คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : special intro.
คุณเคยเป็นไหมครับ ? หลอมละลายเพราะความอ่อนโยนของใครบางคน
จนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ..
อย่างผม
.
.
.
.
“ชื่อโด คยองซู..” เสียงนุ่มๆนั่นแนะนำตัวภายในห้องฝึกซ้อมที่มีสมาชิกนั่งอยู่แต่ละมุมห้อง และแน่นอน เมื่อมีสมาชิกใหม่ก็ต้องมีคนสนใจเป็นธรรมดา
คน ที่แนะนำตัวดูจะตาโตขึ้นทันทีที่เห็นสายตาหลายๆคู่จ้องมาที่ตน ไหล่ที่เล็กอยู่แล้วก็หดตัวลงราวกับเด็กที่ถูกตำหนิ เพียงแต่ใบหน้าที่ยิ้มออกกว้างพร้อมกับโค้งตัวจนหัวแทบทิ่มลงไปกับพื้นนั้น แหละทำเอาหลายๆคนในห้องซ้อมประทับใจไปตามๆกัน
รวมทั้งผมด้วย
ผม นั่งรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนๆที่ถูกคัดให้อยู่ในวงเดียวกันที่กำลังจ้องมองคน ที่มาใหม่อย่างตื่นเต้น พวกเรารู้ครับว่าจะต้องมีสมาชิกมาใหม่อยู่เรื่อยๆ และไม่รู้ว่าจะมีถึงกี่คน ..
“แหมะ มองไม่วางตาเลยนะไอ้ดำ”
เซ ฮุนตบหัวผมแรงๆแล้วหันไปหัวเราะกับพี่ลู่ห่านที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของมัน อืม ผมมองเขาไม่วางตาจริงๆนั่นแหละครับ ผมช็อคมากๆเมื่อรู้ว่าเขาเป็นพี่ผม แต่แค่ปีเดียว คงจะช็อคพอๆกับรู้ว่าพี่ลู่ห่านเป็นพี่ของผมกับเซฮุนนั่นแหละครับ ให้ตายเถอะ คยองซู.. ไม่สิ พี่คยองซูเขาดูเด็กมากๆ
ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่รวมทั้งท่าทางด้วย
เขาเหมือนกับเด็กที่ไม่รู้ประสีประสาอะไร
“โห ไรมึง คนอื่นเขาก็มองเยอะแยะ”
ผม พูดไปตามความจริง เมมเบอร์คนอื่นก็มองไปที่พี่เขาแล้วต่างก็ชื่นชม พี่คยองซูที่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็โค้งอยู่อย่างนั้นหลายรอบจนพวก ผมขำกันออกมา
เหมือนเขาจะรู้ว่าพวกผมขำกัน ถึงได้มองอย่างไม่เข้าใจ ดวงตากลมที่โตกว่าปกติก็ยังกลมโตอยู่อย่างนั้น ริมฝีปากที่อ้าออกนิดๆพร้อมกับคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากันทำเอาพวกผมเผลอยิ้ม ออกมาแล้วทำมือปฏิเสธ
โคตรน่ารักเลยสาส !
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไม่ว่าจะที่ไหน พี่เขามักจะยิ้มแย้ม โบกมือ และโค้งให้คนอื่นๆเสมอ
ผม เดินมาซ้อนหลังพี่เขาแล้วโอบเอวไว้หลวมๆ พี่เขาดูท่าจะตกใจมากถึงได้หันมามองผมอย่างตกใจหน่อยๆ ดวงตานั่นโตขึ้นอีกแล้ว ผมยิ้มออกมาแล้วหันไปมองแฟนคลับที่จ้องมาที่พวกเราแล้วกรี๊ดออกมา ไหนจะแสงแฟลชที่กดรัวเข้ามาทำเอาผมต้องหยีตาลงด้วยความแสบตา
ใช่แล้วครับมันเป็นแฟนเซอร์วิส
“ใกล้ไปไหมอะ?”
ผม เขยิบไปชิดกว่าเดิมจนพี่เขาหันมาถาม ผมยิ้มไปไม่ตอบ พี่เขาขมวดคิ้วน้อยๆแล้วหันไปยิ้มให้แฟนคลับเหมือนเดิม มันน่าจะเป็นเรื่องปกติไหม? เพราะเป็นคำสั่งของบริษัทเขาบอกให้ทำแบบนี้
“โห พี่ทำๆไปเหอะ..เห็นไหมพี่ชานยอลกับพี่แบคฮยอนยังเซอร์วิสกันซะขนาดนั้น”
ผม ก้มลงไปกระซิบข้างหูพี่เขา พี่คยองซูเหลือบไปมองคู่ชานแบคแล้วพยักหน้าเบาๆ ผมคลายยิ้มออกมา ใช่ คู่ชานแบคก็เซอร์วิสเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงพี่เขาคบกันจริงๆนั่นแหละ
^____________^ มีความสุขซะจริง
ทันที ที่พวกผมเดินลงจากเวทีก็รีบวิ่งขึ้นรถตู้กันทันที ผมพยายามเดินให้มาตรงข้างๆที่พี่คยองซู จนแม้กระทั่งจะขึ้นไปบนรถตู้แล้วพี่คยองซูก็ยังหันมาโค้งขอบคุณแฟนคลับแล้ว โบกมือให้อีก
“เหนื่อยหน่อยนะ”
พี่ ผู้จัดการหันมาบอกพวกเรา ซึ่งตอนนี้ตำแหน่งการนั่งสลับปนเปกันไปหมด ผม พี่ซูโฮ เซฮุนนั่งอยู่หลังสุด สองที่ถัดมาก็เป็นของพี่แบคฮยอนกับพี่ชานยอล ส่วนพี่คยองซูนั่งหน้ากับพี่ผู้จัดการและสต๊าฟ ผมเอาหัวฟุบลงกับเบาะหน้าเพราะว่าเพลียเหลือเกิน ตารางงานของพวกเรามันหนักเกินไปสำหรับเด็กที่เพิ่งจะก้าวมาเป็นผู้ใหญ่ต้นๆ หรือปล่าว?
“เห้ย จงอินไหวไหม”
พี่ ซูโฮสะกิดผมเบาๆจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมา กลายเป็นว่าทั้งรถกำลังหันมามองผม รวมทั้งพี่คยองซูที่ทำหน้าขมวดคิ้วจนแทบจะติดกันอยู่แล้ว ทำให้ผมรู้สึกตื้นตันอยู่หน่อยๆ ความจริงผมก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ แค่ง่วงนิดหน่อย ไหนจะต้องแยกไปซ้อมเดี่ยวอีก
“ อ่า เอ่อ ผมแค่ปวดหัวนิดหน่อยครับ”
ผมสาบานได้ว่าไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นครับ ! แต่พอเห็นหน้าพี่คยองซูทำท่าจะร้องไห้แบบนั้นปากของผมก็เผลอพูดแบบนั้นออกไป
“สำออย..”
ไอ้เซฮุนพูดออกมาแล้วหันกลับไปมองหน้าต่างเหมือนเดิม
“ดัดจริต..”
พี่ ชานยอลที่พูดออกมาหน้าเอือมๆก็โดนพี่แบคฮยอนฟาดเข้าให้ข้อหาว่าน้อง ผมเริ่มตีหน้าซึมทันทีเพราะถ้ามีใครจับได้ว่าโกหกผมคงโดนด่ายับแน่ๆ
กะจะขอโดดซ้อมพรุ่งนี้แล้วนอนอยู่หอเล่นสักหน่อย
“เดียวกลับบ้านพี่ทำข้าวต้มให้กินนะ”
พี่คยองซูพูดขึ้น เช้ด .. โคตรจะลัคกี้ ผมลอบยิ้มออกมาแต่ก็กลับไปตีหน้าซึมเหมือนเดิม พี่ซูโฮเอามือมาอังหน้าผากผมแล้วทำหน้าครุ่นคิดอยู่
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า…”
“แค่กๆ”
ผมแกล้งไอออกไป จนทุกคนหันมามองผมอีกที แล้วผมก็ฟุบหน้าลงกับเบาะหลังข้างหน้า
“พี่ซูโฮแลกที่กับผมได้ไหมอะ?”
พี่คยองซูพูดมาจากเบาะข้างหน้า ผมได้ยินเสียงดังกุกกักๆก็ยิ้มออกมา พี่คยองซูคงจะย้ายที่กับพี่ซูโฮแน่ๆ เอาวะ! เล่นละครมาซะขนาดนี้ก็เล่นให้จบเลย
“กูรู้นะ กูทำกับพี่ห่านบ่อยๆ”
เซ ฮุนเปรยๆออกมาราวกับว่าไม่ได้คุยกับใครในรถ แต่ว่าทำผมสะดุ้งทันที ผมเงยหน้ามามองมันที่ใส่หูฟังไอพอดเข้าสู่ยานแม่ของมันไปเรียบร้อย
“เมื่อคืนพี่เปิดแอร์แรงไปหรอ?”
พี่ คยองซูหยิบเสื้อกันหนาวมาจากไหนก็ไม่รู้มาคลุมให้ผม ผมหันไปส่ายหน้าให้พี่เขา ..... พวกคุณไม่รู้หรอกครับว่าผมโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นรูมเมทห้องเดียวกับพี่คยอง ซูที่หอพักของเรา
“สงสัยจะแพ้อากาศนะ เดียวพี่ไปซื้อยาให้”
“แหมะ ดูแลกันดีเกินไปละ”
พี่ชานยอลหันมาแขวะ จนพี่แบคฮยอนต้องตีแขนไปอีกรอบ พี่คยองซูหัวเราะเบาๆแล้วเอามือมาแตะหน้าผากผม แล้วขมวดคิ้วราวกับใช้ความคิด
อา..พี่เขาจะรู้ไหมว่ารอยยิ้มของพี่เขามีผลต่อการเต้นของหัวใจของผม
ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองที่แฟนคลับบอกว่ามันดูเซ็กซี่มากๆออกมา
รอยยิ้มนั้น..
สายตานั่น..
ตอนนี้สมองผมคิดได้แค่อย่างเดียว อย่างเดียวเท่านั้น!
เอาวะ !!!!!!
“คืนนี้ผมนอนกับพี่ได้ไหมอะ เวลาผมไม่สบายหนักจะได้เรียกพี่ได้”
เท่านั้นแหละครับ !!! ไอ้เซฮุนกับพี่ชานยอลโห่ใส่ทันที !
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ไม่สบายแล้วสระผมทำไมละ”
พี่คยองซูทักผมตอนเดินออกจากห้องน้ำ ผมชะงักไปสักแปบ
เออวะ ลืมไปต้องป่วย
“ผม ใส่..เจลเยอะนะครับ มันเหนียวๆหัว นอนไปเดียวคันอะ”
อันนี้สาบานได้ว่าไม่ได้โกหก มันเหนียวจริงๆครับ พี่คยองซูพยักหน้าแล้วเดินหยิบผ้าขนหนูมาโปะไว้ที่หัวผมแล้วเช็ดเบาๆอย่างนั้น ผมมองหน้าพี่คยองซูที่จ้องอยู่ที่ผ้าบนหัวผมอย่างนุ่มนวลนั่นแล้วเผลอกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือกใหญ่
..ชิบหายละ ...
“เอาที่เป่าไหม ? เดียวพี่ไปยืมคนอื่นมาให้ จะได้นอนเร็วๆไง”
ถึงผมจะอยากนอนเร็วๆ แต่ว่าถ้ามีคนน่ารักมายืนทำตัวน่ารักเช็ดผมให้ขนาดนี้ใครจะไปยอม!!!
“ไม่ต้องครับพี่ ผม ว่า คนอื่นๆคงอยากพักมากกว่านะ”
พี่ คยองซูพยักหน้าเข้าใจ มือเล็กยังคงทำหน้าที่เช็ดผมให้ผมต่อ อาจจะเป็นเพราะความสูงเราห่างกันจนทำให้พี่คยองซูต้องเงยหน้า แล้วผมก็ต้องก้มลงมองเขา .. มุมเป๊ะ องศาเป๊ะ !!!
ต่อไปเหลืออาศัยความหน้าด้านเท่านั้น !!!
เหมือนพี่คยองซูจะรู้ตัวแล้วว่าผมมอง พี่เขาหยุดเช็ดผมให้ผมแล้วมองหน้าผม ดวงตากลมโตนั่นกำลังสะท้อนภาพของผมเพียงคนเดียว
ให้ตายเหอะครับจงอินน้อยกำลังจะตื่น …
“ทำไมทำหน้าแปลกๆแบบนั้น?”
ผม ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำถามนั้น ตอนนี้หน้าผมคงหื่นจัดมากเลยสินะเนี่ย ผมเม้มปากตัวเองแล้วเดินถอยหลังออกห่างจากพี่เขา เพราะกลัวว่าจะเผลอทำอะไรลงไป
คำคืนนี้ยังอีกยาวนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
“ไม่มีไรครับๆ พี่จะนอนยังอะ”
“ยังเลย กะจะออกไปดูโปโรโร่ก่อน จู่ๆก็อยากดู”
ไอ้ โปโรโร่เนี่ยคือการ์ตูนที่ผมกับพี่คยองซูดูด้วยกันบ่อยๆ เอาตรงๆคือผมไม่ได้ชอบดูหรอกครับ แต่ชอบดูคนดูมากกว่า แบบเวลาพี่เขานั่งดูการ์ตูนนี่โคตรจะจริงจัง ดวงตากลมๆนั่นจ้องจอโทรทัศน์อย่างเอาเป็นเอาตาย
เป็นภาพที่แฟนคลับหาดูได้ยากเลยนะครับ ~
“ผมไปด้วยดิ อยากดูมั่ง”
“จงอินไม่สบายอยู่นะ หลับๆไปสิ”
“พี่ดูแลผมหน่อยๆๆๆ”
นี่ สินะที่เขาบอกว่า ความรักทำให้คนดูหน่อมแน้มลงไปนิดนึง พี่คยองซูขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจการกระทำของผม ส่วนผมก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆๆอยู่อย่างนั้น
“งั้นนอนเลยก็ได้มั้ง จงอินจะนอนกับพี่หรอ?”
ผมไม่ได้ตอบอะไร ทันทีที่ได้ยินเสียงเชิญชวนแบบนั้นผมรีบวิ่งไปหยิบหมอนแล้วกระโจนขึ้นเตียงพี่เขาทันที
“นายนี่นะ...”
ผมแกล้งทำเป็นหลับ ผมได้ยินพี่คยองซูถอนหายใจแล้วเดินไปปิดสวิซไฟแล้วนอนลงที่เตียง
“จงอิน มือ !”
ยัง ไม่ทันที่พี่เขาจะได้นอนลงดีๆ ผมก็คว้าขมับที่เอวพี่เขาแล้วดึงมาไว้ในอ้อมกอดของผมทันที กลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆนั่นทำผมต้องสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดอย่างชื่นใจ
น่าจะดีกว่านี้ถ้าได้สูดกลิ่นนี้บนแก้มขาวๆของพี่คยองซู
ไม่มีการพูดอะไรกันเกิดขึ้น ความมืดของไฟทำให้ทุกอย่างเงียบเชียบไปด้วยจนได้ยินเพียงแค่เสียงของเครื่องแอร์ที่ทำหน้าที่อยู่อย่างนั้น
“แกล้งป่วยใช่ไหม?”
เสียงนุ่มๆนั่นพูดขึ้นมาทำเอาผมสะดุ้ง ก้มหน้าไปมองคนในอ้อมแขนที่กำลังจ้องมาตาแป๋วอย่างนั้น
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่มืด ใบหน้านั่นก็ยังคงมีอิทธิพลกับหัวใจเขาอยู่ดี
“รู้ด้วยหรอ?”
“ไม่ได้โง่ขนาดนั้นนี่นา”
“แต่ก็ยอมให้หลอกนี่ แถมให้นอนกอดอีก พี่นี่น่ารักจัง”
“ก็นายเป็นน้องชายพี่นี่”
ผม ไม่ได้ตอบอะไรออกไปนอกจากยิ้มอย่างนั้นในความมืด และผมค่อยข้างมั่นใจด้วยว่าพี่เขาคงจะยิ้มอยู่ด้วยเหมือนกัน ผมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
“ถ้างั้นรักน้องชายคนนี้ให้มากๆนะ”
“รู้แล้วน่า..”
“แล้วเมื่อไหร่จะได้ตำแหน่งแฟนเหมือนคนอื่นเขาอะ”
“…”
ไม่มีคำตอบจากคนตรงหน้า นอกจากพี่คยองซูจะซุกตัวเข้ามาในอ้อมกอดผมซะจนชิดไม่มีที่หายใจ ผมลูบหัวพี่เขาเบาๆ
“ไม่เป็นไรครับผมไม่รีบ”
“อื้อ ขอบใจนะ”
ผมยิ้มเบาๆ คำตอบดูเป็นคนดีเนอะ ใช่ครับผมไม่รีบ
เพราะไว้ได้เป็นแฟนกันเมื่อไหร่ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่คยองซูยังจะหลับสบายอย่างนี้อยู่ไหม
^_^ เนอะ
ต๊ะ : ฟิคเรื่องแรกนี่หว่า เอามาเป็นน้ำจิ้มส้มตำก่อน
ความคิดเห็น