ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Blood School เลือดรัก นักเลงช่าง ~JackBam [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #13 : Sec 13 / Friendship, freedom, honesty, trust,

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 58




                               



    พวกเรากลับไปที่บ้าน ไม่ถึงชั่วโมงพวกที่ตามมาก็มาถึงบ้านพักเฮียออกัส พอรู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อย พวกก็พากันตั้งวงข้างชายหาด  คุยกันเสียงดังเซ็งแซ่ ส่วนพวกรุ่นใหญ่ก็ขึ้นห้องนอน เพราะต้องขับรถกลับตอนเย็น...ไม่ได้ร่วมดื่มกับพวกที่ตามมาสมทบ...เพราะเห็นว่าพวกนี้จะอยู่เที่ยวต่อถึงจะกลับ...สรุปคือก็ได้โดดเรียนคนละวัน...

     

    “ดูแลน้องดี ๆ นะพวกมึง มีอะไรก็บอกแม่บ้าน อย่าทำบ้านกูเละเทะ”

     

    “ค๊าบเฮีย ผมสาบาน จะดูแลรักษาบ้านเฮียเท่าชีวิต!

     

    “ เออ พวกกูไปละ” 

     

    รถของพวกเราค่อย ๆ เคลื่อนออกจากตัวบ้านตอนประมาณบ่ายสอง  ยิงยาวถึงกรุงเทพฯ ก็เกือบห้าโมงเย็นเพราะรถติด  พวกเราแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่เฮียแจ็คมาส่งผม ก่อนจะต้องกลับเพราะถูกที่บ้านโทรตาม...แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังลีลาอิดออดอ้อนคุณย่าหัวเราะกันเสียงดังอยู่นานสองนาน...เวลาอยู่กับคุณย่าร่าเริงจนผมนึกภาพหัวหน้าแกงค์เพการ์ซัสไม่ออก...

     

    “..คุณย่าครับ..คือ...”

     

    “ มีอะไรก็ว่ามาสิ เด็กคนนี้ เป็นลูกผู้ชายพูดจาให้ฉะฉานเหมือนพี่แจ็คสันเขานู่น”  นั่นไง นั่นสินะหลานตัวจริง ผมยู่ปากทำงอนใส่คนที่เอาผมไปเปรียบเทียบกับเฮียแจ็ค  คุณย่ายิ้มก่อนจะลูบหัวผมเบา ๆ ขยับตัวเข้าไปกอดเอวคุณย่าหลังจากที่เดินไปนั่งข้างคุณย่าบนโซฟาในห้องนั่งเล่น...

     

    “พี่เจบีอ่ะครับ บาดเจ็บนิดหน่อย แล้วแบมอยากไปเยี่ยม”

     

    “อ้าว จริงเหรอ...แล้วเรารู้จักบ้านพี่เขาไหม..”

     

    “ไม่รู้ครับ แต่แบมจำได้ว่าเขาเคยคุยกับคุณย่า”  

     

    “บอกว่าแค่อยู่แถวไหน ไม่ได้บอกทั้งหมด แล้วทำไมแบมไม่โทรหาพี่เขาล่ะลูก”

     

    “ แบมไม่มีเบอร์”   จริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากจะวุ่นวายเท่าไหร่ แต่มาคิดดูแล้วในเมื่อทุก ๆ อย่างต้นเหตุมันเกิดจากผม แล้วอีกคนก็คอยช่วยเหลือทำให้รู้สึกดี ๆ ในหลายครั้ง...ผมควรจะมีน้ำใจบ้าง  ไม่พูดก่อนหน้านี้เพราะเฮียแจ็คอยู่ ไม่อยากจะให้มีปัญหา ทั้งที่รู้ว่ายังไงเฮียแจ็คต้องรู้ว่าบ้านเฮียเจบีอยู่ไหน..

     

    “งั้นเหรอ เดี๋ยวย่าจัดการให้”

     

    “ คะ ครับ”  ย่าจะจัดการให้ยังไง...คุณย่าพูดแล้วลุกจากโซฟา ก่อนจะยกหูโทรศัพท์บ้าน แล้วกดหาใครซักคน....คุณย่าถือสายรอซักพักแล้วก้มลงจดยุกยิก เหมือนได้สิ่งที่ต้องการแล้ว...

     

    “เอ้า ที่อยู่พี่เขา”

     

    “คุณย่าเช็คยังไงครับ”

     

    “ความลับ ไปเถอะลูกมันจะดึก อย่าลืมแวะซื้ออะไรไปด้วยล่ะให้ลุงจันทร์ขับรถไปให้ เดี๋ยวย่ากำชับให้อีกทีว่าอยู่แถวไหน”  คุณย่ายื่นกระดาษที่จดที่อยู่มาให้ ก่อนจะเรียกให้เด็กในบ้านตามลุงจันทร์มาให้..

     

    “รักคุณย่าจัง”

     

    “อย่ามาอ้อน..ย่าก็รักแบมแบมลูก..”  รักจริงๆ  ผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากผู้หญิงคนนี้...คนที่กำลังพยายามชดเชยทุกอย่างให้ผม ไม่ว่าจะในฐานะย่า และฐานะแม่...แววตาหวงแหน ห่วงใย และอ้อมกอดอบอุ่น ผมรับรู้ได้โดยไม่ต้องบอก...

     

    ......................

    .....................

     

    ตอนนี้ยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ถึงไม่ใหญ่เท่าบ้านเฮียแจ็ค แต่บริเวณบ้านก็กว้างไม่ต่างกันเลย ทำให้การชะโงกหน้าเข้าไปดูในบ้านมันเปล่าประโยชน์  ผมเลยกดกริ่งหน้าบ้าน เห็นคนสวนวางสายยางแล้ววิ่งมาหา...ตอนนี้หกโมงกว่าแล้ว ไฟตามรั้วถูกเปิดขึ้น...

     

    “มาหาใครครับ”

     

    “เอ่อ ผมเป็นเพื่อนเจบีครับ”

     

    “ตอนนี้คุณเจบี ยังอยู่โรงพยาบาลนะครับ ยังไม่ได้กลับมาบ้าน”

     

    “ แล้วทราบไหมครับว่าอยู่โรงพยาบาลไหน”  ผมรีบถามเพราะถ้าสองทุ่มแล้วจะหมดเวลาเยี่ยม ก่อนจะมาก็ลังเลแล้วว่าน่าจะอยู่โรงพยาบาล แต่ผมก็ไม่รู้อีกว่าโรงพยาบาลไหน เลยกะว่ามาหาที่บ้านแล้วถามเอา เพราะที่ย่าให้ก็มีแค่ที่อยู่ไม่มีเบอร์โทร...

     

    ...แต่ผมว่าเส้นทางแถวนี้มันคุ้น ๆ เหมือนเคยมา....

     

    “ครับ อยู่โรงพยาบาล xxxx

     

    “ขอบคุณครับ”

     

    ผมรีบกลับมาขึ้นรถแล้วบอกปลายทางลุงจันทร์ ยกโทรศัพท์โทรหาคุณย่าว่าจะไปหาเฮียเจบีที่โรงพยาบาล  โชคดีที่จากบ้านเฮียเจบี กับโรงพยาลเอกชนชื่อดังมันไม่ไกลกันมาก ทำให้ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที รถผมก็จอดเทียบอยู่บริเวณลาดจอดรถแล้ว..

     

    “ลุงจันทร์ไปไหนก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวแบมโทรหา”

     

    “ไม่เป็นไรครับคุณแบม ลุงรออยู่แถวนี้แหละ”  ผมพยักหน้าก่อนจะหิ้วตะกร้าผลไม้ที่แวะซื้อก่อนหน้านี้....ไปเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล ก่อนจะสอบถามชื่อและได้รับข้อมูล...VVIP ROOM...

     

    ก๊อกๆๆ

     

    “.....................”  เคาะประตูซักพักยังไม่มีคนมาเปิด เลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป...ห้องกว้างเหมือนห้อง ๆ นึง...เงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ไม่มีแม้แต่เสียงทีวี เดินผ่านโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ ชุดรับแขกเหมือนกับห้องคอนโด มีอีกห้องที่ถูกแบ่งออกจากห้องที่มีโซฟา  แค่เปลี่ยนจากประตูเป็นม่านบังตาที่ตั้งอยู่ด้านหน้า...

     

    “ ขออนุญาตครับ”

     

    “.....................”  ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเริ่มลังเลว่าจะถอยหรือจะเดินเข้าไปในห้องนั้น...แต่ยังไงก็มาแล้ว...ตัดสินในเดินผ่านม่านบังตา ชะโงกหน้าเข้าไปในห้องที่ผมเดาว่าน่าจะใช่ห้องผู้ป่วย...

     

    ยิ้มออกในที่สุด เพราะอย่างน้อย ๆ ก็ไม่ได้เข้าห้องผิดห้อง ภาพผู้ชายร่างสูงนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง  ขาข้างนึงถูกเข้าเฝือกแต่ไม่ได้ห้อยเหมือนที่เคยเห็น ส่วนแขนข้างซ้ายก็มีเฝือกอ่อนเหมือนกัน...เอาไงดี...เฮียเจบีหลับอยู่ แล้วไม่มีใครให้ฝากผลไม้ไว้ด้วย...หรือจะเอาวางไว้อย่างนี้ดี

     

    “ เที่ยวสนุกไหม”

     

    “เอ่อ!  ตื่นแล้วเหรอ”  ทำหน้าเหรอหราเมื่อจู่ๆ  คนที่คิดว่ากำลังหลับสนิท จู่ๆ  ก็ถามขึ้นมาทำเอาผมที่มัวแต่หาที่วางผลไม้ถึงกับสะดุ้ง...ก่อนจะหันไปมองคนถาม ..ใบหน้าหล่อถึงจะซีดเซียวและมีรอยช้ำอยู่หลายจุด แต่ก็ยังหล่ออยู่ มิน่าไม่ได้ยินเสียงผมเข้ามา  พึ่งมองเห็นหูฟังที่เฮียเจบีถืออยู่ คงพึ่งดึงออกจากหูตัวเอง และผมก็ไม่ทันสังเกตตอนแรก  แสดงว่าเฮียไม่ได้หลับแต่แค่หลับตาฟังเพลง...

     

    “...ไม่ได้หลับ...”

     

    “..คือ ผมมาเยี่ยม..”

     

    “ กูรู้แล้ว มึงมานี่คงไม่ได้มาขโมยของ”

     

    “ แล้วไม่มีคนอยู่เลยเหรอครับ”

     

    “กลับไปกันหมดแล้ว คงจะมาใหม่ก่อนสองทุ่ม”

     

    “ ..คือ..”  กลายเป็นไม่รู้จะพูดอะไร หลังจากไปนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ  เตียง ผลไม้ถูกวางไว้บนเคาท์เตอร์มุมห้อง...ไม่รู้จะพูดหรือจะถามอะไร อีกคนทอดสายตามองผมเหมือนจะรอฟังว่าผมจะพูดอะไร แต่ก็ยกยิ้มมุมปากเมื่อผมเงียบ...

     

    “กูถามว่าไปเที่ยวสนุกหรือเปล่า”

     

    “สนุกครับ แล้วเฮียเป็นยังไงบ้าง”

     

    “ยังไม่ตาย...เรียบร้อยดีไหมที่นั่น..”

     

    “ เรียบร้อยดีครับ...คือ..ขอโทษที่ผมเหมือนจะเป็นตัวต้นเหตุทั้งหมด..”

     

    “ ต้นเหตุอย่างมึงอ่ะ มันไม่ใช่ชนวนหรอก...กูไม่ตาย เรื่องราวจบลงด้วยดี ก็ถือว่าทุกอย่างโอเค ไม่ใช่รึไง หรือไอ้แจ็คสันมันว่าอะไร”

     

    “ เปล่า เฮียแจ็คสันไม่ได้ว่าอะไร...กินผลไม้ไหม คุณย่าฝากบอกด้วยว่าเป็นห่วง...”

     

    “ งั้นเหรอ ก็ดี ไว้หายแล้วจะไปเยี่ยม”

     

    “......................”   ลุกจากเก้าอี้  เพราะรู้สึกอึดอัดเลยหาทางเลี่ยงออกมา ก่อนจะหยิบตะกร้าผลไม้ เลือกเอาส้มกับแอปเปิ้ลออกมา  เดินไปหาเคาท์เตอร์เล็ก ๆ ภายในห้อง ที่มีซิงค์ล้างจานและมีดและจานใบเล็กวางอยู่ ...

     

    ...ถึงอย่างนั้นก็ยังรับรู้ได้ว่าสายตาคมคู่นั้นกำลังจ้องผมอยู่...ยังมองอยู่ถึงแม้ว่าผมไม่เคยที่จะหันกลับไปมองเลยว่าอีกคนรู้สึกยังไง....

     

    “เจ็บมากไหมครับ”

     

    “ เจ็บ”

     

    “...................”  มองคนที่ตอบคำถามผมทันที แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก วางจานผลไม้ไว้ตรงเคาท์เตอร์หัวเตียง  ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้เหมือนเดิม...จ้องตากับคนตอบ...ไม่รู้ว่าตัวเองมองอีกคนด้วยสายตาแบบไหน...

     

    “ แต่ไม่ตายหรอก ทนได้”

     

    “...ขอโทษครับ..”

     

    “ รอบนี้เรื่องอะไร”

     

    “...ไม่รู้.....”  แค่อยากขอโทษ...แววตาคมที่จ้องกลับมายังคงแน่วแน่ และไม่ไหวเอนต่อสิ่งไหน...เหมือนกับบอกเป็นนัยๆ  ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะไม่เปลี่ยนใจ จะไม่สูญเสียความตั้งใจ....

     

    “ ถ้าเรื่องอื่นนอกจากเหตุการณ์เรื่องสถาบัน กูไม่รับ”

     

    “..นี่ครับ..”

     

    “.....................”  เฮียเจบีอ้าปากรับแอปเปิ้ลที่ผมป้อน...ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองคิดอะไรอยู่  แต่กลับรับรู้ความรู้สึกของคนที่นอนบนเตียงผ่านสายตาที่ส่งมา...เลือกที่จะลุกแล้วหยิบจานผลไม้มายืนข้างเตียงคนป่วย  แล้วยื่นชิ้นผลไม้ที่ปอกด้วยตัวเองส่งเข้าปากคนที่นอนอยู่....

     

    “ มึงรู้ใช่ไหมว่าทำอย่างนี้ มันคือการให้ความหวัง”

     

    “ ..ผมไม่ได้ให้ความหวังใครทั้งนั้น...แค่อยากตอบแทนความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้มา...”  มือผมหยุดชะงักเมื่อมือใหญ่เอื้อมมาจับไว้...เฮียเจบีพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แววตาที่ทอดมามันอ่อนโยน แววตาที่ผมเชื่อน้อยคนที่จะมีโอกาสได้เห็น...

     

    “..ไม่จำเป็นหรอก...เพราะมันไม่ได้ทำให้กูรู้สึกดี...ยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่กูได้รับ มันไม่ตรงกับที่กูต้องการ...”

     

    “..แต่ผมจะทำ...ทำจนกว่า เฮียจะเกลียดผม...”

     

    “..กูไม่เคยเห็นคนที่ร้ายอย่างมึงมาก่อนเลยแบมแบม..”  

     

    “........................”  ...ใช่ผมร้าย....ร้ายที่ให้และเป็นอย่างที่คนอื่นต้องการไม่ได้...ผมเลือกที่จะหันหลังให้ความรู้สึกคนอื่นก็ไม่ได้  เลือกที่จะทำร้ายคนที่รอความหวังด้วยการทำตัวเหมือนให้ความหวัง...

     

    “  ให้กูอยู่อย่างนี้แหละ ไม่ต้องมาทำดีด้วย”

     

    “......................”  อีกคนปล่อยมือให้เป็นอิสระ ก่อนจะเอื้อมมือที่จับมือก่อนหน้านี้ขึ้นมาลูบแก้มผม...รอยลูบแผ่วเบา ตาคมก็ยังจ้องมองไม่ได้หลบ...ผมคิดผิดใช่ไหม ที่เคยคิดว่าเข้าหาใครต่อใครด้วยการทำดีด้วยจะได้ผล...ทุกคนจะยินดี และ รู้สึกดีกับผม

     

    “...ถ้าเวลามันผ่านไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกคนเรามันก็เปลี่ยนไป..”

     

    “..มันก็คงใช่...แต่..แค่บางคนเท่านั้นแหละ..”  เสียงทุ้มน่าฟังกับสัมผัสที่แก้ม มันทำให้ผมนิ่ง...นิ่งเงียบ...เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง...ดวงตาที่จ้องมามันดึงดูดให้ผมดำดิ่งสู่ความรู้สึกเจ็บปวดที่อีกคนมี...ทั้งที่เจ้าของดวงตาไม่ได้แสดงอะไรให้ผมได้เห็นเลยซักนิด...

     

    “..แหวนกูยังอยู่ไหม...”

     

    “...ยังอยู่เสมอ....ก็เฮียเป็นคนสวมให้เอง...และผมก็ยังไม่ได้ถอด...”  ยกมือข้างซ้ายโชว์...ตอนนี้นิ้วผมก็ยังว่างเปล่าไม่มีแหวนของใคร แม้แต่แหวนของแกงค์เพการ์...ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครทักท้วงเรื่องนี้...แต่มันก็ยังมีแหวนอีกวงที่อีกคนสวมให้ในวันนั้น

     

    “...มันจะยังอยู่ได้อีกนานไหม...”

     

    “...อยู่ตลอดไป...จนกว่าเฮียจะถอดออกเอง...”

     

    “...แบมแบม...กูรักมึงได้ใช่ไหม....”  น้ำเสียงที่เปร่งออกมาเหมือนเค้นจากความรู้สึกทั้งหมด เสียงทุ้มน่าฟังกำลังสั่น ถึงแม้จะแค่นิดเดียวแต่ผมก็สัมผัสได้ว่าอีกคนกำลังกลัวคำตอบ...กลายเป็นมือผมเองที่เอื้อมไปจับใบหน้าหล่อของคนที่นอนอยู่.... ความคิดผมกำลังแรนดอมหาคำตอบที่คิดว่ามันตรงกับความรู้สึกตอนนี้ที่สุด....

     

    “..เรื่องของหัวใจ...ผมห้ามใครไม่ได้...เฮียเองก็รู้แก่ใจว่าจะรักได้หรือไม่ได้...รักได้แค่ไหน..ถ้ารักตัวเองจะต้องไม่เจ็บปวด..ไม่ทรมาน..แต่ถ้าวันนึงความรักมันทำให้รู้สึกว่ากำลังจะตาย..หายใจไม่ออก...ก็ควรจะปล่อย..”

     

    “...ไม่มีวันนั้นสินะ วันที่กูจะได้ยืนเคียงข้างมึงเหมือนไอ้แจ็คสัน..”

     

    “......................”   เลือกที่จะเงียบ เพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไร...ไม่มีใครคาดเดาอนาคตได้ว่า ต่อไปจะเป็นยังไง เพราะตอนนี้ระหว่างผมกับเฮียแจ็คก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืออะไร...มันแค่ดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะชัดเจน....หรือกำหนดทิศทางที่แน่นอนได้แล้ว...

     

    ...ทุก ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามความรู้สึกและวันเวลา....ผมไม่เคยคาดหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่ต้องการ และทุกอย่างจะต้องเหมือนเดิม...

     

    “...ไม่ต้องห่วงหรอก...เพราะกูไม่เคยคิดไว้ว่าจะรักมึงอีกนานแค่ไหน...แค่รู้ว่าเมื่อวานรัก วันนี้รัก ..ส่วนพรุ่งนี้..กูไม่เคยคิดว่าจะเป็นยังไง...แต่ถ้าให้พูดตอนนี้...กูก็บอกได้ว่า...กูรัก..”

     

    “............................”  

     

    /  ชอบ...กับ..รัก...สำหรับกู...กูแยกมันไม่ออกหรอกว่าแบบไหนคืออะไร...แต่ตราบใดที่กูยังไม่ดีในสายตามึง...กูจะไม่บอกรักมึง /

     

    คำพูดของอีกคนลอยเข้ามาในหัว...ทัศนะคติของทั้งคู่ช่างแตกต่างกัน...แต่เหมือนกันตรงที่กล้าที่จะพูดโดยที่ไม่กลัวว่าผลที่จะตามมาคืออะไร...ถ้าผมตอบรับได้ ตอบรับกับความรู้สึกของทุกคนที่มีให้คงจะดีไม่น้อย จะได้ไม่มีใครเจ็บ...

     

    ...จากคนที่ไม่สนใจใคร..เดินหนีความรู้สึกของใครต่อใคร...กลับกลายเป็นแคร์ความรู้สึกนึกคิดของคนที่เดินเข้ามาหา...แบมแบมนายกลืนน้ำลายตัวเองสินะ..ที่เคยบอกว่าจะไม่สนใจใครนอกจากตัวเอง...

     

    “..ถ้ามึงรักไม่ได้...ก็ปล่อยให้กูรักมึงต่อไปเถอะ...จนกว่าจะเปลี่ยนใจเอง..”

     

    “...ครับ...รักผมต่อไปเถอะ...”

     

    “......................”

     

    “.....................”  ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ...หัวใจผมมันช่างร้ายกาจอย่างที่อีกคนว่า...ชั่วอึดใจที่อีกคนรั้งแขนผมให้โน้มลงไปหา....

     

    ริมฝีปากสัมผัสกันเพียงเพราะผมยอม...ยอมที่จะโน้มตัวลงไปตามแรงดึง...ริมฝีปากนุ่มหยุ่นของหัวหน้าแกงค์ยูนิคกำลังบดเบียดกับริมฝีปากผม มือหนาที่ดึงแขนผมก่อนหน้านี้กำลังกดท้ายทอยผมให้เข้าหามากขึ้น...ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปากผมอย่างง่าย ๆ ก่อนจะไล่วนกับลิ้นผม...ยอมที่จะหลับตาลงซึมซับรสสัมผัสที่อีกคนมอบให้...ด้วยความเต็มใจ...

     

    ติ้ง! ติ้ง!

     

    God Pegar : ลงมาได้แล้ว กูรออยู่

     

    ผมนึกออกแล้วว่าซอยบ้านเฮียเจบีที่ว่าคุ้น ๆ คือ ซอยเดียวกับบ้านเฮียแจ็คสัน...วันนั้นที่เจอกัน เฮียเจบีตั้งใจขับรถตามผมออกมา จากข้อความของเฮียแจ็ค ผมคิดว่าถ้าไม่โทรไปหาย่า ก็คงจะเห็นผมจากตรงไหนซักที่ในซอยบ้านตัวเอง...พ่นลมหายใจออกมาก่อนจะหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อกันหนาวที่ใส่อยู่....

     

    “ ไปเถอะ...ไอ้แจ็คสันมันไม่ชอบรอใครนานๆ ...มันไม่ใจเย็นเหมือนกู...”

     

    ปิดประตูห้องผู้ป่วยวีวีไอพีลง ก่อนจะพิงอยู่หน้าประตูนั่นก่อน....ช่วงที่ผ่านมาแค่ไม่กี่วัน ผมพบเจอกับเรื่องต่างๆ  มากมาย ความรู้สึกหลากหลายจนคิดว่าตัวเองปรับตัวไม่ทัน จนยอมที่จะไหลไปกับกระแสความคิดของคนรอบข้าง...รวมทั้งคิดว่ากำลังเดินเข้าหาวังวนของความรักที่มันเคยผิดแปลกสำหรับผม...เปิดใจยอมรับความใจดีของใครต่อใครทั้งที่รู้ว่าตัวเองอาจจะไม่มีโอกาศได้ตอบกลับความรู้สึกพวกนั้นเลย...

     

    “ กินอะไร “

     

    “ กลับไปกินข้าวกับย่า ” ผมตอบคำถามคนที่ลงทุนขับรถมารับ แล้วบอกให้ลุงจันทร์กลับบ้านไปก่อน...ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้

     

    “ ...อืม.....”

     

    “ ซื้อเข้าไปกินด้วยกันก็ได้  ย่าคงจะดีใจ ”

     

    “ แล้วมึงล่ะ “

     

    “..ก็ยังไงก็ได้..”

     

    เอี๊ยด!

     

    “....................”  หันมองคนที่จู่ ๆ ก็เบรกรถกะทันหัน ถ้าไม่คาดเบลท์หัวผมคงกระแทกคอนโซลหน้ารถแน่ ๆ  คนขับจ้องมองถนนข้างหน้านิ่ง ก่อนจะหันมามองผม...

     

    “ มันต้องไม่ใช่อย่างนั้นสิแบมแบม”

     

    “ อะไร?

     

    “ ในเมื่อมึงบอกว่าไม่ชอบถูกบังคับ เวลากูถามมันต้องมาจากความต้องการของมึง ไม่ใช่อะไรก็ได้!

     

    “..เรื่องแค่นี้เองนะ!..”  ...ทำไมต้องทำท่าทางโกรธขนาดนั้นด้วย...

     

    “.........................”

     

    “..เฮีย! อื้อ.......”   ดันหน้าอกของคนที่จู่ๆ  ก็คว้าไหล่ผมเข้าไปก่อนจะโน้มไปเพื่อกดจูบ...จูบที่รุนแรงต่างจากที่ผมได้รับเมื่อครู่จากอีกคน...แต่สุดท้าย...ก็ยอมอยู่นิ่ง ๆ เพื่อรับจูบ...และยอมที่จะจูบตอบ..เสียงเฮียนัมแทรกเข้ามาทันทีที่ยอมผ่อนคลายและจูบตอบ..เริ่มคุ้นชินกับรสสัมผัสของคน ๆ นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่....ทั้งความคิดและจิตสำนึกของผมกำลังตีรวนกันอย่างรุนแรง...

     

    ...มันก็แค่แสดงออกในแบบของตัวเอง...

     

    ...และผมก็เลือกที่จะปล่อยเรื่องทุกอย่างให้เป็นไปตามความรู้สึกของตัวเองเช่นกัน....

     

    สุดท้ายพวกเราก็ซื้อกับข้าวซึ่งผมเป็นคนเลือกเองคือปลานึ่ง น้ำจิ้มแซ่บๆ  กับต้มจืดปลาหมึกยัดใส้ที่คุณย่าชอบ ส่วนอีกคนที่บอกให้ผมเลือกให้ เลยตัดสินใจเลือก แกงเขียวหวาน ดีที่โทรไปบอกคุณย่าทันเรื่องอาหารค่ำ ไม่งั้นท่านคงจะทานก่อนแน่ ๆ   ส่วนอาหารค่ำที่แม่บ้านทำสำหรับสองที่ก็ถูกแพ็คเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อเอาไว้อุ่นกินตอนเช้า....

     

    “ว่ายังไงพี่แจ็คสัน คุณย่าคิดถึงจังเลย”

     

    “ผมก็คิดถึงคุณย่าครับ”

     

    “พึ่งเจอกันไม่ใช่เหรอครับ”  อดเหน็บสองคนที่โผกอดกันทั้งที่พึ่งจะร่ำลากันเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา...แต่ทั้งคู่ก็แค่มองหน้าผมแล้วหันไปหัวเราะกันสองคน...ผมชักจะหมั่นไส้คนสองบุคลิก ช่างแตกต่างตอนอยู่กับผมแล้วอยู่กับย่า....

     

    อาหารเย็นสิ้นสุดลงในที่สุด ตามด้วยของหวานที่แม่บ้านจัดออกมาเสริฟ นั่งคุยกันอยู่จนเกือบสามทุ่ม คุณย่าเลยขึ้นห้อง เหลือผมกับเฮียแจ็คที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ดูฟุตบอลแบบต่างคนต่างดู

     

    “................”  แต่ก็ต้องหันมองมือตัวเองทันทีที่ถูกอีกคนกุมไว้...ไม่ดึงออกและไม่ขยับหนี...ยังคงนั่งดูบอลกันต่อนั่งดูทั้งที่ไม่เคยติดกีฬาประเภทนี้...

     

    “ เจบีเป็นยังไง”

     

    “ก็ ดูเหมือนว่าขาจะหัก แขนหัก”

     

    “ แบมแบม “

     

    “.....................”

     

    “...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...คนที่มึงจะรักได้...คือกูคนเดียวเท่านั้น..”

     

    “.....................” 

     

    “..กูไม่ได้บังคับ...แค่มั่นใจ..ว่าจะทำให้มึงรักได้..และจะต้องกูแค่คนเดียว..” 

     

    “.........................”  มองคนที่ยกข้อศอกขึ้นเท้าโซฟา พร้อมกับมือผมที่ถูกยกขึ้นไป ก่อนจะจรดริมฝีปากลงที่ปลายนิ้วมือผมทีละนิ้วอย่างช้า ๆ ....รอยจูบแผ่วเบาทั้งห้านิ้ว....เบนสายตาตามองตามมืออีกข้างของเฮียแจ็คสันที่ล้วงกระเป๋าเสื้อเชิ๊ตตัวเอง...

     

    “ ...แหวน ไม่มีทางใส่สองวงพร้อมกันได้...ในเมื่อมึงไม่ใส่แหวนแกงค์...งั้นก็ใส่แหวนวงนี้...”

     

    “..เฮีย...”  แหวนทองคำขาววงเกลี้ยง ไม่มีรอยสลักอะไรเลย สัมผัสถึงความเย็นของเนื้อแหวนที่กำลังถูกสวมลงที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างแผ่วเบา  เมื่อแหวนชนโคนนิ้ว  มือผมก็ถูกยกขึ้น พร้อมริมฝีปากของคนที่สวมให้กำลังจรดทาบทับที่ตัวแหวนและนิ้วผม...

     

    ...รู้สึกอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก..ได้แต่มองการกระทำที่แสนจะอ่อนโยนจากอีกคน มันสวนทางกับคำพูดห้วน ๆ อย่างสิ้นเชิง...

     

    ...แหวนไม่มีทางสวมสองวงพร้อมกันได้...ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผมว่าจะเลือกวงไหน...วงที่ใช้ความรู้สึกสัมผัส...หรือวงที่ชัดเจน เห็นด้วยตาเปล่า....และสัมผัสได้...

     

    Talk :  สกรีมฟิค #Ficbloodsch   Twitter :  Namtal1a




    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×