ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระบรมสารีริกธาตุฉัพพรรณรังสี

    ลำดับตอนที่ #1 : ท่านมีการเตรียมพร้อมหรือยังครับ? จีน อินเดีย ปากีสถาน อเมริกา หลายประเทศในยุโรป และตะวันออกกลาง

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 55


     



    อานิสงส์เพิ่มเติมในแง่มุมต่างๆเกี่ยวกับการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

    อานิสงส์การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ จิตเกิดกุศลสิ้นจากภพชาติไปเกิดในสุคติ ควรบูชาในสิ่งที่ควรบูชาคือ
    อุดมมงคลข้อหนึ่งในบวรพระพุทธศาสนา (มงคลข้อที่ ๓ ปูชา จ ปูชเนยฺยาน การบูชาบุคคลที่ควรบูชา

    ในบรรดามงคล ๓๘ ประการ จากมงคลสูตร) อย่างการไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นความเป็นมหามงคลเกิดขึ้นกับจิตใจของเรา เพราะได้เกิดพุทธานุสติ ธรรมานุสติและสังฆานุสติ

    สำหรับอานิสงส์ของการสักการะพระบรมสารีริกธาตุนั้น ในพระไตรปิฎกได้มีกล่าวไว้ใน อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ มัญชิฏฐกวรรคที่ ๔ ๙. ปีตวิมาน อรรถกถาปีตวิมาน

    เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานพระเจ้าอชาตศัตรูนำพระบรม สารีริกธาตุที่พระองค์ได้รับส่วนแบ่งมาสร้าง พระสถูปและทำการฉลอง

    อุบาสิกาชาวราชคฤห์คนหนึ่งปฏิบัติกิจของร่างกายแต่เช้าตรู่คิดจักบูชาพระ ศาสดาถือดอกบวบขม ๔ ดอก ตามที่ได้มามีศรัทธาเกิดฉันทะอุตสาหะขึ้นในใจอย่างฉับพลันมิได้คำนึงถึง อันตรายในหนทางเดินมุ่งหน้าไปสู่ยังพระสถูป

    ขณะนั้นโคแม่ลูกอ่อนวิ่งสวนทางมาอย่างเร็ว ขวิดอุบาสิกานั้นให้สิ้นชีวิตนางทำกาลกิริยาตายในขณะนั้นเอง นาง ได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์(สวรรค์ชั้นกามาวาจร ชั้นที่ ๒) เมื่อท้าวสักกเทวราช(พระอินทร์)เสด็จทรงกรีฑา (เที่ยว)

    ในอุทยานนางได้ปรากฏองค์พร้อมกับรถทิพย์ ข่มเทพธิดาทั้งหมดด้วยรัศมีแห่งสรีระของตนท่ามกลางเทพนาฏกะนักฟ้อนสองโกฏิ ครึ่งซึ่งเป็นบริวารท้าว

    สักกเทวราชทอดพระเนตรเห็นดังนั้น มีพระทัยพิศวง เกิดอัศจรรย์ไม่เคยเป็นทรงดำริว่า ด้วยกรรมอันยิ่งใหญ่เช่นไรหนอเทพธิดาผู้นี้จึงได้เทพฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่เช่น นี้แล้วตรัสถามเทพธิดานั้นด้วยคาถาเหล่านี้ว่าดู

    ท่านเทพธิดาผู้เจริญผู้มีผ้าเหลือง มีธงเหลือง ประดับด้วยสีเหลืองอย่างอลังการมีกายลูบไล้ด้วยจันทน์เหลือง ทัดทรงดอกอุบลเหลือง มีปราสาทเหลืองมีที่นอนที่นั่งเหลือง มีภาชนะเหลือง มีฉัตรเหลือง มีรถเหลือง มีม้าเหลืองมีพัดเหลืองครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน

    เจ้าได้ทำกรรมอะไรไว้เจ้าถูกเราถามแล้ว ขอจงบอกทีเถิด นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร นางเทพธิดาตอบว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    หม่อมฉันได้น้อมนำดอกบวบขมสีเหลือง อันมีรสขมซึ่งไม่มีใครปรารถนา จำนวน ๔ ดอก

    เพื่อไปบูชาพระสถูปหม่อมฉันมีใจผ่องใส มีจิตใจจดจ่อมุ่งอยู่เฉพาะพระบรมสารีริกธาตุของพระศาสดาไม่ทันพิจารณาหนทาง ที่มาแห่งแม่โค

    ทันใดนั้นแม่โคได้ขวิดหม่อมฉันผู้มีความตั้งใจแต่ยังไปไม่ถึงพระสถูป

    (เทพธิดา กล่าวอย่างนี้ เพราะใจที่คิดขึ้นว่าเราจักเข้าไปยังพระสถูปเจดีย์แล้วบูชาด้วยดอกไม้ทั้ง หลาย
    ดังนี้ยังไม่สมบูรณ์แต่จิตที่คิดบูชาพระสถูปเจดีย์ด้วยดอกไม้ทั้งหลายสำเร็จ แล้วโดยแท้จึงเป็นเหตุให้เทพธิดานั้นเกิดในเทวโลก)
    ถ้าหม่อมฉันพึงสั่งสมบุญนั้นยิ่งขึ้นไซร้ทิพยสมบัติพึงมียิ่งกว่านี้เป็นแน่

    (การ สั่งสมบุญยิ่งขึ้นนั้น คือการไปถึงพระสถูปแล้วบูชาตามความประสงค์ ทิพยสมบัติจะพึงมียิ่งๆขึ้นไปกว่านี้)ข้าแต่ท้าวมฆวานเทพกุญชรจอมเทพ เพราะบุญกรรมนั้นหม่อมฉันละร่างกายมนุษย์แล้ว จึงมาอยู่ร่วมกับพระองค์

    ท้าวมฆวานเทพกุญชรผู้เป็นอธิบดีในสวรรค์ชั้นไตรทศทรงสดับคำนี้แล้วเมื่อจะยังเทวดาชั้นดาวดึงส์ให้เลื่อมใส จึง แสดงธรรมแก่หมู่เทวดาซึ่งมีพระมาตลีเทพสารถีเป็นประมุข

    ด้วยคาถาเหล่านี้ว่าดูก่อนมาตลีท่านจงดูผลแห่งกรรมอันน่าอัศจรรย์นี้ วัตถุ ทานแม้มีประมาณน้อยแต่ที่เทพธิดานี้กระทำแล้ว ย่อมเป็นบุญที่มีผลมากเพราะยังจิตเลื่อมใสในพระตถาคตสัมพุทธเจ้า


    หรือในสาวกของพระองค์ก็ตาม ทักษิณา (การบูชา) ไม่ชื่อว่าน้อยเลย มาเถิด มาตลีแม้ชาวเราทั้งหลายก็ควรจะพากันบูชาพระบรมธาตุของพระตถาคตให้ยิ่งยวด ขึ้นไปเพราะการสั่งสมบุญนำสุขมาให้

    เมื่อพระตถาคตยังทรงพระชนม์อยู่ก็ตามเสด็จปรินิพพานแล้วก็ตาม เมื่อจิตสม่ำเสมอ ผลบุญก็ย่อมสม่ำเสมอเพราะเหตุที่ตั้งจิตไว้ชอบ

    (อธิบายคำว่า เพราะตั้งตนไว้ชอบพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "มารดาบิดาก็ดี ญาติเหล่าอื่นก็ดีพึงทำผู้นั้นให้ประเสริฐไม่ได้ ส่วนจิตที่ตั้งไว้ชอบพึงทำผู้นั้นให้ประเสริฐได้กว่านั้น")

    สัตว์ทั้งหลาย ย่อมไปสู่สุคติบุคคลทั้งหลายกระทำสักการะบูชาในพระตถาคตเหล่าใดแล้ว ย่อมไปสู่สวรรค์พระตถาคตเหล่านั้นย่อมอุบัติขึ้นเพื่อประโยชน์แก่ชนเป็นอัน มากหนอก็แลครั้นตรัสอย่างนี้แล้วท้าวสักกะจอมทวยเทพได้สั่งระงับการเล่น กรีฑาในอุทยาน


    เสด็จกลับจากอุทยานนั้นแล้วทรง ทำการบูชา ๗ วันที่พระจุฬามณีเจดีย์(ที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว-เขี้ยวของพระพุทธเจ้า องค์ที่ ๑ เบื้องบนขวา และเส้นพระเกศา-เส้นผมที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ปลงในวันที่เสด็จออกจากพระราชวังเพื่อทรงผนวชค้นหาสัจธรรม) ซึ่งเป็นสถานที่พระองค์ทรงบูชาเนืองๆ


    สมัยต่อมาท้าวสักกเทวราชได้เล่า เรื่องนั้นถวายท่านพระนารทเถระผู้จาริกไปยังเทวโลกพระเถระได้บอกกล่าวแก่พระ ธรรมสังคาหกาจารย์ทั้งหลายท่านจึงได้ยกเรื่องนั้นขึ้นสู่สังคายนาอย่างนั้น แล.


    อานิสงส์ของการได้มีพระธาตุไว้บูชา พระ มหากัจจายนะได้ขึ้นไปบนสวรรค์ และสนทนากับสุชาตเทพบุตร


    ถึงเหตุที่ได้มาเสวยสุข ณ ที่แห่งนี้ว่า "...ท่านยืนอยู่บนรถทองดูองอาจ ดุจท้าวสักกเทวราชผู้เป็นใหญ่กว่าหมู่ทวยเทพ ผู้ทรงราชรถอันเทียมด้วยม้าอาชาไนยตั้งพัน ฉะนั้น อาตมภาพขอถามท่านผู้มียศ ผู้ฉลาด รถอันยิ่งใหญ่นี้ ท่านได้มาอย่างไร?


    สุชาตเทพบุตรตอบว่า

    ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ชาติก่อน ข้าพเจ้าเป็นราชบุตรนามว่า สุชาตกุมารพระคุณเจ้าอนุเคราะห์สั่งสอนข้าพเจ้าให้ตั้งอยู่ในความสำรวม
    และ พระคุณเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะสิ้นอายุได้ให้พระบรมสารีริกธาตุแก่ข้าพเจ้า

    โดยกล่าวว่า ดูกรสุชาตราชกุมาร ท่าน จงบูชาพระบรมสารีริกธาตุนี้เถิด พระบรมสารีริกธาตุนี้ จักเป็นประโยชน์แก่ท่าน

    ข้าพเจ้าได้บูชาพระบรม สารีริกธาตุนั้น ด้วยของหอมและพวงมาลัย ขวนขวายในการทำบุญให้ทาน ละร่างมนุษย์นั้นแล้ว
    ได้ไปบังเกิดในสวนนันทวัน เดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้ามีหมู่นางเทพอัปสรฟ้อนรำ

    ขับร้องห้อมล้อม รื่นเริงอยู่ในสวน นันทวันอันประเสริฐ น่ารื่นรมย์ เกลื่อนกล่นไปด้วยหมู่สกุณชาตินานาชนิด. บูชาพระธาตุแล้วได้วิมานบนสวรรค์ พระวังคีสะเถระเจ้าได้ขึ้นไปบนสวรรค์ และสอบถามเทพธิดาถึงเหตุอันได้มาซึ่งวิมานนี้ของนาง

    เทพธิดาตอบว่า... " ก็วิมานที่ดิฉันได้แล้วนี้ มีฝูงหงส์ นกกระเรียน ไก่ฟ้า นกกดและนกเขาไฟ เที่ยวร่อนร้องไปมา ทั้งเต็มไปด้วยหมู่นกนางนวล นกกะทุง และพญาหงส์ทอง ซึ่งเป็นนกทิพย์ เที่ยวบินไปมาอยู่ตามลำน้ำ

    และอึงคนึงไปด้วยฝูงนกประเภทอื่นๆ อีก คือ นกเป็ดน้ำ นกค้อนหอย นกดุเหว่าลาย นกดุเหว่าขาว มีทั้งต้นไม้ดอก ไม้ต้น ไม้ผล อันเกิดเองหลายอย่างต่างพรรณคือ ต้นแคฝอย ต้นหว้า ต้นอโศก พระคุณเจ้า ขา

    ดิฉันได้วิมานเหตุนี้ด้วยเหตุผลอันใด ดิฉันจะเล่าเหตุผลอันนั้นถวายพระคุณเจ้านิมนต์ฟังเถิด คือ มีหมู่บ้านหมู่หนึ่งชื่อนาฬกคาม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระนครราชคฤห์

    ดิฉันเป็นบุตรสะใภ้ประจำตระกูลของบ้านนั้นอันตั้งอยู่ภายในบุรี ชุมนุมในหมู่บ้านนั้นเรียกดิฉันว่าเสสวดี ดิฉันมีใจชื่นบาน ได้ก่อสร้างกุศลกรรมไว้ในชาตินั้น คือ ได้บูชาพระธาตุพระธรรมเสนาบดี

    นามว่า อุปติสสะ ซึ่งเป็นที่บูชาของทวยเทพและมนุษย์ทั้งหลายผู้มากไปด้วยคุณความดีมีศีลเป็น ต้น หาประมาณมิได้ ซึ่งนิพพานไปแล้ว ด้วยเครื่องสักการะหลายอย่าง ล้วนแต่รัตนะและดอกคำ

    ก็แหละครั้นบูชาพระธาตุของพระผู้แสวงหาซึ่งคุณอย่างยอดยิ่ง ผู้ถึงอนุปทิเสสนิพพานธาตุแล้ว ซึ่งในที่สุดยังเหลืออยู่แต่พระธาตุเท่านั้น ครั้นดิฉันละกายมนุษย์นั้นแล้วจึงได้มาเกิดในดาวดึงส์สวรรค์ชั้นไตรทศ อยู่ประจำวิมานในเทวโลก

    อานิสงส์ของการชักชวนผู้คนให้บูชาพระบรมธาตุ

    พระโมคคัลลานะได้ขึ้นไปบนสวรรค์ และถามเทวบุตรองค์หนึ่งว่าเหตุใดจึงได้มาอยู่ที่ อเนกวัณณวิมาน

    "... ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เมื่อก่อนข้าพเจ้าเป็นสาวกของพระชินเจ้าทรงพระนามว่าสุเมธ เป็นปุถุชนยังไม่ได้ตรัสรู้มรรคผล บวชอยู่ ๗ พรรษา เมื่อพระศาสดาทรงพระนามว่าสุเมธผู้ชนะมาร มีโอฆะอันข้ามได้แล้ว ผู้คงที่ ปรินิพพานแล้ว

    ข้าพเจ้านั้นได้ ไหว้รัตนเจดีย์อันหุ้มด้วยข่ายทองคำ ยังใจให้เลื่อมใสในพระสถูปนั้นข้าพเจ้าไม่มีการให้ทาน เพราะข้าพเจ้าไม่มีไทยวัตถุให้

    แต่ได้ชักชวนชน เหล่าอื่นในการให้ทานนั้นว่า ท่านทั้งหลายจงบูชาพระธาตุของพระพุทธเจ้าผู้ควรบูชาเถิด ได้ยินว่าพวกท่านจักไปสู่สวรรค์ เพราะการบูชาพระบรมธาตุอย่างนี้

    กุศลกรรมเท่านั้นอันข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ข้าพเจ้า จึงได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์ด้วยตนเอง บันเทิงใจอยู่ในท่ามกลางหมู่เทพเจ้าชาวไตรทศ ข้าพเจ้ายังไม่ถึงความสิ้นไปแห่งบุญนั้น..."
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×