ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Dream never ending

    ลำดับตอนที่ #1 : เด็กหนุ่ม

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 48


                  --  ๑ --



        เช้าวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๔๑



        เด็กหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้น ภายในห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน แสงสลัวเพียงเล็กน้อยที่สะท้อนเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่างกระตุ้นให้เขาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นจากเตียง เดินไปเปิดสวิซ์ตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปอย่างเงียบๆ



        บรรยากาศภายในบ้านเงียบเชียบวังเวง เขาเดินไปที่โต๊ะตัวใหญ่กลางห้องโถง หยิบแก้วนมที่ยังอุ่นๆ อยู่ขึ้นดื่มทีเดียวจนหมด แล้วนำมันเข้าไปในห้องครัววางลงที่อ่างล้างจาน แล้วหันหลังกลับไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบเอาน้ำดื่ม



        คอมพิวเตอร์เริ่มทำงานด้วยระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ภาพที่ปรากฎบนหน้าจอในขณะที่เด็กหนุ่มเดินเข้ามาในห้องเป็นภาพของหมู่ดาวดาษดาร เรียงตัวกันทอดยาว ชวนให้รู้สึกถึงความไม่จบสิ้นของขอบเขตแห่งอนันต์ เด็กหนุ่มเหลือบไปมองมันด้วยหางตาก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าออกแล้วหยิบเอาชุดนักศึกษามาแขวนไว้หน้าตู้ ทันใดนั้นเสียงเพลงหนึ่งก็ดังขึ้น บรรเลงท่วงทำนองอันอ่อนหวานสลับกับรวดเร็ว เสียงเพลงดังออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นเพลงประกอบเกมส์โปรดที่เขาชอบเล่น เขาปิดตู้ลงแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ติดกันกับห้องนอนโดยไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่บนพนักเก้าอี้หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าไปด้วย



        เมื่ออาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย เด็กหนุ่มจึงเดินออกจากห้องนอนไปโดยไม่ลืมสั่งปิดคอมพิวเตอร์เสียก่อน เขาเดินผ่านประตูบ้านออกไปที่โรงรถ สวมรองเท้าแล้วเดินผ่านประตูรั้วออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่เสียเวลาหันกลับมามอง ย่างก้าวอันรวดเร็วนำพาให้เขามาหยุดลงที่ป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านที่อยู่ห่างมาจากตัวบ้านเป็นระยะทางไกลพอสมควร เขายืนรอรถโดยสารผ่านไปคันแล้วคันเล่า แต่ไม่มีท่าทีว่าเขาจะก้าวขึ้นเลยสักคัน จนกระทั่งคันล่าสุดแล่นเข้ามาจอด เป็นคันที่คนน้อยกว่าคันก่อนๆ เขาจึงตัดสินใจก้าวขึ้นรถไป



                  --  ๒ --



        ณ โรงอาหารในมหาวิทยาลัย ผู้คนยังไม่มากนักในเวลาเช้าตรู่แบบนี้ เด็กหนุ่มเดินจากป้ายหยุดรถโดยสารมาถึงโรงอาหาร และเลือกนั่งลงที่โต๊ะอาหารตัวหนึ่ง ก่อนจะหยิบเอาหนังสือที่พกมา ขึ้นเปิดอ่านเงียบๆตามลำพัง ความเงียบคงอยู่เพียงครู่เดียว ก่อนจะถูกทำลายลงด้วยเสียงเรียกชื่อของเขาดังขึ้นมาจากระยะไกล เขารอจนกระทั่งเจ้าของเสียงเดินมาใกล้จึงเอามือเลื่อนเก้าอี้ให้เป็นการเชิญชวนให้นั่งลงข้างๆ โดยสายตาเขายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือ เจ้าของเสียงนั่งลงพร้อมกับจานอาหารและแก้วน้ำดื่มที่ยกมาด้วย



        เด็กหนุ่มปิดหนังสือลงในอึดใจต่อมา ลุกขึ้นเดินไปซื้ออาหารเช้าบ้าง เมื่อเขาเดินกลับมาก็พบว่ามีคนนั่งที่โต๊ะเพิ่มขึ้นอีก 2 คน ซึ่งเขาก็คุ้นเคยดีเช่นเดียวกันกับเพื่อนคนแรก เมื่อทั้ง 4 รับประทานอาหารเสร็จจึงสนทนากันเล็กน้อยตามปกติ จนเวลาล่วงเลยไปใกล้ถึงเวลาเรียน ทั้งหมดจึงลุกขึ้นเดินไปด้วยกัน ท่ามกลางเหล่านักศึกษาคนอื่นๆ ที่มุ่งหน้าสู่อาคารเรียน



        ภายในอาคารเรียนเป็นห้องบรรยายกว้างมีเก้าอี้เรียงตัวอยู่เป็นแถวขึ้นไปหลายชั้น เด็กหนุ่มทั้ง 4 คนเดินไปนั่งที่แถวหลังๆ ของห้อง และตัวเด็กหนุ่มเองจะนั่งถัดมาด้านหลังของเพื่อนทั้ง 3 อีกหนึ่งแถว เขานั่งลงเปิดหนังสืออ่านต่อไปเงียบๆ ภายในห้องเรียนเริ่มมีนักศึกษาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศของห้องบรรยายในขณะนี้เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเอ็ดอึง สักพักเสียงก็เงียบลงพร้อมๆกัน เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอาจารย์ผู้บรรยายได้เดินเข้ามาในห้องแล้ว เขาจึงปิดหนังสือลง และหยิบเอาสมุดจดงานขึ้นมา



        ชั่วโมงบรรยายผ่านไปอย่างเรียบๆ เมื่อมีการเปลี่ยนวิชาบรรยายในแต่ละช่วง เขาก็จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทุกครั้ง และทุกครั้งก็จะมีเพื่อนๆ สลับกันเข้ามาชวนเขาพูดคุย ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีทีท่ารำคาญแต่อย่างใดนอกเสียจากจะมีอาการที่เพื่อนบางคนเรียกว่า ถามคำตอบคำ



                  --  ๓ --



        เวลาผ่านไปจนกระทั่งพักเที่ยง เด็กหนุ่มทั้ง 4 คนจึงชวนกันไปรับประทานอาหารที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย หลังจากนั้นในช่วงบ่าย พวกเขาชวนกันไปนั่งอ่านหนังสือที่หอสมุด เพียงชั่วครู่เดียวหลังจากที่นั่งอ่านหนังสือไปได้สักพัก พวกเขาก็งีบหลับกันหมดเหลือเพียงเด็กหนุ่มที่ยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่เพียงลำพัง



        เขาเพลิดเพลินกับหนังสือที่อ่านจนไม่ทันสังเกตเห็นว่าเพื่อนๆ ได้หายไปจากโต๊ะตัวที่นั่งกันอยู่จนหมด เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางความเงียบสงบของหอสมุด หนังสือถูกอ่านจนหมดเล่มแล้ว ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ปิดหนังสือลง แต่ไม่มีความประหลาดใจฉายในแววตาเลย เขาลุกขึ้นเดินไปที่ห้องทางซ้ายมือและเมื่อเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นคือคอมพิวเตอร์จำนวนหลายเครื่องวางเรียงรายกันเป็นแถวๆ พร้อมกับเพื่อนๆที่นั่งอยู่ หน้าเครื่องแต่ละเครื่อง



        มีเครื่องว่างอยู่เครื่องหนึ่งตั้งอยู่ทางด้านในสุดถัดจากพวกเพื่อนๆพอดี เด็กหนุ่มนั่งลงที่เครื่องนั้น และทำการสั่งให้เครื่องเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ทของมหาวิทยาลัยทันที ด้วยพรสวรรค์รวมเข้ากับความพยายามศึกษาในเรื่องคอมพิวเตอร์ เขาจึงสามารถที่จะใช้มันได้ราวกับเป็นแขนขาของตัวเอง เพียงชั่วอึดใจเขาก็เข้าสู่ห้องสนทนาที่เหล่าเพื่อนๆ กำลังเข้าใช้บริการกันอยู่ในขณะนั้น



        \"ห้องสนทนา\" ภายในนั้นมีอีกสังคมหนึ่งที่กำลังดำเนินไป โดยมีผู้ที่ให้ความสนใจในหัวข้อเดียวกัน เข้ามาแสดงความคิดเห็น พูดคุย และหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งก่อนที่เขาจะสอบเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย เขาได้เคยสัมผัสกับสังคมแบบนี้มาบ้างแล้ว ส่วนหนึ่งเขาคิดว่ามันสามารถช่วยให้ความอิสระมีจริงได้ แต่ทางตรงกันข้าม มันกลับเป็นสังคมที่ไม่ค่อยมีความจริงใจ แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม



                  --  ๔ --



        การสนทนาเริ่มขึ้นตามปกติ การทักทาย การแลกเปลี่ยนชื่อ การถามลักษณะพื้นฐานต่างๆ เช่น อายุ เพศ รูปร่างหน้าตา ระดับการศึกษา ความสนใจ ซึ่งข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้อาจจะถูกปั้นแต่งขึ้นมาตามความพอใจ มันเป็นการยากที่จะหาคนที่จริงใจในสังคมแบบนี้ สาเหตุเป็นเพราะนี่เป็นเพียงโลกแห่งการสื่อสาร ที่ถูกกั้นขวางให้มืดบอดจากภาพและเสียง หลงเหลือเพียงข้อความที่ถูกถ่ายทอดจากแป้นพิมพ์หนึ่งไปสู่หน้าจออื่นๆ ดังนั้นจุดจบของการสนทนาในบางครั้งจึงต้องมีการยืนยันข้อเท็จจริงโดยการแลกเบอร์ติดต่อไว้ เพื่อที่อย่างน้อย เสียง จะเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความมีตัวตนจริงในระดับหนึ่ง



        แล้วเด็กหนุ่มก็ได้ปฏิบัติไปตามประเพณีของห้องสนทนาดังกล่าว และด้วยสถานการณ์บังคับจากการที่เพื่อนๆในกลุ่มได้อยู่ในห้องสนทนานั้นด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการผิดต่อเพื่อนๆเขาจึงจำต้องใช้ข้อมูลจริงมอบให้กับห้องสนทนา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อตัวเขาอยู่มากพอสมควร เพราะการแสดงตัวเช่นนี้ จะทำให้เขาตกเป็นเป้านิ่งของเหล่า แครกเกอร์ คู่อริ ให้ติดตามทราบถึงตัวตนจริงของเขาได้ เขาจึงไม่เคยที่จะใช้นามจริงเลยในสังคมแบบนี้ ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงลง เขาจำต้องใช้ นาม ที่ไม่เป็นที่รู้จักถึงตัวตนจริง แม้ข้อมูลอื่นๆ อาจจะใกล้เคียง แต่ถ้ามีผู้ใดได้ข้อมูลตรงนี้ไป จะยากขึ้นถ้าจะตามหาเขาพบ



        Armeres : สวัสดีฮะ

        FAH : ดีค่ะ

        FAH : ชื่ออะไรคะ?

        Armeres : อ่า... เพื่อนๆเรียกเราว่า \"แป็ก\" อ่ะฮะ

        FAH : ค่ะ

        FAH : เรา ฟ้า นะ

        Armeres : สวัสดีครับ ฟ้า ยินดีที่ได้รู้จัก

        FAH : ค่ะ เช่นกันค่ะ

        FAH : เรียนอยู่มหิดลเหรอคะ

        Armeres : ฮะ แล้วฟ้าละฮะ?

        FAH : ม.กรุงเทพฯ ค่ะ

        FAH : เรียนวิศวะด้วย เก่งจัง

        Armeres : ไม่หรอกฮะ ติดมาอันดับ ๔ แน่ะ

        FAH : ก็เก่งกว่าเราแล้วกัน

        Armeres : ไม่เกี่ยวนี่ฮะ คนเราเก่งไม่เหมือนกัน ฟ้าอาจจะเก่งเรื่องอื่นกว่าเราก็ได้

        FAH : เหรอคะ?

        Armeres : ว่าแต่ ฟ้า เรียนคณะอะไรหรือฮะ?

        FAH : มนุษยศาสตร์ Eng. ค่ะ

        Armeres : นั่นไง แสดงว่าฟ้าต้องเก่งอังกฤษกว่าเราแน่ๆ

        FAH : ทำไมล่ะ เกี่ยวกันตรงไหน?

        Armeres : ก็อย่างน้อย เราก็ไม่คิดที่จะเรียนคณะนั้นแน่นอน

        FAH : งั้นเหรอคะ

        FAH : อยู่ปี ๑ เหมือนกันเลย

        Armeres : ฮะ

        FAH : แล้วตอนนี้ไม่มีเรียนเหรอคะ

        Armeres : เลิกแล้วฮะ วันพุธเรียนครึ่งวันเช้า

        FAH : แล้วปกติมาเล่นบ่อยไหมคะ

        Armeres : เข้าห้องนี้เป็นครั้งแรกฮะ

        FAH : เหรอคะ

        Armeres : ฮะ เอ้อ ฟ้า ฮะ ขอโทษนะฮะ เดี๋ยวคงต้องไปแล้ว เพราะจะไปซ้อมดนตรีน่ะฮะ

        FAH : ค่ะ โชคดีค่ะ

        Armeres : ฮะ เช่นกันฮะ

        FAH : เอ้อ คือ ไม่ทราบว่า มีเบอร์ติดต่อไหมคะ

        Armeres : มีฮะ รอเดี๋ยวนะฮะ

        FAH : คือ ถ้ารบกวนก็ไม่เป็นไรนะคะ แค่จะคุยด้วยเฉยๆ

        Armeres : 01-XXX-XXXX ฮะ เรียกสาย \"แป็ก\" นะฮะ

        FAH : ค่ะ

        Armeres : พอดีเป็นเครื่องของเพื่อน

        Armeres : เรามีแต่เพจเจอร์ 1188-XXX-XXXX

        FAH : ค่ะ ขอบคุณมาก

        Armeres : ไปแล้วนะฮะ บายฮะ

        FAH : ค่ะ บ้ายบายค่ะ

        - Disconnected -



        ก็เท่านั้นเอง เรียบง่าย เหมือนการเดินเล่นในสนามหญ้า ไม่มีอะไรน่ากังวล ไม่มีอะไรเป็นจริงเป็นจัง



        เด็กหนุ่มทำการสั่งให้เครื่องปิดตัวลง แล้วลุกเดินออกจากห้องคอมพิวเตอร์ไปนั่งที่โต๊ะตัวเดิม เพื่อรอให้เพื่อนๆ มาตามเขาไปห้องซ้อมดนตรี ซึ่งอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะมีการแสดงถูกจัดขึ้นในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัย หรือ เรียกสั้นๆว่า วันมหิดล



                  --  ๕ --



        ในตัวเมืองรถค่อนข้างติด กว่าจะถึงแล้วได้เริ่มซ้อมก็เกือบจะ 6 โมงแล้ว ในขณะที่การซ้อมยังคงดำเนินไปอย่างสนุกสนาน เสียงโทรศัพท์ของเพื่อนก็ดังขึ้น ทุกคนจึงหยุดเล่น และเจ้าของโทรศัพท์ที่รับสายเสร็จก็หันมาหาเด็กหนุ่มพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้



        \"ของนายว่ะ แป็ก\"



        \"ใครวะ?\" เด็กหนุ่มถามงงๆ



        \"จะรู้มั๊ย เค้าขอสาย แป็ก อ่ะ\"



        เขารับโทรศัพท์ไว้แล้วเดินออกไปนอกห้องซ้อม โดยได้ยินเสียงเพื่อนพูดกันแว่วมาว่า \"ผู้หญิงว่ะ เสียงน่ารักด้วย\"



        แว่บแรก เด็กหนุ่มนึกถึง เพื่อนๆในคณะเดียวกัน แต่ลืมไปว่า ถ้าเป็นเพื่อนๆในคณะ เจ้าของที่รับน่าจะรู้ว่าเป็นใครไปแล้ว



        แว่บต่อมา เขานึกถึงน้องสาวตัวเอง ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ น้องเค้าจะรู้เบอร์นี้ได้ไง อีกอย่างถ้าจะติดต่อมา น้องก็น่าจะส่งข้อความมาทางเพจเจอร์มากกว่า



        แว่บสุดท้าย เขานึกออกแล้วว่าใคร แต่ไม่แน่ใจ คงต้องลองดู



        \"ฮัลโหล สวัสดีครับ\"



        \"หวัดดีค่ะ ใช่แป็กรึเปล่าคะ\"



        \"ฮะ ใช่ฮะ ไม่ทราบว่า...\"



        \"แป็ก ซ้อมดนตรีอยู่เหรอ รบกวนรึเปล่า\"



        \"อ๋อไม่ฮะ ไม่รบกวน\"



        \"ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ เอาไว้คุยกันคืนนี้ก็ได้\"



        \"ฮะ ได้ฮะ\"



        \"แป็กอยู่บ้านรึเปล่าล่ะ มีเบอร์บ้านไหม\"



        \"มีฮะ XXX-XXXX ฮะ แต่เรียกสาย อาร์ม นะฮะ\"



        \"งั้นเดี๋ยวไว้ 3 ทุ่ม เราโทรไปนะ แค่นี้นะ บ้ายบาย โชคดีจ๊ะ\"



        เด็กหนุ่มเดินกลับเข้าไปในห้องซ้อม แล้วส่งโทรศัพท์คืนให้กับเพื่อน



        \"เฮ้ย ใครวะแป็ก\"



        \"เอ้อ ไม่รู้ว่ะ ไม่แน่ใจ\"



        \"อ้าว? แล้วเค้าโทรมาเบอร์นี้ได้ไงล่ะ\"



        \"คงเป็นคนในห้องแชท เมื่อบ่ายล่ะมั้ง เราให้เบอร์นายไป\"



        \"เอ้า จิงดิ\"



        \"อืมม\"



        หลังจากซ้อมเพลงต่อไป 2-3 เพลง เด็กหนุ่มก็สะดุ้งขึ้นด้วยการสั่นของเพจเจอร์ที่พกติดตัวไว้



        \"ตั้งใจซ้อมดนตรีนะ แล้วคืนนี้คุยกัน / ฟ้า\"



        เป็นไปตามที่เขาคาดคิดไว้ เด็กหนุ่มเก็บเพจเจอร์ไว้ที่เดิม แล้วกลับไปซ้อมดนตรีต่อ



        \"มีอะไรรึ แป็ก\"



        \"อ้อ เปล่าๆ เพจที่ตั้งไว้มันปลุกน่ะ\"



                  --  ๖ --



        เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ จนในที่สุดก็ถึง 3 ทุ่ม



        เด็กหนุ่มนั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องนอน เขาค่อยๆ บรรจงพิมพ์ข้อความต่างๆ ลงไปอย่างช้าๆ ราวกับว่าจะให้มันซึมหายเข้าไปสู่ความนึกคิดของตนเอง โดยปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยพิมพ์ช้าๆอย่างนี้นัก เพราะมันเสียเวลา แต่ครั้งนี้เขากำลังจมอยู่ในห้วงความนึกคิดที่สุดหยั่ง เกิดการโต้แย้งขึ้นภายในจิตใจ ฝ่ายหนึ่งหวาดระแวงในท่าที ฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้ลองดู ฝ่ายหนึ่งนิ่งเฉยไม่ทักท้วง ฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย และรำคาญที่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาไม่ควรปล่อยให้เกิดการโต้แย้งขึ้น เพราะทุกครั้งที่เป็นเช่นนี้ เขาจะไม่สามารถหาข้อสรุปได้เลย แต่ละฝ่ายมักจะมีข้อเสนอที่หนักแน่นจนไม่อาจปล่อยพ้นความนึกคิดไปได้



        กริ๊งง....



        เขาสะดุ้งตัวขึ้นจากหน้าจอ หันกลับไปมองต้นเสียง



        กริ๊งง....



        โทรศัพท์กำลังดังอยู่ ใช่ โทรศัพท์กำลังดังอยู่ เขาคิด ก็ไปรับมันซะสิ เขาคิดอีกครั้ง



        \"ฮัลโหล ขอสายอาร์มค่ะ\"



        \"ครับ พูดอยู่ครับ\"



        \"เป็นไงบ้างคะ ซ้อมสนุกไหม\"



        \"ครับ ก็ดีครับ\"



        \"แล้วนี่ถึงบ้านนานแล้วเหรอ?\"



        \"ก็ซักพักแล้วครับ แล้วฟ้าละครับ\"



        \"เพิ่งถึงแหละ เนี่ยอาบน้ำเสร็จพอดีเลย\"



        \"อ่ะครับ ไม่ได้รบกวนนะครับ\"



        \"ไม่นี่ เราสิ รบกวนเวลาอาร์มรึเปล่า\"



        \"อ๋อ ไม่ครับ ไม่ได้ทำอะไรอยู่\"



        \"อืออ จ้า แล้วพรุ่งนี้มีเรียนเช้าสินะ\"



        \"ครับใช่ครับ ทำไมหรือครับ\"



        \"เปล่า ก็ถามดูเฉยๆ\"



        \"อ่ะครับ\"



        \"แล้วนี่ ทำไมใช้ครับแล้วล่ะ? เห็นก่อนหน้านี้ใช้ฮะ นี่\"



        \"อ้อ เปล่าฮะ ก็ไม่ได้ทำไมหรอกฮะ\"



        \"ฮิฮิ แปลกๆนะ\"



                  --  ๗ --



        แล้วเวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนว่าโลกกำลังเปิดกว้างขึ้น เขาพูดคุยกับเธออย่างสนุกสนานจนลืมเวลา และเธอก็ไม่มีท่าทีว่าจะจบบทสนทนาเลยแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไป 8 ชั่วโมง



        \"โอ๊ะ แย่แล้วๆ\"



        \"มีอะไรเหรอ?\"



        \"จะเช้าแล้ว ฟ้า\"



        \"เอ้อ จริงด้วยๆ\"



        \"แล้วนี่จะขับรถไหวเหรอเนี่ย?\"



        \"ไหวๆ ไม่เป็นไร เข้าสายหน่อยก็ได้\"



        \"งั้นนอนก่อนดีกว่าเนอะ จะได้มีแรงขับรถ\"



        \"จ๊ะ ก็ดีจ๊ะ อืมมม\"



        \"มีอะไรรึเปล่า\"



        \"อืมมม เปล่าจ๊ะ เปล่า\"



        \"อาฮะ งั้นก็แค่นี้ก่อนนะ ฝันดีละกันนะฮะ\"



        \"จ๊ะ เช่นกัน ฝันดีค่ะอาร์ม\"



        \"ฮะ บ้ายบายฮะ\"



        เขารอให้เธอวางหูโทรศัพท์ลง แล้วจึงวางตาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเพดานด้วยความมึนงง ในจิตใจปลอดโปร่ง โล่งสบาย ราวกับว่าเวลาที่เสียไปช่างน้อยนิดเหลือเกินเมื่อเทียบกับคุณค่าทางจิตใจที่ได้รับกลับมา



        มันเกิดอะไรขึ้น เขาคิด เธอเป็นใครกันแน่ ทำไมมันช่างแตกต่างกับสิ่งที่คาดเดาไว้ล่วงหน้าเสียจริง ไม่เห็นจะเหมือนกับที่เคยรู้มาเลย



        อย่าเพิ่งแน่ใจไปเลย เขาคิดอีก มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เห็นก็ได้ ระวังตัวไว้หน่อยดีกว่า



        แต่อย่างน้อยมันก็ยังให้ความรู้สึกที่ดีกว่าที่เคยละกัน เขาแย้งในใจ



        เอาเถอะ เขาคิดอีก ถ้ามันเป็นเช่นนั้น ก็ปล่อยให้มันเป็นไป แต่ขอเตือนไว้ก่อนละกัน ว่าสุดท้ายมันอาจจะไม่สวยงามอย่างที่คิดก็เป็นได้



        เช้าแล้ว ในที่สุด เด็กหนุ่มก็ยังไม่ได้หลับเลยสักงีบเดียว เขาอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนอย่างที่เคย แต่บางสิ่งไม่เหมือนเคย ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกับว่า เช้านี้มันดูเช้ากว่าวันอื่นๆ แดดไม่แรงมากนัก สายลมเย็นยะเย็บกว่าก่อน ท่ามกลางความรู้สึกแปลก เขาได้พาตัวเองไปถึงห้องเรียนอย่างไม่ทันรู้ตัว วันทั้งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรที่มีสาระลงไปเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×