ้านไป...ผมคิดว่าคงได้คำอวยพรห้อยท้ายรถเยอะพอสมควร...

     

    ในที่สุดผมก็เอาชีวิตรอดมาจากไอ้ตีนผีสองพี่น้องนี่ได้...ก้าวลงมายืนขายังไม่หายสั่น...ผมปฏิญาณตนว่าจะไม่ขึ้นรถพวกมันอีก ตอนกลับพึ่งแท็กซี่ละกัน...

     

    ไปมึง!”

     

    ...............  เดินตามเฮียกัสเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ต้องบอกว่าใหญ่จริงๆ  เพราะแค่ลานจอดรถด้านหน้านี่ก็จอดได้เยอะมาก ส่วนตัวบ้านเหมือนในหนังที่เคยเห็น ใหญ่กว่าบ้านผม และใหญ่ว่าบ้านไอ้ยองแจอีก...ยิ่งเดินเข้าไปในบ้านยิ่งรู้สึกว่ามันหรูเกินไป....เฮียกัสเดินนำไปห้อง ๆ นึง ก่อนจะเปิดประตู...เสียงดังอึกทึกถึงได้เล็ดรอดออกมา..น่าจะเป็นห้องเก็บเสียง เดินเข้ามาถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย....

     

    ทางนี้เว้ย!!”

     

    ...................   เดินตามพวกไอ้ยองแจที่แวะทักทายเพื่อนที่อยู่ในงานเป็นระยะ กว่าจะถึงโต๊ะรุ่นใหญ่....อย่าบอกนะว่ามันจะไปนั่งร่วมโต๊ะกับพวกรุ่นใหญ่...

     

    ห้องขนาดใหญ่เหมือนห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมที่พวกผมเคยไปจัดการสัมมนาของแผนกที่สถาบันเดิม..แต่พรมที่ปูลายตาจนน่าเวียนหัว แล้วยังแสงสีเหมือนอยู่ในผับ...เคาท์เตอร์เครื่องดื่มที่ยาวจรดตามแนวผนัง มีพวกในแกงค์นั่งกันอยู่เต็มไปหมด แล้วกลางห้องโถงมีโซฟาชุดใหญ่สำหรับพวกรุ่นใหญ่นั่งกัน  แล้วที่เหลือก็เป็นโต๊ะญี่ปุ่น แต่ทำจากไม้เนื้อดีตั้งอยู่กว่าห้าสิบโต๊ะ...โต๊ะนึงก็นั่งล้อมได้สี่ห้าคน....ผมว่ามันคนหาโต๊ะคงคิดไว้แล้วว่าเด็กช่างนั่งกันอย่างนี้ดีกว่านั่งกินแบบหรู ๆ ...เพราะแต่ละคนก็กำลังสนุกสนานกับเหล้ายาปลาปิ้งที่อยู่บนโต๊ะ...เสียงเพลงแนวชอร์ฟร็อคดังคลออยู่ตลอดแต่ไม่ดังมาก มีการเล่นกีตาร์คลอเพลงและร้องตามกันอย่างสนุก...ผนังด้านนึงมีจอสกรีนฉายฟุตบอลที่กำลังยิงลูกโทษอยู่...มีบางกลุ่มเชียร์กันสนุกสนาน....ดูจากจำนวนคนและสภาพแวดล้อมในห้อง...ผมกำลังคิดว่ากลุ่มผมคงมาช้าแน่ๆ .....

     

    สวัสดีครับพวกเฮียยยยยยย!”

     

    เออ หวัดดี เชี่ยยูคยอม มีลากเสียงให้มันน้อย ๆ หน่อย พวกกูจะกลายพันธ์กันอยู่แล้ว  ...จำได้ว่าคนนี้คือเฮียมาร์ค....ผมก็ยกมือไหว้ตามพวกมันไปแบบเนียนๆ  ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งจิบเหล้าอยู่แบบสบายๆ  วันนี้ทุกคนแต่งตัวกันแบบสบายๆ  เสื้อยืดกางเกงยีนส์ เดฟ ไม่เดฟ แล้วแต่ถนัด แต่ก็ต้องยอมรับว่าดูดีจนไม่คิดว่าเป็นเด็กช่างมอมแมมเหมือนเวลาเรียน...โดยเฉพาะเฮียแจ็คสันที่นั่งส่องทีวีจอใหญ่อยู่ แต่หน้าตาไม่ได้แสดงว่าลุ้นอยู่เหมือนคนอื่น...ไม่ได้สนใจพวกผมที่มาใหม่ด้วยซ้ำ....

     

    ไปนั่งเถอะ

     

    เฮ้ยพวกมึงนั่งกับพวกกูนี่แหละ ขยับๆ !”

     

    มันจะดีนะเฮีย ขอนั่งกับเฮียนัมนะ ไม่ค่อยเสียวหัว

     

    มึงคิดว่านั่งกับไอ้นัม แล้วกูตบหัวมึงไม่ถึงรึไง มานั่ง!”  ไอ้ยูคยอมจำใจต้องเดินไปนั่งข้างเฮียมาร์ค  ไอ้ยองแจเดินไปนั่งข้างรุ่นใหญ่คนนึง...หมากหอม กับ มาวิน ก็แยกกันนั่งหมด....ผมกำลังจะเดินไปนั่งคั่นกลางระหว่างเฮียนัมกับเฮียออกัส  แต่ก็ถูกไอ้มาวินดึงแขนไว้ก่อน...

     

    นั่งข้างกูก็ได้ เฮียเหยิบได้ป่ะครับ ขอเพื่อนผมนั่งด้วย

     

    ข้างไอ้แจ็คสันไง ให้เพื่อนมึงไปนั่งนั่นก็ได้ ห่างกันมั่งเหอะ!”

     

    งั้นก็ได้ ไปนั่งตรงนั้นไป  จำต้องเดินไปนั่งคั่นกลางระหว่างเฮียแจ็คสันกับรุ่นใหญ่คนนึงที่ผมไม่รู้จัก สรุปว่าในรุ่นใหญ่และในที่นี้ผมรู้จักไม่กี่คน...หันมองเฮียกัสกับเฮียนัมที่นั่งห่างกันเป็นวา... แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปคั่น เท่าที่ดูทั้งสองคนคุยกับเพื่อนคนอื่น....แต่ไม่คุยกัน นี่คงเป็นเหตุผลที่มาวินดึงแขนผมออกมา...

     

    อ่ะ ๆ ดื่มๆ  แดก ๆ พวกมึงมาใหม่เอาอะไร ช่วยเหลือตัวเอง...

     

    ชงเหล้า

     

    ................  รับแก้วเหล้าของคนที่นั่งข้างกันมาอย่างงง ๆ เมื่อจู่ๆ  หัวหน้าแกงค์คนเก่งก็หย่อนแก้วเหล้าใส่มือผม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสุดชิวว่าให้ชงเหล้า....เผลอเงยหน้ามองเพราะอยากจะถามว่า...ให้ผมชงจริงๆ  เหรอ...

     

    ...เหล้าน้ำ...

     

    คะ ครับ ขยับตัว ก่อนจะจัดการชงชุดเหล้ากับมิกเซอร์ที่วางตรงหน้า...ขนาดผมยังไม่ได้เป็นเด็กในแกงค์ยังถูกใช้ขนาดนี้ แล้วถ้าเป็น จะได้ถูกจิกหัวใช้รึยังไงกัน...ยังดีที่เคยร่วมวงกับเพื่อนมาก่อน สำหรับผมจะว่าอ่อนก็ช่าง แต่เหล้าโค๊กน่ะ วิเศษสุดแล้ว...

     

    จางไป

     

      ................  คนอื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจผมกับหัวหน้าแกงค์ตัวเองซักนิด  ต้องรับแก้วเหล้าคืนมาอีกครั้งเมื่อส่งไปแล้วเจ้าตัวจิบ ปรากฏว่ายังเข้มไม่ถึงใจ....ใบหน้าหล่อนั่นยังคงลุ้นกับฟุตบอลบนจอ....จัดการเทเหล้าใส่อีกจนแน่ใจว่า...ถ้าจางท่านก็กระดกเพียวๆ  เถอะ...

     

    ..................

     

    ..................  รอลุ้นอยู่ก็ปรากฏว่าท่านจิบไปก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็คงไม่อะไรแล้วแน่ๆ  หันไปมองก็เห็นเหล่าผองเพื่อนชนแก้วกับรุ่นใหญ่ข้างๆ ตัว และเริ่มเสียงดังกันแล้ว....

     

    เพื่อนมึงหน้าไม่คุ้น ไม่ได้เข้าแกงค์ใช่ไหม

     

    ครับเฮียโจ ก็รอคำตัดสินอยู่  มาวินตอบพร้อมกับยกแก้วเหล้าตัวเองขึ้นกระดก...พอเฮียชื่อโจหนึ่งในนักกีฬาบาสวันนี้พูดขึ้นทุกคนก็ดูเหมือนจะพร้อมใจหันมามองผมกันหมด....

     

    น่ารักว่ะ มิน่าไอ้เชี่ยเปอร์แมร่งถึงคลั่งเพราะถูกได้นี่เมิน..

     

    เฮียแล้ววันนั้นว่าไงอ่ะ 

     

    ก็ไม่มีอะไร ดูเหมือนพวกรุ่นใหญ่ยูนิคก็ไม่ค่อยชอบนิสัยได้เปอร์เท่าไหร่ เลยเฉยๆ  ไป...แต่ยังไงก็ขึ้นชื่อว่าคนของมัน พวกมึงก็ระวังตัวละกัน เอียกัสพูดแล้วเหล่มองเฮียนัมด้วย...ถ้าให้ทายถ้าสองคนนี้ไม่มีซัมติงอะไรมากมาย ก็คงจะทะเลาะกันอยู่แน่ ๆ

     

    กิน

     

    ..............  รับแก้วเหล้ามาถือไว้แบบงงๆ  อีกรอบ ไม่เข้าใจ....ตกลงว่าเฮียแจ็คสันพูดได้เกินสามคำไหม...ขยับตัวตั้งใจจะชงเหล้าให้เพิ่มเพราะไม่ยินไม่ถนัดว่าอีกคนพูดอะไร...

     

    กูบอกให้มึงกินเหล้าในแก้ว ไม่ได้ให้มึงชง

     

    แดกสิไอ้น้อง กินแก้วเดียวกับแจ็คสันรูปหล่อ วาสนานะมึง มาชน ๆๆ!!”  วาสนากับ...เตี่ย...พี่น่ะสิครับ เหล้าเหลืองอ๋อยซะขนาดนี้  ผมจะกินเข้าไปได้ยังไง...ไม่ได้ลิ้มรสมานานมากแล้วด้วย...รู้ตัวเลยว่าหมดแล้วนี้ผมเซแน่...

     

      ชงขนาดนี้ ให้กูแดกเพียวเหอะ

     

    งั้นผมชงให้เฮียใหม่  แสดงว่าเข้มจริง  ก็ร้องขอเข้มๆ  ไม่ใช่ไง...พวกที่ชนแก้วก็ได้ใจ ถือแก้วเหล้าค้างรอให้ผมไปชนด้วย เหลือบมองไอ้เพื่อนก็พยักหน้าหงึกหงักให้ผมตามน้ำ....คิดว่าผมคงไม่ผ่านตั้งแต่เฮียแจ็คสันจิบเหล้าแก้วนี้ตั้งแต่จิบแรกแล้ว...

     

    เดี๋ยวกูชงเอง มึงแดกให้หมดแก้วก่อนเหอะ

     

    เคร้ง!!

     

    หมดแก้ว!!”

     

    ......................  เอาวะ!...กลั้นใจกระดกเหล้าสีเข้มในแก้วจนหมด ขนลุกไปหมดทั้งตัว รสชาติขมปร่าติดลิ้นติดคอไปหมด...โอเค..สภาพทั่วไปยังใช้ได้....วางแก้วลงเสียงดังจนทุกคนหันมอง...

     

    ไหวเปล่าวะแบมแบม!”

     

    ไม่เป็นไร

     

    .................  ผมมองเฮียแจ็คสันที่หยิบแก้วเหล้าที่ผมวางไว้ไปชง ผมว่าสีมันก็เท่ากับของผมที่ชงให้ แต่ก็กระดกชิวๆ  หน้าตาเฉย...

     

    กินที่เหลือให้หน่อย

     

    ................  หันมองคนอื่นที่กำลังคุยกันเสียงดัง....นั่งไปนั่งมาตาชักลาย รู้สึกว่าตัวเองว่าง่าย...ยื่นมือไปรับแก้วเหล้าของคนที่ยื่นมาให้หลังจากจิบไปนิดหน่อย...รับมาได้ก็กระดกจนหมด...เพื่อนผมก็มองอยู่แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร  เพราะคงเกรงใจและคิดว่านี่อาจจะเป็นการทดสอบผม..

     

    ไม่ไหวแล้วอ่ะ เฮียแจ็คสัน...ผมว่ามากกว่านี้มันน็อคแน่

     

    ..................  พวกมันพูดอะไรกันผมเริ่มจะฟังไม่รู้เรื่องแล้ว รู้แค่ว่าเอนตัวไปข้างหลังเพื่อพิงโซฟา...และตาก็ลืมไม่ขึ้น...หลังจากที่มีแก้วที่สอง แก้วที่สามและสี่ก็ตามมา...จนสภาพผมเป็นอย่างนี้....

     

    ยองแจ พา กลับบ้าน หน่อย..

     

    กลับบ้าอะไรล่ะ กลับสภาพนี้ที่บ้านมึงได้ตีหัวแตก...นอนนี่แหละ ส่วนมากก็นอนนี่...

     

    ...เดี๋ยว  ย่า ว่า...  ลิ้นพันกันจนพูดแทบไม่รู้เรื่อง...

     

    เออ.. ไปโทรขอย่าป่ะ...เฮียแจ็คสัน ผมขอห้องนึงนะครับ..

     

    ตามสบาย   พยุงตัวเองลุกตามแรงฉุดไอ้ยองแจ  เพื่อนผมทั้งสี่คนลุกตามมากันหมด...

     

    เพื่อนไอ้พวกนี้ เมาแล้วแมร่ง...ซี๊ด!..เชี่ยนัม! อะไรของมึง!”

     

    ไอ้หื่น!”  ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยตามมา ก่อนที่เสียงจะเงียบไปหลังออกจากห้องนั้นได้....ตาผมจะหลับอยู่แล้ว จะคุยกับย่ารู้เรื่องรึเปล่า..แต่ก็ยังล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์บ้านจนได้...และขอสายย่าที่กำลังรออยู่...

     

    ย่า ครับ แบมแบมขอโทษ แบมแบมเมา กลับไม่ได้..

     

    เชี่ย แล้วมันจะบอกย่ามันทำไมวะว่าเมา  ผมแหงะมองได้มาวินที่บ่นเบาอยู่ข้างหลัง....ก็ไม่ชอบโกหกนี่นา...

     

    / ดื่มเยอะเหรอลูก  บ้านอยู่ไหน ให้ย่ากับตาจันทร์ไปรับไหม /

     

    ไม่เยอะ ครับ แต่แบมแบมเมาง่าย เพื่อนแบมแบมให้นอน ที่บ้านนี้

     

    / เพื่อนแบมแบมไว้ใจได้ไหม /  น้ำเสียงย่าเป็นกังวลจนผมยิ้มออกมาได้...ดีใจ ที่ยังมีคนห่วงผมอยู่ที่นั่น...

     

    ไว้ใจ ได้ครับ ย่า..ไม่ต้อง ห่วง...ย่าไว้ ใจแบมแบม นะครับ..

     

    / ย่าไว้ใจแบมแบม พรุ่งนี้รีบกลับแต่เช้านะ ย่าจะรอ /

     

    ครับย่า ฝันดีนะครับ

     

    ในที่สุดก็ขออนุญาตย่าได้อีกรอบ...น้ำเสียงของย่าเหมือนกับน้ำเสียงของแม่เวลาที่ผมทำงานที่บ้านเพื่อนแล้วต้องค้าง...ไม่รู้ว่เป็นเพราะอะไร ทุกคนเลือกที่จะไว้ใจผม...

     

    พามันขึ้นไปนอนก่อนเถอะ สภาพไม่ไหวแล้ว

     

    ..............   ยอมให้เพื่อนพยุงขึ้นห้อง...ทั้งที่มีแรงคุยกับย่ารู้เรื่อง แต่กลับเดินเป๋ไปมา...และพอคุยกับย่าเสร็จก็เหมือนว่ากำลังจะชัทดาวน์ตัวเอง..เข้ามาในห้อง ๆ นึง  พวกมันพยุงผมให้นอนบนเตียง....แค่หลังสัมผัสที่นอนก็รู้สึกเหมือนว่าสติผมกำลังหลุดลอย...จนดำดิ่งในที่สุด..ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกนั้นนอนพร้อมผมหรืออกไปตอนไหน...

     

    / ยินดีต้อนรับเข้าแกงค์เพการ์...แบมแบม  กันต์พิมุกต์../

     

    ความรู้สึกเหมือนมีใครมาบีบหัวสมองทำให้ต้องกระพริบตาถี่แล้วลืมตาขึ้น....ปวดหัว....รู้สึกผะอืดพะอม....แต่ก็ไม่ถึงกับจะต้องอาเจียน ลุกขึ้นจากเตียง มองไปรอบ ๆ ห้อง ก็เห็นไอ้เพื่อนสี่คนนอนเรียงกันอยู่ ด้านขวาผมเป็นได้ยองแจกับไอ้มาวิน ด้านซ้ายคือ ไอ้ยูคยอมกับหมากหอม ที่นอนแผ่ ก่ายกันไปมาแบบหมดสภาพ...เสียงกรนผสมปนเปจนไม่รู้ว่าเสียงใครกันแน่...ดีที่เตียงใหญ่มากจนบรรจุเด็กตัวเขื่องได้ถึงห้าคนสบายๆ  สรุปว่าห้องนี้พวกผมนอนกันแค่ห้าคน...แสงสว่างส่องผ่านม่านสีขาวเข้ามา...ผมควรจะกลับบ้านได้แล้ว...แม้วันนี้จะวันเสาร์แต่ผมควรกลับไปหาย่า

     

    ..อึก...   จู่ ๆ กลิ่นแอลกอฮอล์ก็ตีขึ้น ทำให้ต้องรีบลงจากเตียงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำที่เปิดไฟสว่าง ผมว่าเมื่อคืนอย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีคนมาคุยกับชักโครกนี่แน่ๆ  เพราะยังมีร่องรอยเหมือนอยู่...

     

    ................  จัดการเอาของเก่าออก ก่อนจะล้างหน้าล้างตา...ค่อยรู้สึกสดชื่นหน่อย....อาบน้ำซักหน่อยก็ดี ....ใส่เสื้อผ้าตัวเดิมคงไม่เป็นไร...คิดได้อย่างนั้นก็จัดการถอดเสื้อคลุมก่อนจะเลิกเสื้อยืดขึ้น...

     

    ...หืม...รอยแดง ๆ ที่ตัวผม....

     

    ...รอย...อะไร...  เมื่อถอดเสื้ออกไปวางหน้ากระจก สิ่งที่เห็นอยู่บนตัว บริเวณหน้าอก หน้าท้อง และลำคอทำเอาผมต้องยื่นหน้าเข้าไปดูในกระจกใกล้ๆ  จะว่าผื่นแพ้เหล้ามันก็ไม่ใช่ก็เป็นจ้ำ ๆ เหมือนถูกดูด...

     

    ...ถูกดูด...จูบ...รอยคิสมาร์ค...ทำไมหัวสมองผมถึงคิดไปถึงเรื่องพวกนั้น...ผมก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดไม่รู้ว่ามันเหมือนรอยอะไร...แต่ใครจะเป็นคนทำ....รีบใส่เสื้อเหมือนเดิมก่อนจะเดินออกมามองพวกที่นอนกองกันอยู่....ต้องไม่ใช่พวกมันสิ...ผมภาวนาว่าต้องไม่ใช่...

     

    .................  เร่งเท้าเดินออกจากห้อง ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันได... เมื่อคืนเมาจนไม่ได้สติขนาดนั้นได้ยังไง...แต่มันก็น่าอยู่หรอกเพราะเจ้าสี่ตัวนั่นเข้าออกตอนไหนผมไม่รู้เรื่องเลย...จะว่าไม่รู้สึกอะไรมันก็ไม่ใช่ มันทั้งงงและเริ่มกลัว...

     

    จะไปไหน

     

    เอ่อ กลับบ้านครับ  มือผมยกขึ้นปิดรอยบริเวณลำคออย่างลืมตัวเพราะกลัวอีกคนเห็น...เฮียแจ็คสันยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าบ้านหลังใหญ่  บริเวณลานกว้างที่เหมือนสร้างไว้ให้สำหรับรถจอดได้หลายคัน ก็ยังมีรถจอดอยู่ประปราย รวมทั้งออดี้สีดำสองคันของสองพี่น้องนั้นด้วย....ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อคืนเฮียแกก็ดื่มหนัก ไม่น่าจะหน้าตาสดชื่นเหมือนคนพักผ่อนเต็มอิ่มขนาดนี้....

     

    แล้วคอเป็นอะไร

     

    ไม่เป็นอะไรครับ...   เฮียแจ็คสันมองหน้าผมนิ่งๆ  แต่ก็ไม่พูดแล้วซักอะไรต่อ...ก้นบุหรี่ถูกทิ้งลงก่อนรองเท้าผ้าใบราคาแพงที่เจ้าของใส่เหยียบส้นจะเหยียบดับบุหรี่ที่ถูกทิ้งลง...ไม่ว่าจะทำอะไรผมรู้สึกทึ่งนิด ๆ ว่าเฮียดูดีอย่างหาตัวจับยาก...แต่ตอนนี้ผมอยากกลับบ้านเต็มแก่แล้ว...

     

    แล้วกลับรถอะไร

     

    จะไปโบกแท็กซี่ครับ

     

    เดี๋ยวจะไปส่ง

     

    ไม่ต้องครับ ผมกลับเองได้ ลาล่ะครับ ยกมือไหว้อย่างรวบรัด ก่อนจะรีบเดินออกมาให้ห่างจากคนที่ยังใช้สายตาจ้องผมอยู่ เหมือนกำลังหาคำตอบว่าผมมีพิรุธอะไร...แล้วค่อยถามพวกนั้นว่าตกลงผมผ่านได้เข้าแกงค์รึเปล่า...

     

    เดี๋ยวก่อน..

     

    ครับ

     

    ถ้าจะปิดรอยที่คอน่ะ อย่าลืมว่ามีสองรอย อย่าปิดแค่รอยเดียว...”  คนที่เดินตามผมมาจิ้มมือลงที่คออีกข้างที่ผมไม่ได้ปิด...จริงๆ  ด้วย..ลืมไปว่าบนคอผมมีสองรอย...สรุปว่าเฮียแจ็คสันก็เห็น...แต่ก็แค่ยิ้มมุมปากให้แล้วเดินหันหลังเข้าบ้าน...

     

    ...เฮียแจ็คสันต้องรู้แน่ว่ารอยอะไร...หนทางเข้าแกงค์ของผมเลือนรางแน่ๆ  เพราะผมไม่แน่ใจว่าเฮียจะคิดยังไงกับสิ่งที่เห็น...และตัวผมเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำยังไงกับรอยพวกนี้...สรุปว่ามันใช่หรือเปล่า...แล้วใครเป็นคนทำ...


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×