คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ■ chapter : t w o ( 100% )
พรึ่บ
แสงสว่างจ้าของหลอดไฟทำผมต้องหยีตา— ทันทีที่มีแสงไฟผมใช้แรงทั้งหมดแงะมือชานยอลออกและดูท่าเขาจะปล่อยผมง่ายๆด้วย— ผมลุกขึ้นวิ่งไปหาคยองซูที่ข้างนอกห้องรับแขก แต่กลายเป็นว่าเป็นจงอินที่พยุงคยองซูเข้ามาแทน – ที่แขนฝั่งขวามีเลือดเต็มไปหมด ผมรีบวิ่งไปหาคยองซู มองแผลเขาแล้วถึงกับต้องปิดปากตัวเองแน่น ผมจะร้องไห้อีกรอบแล้ว
“ฉันว่าพวกเราต้องมีเรื่องคุยกันแล้วละ”
พี่คริสเดินมาหาพวกผมที่ยืนกันอยู่หน้าประตู โดยมีพี่ลู่ห่านและเซฮุนถือกล่องยาขนาดใหญ่มาข้างหลังด้วย
■ D O U B T
“เรื่องมันเริ่มจากพวกเราปาร์ตี้กัน แล้วอยู่กันเป็นกลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มของฉัน เทา ชานยอล จงอิน เซฮุน แทมิน ที่เล่นน้ำกันอยู่ แล้วแทมินก็แยกไปที่ห้องก่อน.. ส่วน ซูโฮ เลย์ ลู่ห่าน มินซอก ก็กำลังคุยกันอยู่ข้างบน คยองซูกับแบคฮยอนก็ไปนอน .. เดียว จงแด..”
พี่คริสนั่งเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นเพื่อจะได้เริ่มหาคนร้าย ผมนั่งอยู่ข้างๆคยองซูที่มีผ้าพันแผลอยู่ที่ต้นแขนขวา เมื่อร่ายรายชื่อแล้วหายไปคนหนึ่ง พี่คริสจึงเริ่มกวาดตามองไปรอบๆห้อง และเห็นพี่จงแดที่นั่งนิ่งอยู่ที่มุมของโซฟาห่างจากพวกเรา
“นายไปอยู่ที่ไหน”
“นั่งอยู่ตรงริมสระ”เสียงนั่นตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่
“ทำไมไม่มีใครเห็นนาย”
“จะทราบกับพวกนายหรอ..”
คำตอบกวนประสาทนั่นทำให้พี่คริสต้องกรอกตาไปมา เป็นผมก็โมโหเถอะ – ก็จริงนะ เพราะตลอดงานผมไม่เห็นพี่เขาเลย ทั้งๆที่ผมก็นั่งอยู่ที่ริมสระเหมือนกัน สงสัยจะคนละมุม
“แต่ฉันเห็นนะ ฉันเห็นเขานั่งอยู่คนเดียว”
พี่มินซอกชูมือขึ้นกลางอากาศไปมาเหมือนเวลาที่เด็กกำลังยกมือขออนุญาตครู พี่คริสหันไปมองแล้วพยักหน้าเหมือนจะเก็บข้อมูล
“แล้วหลังจากนั้น ..ฉันกับเถาก็ไปต่อกันที่ห้อง คยองซูแบคฮยอนหลับแล้ว เซฮุนกับลู่ห่านด้วยใช่ไหม ? แล้วที่เหลือพวกนายทำอะไรอยู่”
“ผมช่วยไอ้นี่คิดเรื่องบางเรื่องน่ะ อยู่ที่ห้องมัน”
จงอินพูดขึ้นแล้วชี้ไปที่ชานยอลที่หาวหวอดๆ .. ผมมองหน้าชานยอลแล้วจู่ๆก็รู้สึกแปลกๆ สมองดันไปคิดเรื่องเมื่อกี้ที่เขากอดผมจนได้ ผมส่ายหัวไล่ความคิดตัวเองแล้วหันไปฟังพี่คริสพูดต่อ
“ผม..กับเลย์ก็อยู่ในห้อง”
“แล้วนายละ ..? มินซอก นายอยู่ไหน ?จงแดด้วย”
“ฉันอยู่ในห้อง— คนเดียว”
พี่จงแดตอบมาแค่นั้น บรรยากาศที่แสนอึดอัดก็ดูอึมครึมเข้าไปอีก – ให้ตายเถอะพี่เขาควรเรียนรู้มรรยาทในสังคมบ้างนะผมว่า
“เดียว ฉันสงสัย ทำไมบ้านนี้ไม่มีคนใช้เลย” พี่ซูโฮพูดขัดขึ้นมา
“นั่นสิ”
ผมพึมพำเบาๆ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแล้วรึเปล่า เหมือนจงใจ – เหมือนเขาจงใจพาพวกเรามาที่นี่
“เฮ้ยๆใจเย็นดิ ปกติเวลาพวกเรามาแทมินก็ไม่เรียนแม่บ้านอยู่แล้ว จนกว่าจะกลับถึงให้เรียกมา เพราะไม่อยากให้มาขัดเวลาพักผ่อนนะ” จงอินเป็นคนอธิบาย คิ้วที่ขมวดเข้าหากันของผมคลายออกทันที
“น่าแปลก.. น่าแปลก.. หลายๆอย่าง”
พี่คริสพึมพำไปมา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆบ้านตั้งแต่หน้าประตูยันพนังเพดานบ้าน ความเงียบเชียบของค่ำคืนของตีสี่ทำผมพูดอะไรไม่ออก ภาวนาให้ถึงเช้าเร็วๆ
“คยองซู ไหนเล่าสิว่านายไปเจออะไรมา”
พี่ลู่ห่านพูดขึ้น สายตานั่นดูเหยียดหยามมาก – ให้ตายเหอะ ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปจากเมื่อตอนปาร์ตี้จัง หลังจากนั้นทั้งห้องก็เบนสายตามาที่คยองซู รวมทั้งผมด้วย ถึงจะดึกมากแค่ไหนแต่ก็ไม่กล้ามีใครไปนอนอยู่ดี
“ผ..ผมออกจากห้องน้ำเสร็จ ไฟก็ดับ..ผมมองไม่เห็น.. มันมืด แล้วก็มีคน..มาปิดปาก”
“โอ้ย พูดยานคางอยู่นั่นแหละ !!”
พี่ลู่ห่านพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย เซฮุนลูบไหล่แฟนตัวเองแล้วบอกให้ใจเย็นๆ— ผมค่อนข้างจะหงุดหงิดและเริ่มไม่ชอบพี่ลู่ห่านสักไหร่ เหตุการณ์แบบนี้ใครจะทำตัวปกติได้กัน ผมบีบมือคยองซูเบาๆเพื่อให้กำลังใจ คยองซูเม้มปากตัวเองแน่น
ภาพเลือดเมื่อกี้ยังติดตา แขนทั้งแขนของคยองซูเต็มไปด้วยเลือด เลือดสีแดงนั่น กลิ่นน่าเวียนหัวแบบนั้น – ใบหน้าที่ซีดจนแทบดูไม่ได้ ทั้งเหงื่อที่ไหลออกมา มันทำให้ผมแทบจะร้องไห้ตาย ทันทีที่พี่ลู่ห่านเปิดแผลนั่นขึ้นผมต้องเดินหนีทันทีเลยครับ ถึงจะเห็นแผลแค่แปบเดียวก็เถอะ แต่มันดูเหวอะหวะ ผมเห็นหนังของคยองซูเปิดด้วย ผมไม่ได้รังเกียจอะไรเลยนะครับ แต่ผมทนดูไม่ไหวจริงๆ
“ข..ขอโทษ แต่มันเร็วมาก มันล็อคคอผม—แล้วก็เอามีดมากรีดแขนผม”
“หึ แต่เมื่อกี้ฉันวิ่งออกไปฉันไม่เห็นมีใครสักคน”
จงอินยืนกอดอกมองคยองซู สายตาเขาดูเหยียดหยามมากจริงๆ – เขาจะบอกว่าคยองซูทำร้ายตัวเองงั้นหรอ!?
“ผมพูดเรื่องจริงนะ!!”
“ฉันไม่ได้ว่านายโกหกสักหน่อย ก็แค่บอก— ว่าไม่มีใครยืนตรงนั้นเลยนอกจากนาย”
การที่เขาแสยะยิ้มแบบนั้นยิ่งทำให้คยองซูตัวสั่นมากขึ้น ผมรู้อยู่ว่าคยองซูไม่โกหกหรอก บรรยากาศเริ่มแย่ลงอีกครั้ง ผมอยากจะช่วยแก้ไขหรือพูดตอบโต้อะไรบางอย่างไปแต่ก็พูดไม่ได้เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย
“เฮ้ย ! มึงพอเหอะ เขาโดนทำร้ายมานะเว้ย”
“อะไรของมึง กูไม่ได้พูดสักหน่อยว่าเขาแทงตัวเอง -- ใช่ไหม?”
เหตุการณ์เหมือนจะดีขึ้นเมื่อชานยอลเดินเข้ามาช่วยคยองซู แต่เปล่าเลยจงอินยังคงพูดไปเรื่อยๆ
“ผม..ผมไม่ได้ทำนะ ! มีคนมากรีดแขนผมจริงๆ”
คยองซูพยายามอธิบายให้สายตาของคนในห้องเริ่มมองมาแปลกๆ
“แต่นายเป็นคนเดียวที่ไม่ได้การ์ดเชิญจากแทมิน— นายอาจจะแฝงตัวมาฆ่าแทมินก็ได้”
“ไม่ใช่นะ!! ฉันเป็นคนชวนคยองซูมาต่างหาก!”
ผมลุกขึ้นแล้วชี้หน้าจงอิน มันมักจะมากไปแล้ว เขาไม่รู้จักคยองซูดีจริงๆซะหน่อยถึงได้มาว่าอย่างนี้ !!
“โวยวายทำไมแบคฮยอน จงอินแค่สงสัย”
พี่คริสเดินเข้ามาเอ็ดผม .. ให้ตายเถอะ ทีเขากล่าวหาเพื่อนผมละ ? ทำไมถึงไม่ว่าบ้าง ผมนั่งลงแล้วหายใจฟึดฟัด คยองซูส่ายหน้าแล้วพูดเบาๆว่าไม่เป็นไร แต่คิ้วที่ขมวดเข้าหากันนั่นมันทำให้ผมรู้ว่าเขาเครียดมาก
“หืม~ บางทีอาจจะเป็นนายก็ได้ .. ทั้งเข็มขัดที่รัดคอนั่น แถมยังพาคยองซูเข้ามาในห้องคนแรกอีก ใช่ไหมคิมจงอิน”
ผมขอบคุณพี่ลู่ห่านนิดหน่อยที่เขาแก้ต่างให้คยองซู ..หรือจะไม่ตั้งใจแก้ให้ก็เถอะ เหตุผลของพี่เขาค่อนข้างมีน้ำหนัก – ทั้งหมดมันบ่งบอกจริงๆว่าเป็นคิมจงอิน -- จงอินไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยืนกอดอกอยู่อย่างนั้น สายตาจากที่เคยหยิ่งผยองกลายเป็นนิ่งทันที – บรรยากาศในห้องดูเงียบเชียบจนเรียกได้ว่าหนาวเย็น ผมเอามือมากอดตัวเองแล้วก้มหน้า
ไม่รู้ว่าแอร์ที่นี่เย็นมากหรือผมรู้สึกเย็นเพราะว่าความอึดอัดของทุกคนมารวมกัน
ยิ่งได้รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่กับศพ ..แถมยังมีการทำร้ายกันมากขึ้นยิ่งกลัว
นี่ไม่ใช่ความฝันหรือการ์ตูนอะไรที่เคยดูสักนิด มันน่ากลัวกว่าที่คิด สับสน ไม่เข้าใจว่าทำไม ผมกัดปากตัวเองแรงจนร้องโอ้ยออกมาเบาๆ ความรู้สึกตีงเครียดไม่ได้หายไปจากใจเลยสักนิด
“เอ๋ .. หรือว่าจะเป็นนายนะมินซอก .. เมื่อตอนปาร์ตี้นายยังบอกว่าเกลียดขี้หน้าของแทมินกับฉันอยู่เลย”
พี่ลู่ห่านพูดขึ้นทำเสียงเหมือนพูดเล่น แต่สายตาพี่เขาดูจริงจังจนน่ากลัว สายตาที่ผมเคยคิดว่ามันดูใสกิ๊งราวกับเด็กน้อยตอนแรกเกิดตอนนี้โตขึ้นและดูเจ้าเล่ห์กว่าที่คิดไว้เยอะ
“ไม่ใช่นะ..! ฉ..ฉัน”
“พอเถอะลู่ห่าน”
เซฮุนพูดขัดขึ้น ผมค่อนข้างตกใจไม่คิดว่าเซฮุนจะกล้าขัดพี่ลู่ห่าน พี่มินซอกถอนหายใจใหญ่ .. ผมว่าแปลกๆนะ ทั้งๆที่พี่ลู่ห่าน พี่มินซอกกับแทมินดูจะสนิทกันแท้ๆ แต่พี่มินซอกกลับมาบอกว่าเกลียดแทมิน
“อะไรกันเซฮุนนา.. ฉันแค่สงสัย”
คำพูดสุดท้ายนั่นพี่เขาเหล่ตามามองพี่คริสเหมือนจะล้อเลียน บรรยากาศยิ่งดูเครียดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ผมรู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก ได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ผมไม่กล้าแม้แต่จะมองใครในห้อง เพราะกลัวว่าเขาจะมาทำร้ายผม
“ฉ..ฉันว่าพวกเราควรนอนแล้วออกจากที่นี้เร็วๆเถอะ ทีเหลือปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจเขา”พี่ซูโฮพูดขึ้น
“เอาสิถ้านายไม่กลัวมันตามไปฆ่า”
55%
พี่ลู่ห่านพูดขัดบรรยากาศ ทุกคนในห้องเงียบ .. ผิดไหมถ้าผมจะลุกขึ้นแล้วเดินหนีออกไป ผมไม่ชอบเลยแบบนี้ มันสงครามประสาทชัดๆ
“ตอนนี้โทรศัพท์ยังไม่มีสัญญาณ ถ้ากลัวก็อยู่ด้วยกันหมดนี่แหละ”
ใช่.. ถึงจะรู้ว่ามีฆาตกรอยู่ด้วย แต่อยู่ด้วยกันหลายๆคนน่าจะดีกว่า ตอนนี้ผมรู้สึกเครียด ท้องปั่นป่วนไปหมดตั้งแต่เหตุการ์ณที่เกิดขึ้น แทมิน ..ลีแทมิน ถึงจะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ผมเสียใจกับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นจริงๆ
ผมขอให้เขาไปดี
หลังจากนั้นในห้องก็เงียบกันทั้งหมด ผมรู้สึกว่าความตึงเครียดทั้งหมดเริ่มลดผ่อนลงไปมาก อาจจะเพราะไม่มีใครพูดเลยสักคนและเริ่มจะหลับกันไป – ผมมองไปรอบๆห้องรับแขกใหญ่ หน้าต่างที่ปิดสนิทรวมทั้งแสงผ้าม่านนั่นที่ปิดไว้ด้วย ผมมองไปเรื่อยๆเพราะรู้สึกนอนไม่หลับ ก่อนสายตาจะไปหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่งที่จ้องผมอยู่
ปาร์ค ชานยอล
ผมรู้สึกหัวใจเต้นตึกตักแปลกๆเมื่อเห็นเขา เหตุการณ์ในเมื่อคืนมันบังคับให้เขาต้องทำอย่างนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมต้องจะต้องมารู้สึก..อะไรแบบนี้ เขาดูจะตกใจเหมือนกันที่เห็นผมมองกลับ เลยเบนสายตาไปมองอย่างอื่นแทน
ดีแล้วละ ผมจะได้ไม่ต้องรู้สึกแปลกๆแบบนี้
ผมกอดไหล่ตัวเองไว้เพราะความเย็นของแอร์ ที่ไม่มีผ้าห่มหรืออะไรนะหรอ -- เพราะผมเสียสละให้คยองซูที่หลับปุยบนโซฟาไปเรียบร้อย บางทีผมควรจะหลับได้แล้ว
ผมหลับตาลงเพราะความเหนื่อยจากเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดคืน หวังว่าทันทีที่ลืมตาผมจะได้เจอคนร้ายและได้กลับบ้านปลอดภัยเสียที
หรือเปล่า
ผมได้ยินเสียงคนเดินกึกกักๆเบาๆ ความรู้สึกขนลุกพร้อมกันทั้งร่างกาย ผมหลับตานิ่งไม่กล้าขยับตัวใดๆทั้งสิ้น ไม่พูด ไม่ทำอะไรทั้งนั้น แต่ภายในใจเต้นตึกตักราวกับจะระเบิด
กลัว
เสียงเท้านั่นหยุดลงแล้ว ผมไม่สามารถฟังได้ว่าเขาไปหยุดลงที่ไหน มือที่กอดอกของผมบีบแขนตัวเองแรงเพื่อระบายความกลัว เหงื่อที่ไหลออกมาท่ามกลางแอร์ที่เย็นเฉียบแบบนี้ ไม่กล้าแม้แต่จะหลับลงเพราะกลัวโดนทำร้าย แต่ว่าถ้าไม่หลับก็ต้องมารับความอึดอัดแบบนี้
ทว่าความอุ่นจากผ้าที่โอบร่างกายผมมันทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นกลางความมืด ใบหน้าคมของใครบางคนดูจะตกใจเหมือนกันที่เห็นผมลืมตา
“เราเห็นตัวเล็กหนาวอะเลยเอามาให้”
ชานยอลพูดเบามาจนเหมือนกระซิบ เขานั่งย่อตัวตรงหน้าผมทำให้ระดับสายตาเราอยู่ในระดับเกือบเดียวกัน ดวงตานั่นพยายามเหมือนจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่พูดออกมา
“ข..ขอบคุณ”
ผมตอบกลับแล้วจับผ้าห่มนั่นมาห่มตัวเอง ชานยอลส่งยิ้มให้ผมก่อนจะลุกไปนั่งที่โซฟาข้างๆจงอินที่หลับอยู่ ผมเม้มปากตัวเองแล้วก้มหน้า ผิดไหมที่แอบรู้สึกดี – ผมเหลือบไปมองเขาที่กำลังจะนั่งหลับบนโซฟา เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าผมมองอยู่ ถึงยิ้มให้ผม ผมพยักหน้าเพื่อขอบคุณเขาอีกครั้งแล้วเบนสายตาออกมา
ตอนนี้ตีห้าครึ่งกว่า ผมคิดว่าทุกคนคงหลับไปหมดแล้ว มันถึงเวลาที่ผมต้องหลับจริงๆแล้วละ
ขอให้ตื่นขึ้นมาเจอแต่เรื่องดีๆเถอะ
■ D O U B T
หากแต่ทันทีที่ผมลืมตา ผมยังคงเห็นหลายๆคนเดินไปมาในห้องรับแขกอย่างกระวนกระวาย จับโทรศัพท์ตัวเองแล้วกดโทรออกไป – แล้วกดวาง แล้วกดโทรออกไปซ้ำๆอย่างนั้นหลายรอบ
“แบคฮยอนไปอาบน้ำเถอะ เดียวเราไปเฝ้าหน้าประตูให้”
คยองซูเดินกุมแขนขวามาหาผม ผมขยี้ตาแล้วมองไปรอบบ้าน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่หลายๆคนเปลี่ยนเสื้อผ้ากันหมดแล้วเท่านั้นเอง
“ทำไมเราไม่ได้กลับบ้านละ”
“โทรศัพท์ทุกคนถูกถอดแบตกับไม่มีสัญญาณ..แล้วก็”
“ไม่มีใครเข้ามาหาเราเลยตั้งแต่เราแจ้งไป”
พี่คริสเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น ใบหน้าหล่อเหลานั่นตรึงเครียดมาตลอดเวลาตั้งแต่เมื่อคืน – ไม่ใช่แค่พี่คริสแต่กลายเป็นทั้งหมด
“แล้วเราจะทำยังไงกันดี..”
“ไปอาบน้ำเถอะ”
ผมพยักหน้าให้พี่คริส รอบห้องดูวุ่นวายและสงบในเวลาเดียวกัน เซฮุนตัดสินใจปาโทรศัพท์นั่นทิ้งแล้วนั่งลงข้างๆจงอินและชานยอลที่เอาแต่นอนยืดขาบนโซฟา พี่จงแดนั่งอ่านหนังสือ’จิตและวิทยา’น่าจะประมาณนี้เพราะที่เหลือเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษหมด พี่มินซอกกับพี่ลู่ห่านนั่งๆนอนๆกันอยู่อย่างนั้น
“อาบน้ำเสร็จละออกมา จะได้ไปกินข้าวพร้อมกัน เทากับเลย์ทำกับข้าวไว้ให้ที่ห้องครัวแล้ว”
“ผมช่วยได้ไหมอะ ผมชอบทำกับข้าว”
คยองซูตาวาวทันทีที่บอกว่ามีการทำกับข้าวเกิดขึ้น แหงละเจ้านี่นอกจากกินเก่งแล้วยังทำกับข้าวอร่อยอีก
“เฮอะ .. แขนเจ็บแล้วยังสร้างปัญหาอีก”
เสียงหนึ่งดังขึ้นที่โซฟา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร จงอินนั่งหาวอยู่อย่างนั้น
“ก็ อยาก ช่วย”
ผมเดินแหวกสงครามเล็กๆระหว่างคยองซูและจงอินไปหน้าประตูที่พี่คริสชี้ให้มาอาบที่นี่ .. ผมต้องเดินไปเอาเสื้อผ้าในห้องสินะ
“ไม่ต้องกลัว เดียวฉันไปเป็นเพื่อน”
พี่มินซอกเดินมาตบไหล่ผม ผมพยักหน้าแล้วเดินไป ไม่มีการพูดอะไรเกิดขึ้น ผมเม้มปากแน่น .. หวังว่าตอนกลางวันคงจะไม่เกิดอะไรขึ้น
“นายคิดว่าเป็นพวกเราหรือเปล่าที่ฆ่า..แทมิน”
คำพูดสุดท้ายของพี่มินซอกเบาซะจนเหมือนกระซิบ ผม..ไม่รู้ ..
“ม..ไม่รู้ครับ”
“ช่างเหอะ บางทีนายอาจจะเป็นฆาตกรก็ได้--”
พี่มินซอกพูดแล้วแยกเดินเข้าไปในห้องของเขา ผมยืนนิ่งขนลุกชัน – หมายความว่าใครก็มีสิทธิ์เป็นฆาตกรงั้นหรอ ผมเริ่มรู้สึกกังวลซะแล้วสิ เมื่อคืนหรือว่าจะเป็นผมเดินละเมอมาฆ่าแทมิน .. ไม่หรอกน่า ผมยังนอนอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง – คยองซูยังคงนอนอยู่เหมือนกัน – หรือจะเป็นคยองซูลุกไปฆ่าแทมินเพราะเมา แต่ไม่น่าใช่ – นี่ผมเชื่อคำพูดของจงอินหรอที่บอกว่าคยองซูทำร้ายตัวเอง .. ไม่ใช่หรอกน่า-- หรือว่าจะเป็นชานยอล --
ไร้สาระ
ผมรีบเดินเข้าไปหยิบของในห้องทันที เพราะยิ่งคิดแล้วยิ่งปวดหัว
ไม่ว่าฆาตกรจะเป็นใคร ขอแค่ให้ผมกับคยองซูได้กลับบ้านแบบปลอดภัยก็พอ
E é主
----------------------------------------------------------------------------------------------------
writer : แต่เองจิตตกเอง ตอนต่อไปออกแนวเลือดสาดหน่อยนะคะ .. ใจไม่แข็งก็นะ -- อืม : เอ้อ หิว ไปละ
ความคิดเห็น