คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter : two (100%)
.
.
.
.
คริสรู้สึกว่าตัวเองขี้ลืมมากขึ้นก็เมื่อเขาเริ่มหาของไม่เจอ เสื้อบาสของทีมเขาก็ต้องสั่งตัดใหม่ คีย์การ์ดก็ต้องใช้ร่วมกับจื่อเถา ซึ่งมันลำบากมากที่เจ้าของคอนโดไม่ยอมออกบัตรคีย์การ์ดใบใหม่ให้เขา มันไม่ใช่แค่นั้น ของหลายๆอย่างเขาเริ่มหายไป แม้กระทั่งแปรงสีฟัน แต่ใครจะเป็นคนเอาไปละ ในเมื่อเขากับจื่อเถาอยู่คนละห้อง
คิดไปก็ปวดประสาทเสียเปล่า คริสเกาหัวตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนที่เตียง หลังจากเจสสิก้าเสียชีวิตเขากลายเป็นคนซึมๆไปพักใหญ่ เพราะเจสสิก้าเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่เป็นผู้หญิงที่เขากล้าคุยได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องของจางอิ้ชิง เอามือก่ายหน้าผากตัวเองก่อนจะค่อยๆหลับตาลง ร่างกายรู้สึกเหนื่อยกับเหตุการณ์ตลอดทั้งวัน
กึก
เสียงดังกุกกักทำคริสสะดุ้งแต่ยังไม่ลืมตา ความรู้สึกเหมือนใครสักคนกำลังเข้ามาในห้องตัวเอง คริสขมวดคิ้วตัวเองแล้วข่มตาให้หลับต่อ สงสัยจื่อเถาคงมาหาหนังสืออ่าน ความรู้สึกดิ่งกำลังดิ่งลงไปในโลกของการหลับใหล เพียงแต่ลมหายใจอุ่นๆที่เป่าอยู่ข้างแก้มนั่นยังคงทำให้คริสพอรู้สึกตัว
“อย่ามายุ่งดิ้เถา”
พูดปัดออกไปก่อนจะพลิกตัวหนี รู้สึกหงุดหงิดเวลาที่มีคนกวนใจ เสียงนั่นดังกึกกักอีกครั้งก่อนจะเงียบหายไป
“ค..คริส”
เสียงพูดเบาๆดังขึ้นราวกับเสียงกระซิบ ซูโฮมองแผ่นหลังคริสแล้วกลืนน้ำลาย ถึงแม้แต่ในความมืดเขาก็ยังจำทุกอย่างเกี่ยวกับคริสได้ ปากสั่นเมื่อเห็นคริสพูดกับตัวเอง ยิ้มออกมาแล้วกัดริมฝีปากข้างล่างตัวเอง
ต..ต้องกลับบ้านแล้วนะคริส – เดียวฉันมาหาอีกนะ
ซูโฮล้วงหยิบคีย์การ์ดแล้วเดินออกมาจากห้องคริสให้เบาที่สุด มองไปที่ห้องอีกห้องนึงที่เปิดเสียงดังลั่น มองด้วยสายตาอาฆาตก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ยิ้มออกมาแล้วหัวเราะดังลั่นไปทั่วชั้น เขาได้เจอคริสแล้ว เขาได้อยู่ใกล้ๆคริสแล้ว
คริส เดียวพรุ่งนี้เราจะได้เจอกันแล้วนะ
.
.
.
.
การเรียนการสอนภายในห้องไม่ได้เข้าหูของซูโฮเลยสักนิด เขายังคงนั่งอยู่ที่มุมห้องหลังสุด มือนั่นเขียนอะไรบางอย่างลงไปในสมุดเล่มเล็กๆ
เมื่อคืนเขานอนหันหลังละ ..
เมื่อเช้าเขาออกจากบ้านตอน7.14
เขาหลับง่ายมากเลย
ยิ้มออกมาแล้วมองไปที่หน้าห้อง ครูจงแดกำลังสอนเรื่องจิตวิทยาอยู่หน้าห้องกำลังมองมาที่เขา ซูโฮก้มหน้าแล้วกัดริมฝีปาก การบรรยายจบลงแล้ว เขาควรจะลุกไปหาคริสที่ชมรมสินะ
“ซูโฮ”
ซูเงยหน้าขึ้น คยองซูกำลังเดินมาหาเขาแล้วส่งยิ้มให้ คยองซูเป็นเพื่อนร่วมคลาสเขาเอง ในบรรดาเพื่อนร่วมห้องดูเหมือนจะมีแค่คยองซูนี่แหละที่ไม่เคยมองว่าซูโฮผิดปกติ
แต่สำหรับเขา คยองซูก็แค่คนที่ชอบวุ่นวายกับชีวิตเขาเท่านั้น
“รายการกลุ่มเราให้ซูโฮอยู่ด้วยนะ”
ซูโฮพยักหน้าแล้วรีบลุกขึ้น ได้ยินเสียงคนอื่นๆในห้องเริ่มนินทาว่ากัน ซูโฮกัดปากตัวเองจนเขียวช้ำ เห็นไหมละ ถ้าคยองซูไม่มายุ่งกับเขา เขาก็คงไม่ต้องโดนนินทา มือเล็กหยิบกระเป๋าที่สะพายข้างหลังมาเดินกอด ก้มหน้าหงุดลงไปแล้วเดินไปตามทาง กระเป๋าสีดำเก่าๆขาดๆแต่ทว่าข้างในกลับมีความหมายมากสำหรับซูโฮ
นั่นไงแผ่นหลังคริส
ซูโฮรีบเดินไปหลบที่มุมตึกแล้วค่อยๆโผล่หัวออกมาดูคริส หัวใจเต้นตึกตัก คริสทำท่าเอามือลูบท้องแล้วเกาหัวกับจื่อเถา รอยยิ้มนั่น – เขาอยากจะได้บ้างจัง อยากได้รอยยิ้มจากคริสบ้าง
ถ้าพรุ่งนี้เขาทำข้าวมาให้คริส คริสจะยิ้มให้เขาบ้างไหมนะ
ซูโฮยิ้มออกมาก่อนจะหัวเราะเบาๆ หลายๆคนเดินผ่านต่างมองเขา ไม่สำคัญเสียหน่อย เพราะเพียงคนเดียวที่เขาอยากให้มองคือคริสนี่นา – กอดกระเป๋าตัวเองแน่นค่อยๆเดินไปห้องชมรม
“มาก็ดีเลย คยองซูหามึงอยู่”
เสียงทุ้มหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง คิม จงอิน สมาชิกในชมรมบาสบอกเขาพลางทำหน้าเบื่อโลก ซูโฮเหลือบไปมองคยองซูที่กำลังยืนยิ้มแล้วโบกมือให้ซูโฮ เห็นไหมละว่าคยองซูน่ารำคาญแค่ไหน
“มีอะไร—“
“เราจะชวนซูโฮไปห้องสมุดนะ จงอินก็ไป แบคฮยอนก็ไปนะ”
แต่คริสไม่ไป
“ไม่ไป!!”
ซูโฮตวาดขึ้นแล้วหันหลัง ทำไมทุกคนต้องมาแยกเขาไปจากคริสด้วยนะ น่ารำคาญทั้งคิมจงอินและโดคยองซู แต่ทว่าแรงบีบแขนนั่นทำให้ซูโฮต้องหันหน้ามา จงอินบีบแขนของเราแรงมากจนซูโฮต้องบิดหน้าเหยแก
“อย่าตวาดใส่คยองซู”
“อ๊ากกกกกก”
ซูโฮร้องดังลั่น มันเจ็บจริงๆ มือที่ว่างอีกข้างของซูโฮเลยบีบเข้าที่คอของจงอินเต็มแรง ออกแรงบีบจนจงอินไอออกมา
“ปล่อยซูโฮนะจงอิน!! ซูโฮปล่อยจงอินนะ !!”
คยองซูวิ่งไปกระชากแขนของจงอิน จงอินปล่อยแล้วแต่ว่าซูโฮยังคงบีบคอของจงอินอยู่ ทันทีที่มืออีกข้างเป็นอิสระก็มาบีบคออีกข้างของจงอินไว้ คนเริ่มมุงมากขึ้น ซูโฮถลนตาใส่แล้วบีบเต็มแรง ซีดปากตัวเองแล้วหัวเราะออกมา จนจงอินทนไม่ไหวต่อยเข้าที่หน้าของซูโฮเต็มแรง จนซูโฮล้มลงไปนั่งกับพื้น
“ไอ้บ้า!! มึงมันโรคจิต!! ไปคยองซู ไม่ต้องให้มันอยู่ในกลุ่มหรอก”
จงอินพูดขึ้นแล้วจับข้อมือของคยองซูให้เดินออกไปจากที่ตรงนี้ เพราะคนเริ่มมุงมากขึ้น ซูโฮใช้หลังมือปาดที่แผลตรงมุมปากแล้วพยุงตัวเองขึ้น คนเริ่มมองเขามาด้วยสีหน้ารังเกียจ หลายคนมองมาที่เขาแล้วนินทา แล้วแคร์ทำไมละ? ซูโฮลุกขึ้นแล้วหยิบกระเป๋าตัวเองมุ่งหน้าไปที่ห้องชมรมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทว่าหน้าชมรมกับเขียนว่าหยุดทำกิจกรรม ซูโฮเริ่มตัวสั่น ทำไมมีแต่คนพยายามแยกเขากับคริส
สายตาพลันออกไปมองรอบสนามบาส แต่กลับไม่เจอคริสแม้กระทั่งเงา – เพราะคยองซูกับจงอินแท้ๆ พวกมันทำให้เขาต้องห่างกับคริส แต่ก็ดีแล้วนี่ เขาจะได้กลับบ้านไปทำกับข้าวให้คริสกิน
หัวเราะให้กับตัวเองแล้วเดินกลับหอข้างหลังมหาลัย อา..เขาต้องไปจ่ายตลาดนี่ แต่ไม่เป็นไร.. เขายังพอมีของเหลือจากอาทิตย์ก่อนๆ หวังว่าคงยังจะพอทำให้คริสกินได้สินะ ทันทีที่เดินถึงห้องของตัวเอง ซูโฮก็ยิ้มออกมา ในห้องนั้นมีแต่รูปคริสเต็มไปหมด
“กลับมาแล้วคริส..ฉันจะทำกับข้าวให้นายนะ”
ซูโฮยิ้มออกมาก่อนจะเดินผ่านกองผ้าที่วางเต็มพื้นห้อง น้ำไหลออกมาจากห้องน้ำเจิ่งนองที่พื้นห้องแฉะๆจนซูโฮต้องรีบเดินไปปิดก็อกน้ำ มองไปที่เสื้อของคริสที่เขายังไม่ได้ซักแล้วแขวนอยู่ที่ปลายเตียง
“เดียวผมมา..”
เดินไปที่ห้องครัว หยิบผักเก่าๆที่วางอยู่ข้างๆที่ล้างจานมาแล้วทำหน้านึกคิดสักพัก คริสจะชอบกินแซนวิสรึเปล่านะ .. ซูโฮหยิบขนมปังเก่าๆออกมา ปัดคราบรานั่นออกก่อนจะเดินไปหยิบผักต่างๆที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวมาหั่น ทำไปพลางยิ้มไป เขาจะได้เห็นคริสยิ้มเสียที
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทันทีที่เดินไปถึงมหาลัย เขาโดนหมอจุนซูเรียกไปพบ และเป็นไปตามคาด มันคือเรื่องของจงอินและเขาเมื่อวานนี้ จุนซูดูจะหงุดหงิดมากแต่ก็ยังยิ้มออกมา
“หมอจะให้เราย้ายกลับมาอยู่กับหมอ”
ฝันร้ายชัดๆ ..
“เราไม่ได้รับการรักษามาสามเดือนกว่าแล้วนะซูโฮ”
เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำอยู่
“หมอไม่อยากให้เราไปทำร้ายคน..”
“หุบปาก!!!”
ซูโฮตะโกนขึ้นแล้วกอดกระเป๋าตัวเอง จุนซูถอนหายใจออกมา ดูเหมือนเขาจะใจดีกับซูโฮมากไปจนเสียนิสัย จุนซูขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ซูโฮที่กำลังก้มหน้างุดๆอยู่
“เอายาออกมา กินต่อหน้าหมอทุกครั้ง”
. “ไม่..”
“จุนมยอน..”
“เรียกผมว่าซูโฮ!!!”
จุนซูสะดุ้ง ตอนนี้ซูโฮน่ากลัวมาก เขามองมาที่หน้าของจุนซูด้วยสายตาโมโห ดวงตานั่นถลนขึ้นจนเห็นเส้นเลือดเล็กๆแดงๆ
“ต้องไปแล้ว..”
ซูโฮพูดขึ้นมาอย่างเหม่อลอยก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องไม่สนใจจุนซูอีกต่อไป จุนซูต้องรีบเดินตามออกมาห่างๆ ซูโฮเดินเข้าห้องชมรมบาสไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าซูโฮอยู่ชมรมนี้ แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมซูโฮถึงได้อยู่ชมรมนี้
ทำไมถึงมาอยู่ชมรมนี้ละ ?
รอยยิ้มประดับบนใบหน้าของซูโฮทันทีที่เขาได้วางกล่องแซนวิสไว้ที่หน้าล็อคเกอร์ของคริส รู้สึกหัวใจเต้นรัวจนหยุดยิ้มแทบไม่ได้ เค่นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะนั่งหลบมุมอยู่ที่มุมห้อง คริสกำลังจะมาแล้ว อีกไม่นานหรอก เขาไม่เคยมาเกินบ่ายสามสี่สิบสักครั้ง
นั่นไง คริสมาแล้ว ..
คริสเดินเข้ามาในห้องสภาพหัวเสีย เขาค่อนค้างจะหงุดหงิดกับการกระทำของจื่อเถานิดหน่อย ก่อนจะเหลือบหางตามามองซูโฮที่กำลังนั่งเขียนอะไรยุกยิกอยู่ เหลือบมองได้แค่แปบเดียวก็หันหน้าหนี ไม่ต้องบอกว่าซูโฮดีใจแค่ไหน เปิดล็อกเกอร์ตัวเองได้นิดเดียวก็ต้องขมวดคิ้ว ถุงเก่าๆพร้อมกับกล่องพลาสสติกใสที่ข้างในมีแซนวิสสภาพดูไม่ได้อยู่ ไม่ใช่สิ มันดูเหมือนถูกปล่อยไว้เป็นเดือน
“เฮ้ยกล่องแซนวิสใครวะ”
จื่อเถาพูดขึ้นแล้วเดินเข้ามา ร่างสูงเดินมาที่ล็อคเกอร์ของคริสที่ตอนนี้กำลังพยายามหยิบกล่องนี้ออกมาจากช่องล็อคเกอร์ คริสส่ายหัวก่อนจะโยนมันลงไปที่พื้นอย่างไม่ใยดี พร้อมๆกับสายตาของซูโฮที่กำลังอึ้งอยู่ ปากเล็กนั่นสั่นราวกับเจอเรื่องที่โหดร้าย ทำไมคริสทำแบบนี้ละ
“ไอ้เหี้ย แม่งเหม็น กูจะอ้วก ใครแม่งเล่นไรพิเรนวะ ”
คริสพูดขึ้นแล้วทำท่าพะอืดพะอม เตะกล่องนั้นทิ้งไปแล้วหันไปเก็บของต่อ ซูโฮน้ำตาค่อยๆซึม แต่ก็ยังคงนั่งก้มหน้าต่อไป หันไปอีกทีก็เห็นจื่อเถาเตะกล่องข้าวนั่นทิ้งไปไกล สุดท้ายน้ำตาไหล เจ็บใจจังเลย
“มองไรไอ้ปัญญาอ่อน!!?”
คริสตวาดขึ้นเมื่อเห็นซูโฮกำลังมองเขาอยู่ ซูโฮส่ายหน้าแล้วก้มอ่านหนังสือต่อ หน้าแทบจะติดกับหนังสืออยู่แล้ว กัดริมฝีปากข้างล่างกลั้นเสียงสะอื้นตัวเองเอาไว้ ตัวสั่นงกๆเมื่อคริสกับจื่อเถายังคงคุยกันต่อไปเรื่อยๆแล้วไม่นานคริสกับจื่อเถาก็เดินออกไปข้างนอกสนาม ค่อยๆคลานไปหยิบกล่องนั่นไว้แล้วกอด พร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมา
โดนคริสโกรธซะแล้ว .. หรือ.. เขาจะไม่ชอบกินแซนวิสกันนะ
“ฮือ..”
40%
เสียงเคาะปากกาดังขึ้นเป็นจังหวะแข่งกับเสียงแอร์ที่ยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่ จุนซูนั่งหลับตาพลางขมวดคิ้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของซูโฮ เขาอาศัยช่วงเวลาที่ซูโฮกำลังไปเรียนขอกุญแจห้องของซูโฮจากแม่บ้านเข้าไปดู กลิ่นห้องเหม็นเน่าชวนอ้วก รูปภาพถ่ายของคริสเต็มไปหมด รวมทั้งซากผักต่างๆวางเกลื่อน
เห็นจะมีแต่ชุดนักศึกษาของซูโฮนี่แหละที่ดูสะอาดเพราะน่าจะลงไปซักเอง นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว เขาไม่ควรปล่อยให้ซูโฮอยู่คนเดียวหรือแม้แต่จะเรียนที่นี้อีกต่อไป แต่มีทางไหนบ้างละ ? ถอนหายใจออกมาเมื่อตัวเองจะเข้าไปใกล้ซูโฮยังยาก
ถ้าเรียกคริสมาคุยเจ้าตัวคงโมโหแน่ๆ นี่เขาเป็นผู้ใหญ่จริงหรือเปล่า ทำไมถึงได้กลัวเด็กนักเรียนตัวเองขนาดนี้นะ
สงสัยต้องพึ่งเพื่อนในห้องของซูโฮจริงๆนั่นแหละ
“ชานยอล..”
ไม่ทันจะนึกได้ว่าควรให้ใครช่วย เด็กนักเรียนดีเด่นของห้องซูโฮก็เดินแบกแฟ้มรายงานเข้ามาพร้อมกับเพื่อนในห้องอีกคนที่น่าจะชื่อแบคฮยอน จุนซูรีบลุกขึ้นไปช่วยยกแฟ้มที่ทั้งคู่ยกมา แค่กองงานตรงหน้าเขาก็บ้าตายอยู่แล้ว ยังต้องมาดูแลซูโฮอีก เสียงหัวเราะต่อกระซิกเบาๆนั่นทำให้จุนซูรู้สึกตัว ทั้งคู่โค้งให้เขาก่อนจะค่อยๆเดินออกจากห้อง
“เดียว!!ชานยอล แบคฮยอน!!”
“ครับ!!”
ชานยอลหันมารับคำ มือทั่งคู่ปล่อยออกจากกันอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าครูจุนซูวิ่งตามมา ก่อนจะกระแอมกันนิดหน่อยจนจุนซูอดหมั่นไส้ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ
“หมอมีเรื่องจะรบกวนนะ นิดเดียว..”
“สบายๆเลยฮะหมอ เดียวพวกเราช่วยเอง”
“ฝากดูซูโฮในห้องหน่อยได้ไหม แล้วบอกหมอว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”
แบคฮยอนมองหน้าชานยอลแล้วเม้มปาก พวกเขาเลี่ยงที่จะไม่เข้าใกล้ซูโฮตลอดปีที่เรียนด้วยกัน ยิ่งเกิดเหตุการณ์ขึ้นกับจงอินยิ่งไม่อยากเข้าใกล้ไปใหญ่ ไม่ใช่ว่านั่งอยู่ดีๆจะวิ่งมาบีบคอของเขาหรอกนะ
“หมอรู้ว่าพวกเธอกลัว แต่ว่าเรื่องทั้งหมดจงอินเป็นคนไปบีบข้อมือของซูโฮก่อนไม่ใช่หรอ เขาก็ต้องป้องกันตัวสิ”
“ก็รู้ครับหมอ .. แต่พวกผมไม่ค่อยอยากยุ่งกับเขา..สักเท่าไหร่”
แบคฮยอนพยายามพูดเพื่อรักษาน้ำใจจุนซูให้ได้มากที่สุด รู้ว่าจุนซูเป็นห่วงซูโฮ แต่ว่างานที่ได้รับนี่ค่อนข้างจะลำบากใจ .. มาก
“หมอจะเพิ่มคะแนนให้พวกนายเลย แค่จับตาดูเฉยๆ แค่บอกว่าวันนึงเขาทำอะไรบ้างในห้อง แค่นั้นเอง”
ชานยอลถอนหายใจออกมา ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดที่หมอต้องลดศักดิ์ศรีมาขอร้องเขาขนาดนี้ เขาก็คงต้องตกลง
“โอเคครับ แค่ช่วยมองใช่ไหม? คะแนนไม่ต้องหรอกฮะ เสียชื่อหมอหมดพอดี”
“ขอบใจมาก ทั้งคู่เลย”
.
..
.
.
.
.
เสียงดนตรีจังหวะเศร้าๆดังคลอขึ้นตลอดทางที่คริสเดินไปที่ชมรม หูฟังราคาแพงที่เจ้าตัวซื้อมาเองดูท่าจะได้ผลดีเหลือเกินจนเขาไม่ได้ยินเสียงภายนอก คริสเลี้ยวตัวเข้าไปในชมรมก่อนจะมองคนที่กำลังขีดเขียนอะไรบางอย่างใส่กระดาษอย่างไม่ใส่ใจ เปิดล็อกเกอร์ก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง กล่องข้าวแบบเดิมกับเมื่อวันก่อนวางอยู่ในล็อกเกอร์เขา
เขาไม่อยากจะคิดว่าไอ้ตัวปัญญาอ่อนข้างๆเขาจะเป็นคนทำมาให้หรอกนะ
แค่คิดก็ขยะแขยงตาย โยนกล่องนั่นไปใกล้ๆซูโฮเพื่อส่งคืน แล้วมองหาเสื้อบาสตัวใหม่ที่เขาเพิ่งไปซื้อมา สายตาเหลือบไปมองซูโฮที่กอดกล่องข้าวนั่นแน่นแล้วน้ำตาซึม ความจริงซูโฮเป็นคนหน้าตาจัดถือว่าดีเลยทีเดียว แต่ไม่น่าเป็นแบบนี้ หรือควรจะรักษาดีกว่า
“เลิกยุ่งกับชีวิตกูสักที!”
คริสปิดประตูล็อกเกอร์เสียงดังลั่นแล้วเดินออกไป สวนกับสมาชิกคนอื่นๆที่เดินเข้ามาในห้อง รู้สึกหงุดหงิดใจทุกครั้งที่เห็นหน้าซูโฮ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าซูโฮชอบเขา ยิ่งการกระทำที่ซูโฮทำให้เขามาเท่าไหร่เขาก็ยิ่งขยะแขยง เขาไม่ชอบซูโฮ ก็แค่ไม่ชอบ
“บางทีมึงควรจะไปทำบุญล้างซวย”
จงอินเดินเข้ามาแล้วตบบ่าคริส คริสไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยักไหล่แล้วเดินถือลูกบาสตรงไปที่สนาม
“มึงบอกตัวเองเหอะ ได้ข่าวว่าโดนแม่งบีบคอ”
“เออดิ กูว่าแม่งน่ากลัวมากนะ ทำไมยังให้แม่งอยู่ชมรมอยู่อีกวะ”
“หมอจุนซูขอไว้..”
จงอินส่ายหัวแล้วเดินตาม ก่อนจะเดินไปสมทบกับเพื่อนๆคนอื่นกัน ทิ้งให้ซูโฮนั่งซมอยู่คนเดียวในชมรม ริมฝีปากบางพึมพำอะไรบางอย่างก่อนจะซุกหน้าตัวเองลงกับเข่าที่ตั้งชัน น้ำตาค่อยๆไหลลงเมื่อนึกถึงคำตวาดของคริสเมื่อกี้ ถึงจะดีใจแค่ไหนที่คริสพูดกับตัวเอง แต่ว่า – เขากลับรู้สึกเจ็บที่หน้าอก
คริสปากล่องข้าวเขาทิ้งอีกแล้ว
ความรู้สึกแบบนี้คืออะไรกันนะ.. มันรู้สึกแปลกๆเหมือนตอนที่เจสสิก้าเข้าใกล้คริสเลย เจ็บ จุก อยากร้องไห้
“อี๋”
ซูโฮเหลือบตาขึ้นมามองกับแขกของชมรมที่เข้ามาใหม่ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าหน้าไม่คุ้นเลยสักนิด
“นี่ เมื่อไหร่จะออกจากมหาลัยไปสักที?”
อยากจะถามกลับอยู่เหมือนกันว่ายุ่งทำไม ซูโฮได้แต่หยิบกล่องข้าวนั่นก่อนจะลุกขึ้น ปัดกางเกงตัวเองแล้วเดินผ่านกลุ่มคนตรงหน้าออกไป แต่ก็ชะงักเพราะถูกดึงลงไปนั่งกับพื้น ซูโฮร้องโอยขึ้นมาแล้วค่อยๆพยุงตัวเองขึ้น
“อะไรนะ..”
พูดออกมาเบาๆแล้วหันไปมองกลุ่มคนนั้น ผู้ชายสาม ผู้หญิงหนึ่งงั้นหรอ หน้าตาไม่คุ้นเลยแหะ..
“เห็นหน้ามันแล้วหงุดหงิดชะมัด..”
ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นแล้วกอดอก ส่วนซูโฮได้แต่มองหน้า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมายุ่งกับเขาทำไม ขัดขวางเวลาที่เขาจะไปดูคริสอีก น่ารำคาญชะมัด
“ถอย..”
ซูโฮพูดขึ้นเบาๆเมื่อคนพวกนั้นมาดักทางเขาไว้ กอดอกมองเขาอีก ซูโฮขมวดคิ้วขัดใจหน่อยๆก่อนที่จะผลักผู้ชายตัวเล็กนั่นลงไปนอนกับพื้น
“โอ้ย!!”
“ลู่ห่าน!!!”
อ่อ ผู้ชายคนนั้นชื่อลู่ห่านสินะ เมื่อกี้ซูโฮผลักผู้ชายคนนั้นหลังไปโดนขอบโต๊ะด้วย แต่แล้วยังไงละ? ยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะเดินข้ามผู้ชายที่ชื่อลู่ห่านนั้นไป
“แก!!”
“พอเถอะคริสตัล เดียวมันก็โดนเอง..”
เสียงทุ้มนั่นดังขึ้น ซูโฮยังคงไม่สนใจ เดินออกมาข้างนอกแล้วเดินไปที่หลังมหาลัยที่เดิม สายตาที่ทุกคนกำลังมองมาที่เขาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรทั้งนั้น แต่กลับดีใจเสียมากกว่าที่จะได้เจอคริสแล้ว
“ซูโฮ..”
อีกแล้ว เสียงนั่นอีกแล้ว ซูโฮเร่งเท้าขึ้นเรื่อยๆทำเป็นไม่ได้ยินเสียงหมอจุนซู เขาได้ยินเสียงตะโกนดังเรื่อยๆแต่ทว่ากลับไม่หยุด เร่งฝีเท้าตัวเองให้มากขึ้นพร้อมกับหายใจหอบใหญ่ ทันทีที่ไปถึงหลังมหาลัยก็รีบนั่งลงที่เดิม กำมือตัวเองแน่น เขาลืม ลืมเอากระเป๋าที่มีทิชชู่คริสมา
ไม่เป็นไร แค่ได้มองห่างๆจากตรงนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
นั่นมันผู้หญิงที่ชื่อคริสตัลใช่ไหม
ซูโฮเพ่งสายตาลงมองไปมากขึ้นกว่าเดิม ผู้หญิงที่ชื่อคริสตัลนั่นถือแก้วน้ำมาให้คริส แต่ทว่าคริสกลับปฏิเสธ แต่เธอยังคงดึงดันส่งแก้วน้ำให้คริสอยู่ อะไรกัน..ยัยนั่น
“ออกไป..”
ซูโฮพูดขึ้นเบาๆแล้วกำมือตัวเองแน่น ถลึงตาเมื่อเห็นว่าคริสตัลเริ่มเข้าใกล้คริสมากขึ้นเรื่อยๆ เกร็งตัวเองแล้วกัดริมฝีปาก
“ออกไปห่างๆจากคริส!!!”
เสียงตะโกนดังลั่นไปทั่วข้างหลัง ซูโฮหัวเราะออกมาดังลั่น ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วชี้ไปที่กลางสนาม
“แก..ตาย”
talk : กำลังจะเพิ่มระดับความจิตแล้วนะคับ
ระวังตัวไว้
ความคิดเห็น