ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผจญภัยดินแดนแห่งซาเลนเทีย

    ลำดับตอนที่ #2 : ปีโป้น้อยของฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 50


                "ปีโป้น้อยมาช่วยทุกคนแล้ว"

                เสียงของมนุษย์เยลลี่ที่ปรากฏตัวมาจากไหนก็ไม่รู้มาที่เมืองอะไรก็ไม่รู้อีกนั่นล่ะเพื่อมาช่วยประชาชนที่แสนจะธรรมดาๆ

                "เย้ๆปีโป้น้อยมาช่วยพวกเราแล้วทุกคน"

                ประชนต่างโห่ร้องดีใจกันถ้วนหน้า คิดว่ายังไงๆก็รอดแน่ชนะชัวๆเพราะยอดมนุษย์ฮีโร่มันเคยแพ้ปีศาจที่ไหนกันล่ะ

                ก๊อกๆๆ

                "เจ้าปีศาจบังอาจทำร้ายคนอื่นๆเรอะ เจอท่าเด้งดึบๆหน่อยเป็นไงย๊าก!!"ปีโป้น้อยทำท่าประหลาดๆใส่เจ้าปีศาจไป

                "หึๆ ท่ากระจอกอย่างนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก" อีปีศาจนี่มันหนังเหนียวจริงๆเจอท่าเด้งดึบๆแล้วยังไม่เป็นไร

                ก๊อกๆๆ

                "อย่ายอมแพ้นะปีโป้น้อยสู้มันอย่าตายน้า~" เสียงฉันที่เชียร์ปีโป้น้อยให้สู้สุดใจขาดดิ้น

                "งั้นต้องเจอท่าไม้ตายปีโป้เหนียวหนึบเอาไปกินซะ!!!" ขณะนี้เจ้าปีศาจกำลังได้รับความทรมานอย่างสาสมกับที่มันทำ

                "ปีโป้น้อยจะต้องชนะมันแน่พวกเรา"

                เหล่าประชาชนก็ดีใจกันเข้าไปเหอะ เพราะความหวังที่ตัวเองจะรอดตายอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแล้ว

                ปังๆๆๆๆๆ(อย่าตกใจไม่ใช่เสียงปืน)

                "ไอพี่บ้าโว้ยยยมาเปิดประตูซักที่ดิ"

                เสียงน้องชายของฉันเคาะประตู(แน่ใจหรอว่ามันเคาะ)ทำให้ฉันต้องเจียดเวลาหลายพันวินาทีเพื่อลุกไปเปิดประตูให้มัน

                แอ๊ด~เสียงเปิดประตูชวนสยองขวัญสิ้นดีเนื่องจากน้องชายฉันมันชอบถีบประตูเรียกฉัน มากกว่าเคาะธรรมดาๆ(ก็เคาะแล้วแกไม่มาเปิดนี่หว่า)

                "พี่นี่ก็กว่าจะมาเปิดได้นะ ดูการ์ตูนอยู่นั่นล่ะอายุปูนนี้แล้วไม่ดูสังขารตัวเองบ้างเลย" ดูน้องชายฉันมันบ่นหรือหลอกด่าก็ไม่รู้

                "อะไรกัน ฉันแค่17เองนะแกนั่นแหละเป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้จักดูการ์ตูน"ฉันเถียงข้างๆคูๆ

                "เหอะ ขืนฉันบ้าเหมือนพี่มีหวังฉันได้ฉลาดน้อยพอดี"

                "เออๆ ว่าแต่มาเรียกทำไม"ฉันรู้ว่าน้องชายตัวดีนั้นหลอกด่าฉันแต่ช่างเถอะฉันรีบกำลังถึงฉากมันส์ๆเลย

                "ผมมาเอาเครื่องเกมส์ที่พี่ยืมไปเมื่อสิบปีที่แล้ว และกะจิ๊กไว้ไม่ยอมคืนอ่ะ"

                "มากไปย่ะฉันเพิ่งจะยืมแกไปเมื่อาทิตย์ที่แล้วเอง"

                "นั่นแหละ เอามาเร็วๆดิ"

                นี่คือวิธีทวงของจากพี่สาวของแกเรอะไอน้องชายเดี๋ยวพี่สาวสุดสวยคนนี้ก็ไม่ให้เลย

                "อยู่ในห้องไปหาเอาเองละกัน" 

                ฉันเปิดทางให้น้องชายเข้ามาและเดินกลับไปนั่งดูการ์ตูนที่โซฟาตัวเล็กๆที่เดิม แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น!!!
     
                "ม่ายยยยยยยยยยยยยย" ไม่จริงน่า ไม่น่าเป็นไปได้ ฉันไม่เชื่อ

                "เป็นไรพี่ตะโกนทำไมขี้ไม่ออกหรอ"

                "ปีโป้น้อยของฉัน~"

                ฉันไม่สนใจเสียงน้องชายที่หลอกด่าฉันเพราะฉันกำลังช๊อคที่อยู่ๆพอกลับมาดูอีกทีปีโป้น้อยของฉันมันตายแล้ว ใช่ คุณอ่านไม่ผิดหรอกมันตายแล้วจริงๆร่างของปีโป้น้อยผู้น่าสงสารกลายเป็นเยลลี่เละๆธรรมดาๆไปซะแล้วT^T ใครบอกฟะว่ายอดมนุษย์ไม่เคยแพ้ปีศาจฉันจะไปฆ่ามัน!!(งั้นแกคงต้องฆ่าตัวเองแล้วล่ะเพราะแกบอกเองไม่ใช่หรอ)

                "ปีโป้น้อยลุกขึ้นมาช่วยพวกเราก่อนเดี๋ยวค่อยไปตายใหม่โฮๆๆๆ" เสียงของเหล่าประชาชน ประชาชีทั้งหลายต่างล่ำไห้

                "หึๆยอดมนุย์ของพวกแกตายแล้วทีนี้ก็ไม่มีใครช่วยแล้ว...." ฉันปิดทีวีทันทีเนื่องจากรับไม่ได้ที่ปีโป้น้อยตายแลวกำลังเดินออกจากห้องไปเดินออกจากห้องไป

                "อ้าว พี่จะไปไหนอ่ะไม่อยู่ดูปีโป้น้อยที่รักกลายเป็นเยลลี่ต่อหรอ" 

                น้องชายฉันมันเยาะเย้ย สงสัยมันคงเห็นฉากของปีโป้น้อยของฉันที่เหลือแต่ซากเยลลี่แน่ๆเลย

                "ฮึ่ม! หมดอารมณ์ดูแล้ว จะไปเดินไว้อาลัยปีโป้น้อย"  

                ฉันจะไปไว้อาลัยสักหน่อยเพราะปีโป้น้อยคือฮีโร่ที่ฉันรักมาก เมื่อมาตายอย่างน่าสมเพศแบบนี้ก็อย่าหวังที่ฉันจะชอบแกอีกเลย(อ่าว เลิกชอบกันง่ายๆอย่างนี้เลยเรอะ)

                ฉันเดินลงมาข้างล่าง(บ้านฉันมี2ชั้น)เห็นแม่กำลังบ่นอะไรกะตู้เย็นอยู่ก็ไม่รู้ เฮ้ยๆๆๆหรือแม่ฉันมีพลังจิตพูดกับตู้เย็นได้เนี่ย อยู่ๆแม่ก็หันมาเห็นฉันพอดี ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึป่าวฉันเห็นแม่มีประกายตาแวววับด้วย

                "มิเรน ลูกจะไปไหนหรอ" ฉันว่าฉันกำลังจะโดนแม่ใช่ให้ทำอะไรซักอย่าง

                "กำลังออกไปไว้อาลัยปีโป้น้อยน่ะค่ะ"

                "อะไรนะ!?ลูกอดอยากปีโป้ถึงขนาดจะไปไว้อาลัยเลยหรอ"

                "เอ่อ...คือหนูกำลังออกไปเดินเล่นน่ะค่ะ" ฉันรีบเปลี่ยนคำพูดทันทีเพราะแม่คงไม่เข้าใจว่าฉันจะไปไว้อาลัยปีโป้ทำไม

                "งั้นพอดีเลยไปซื้อเต้าหู้มาให้แม่หน่อย" ฉันว่าแล้วว่าต้องโดนใช้

                "ค่าๆ"

                ฉันตอบรับแล้วกำลังเดินออกจากบ้านไปแต่แล้วก็ต้องชะงักเดินกลับเข้าบ้านใหม่

                "อ้าวลูกทำไมไปซื้อเร็วจังไหนเต้าหู้ล่ะ" โหแม่คิดว่าหนูล่องหนรึไง

                "คือหนูลืมอ่ะค่ะ"

                "ลืมไรหรอ" แม่ถามพร้อมกับทำหน้าตาสงสัย

                "ลืมขอตังแม่อ่ะค่ะ"

                "จริงๆเลย เอ้านี้เงิน"แม่บ่นพร้อมกับยื่นเงินมาให้

                "ไปล่ะนะค๊า" 

                แล้วฉันก็เดินออกจากบ้านเพื่อไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตระหว่างทางฉันก็เดินไปอย่างช้าๆเพื่อชมวิวข้างทางแล้วก็ไม่ลืมไว้อาลัยแด่ป๊โป้น้อยของฉัน ว่าแต่บรรยายมาตั้งนานละยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย

                 แฮ่ม! ฉันชื่อ มิเรน เฮฟเวอร์ เป็นสาวน้อยผู้คลั่งไคล้และหลงไหลการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้ฉันอายุ 17 แล้วล่ะทุกคนอาจจะคิดว่าชื่อฉันแปลก ฉันก็ว่าชื่อฉันแปลกเหมือนกันถ้าอยากรู้ก็ไปถามคนเขียนละกันนะ ฉันมีน้องชายชื่อ มาเซล อายุน้อยกว่าฉัน2ปี แต่รู้สึกว่ามันแก่แดดกว่าฉันอีกอ่ะ แม่ฉันชื่อซาร่า พ่อชื่อจอร์จ เฮ้ยไม่ใช่แล้ว ขอสงวนไม่บอกละกาน ตอนนี้ก็อยู่อย่างคนธรรมด๊า ธรรมดา มีความสุขอย่างคนทั่วไป เฮ้อ~ ครอบครัวนี้มีสุข~ ลัลๆลา ~

                 ตอนนี้ฉันอยู่ในซุปเปอร์มาเก็ตแล้วกำลังเลือกเดินหาเต้าหู้อยู่เดินๆไปก็มีแต่คนมอง ก็งี้ล่ะเข้าใจนะว่าคนมันสวย มีแต่คนมอง(อ้วก) และแล้วฉันก็เดินไปถึงที่ขายเต้าหู้เตรียมพร้อมจะหยิบขึ้นมา แต่แล้วดันมีมือหนึ่งมาหยิบมันขึ้นไปต่อหน้าต่อตา ฉันก็กำลังจะหันหลังไปโวยอยู่แล้ว แต่ก็ต้องตะลึงมันมาได้ไง หรือว่าหายตัวมา

                 "แม่ให้มาตามพี่ เห็นพี่ไม่กลับมาสักทีนึกว่าโดนฉุด " มาเซล น้องชายฉันนั่นเอง

                 "ฉันกำลังจะกลับอยู่นี่ล่ะ"ฉันบอกน้องชายไป สงสัยฉันคงจะเดินเล่นนานไปหน่อย

                 "เร็วๆสิผมหิวข้าวจะแย่อยู่แล้ว มัวแต่คิดถึงไอปีโป้อยู่นั่นล่ะ" ช่างบ่นจริงเลยน้องฉัน

                "ไปๆได้แล้ว" ฉันทนน้องชายบ่นไม่ไหวจึงรีบเดินไปคิดเงินแล้วกลับบ้านพร้อมกับมาเซลทันที

                "กลับมาแล้วค่า/ครับ" 

                ฉันกับน้องชายบอกพร้อมกันหลังจากเดินเข้าบ้านมาโดยที่ฉันหน้ามุ่ยและมาเซลทำหน้ากวนๆบาทาฉันอย่างแรง เนื่องจากตอนเดินมาฉันกับมาเซลก็เถียงกันมาตลอด แต่ฉันแพ้!

                 "อ้าวมาแล้วหรอลูกไหนเต้าหู้ !? เอามาเร็วน้ำซุปกำลังเดือดเลย"

                 ฟิ้ว ~แม่ฉันวิ่งออกมาจากในครัวมาแย่งถุงเต้าหู้ในมือฉันไปและวิ่งเข้าครัวหายไปอย่างไร้ร่องลอย~โดยไม่สนใจหน้าตาฉันกับหน้าตาของมาเซลที่แตกต่างกันสุดขั้วราวขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้เลยแม้แต่น้อย

                "รีบไปอาบน้ำเร็วเข้าเดี๋ยวคุณพ่อจะกลับมาแล้ว จะได้มากินข้าวกัน"

                เสียงแม่ดังมาจากในครัว พ่อจะมาหรอดีใจจัง ฉันจึงรีบขึ้นห้องไป พออาบน้ำและแต่งตัวเสร็จแล้วฉันก็เดินลงมาข้างล่าง 

                "พ่อค๊า มาแล้วหรอ"ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดพ่อทันที เมื่อเห็นพ่อ

                "พ่อยังไม่มามั้ง พี่ตาบอดหรอ"

                อยู่ๆเสียงมาเซลก็ดังขึ้น หลอกด่าฉัน(อีกแล้ว) ทำให้ฉันหันไปถลึงตามองเจ้าน้องชายตัวดี ก่อนจะหันมาพูดกับพ่อ

                "คิดถึงพ่อจังเลยนานๆจะมาซักที"

                พ่อฉันมีงานธุรกิจกิจทั่วโลก แต่ว่าที่มาอยู่บ้านหลังเล็กๆทำตัวเหมือนคนธรรมดาเพราะพ่อชอบใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา อีกอย่างใครจะคิดว่าคนรวยล้นฟ้าจะมาใช้ชีวิตอยู่อย่างธรรมดาๆกัน เป็นการหลอกล่อผู้คนได้ดีไม่น้อย

                "ขอโทษทีนะพ่องานเยอะน่ะ" พ่อบอกพร้อมกับกอดฉันไว้เหมือนกัน 

                "พ่อซื้อปีโป้มาฝากลูกด้วยนะ" 

                ฉันชะงักทันที พ่อนะพ่อซื้อปีโป้มาทำไม ฉันกำลังจะลืมมันได้อยู่แล้วเชียว

                "ก๊ากๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ พ่อครับ พี่เค้าคงไม่อยากกินปีโป้หรอก " มาเซลพูดพร้อมกับหัวเราะไม่ยอมหยุด

                "อ้าว ไม่ชอบกินปีโป้แล้วหรอเราน่ะ " 

                พ่อถามพร้อมกับทำหน้าประหลาดใจอย่างรุนแรง เพราะว่าเมื่อก่อนฉันชอบดูปีโป้น้อยสุดที่รักมาก เลยทำให้ชอบกินปีโป้ไปด้วย แต่ ณ บัดนี้ฉันไม่ได้ชอบมันอีกต่อไป คิดแล้วเศร้าจริงๆ โฮๆๆๆ T_T 

                "ไม่เป็นไรค่ะพ่อหนูยังชอบกินอยู่" ฉันบอกเพื่อไม่ให้พ่อเสียใจที่ซื้อมา

                "ว่าแต่ พ่อเห็นมีกล่องพัสดุ(เขียนงี้ป่าว)ส่งมาถึงเราที่หน้าบ้านด้วย มิเรน"

                เอ๋??กล่องพัสดุอะไรหว่า? ฉันจำได้ว่าตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังไม่ได้สั่งซื้อการ์ตูนเลยนี่

                "แล้วมันอยู่ตรงไหนคะพ่อ"

                "พ่อวางมันไว้ที่โต๊ะกระจกตรงโซฟาน่ะ"

                ไม่รอช้า ฉันรีบเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วสำรวจกล่องพัสดุที่จ่าหน้ามาถึงฉันและแกะกล่องออกดูทันที ข้างในกล่องพัสดุ นั้นมีกล่องการ์ตูนซึ่งใช้เก็บแผ่นการ์ตูนอยู่เต็มไปหมด และข้างบนสุดมีสร้อยแปลกๆอะไรก็ไม่รู้ ตรงกลางของสร้อยเป็นคริสตัลสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล ส่วนตัวสร้อยและส่วนต่างๆนั้นมีสีดำ  มันเป็นสร้อยที่ดูเก่าๆแปลกตาแต่ก็สวยดี เมื่อฉันมองเข้าไปที่คริสคัลสีฟ้าน้ำทะเลราวกับตกอยู่ในภวัง มันช่างสวยจริงๆ เหมือนกับว่าร่างกายกำลังจะถูกดูดเข้าไป

                "มิเรน มากินข้าวเร็ว ทุกคนรออยู่นะ"

    .            เสียงแม่ที่ตะโกนเรียกอยู่ในครัวดังขึ้นมา ทำให้ฉันหลุดจากภวัง

                "ค่าแม่" 

                ฉันผละออกจากสร้อยและกล่องพัสดุแล้วเดินเข้าไปในครัวทันที

                "ช้าจริงๆเลย คนอื่นเขาหิวข้าวกัน ก็ไม่ถือสาหรอกนะ อายุปูนนี้แล้วนี่" 

                 เสียงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าน้องชายตัวแสบของฉันนั่นเอง 

                "อย่าไปว่าพี่เขาสิลูก" 

                นั่นไงพูดมากดีนักเจอแม่ว่าเข้าให้ ฉันจึงหันไปแลบลิ้นให้มาเซลทันที นายนั่นทำหน้าบึ้งใส่ฉันแล้วหันกลับไปกินข้าวต่อทันที

                "ว่าแต่การเรียนของทั้งสองคนเป็นยังไงบ้าง เรียนหนักไหม" 

                พ่อเปิดวงสนทนาระหว่างการกินข้าวขึ้นมาทันที

                "ก็ไม่เป็นไงหรอกค่ะ หนูก็เรียน........."

                ตอนนี้พวกเรากำลังคุยเรื่องทั่วๆไปเหมือนครอบครัวธรรมดาๆโดยมีน้องชายตัวดีคอยพูดแทรกฉันเป็นบางครั้ง และฉันก็อดที่จะเถียงนายน้องชายของฉันไม่ได้เหมือนกัน เฮ้อ~ ถ้าพ่อกลับมาบ้านบ่อยๆอย่างนี้ก็ดีสิน้า~ จะได้คุยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ช่างเถอะ! แค่ตอนนี้ครอบครัวของเรามีความสุขก็พอแล้วล่ะ ^ ^







    ***************************************************************************


    ความคิดเห็นที่ 1

    ในเมื่อบอกให้ติเตียนได้ ข้าน้อยก็ไม่เกรงใจละนะขอรับ

    ติเตียนติเตียนติเตียนติเตียนติเตียนติเตียนติเตียนติเตียน(โจ๊กคัฟโจ๊ก)

    มาเข้าเรื่องกันเลย

    เข้ามาปุ๊ปข้าน้อยก็จ๊ะเอ๋กับตัวหนังสือที่ทั้งเล็กและติดกันเลย(ยังมะทันได้อ่าน)
    แค่เปิดดู คนอ่านก็ท้อแล้วขอรับ ควรจะจัดสรรค์หน้ากระดาษให้ดูดีน่าอ่านด้วยนะขอรับ(เพราะมันไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นคอม )

    พออ่านปุป(รีบกลับไปดูชื่อเรื่อง) สื่อออกมาเป็นบุคคลที่1โดยใช้บทพูดมากเกินไป ทำให้นิแฟนตา(นิยาย)ขาดมิติไป

    พอและ ไม่อยากติมาก(ติมะค่อยเก่ง) พยายามเข้านะ อย่าเพิ่งท้อถอย ถ้ามีโอกาสจะมาดูความเปลี่ยนแปลงนะ บะบาย

    BloodSeeker : the Legend of blood sword[ตอน:ตำนานดาบโลหิต]
    ฝากนิยายข้าน้อยด้วย ลองไปอ่านดูนะ(ข้าน้อยก็ไม่ได้แต่งเก่งหรอกนะ)
    แต่ก็ฝากลองไปอ่านดูด้วยละกัน(เม้นด้วยน้าค้าฟฟฟ เอิ๊กๆ)


    PS.  ฝากนิยายเรื่องBloodSeeker : the Legend of blood sword[ตอน:ตำนานดาบโลหิต] ด้วยนะขอรับ http://my.dek-d.com/lordpeony/story/view.php?id=294091
    Name : lordpeony< My.iD > [ IP : 203.113.32.8 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 / 18:30

     
    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นแรกนะคะ และก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ เราได้ไปแก้หน้ากระดาษมาแล้ว
    พอแก้เสร็จดูอีกที เราก็แต่งเยอะเหมือนกันนะเนี่ย 
     
    แล้วก็ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านนิยายด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่หลงเข้ามาหรือไม่ แต่ก็ดีใจแล้วแหละ (มันเป็นแค่ก้าวแรกเทานั้นเนอะ ต้องสู้ต่อไป)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×