ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Unknow

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ End of humanity

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 57


     30 มีนาคม 2026  
       " .... ซ้ายอีกนิดนึงครับคุณ รอยซ์ .. อีกครับ อ่า... นั้นแหละครับ " เสียงของช่างกล้องหนุ่มพูดกับชายวัยกลางคนในชุดอวกาศที่แม้หน้าตาจะบ่งบอกว่าเหนื่อยล้า แต่กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความปิติยินดี กับเพื่อนนักเดินทางอีกสี่คน
       ถ่ามกลางกลุ่มคนนับแสนที่มารวมในงานตอนรับการกลับมาของกลุ่มสำรวจนอกโลกที่ว่ากันว่าแบกความหวังของมนุษย์ชาติกลับมาด้วย หลังจากการเดินทางยาวนานกว่า 6 ปี
       
    " เอาหละครับ ที่นี้ ชีสสสสส !!! " สิ้นเสียงชัตเตอร์แรก เสียงชัตเตอร์นับพันดังไหล่หลัง จากกลุ่มนักข่าวหลายพันชีวิต ที่มาเข้าร่วมในงานเพื่อทำข่าว 

     4 พฤษพาคม 2028
     
    " พร้อมนะค่ะท่าน จะเริ่มใน 5...4...3...2... " 
     หญิงสาวในชุดสูทที่ดูสุภาพและรัดกุม พูดกับชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดสูท พร้อมกับชายในชุดลำลองที่ทำมือเป็นสัญลักณ์นับถอยหลังตามเสียงของหญิงสาว
      
    " สวัสดีประชาชนชาวอเมริกัน และผู้ชมจากทั่วโลก วันนี้เรามาเพื่อเป็นศักดิ์ขีพยาน แห่งการปลดเอกโลกแห่งมลพิษ ภัยพิบัติ และการสูญเสีย.... ในห้องออกอากาศ มีเก้าอี้นับร้อยกับคนอีกเกือบสองร้อยชีวิต จากทุกประเทสทั่วโลก ต่างขมักขเม้นกับการแปล การออกอากาศ ให้กับประเทศของตัวเอง บ่งบอกถึงความสำคัญของการแถลงการครั้งนี้อย่างเห็นได้ชัด

      
    " .... และก็คือสิ่งนี้ !!! " ชายวัยกลางคนหรือก็คือปธานาธิปดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา บรรจงกดมือลงเป็นปุ่มสีแดง ในกล่องที่หญิงสาวในชุดสูทถืออยู่ พร้อมกับผ้าคลุมสีแดงที่ค่อยๆ เลื่อนลงจาก ตู้โชว์ ปรากฏไห้เห็น ลูกหินกลมๆ เล็กราวลูกเบสบอส แต่สิ่งที่สำคัญ คือมันค่อยๆ ส่องแสงสีฟ้าอ่อนๆ ออกมา ดูแล้วดึงดูดสายตายิ่งนัก 
      
    " นี่คือความหวังของมนุษย์ชาติ หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ โอดีน ด้วยขีดความสามารถที่เกิดกว่าขีดจำกัดของมนุษย์จะเข้าใจ สินท์แร่ก่อนนี้นั้น สามารถไห้พลังไฟ้ฟ้า ได้ไม่มีวันหมด และมันยังปล่อยออกซิเจนในปริมาณมากออกมารอบๆ ตัวมันเองด้วย... " 
      ปธานาธิบดี หยุดพูดแล้วมองไปยังกลุ่มผู้สื่อข่าว และผู้อื่นที่มาร่วมงาน และคาดการณ์ไว้แล้ว ว่าหน้าของแต่ละคนจะประดับไว้ด้วย ความสงสัย และอาการที่บ่งบอกว่าเชื่อไม่ลง
      แต่เมื่อมีรถชายหนุ่มในชุดสูทมาพร้อมกับรถเข็นขันเล็ก ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ ที่ต้องการไฟฟ้า ไม่ว่าจะหลอดไฟ ไดรเป่าผม หรือแม้กระทั่งทีวีโบราณขนาดเล็ก และพอยกขึ้นข้างๆ ตู้พร้อมกดเปิด ทุกอย่างล้วนทำงานขึ้นมาทันที ทั้งที่ปลั๊กยังห้อยลงมาไห้เห็นเต็มตา
      เสียงของไดรเป่าผมดังและยิ่งดังมากขึ้นจาก ความเงียบของฝูงชน ทันใดนั้นแม้จะมีบางกลุ่มคิดว่าอาจเป็นกลหรอกเด็ก แต่ผู้สุงสุดถึงกับออกมาประกาศด้วยตัวเอง เสียง เฮ..... ก็ดังลั่นทั่วลานกว้างที่ใช้ประกาศ
      
      ด้วยปริมาณหมาศาลที่นำกลับมาจากการสำรวจ และด้วยความสามรของโอดีน ที่มีขนาดเพียงเท่าลูกบาสเก็ตบอล แต่กลับไห้พลังงานกับอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ หรือหมู่บ้านในชนบทได้ทั่งหมู่บ้าน การกระจายโอดีนออกไปยังพื้นที่ต่างๆ ในโลกนั้นดำเนินการไปได้ด้วยดี และได้จัดทีมสำรวจออกไปเพื่อเก็บแร่เพิ่มโดยใช้ชื่อโครงการว่า 
    " Hope "

       4 ธันวาคม 2032
      
    มหาภัยพิบัติครั้งแรกเกิดขึ้นที่รัซเซีย เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ในเวลา ประมาณ 03:00 นาฬิกา และเกิดการระเบิดต่อเนื่อง กว่าสามวัน รวมผู้เสียชีวิต 101,566,221 คน และยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนกว่าล้านคน ซึ้งอยู่ระหว่างการค้นหา 
      
    " ...มีการสันนิธานว่าการระเบิดครั้งใหญ่เกิดการการระเบิดของเตาปฏิกรนิวเคลีย ทั่วประเทศ แต่ยังคงมีการถกเถียงกันเนื่องจากรัซเซียเอง ก็เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำในการใช้พลังงานสะอาด อย่าง โอดีน และยังมีการประกาศปิดโรงงานนิวเคลียเมื่อ กลางปี 2030 อีกด้วย แต่เนื่องจากความเสียจึงทำให้รัฐบาลของรัซเซียยังไม่มีโอกาศ ในการแถลงการ ซึ้งเราจะติดตามต่อไป ต่อมาเป็นข่าวของการหายตัวซึ่งเกิดคนมาตลอดปีนี้ ครั้งนี้เกิดขึ้นอีกครั้งที่ทางตอนใต้ของแคนซัส เมื่อเจ้าหน้าตำรวจพบบ้านหลังหนึ่งถูกคนกระจาย และมีร่องรอยของการต่อสู้ ซึ้งทางกรมอาชญากรรมการฆ่ามนุษย์โลก ได้ออกมาประกาศว่านี้อาจเป็นองค์กรค้ามนุษย์ใหญ่ที่สุดที่เคยเจอในประวิติศาสตร์ ซึ้งจะไห้รางวัลสำหรับผู้ที่หาเบาะแสมาได้....." หญิงสาวผู้กระกาศข่าว พูดถึงเรื่องการระเบิดครั้งใหญ่ของรัซเซีย ซึ้งทำให้เกิดการสู้เสียครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2000 ปีของประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ พร้อมกับภาพจากมุมสูงของการสูญเสียที่เต็มไปด้วยหมอกควันและผู้กอบกู้ในชุดป้องกันกัมมันตะรังสี

      28 มกราคาม 2033
      ทางการรัซเซียได้ออกมาประกาศว่าการระเบิดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการระเบิดของโรงงานนิวเคลียที่ถูกปิดไปจริง ซึ้งการระเบิดครั้งใหญ่นั้นได้ทำลายระบบท่อส่งกาศ จึงก่อให้เกิดการระเบิดต่อเนื่องออกไปเป็นวงกว้างอย่างที่เกิดขึ้น 
      "... โอ่ ท่านผู้ชมค่ะเห็นอย่างดิฉันไหมค่ะ.... นั้นไงๆ มาอีกแล้วตัวใหญ่มาก ! ดิฉันไม่เคยเห็นสุนัขตัวใหญ่ขนาดนี้ ฃมาก่อนเลยค่ะ" นักข่าวภาคสนามสาวในชุดกันกัมมันตะรังสี ท่ามกลางวงล้อมของทหารและรถถังซึ้งกำลังต่อกรกับสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่สูงกว่า 3 เมตร ลำตัวยาว 5 เมตร ยืนสี่ขาแต่กลับมีตาถึงหกดวงเรียงสะเปะสะปะ เหมือนผิดธรรมชาติ และมีหางคล้ายแส้ ปัดแกว่งไปมารวมกับอาวุธสังหาร ซึ้งว่ากันว่าเป็นผลกระทบจากการระเบิดของโรงงานนิวเคลีย ทำไห้เกิดการกลายพันธ์ของสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างที่เห็น
     
    หากแต่มนุษย์ไม่เคยรู้เลยว่า ได้นำพามัจจุราชแห่งจักรวาลเข้ามายังโลกอับแสนเงียบสงบของพวกเขาตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×