ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ยังงั้นหรือ!?
นิมิตแผ่นดินไหวชิคาโกโดย Chuck Youngbrandt
ใน ปี 1973 พระเจ้าได้ให้นิมิตแก่ข้าพเจ้าเกี่ยวกับแผ่นดินไหวใหญ่โจมตีแถบตะวันตกกลาง ของอเมริกา
มีศูนย์กลางที่ชิคาโก อิลลินอยส์ ที่จะเกิดขึ้นในวันหนึ่งในเดือนกรกฎาคมในอนาคต แผ่นดินไหวทำลายล้างนี้จะนำมาสู่การโจมตีอเมริกาด้วยนิวเคลียร์จากรัสเซีย จีน และญี่ปุ่นเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 3 นิมิตนี้
ข้าพเจ้าเห็นเครื่องบินเจ็ตใหญ่มากลำหนึ่งที่บินอยู่ในเส้นทางบิน ได้ลงที่สนามบิน โอแฮร์ ทางตอนเหนือของชิคาโก
(หลังจากแผ่นดินไหว) และเมื่อทะเลสาปมิชิแกนคำรามพ่นน้ำออกมากวาดเมืองมันจะเป็นกำแพงน้ำสูงกว่า 100 ฟุต
และเครื่องบินเจ็ตลำใหญ่ก็ติดเครื่องเต็มกำลังอีกครั้ง จนมีควันไหม้พุ่งออกมาจากเครื่องยนต์เพราะนักบินได้ตื่นกลัวอย่างเสียสติที่ จะนำเครื่องขึ้นหนีกำแพงน้ำที่จะมาทำลายชิคาโก ข้าพเจ้างุนงงมาก ในตอนนั้น
(วันที่ 2 กรกฎาคม) เนื่องจากเครื่องบินที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นใหญ่มากเท่าตึกสองชั้น ไม่เหมือนที่ข้าพเจ้าเคยเห็นมากก่อน
(ในปี 1973 เครืองบินจัมโบ้เจ๊ตยังไม่มี เพราะกำลังออกแบบสร้างอยู่) ในขณะ ที่เครื่องบินจับโบ้เจ็ต (747-400)
ที่มีห้องสองชั้นด้านหน้าของเครื่องบินดู “คล้าย” กับที่ข้าพเจ้าเคยเห็นในปี 1973 ที่เป็นรุ่นใหม่ A3XX อย่างที่เคยเห็นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2000 (ออกข่าวเช้าของดัลลัส ในวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน เครืองแอร์บัส 2F เป็นเครื่องบินเจ็ทยักษ์ไอพ่นสีเขียวอ่อน)
“คือ” สูง 2 ชั้นและดูคล้ายกับที่ข้าพแห็นในนิมิตปี 1973 มาก ข้าพเจ้าได้ตามสัง เกตุดูในขณะที่พวกเขายังเพิ่งเริ่มต้นพัฒนา เพราะการติดตามพัฒนาการนี้เป็นหนทางเดียวที่จะบอกเราว่าเรากำลังเข้าสู่ “ช่วงเวลานั้น” เมื่อเครื่องบินแบบนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว จากข่าวนี้ที่มีหัวข้อว่า AEXX เครื่องบินเจ็ตซุปเปอร์จัมโบ้พร้อมที่จะนำมาใช้บินในปี 2005
นิมิตแผ่นดินไหวนี้ได้มาถึงข้าพเจ้า ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 5 กรกฎาคม 1973 ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เห็นสิ่งนี้หรือเพราะอะไรจึงได้เห็นนิมิตนี้ ข้าพเจ้าได้เขียนโน้ต และทำเป็นไฟล์ไว้ และพยายามจะลืมมันเสียแต่ก็ไม่สำเร็จ สิ่งแรกคือ ข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวที่ชิคาโก และเห็นบริเวณทั่วทั้งแถบตะวันตกกลางและตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา
และเห็นซากปรักหักพังมีไฟคุกรุ่นจากการโดนระเบิดนิวเคลียร์ และเมื่อมองไปที่แถบตะวันตกกลาง ก็ได้เห็นชิ้นก้อน โคลนแห้ง ของซากหักพังทุกที่ อย่างไรก็ตาม เมืองเล็ก ๆ จำนวนมากในเมืองใหญ่ก็ยังไม่ถูกทำลาย
ข้าพเจ้าเห็นผู้คนบาดเจ็บจำนวนมากถูกนำเข้าโรงพยาบาล ความสับสนและความกลัวเข้ามากลืนกินแผ่นดินนี้
และทันใดนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นกองกำลังรัสเซียเคลื่อนผ่านยุโรปตะวันตกอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้ามายังอเมริกา ยุโรปตะวันตกต้องยอมให้ผ่านเพราะกลัว
เนื่องจากพระวิญญาณพระเจ้าได้ตรึงเขาไว้ทำให้พวกเขาอยู่ในความกลัวต่อการนี้ ข้าพเจ้าไม่เห็นอะไรอีกนอกจากเครื่องบินบรรทุกลำใหญ่ของอเมริกาได้ตกลงที่
อ่าวแห่งหนึ่งในชายฝั่งตะวันออกจมโคลนลงไปครึ่งลำ และทันใดนั้นก็เห็นการบุกรุกเข้ามาที่อ่าวเดลาแวร์
และตลอดชายฝั่งของเวอร์จิเนีย
เริ่มต้นนิมิต มันเป็นวันที่บรรยากาศสดใสอบอุ่น ช่วงสายเวลาประมาณ 10:30 ข้าพเจ้ากำลังนั่งอ่านพระคัมภีร์ที่เฉลียงในช่วงพักดื่มกาแฟ ข้าพเจ้ารู้สึกไม่สบายตัวตลอดช่วงเช้า
มีอาการกระวนกระวายโดยไม่มีเหตุผล ความตึงเครียดทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกกระวนกระวายที่อยากจะพกสงบในพระวจนะพระ เจ้าเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยข้าพเจ้าได้
ขณะที่อ่านอยู่นั้นชั่วครู่ก็มีบางสิ่งแปลก ๆ เกิดขึ้น แสงอาทิตย์ก็สว่างไปทั่วห้องอย่างฉับพลันดูเหมือนจะสว่างกว่าปกติ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้สังเกตุอะไรและอ่านพระคัมภีร์ต่อไป
และก็ได้ชำเลืองดูไปข้างนอกอีกครั้งและเห็นสิ่งแปลกประหลาดบางสิ่ง แม้ว่าข้าพเจ้าจะเห็นปุยเมฆอย่างชัดเจนในท้องฟ้า แต่ในเวลาเดียวกันก็เห็นท้องฟ้าใสปราศจากเมฆที่ดูสว่างกว่าแสงอาทิตย์เสีย อีก และทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงแหลมดังมาก เป็นเสียงแตก ๆ ที่น่ากลัว
และรู้สึกว่าพื้นดินเคลื่อนไหวข้างใต้ข้าพเจ้า ตึกต่าง ๆ รอบก็เอนไหวโยกไปมาและกำแพงตึกก็ปริแตกออกมาบางส่วน และข้าพเจ้าได้ยินดังลั่นจากข้างล่าง มันคือแผ่นดินไหว ข้าพเจ้า มองไปรอบ ๆ อย่างประหลาดใจ โคมไฟห้อยบนกำแพงก็หลุดตกมาที่พื้น
ในขณะที่กำแพงแกว่งเองไปมา หน้าต่างของตึกสูง 2 ชั้นก็แตกระเบิดมีเศษกระจกเป็นพันชิ้นหลุดออกมาในขณะที่กรอบหน้าต่างบิด เบี้ยวไป ต้นเสาหลักภายนอกรอบ ๆ ประตูก็หักลงในทันที
กำแพงแตกพังลงเสียงดังอย่างมาก เป็นเสียงแตกปะทุ ชิ้นส่วนเพดานสูงประมาณ 4 ฟุตจากพื้นก็ถล่มมาที่เก้าอี้ ทุกสิ่งแกว่งไปมาอย่างรุนแรงจนข้าพเจ้าเดินไปไหนไม่ได้
ข้าพเจ้าได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งร้องกรี๊ด ข้าพเจ้าประหลาดใจที่อาคารยังทรงตัวอยู่ได้ในขณะที่พื้นดินเคลื่อนที่อย่าง รวดเร็วและรุนแรง และทันใดนั้นมันก็หยุด
ข้าพเจ้าสั่นหัวด้วยความเชื่อเมื่อมองดูไปรอบ ๆ เห็นเศษซากหักพังและมีฝุ่นควันปกคลุมวันอันสดใสไป ต่อมาข้าพเจ้ามองเห็นเพียงเฉลียงที่นั่งอยู่ก่อนนั้นไม่เป็นอะไรเลยเหมือน ไม่มีแผ่นดินเกิดขึ้น รู้สึกงงงวยและพยายามลืมมันเหมือนเป็นแค่จินตนาการ
เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้กับสิ่งที่พบเจอนี้ ข้าพเจ้าก็กลับไปทำงานต่อ ประสบการณ์
ก็เป็นเหมือนหลาย ๆ เรื่องที่ถูกเปิดเผยจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในวันแรกและหลายวันต่อมา ในหลาย ๆ พื้นที่ หลาย ๆ เวลา
พระเจ้าได้เปิดเผยต่อข้าพเจ้าอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับแผ่นดินที่จะเกิดครั้ง แล้วครั้งเล่า
แต่ละครั้งที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสไม่มีเมฆ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงแตกแหลมน่ากลัว ร้ายกาจอย่างมาก และที่เกิดมานั้นก็เช่นกัน มันเกิดการเคลื่อนของแผ่นดินอย่างรวดเร็วและทันทีทันใด
ในเวลานั้นข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเกิดอะไร ไม่เข้าใจอย่างมาก คิดว่าไม่ได้เห็นและได้ยินแต่แผ่นดินไหวอย่างเดียวแต่ก็รู้สึกรับรู้ว่าคน อื่น ๆ คิดว่ามันคืออะไรด้วยในเวลานั้น ข้าพเจ้ายังได้กลิ่นแปลก ๆ ในอากาศ
ขณะที่วันผ่านไปและความลับก็ถูกเปิดเผยขึ้น ข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึกช๊อคและกลัวขึ้นเมื่อทุกสิ่งถูกเปิดเผยออกมาตลอดช่วง เวลานั้น และจะบอกพวกเขาและท่านในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์บอกข้าพเจ้า ในเวลาอาหารเที่ยงในวันเดียวกันนั้น
ทุก ๆ คนก็กำลังรับประทานอาหารในขณะที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ที่โต๊ะ โต๊ะอยู่ถัดจากหน้าต่างที่หันหน้าไปทิศตะวันออก มองไปทิศใต้จะเห็นทะเลสาปเล็ก ๆ เรียกว่าทะลสาป โอฮาร่า ผ่านตึกคู่กันที่สร้างอยู่รอบ ๆ หน้าทะเลสาป ไปทางทิศตะวันออกเล็กน้อยของอาคารคือถนน ไตรสเตท โทลเวย์ และทางตะวันออกโทลเวยร์คือโรงงาน ซีร๊อก
และมีบางสิ่งดูเหมือนอาคารเก็บน้ำที่มีชื่อ ซีร๊อก ตั้งอยู่เลยโรงงานซีร็อกไปก็เป็นป่า และมันก็เริ่มอีกครั้ง
นับแต่เริ่มวันมาก็เกิดสิ่งนี้ไปทั้งวันนั้น คือเริ่มต้นด้วยแสงอาทิตย์สดใส ท้องฟ้าไร้เมฆ และแผ่นดินไหวแตกทิ่มแทงพื้นดิน
และ นั้นก็ทำให้ตึกทั้งหมดเริ่มเคลื่อนที่ ข้าพเจ้าเห็นการแตกและขยายตัวจากที่หนึ่งของอาคารมายังที่ ๆ
ข้าพเจ้าอยู่ในชั่วพริบตา ผนังปูนฉาบแตกปะทุและโน้มตัวพังลงมาในขณะที่กำแพงโค้งตัวลงมา พื้นที่ยื่นอยู่ก็ทรุดตัวลงไปประมาณห้าหรือหกฟุต ทำให้เฟอร์นิเจอร์และตู้เอกสารเลื่อนไถลลงไป อีกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดและรู้สึกวิตกกลัวถึงการไหวที่อื่นด้วย ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคำรามเหมือนฟ้าผ่าของแผ่นดินที่พลิกตลบไปมา
และสังเกตุได้ว่าการเคลื่อนไหววิ่งจากทิศตะวันออกไปตะวันตกเฉียงเหนือ ข้าพเจ้ามองออกไปที่หน้าต่างเห็นอาคารเก็บน้ำชื่อซีร๊อกแกว่งไปมา และฐานก็เคลื่อนจนอาคารล้มลง ทันใดนั้นก็เห็นเปลวไฟพุ่งออกมาจากอาคารในขณะที่อาคารเก็บน้ำยักษ์กระแทกลง ที่หลังคาอาคารซีร๊อก
ในชั่วขณะหนึ่งแผ่นดินก็หยุดไหวและข้าพเจ้าก็หยุดชะงักด้วยความเงียบสงัดที่ จะมีไปตลอดวัน ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ เหลืออยู่แม้กระทั่งนก กลุ่มควันลอยขึ้นจากอาคารซีร๊อกเหมือนแท่งเสาสีดำ น้ำในทะเลสาปโอฮาร่ากระฉอกสาดออกมาจากทะเลสาปเป็นคลื่นยักษ์และก็ไหลกลับไป ที่เดิม
ข้าพเจ้ารู้ว่านี่เป็นอีกครั้งที่เป็นนิมิตเกี่ยวกับ เหตุการณ์อนาคต คือแผ่นดินไหวใหญ่ ในเวลานี้ความรู้สึกของข้าพเจ้าก็ถูกสะกดด้วยสิ่งที่ได้ประสบ แต่ใครที่ข้าพเจ้าจะบอกเล่าได้ ใครจะเชื่อสิ่งนี้ นี่คือประเด็นเพราะข้าพเจ้าได้เห็นแต่เพียงผู้เดียวและไม่เข้าใจถึง
จุด ประสงค์ของนิมิตนี้ มันเป็นเวลาบ่าย 3 โมงในวันเดียวกัน อีกครั้งที่เริ่มต้นด้วยแสงอาทิตย์สดใส
ในช่วงนี้นิมิตเริ่มต้นที่จุดสุดท้ายของครั้งก่อน การทำลายล้างเกิดขึ้นกับทุกที่
ข้าพเจ้าสามารถรู้สึกได้อย่างจริงจังว่ามันจะเป็นวันที่เงียบสงัดไปทั้งวัน
และความเงียบก็สิ้นสุดด้วยเสียงคำรามที่น่ากลัวที่ต่างออกไปทำให้เสียวไปถึง กระดูกสันหลัง
ข้าพเจ้าหันหลังกลับไปมองที่หน้าต่าง และได้เหลือบมองข้ามไปยังพื้นที่ที่พังถล่มเหนือป่าไปยังอาคารซีร๊อก
ที่นั่นมีต้นไม้ตั้งยืนต้นอยู่ ข้าพเจ้าเห็นในระยะไกลว่ามีกำแพงน้ำยักษ์สีน้ำเงินใส กำลังเคลื่อนที่ไปทิศตะวันตก มันดูเหมือนไม่ได้วิ่งมาที่ข้าพเจ้าอยู่แต่ดูเหมือนเคลื่อนที่จากตะวันตกไป ทิศใต้ ใช่แล้ว กำแพงน้ำยักษ์พุ่งไปที่ ๆ ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ใน เดสเพลน อิลลินอยส์ กำแพงน้ำมาจากทะลสาปมิชิแกน ดังสนั่นเหมือนฟ้าผ่า
ช่างเลวร้าย ทำให้ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่น นี่เป็นจุดแรกที่ข้าพจะต้องระลึกไว้ว่าข้าพเจ้าจะได้เป็นพยานเกี่ยวกับการ ทำลายล้างชิคาโกด้วยแผ่นดินไหวใหญ่และตามมาด้วยกำแพงน้ำยักษ์ถล่ม หลัง จากนั้นข้าพเจ้าขับรถจาก เดสเพลน ไปวิลล่าพาร์ค อิลลินอยส์ ขณะที่ขับไปมุ่งไปที่ ไตรสเตท โทลเวย์
ก็ได้เห็นคลื่นระลอกแผ่นดินไหวทำลายบ้านและถนนพังอย่างชัดเจน ถนนทางลอดใต้ก็พังถล่ม ต้นไม้โค่นล้มถอนรากออกมาอยู่ทุกที่ทุกแห่ง ไตรสเตท โทลเวยร์ นั้นวิ่งจากทิศใต้ไปยังสนามบิน โอแฮร์ และออกไปถึงทางลอดใต้ โอเอซิส ที่อยู่ใกล้ ๆ อีกครั้งที่จะเริ่มต้นด้วยใจจดจ่อ แผ่นดินพลิกเคลื่อนเสียงคำรามเหมือนครั้งก่อน
และข้าพเจ้ามองออกไปประมาณ 300 เหมือนจะมีชิ้นส่วนของหินแกรนิตขนาดใหญ่จากใต้พื้นดินหรือวัตถุที่คล้ายกัน นี้พุ่งทะลุโผล่ที่ถนน ไตรสเตท และทะลุกวาดไถไปจนถึงทางลอด โอเอซิส มันพุ่งทะลุขึ้นมาจากดินสูงถึง 20-30 ฟุตสูงกว่าเพดานของทางโอเอซิส กำแพงหินนี่ดูจะเหมือนตึกสูงสี่หรือห้าชั้นเลย ร่องหินยักษ์เหล่านี้พุงทะลุขึ้นไปอากาศดูเหมือนจะมีแนวเอียงจากตะวันออกไป ตะวันตกในการเคลื่อนตัว และเคลื่อนที่ไป ๆ มา
ข้าพเจ้ารู้ว่าทิศใต้ของแนวร่องหินนี้ฐานพื้นดินจะอยู่ต่ำกว่าทิศเหนือมาก ข้าพเจ้ารู้ได้ดังนั้นทันทีว่านั้นคือแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหว ตอน ที่กำแพงหินเหล่านี้พุ่งขึ้นมาที่ถนน ไตรสเตทไปถึง โอเอซิส มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากทำให้ข้าพเจ้าตะลึงอย่างมากทำให้ต้องเหยียบเบรคอ ย่างกระทันหันเพื่อหลบแท่งกำแพงหินนี้ก่อนที่จะนึกได้ว่ามันเป็นเพียงนิมิต เท่านั้นไม่ใช่เหตุการณ์จริง
เมื่อผ่าน โอแฮร์ และโอเอซิส แล้วก็ไปทิศใต้ตามถนน ไตรสเตท ก็จะพบสะพานขาด ข้าพเจ้าเห็นได้ชัดเจนว่ามันพังทะลายสิ้นเพราะแผ่นดินไหว ไม่ว่าทิศไหนก็เห็นแต่ไฟลุกลาม ท่อควันสีดำพวยพุ่ง
บ้านและโรงงานพังทะลาย การทำลายล้างช่างยิ่งใหญ่เกินบรรยายได้ ข้าพเจ้าได้มาถึงตึก 15 ชั้นแห่งหนึ่งที่ยังคงทรงตัวอยู่ในทิศตะวันออกของไตรสเตท คือโรงแรมของสนามบิน โอแฮร์ แห่ง นอร์ทเลค ข้าพเจ้าเห็นกำแพงน้ำเคลื่อนมาเหนือเมืองและถล่มตึก 15 ชั้นนี้
โดยกำแพงน้ำสูงกว่าเพดานโรงแรมนี้ ในนิมิตของอนาคตนั้น ข้าพเจ้ายังเห็นเครื่องบินที่กำลังมาลงจอดที่สนามบินโอแฮร์ ในช่วงเวลาที่กำแพงน้ำปรากฎตัวขึ้นมา นักบินก็สังเกตุเห็นมันด้วย และมีกลุ่มควันสีดำที่ข้าพเจ้าเห็นออกมาจากเครื่องยนต์เจ๊ตที่เผาไหม้ ข้าพเจ้ารู้ได้ว่านักบินได้พยายามเร่งเครื่องเพื่อบินขึ้นออกไป
ข้าพเจ้าประหลาดใจว่าเครื่องบินจะไปลงจอดที่ไหน ข้าพเจ้าก็คิดถึงเมือง มิลวากี้ และทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้เห็นเมืองนี้ถูกน้ำท่วมและกำลังถูกทำลาย ข้าพเจ้าก็นึกถึงเมือง เซนต์หลุย และได้เห็นน้ำท่วมไปทั่วเมืองทุกสิ่งจมน้ำสิ้น คือในทันทีที่ข้าพเจ้าเริ่มนึกถึงสถานที่ใดก็จะเห็นภาพการทำลายล้างจริงใน อนาคตที่จะเกิดกับที่นั่น
และก็รู้ได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ใด ๆ ที่ผ่านมา ที่จะเทียบเคียงกับสิ่งเหล่านี้ที่จะเกิดกับเราในอนาคตได้ ข้าพเจ้า สังเกตุว่ากำแพงน้ำนั้นพุ่งลึกเข้ามาถึงศูนย์กลางของชิคาโกและพุ่งเป็นปลาย เรียวเลยไปถึงทิศใต้ก็หยุด และเลยไปทิศเหนือด้วยแต่มันไม่ลึก ข้าพเจ้าสังเกตุได้ว่าทางยกระดับและทางลอดใต้จะพังทลาย
มีซากหักพังถล่มเป็นทับถมก้อนปิดเส้นทางถนนขาดจากกันในหลาย ๆ ที่และการจราจรก็หยุดชะงัก การหนีจากแผ่นดินไหวเพื่อรอดชีวิตนั้นดูเหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
และ ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็เห็นพื้นที่ของ ลูป ในนิมิตดูจากเงาที่ทอดลงมาก็ได้ดูเหมือนเป็นเวลาเที่ยงวัน ข้าพเจ้าเห็นการจราจรพลุ่กพล่านในย่านดาวทาวน์
แต่ว่าความสนใจของข้าพเจ้าอยู่ที่ชั้นล่างของตึกใหญ่แห่งหนึ่ง และอีกครั้งที่เริ่มต้นด้วยแผ่นดินไหว รถยนต์จำนวนมากก็ปลิวไถลจากถนนเข้าไปยังตึกต่าง ๆ อย่างแรงเพราะแผ่นดินเคลื่อน เสียงประสานที่น่ากลัวพร้อม ๆ กันทั้งเสียงดังลั่นเอี๊ยด เศษกระจาย
เสียงครูดเต็มไปทั่วเหมือนกับเสียงของเสาของเรือใหญ่ที่แล่นอยู่กลางพายุ และตึกสูงระฟ้าก็โยงเอนไปมา ตึกยักษ์ก็เริ่มเลื่อนไถลออกจากตัวฐานประมาณ 20 ฟุตจากทางเดินแต่น่าทึ่งที่มันไม่พังลงมา อิฐ หิน แก้ว และเศษชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ตกลงมาที่ถนนข้างล่างคล้ายลูกเห็บที่ลมพายุพัดมา และเมื่อแผ่นดินไหวหยุด
ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคนจำนวนมากพูดว่า “โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่” หลายคนรอหน่วยกู้ภัยมาช่วย แต่ไม่มีใครขอบคุณพระเจ้าเลย
ทันใดนั้นภาพที่ข้าพเจ้าเห็นก็เปลี่ยน ไปอยู่หน้าทะเลสาป หลังจากแผ่นดินไหวหยุด น้ำในทะเลสาปมิชิแกนก็หยุดนิ่งสงบอย่างรวดเร็ว และนอนแน่นิ่งสงบอย่างกับป่าช้า ในทันใดน้ำนิ่งนี้ก็ดูเหมือนจะเขย่าหรือสั่นไหวในขณะที่มองดูอยู่ ระดับน้ำก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็วจนได้ยินเสียงแล่นของน้ำอย่างรวดเร็วพุ่ง หายไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เหลือทิ้งไว้เป็นบ่อโคลนที่ต่าง ๆ ตลอด ช่วงเวลาที่ผ่านไปในวันนั้น เป็นเวลาเท่าใดข้าพเจ้าไม่ทราบมากได้ จากจุด ๆ ที่อยู่สูงแห่งหนึ่งที่ถนนใน ลูป ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างน่ากลัว
แสงอาทิตย์หายไปหมดสิ้นและทุกสิ่งถูกกลืนกินด้วยความมืด ต่อมาข้าพเจ้าเห็นภาพทางอากาศของพื้นที่ดาวทาวน์ของชิคาโก เมื่อกำแพงน้ำจากทะเลสาปมิชิแกนได้พัดมาถล่มเข้าไปที่ ลูป อย่างแรงแบบไม่น่าเชื่อ
แต่ตึกระฟ้าต่าง ๆ ยังคงทรงตัวอยู่แต่มันตั้งยันคลื่นน้ำเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็เริ่มบิดตัวทรุดลงมาอย่างช้า ๆ และหายไปสิ้นในน้ำที่พัดวนอยู่ ข้าพเจ้าเห็นภาพนี้ติดตรึงชัดเจน ตึกทางตอนเหนือของ ลูป (มีส่วนผ่านแนวรอยเลื่อน) ดูเหมือนจะปลอดภัย กำแพงน้ำนี้ไม่ใช่คลื่น ไม่ใช่คลื่นน้ำขึ้นน้ำลง ไม่ใช่ปลายยอดคลื่น
แต่มันคือน้ำทั้งหมดของทะเลสาปมิชิแกนที่เคลื่อนมาทั้งก้อนไปทางทิศใต้โดย ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ รุนแรงน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ ทุก ๆ สิ่งในทิศทางที่น้ำเคลื่อนไปจะถูกบดขยี้ทำลายล้างอย่างหมดสิ้น แม้ว่าน้ำจะสูงกว่าตึก 15 ชั้น (ใช้ทางด่วน ไอเซนโอเวอร์ เป็นจุดศูนย์กลางวัด)
แต่ความลึกของระดับน้ำก็ลดลงอย่างเร็วในทิศที่เคลื่อน โดยไป 12 ไมล์ทางใต้และเหนือ แต่จุดที่ตื้นที่สุดที่ข้าพเจ้าเห็นก็ถึงประมาณ 20 ฟุต นับแต่ปี 1973
เรารู้ว่าแผ่นดินไหวที่จะเป็นเหตุเปลี่ยนแปลงแผ่นดิน และเปลี่ยนเมืองหลายเมืองให้เป็นเส้นทางเดินของน้ำที่จะไหลท่วม ขณะที่พื้นที่ทิศเหนือของแนวรอยเลื่อนบางพื้นที่จะถูกยกสูงกว่าระดับน้ำ
พระเจ้าให้ข้าพเจ้าเห็นเมือง คัลลูเม็ต อิลลินอยส์ ฮัมมอนด์ อินเดียน่า ชิคาโกตะวันออก และพื้นที่อื่น ๆ แถวปลายตะวันตกของทะเลสาปมิชิแกนที่จะต้องไปอยู่ใต้ระดับน้ำถึง 60 ฟุต
ที่ส่วนปลายตะวันตกของทะเลสาปมิชิแกนที่ข้าพเจ้าเห็นแต่ผืนน้ำใหญ่โต ไม่มีตึกโผล่เหนือน้ำเลย วันที่ 5 กรกฎาคม 1973 ใน เดสเพลน
ข้าพเจ้าเห็นน้ำระดับน้ำพุ่งขึ้นมาเหนือป้ายบอกความเร็วบนถนน บัลลาด และระดับน้ำตรงนั้นดูเหมือนจะลึกอย่างน้อย 5 ฟุตหรือลึกกว่า สะพานคอนกรีต ไตรสเตท บนถนน บัลลาด จะพังอย่างรวดเร็วในขณะที่น้ำซัดไปทิศใต้ตรงนี้เป็นเนินบน ไตรสเตท หรือถนนที่อยู่สูงกว่าน้ำ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น