คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 01 : จุดเริ่มต้นของตำนาน [Begin of the legend]
จิ๊บ ๆ เสียงนกร้องบ่งบอกถึงการมาเยือนของรุ่งอรุณ ร่างบางยังคงนอนขดตัวอยู่บนเตียง ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวคลอเคลียลงมาถึงกลางหลัง ล้อมใบหน้ารูปไข่ ให้ชวนมองยิ่งนัก เด็กสาวค่อยๆขยับตัว เปลือกตาเริ่มขยับ ทันใดนั้น
" ซ่า" น้ำเย็นถูกสาดเข้าใส่ร่างของเด็กสาวอย่างแรง ตามมาด้วยเสียงตะโกน 18 หลอดของผีสาว
"ชีจางๆๆๆๆๆๆๆๆ ตื่นได้แล้วๆๆๆๆๆๆๆๆ''
"รู้แล้วโว้ยๆๆ ยัยป้าคาเอเดะ นี่ ซาดิสชะมัดเลย จะปลุกให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรื่อไง เป็นผีแล้วยังจะสัปดนมารังแกคนอีก เดี๋ยวปั๊ดจับยัดลงหม้อซะเลยนี่'' เด็กสาวชันตัวลุกขึ้นโวยวาย นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มดูมีพลังอย่างน่าประหลาด
"ไม่ต้องมาว่าข้าเลยนะ เจ้าน่ะแหละ โตจนป่านนี้แล้วทำไมต้องให้ข้ามาปลุกทุกวี่ทุกวันด้วยห๊ะ มุระนามาสะจัง
เชอะ ! '' ผีสาวทำหน้าดุ สะบัดหน้าไปมองด้านตรงข้าม
" โหเจ๊ เรียกซะเต็มยศเชียว วันนี้มีอะไรมาจ้างให้ทำอีกป่ะเนี่ย''
"ฉลาดเป็นเหมือนกันนี่ เจ้าน่ะ '' ผีสาวชำเลืองตามามอง
"ก็เผอิญเมื่อวานข้าไปพบท่านอิจิมารุ เจ้านายของท่านอิจิมารุต้องการเรียกเจ้าไปพบก็แค่นั้น ''
" เจ้านายของผีดิบอิจิมารุ อ๋อ ไอ้ตาแก่หัวล้านมู่ลี่ที่ชื่อ โคเซน นั่นน่ะเหรอ ''ชีดีดนิ้วดัง เป๊าะ เมื่อนึกภาพที่เธอ
เคยไปพบตาแก่ที่ว่านั่นเมื่อ 2 ปีก่อน
"อ๊ะ เดี๋ยวนะว่าแต่ว่า แล้วจะเรียกไปพบเรื่องอะไรล่ะ'' ชีถามขึ้นอย่างสงสัย
" ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ยังไงเจ้าก็ต้องไปให้ได้นะ รู้มั้ย ''
" อืม.. มันก็โอเคอ่ะนะ ว่าแต่ไปแล้วได้เงินมั้ยล่ะ'' พอพูดถึงตรงนี้รอยยิ้มของชีเริ่มฉีกกว้าง
"แหมๆ พอพูดถึงเรื่องเงินล่ะก็ตาโตเชียว ทำไม๊ ทำไม เจ้าถึงได้หน้าเงินอย่างนี้นะ ทั้งๆที่แม่ของเจ้า อ๊ะ ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าท่านหญิงของข้า ออกจะเรียบร้อย เป็นกุลสตรี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ เหมือนดั่งเทพธิดามาจุติอออก
ขนาดนั้น ไม่น่ามีลูกสาวอย่างเจ้าเล้ย จริงๆนะถ้าเจ้า.. ''
" อั๊กๆ อื้อๆๆ เอ้าอำอะไออ่ะ (เจ้าทำอะไรน่ะ) '' คาเอเดะถลึงตาใส่เจ้าคนไม่เป็นกุลสตรี แล้วพยักเพยิดมาทางยันต์แผ่นโตที่ลอยมาปิดปากเธอเสียงดัง แปะ เมื่อตะกี๊นี้
"ก็ถ้าข้าไม่ทำอย่างนี้แล้วจะหยุดพูดมั้ยล่ะ" ชีทำหน้ายุ่ง
" แล้วข้าจะบอกไว้อย่างนะ ว่าถึงแม่ของข้าจะเป็นยังไงหรือเคยทำอะไรไว้ที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับข้า ข้าก็คือข้า แม่ของข้าก็คือแม่ของข้า การที่ข้านิสัยแบบนี้มันก็ไม่ได้หนักหัวใครสักหน่อยจริงไหม''
"เออ เออ อ้า เอ้า ไอแอ้ว แอ่ เอา อ้า อี้ ออกไอ อ๊ะ อี อิ่ '' ( เออ เออ ข้าเข้าใจแล้วแต่เอาผ้านี่ออกไปซะที่สิ ) คาเอ
เดะทำหน้าดุปนขอร้องเข้าใส่ ทำให้คนมองอดนึกเอาไปเปรียบไม่ได้
เหมือนลูกหมาขอร้องให้ช่วยเก็บอึ๊เลย ฮ่าๆๆ ชีคิดในใจ แต่บนใบหน้าก็มีเพียงรอยยิ้มนิดๆ ( ถ้าขืนขำออกไปได้
ซวยสามตลบน่ะสิ )
"เข้าใจแล้วๆ จะเอาออกให้เดี๋ยวนี้แหละ '' ชียิ้มแบบเจ้าเล่ห์แล้วก็เดินไปกระชากยันต์ผืนโตนั้นออกเสียงดัง
แคว้ก!
"โอ๊ย นี่เจ้าจะฆ่าข้ารึไง เจ็บแทบตาย ที่จริงร่ายมนต์เอาก็ได้นี่ อย่างนี้มันแกล้งกันชัดๆเลยนะ อย่าลืมสิแม่เจ้าฝาก
ให้ข้าดูแลเจ้า เพราะฉะนั้นข้าก็เหมือนกับผู้ปกครองของเจ้า ห้ามแกล้งข้าเด็ดขาดเข้าใจมั้ย''
"เข้าใจก็ได้ เข้าเรื่องกันดีกว่าตกลงว่าไปแล้วได้เงินใช่มั้ยล่ะ''
เมื่อคาเอเดะพยักหน้า ชีก็แย้มรอยยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
" งั้นเป็นอันว่าข้าไป ก็แล้วกัน บอกเวลาสถานที่มาได้เลย"
"เฮ้อ ข้าล่ะหนักใจกับเจ้าจริง จริ๊ง'' คาเอเดะส่ายหน้าอย่างปลงอนิจจังกับเจ้าคนหน้าเงิน
"ออดๆๆๆๆๆๆ''เสียงออดดังรัวขึ้น ที่หน้าศาลเจ้าโซมารุ โดยฝีมือของเด็กสาวนามมุระนามาสะ ชี
โดยมีผีสาวลอยกอดอกอยู่ข้างๆ
"โว้ย กดตั้งนานแล้วทำไมไม่เห็นมีใครออกมาต้อนรับเลยวะ แมร่ง หูหนวกกันหมดรึไง ไอ้คนบ้านนี้ หงุดหงิด วุ้ย'' ดูจากสีหน้าของเจ้าตัวบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างเด่นชัด
"นี่เจ้าก็ใจเย็นๆหน่อยสิ มาตั้งนมตั้งนานอะไรกัน ไอที่มายืนรอ มันผ่านมาถึง 2 นาทีรึยังเหอะ เจ้าน่ะหัดมีความ
อดทนกับชาวบ้านเค้าซะมั่งสิ ''
"ไม่เคยได้ยินเหรอเจ๊ที่เค้าว่า เวลาเป็นเงิน เป็นทอง แล้วดูดิ นัดข้ามาแล้วยังปล่อยให้รออีก ไอ้คนบ้านนี้มัน
รู้จักคำว่ามารยาทมั้ยเนี่ย ''ระหว่างนั้นประตูหน้าศาลเจ้าก้อเปิดออก เด็กหนุ่มในชุดยูกาตะเดินออกมาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เพราะดูเหมือนจะได้ยินที่ชีพูดเมื่อกี้ด้วย
"รู้จักสิขอรับ ท่านไม่เคยได้ยิน หรือ ว่าตระกูลโซมารุขึ้นชื่อเรื่องมารยาทมากเลยนะขอรับ''
" แล้วขึ้นชื่อด้านไหนล่ะ มารยาทดี หรือมารยาทยอดแย่กันหือ'' เจ้าตัวดีพูดแล้วยักคิ้วอย่างน่าถีบนัก
"ก็ต้องมารยาทดีอยู่แล้วล่ะขอรับ สงสัยว่าท่านจะไม่เคยออกไปเผชิญกับโลกภายนอกเลยหรืออย่างไร จึงไม่ทราบ
เรื่องนี้''
"เออ แล้วไอที่ให้มายืนรอจนขาจะแข็งตายอยู่แล้วนี่ มันหมายความว่าอะไร''
"เรื่องนี้ทางตระกูลโซมารุต้องขออภัยด้วยนะขอรับ เผอิญในบ้านกำลังยุ่งๆอยู่ ''เด็กหนุ่มพูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
" เอ้อๆ รู้จักขอโทษก็ดีแล้ว นึกว่าไอ้ตระกูลคนรวยจะหัวสูงจนขอโทษคนอื่นไม่เป็นซะอีก'' เจ้าตัวดียิ้มอย่าง
พอใจนักพอใจหนา ทำให้เส้นอารมณ์ของเด็กหนุ่มชักจะขาดซะแล้วถ้าคาเอเดะไม่มาห้ามปรามไว้ซะก่อน
"เรา ต้องขอโทษแทนแม่เด็กนั่นด้วยนะ เค้าก็เป็นอย่างนี้เสมอๆนั่นแหละ''
คาเอเดะชำเลืองหางตาไปมองตัวต้นเรื่องที่เดินลิ่วๆไปสบายใจเฉิบ ไม่ได้สนใจคนที่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำ
เมื่อกี้เลยสักนิด
" ไม่เป็นไรหรอกขอรับ ข้าไม่ถือสาเด็ก เพราะเด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ จริงๆท่านไม่ต้องลดตัวลงมาขอ
โทษกับคนรับใช้อย่างข้าก็ได้ท่านหญิงคาเอเดะ ''เด็กหนุ่มพูด น้ำเสียงแฝงความเจ็บใจไว้เล็กน้อย
" งั้น เราขอตัวก่อนนะ ขอให้เจ้าโชคดีนะจ๊ะพ่อหนุ่มน้อย'' คาเอเดะยิ้มให้ แล้วรีบตามชีไป
"นี่ๆๆเจ้าน่ะ ก่อนจะว่าคนอื่นหัดดูตัวเองซะมั่งสิ มารยาทของเจ้าน่ะมีมั่งมั้ย เมื่อกี้พ่อหนุ่มนั่นเกือบจะระเบิดอยู่
แล้ว เฮ้อ นิสัยแบบนี้ไม่รู้เกิดมาเป็นผู้หญิงได้ยังไง''คาเอเดะ ลอยตามเทศนาเจ้าคนก่อเรื่องมาติดๆ ในขณะที่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่สำนึกเอาซะเลย แถมยังเดินจ้ำๆไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจจะฟัง
" ชีจัง ! หัดฟังที่คนอื่นเค้าพูดซะบ้างจะได้มั้ย'' เจ้าตัวดีทำเป็นหูทวนลม เดินต่อไปอย่างกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และแล้วความซวยก็บังเกิด
"กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ '' คาเอเดะยืนเอ้ยไม่ใช่สิลอยแหกปากกรี๊ดอย่างเมามัน
"โว้ยเจ๊ จะแหกปากไปถึงไหนเนี่ยบ้ารึเปล่า สงสัยสมองจะกลับ''
"ฮึ'' คาเอเดะสะบัดหน้าไปอีกทาง
"อะไรวะเนี่ย งอนอยู่ได้บ่อยๆ ชิ น่ารำคาญชะมัด ช่างเหอะรีบไปดีกว่า ''
ว่าแล้วเจ้าตัวก็รีบเดินไปที่ประตูบ้าน เอ๊ย ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์ เอ๊ะหรือจะเป็นพระราชวังดี ตัดสินใจไม่ถูก
เลยแฮะ อ๊ะ ช่างเหอะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า
"ประตูไรฟะ ใหญ่ชะมัดแล้วงี้จะเปิดออกมั้ยเนี่ย'' ชีเงยหน้ามองประตูที่ใหญ่กว่าตัวเธอถึง10เท่า " ไม่รู้จะสร้างมาทำหอกอะไร ประตูนี่" ชีพูดออกจะประหลาดใจแกมหงุดหงิดหน่อยๆ
"เอ้า เอาก็เอาวะ'' ชีหลับตาลงมือทั้งสองประกบกันคล้าพนมมือ ฟู่ว ออร่าสีน้ำเงินของชีพุ่งสูงขึ้นไป 6 เมตร
( โอ้โห เว่อร์ดีมั้ยล่ะ ) ชีหมุนมือแล้วปล่อยพลังสีน้ำเงินเข้าใส่ประตู จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่น ไหว แป๊ะ กึกๆ
แกรกๆ ซี้ด ซ้าด ( เอ๊ะ เสียงเกาก้นรึเปล่าเนี่ย ) แกร๊ก ครืน ประตูที่เจ้าตัวเคยว่าใหญ่นักใหญ่หนาพังลงมาแหลก
เหลวแบบไม่เหลือชิ้นดี
"เฮ้อ ไม่อยากเสียแรงไปกับเรื่องพวกนี้เล้ย ''เด็กสาวลืมตาขึ้นพลางปัดไม้ปัดมือทางฝ่ายคาเอเดะที่เดิมหันหน้าไปทางอื่น รีบหันขวับกลับมา มองที่ประตู ทำหน้าตาค้างเติ่งอย่างกับเห็นผี ก่อนจะตวัดสายตามามองชีประมาณว่าฝีมือเจ้าใช่มั้ยและจบด้วยการพร่ำบ่นออกมาอย่างไม่ขาดสาย
"นี่ เจ้าทำอะไรลงไปเนี่ย รู้มั้ยว่าประตูนี่มันราคาเท่าไหร่ มันอยู่รอดปลอดภัยมากว่าพันปี เฮ้อ แล้วใครจะมาคิด
ล่ะเนี่ย ไม่ถึง 20 วิ ประตูนี่ก็แหลกเหลวไม่มีชิ้นดีซะแล้ว โอ๊ย ข้าคิดผิดรึเปล่าที่พาเจ้ามาข้าล่ะเวียนหัวจริงๆ''
ชีเหลือบตามามองคาเอเดะแบบขำๆ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปว่า
" ไม่ผิดมั้ง ก็... มาแล้วได้ตังค์ไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ได้ตังค์... ''.เจ้าตัวนิ่งไป "ข้าก็คงไม่มาแล้วล่ะ '' ก่อนพูดต่อจนจบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
" เออ ก็ถูกของเจ้านะ ว้ายไม่ใช่ๆ นี่ ข้าชักจะติดนิสัยเจ้าเข้าไปทุกวันแล้วนะ เวียนเฮ้ดจริงๆ '' คาเอเดะพูดพลาง
เอามือกุมขมับ คลึงไปมา ทำให้ชีอดขำไม่ได้
"เอาเถอะ เข้าไปกันได้แล้ว" คาเอเดะ บุ้ยใบ้ไปที่ทางเดินในห้องด้านใน
"ทำไมมันมืดอย่างนี้ล่ะคาเอเดะ ''ชีพูดเสียงสั่นครือพลางเบียดตัวเข้าไปชิดกับร่างของผีสาว
"เอ๊ะเจ้านี่ มาเบียดข้าทำไมกันยังไงเจ้าก็ไม่โดนตัวข้าอยู่แล้ว จะเบียดมาทำไมกันบ้าจริง '' คาเอเดะบ่นเพราะร่าง
ของเธอเริ่มหดๆหายๆจากแรงเบียดของชี
"แหม อย่างน้อยมันก็ทำให้อุ่นใจขึ้นบ้างล่ะน่า'' ชีตอบเสียงสั่น สายตาอ้อนวอน ร้องขอความเห็นใจถูกส่งมาให้ผี
สาวเป็นประกาย วิบวับ
"ใช้ไม่ได้เลย แค่นี้ก็กลัวแล้ว ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง ถ้าเจ้าไม่คิดมันก็ไม่มีอะไรหรอก เชื่อข้าสิ'' น้ำ
เสียงที่อ่อนลงของคาเอเดะจึงทำให้ชีชักอุ่นใจขึ้นมาบ้าง
หมับ เฮือก ! มือเย็นเฉียบวางแหมะบนไหล่ของชีอย่างที่เจ้าของมือนั้นไม่ได้คิดเลยว่าจะทำให้เจ้าคนที่ถูกจับกลัว
แค่ไหน
" เจ้าเป็นใคร'' เสียงร้องของชีดังขึ้นด้วยความตกใจ
"ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก วางใจได้ ''เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้น
"เจ้าคือ มุระนามาสะ ชี ที่นายท่านนัดไว้ใช่ไหม''
"อือ ถูกแล้ว '' ชีพึมพำในลำคอพร้อมกับพยักหน้าน้อยๆ
" งั้นเชิญทางนี้เลยนายท่านกำลังรออยู่ '' นายนั่นผายมือไปทางด้านหน้าประมาณว่า เชิญ แต่กลับเดินไปก่อนซะหนิ
"นายเป็นใคร ''ชีถามขึ้นหลังจากที่เดินมาสักพักแล้วนึกขึ้นได้ว่ายังไม่รู้เลยว่าเจ้าคนที่ตัวเองเดินตามต้อยๆมานี่
เป็นใคร กึก ควับ
"เฮ้ย '' ชีเผลออุทานออกมาอย่างไม่ตั้งใจ เพราะเจ้าคนที่เดินนำหน้าอยู่ดีๆก็หยุดหันหลังควับกลับมา เล่นเอาคนเดินตามตกอกตกใจไม่ใช่น้อย
"ขอโทษด้วยที่ผมลืมแนะนำตัว ผม อายามิ ไซโซ เป็นพ่อบ้านของที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จัก นี่ก็ถึงห้องของนายท่านแล้ว เชิญมุระนามาสะซังเข้าไปได้ ''
"อ๊ะ เดี๋ยวครับ'' เจ้าพ่อบ้านพูดขึ้นขณะที่คาเอเดะกำลังจะลอยตามชีเข้าไป
"นายท่านสั่งไว้ว่าให้มุระนามาสะซังเข้าไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น" คิ้วของคาเอเดะขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยแต่ก็ยอมถอยห่างออกมา แต่แล้วเสียงเจ้าปัญหาก็ดังขึ้น ...
"ทำไมคาเอเดะจะเข้าไปไม่ได้นายท่านของนายเค้าบอกว่าเข้าไปได้คนเดียวแต่ไม่ได้บอกว่าห้ามพาผีไปอีก1
ซักกะหน่อยหนิ."ชีหันหลังกลับมาพูดน้ำเสียงแฝงความไม่พอใจ
" แต่นายท่านบอกไว้ว่า...."
"ไซโซ อย่าเสียมารยาท เชิญท่านหญิงเข้ามาด้วยกันสิ'' เสียงของคนที่คาดว่าน่าจะเป็นนายท่านที่พ่อ
บ้านงี่เง่านั่นพูดถึง พ่อบ้านงี่เง่าจึงจำต้องสงบปากสงบคำเอาไว้โดยรู้สึกเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก
"ก็ได้ เชิญครับท่านหญิงคาเอเดะ''คาเอเดะทำหน้าละอายแทนเจ้าคนที่ไม่สมเป็นกุลสตรี
"เจ้า น้าเจ้า ที่จริงเจ้าเข้ามาคนเดียวก็ได้นี่ไม่เห็นต้องทำให้ไซโซเค้าเสียหน้าเลย'' คาเอเดะบ่นหลังจากที่ไซโซหันหลังเดินจากไป
"ก็ชั้นอยากให้ป้าเข้ามาด้วยนี่ อีกอย่างเค้าก็อุตส่าห์ให้เข้ามาแล้ว อย่าบ่นไปเลยน่าทำเป็นคนแก่ไปได้ ป้า-คา-เอ-เดะ เนอะ ฮิ ฮิ" ยิ้มกวนประสาทถูกส่งมาให้คนที่ถูกว่าๆแก่ทันใดนั้นเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ก็ขาดผึงทันที
"นี่เจ้า ! ''
"เอ่อขอโทษนะ ไม่ทราบว่าจะคุยกันอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย'' คาเอเดะกับชีหันขวับพบว่าเจ้าคนที่มาขัดจังหวะ
การฆาตกรรมของคาเอเดะคือตาแก่หัวล้านมู่ลี่ โคเซนที่ชีพูดถึงนั่นเอง
โคเซนมองทั้งคู่อย่างไม่ค่อยพอใจนักประมาณว่า นี่! ยังมีข้าอยู่อีกคนนะ ไม่เห็นหัวกันเลยรึไง
"สวัสดีท่านคาเอเดะและก็สวีดัดชีจังด้วย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะชีจัง แหมโตขึ้นเยอะเลยนะเรา" โคเซนทักทาย
ด้วยใบหน้าที่โล่งใจเพราะในที่สุดเขาก็มีตัวตนอยู่ในห้องนี้เสียที โดยมิได้สนใจชีที่กำลังแยกเขี้ยวใส่ อยู่เลย
"ชั้นบอกแล้วไงว่าอย่าเรียกชื่อชั้นอย่างนั้น ให้เรียกว่า มุระนามาสะซัง เข้าใจมั้ย" ชีพูดเน้นชื่อตนเองอย่างเด่นชัดนัยน์ตาลุกวาว
"พอซะทีน่ะชีจังเจอกันเป็นไม่ได้เชียวคู่นี้ เฮ้อ ทุกทีเล้ย"
เมื่อเห็นโคเซนทำหน้าประมาณว่าเห็นมั้ยๆพร้อมยักคิ้วไปให้ชี คาเอเดะหันไปทำตาดุใส่แล้วเอ็ดใส่
"ท่านก็เหมือนกันท่านโคเซน อายุก็ปูนนี้แล้วยังจะมาทะเลาะกับเด็กอีก รู้ว่าเค้าไม่ชอบแล้วยังจะไปเรียกเค้าอย่างนั้นอีก ใช้ไม่ได้เลยนะ" โคเซนหน้าจ๋อยไปทันที
"เอาเถอะๆ ที่ท่านเรียกชีจังมาก็เพราะมีธุระไม่ใช่หรอ คุยๆกันซะสิ"
"อ้อ จริงสินะ คือว่าชั้นมีงานให้เธอทำหน่อยน่ะ แต่ก่อนจะพูดชั้นว่าเธอมานั่งที่เบาะนี่ก่อนดีกว่ายืนอยู่ตรงนั้นคง
เมื่อยแย่" ชีเหลือบตาไปมองที่เบาะญี่ปุ่นบนเสื่อตาตามิก่อนจะตัดสินใจนั่งลงไป
"จ้อก" (เสียงรินน้ำชา)
"อ้ะนี่น้ำชาดื่มซะก่อนนะ ดีต่อสุขภาพ" โคเซนยื่นถ้วยชามาให้พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่ชีเห็นว่ามันน่าสยดสยองซะมากกว่า
"มีอะไรก็ว่ามาชั้นไม่ได้มีเวลาว่างมากนัก"ชีชักเริ่มรำคาญ โคเซนทำหน้าประหลาดใจ
"อ้าวก็ไหนท่านคาเอเดะบอกว่าวันนี้ว่างทั้งวันเลยนี่นา เอ้อช่างเถอะรีบๆพูดให้จบไปก็ดีเหมือนกัน
ชั้นต้องการให้เธอไปคุ้มครองเด็กผู้ชายคนนึงเค้าเป็นหลานชั้นเอง ชื่อ ซานาดะ โชตะ นี่รูปของเค้า หล่อใช่มั้ยล่ะ
พรุ่งนี้เค้าจะย้ายเข้าไปอยู่ในห้องเดียว โรงเรียนเดียวกับเธอ หน้าที่ของเธอคือคุ้มครองเค้าขณะที่อยู่ในโรงเรียน
และทุกๆที่พูดง่ายๆเธอก็เหมือนเป็นเงาตามตัวเค้านั่นแหละเค้าอยู่ที่ไหนเธอก็อยู่ที่นั่น เวลากลับบ้านก็ต้องไปส่ง
เค้าด้วยเวลาจะไปโรงเรียนก็ต้อง
"
"พอแล้วๆชั้นรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ค่าจ้างล่ะจะให้เท่าไหร่"
"ชีจัง นี่หน้าเงินไม่เปลี่ยนเลยนะ" โคเซนยิ้มเจ้าเล่ห์ "ชั้นล่ะชอบจริงๆไอ้นิสัยแบบเนี้ย ค่าจ้างเธอจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้เย็นนี้โทรมาบอกชั้นก็แล้วกัน ชั้นจะได้โอนเงินไปให้"
"มีแค่นี้ใช่มั้ย เงิน 10ล้านเยน โอนที่ธนาคาร ดึ๊กๆดำดุ๋ย สาขา กระบุ๋มบุ๋ย เลขบัญชี xxxx ได้เลย พรุ่งนี้ชั้นจะไป
ตรวจสอบ ถ้าไม่ครบ งานนี้ก็ยกเลิก"
"มุระนามาสะจัง" โคเซนเปลี่ยนวิธีการเรียกทำให้ดูเป็นการเป็นงานขึ้นแต่ก็ยังคงใช้คำลงท้ายว่า"จัง"อยู่เหมือน
เดิม
"ก่อนที่จะไป ชั้นมีของสิ่งหนึ่ง อยากจะให้เธอ"
" นี่คือดาบเขี้ยวมังกร ยูกิซาดากุระ ชั้นรับฝากมันไว้มานานแล้วถึงเวลาต้องคืนมันเสียที รับมันไว้ด้วย"ชีพลิกดาบสีขาวในมือไปมาก่อนขยับยิ้มอย่างถูกใจ
"ยูกิซาดากุระ อยู่กับชั้น คงทำงานหนักหน่อยล่ะนะ"
...................................................................................................................................................................................
"จ้อก แจ้ก แจ้ก จ้อก คร่อกๆฟี้ " เสียงเซ็งแซ่ในห้อง 1 A โรงเรียนมัธยมปลาย มิโซระ ต้องเงียบลงเพราะ อิรินางิ
ซาคุยะ หัวหน้าห้องสาวจอมดุเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกวาดสายตาเหี้ยมโหดไปทั่วห้องเป็นสัญญาณบอกให้ทุก
คนเงียบลง
"ขอต้อนรับทุกคน เข้าสู่ห้อง 1 A ชั้น อิรินางิ ซาคุยะ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าห้อง และเป็นประธานนัก
เรียนในชั้นปีนี้ด้วย ขอให้ทุกคนเคารพและทำตามกฎระเบียบของโรงเรียน มีความสามัคคีและมีน้ำใจต่อกันด้วย
นะ อ้อ วันนี้เรามีนักเรียนใหม่เข้ามา เชิญได้"
เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาเดินเข้ามา ผมสีม่วงเข้มจนทำให้เกือบดูเหมือนสีดำ ใบหน้าที่ดูสงบนิ่งเหมือนรูปสลัก นัยน์ตาสีม่วงอเมธิสต์ ดูลึกลับ และมีสเน่ห์อย่างน่าประหลาด รูปร่างสูงโปร่งและสง่างามแบบที่ไม่มีชายใดจะเทียบได้ ทำให้เด็กผู้หญิงทั้งห้องอ้าปากค้าง หน้าแดงแปร๊ดไปตามๆกัน จะมีก็แต่ชีที่ยังคงทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง หัวหน้าห้องสาวที่กำลังพยายามทำลายความเงียบนี้แต่ก็ทำไม่สำเร็จ กับพวกผู้ชายที่กำลังส่งสายตาอาฆาตไปให้เด็กหนุ่มผู้นั้น และแล้ว ...
" สวัสดี ผม ซานาดะ โชตะ เพิ่งย้ายมาจากต่างประเทศ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย ที่นั่งของผมล่ะคุณอิรินางิ" โชตะหัน
ไปมองหัวหน้าห้องสาวที่ส่งสายตาขอบคุณมาให้ แล้วเริ่มพูดต่อ
"เอ่อจะให้นายนั่งที่ไหนดีล่ะ" ซาคุยะทำท่าคิดหนักเมื่อสายตาของเด็กผู้หญิงทั้งห้องจ้องเขม่นมาที่เธอ ขณะนั้นทางด้านชีจังที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง หันกลับมาทันทีที่ได้ยินชื่อ ซานาดะ โชตะ สายตาจ้องไปที่เด็กหนุ่ม อย่างพิจารณา ยิ้มนิดๆกับความคิดของตน อย่างนี้สินะถึงต้องให้ชั้นมาคุ้มครอง อโพซลุส คนที่ 4 ตัวแทนแห่งคนบาป ช่างสง่างาม สง่างามจนเกินกว่าที่จะเป็นมนุษย์ คิดอะไรไปเพลินๆพลันหนังตาก็เริ่มหย่อนลงอย่างช่วยไม่ได้ ชีฟุบหน้าลงกับโต๊ะเข้าสู่ห้วงนิทราในทันที ระหว่างนั้นซาคุยะก็ตัดสินใจได้พอดี
"อ๊ะรู้แล้ว โชตะคุง ไปนั่งกับมุระนามาสะซังก็แล้วกัน ตรงนั้นว่างอยู่ใช่มั้ย "
"หา"ทุกคนในห้องร้องพร้อมกันทันที
"ไม่มีหา ต่อจากนี้ขอให้ลุกขึ้นยืนแล้วแนะนำตัวทีละคนเริ่มจากแถวแรกเลยละกัน"
"สวัสดีครับผมชื่อนานาฮาระ ชินสุเกะ" ชายผมสีน้ำเงินลุกขึ้นแนะนำตัว
"สวัสดีค่ะ ชั้นนานาฮาระ มิโยโกะเป็นฝาแฝดกับชินสุเกะคุงค่ะ" เด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนกับชินสุเกะเปี๊ยบเว้นแต่โครงหน้ากับเสียงดูหวานกว่าผมสีน้ำเงินของเธอยาวมาถึงกลางหลัง และอีกหลายๆคนก็แนะนำตัวผ่านไป จนมาถึงมาถึงโชตะและชี
"สวัสดีอีกครั้ง ผมซานาดะ โชตะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย"
"แล้วจะฝากหัวใจด้วยมั้ยจ๊ะ " ผู้หญิงไม่แต๊ คนหนึ่งพูดขึ้น ทำเอาโชตะหน้าแดงระเรื่อ เท่านั้นแหละเสียงกรี๊ดของ
เด็กผู้หญิงดังกระหึ่มไปทั่วห้องชีที่หลับอยู่ลืมตาโพลงเมื่อได้ยินเสียงที่รบกวนการนอนของเธอ พรึ่บ! " ชั้น ! มุระนามาสะ ชี" ชีกวาดสายตาไปที่ผู้หญิงในห้องหน้าตาไม่พอใจสุดขีด
"อย่ามากรี๊ดอะไรแถวนี้นะ จะมาขอส่วนบุญไอ้หมอนี่หรือไง มันไม่ใช่เทวดาอะไรซักหน่อย กรี๊ดกันไปหาอะไร คนกำลังจะหลับจะนอนหัดมีมารยาทซะมั่งเซ่"
"จะกรี๊ดอะไรกันนักหนาน่ารำคาญชะมัดพวกผู้หญิงนี่" ชีพึมพำหลังจากทำให้ทั้งห้องเงียบกริบเหมือนป่าช้า ขณะที่โชตะยังคงหน้าแดงไม่หาย
"เลิกหน้าแดงซะทีเหอะ คงไม่เคยเจอแบบนี้สินะ เฮ้อ แต่นายก็ต้องทำตัวให้ชินล่ะนะ ไม่งั้น ชั้นคงลำบากแย่" ชียิ้มอย่างปลงๆ
"ลำบากงั้นเหรอ" โชตะทวน
"ยังไง"
"แล้วปู่นายไม่ได้บอกรึไง ว่าจ้างให้ชั้นมาคุ้มครองนาย" โชตะส่ายหน้า
"ชั้นไม่มีปู่ ปู่ชั้นตายไปตั้งนานแล้ว"ดวงตาของโชตะเศร้าหมองลง แค่แวบเดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ
"งั้นเหรอก็ไอ้หัวล้านมู่ลี่โคเซน มันบอกว่านายเป็นหลานไม่ใช่รึไง เอ้อ ช่างเถอะชั้นจะคิดไปให้หนักกบาลทำไม"
"โคเซนงั้นเหรอ" โชตะพึมพำ
"โซมารุ โคเซนใช่มั้ย" ชีพยักหน้า ทันใดนั้นสีหน้าของโชตะก็เริ่มเครียดจัดถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพึมพำคำพูด
ออกมาเบาราวกับเสียงกระซิบ "เอาอีกแล้วนะท่านพ่อ"
เวลาที่ล่วงเลยทำให้ท้องฟ้าสีครามแปรเปลี่ยนเป็นสีที่มืดมิดแห่งรัตติกาล หากแต่ยังมีชายหนุ่มผู้
หนึ่งยืนรับลมอยู่บนยอดของเสาไฟฟ้า ผมสีม่วงเข้มของชายหนุ่มพริ้วไหวไปตามสายลม นัยน์ตาคู่สวยสงบนิ่ง
ขณะที่ทอดสายตาไปยังท้องฟ้าที่มืดมิด ชายหนุ่มถอนหายใจ ราวกับจะสมเพชในโชคชะตาของตนเอง
เมื่อ 1000 ปีก่อนโลกถูกควบคุมด้วยพลังอันชั่วร้ายของผู้ที่เรียกตนเองว่า เฮเดส ประชากรบน
โลกต่างพากันล้มตาย ความเสียหายลุกลามไปยังโลกทั้ง 5 คือ โลกมนุษย์ [Earth] โลกวิญญาณ[Spirit] โลก
ปิศาจ [Evil] โลกแห่งภูต [Genii]และโลกสวรรค์ [Heaven] เหล่าผู้นำของโลกทั้งห้าจึงคิดหาวิธีล้มล้าง
ความชั่วร้ายนี้
ไวส์ซิลิน เทพแห่งสวรรค์จึงเสนอให้แต่งตั้งตัวแทนจากโลกทั้งห้า ตัวแทนจะต้องมีสายเลือดที่
บริสุทธิ์ ที่สำคัญที่สุดคือจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับเลือกจาก Ra มหาเทพผู้สร้างโลกเท่านั้น เมื่อตัวแทนทั้งห้ามารวม
กันจะก่อเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถชำระล้างทุกสิ่งได้ เราเรียกตัวแทนเหล่านั้นว่า "อโพซุลุส"
อันที่จริงพิธีกรรมนี้มีมานานหลายชั่วอายุคนแต่เป็นวิธีการที่อันตราย คือเมื่อตัวแทนได้ใช้พลัง
นั้นไปแล้วร่างกายก็จะสูญสลายไปทันที พิธีกรรมนี้จึงกลายเป็นพิธีกรรมต้องห้าม แต่เมื่อเป็นหนทางสุดท้ายที่
จะรอดชีวิต ผู้นำทั้งห้าจึงตกลงทำพิธีกรรมนี้ด้วยตนเอง ซึ่งนำพาการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ มาสู่โลกทั้งห้า
นับจากนั้นมาก็ไม่มีใครพูดถึงพิธีกรรมนั้นอีก พิธีกรรมนั้นถูกบัญญัติให้เป็นพิธีกรรมต้องห้าม
นบัดนี้มันต้องถูกนำมาใช้อีกครั้งเพื่อต่อกรกับอำนาจใหม่ของผู้ที่สืบเชื้อสายมาจาก เฮเดส " เฮเดอัส " ด้วยเหตุนี้
เขาเจ้าชายแห่งโลกปิศาจ ผู้ได้รับเลือกจากมหาเทพ จึงต้องเดินทางมายังโลกมนุษย์ เพื่อประกอบพิธีกรรมนั้น
รอยยิ้มเศร้าหมองปรากฏขึ้นบนใบหน้ารูปสลักของชายหนุ่ม ฉับพลันร่างทั้งร่างก็หายวับไปทันที
ความคิดเห็น