ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) doubt .

    ลำดับตอนที่ #3 : ■ chapter : t w o ( 100% )

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 55


                   









       
                    พรึ่บ
     

    แสงสว่างจ้าของหลอดไฟทำผมต้องหยีตา— ทันทีที่มีแสงไฟผมใช้แรงทั้งหมดแงะมือชานยอลออกและดูท่าเขาจะปล่อยผมง่ายๆด้วย ผมลุกขึ้นวิ่งไปหาคยองซูที่ข้างนอกห้องรับแขก แต่กลายเป็นว่าเป็นจงอินที่พยุงคยองซูเข้ามาแทน ที่แขนฝั่งขวามีเลือดเต็มไปหมด ผมรีบวิ่งไปหาคยองซู มองแผลเขาแล้วถึงกับต้องปิดปากตัวเองแน่น  ผมจะร้องไห้อีกรอบแล้ว
     

                    ฉันว่าพวกเราต้องมีเรื่องคุยกันแล้วละ
     

    พี่คริสเดินมาหาพวกผมที่ยืนกันอยู่หน้าประตู โดยมีพี่ลู่ห่านและเซฮุนถือกล่องยาขนาดใหญ่มาข้างหลังด้วย

     

                 ■   D O U B T 

     

                    เรื่องมันเริ่มจากพวกเราปาร์ตี้กัน แล้วอยู่กันเป็นกลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มของฉัน เทา ชานยอล จงอิน เซฮุน แทมิน ที่เล่นน้ำกันอยู่ แล้วแทมินก็แยกไปที่ห้องก่อน.. ส่วน ซูโฮ เลย์ ลู่ห่าน มินซอก ก็กำลังคุยกันอยู่ข้างบน คยองซูกับแบคฮยอนก็ไปนอน .. เดียว จงแด..”
     

                    พี่คริสนั่งเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นเพื่อจะได้เริ่มหาคนร้าย ผมนั่งอยู่ข้างๆคยองซูที่มีผ้าพันแผลอยู่ที่ต้นแขนขวา เมื่อร่ายรายชื่อแล้วหายไปคนหนึ่ง พี่คริสจึงเริ่มกวาดตามองไปรอบๆห้อง และเห็นพี่จงแดที่นั่งนิ่งอยู่ที่มุมของโซฟาห่างจากพวกเรา
     

                      นายไปอยู่ที่ไหน

                  “นั่งอยู่ตรงริมสระเสียงนั่นตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่

                  “ทำไมไม่มีใครเห็นนาย

                  “จะทราบกับพวกนายหรอ..”
     

    คำตอบกวนประสาทนั่นทำให้พี่คริสต้องกรอกตาไปมา เป็นผมก็โมโหเถอะ ก็จริงนะ เพราะตลอดงานผมไม่เห็นพี่เขาเลย ทั้งๆที่ผมก็นั่งอยู่ที่ริมสระเหมือนกัน สงสัยจะคนละมุม
     

                       แต่ฉันเห็นนะ ฉันเห็นเขานั่งอยู่คนเดียว
     

    พี่มินซอกชูมือขึ้นกลางอากาศไปมาเหมือนเวลาที่เด็กกำลังยกมือขออนุญาตครู พี่คริสหันไปมองแล้วพยักหน้าเหมือนจะเก็บข้อมูล
     

                       แล้วหลังจากนั้น ..ฉันกับเถาก็ไปต่อกันที่ห้อง คยองซูแบคฮยอนหลับแล้ว เซฮุนกับลู่ห่านด้วยใช่ไหม ? แล้วที่เหลือพวกนายทำอะไรอยู่
     

                    ผมช่วยไอ้นี่คิดเรื่องบางเรื่องน่ะ อยู่ที่ห้องมัน
     

    จงอินพูดขึ้นแล้วชี้ไปที่ชานยอลที่หาวหวอดๆ .. ผมมองหน้าชานยอลแล้วจู่ๆก็รู้สึกแปลกๆ สมองดันไปคิดเรื่องเมื่อกี้ที่เขากอดผมจนได้  ผมส่ายหัวไล่ความคิดตัวเองแล้วหันไปฟังพี่คริสพูดต่อ
     

                      ผม..กับเลย์ก็อยู่ในห้อง

                  “แล้วนายละ ..? มินซอก นายอยู่ไหน ?จงแดด้วย

                  “ฉันอยู่ในห้อง คนเดียว
     

    พี่จงแดตอบมาแค่นั้น บรรยากาศที่แสนอึดอัดก็ดูอึมครึมเข้าไปอีกให้ตายเถอะพี่เขาควรเรียนรู้มรรยาทในสังคมบ้างนะผมว่า  
     

                  “เดียว ฉันสงสัย ทำไมบ้านนี้ไม่มีคนใช้เลย พี่ซูโฮพูดขัดขึ้นมา

                  “นั่นสิ
     

    ผมพึมพำเบาๆ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแล้วรึเปล่า เหมือนจงใจ เหมือนเขาจงใจพาพวกเรามาที่นี่
     

                       เฮ้ยๆใจเย็นดิ ปกติเวลาพวกเรามาแทมินก็ไม่เรียนแม่บ้านอยู่แล้ว จนกว่าจะกลับถึงให้เรียกมา เพราะไม่อยากให้มาขัดเวลาพักผ่อนนะจงอินเป็นคนอธิบาย คิ้วที่ขมวดเข้าหากันของผมคลายออกทันที

                   “น่าแปลก.. น่าแปลก.. หลายๆอย่าง
     

    พี่คริสพึมพำไปมา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆบ้านตั้งแต่หน้าประตูยันพนังเพดานบ้าน ความเงียบเชียบของค่ำคืนของตีสี่ทำผมพูดอะไรไม่ออก ภาวนาให้ถึงเช้าเร็วๆ
     

                   “คยองซู ไหนเล่าสิว่านายไปเจออะไรมา
     

    พี่ลู่ห่านพูดขึ้น สายตานั่นดูเหยียดหยามมาก – ให้ตายเหอะ ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปจากเมื่อตอนปาร์ตี้จัง หลังจากนั้นทั้งห้องก็เบนสายตามาที่คยองซู รวมทั้งผมด้วย ถึงจะดึกมากแค่ไหนแต่ก็ไม่กล้ามีใครไปนอนอยู่ดี
     

                       ผ..ผมออกจากห้องน้ำเสร็จ ไฟก็ดับ..ผมมองไม่เห็น.. มันมืด แล้วก็มีคน..มาปิดปาก

                   “โอ้ย พูดยานคางอยู่นั่นแหละ !!”
     

    พี่ลู่ห่านพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย เซฮุนลูบไหล่แฟนตัวเองแล้วบอกให้ใจเย็นๆ— ผมค่อนข้างจะหงุดหงิดและเริ่มไม่ชอบพี่ลู่ห่านสักไหร่  เหตุการณ์แบบนี้ใครจะทำตัวปกติได้กัน ผมบีบมือคยองซูเบาๆเพื่อให้กำลังใจ คยองซูเม้มปากตัวเองแน่น
     

                    ภาพเลือดเมื่อกี้ยังติดตา แขนทั้งแขนของคยองซูเต็มไปด้วยเลือด เลือดสีแดงนั่น กลิ่นน่าเวียนหัวแบบนั้น – ใบหน้าที่ซีดจนแทบดูไม่ได้ ทั้งเหงื่อที่ไหลออกมา มันทำให้ผมแทบจะร้องไห้ตาย ทันทีที่พี่ลู่ห่านเปิดแผลนั่นขึ้นผมต้องเดินหนีทันทีเลยครับ ถึงจะเห็นแผลแค่แปบเดียวก็เถอะ แต่มันดูเหวอะหวะ ผมเห็นหนังของคยองซูเปิดด้วย ผมไม่ได้รังเกียจอะไรเลยนะครับ แต่ผมทนดูไม่ไหวจริงๆ

                        ข..ขอโทษ แต่มันเร็วมาก มันล็อคคอผมแล้วก็เอามีดมากรีดแขนผม

                   “หึ แต่เมื่อกี้ฉันวิ่งออกไปฉันไม่เห็นมีใครสักคน
     

    จงอินยืนกอดอกมองคยองซู สายตาเขาดูเหยียดหยามมากจริงๆ เขาจะบอกว่าคยองซูทำร้ายตัวเองงั้นหรอ!?
     

                         ผมพูดเรื่องจริงนะ!!”

                         ฉันไม่ได้ว่านายโกหกสักหน่อย ก็แค่บอก ว่าไม่มีใครยืนตรงนั้นเลยนอกจากนาย


    การที่เขาแสยะยิ้มแบบนั้นยิ่งทำให้คยองซูตัวสั่นมากขึ้น ผมรู้อยู่ว่าคยองซูไม่โกหกหรอก  บรรยากาศเริ่มแย่ลงอีกครั้ง  ผมอยากจะช่วยแก้ไขหรือพูดตอบโต้อะไรบางอย่างไปแต่ก็พูดไม่ได้เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย

                          เฮ้ย ! มึงพอเหอะ เขาโดนทำร้ายมานะเว้ย

                    “อะไรของมึง กูไม่ได้พูดสักหน่อยว่าเขาแทงตัวเอง -- ใช่ไหม?”
     

    เหตุการณ์เหมือนจะดีขึ้นเมื่อชานยอลเดินเข้ามาช่วยคยองซู แต่เปล่าเลยจงอินยังคงพูดไปเรื่อยๆ
     

                           ผม..ผมไม่ได้ทำนะ ! มีคนมากรีดแขนผมจริงๆ
     

    คยองซูพยายามอธิบายให้สายตาของคนในห้องเริ่มมองมาแปลกๆ

                          แต่นายเป็นคนเดียวที่ไม่ได้การ์ดเชิญจากแทมินนายอาจจะแฝงตัวมาฆ่าแทมินก็ได้

                    “ไม่ใช่นะ!! ฉันเป็นคนชวนคยองซูมาต่างหาก!”
     

    ผมลุกขึ้นแล้วชี้หน้าจงอิน มันมักจะมากไปแล้ว เขาไม่รู้จักคยองซูดีจริงๆซะหน่อยถึงได้มาว่าอย่างนี้ !!
     

                    “โวยวายทำไมแบคฮยอน  จงอินแค่สงสัย
     

    พี่คริสเดินเข้ามาเอ็ดผม .. ให้ตายเถอะ ทีเขากล่าวหาเพื่อนผมละ ? ทำไมถึงไม่ว่าบ้าง ผมนั่งลงแล้วหายใจฟึดฟัด คยองซูส่ายหน้าแล้วพูดเบาๆว่าไม่เป็นไร แต่คิ้วที่ขมวดเข้าหากันนั่นมันทำให้ผมรู้ว่าเขาเครียดมาก

     

                    “หืม~ บางทีอาจจะเป็นนายก็ได้ .. ทั้งเข็มขัดที่รัดคอนั่น แถมยังพาคยองซูเข้ามาในห้องคนแรกอีก ใช่ไหมคิมจงอิน

    ผมขอบคุณพี่ลู่ห่านนิดหน่อยที่เขาแก้ต่างให้คยองซู ..หรือจะไม่ตั้งใจแก้ให้ก็เถอะ เหตุผลของพี่เขาค่อนข้างมีน้ำหนัก ทั้งหมดมันบ่งบอกจริงๆว่าเป็นคิมจงอิน -- จงอินไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยืนกอดอกอยู่อย่างนั้น สายตาจากที่เคยหยิ่งผยองกลายเป็นนิ่งทันที บรรยากาศในห้องดูเงียบเชียบจนเรียกได้ว่าหนาวเย็น ผมเอามือมากอดตัวเองแล้วก้มหน้า
     

                    ไม่รู้ว่าแอร์ที่นี่เย็นมากหรือผมรู้สึกเย็นเพราะว่าความอึดอัดของทุกคนมารวมกัน

                    ยิ่งได้รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่กับศพ ..แถมยังมีการทำร้ายกันมากขึ้นยิ่งกลัว
     

    นี่ไม่ใช่ความฝันหรือการ์ตูนอะไรที่เคยดูสักนิด มันน่ากลัวกว่าที่คิด สับสน ไม่เข้าใจว่าทำไม  ผมกัดปากตัวเองแรงจนร้องโอ้ยออกมาเบาๆ  ความรู้สึกตีงเครียดไม่ได้หายไปจากใจเลยสักนิด

                    เอ๋ .. หรือว่าจะเป็นนายนะมินซอก .. เมื่อตอนปาร์ตี้นายยังบอกว่าเกลียดขี้หน้าของแทมินกับฉันอยู่เลย
     

     พี่ลู่ห่านพูดขึ้นทำเสียงเหมือนพูดเล่น แต่สายตาพี่เขาดูจริงจังจนน่ากลัว สายตาที่ผมเคยคิดว่ามันดูใสกิ๊งราวกับเด็กน้อยตอนแรกเกิดตอนนี้โตขึ้นและดูเจ้าเล่ห์กว่าที่คิดไว้เยอะ

                 “ไม่ใช่นะ..! ฉ..ฉัน

                 “พอเถอะลู่ห่าน
     

    เซฮุนพูดขัดขึ้น ผมค่อนข้างตกใจไม่คิดว่าเซฮุนจะกล้าขัดพี่ลู่ห่าน พี่มินซอกถอนหายใจใหญ่ .. ผมว่าแปลกๆนะ ทั้งๆที่พี่ลู่ห่าน พี่มินซอกกับแทมินดูจะสนิทกันแท้ๆ แต่พี่มินซอกกลับมาบอกว่าเกลียดแทมิน

                     อะไรกันเซฮุนนา.. ฉันแค่สงสัย
     

    คำพูดสุดท้ายนั่นพี่เขาเหล่ตามามองพี่คริสเหมือนจะล้อเลียน บรรยากาศยิ่งดูเครียดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ผมรู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก ได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ผมไม่กล้าแม้แต่จะมองใครในห้อง เพราะกลัวว่าเขาจะมาทำร้ายผม

                 “ฉ..ฉันว่าพวกเราควรนอนแล้วออกจากที่นี้เร็วๆเถอะ ทีเหลือปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจเขาพี่ซูโฮพูดขึ้น

                    เอาสิถ้านายไม่กลัวมันตามไปฆ่า


    55% 


     

    พี่ลู่ห่านพูดขัดบรรยากาศ ทุกคนในห้องเงียบ .. ผิดไหมถ้าผมจะลุกขึ้นแล้วเดินหนีออกไป ผมไม่ชอบเลยแบบนี้ มันสงครามประสาทชัดๆ
     

                    ตอนนี้โทรศัพท์ยังไม่มีสัญญาณ ถ้ากลัวก็อยู่ด้วยกันหมดนี่แหละ
     

    ใช่.. ถึงจะรู้ว่ามีฆาตกรอยู่ด้วย แต่อยู่ด้วยกันหลายๆคนน่าจะดีกว่า ตอนนี้ผมรู้สึกเครียด ท้องปั่นป่วนไปหมดตั้งแต่เหตุการ์ณที่เกิดขึ้น แทมิน ..ลีแทมิน ถึงจะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ผมเสียใจกับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นจริงๆ
     

                    ผมขอให้เขาไปดี
     

    หลังจากนั้นในห้องก็เงียบกันทั้งหมด ผมรู้สึกว่าความตึงเครียดทั้งหมดเริ่มลดผ่อนลงไปมาก อาจจะเพราะไม่มีใครพูดเลยสักคนและเริ่มจะหลับกันไป ผมมองไปรอบๆห้องรับแขกใหญ่ หน้าต่างที่ปิดสนิทรวมทั้งแสงผ้าม่านนั่นที่ปิดไว้ด้วย ผมมองไปเรื่อยๆเพราะรู้สึกนอนไม่หลับ ก่อนสายตาจะไปหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่งที่จ้องผมอยู่
     

                            ปาร์ค ชานยอล
     

    ผมรู้สึกหัวใจเต้นตึกตักแปลกๆเมื่อเห็นเขา เหตุการณ์ในเมื่อคืนมันบังคับให้เขาต้องทำอย่างนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมต้องจะต้องมารู้สึก..อะไรแบบนี้ เขาดูจะตกใจเหมือนกันที่เห็นผมมองกลับ เลยเบนสายตาไปมองอย่างอื่นแทน
     

                    ดีแล้วละ ผมจะได้ไม่ต้องรู้สึกแปลกๆแบบนี้
     

    ผมกอดไหล่ตัวเองไว้เพราะความเย็นของแอร์ ที่ไม่มีผ้าห่มหรืออะไรนะหรอ -- เพราะผมเสียสละให้คยองซูที่หลับปุยบนโซฟาไปเรียบร้อย บางทีผมควรจะหลับได้แล้ว
     

                    ผมหลับตาลงเพราะความเหนื่อยจากเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดคืน หวังว่าทันทีที่ลืมตาผมจะได้เจอคนร้ายและได้กลับบ้านปลอดภัยเสียที

                    หรือเปล่า
     

    ผมได้ยินเสียงคนเดินกึกกักๆเบาๆ ความรู้สึกขนลุกพร้อมกันทั้งร่างกาย ผมหลับตานิ่งไม่กล้าขยับตัวใดๆทั้งสิ้น  ไม่พูด ไม่ทำอะไรทั้งนั้น แต่ภายในใจเต้นตึกตักราวกับจะระเบิด
     

                    กลัว
     

    เสียงเท้านั่นหยุดลงแล้ว ผมไม่สามารถฟังได้ว่าเขาไปหยุดลงที่ไหน มือที่กอดอกของผมบีบแขนตัวเองแรงเพื่อระบายความกลัว เหงื่อที่ไหลออกมาท่ามกลางแอร์ที่เย็นเฉียบแบบนี้ ไม่กล้าแม้แต่จะหลับลงเพราะกลัวโดนทำร้าย แต่ว่าถ้าไม่หลับก็ต้องมารับความอึดอัดแบบนี้

    ทว่าความอุ่นจากผ้าที่โอบร่างกายผมมันทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นกลางความมืด ใบหน้าคมของใครบางคนดูจะตกใจเหมือนกันที่เห็นผมลืมตา
     

                    เราเห็นตัวเล็กหนาวอะเลยเอามาให้
     

    ชานยอลพูดเบามาจนเหมือนกระซิบ เขานั่งย่อตัวตรงหน้าผมทำให้ระดับสายตาเราอยู่ในระดับเกือบเดียวกัน ดวงตานั่นพยายามเหมือนจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่พูดออกมา
     

                    ..ขอบคุณ
     

    ผมตอบกลับแล้วจับผ้าห่มนั่นมาห่มตัวเอง  ชานยอลส่งยิ้มให้ผมก่อนจะลุกไปนั่งที่โซฟาข้างๆจงอินที่หลับอยู่  ผมเม้มปากตัวเองแล้วก้มหน้า ผิดไหมที่แอบรู้สึกดี  ผมเหลือบไปมองเขาที่กำลังจะนั่งหลับบนโซฟา เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าผมมองอยู่ ถึงยิ้มให้ผม ผมพยักหน้าเพื่อขอบคุณเขาอีกครั้งแล้วเบนสายตาออกมา
     

                    ตอนนี้ตีห้าครึ่งกว่า ผมคิดว่าทุกคนคงหลับไปหมดแล้ว มันถึงเวลาที่ผมต้องหลับจริงๆแล้วละ
     

                    ขอให้ตื่นขึ้นมาเจอแต่เรื่องดีๆเถอะ


     

    ■ D O U B T 
     

                    หากแต่ทันทีที่ผมลืมตา ผมยังคงเห็นหลายๆคนเดินไปมาในห้องรับแขกอย่างกระวนกระวาย จับโทรศัพท์ตัวเองแล้วกดโทรออกไป แล้วกดวาง แล้วกดโทรออกไปซ้ำๆอย่างนั้นหลายรอบ
     

                    แบคฮยอนไปอาบน้ำเถอะ เดียวเราไปเฝ้าหน้าประตูให้
     

    คยองซูเดินกุมแขนขวามาหาผม ผมขยี้ตาแล้วมองไปรอบบ้าน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่หลายๆคนเปลี่ยนเสื้อผ้ากันหมดแล้วเท่านั้นเอง

                “ทำไมเราไม่ได้กลับบ้านละ

                 “โทรศัพท์ทุกคนถูกถอดแบตกับไม่มีสัญญาณ..แล้วก็

                  “ไม่มีใครเข้ามาหาเราเลยตั้งแต่เราแจ้งไป
     

    พี่คริสเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น ใบหน้าหล่อเหลานั่นตรึงเครียดมาตลอดเวลาตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ใช่แค่พี่คริสแต่กลายเป็นทั้งหมด
     

                         แล้วเราจะทำยังไงกันดี..”

                    “ไปอาบน้ำเถอะ
     

    ผมพยักหน้าให้พี่คริส รอบห้องดูวุ่นวายและสงบในเวลาเดียวกัน เซฮุนตัดสินใจปาโทรศัพท์นั่นทิ้งแล้วนั่งลงข้างๆจงอินและชานยอลที่เอาแต่นอนยืดขาบนโซฟา พี่จงแดนั่งอ่านหนังสือจิตและวิทยาน่าจะประมาณนี้เพราะที่เหลือเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษหมด พี่มินซอกกับพี่ลู่ห่านนั่งๆนอนๆกันอยู่อย่างนั้น
     

                    อาบน้ำเสร็จละออกมา จะได้ไปกินข้าวพร้อมกัน เทากับเลย์ทำกับข้าวไว้ให้ที่ห้องครัวแล้ว

                    ผมช่วยได้ไหมอะ ผมชอบทำกับข้าว
     

    คยองซูตาวาวทันทีที่บอกว่ามีการทำกับข้าวเกิดขึ้น แหงละเจ้านี่นอกจากกินเก่งแล้วยังทำกับข้าวอร่อยอีก
     

                    เฮอะ .. แขนเจ็บแล้วยังสร้างปัญหาอีก
     

    เสียงหนึ่งดังขึ้นที่โซฟา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร จงอินนั่งหาวอยู่อย่างนั้น
     

                    ก็ อยาก ช่วย
     

    ผมเดินแหวกสงครามเล็กๆระหว่างคยองซูและจงอินไปหน้าประตูที่พี่คริสชี้ให้มาอาบที่นี่ .. ผมต้องเดินไปเอาเสื้อผ้าในห้องสินะ
     

                    ไม่ต้องกลัว เดียวฉันไปเป็นเพื่อน
     

    พี่มินซอกเดินมาตบไหล่ผม ผมพยักหน้าแล้วเดินไป ไม่มีการพูดอะไรเกิดขึ้น ผมเม้มปากแน่น .. หวังว่าตอนกลางวันคงจะไม่เกิดอะไรขึ้น
     

                 “นายคิดว่าเป็นพวกเราหรือเปล่าที่ฆ่า..แทมิน
     

    คำพูดสุดท้ายของพี่มินซอกเบาซะจนเหมือนกระซิบ ผม..ไม่รู้ ..
     

                      ม..ไม่รู้ครับ

                       ช่างเหอะ  บางทีนายอาจจะเป็นฆาตกรก็ได้--
     

    พี่มินซอกพูดแล้วแยกเดินเข้าไปในห้องของเขา ผมยืนนิ่งขนลุกชัน หมายความว่าใครก็มีสิทธิ์เป็นฆาตกรงั้นหรอ ผมเริ่มรู้สึกกังวลซะแล้วสิ เมื่อคืนหรือว่าจะเป็นผมเดินละเมอมาฆ่าแทมิน .. ไม่หรอกน่า ผมยังนอนอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง คยองซูยังคงนอนอยู่เหมือนกัน หรือจะเป็นคยองซูลุกไปฆ่าแทมินเพราะเมา แต่ไม่น่าใช่ นี่ผมเชื่อคำพูดของจงอินหรอที่บอกว่าคยองซูทำร้ายตัวเอง .. ไม่ใช่หรอกน่า-- หรือว่าจะเป็นชานยอล --  
     

                    ไร้สาระ
     

    ผมรีบเดินเข้าไปหยิบของในห้องทันที เพราะยิ่งคิดแล้วยิ่งปวดหัว

                    ไม่ว่าฆาตกรจะเป็นใคร ขอแค่ให้ผมกับคยองซูได้กลับบ้านแบบปลอดภัยก็พอ

     


    E é主







    ----------------------------------------------------------------------------------------------------


    writer :  แต่เองจิตตกเอง ตอนต่อไปออกแนวเลือดสาดหน่อยนะคะ .. ใจไม่แข็งก็นะ  -- อืม  : เอ้อ หิว ไปละ 






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×