คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : Good Old Friend เพื่อนเก่าเพื่อนแก่
“เด็กคนนั้นกำลังจะมีภัยในอีกไม่ช้า ท่าทาง ‘พวกนั้น’ จะรู้เรื่องเด็กคนนั้นแล้ว” เสียงชายชราดังขึ้น แม้จะพยายามดัดให้นิ่งเฉยราบเรียบ แต่ก็ไม่อาจปิดบังความร้อนใจและความทุกข์ไว้ได้
“ ‘เจ้านั่น’ รู้แล้วล่ะ แต่อย่าร้อนใจไปเลย” เสียงอ่อนหวานกังวานเสนาะ ไพเราะดั่งดนตรีหากหนักแน่นทรงพลังราวขุนเขาของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น เสียงนั้นราบเรียบราวกับไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร
“ทุกอย่างย่อมมีกาลและเวลาของมัน” นั่นคือเสียงสุดท้ายจากปากของสตรีสูงสักดิ์ ก่อนที่คลื่นใหญ่จะโหมกระหน่ำเข้ามา
---
ซ่า...
น้ำเย็นฉ่ำสาดเข้าเต็มหน้า ทำเอาเด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิงที่หลับอยู่ถึงกับตื่นเต็มตา แถมสำลักน้ำจนต้องลุกขึ้นมาไออย่างเอาเป็นเอาตาย
“ตื่นสักทีสินะเรอิส” ฟาร่าทัก โดยที่ถังน้ำหลักฐานยังคงคามือ
“จะฆ่ากันรึไง นี่มันวันเสาร์นะ” หลังจากที่ไอระลอกใหญ่จนหายสำลักน้ำแล้ว คนโดนปลุกด้วยวิธีพิสดารก็โวยวายพลางนั่งสั่นระริก
“นายอย่าลืมสิ วันนี้เรามีนัด” เด็กสาวกล่าวอย่างร่าเริง ก่อนฉุดกระชากลากถู คนเพิ่งตื่นไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเตรียมออกจากบ้าน
เด็กหนุ่มทำได้เพียงปล่อยตัวเองไปตามแรงลากของเพื่อนสนิท พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ชีวิตช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่รู้จักลูเซียและฟอลคอน หาได้สงบสุขไม่ นอกจากจะโดนเพื่อน ๆ แซวแล้ว ยังโดนลูเซียตามสืบ และโดนครูฟอลคอนจ้องตาให้ตกใจอยู่ตลอดเวลา
...เอาชีวิตสงบสุขคืนมา...
---
ทั้งสองเดินไปสมทบกับมาร์คัสที่ตลาดเลดี้โจฮันนาอยู่ครู่ใหญ่ ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากมาเที่ยวเล่นธรรมดา จนกระทั่ง...
“เรอิส! นั่น...” ฟาร่าร้องพลางชี้ไปทางร้านขายขนมอย่างตื่นเต้น ทันใดนั้นภาพความทรงจำเมื่อวันวานก็หวนคืนมา
…
“นายต้องไปแล้วเหรอ”
“ใช่ ฉันต้องย้ายเมืองวันนี้แหละ”
“พวกเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ” เรอิสกล่าวพร้อมฝืนยิ้ม
“สัญญานะอิคลีปส์ เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป” ฟาร่าขอ พร้อมกุมมือเพื่อนรักไว้
เด็กหนุ่มผิวคล้ำเกี่ยวก้อยฟาร่าและเรอิสไว้แนบแน่น
“ฉันสัญญา เราสามคนจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป”
ทั้งสามกอดร่ำลากันเนิ่นนาน หลังจากนั้น อิคลีปส์จึงยอมให้ชายผู้นั้นกระชากตนจากเพื่อน ๆ ไป
“เราจะได้พบกันอีก... ใช่ไหม” ฟาร่าถามเพื่อความแน่ใจเป็นครั้งสุดท้าย
“แล้วเราจะได้พบกันอีก”
...
“ไง พวกนาย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ“
น้ำเสียงทุ้มเข้มมีพลังดังมาจากทิศที่ฟาร่าชี้ เจ้าของเสียงแทบวิ่งตรงมาหาทั้งสาม เป็นเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งแข็งแรงผิวสีน้ำผึ้งรุ่นคราวเดียวกับเรอิสและฟาร่า ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลา ตัดกับเรือนผมสีเงินแซมทองอ่อน ดวงตาสีฟ้าอ่อนฉายแววเฉลียวฉลาดปนลึกลับ แม้แต่งตัวเรียบง่ายอย่างวัยรุ่นทั่วไปแต่ก็ดูภูมิฐานและสง่างาม
“อิคลีปส์ คิดถึงจังเลย” ฟาร่าร้องอย่างยินดีพลางวิ่งไปกอด
“ฉันก็คิดถึงเหมือนกัน แต่เธอไม่ต้องคิดถึงมากขนาดนี้ก็ได้นะฟาร่า ฉันหายใจไม่ออก” เด็กหนุ่มผิวคล้ำแปลกหน้ากล่าวกลั้วหัวเราะ แม้น้ำเสียงจะไม่ค่อยดีด้วยแรงกอดของเด็กสาว เรอิสเห็นภาพตรงหน้าก็อดขำไม่ได้
“จะให้ฉันไม่คิดถึงได้ไงล่ะ ก็นายเล่นไม่เคยส่งข่าวคราว ไม่เคยมาเยี่ยมกันเลยนี่” เด็กสาวแย้ง ก่อนกอดแน่น ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระจากอ้อมแขนให้หายใจได้สะดวกขึ้น
“เกือบลืมไปเลยอิคลีปส์ นี่มาร์คัส แฟนฉันเองนะ”
“มาร์คัส นี่อิคลีปส์ เพื่อนฉันกับเรอิส อยู่ด้วยกันมาจนถึงม.3”
ฟาร่าแนะนำเด็กหนุ่มผิวคล้ำทั้งสองให้รู้จักกัน อิคลีปส์ยิ้มให้อย่างสบาย ๆ หากมาร์คัสกลับมองเจ้าของผมสีเงินปนทองไม่วางตาอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ฟาร่า เธอนี่ก็เสน่ห์แรงใช่เล่นนะ มีผู้ชายมาจีบด้วย” อิคลีปส์แซวเพื่อนสาว แต่มาร์คัสกลับไม่สนุกด้วย
หลังจากที่ทำความรู้จักกันพอเป็นพิธีแล้ว อิคลีปส์จึงเริ่มประเด็นใหม่ที่ทำให้วงสนทนาพลิกโผทันที
“ว่าแต่ เรอิส ความสัมพันธ์ของนายกับเด็กใหม่เป็นไงมั่งล่ะ ชื่ออะไรนะ... อ้อ ลูเซีย”
อิคลีปส์ถามด้วยน้ำเสียงแกมหยิกแยมหยอก ทำเอาเรอิสถึงกับสะดุ้งโหยง
“น...นายรู้เรื่องนี้ได้ไง ใครบอกนายหา!”
เรอิสโวยวาย พร้อมคว้าคอเสื้ออิคลีปส์มาเขย่าเค้นคำตอบ หากคนโดนประทุษร้ายกลับแทบกลั้นหัวเราะไม่ได้อย่างขำขันกับท่าทางของเด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิง
“ก็เขาลือกันให้แซ่ดทั้งห้องแล้วว่านายไปทำอะไรมา จะให้ไม่รู้ได้ไง”
เด็กหนุ่มผิวคล้ำตอบด้วยท่าทางสบาย ๆ ราวกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่หาได้ธรรมดาสำหรับเรอิสไม่
“แล้วก็ ลูเซียกับฟอลคอนน่ะ... อ่า... ญาติฉันเอง”
คำพูดของอิคลีปส์ทำเอาฟาร่าถึงกับตาโตอย่างไม่เชื่อหู ส่วนเรอิสที่อึ้งอยู่แล้วก็ถึงกับแทบช็อคจนอยากเอาหัวโขกคนตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอด
“ลูเซียเป็นใคร ต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ทำไมลูเซียกับไอ้ครูฟอลคอนพันธุ์ดุถึงต้องมาตามรังควาญฉันนักหนา” เรอิสโวยวายอีกรอบ พร้อมเขย่าคอเสื้ออิคลีปส์สุดแรงแขน
“เย็นไว้ก่อน ฉันเป็นญาติลูเซียกับฟอลคอนก็จริง แต่ก็เป็นญาติห่าง ๆ เกือบไม่ใช่ญาติ ฉันก็เพิ่งรู้จักก่อนพวกนายไม่กี่วันเอง ดังนั้น พวกเขาทำอะไรยังไงที่ไหน ฉันไม่รู้เรื่องอะไรหรอก” เด็กหนุ่มตอบเสียงซื่อ ๆ แต่เรอิสก็ยังแคลงใจ
“รังควาญเรอิสขนาดนี้ นายเป็นพวกเดียวกับไอ้ฟอลคอนนั่นสินะ” มาร์คัสโพล่งถามขึ้นมาเสียงแข็ง ดวงตาสีเลือดหมูจ้องอิคลีปส์เขม็ง ทำเอาอีกสามคนถึงกับตกใจ
“ทำไมฉันถึงต้องเป็นพวกเดียวกับฟอลคอนด้วยล่ะ ถึงเป็นญาติห่าง ๆ แต่ก็แทบไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” อิคลีปส์ตอบน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนเลิกสนใจแฟนของเด็กสาว
“มาร์คัสนี่ก็หาเรื่องอิคลีปส์จัง หึงเหรอ” ฟาร่าถามแกมหยอกแฟน หากเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ไม่เล่นด้วย
“ว่าไป พวกนายไม่ได้เล่นฟันดาบกันมาหลายปีแล้วเนอะ อยากรู้จังว่าฝีมือเป็นยังไงกันมั่ง” พอไม่รู้ว่าสถานการณ์จะชวนให้เรอิสกระอักกระอ่วนต่อไปได้ถึงไหน ฟาร่าจึงเปลี่ยนประเด็นทันที ซึ่งก็เป็นเสมือนระฆังที่ช่วยชีวิตเรอิสได้
“เยี่ยมไปเลย ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าอดีตรองประธานชมรมฟันดาบได้ฝึกอะไรเพิ่มหรือเปล่านับจากเมื่อสามปีที่แล้ว” อิคลีปส์เห็นด้วยอย่างยิ่งกับฟาร่า เขามองตาเรอิสพร้อมยิ้มกว้าง
“ฉันก็อยากเห็นฝีมือนายเหมือนกัน อิคลีปส์ เนห์คาร์ด อดีตประธานชมรมฟัน” เรอิสซึ่งพอจะอารมณ์เย็นลงมาบ้างแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยปนเย้ยหยัน ก่อนทั้งสองจะเดินกอดคอไปชมรมดาบด้วยกัน
---
“นี่ ฟาร่า”
“อะไรเหรอ”
มาร์คัสกับฟาร่าที่เดินตามหลังอิคลีปส์กับอิคลีปส์แอบกระซิบกันสองคน สายตาของเด็กหนุ่มผมสีดำมองเพื่อนเก่าของเรอิสอย่างแข็งกร้าว ราวกับพร้อมจะเอาเรื่องตลอดเวลา
“ฉันไม่ไว้ใจเจ้าอิคลีปส์นั่นเลย สีหน้าท่าทางเจ้าเล่ห์แบบนั้น ยังไงก็มาไม่ดีแน่” มาร์คัสบอกฟาร่าอย่างตรงไปตรงมา
“นั่นเพื่อนเก่าฉันกับเรอิสนะ รู้จักกันมาแต่อ้อนแต่ออก นายจะไปรู้จักเขามากกว่าพวกเราได้ยังไง” ฟาร่าตอบกลับอย่างไม่ชอบใจ ก่อนจะหยอกกลับ
“หรือว่าที่จริงนายหึงฉันล่ะ นายอิจฉาเขาใช่ไหมที่ฉันโดดกอดเขาน่ะ”
“ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะฟาร่า” เด็กหนุ่มร่างใหญ่ตอบเสียงแข็งโดยไม่ได้กระซิบ อย่างน้อยก็ดังจนอิคลีปส์แทบหันขวับกลับมามอง
“อะไรน่ะ” อิคลีปส์ถาม
“อย่าไปสนใจเลยน่า ผัวเมียทะเลาะกัน เรื่องปกติ” เรอิสตอบอย่างไม่ใส่ใจ
---
ทั้งสี่เดินมาถึงห้องชมรมฟันดาบ แม้ห้องจะปิดล็อคอยู่ แต่อิคลีปส์เอาลวดงัดแงะประตูเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
สองหนุ่มใส่ชุดเกราะและเลือกดาบของตน เรอิสเลือกดาบยาวที่น้ำหนักเบา ใช้ง่ายถนัดมือสองเล่ม เขายิ้มอย่างมั่นใจ ดาบคู่นี่แหละเป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวที่เขาเคยใช้สยบอิคลีปส์มาแล้ว
อิคลีปส์ใช้ลวดงัดแงะเปิดตู้กระจกเก็บของสำคัญในชมรม หยิบดาบที่อยู่ในฝักสลักลายมังกรสวยงามออกมา แม้ไม่ใช่ดาบที่ใช้ฆ่าฟัน แต่ก็เป็นดาบที่ใช้ในการแข่งขันระดับมืออาชีพ จึงไม่ได้ใช้ง่ายน้ำหนักเบาอย่างดาบทั่วไปในห้อง
“ฉันไม่ออมมือนะ เรอิส”
“ฉันกะแล้วว่านายต้องพูดแบบนี้”
ทั้งสองเดินไปประจำตำแหน่งหน้าห้องชมรม ในเวทีจำลองที่ใช้ชอล์คขีดไว้ ดวงตาสีฟ้าอ่อนกับนัยน์ตาคู่งามสีน้ำตาลฉายประกายแน่วแน่ จ้องประสานกันราวกับสื่อใจถึงกันได้
“จากนี้ไปจะเป็นการประลองระหว่างเรอิส เรย์แลน กับอิคลีปส์ เนห์คาร์ด... เริ่มได้!”
ทันทีที่ฟาร่ากล่าวเปิดงานจบ เด็กหนุ่มทั้งสองก็วิ่งตรงเข้าฟาดฟันกันทันที ในดวงตาทั้งสองคู่เต็มไปด้วยประกายมุ่งมั่น ว่าจะไม่มีวันอ่อนข้อหรือยอมแพ้ให้อีกฝ่ายแน่
เคล้ง! เคล้ง!
เสียงดาบตวัดแหวกอากาศและกระทบกันดังอย่างไม่ขาดสาย ทั้งสองผลัดรุกผลัดรับ ฟาดฟันกันอย่างสูสี แม้จะเป็นเพียงการเล่นฟันดาบกัน แต่ทั้งคู่ก็จริงจังด้วยเกียรติแห่งลูกผู้ชายและด้วยตำแหน่งอดีตประธานชมรมกับรองประธานชมรม
“ไม่เลว ๆ คราวนี้ฉันจะเอาจริงล่ะนะ”
ทันทีที่อิคลีปส์พูดจบ เพลงดาบของเขาก็เปลี่ยนไป รวดเร็ว คล่องแคล่ว และเฉียบขาดขึ้น ราวกับว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงการลองเชิง จากที่สูสีตอนนี้เรอิสเริ่มเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด เขาทำได้เพียงตั้งดาบป้องกันอย่างยากลำบาก โดยไม่อาจหาช่องว่างโต้ตอบได้เลย ฝีดาบชองอิคลีปส์เฉียบขาดจนฟาร่ากับมาร์คัสถึงกับมองตาไม่กะพริบ
“ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป นายเสียคะแนนบานเลยล่ะ”
อิคลีปส์ต้อนเรอิสจนแทบหงายหลังหลุดออกจากเวที หากคนเสียเปรียบยังยืนยันจะไม่ยอมแพ้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มยังคงแน่วแน่เช่นเดิม
เด็กหนุ่มผิวคล้ำฟาดดาบสุดท้ายปิดเกมเต็มแรง หากคนใกล้แพ้ยกดาบขึ้นตั้งป้องกันได้อย่างทันท่วงที ทว่า...
ดาบคู่ในมือเรอิสกลายเป็นสีแดง ทั้งคนหน้าสวยและอิคลีปส์รู้สึกได้ถึงไอร้อนประหลาดจากดาบทั้งสอง โดยเฉพาะอิคลีปส์ที่ถึงกับแทบจับดาบไม่ไหว แต่ก็ยังฝืนกำดาบแน่น ฟาดเข้าซัดเรอิสให้หนักขึ้น
ดาบแกร่งของอิคลีปส์สามารถผ่ากลางดาบคู่ของเรอิส... ไม่สิ ดาบคู่ของเรอิสผ่าทะลุดาบของอิคลีปส์... ไม่สิ...
...ดาบทั้งสามหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นประติมากรรมประหลาด...
พออิคลีปส์กับเรอิสเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองถึงกับตกตะลึงกับเรื่องเหนือธรรมชาติ โดยเฉพาะเรอิสที่ถึงกับนิ่งค้างราวกับถูกสาป
...เกิดอะไรขึ้นนะ เหมือน ร้อนวาบไปทั้งตัว และเรื่องดาบนั่นมันอะไรกัน...
ท่ามกลางความชุลมุนนั่นเอง ฟาร่าเหลือบไปเห็นเพื่อนนักเรียนหญิงที่คุ้นเคยอยู่ที่มุมห้องไม่ไกลนัก
“อ้าว ลูเซีย...” เด็กสาวรีบหลบเข้ามุมตึกทันทีที่ได้ยินฟาร่าทัก อิคลีปส์พอจะสัมผัสได้ถึงเค้าลางความวุ่นวาย ทางออกที่ง่ายที่สุดของทุกปัญหาจึงบังเกิด
...มีคนเห็นแล้ว เผ่นเถอะ...
อีคลีปส์จับมือเรอิสกับฟาร่า พาทั้งสองวิ่งหนีสายตาลูเซียทันที โดยหวังว่านักเรียนใหม่จะไม่ปากสว่าง และพวกตนจะไม่ถูกเปิดโปงว่าลักลอบเข้าโรงเรียนและแอบวางเพลิงปริศนา
---
ตอนนี้เหลืออยู่เพียงเพื่อนรักสามคนที่ร้านกาแฟ โดยมาร์คัสไม่ได้ตามมาสมทบด้วย ตรงหน้าพวกเขาคือเค้กก้อนใหญ่
“สุขสันต์วันเกิดนะ เรอิส” ฟาร่ากับอิคลีปส์กล่าวขึ้นพร้อมกัน ก่อนทั้งสามจะยกน้ำส้มขึ้นชนแก้ว และเป่าเค้ก กินเค้กฉลองวันเกิดกันตามประสาเพื่อนเก่า
---
หลังจากที่ฉลองกันอย่างสนุกสนาน งานเลี้ยงก็เลิกราเมื่อเค้กหมด ทั้งสามพูดคุยเรื่องจริงจัง
“นายจะบอกว่า ความฝันแปลก ๆ ของนาย แล้วไอ้ที่ดาบละลายนั่น เกี่ยวข้องกับลูเซียสินะ”
อิคลีปส์ถามเสียงเครียดหลังจากที่ได้ยินความฝันทั้งหมดของเรอิส
“ใช่.. ก่อนวันที่เจอลูเซีย ฉันไม่เห็นจะฝันอะไรเป็นพิเศษเลย หยิบจับอะไรก็ไม่เคยเห็นจะละลาย”
พอได้ยินเช่นนั้น ทั้งสองก็รู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝันธรรมดา ๆ แต่มีความหมายอะไรสักอย่างแน่นอน
...ทำไมคนที่ต้องเผชิญทุกอย่างต้องเป็นเรอิสด้วยนะ...
หลังจากที่คุยกันมานานแต่หาคำตอบไม่ได้ อิคลีปส์ซึ่งเคร่งเครียดมานานจึงยุติบทสนทนาหนักสมอง เขามอบถุงเล็ก ๆ ให้เรอิส
“ฉันไม่ค่อยมีเวลาเลือกซื้อของขวัญนักหรอกนะ ยังไงก็ สุขสันต์วันเกิดนะเรอิส” อิคลีปส์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม... หากเศร้าอย่างผิดสังเกต
เด็กหนุ่มหน้าสวยหยิบ ‘ของขวัญวันเกิด’ ออกมาดู เป็นจี้ห้อยคอรูปดาบไขว้กัน เขาห้อยจี้ไว้ที่คอพลางยิ้มน้อย ๆ อย่างชื่นชม
“จี้เท่มากเลย ขอบใจนะอิคลีปส์”
“เรอิส ตอนนี้นายก็อายุสิบแปดแล้ว จากนี้ไปชีวิตของนายจะต้องเจออะไรอีกมาก ขอให้นายเข้มแข็งไว้นะ ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ” อิคลีปส์ลุกขึ้นยืน อวยพรเรอิสด้วยน้ำเสียงและท่าทางจริงจังจนผิดสังเกต
“แล้วเราจะได้พบกันอีก” เด็กหนุ่มผิวคล้ำทิ้งท้าย ก่อนฝากเงินค่าขนมไว้ที่ฟาร่าและรีบลุกขึ้นเดินจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง ไม่ทันให้อีกสองคนได้ลา
ฟาร่ามองตามเพื่อนรักของตนไป เหลือบไปเห็นเขาวิ่งไปสมทบกับเด็กสาวผมสีเงินคนหนึ่ง ทั้งสองคุยกันอยู่ครู่หนึ่งด้วยท่าทางเหมือนอยู่เหนือเขาก่อนเดินจากไป แม้ไม่อยากก้าวก่ายแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นใครกันแน่ เธอรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างในตัวเด็กสาวแปลกหน้าคนนั้น จึง
...ใครกันนะ ดูไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ไม่น่าใช่เพื่อน ไม่น่าใช่แฟน...
แปลกดีนะ ไม่เคยเห็นอิคลีปส์ก้มหัวให้ใครเหมือนพ่อบ้านในหนังเลย...
ความคิดเห็น