คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 : จุดสตาร์ทของเขาทั้งสอง
ดวงตะวันตกดินไปได้ครู่ใหญ่แล้ว บรรยากาศรอบข้างตึกชมรมว่ายน้ำของโรงเรียนประถมอิวาโทบิดูเงียบเหงาวังเวงราวกับขาดคนดูแลมาเป็นปีๆ ผนังที่เคยประดับด้วยสัญลักษณ์ประจำชมรม รูปปลาโลมา และเด็กน้อยในชุดว่ายน้ำสีสดใส ยามนี้สีหม่นและลอกหลุดออกหมดจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้ว แต่ภาพความทรงจำของ “พวกเขา” ยังคงอยู่ในใจ
วันนี้ พวกเขาก็กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง... ครั้งสุดท้ายก่อนความทรงจำแสนหวานวัยประถมจะถูกทุบทิ้งไป
...แม้ว่าหนึ่งในพวกเขาจะไม่อยู่ที่นี่ด้วยก็ตาม...
---
“ฮารุจัง มาโกะจัง ดูสิๆ โค้ชซาซาเบะทิ้งหนังสือนวลนางชุดว่ายน้ำไว้นี่ด้วยแหละ”
“ยังอยู่อีกรึนี่ รูปโลมาที่ฉันกับฮารุเคยวาด”
“ฉันจำได้แม่นเลยล่ะมาโกะจัง ตอนนั้นนายวาดซะกลมไปทั้งตัว ฮารุจังเลยต้องวาดแก้ให้ใหม่หมด ฮารุจังนี่สุดยอดจริงๆ เลยนะ”
มาโคโตะกับนางิสะวิ่งสำรวจรอบห้องล็อกเกอร์ พลางพูดคุยโหวกเหวก รำลึกถึงวันวานสมัยประถมกันอย่างสนุกสนาน
ฮารุกะพิจารณารอบๆ ห้องล็อกเกอร์ รอบๆ ชมรมว่ายน้ำ เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายเสียงหัวเราะและความทรงจำของ “เขาคนนั้น” ลอยอยู่ในอากาศ
ทันทีที่ดวงตาสีฟ้าเห็นตู้ล็อกเกอร์ของ “อีกคน” ที่เคยอยู่ที่นี่กับพวกตน แววตาที่เคยสงบนิ่งก็กลับวูบไหวขึ้นมา
…
...เมื่อห้าปีที่แล้ว ณ โรงเรียนประถมอิวาโทบิ...
ทั้งสี่คนเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว ในห้องล็อกเกอร์เหลือเพียงรินกับฮารุกะเท่านั้น
นัยน์ตาสีแดงกับดวงตาสีฟ้าคู่งามจ้องประสานกันอย่างเงียบงัน ไม่มีใครพูดอะไรกันอยู่พักใหญ่ รินดูท่าทางจริงจังเป็นพิเศษ คล้ายกับตอนเล่าเรื่องพ่อก่อนแข่งว่ายผลัด
“นานาเสะ...” รินเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ ก่อนหันหนี ไม่ให้ฮารุกะเห็นใบหน้าแดงระเรื่อ
“ความจริงฉันมีเรื่องนึงอยากจะบอกนายมานานแล้ว ถ้าฉันไม่พูด ฉันไม่รู้ว่าจะได้บอกอีกทีเมื่อไร”
ฮารุกะรอฟังคำพูดของรินอย่างสงบนิ่ง เขามองอีกฝ่ายด้วยแววตาอ่านยาก ก่อนเด็กชายผมสีแดงจะก้มหน้างุดแล้วสารภาพสิ่งที่อยู่ในใจมากนาน
“น... ฮารุ... ฉันชอบนายนะ ชอบมาตั้งแต่วันแรกที่เจอนายที่อิวาโทบิแล้ว”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของริน มัตสึโอกะ ฮารุกะถึงกับขมวดคิ้วพร้อมกำหมัดแน่น เขาหันหน้าหลบไม่ให้อีกคนเห็นนัยน์ตาสีฟ้าที่วูบไหวราวกับสายน้ำยามต้องลมแรง
“ทำไมนายเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้...” ฮารุกะพยายามข่มน้ำเสียงที่สั่นเครือให้เป็นปกติที่สุด
ท่าทางของฮารุกะดูคลุมเครือ ทำเอารินใจเสียจนถึงกับน้ำตาแทบคลอเบ้า ทว่า...
“ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน”
หัวใจของรินแทบพองโตออกมาจากอกเมื่อได้ยินคำตอบอันหนักแน่นจริงจังของฮารุกะ นานาเสะ เด็กชายผมแดงลิงโลดกระโดดเข้ากอดอีกฝ่ายแน่นจนแทบหายใจไม่ออก แน่นเสียยิ่งกว่าตอนแข่งว่ายผลัดได้ที่หนึ่งเสียอีก
“ฮารุกะ ริน เสร็จหรือยัง” โค้ชซาซาเบะตะโกนเรียก ทำเอาทั้งสองถึงกับใจหาย... หลังจากนี้คงอีกนานกว่าจะได้พบกันอีก
“ฮารุ สัญญานะว่าเราจะรักกันตลอดไป” รินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ไม่มีคำตอบจากปากของเด็กชายผมสีดำ มีเพียงรอยยิ้มจางๆ หายากบนใบหน้าเท่านั้น
รินขยับหน้าเข้ามาชิดฮารุกะมากขึ้น แต่ยิ่งใกล้ ใบหน้าของเขาก็ยิ่งแดงสดเหมือนมะเขือเทศ ร่างเล็ก ๆ แต่แกร่งก็ยิ่งสั่น
ฮารุกะอดยิ้มน้อยๆ ให้กับท่าทางเก้ๆ กังๆ ของรินไม่ได้ เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปจูบแทน ริมฝีปากของทั้งสองแนบชิดติดกันพอให้หัวใจทั้งสองพองโต จนกระทั่ง...
“ฮารุจังกับรินรินเป็นแฟนกันแล้ว ไชโยๆ” นางิสะเข้ามาเป็นสักขีพยานอย่างลิงโลดดีใจ
รินกับฮารุกะถึงกับเขินจนต้องรีบผละตัวออกจากกันและหันหลบไม่ให้ใครเห็นใบหน้าแดงก่ำของพวกตน
…
“คิดถึงตอนนั้นเนอะ มาโกะจัง ฮารุจัง”
น้ำเสียงร่าเริงของนางิสะดึงฮารุกะกลับสู่โลกความจริง ดวงตาสีแดงเป็นประกายพราวระยับ
“อื้อ” มาโคโตะตอบ
ดวงตาสีมรกตมองลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าคู่งามราวกับจะค้นลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ ก่อนคนร่างสูงใหญ่กำยำจะคลี่ยิ้มบางๆ
“นายก็คิดถึงตอนนั้นเหมือนกันสินะฮารุ”
ฮารุกะหลบหน้ามาโคโตะแทนคำตอบ แต่เมื่อก็อดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ที่ได้กลับไปคิดถึงเรื่องราวของตนกับ “เขา” ที่เคยอยู่ด้วยกัน ณ ที่แห่งนี้
...อยากให้นายกลับมาอยู่ตรงนี้กับฉันเหลือเกิน...
“นี่ๆๆ ฉันเจอของดีด้วยแหละ” นางิสะโชว์รูปถ่ายเมื่อครั้งที่เพิ่งชนะเลิศการแข่งว่ายผลัดเมดเลย์สมัยประถม ทุกคนในรูปยกเว้นฮารุกะดูร่าเริง โดยเฉพาะ “เขาคนนั้น”... เด็กชายผมสีแดงเจ้าของรอยยิ้มสว่างไสวราวกับดวงตะวันที่ฮารุเคยรู้จักดี...
…
โค้ชซาซาเบะตั้งกล้องเตรียมถ่ายรูปทีมผู้ชนะเลิศการแข่งว่ายผลัด นางิสะกับมาโคโตะโพสท่าพร้อมแล้ว ส่วนฮารุกะมองกล้องด้วยสายตาว่างเปล่า
“ทุกคนมองกล้องนะ สาม...”
รินยกแขนขึ้นพาดคอฮารุกะ ทำเอาเด็กชายผมดำสะดุ้ง
“สอง...”
ฮารุกะหันมองริน เมื่อเหลือบไปเห็นรอยยิ้มที่สว่างไสวกว่าครั้งใดๆ ก็ถึงกับร้อนไปทั้งหน้า
“หนึ่ง!”
เด็กชายผมดำหันหน้าหลบริน พยายามทำตัวให้สงบนิ่งเป็นปกติที่สุด
แชะ!
…
ทั้งสามเพลิดเพลินกับความทรงจำสมัยประถมอยู่ครู่ใหญ่ จนกระทั่งนางิสะเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมา
“ว่าไปก็อยากตั้งชมรมว่ายน้ำจังเลยเนอะ ฮารุจัง มาโคจัง” นางิสะกล่าวพลางฝันหวานถึงวันวานแสนสนุกสมัยอยู่ชมรมว่ายน้ำตอนประถม
“น่าสนใจนะนางิสะ แต่รินไม่อยู่แล้ว ครูที่ปรึกษาก็ยังไม่มี อย่างนี้ก็ไม่ครบทีมสิ” มาโคโตะแย้ง
“น่าเสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรหรอกน่า ครูไว้หาทีหลัง ส่วนนักกีฬาอีกคน ห้องฉันมีคนนึงหน่วยก้านดี อยู่ชมรมกรีฑา เดี๋ยวพามาว่ายผลัดด้วย” นางิสะกล่าว ก่อนย้ายไปเกาะฮารุกะ
“เดี๋ยวก็จะได้ว่ายผลัดด้วยกันอีกแล้วนะ ฮารุจัง”
“ไม่เอา” ฮารุกะไม่เล่นด้วย
“มาว่ายผลัดด้วยกันน่านะๆ”
“ไม่” ฮารุกะปฏิเสธหนักแน่น แม้ว่าในใจลึกๆ จะอดคิดถึงสายน้ำและกลิ่นคลอรีนไม่ได้ แต่เมื่อนึกถึงการแข่งว่ายน้ำทีไร เขาอดรู้สึกผิดไม่ได้สักที...
...ที่ต้องผิดใจกัน... ที่ “เขาคนนั้น” ต้องเสียน้ำตา... ก็เพราะตัวเขาเองที่แข่งว่ายน้ำชนะแท้ๆ...
“ไหน ๆ ที่นี่ก็จะถูกทุบทิ้งแล้ว พวกเราไปขุดถ้วยขึ้นมากันเลยดีไหม” มาโคโตะเปลี่ยนประเด็นก่อนที่ฮารุกะจะโดนนางิสะเค้นไปมากกว่านี้
“ไม่รอรินจังก่อนเหรอ” นางิสะขัด
“ไม่รู้ว่ารินจะกลับมาทันหรือเปล่าน่ะสิ ไปขุดมาก่อนดีกว่า”
เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ทั้งสามจึงเดินออกไปนอกตึกพร้อมพลั่วในมือมาโคโตะ
---
ทั้งสามเดินสำรวจรอบ ๆ ต้นซากุระ แต่ก็ไม่เจอเครื่องหมายใดๆ ที่พวกตนเคยขีดไว้เลย
“นางิสะ ตอนนั้นพวกเราฝังไว้ตรงไหนนะ” มาโคโตะถาม
“ไม่รู้เหมือนกันมาโกะจัง จำได้ว่าฝังไว้แถวนี้นี่นา” นางิสะตอบ พลางขุดดินหาไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เจออะไร
“ตรงนี้ใช่ไหม เหมือนมีคนขุดไปแล้วล่ะ” ฮารุกะถาม ก่อนชี้ไปยังหลุมหนึ่งที่เหมือนมีใครขุดไปได้สักพักหนึ่งแล้ว มีเศษกล่องแหว่งๆ สีคุ้นตา
ทั้งสามสำรวจหลุมนั้นได้ไม่นานนัก แสงไฟก็สาดส่องมาจากทางด้านหลัง ทำเอามาโคโตะตกใจจนกระโดดเกาะหลังฮารุกะ
“ใครน่ะ” มาโคโตะถามเสียงสั่น
“พ...พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะมาบุกรุกนะครับคุณตำรวจ พวกเราแค่บังเอิญผ่านมา หลุมนี้พวกเราไม่ได้ขุด มีคนอื่นขุดไปก่อนแล้วครับ” นางิสะรีบปฏิเสธความผิดทันควัน แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ
ฮารุกะหันกลับไปดูอย่างสงบนิ่ง สิ่งแรกที่เขาพบคือ... ดวงตาสีแดงที่เคยคุ้นซึ่งบัดนี้เปลี่ยนไปจนเขาแทบจำไม่ได้ นัยน์ตาสีแดงคู่นั้นแข็งกร้าวและเกรี้ยวกราด แต่แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวด
ทันทีที่เห็นตาคู่นั้น นัยน์ตาสีฟ้าก็ถึงกับไหววูบ
...กลับมาตั้งแต่เมื่อไรทำไมไม่บอก แล้วทำไมต้องทำหน้าโกรธกันขนาดนั้นด้วย...
“ยังคบกับไอ้พวกนี้อีกเรอะฮารุ”
“โดยเฉพาะไอ้คนหน้าเนื้อใจเสือบางคน”
น้ำเสียงห้าวและเกรี้ยวกราดดังขึ้น ดวงตาสีแดงปราดมองมาโคโตะอย่างคาดโทษอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหันกลับไปจ้องนัยน์ตาสีฟ้าคู่งามของฮารุอีก เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำแต่ขี้กลัวก็ยิ่งเกาะหลังเพื่อนสนิทแนบแน่นขึ้น
ยิ่งได้เห็นภาพมาโคโตะแนบชิดกับฮารุกะราวกับสาวน้อยต้องการการปกป้องจากแฟนหนุ่ม ดวงตาสีแดงก็ยิ่งวาวโรจน์เหมือนไฟ มือแกร่งกำไฟฉายแน่นจนแทบร้าวก่อนเขวี้ยงลงพื้น
ไฟฉายกระดอนอยู่บนพื้นก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าคนแปลกหน้า แสงสว่างส่องมายังเจ้าของดวงตาสีแดง เผยให้เห็นภาพเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่เรือนผมสีแดงระต้นคอหน้าตาท่าทางดุดันในชุดแจ็กเกตสีดำ
“ริน!” มาโคโตะกับนางิสะถึงกับตกใจเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
“นายผิดสัญญาจริงๆ สินะ ฮารุ...” มือแกร่งจับคอเสื้อฮารุกะ แต่เด็กหนุ่มผมดำยังคงสงบนิ่ง... ไม่สิ พยายามทำตัวเองให้สงบนิ่งทั้งที่ใจยังอดหวั่นไหวไม่ได้
“เราสัญญากันว่าจะรักกันตลอดไป แต่ตลอดเวลาที่ฉันอยู่ออสเตรเลีย นายกลับคบกับมาโคโตะเนี่ยนะ!” เจ้าของนัยน์ตาสีแดงกระชากคอเสื้อฮารุกะแล้วโวยวายด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านด้วยแรงโทสะและความเจ็บช้ำ
พอเด็กหนุ่มผมดำรู้ว่าอีกฝ่ายโกรธตนเรื่องอะไร ท่าทางของเขาก็กลับมาสงบนิ่งดังปกติ แม้ในใจลึกๆ ยังอดหวั่นไหวไม่ได้ก็ตาม
“ริน ถ้านายโกรธเรื่องฉันกับมาโคโตะ ฉันบอกไปแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากเพื่อนสนิท” ฮารุกะพูดนิ่งๆ แต่...
“ฉันไม่เชื่อ!” ...ดูเหมือนว่าคำพูดของเขาจะไม่เข้าหูรินเลย อีกฝ่ายยังคงโกรธเกรี้ยวและเจ็บปวดเกินไปที่จะรับฟัง
รินยังคงกระชากคอเสื้อฮารุกะอย่างเกรี้ยวกราดต่อไป จนมาโคโตะเห็นว่าควรยุติสถานการณ์ได้แล้ว
“จะโทษฮารุก็ไม่ได้นะริน ยังไงคนที่เป็นฝ่ายจากไปในตอนแรกก็คือนาย” เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยจริงจัง ผิดกับน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนคุณพ่อใจดีในยามปกติ
รินมองหน้ามาโคโตะอย่างกล่าวโทษ เขารู้ดีว่าเขาผิดเองที่จากฮารุกะไปเพื่ออนาคตที่แหลกสลายของตัวเอง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะมาแย่งคนรักของตนไปได้
“เงียบไปเลยมาโคโตะ!” รินตะคอก
เด็กหนุ่มผมแดงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย นัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นยังคงอ่านยาก สงบนิ่งแต่ก็ทำให้คนอารมณ์ร้อนแทบบ้า เดือดดาลจนไม่รู้สึกถึงความหวั่นไหวที่แฝงอยู่ในดวงตาลึกล้ำเลย
...ฉันล่ะเกลียดตาคู่นั้นของนายจริงๆ เกลียดที่สุด!...
มือแกร่งปล่อยคนร่างเล็กกว่าให้เป็นอิสระ เขาหยิบถ้วยรางวัลสีฟ้าจากกระเป๋าเป้ขึ้นมาให้ทั้งสามได้เห็นชัดๆ
...ถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งว่ายผลัดเมดเลย์ ที่พวกเขาเคยได้มาและร่วมกันฝังที่นี่...
“ที่มาที่นี่ ต้องการสิ่งนี้สินะ” รินถามเพื่อนเก่าทั้งสามด้วยน้ำเสียงน่ากลัว
“อยากได้ก็เอาไปเลย ฉันไม่ต้องการแล้ว”
รินทิ้งถ้วยรางวัลลงบนพื้น ก่อนจะเดินสลับวิ่งจากไปในความมืด ไม่ทิ้งโอกาสให้อีกสามคนได้ลา
“เฮ้อ ยังดีที่ไม่แตกนะ”
นางิสะรีบเก็บถ้วยรางวัลขึ้นมาดูสภาพและปัดฝุ่น เมื่อเห็นว่ายังสภาพดีก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เด็กหนุ่มผมดำก้มหน้ามองถ้วยอย่างสงบนิ่ง แต่ในใจยังคงสั่นไหวกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของคนที่เพิ่งกลับจากออสเตรเลีย
...ทั้งที่นายเคยรักและให้ความสำคัญกับการว่ายผลัดครั้งนั้นมากกว่าใคร แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับนายนะ...
---
แม้วิ่งจากชมรมว่ายน้ำเก่ามาไกลลับตาแล้ว แต่เด็กหนุ่มผมสีแดงก็ยังคงวิ่งต่อไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ดวงตาสีฟ้าเรียบเฉยที่เคยคุ้น ภาพความทรงจำสมัยประถม และภาพเด็กหนุ่มร่างสูงแกร่งยามเกาะหลังเกาะไหล่ฮารุกะยังคงติดตรึงอยู่ในหัวของเขา ภายในใจยังคงกรีดร้องไม่เป็นภาษา
...บ้าเอ๊ย ทำไมฉันถึงยังลืมฮารุไม่ได้สักทีกันแน่นะ ทำไมฉันยังอดหวั่นไหวกับสายตาคู่นั้นไม่ได้ บ้าที่สุด!!...
---
เวลาล่วงเลยไปได้สองวัน ทั้งสามขอให้ครูอามากาตะจังมาเป็นที่ปรึกษาได้แล้ว แต่ยังต้องซ่อมแซมสระว่ายน้ำและหาสมาชิกเพิ่กอีกคนก่อนจึงจะเปิดชมรมได้อย่างเป็นทางการ
นางิสะฉุดกระชากลากถูเด็กสาวคนหนึ่งมาหาฮารุกะกับมาโคโตะอย่างยินดีปรีดา เรือนผมและดวงตาสีแดงของเธอดูคุ้นตาเหมือนกับว่าถอดแบบมาจากใครสักคนที่พวกเขารู้จักดี
“ฮารุจัง มาโกะจัง เหมือนว่าเราจะได้สมาชิกใหม่ก็วันนี้แหละ”
ฮารุกะแทบไม่ต้องใช้เวลาพิจารณาเด็กสาวตรงหน้า เขาจำเธอได้เกือบจะทันที
“มัตสึโอกะ... ก...โคว?”
เด็กสาวถึงกับยิ้มแป้นเมื่อรุ่นพี่ผมดำตรงหน้าเรียกชื่อตนอย่างสมหญิง เธอโค้งคำนับน้อยๆ ให้กับรุ่นพี่ทั้งสอง
“ยินดีที่ได้พบกันอีกค่ะ รุ่นพี่ฮารุกะ รุ่นพี่มาโคโตะ”
มาโคโตะยิ้มน้อยๆ ให้กับรุ่นน้องตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“จะว่าไป โกว...” นางิสะเปิดประเด็นแต่ก็ถูกขัด
“โคว” เด็กสาวรีบแก้ชื่อของตน แต่นางิสะไม่สนใจ ท่าทางของเขาเวลานี้ดูจริงจังกว่าเดิม
“จะว่าไป รินจังเป็นอะไรไปน่ะ หายไปตั้งนานไม่มีทักทายไม่มีคิดถึงกันเลย แถมยังเมินพวกเราแต่ดันไปเหวี่ยงใส่ฮารุจังด้วย”
ทันทีที่เข้าประเด็นพี่ชายของตน แววตาของโกวก็จริงจัง เคร่งเครียด และเป็นกังวลขึ้นมา ส่วนฮารุกะรู้สึกหนักอึ้งในใจราวกับมีหินถ่วงอก
“นั่นแหละที่ฉันอยากจะถามทุกคน”
คำพูดของโกวทำเอานางิสะถึงกับอึ้ง ดวงตาสีฟ้าคู่งามของฮารุกะยิ่งสั่นไหวไปด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่ผสมปนเปกัน
“ตั้งแต่พี่กลับญี่ปุ่นมาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย ไม่ยิ้ม ไม่พูดไม่จา” เด็กสาวตอบเสียงเครียด
“เห? แล้วรินจังไม่ได้บอกเลยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น” นางิสะถาม
“พี่ไม่เคยบอกอะไรฉันเลย ถามไปพี่ก็บอกแค่ไม่มีอะไรๆ”
“นี่เธอกับรินจังไม่ได้คุยกันเลยเหรอ อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ” นางิสะถามต่อ
“พี่ไปเรียนซาเมะสึกะน่ะ คงเจอกันแค่เสาร์อาทิตย์กับวันหยุด”
พอถามไถ่เรื่องรินแต่ไม่มีใครมีคำตอบ วงสนทนาก็เงียบสนิท ไม่มีใครพูดอะไรกันอยู่ครู่ใหญ่ จนกระทั่งนางิสะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
“ฮารุจัง นายพอจะรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับรินจัง”
นางิสะจ้องตาเค้นหาคำตอบจากฮารุกะ เด็กหนุ่มผมดำไม่ตอบ ความรู้สึกหนักอึ้งในอกยิ่งทวีคูณ
“พวกเรา... ไม่มีใครได้ติดต่อกับรินเลย... ไม่สิ ฉันเคยเล่นแชทกับรินแค่ครั้งเดียว แล้วก็ไม่เห็นรินออนไลน์อีกเลย” มาโคโตะตอบแทน
“ดีจัง ฉันไม่เคยเห็นรินจังออนไลน์เลย” นางิสะกล่าวบ้าง ก่อนดวงตากลมโตจะเห็นสิ่งที่น่าสนใจกว่า
คนร่างเล็กเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มใส่แว่นร่างสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่งกำลังวิ่งจ๊อกกิ้งอย่างสง่างามในชุดชมรมกรีฑา เขาจึงวิ่งตามคนใส่แว่นนั้นไปทันที
“ริวกาซากิคุง! มาเข้าชมรมว่ายน้ำด้วยกันไหม ว่ายผลัดด้วยกันสนุกนะ” นางิสะวิ่งตามไปพลางตะโกนไป เมื่อเด็กหนุ่มใส่แว่นเห็นคนตัวเล็กวิ่งตามก็รีบเร่งฝีเท้าวิ่งหนีทันที
“ไม่เอาครับ!” คนจากชมรมกรีฑาปฏิเสธ
นางิสะวิ่งไล่ตามเด็กหนุ่มใส่แว่นคนนั้นไปจนไกลสุดสายตา มาโคโตะเห็นเช่นนั้นก็อดขำไม่ได้
“นางิสะนี่ไม่เปลี่ยนเลยเนอะ” มาโคโตะหันไปคุยกับฮารุกะ อีกฝ่ายไม่ตอบแต่ก็ดูมีท่าทีผ่อนคลายขึ้น
---
นางิสะวิ่งหายไปพักใหญ่ก็ยังไม่กลับมา โกวสัมผัสได้ว่าฮารุกะดูกังวลเรื่องรินไม่แพ้กัน เด็กสาวจึงตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อชมรมและเพื่อพี่ชายของตน
“รุ่นพี่ยังขาดคนกันอยู่ใช่ไหมคะ... ให้ฉันเข้าชมรมด้วยเถอะค่ะ ขอแค่ให้ฉันได้ช่วยให้พี่กลับมาเป็นคนเดิมได้ก็พอแล้ว” เด็กสาวขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันว่ายน้ำไม่เป็น ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการว่ายน้ำเลย แต่ถ้าต้องการให้ฉันช่วยอะไร ฉันยินดีทำทุกอย่างค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มาโคโตะก็ถึงกับยิ้มกว้าง รีบควานหาใบสมัครเข้าชมรมให้โกวทันที แม้แต่ฮารุกะก็อดยิ้มไม่ได้
“ถ้างั้น ฉันขอแต่งตั้งเธอเป็นผู้จัดการทีมอิวาโทบินะ ยินดีต้อนรับ” มาโคโตะยิ้มให้กับเด็กสาวอย่างอบอุ่น
“ขอบคุณมากค่ะ” น้องสาวของรินยิ้มสดใส เธอโค้งคำนับให้กับรุ่นพี่ทั้งสองอย่างนอบน้อม ก่อนรับใบสมัครมากรอกอย่างเร็วไว
---
หลังจากที่โกวกรอกใบสมัครเข้าชมรมไปได้ไม่นานนัก นางิสะก็เดินกลับมาคนเดียวอย่างเหนื่อยล้า สีหน้าท่าทางผิดหวังไม่น้อย
“ริวกาซากิคุงใจร้ายง่ะ วิ่งหนีไปไหนไม่รู้ ไม่ยอมมาว่ายผลัดด้วยเลย” นางิสะตัดพ้อ ก่อนล้มตัวลงนอนหงายข้างๆ ม้านั่งของทั้งสาม
“เขาไม่ยอมรับน้ำก็ไม่ต้องเอาเขามาเข้าชมรม” ฮารุกะกล่าวหน้าตาย แต่ก็ทำเอามาโคโตะถึงกับอดขำไม่ได้
“ง่า อย่างนี้ก็ตั้งชมรมแล้วก็ว่ายผลัดไม่ได้น่ะสิ” นางิสะโอดครวญ
“ยังว่ายผลัดไม่ได้ แต่อย่างน้อยพวกเราก็ตั้งชมรมได้แล้วนะ” มาโคโตะกล่าวอย่างยินดี ก่อนยื่นเอกสารของโกวให้เด็กหนุ่มร่างเล็กดู
“เย้ โกวจังใจดีที่สุดเลย” นางิสะถึงกับลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้น ลืมความเหนื่อยอ่อนเมื่อก่อนหน้านี้ไปสิ้น
“ฉันชื่อโควย่ะ!” เด็กสาวรีบแก้ชื่อของตน
มาโคโตะมองภาพตรงหน้าอย่างโล่งใจและมีความสุข แม้สระยังซ่อมไม่เสร็จและยังไม่มีนักว่ายน้ำคนที่สี่ แต่ภาพตรงหน้าก็ชวนให้เพลิดเพลินไม่ต่างกับเมื่อตอนประถม
...ในที่สุด สมาชิกก็ครบสี่คน ชมรมว่ายน้ำก็จะเป็นรูปเป็นร่างได้เสียที...
ความคิดเห็น