ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ลำดับตอนที่ 11
เจ้าหญิงองค์หนึ่งกำลังจะเลือกคู่ และเธอตัดสินใจเลือกที่ความยาว ชายคนแรกที่มาสมัครแสดงขนาดอันมหัศจรรย์ของตัวเองให้เจ้าหญิงดู มันยาวถึง 8 นิ้ว เจ้าหญิงรู้สึกทึ่ง แต่ก็ยังคิดว่าน่าจะมีที่น่าสนใจกว่านี้ คนถัดมายาวถึง 10 นิ้ว เจ้าหญิงรู้สึกมั่นใจขึ้นว่าความคิดของเธอถูก... ไอ้ที่ยาวกว่านี้น่าจะมีอีก คนถัดมานี่สิ ยาวถึง 1 ฟุต เจ้าหญิงค่อนข้างมั่นใจว่าขนาดนี้แหละไม่น่ามีใครเทียบได้
แต่เพื่อความมั่นใจเธอจึงให้เขาแสตนด์บายไว้ก่อน แล้วเรียกคนถัดไปเข้ามา คนถัดมาถอดกางเกงออก เจ้าหญิงหัวเราะอย่างสมเพชเขา เพราะมันยาวแค่หนึ่งนิ้ว ชายหนุ่มจึงดีดนิ้วหนึ่งครั้ง มันยาวขึ้นทันทีหนึ่งนิ้ว เขาดีดต่อเนื่องอีกหลายครั้ง และทุกครั้งมันยาวขึ้นครั้งละหนึ่งนิ้ว จนกระทั่งมันยาวเกือบสองฟุต เจ้าหญิงอึ้ง เธอกลืนน้ำลาย ถามชายหนุ่มว่าถ้าจะให้มันสั้นลงจะต้องทำยังไง ชายหนุ่มยิ้ม เขาตบมือหลายครั้ง ทุกๆครั้งมันจะสั้นลงหนึ่งนิ้ว เขาตบจนขนาดมันเหลือแค่หนึ่งนิ้วแล้วจึงหยุด เจ้าหญิงพอใจมาก เธอไม่ลังเลที่จะเลือกชายหนุ่มคนนี้ทันที คืนอภิเษกมาถึง ผู้คนทั้งเมืองมาร่วมแสดงความยินดีด้วย และเมื่อเจ้าหญิงและว่าที่สวามีมาปรากฏกาย
ฝูงชนโห่ร้องด้วยความยินดี แต่ทั้งเจ้าหญิงและสวามีกลับหน้าซีด เพราะชาวเมืองตบมือกันสนั่นเมืองเลยแหละ!!!
มีผู้หญิงที่เป็นฮีสทีเรียอยู่คนหนึ่งกำลังขับรถจะออกไปต่างจังหวัด รถดันเสียระหว่างทาง และในบริเวณที่รถเสียก็ดัน
เป็นทะเลทรายซึ่งดูแล้วก็มีบ้านคนอยู่แค่หลังเดียวแถวนั้น ผู้หญิงจึงเดินไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อขอร้องให้เจ้าของบ้านช่วย เจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ชายมีอายุ อาศัยอยู่กับ ลูกชายสามคนก็ได้ช่วยซ่อมรถให้ และก็ได้บอกกับผู้หญิงว่าต้องนอนค้างที่บ้านของเขาเพราะรถนั้นจะเสร็จก็พรุ่งนี้ เจ้าของบ้านให้ผู้หญิงนอนห้องตรงข้ามกับห้องลูกชาย และบอกกับผู้หญิงว่า ห้ามเข้าไปทำอะไรลูกชาย เพราะลูกชายทั้งสามคนของเขานั้นเอ๋อ..(ไม่เต็มบาท) ตกดึกผู้หญิงเกิดอาการขึ้นมา จึงเดินไปเข้าห้องลูกชายคนแรก และก่อนที่จะมีอะไรกัน ผู้หญิงก็บอกกับผู้ ชายว่า "ต้องใส่ถุงยางนะ ถ้าไม่ใส่ฉันจะท้อง" คนแรกจึงทำตาม ต่อมาก็เข้าห้องคนที่สองและสาม และก็บอกเหมือนกันทั้งสามคน หลังจากวันนั้น 20 ปี ผ่านไป ชายสามคนเริ่มมีอายุมากขึ้น ทุกคนก็นั่งกันอยู่หน้าบ้าน คนแรกนึกขึ้นมาได้จึงเอ่ยขึ้นว่า "เฮ้..จำผู้หญิงที่ เคยมาพักที่บ้านเราเมื่อ 20 ปี ที่แล้วได้ไหม?" คนที่สองตอบ "อ้อ..จำใด้" และคนแรก จึงถามอีกว่า "นายคิดว่าป่านนี้เขาจะท้องไหม?" คนที่สามจึงตอบว่า "คงไม่ท้องแล้วมั้ง" คนแรกตอบ " ถ้างั้นเราก็น่าจะถอดถุงยางออกได้แล้วมั้ง ! " -_-''
มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันที่นักเรียนเบื่อมากเพราะนักเรียนมาเรียนกันน้อย... พอดีชั่วโมงนั้นเป็นวิชาแนะแนว ครูเลยถามนักเรียนว่า "ใครคิดว่าตัวเองโง่ ให้ยืนขึ้น" ครูก็ลองถามไปหยั่งงั้น เพราะรู้ว่าจะต้องไม่มีใครลุกอยู่แล้ว มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งยืนขึ้น ครูแปลกใจมากจึงถามว่า "เธอคิดว่าตัวเองโง่เหรอ" ครูถาม "เปล่าครับ" นักเรียนบอก แล้วพูดว่า
"ผมสงสารครูครับ ผมยืนเป็นเพื่อนครูเฉยๆ"...
เด็กชายป๋องได้การบ้านมาครูสั่งให้หาความหมายคำว่า จู๋จี๋ เขาจึงไปถามแม่ แม่ไม่ยอมบอกแต่กลับบอกให้เขาไปหลบอยู่หลังม่านห้องรับแขก เพื่อดูพี่เขาจู๋จี๋กับแฟนเอาเอง( เขาเรียกพี่เขาว่าเจ๊) เขาจดไปส่งครูว่า เขาแอบอยู่ในม่านห้องรับแขกเห็นเจ๊และเพื่อนชายนั่งคุยกันอยู่สักครู่หนึ่ง เพื่อนชายของเจ๊ก็เดินไปปิดไฟในห้องรับแขก แต่พอมีแสงอยู่เล็กน้อยผมเห็น เพื่อนเจ๊เอามือล้วงเข้าไปในเสื้อของเจ๊เหมือนหมอตรวจหัวใจ แต่ผมว่าเพื่อนชายของเจ๊คงไม่เก่งเท่าเพราะผมเห็นเค้าคลำมั่วไปหมด พอคลำได้สักครู่ทั้งคู่ก็มีเสียงหอบเหมือนคนทำงานหนัก แล้วผมก็เหลือบไปเห็นปลาออกมาจากกางเกงของเพื่อนเจ๊เจ๊ตกใจมาก บอกว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผมเห็นตัวมันโผล่ออกมาประมาณ 3 นิ้วได้ แต่ผมว่าในบ่อหลังบ้านของผมยังตัวใหญ่กว่านี้อีก ปลาไหลตัวนั้นเข้าไปในปากของเจ๊ แล้วเข้าๆ ออกๆ อยู่หลายที่ สักครู่เพื่อนชายของเจ๊ก็สวมปลอกให้เจ้าปลาไหลตัวนั้น แล้วก็นอนทับกับเจ๊ๆ ร้องครางเบาๆ ผมเดาเอาเองว่าเพื่อนชายของเจ๊และเจ๊คงช่วยกันอัดกอปปี๊ ให้เจ้าปลาไหลตัวนั้นตาย สักครู่ผมเห็นเจ้าปลาไหลออกมาคืนแต่มันคงหมดแรง เพราะมันนอนราบแน่นิ่งที่เดียว แต่สักครู่มันก็ชูขึ้นมาใหม่แล้วเจ๊และเพื่อนก็อัดก๊อปปี๊มันอีก สุดท้ายผมทายว่าเจ้าปลาไหลคงจะตายแล้วเพาระผมเห็นเพื่อนเจ๊ลอกคราบมันแล้วทิ้งลงในโถส้วม
ผมเคยไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมสังเกตเห็นว่าบริกรที่มารับออร์เดอร์มีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อ พอผมมองไปทั่วๆจึงเห็นว่าบริกรในร้านมีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อกันทุกคน ด้วยความสงสัยผมจึงถามเขาดู "ขอถามหน่อยเถอะมีไว้ทำไมเนี่ยเห็นมีกันทุกคนเลย" "ช้อนนี่หรือครับ" "เจ้าของร้านเขาจ้างบริษัทที่ปรึกษามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานน่ะครับ เขาเก็บข้อมูลอยู่หลายเดือนแล้วก็บอกว่า ลูกค้าจะทำช้อนตกมากว่าอย่างอื่นถึง ๗๓.๘๔% ซึ่งตกประมาณ ๓ ครั้งต่อโต๊ะต่อชั่วโมง ซึ่งถ้าพนักงานเราเตรียมการไว้ก่อนก็จะสามารถลดจำนวนครั้งที่จะต้องเดินกลับไปที่ครัว และก็สามารถลดพนักงานที่ใช้ลงได้ ๑ คนต่อกะ" พอเขาพูดเสร็จผมก็ได้ยินเสียงช้อนหล่นอยู่หลังผม บริกรที่คุยอยู่กับผมก็หยิบช้อนในกระเป๋าเสื้อส่งให้ใหม่แล้วบอกว่า "ผมจะหยิบอันใหม่เมื่อผมผมกลับไปที่ครัวแทนที่จะรีบเข้าไปหยิบในครัวเดี๋ยวนี้"
ผมรู้สึกประทับใจมาก และเมื่อผมมองดูรอบๆอีกครั้งผมก็สังเกตเห็นด้ายเส้นเล็กๆห้อยออกมาจากช่องซิปกางเกงของ บริกรทุกคน ด้วยความสงสัยผมจึงถามบริกรคนเดิมอีกครั้ง "รบกวนอีกทีเถอะ ทำไมถึงต้องมีด้ายห้อยออกมาจากตรงนั้นด้วย"
"โอ้โฮเฮะ" เขาดูตื่นเต้นมาก "ผมไม่เคยเจอใครช่างสังเกตอย่างคุณเลยนะครับ จริงๆแล้วไอ้นี่ก็เป็นผลงานของบริษัทที่ปรึกษาเจ้าเดิมนั่นแหละ เขาบอกว่ามันทำให้เราสามารถประหยัดเวลาที่ใช้ตอนเข้าห้องน้ำได้" "ประหยัดได้ไง" ผมสงสัย "ก็..." เขาอธิบาย "เราผูกด้ายนี่เข้ากับปลายไอ้นั่น คุณคงเข้าใจนะครับ แล้วพอจะฉี่เราก็แค่ดึงด้วยนี่ออกมามือก็ไม่เลอะ มันก็ประหยัดเวลาที่ต้องล้างมือไปได้ เขาว่ามันทำให้ประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในห้องน้ำลงไปตั้ง ๗๖.๓๙% แน่ะ" "อืม... ร้ายจริงๆ" ผมรู้สึกทึ่ง "ว่าแต่ว่าไอ้ด้ายนั่นช่วยตอนเอาออกมา แล้วตอนเก็บเข้าไปล่ะจะทำไง?" "เอ่อ..." เขากระซิบ "ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำกันยังไง แต่ผมน่ะ...ใช้ช้อน"
วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ฉุดหญิงสาวไปข่มขืนในกระท่อมร้าง โดยสัญญากันว่า คนละที และทีละคน ให้คนอื่นรออยู่ด้านหน้ากระท่อม ขณะนั้นตำรวจสายตรวจ ผ่านมาเห็นเหตุการณ์วัยรุ่นมีพิรุธ จึงเข้าไปจับวัยรุ่นหน้ากระท่อมได้ทั้งหมด
ขณะเดินเข้าไปจับวัยรุ่นที่กำลังข่มขืนอยู่ โดยสะกิดข้างหลัง
ตำรวจ : (สะกิด) พอแล้วๆ
วัยรุ่น : ไอ้ห่า กูยังไม่เสร็จ (ตอบโดยไม่หันมาดู)
ผู้หญิง : (ลืมตามาดูเห็นตำรวจพอดี) ตามคิวค่ะ คุณตำรวจ
แต่เพื่อความมั่นใจเธอจึงให้เขาแสตนด์บายไว้ก่อน แล้วเรียกคนถัดไปเข้ามา คนถัดมาถอดกางเกงออก เจ้าหญิงหัวเราะอย่างสมเพชเขา เพราะมันยาวแค่หนึ่งนิ้ว ชายหนุ่มจึงดีดนิ้วหนึ่งครั้ง มันยาวขึ้นทันทีหนึ่งนิ้ว เขาดีดต่อเนื่องอีกหลายครั้ง และทุกครั้งมันยาวขึ้นครั้งละหนึ่งนิ้ว จนกระทั่งมันยาวเกือบสองฟุต เจ้าหญิงอึ้ง เธอกลืนน้ำลาย ถามชายหนุ่มว่าถ้าจะให้มันสั้นลงจะต้องทำยังไง ชายหนุ่มยิ้ม เขาตบมือหลายครั้ง ทุกๆครั้งมันจะสั้นลงหนึ่งนิ้ว เขาตบจนขนาดมันเหลือแค่หนึ่งนิ้วแล้วจึงหยุด เจ้าหญิงพอใจมาก เธอไม่ลังเลที่จะเลือกชายหนุ่มคนนี้ทันที คืนอภิเษกมาถึง ผู้คนทั้งเมืองมาร่วมแสดงความยินดีด้วย และเมื่อเจ้าหญิงและว่าที่สวามีมาปรากฏกาย
ฝูงชนโห่ร้องด้วยความยินดี แต่ทั้งเจ้าหญิงและสวามีกลับหน้าซีด เพราะชาวเมืองตบมือกันสนั่นเมืองเลยแหละ!!!
มีผู้หญิงที่เป็นฮีสทีเรียอยู่คนหนึ่งกำลังขับรถจะออกไปต่างจังหวัด รถดันเสียระหว่างทาง และในบริเวณที่รถเสียก็ดัน
เป็นทะเลทรายซึ่งดูแล้วก็มีบ้านคนอยู่แค่หลังเดียวแถวนั้น ผู้หญิงจึงเดินไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อขอร้องให้เจ้าของบ้านช่วย เจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ชายมีอายุ อาศัยอยู่กับ ลูกชายสามคนก็ได้ช่วยซ่อมรถให้ และก็ได้บอกกับผู้หญิงว่าต้องนอนค้างที่บ้านของเขาเพราะรถนั้นจะเสร็จก็พรุ่งนี้ เจ้าของบ้านให้ผู้หญิงนอนห้องตรงข้ามกับห้องลูกชาย และบอกกับผู้หญิงว่า ห้ามเข้าไปทำอะไรลูกชาย เพราะลูกชายทั้งสามคนของเขานั้นเอ๋อ..(ไม่เต็มบาท) ตกดึกผู้หญิงเกิดอาการขึ้นมา จึงเดินไปเข้าห้องลูกชายคนแรก และก่อนที่จะมีอะไรกัน ผู้หญิงก็บอกกับผู้ ชายว่า "ต้องใส่ถุงยางนะ ถ้าไม่ใส่ฉันจะท้อง" คนแรกจึงทำตาม ต่อมาก็เข้าห้องคนที่สองและสาม และก็บอกเหมือนกันทั้งสามคน หลังจากวันนั้น 20 ปี ผ่านไป ชายสามคนเริ่มมีอายุมากขึ้น ทุกคนก็นั่งกันอยู่หน้าบ้าน คนแรกนึกขึ้นมาได้จึงเอ่ยขึ้นว่า "เฮ้..จำผู้หญิงที่ เคยมาพักที่บ้านเราเมื่อ 20 ปี ที่แล้วได้ไหม?" คนที่สองตอบ "อ้อ..จำใด้" และคนแรก จึงถามอีกว่า "นายคิดว่าป่านนี้เขาจะท้องไหม?" คนที่สามจึงตอบว่า "คงไม่ท้องแล้วมั้ง" คนแรกตอบ " ถ้างั้นเราก็น่าจะถอดถุงยางออกได้แล้วมั้ง ! " -_-''
มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันที่นักเรียนเบื่อมากเพราะนักเรียนมาเรียนกันน้อย... พอดีชั่วโมงนั้นเป็นวิชาแนะแนว ครูเลยถามนักเรียนว่า "ใครคิดว่าตัวเองโง่ ให้ยืนขึ้น" ครูก็ลองถามไปหยั่งงั้น เพราะรู้ว่าจะต้องไม่มีใครลุกอยู่แล้ว มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งยืนขึ้น ครูแปลกใจมากจึงถามว่า "เธอคิดว่าตัวเองโง่เหรอ" ครูถาม "เปล่าครับ" นักเรียนบอก แล้วพูดว่า
"ผมสงสารครูครับ ผมยืนเป็นเพื่อนครูเฉยๆ"...
เด็กชายป๋องได้การบ้านมาครูสั่งให้หาความหมายคำว่า จู๋จี๋ เขาจึงไปถามแม่ แม่ไม่ยอมบอกแต่กลับบอกให้เขาไปหลบอยู่หลังม่านห้องรับแขก เพื่อดูพี่เขาจู๋จี๋กับแฟนเอาเอง( เขาเรียกพี่เขาว่าเจ๊) เขาจดไปส่งครูว่า เขาแอบอยู่ในม่านห้องรับแขกเห็นเจ๊และเพื่อนชายนั่งคุยกันอยู่สักครู่หนึ่ง เพื่อนชายของเจ๊ก็เดินไปปิดไฟในห้องรับแขก แต่พอมีแสงอยู่เล็กน้อยผมเห็น เพื่อนเจ๊เอามือล้วงเข้าไปในเสื้อของเจ๊เหมือนหมอตรวจหัวใจ แต่ผมว่าเพื่อนชายของเจ๊คงไม่เก่งเท่าเพราะผมเห็นเค้าคลำมั่วไปหมด พอคลำได้สักครู่ทั้งคู่ก็มีเสียงหอบเหมือนคนทำงานหนัก แล้วผมก็เหลือบไปเห็นปลาออกมาจากกางเกงของเพื่อนเจ๊เจ๊ตกใจมาก บอกว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผมเห็นตัวมันโผล่ออกมาประมาณ 3 นิ้วได้ แต่ผมว่าในบ่อหลังบ้านของผมยังตัวใหญ่กว่านี้อีก ปลาไหลตัวนั้นเข้าไปในปากของเจ๊ แล้วเข้าๆ ออกๆ อยู่หลายที่ สักครู่เพื่อนชายของเจ๊ก็สวมปลอกให้เจ้าปลาไหลตัวนั้น แล้วก็นอนทับกับเจ๊ๆ ร้องครางเบาๆ ผมเดาเอาเองว่าเพื่อนชายของเจ๊และเจ๊คงช่วยกันอัดกอปปี๊ ให้เจ้าปลาไหลตัวนั้นตาย สักครู่ผมเห็นเจ้าปลาไหลออกมาคืนแต่มันคงหมดแรง เพราะมันนอนราบแน่นิ่งที่เดียว แต่สักครู่มันก็ชูขึ้นมาใหม่แล้วเจ๊และเพื่อนก็อัดก๊อปปี๊มันอีก สุดท้ายผมทายว่าเจ้าปลาไหลคงจะตายแล้วเพาระผมเห็นเพื่อนเจ๊ลอกคราบมันแล้วทิ้งลงในโถส้วม
ผมเคยไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมสังเกตเห็นว่าบริกรที่มารับออร์เดอร์มีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อ พอผมมองไปทั่วๆจึงเห็นว่าบริกรในร้านมีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อกันทุกคน ด้วยความสงสัยผมจึงถามเขาดู "ขอถามหน่อยเถอะมีไว้ทำไมเนี่ยเห็นมีกันทุกคนเลย" "ช้อนนี่หรือครับ" "เจ้าของร้านเขาจ้างบริษัทที่ปรึกษามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานน่ะครับ เขาเก็บข้อมูลอยู่หลายเดือนแล้วก็บอกว่า ลูกค้าจะทำช้อนตกมากว่าอย่างอื่นถึง ๗๓.๘๔% ซึ่งตกประมาณ ๓ ครั้งต่อโต๊ะต่อชั่วโมง ซึ่งถ้าพนักงานเราเตรียมการไว้ก่อนก็จะสามารถลดจำนวนครั้งที่จะต้องเดินกลับไปที่ครัว และก็สามารถลดพนักงานที่ใช้ลงได้ ๑ คนต่อกะ" พอเขาพูดเสร็จผมก็ได้ยินเสียงช้อนหล่นอยู่หลังผม บริกรที่คุยอยู่กับผมก็หยิบช้อนในกระเป๋าเสื้อส่งให้ใหม่แล้วบอกว่า "ผมจะหยิบอันใหม่เมื่อผมผมกลับไปที่ครัวแทนที่จะรีบเข้าไปหยิบในครัวเดี๋ยวนี้"
ผมรู้สึกประทับใจมาก และเมื่อผมมองดูรอบๆอีกครั้งผมก็สังเกตเห็นด้ายเส้นเล็กๆห้อยออกมาจากช่องซิปกางเกงของ บริกรทุกคน ด้วยความสงสัยผมจึงถามบริกรคนเดิมอีกครั้ง "รบกวนอีกทีเถอะ ทำไมถึงต้องมีด้ายห้อยออกมาจากตรงนั้นด้วย"
"โอ้โฮเฮะ" เขาดูตื่นเต้นมาก "ผมไม่เคยเจอใครช่างสังเกตอย่างคุณเลยนะครับ จริงๆแล้วไอ้นี่ก็เป็นผลงานของบริษัทที่ปรึกษาเจ้าเดิมนั่นแหละ เขาบอกว่ามันทำให้เราสามารถประหยัดเวลาที่ใช้ตอนเข้าห้องน้ำได้" "ประหยัดได้ไง" ผมสงสัย "ก็..." เขาอธิบาย "เราผูกด้ายนี่เข้ากับปลายไอ้นั่น คุณคงเข้าใจนะครับ แล้วพอจะฉี่เราก็แค่ดึงด้วยนี่ออกมามือก็ไม่เลอะ มันก็ประหยัดเวลาที่ต้องล้างมือไปได้ เขาว่ามันทำให้ประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในห้องน้ำลงไปตั้ง ๗๖.๓๙% แน่ะ" "อืม... ร้ายจริงๆ" ผมรู้สึกทึ่ง "ว่าแต่ว่าไอ้ด้ายนั่นช่วยตอนเอาออกมา แล้วตอนเก็บเข้าไปล่ะจะทำไง?" "เอ่อ..." เขากระซิบ "ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำกันยังไง แต่ผมน่ะ...ใช้ช้อน"
วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ฉุดหญิงสาวไปข่มขืนในกระท่อมร้าง โดยสัญญากันว่า คนละที และทีละคน ให้คนอื่นรออยู่ด้านหน้ากระท่อม ขณะนั้นตำรวจสายตรวจ ผ่านมาเห็นเหตุการณ์วัยรุ่นมีพิรุธ จึงเข้าไปจับวัยรุ่นหน้ากระท่อมได้ทั้งหมด
ขณะเดินเข้าไปจับวัยรุ่นที่กำลังข่มขืนอยู่ โดยสะกิดข้างหลัง
ตำรวจ : (สะกิด) พอแล้วๆ
วัยรุ่น : ไอ้ห่า กูยังไม่เสร็จ (ตอบโดยไม่หันมาดู)
ผู้หญิง : (ลืมตามาดูเห็นตำรวจพอดี) ตามคิวค่ะ คุณตำรวจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น