ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Terror infinity : เกมสยองไร้ที่สิ้นสุด

    ลำดับตอนที่ #4 : Resident Evil : ผีชีวะ 2-2

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 58


    แคปแลนหันไปมองคอมพิวเตอร์ทั้งสามตัว ในสายตาขอเจิ้งนั้นฝีมือของแคปแลนเรียกได้ว่าระดับชั้นแนวหน้าของโลกเลยทีเดียว มือของเขารับแป้นคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ทั้งสามตัวโดยไม่หยุดพัก แต่ถึงแม้จะผ่านมาหลายนาทีแล้วประตูเข้าห้คอมพิวเตอร์ส่วนกลางยังคงปิดอยู่

    เร็นถามขึ้นมาว่า "ทำไมนานจัง?"

    คาแพลนตอบกลับโดยที่ตายังไม่ออกห่างจากคอมพิวเตอร์ "การป้องกันของราชินีแดงตั้งรับรอยู่แล้ว เธอทำให้การแฮ๊กยากขึ้นไปอีก

    หล้งจากที่เขาพูดจบประตูก็เปิดออกในที่สุด วันพยักหน้าและพูดว่า "ไปกันเถอะ" จากนั้นก็หันไปมองแลุ่มของเจิ้งและพูดว่า "ส่วนพวกนายรออยู่ที่นี่"

    ข้างหลังประตูนั้นเป็นทางเดินยาวสิบเมตรและกำแพงทำด้วยกระจกต่างจากด้านนอกที่ทำจากเหล็กและปูนอย่างสิ้นเชิง

    วันเป็นคนที่เข้าไปเป็นคนแรก เขาเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังทุกๆก้าว ในตอนที่ถึงกึ่งกลางห้อง ตัวของเขาก็สั่น นั่นเป็นเพราะอยู่ดีๆกำแพงแก้วก็ส่องสว่างขึ้นมา

    เสียงของคาแพลนดังออกมาจากไมโครโฟน "ไม่ต้องเป็นห่วงไฟมันสว่างขึ้นอัตโนมัติ"

    "มันจะต้องเป็นเลเซอร์จากระบบป้องกันตัวเองอย่างแน่นอน บอกว่าเป็นแสงไฟอัติโนมัติและไม่ต้องเป็นห่วงอย่างนั้นเหรอ?" เจิ้งคิด

    เขาคิดที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่มีมือดึงเขาไว้ก่อน เขาหันกลับไปและเห็นหลานส่ายหัวให้เขา

    วันติดตั้งเครื่องส่งเสร็จสิ้น มันเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เหมือนกับมือถือ เขาแปะมันไปที่เซ็นเซอร์ของประตู จากนั้นคาแพลนก็เริ่มรัวแป้นคีย์บอร์ดอีกครั้ง หล้งจากนั้นสักครู่หนึ่งประตูอีกฝั่งหนึ่งก็เปิดออก

    "วันสูดหายใจลึกๆก่อนที่จะโบกให้คนของเขาเข้ามา "ตามมา"

    อยู่ดีๆอลิสก็ถามขึ้นมา "เครื่องนี้คืออะไร?"

    คาแพลนที่อยู่ใกล้เธอที่สุดตอบว่า "มันคือสิ่งที่จะปิดระบบของราชินีด้วยการปล่อยกระแสไฟฟ้าจำนวนมาก มันจะรบกวนเมนเฟรมและบังคับให้มันเริ่มระบบใหม่อีกครั้ง"

    ในขณะที่ทหารรับจ้างกำลังจะเดินเข้าไปตรงทางเดินยาว เจิ้งทนไม่ไหวและตะโกนออกมาเสียก่อน "รอก่อนๆ พวกนายไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ? ระบบคอมพิวเตอร์มันดูไม่ได้เรื่องแปลกๆที่ยอมให้คนมาเริ่มระบบใหม่มันง่ายๆ ผมไม่คิดว่าระบบมันจะยอมง่ายๆอย่างนั้นหรอก มันมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่ตรงทางเดินนั่น"

    เหล่าทหารรับจ้างหยุดเดินและหันมามองที่เขา หลานได้แต่ถอนหายใจและปล่อยมือของเธอ จากนั้นเธอก็ไปยืนใกล้ๆกับอลิส

    วันเดินออกมาจากทางเดินและมองเจิ้งอย่างเงียบๆ "ตกลง, นายและนาย ตามพวกเรามา" เขาชี้ไปที่เจิ้งและโหมว

    มือและเท้าของพวกเขาทั้งสองคนต่างก็เย็นเฉียบหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าทางเดินนี้คือกับดักความตายชัดๆ ใครก็ตามที่เข้าไปในนั้นจะต้องตาย  แม้แต่วันเองก็ถูกเฉือนเป็นชิ้นๆ

    ในที่สุดเจิ้งก็รู้แล้วว่าทำไมเจี๋ยถึงมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น ถูกแล้ว, เขาไม่อาจหยุดยั้งความคิดที่จะเปลี่ยนเนื้อเรื่อง มันเป็นการยากมากที่จะเปลี่ยนบทในหนังและต่อให้สามารถเปลี่ยนได้ พระเจ้าจะเพิ่มความยากมากขึ้นไปอีก

    โหมวจับหัวของตัวเองและตะโกนออกมาว่า "ไม่, ผมไม่ไป ผมจะไม่มีวันเข้าไปในนั้น!" ในตอนที่เขาตะโกนนั้น เขาเริ่มวิ่งกลับไปทางเดิมที่ผ่านมา ก่อนที่กลุ่มของเจิ้งจะได้รู้สึกตัว ทหารรับจ้างชักปืนออกมาเสียก่อนและยิงไปที่โหมว ร่างของโหมวร่วงลงกับพื้นกลายเป็นศพ

    "เหวออ!" เจิ้งและเซียวยี่ต่างก็เริ่มอาเจียนออกมา ชีวิตถูกช่วงชิงไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา เจิ้งรู้สึกแย่มากอยู่ข้างในเพราะเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้โหมวตาย

    วันหันมามองเจิ้งด้วยสายตาอันเย็นยะเยียบและพูดว่า "ข้าก็ว่าแล้วว่ามันแปลกๆมาตั้งแต่ต้น ถึงแม้จะมีข้อมูลอยู่ในบริษัทแต่ท่าทางพวกนายไม่เหมืนกับหน่วยรักษาความปลอดภัยเอาเสียเลย และตอนนี้พวกนายยังพยายามไม่ให้เข้าไปเริ่มระบบใหม่ของราชินีแดงอีกงั้นเหรอ? เอาละเจิ้ง ตามพวกเรามาได้แล้ว"

    ร่างของเจิ้งนั้นแข็งทื่อ กระเพาะของเขายังไม่รู้สึกดีขึ้นจากการอ้วกเมื่อกี้เลยด้วยซ้ำ แต่วันไม่สนใจ เขาลากแขนของเจิ้งเข้าไปพร้อมกับทหารรับจ้างคนอื่นๆ

    หลังจากที่ทั้งหมดเข้าไปตรงทางเดินแล้ว ประตูก็ปิดลงเหมือนกับในหนังที่ประตูทั้งสองด้านปิดลง วันและทหารรับจ้างคนอื่นๆถือปืนเตรียมพร้อมเอาไว้ จากนั้นก็พูดผ่านไมค์ "แคปแลน?"

    แคปแลนตื่นตระหนกและพูดว่า "ระบบป้องกันที่แอบซ่อนไว้ การเปิดประตูทำให้มันทำงาน"

    "ทำให้มันหยุดทำงาน"

    แคปแลนเหงื่อแตก "กำลังทำอยู่ครับ"

    "อยู่กับที่ อย่าตื่นตระหนก"

    เจิ้งในตอนนี้หวาดกลัวสุดๆ เขารู้ดีว่าเนื้อเรื่องต่อจากนี้กำลังจะเริ่มเดินและเขาเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในหนังนั้น อย่างที่คิดไว้ กำแพงแก้วเริ่มหรี่แสงลงและแสงเลเซอร์บางๆปรากฎอยู่ระหว่างผนัง เลเซอร์เริ่มพุ่งเข้ามาหาทหารรับจ้างและเจิ้ง

    วันเป็นคนแรกที่เริ่มรู้สึกตัว เขาหมอบลงพร้อมกับอีกสองคนที่อยู่ข้างๆเขา ส่วนเจิ้งนั้นระวังแต่แรกแล้วและหมอบลงตั้งแต่เลเซอร์โผล่ขึ้นมา เลเซอร์ลำนี้ผ่านไหล่ของเขาไปอย่างเฉียวเฉียดและเขารู้สึกถึงความคมของมันได้เป็นอย่างดีในตอนที่ความร้อนผ่านไหล่ของเขาไป ในจิตใจของเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากความรู้สึกนี้

    "หน่วยพยาบาลๆ!"

    วันตะโกนออกมา เสียงตะโกนนี้ปลุกให้เขาตื่นจากผวังค์ เขาหันกลับไปและเห็นหัวของทหารแพทย์กลิ้งลงมา ตาของทหารคนนั้นมองมาที่เขาอย่างเคียดแค้น

    "ไม่ ไม่ ผมไม่อยากตาย!" เจิ้งตะโกนออกมาเหมือนกับคนบ้า ในตอนที่ตะโกนนั้นสติของเขากลับสงบอย่างประหลาด เขาเริ่มนึกถึงเนื้อเรื่องต่อจากนี้

    ส่วนวันจับทหารคนหนึ่งที่นิ้วขาดเอาไว้ จากนั้นก่อนมีคนตะโกนว่า "มันกลับมาแล้ว!"

    เจิ้งจำฉากนี้ได้เป็นอย่างดีและจำได้ว่าครั้งนี้เลเซอร์จะอยู่ที่บริเวณหัวเข่า มันจะผ่านทหารรับจ้างคนแรกไปและไต่สูงขึ้นในตอนที่ทหารรับจ้างคนที่สองกระโดดและตัดเขาออกเป็นสองส่วน เขามีโอกาศเดียวเท่านั้น ถ้าเขาพลาดนั่นหมายถึงตาย เขาไม่รู้ว่ารูปแบบเลเซอร์นี้จะเปลี่ยนไปจากการที่เขาเปลี่ยนบทหรือไม่ เขาทำได้แค่เชื่อใจในสิ่งที่เขารู้

    ในตอนที่เลเซอร์วิ่งกลับมาหาพวกเขาอีกครั้ง ทหารรับจ้างนั้นโดนเลเซอร์ผ่าและตาย ส่วนอีกสองคนที่เหลือก้าวถอยหลัง เจิ้งเพ่งสติไปที่ทหารคนแรกที่อยู่ด้านหน้า หนึ่งวินาที สองวินาที เหมือนกับว่าเวลานั้นช้าลงดั่งที่เขาบอกกันว่าเวลาจะช้าลงเมื่อเจอสถานการณ์เสี่ยงตาย เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้นและรอบๆตัวเขาดูเหมือนจะช้าลง 

    "ทะลุขีดจำกัดของจิตใจ! ได้รับรางวัล500แต้ม ขีดจำกัดของจิตใจเพิ่มขึ้น20แต้ม ความเร็วในการตอบโต้เพิ่มขึ้น30แต้ม!"

    เสียงที่ดูหนักแน่นและสูงศักดิดังขึ้นที่หัวของเจิ้งแต่ตัวของเขาเองนั้นไม่รับรู้ถึงเสียงนั้น สติทั้งหมดของเขาพุ่งไปที่ทหารรับจ้างคนนั้น ในตอนที่มันมาถึงและทหารคนนั้นกระโดด เจิ้งพุ่งลงไปที่พื้นและเลเซอร์เคลื่อนที่ผ่านเขาไป แสงเลเซอร์สีขาวนี้เหมือนกับเคียบของยมฑูต ในวินาทีนั้นเองเจิ้งเชื่อในคำพูดของเจี๋ยที่ว่าร่างของพวกเขาถูกพามาด้วยและนี่เป็นการกระทำของพระเจ้าหรืออาจจะเป็นปีศาจ พวกเขา...อาจจะตายที่นี่ก็ได้!

    เลเซอร์ไต่สูงขึ้นอย่างที่คิดไว้และผ่าทหารคนนั้นเป็นสองส่วน หลังจากที่เลเซอร์ผ่านไป เจิงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขามองไปด้านหลังผ่านประตูกระจกและเห็นหลานที่อยู่ด้านนอกมีน้ำตาไหลริน

    เจิ้งส่งยิ้มให้เธอและคว้าวันเอาไว้และวิ่งไปที่ประตู เขาได้แต่หวังว่าเนื้อเรื่องจะไม่เปลี่ยน เลเซอร์จะหยุดลงหลังจากที่มันเข้าใกล้ประตู มันไม่มีทางที่จะหลบหนีด้วยวิธีอื่นได้เลยเพราะเลเซอร์มันจะกลายเป็นตาข่าย สิ่งที่เขาทำได้คือไปอยู่ใกล้ประตูและสวดภาวนาว่าให้มันเหมือนกับเนื้อเรื่อง!

    วันพยายามหลุดจากแขนของเจิ้ง "ปล่อยข้า! ที่นี่จะผ่าพวกเราเป็นสองส่วน! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!"

    เจิ้งคว้าปกเสื้อของเขาไว้และพูดว่า "เชื่อฉัน! ไม่มีทางที่จะหลบในครั้งนี้ การอยู่ใกล้กับประตูเป็นหนทางเดียวที่จะเสี่ยงได้เท่านั้น! เชื่อฉัน!"

    เลเซอร์อันที่สามโผล่ขึ้นมาและเริ่มเคลื่อนไหวเข้าหาพวกเขา เส้นทางของมันจะผ่าพวกเขาออกเป็นสองส่วน วันพยายามหลุดออกจากการถูกจับแต่เจิ้งไม่ปล่อยให้เขาไป เขาใช้ร่างของเขาพิงไปที่ประตูและปิดตา

    "มีชีวิตรอด, ฉันอยากมีชีวิตรอด ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ฉันก็ยังอยากมีชีวิตรอด!"

    บางทีอาจจะเป็นไปได้ว่าพระเจ้ารับฟังคำขอนี้ เลเซอร์เปลี่ยนเป็นรูปร่างตาข่ายอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาพวกเขา วันตะโกนร้องออกมาดั่งกับว่าเขาตกอยู่ในความสิ้นหวัง แต่แล้วเลเซอร์ค่อยๆจางลงและหายไปห่างจากพวกเขาไม่กี่เซนติเมตรตรงหน้าเขา เขารู้สึกถึงความร้อนจากเลเซอร์สัมผัสหน้าได้เป็นอย่างดี ตอนนี้เขารู้สึกไม่อยากเชื่อเลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่

    เจิ้งเปิดตาขึ้น เขาไม่เห็นตอนที่เลเซอร์หายไปแต่เขารู้ดีว่าเขาทำสำเร็จ การรู้เนื้อเรื่องทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ เขาไม่เคยเข้าใกล้ความตายขนาดนี้มาก่อนนับตั้งแต่เขาเกิดมายี่สิบกว่าปี ความตายนั้นใกล้มากจนเกือบแตะบ่าของเขาเลยทีเดียว

    "นี่คืออะไร?"

    ในตอนที่เจิ้งเขาคิดถึงดวงของเขาที่ยังดีอยู่ เขาสังเกตเห็นดวงไฟเล็กๆที่ปกเสื้อของวัน เขาหยิบบอลแสงมาดูและมันหายไปในมือ ความรู้สึกอบอุ่นไหลผ่านทั่วร่างกายจากแขนไปที่ตัว ความรู้สึกสบายอย่างที่บอกไม่ถูก

    "ได้รับรางวัลภารกิจรองระดับ B ได้รับ5000แต้ม"

    เสียงที่ดูหนักแน่นและสูงศักดิดังขึ้นอีกครั้ง เจิ้งจำได้ว่าเขาได้ยินเสียงนี้มาก่อน มันแจ้งว่าเขาได้500แต้ม, เพิ่มขีดจำกัดของจิตใจ20แต้มและเพิ่มอัตราการตอบสนอง30แต้ม เขาจะได้รับแต้มเพิ่มอีก1000แต้มในการพัฒนาร่างกายถ้าเขามีชีวิตรอดในหนังเรื่องนี้

    5000แต้มนี้เหมือนกับของขวัญจากสวรรค์และทำให้เจิ้งประหลาเใจอย่างยินดี ในตอนที่ประตูเปิดออกและมีหลายคนวิ่งเข้ามาหาเขา เขายังคงยืนด้วยท่าทางงุนงง

    เซียวยี่ตบบ่าของเขาและพูดว่า "นายนี่มันยอดไปเลย! นายมีชีวิตรอดจากสิ่งนั้น!"

    สติของเจิ้งกลับมาอีกครั้ง เขาส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี มันเป็นสิ่งกระตุ้นมากเกินไปสำหรับคนธรรมดาที่อยู่ในโลกอันสงบสุข

    หลานเองก็เดินเข้ามาเหมือนกัน "สมแล้ว ฉันเตือนนายแล้วว่าอย่าไปยุ่งแต่นายกลับไม่สนใจ เจี๋ยพูดถูกแล้วว่าสิ่งป้องกันที่ดีที่สุดของเราไม่ใช่ดวงแต่เป็นการรู้เนื้อเรื่อง โชคเองก็ไม่ได้อยู่กับนายตลอดเวลา ดังนั้นเลิกไร้สติได้แล้ว ไม่มีใครต้องการตายที่นี่"

    เจิ้งส่ายหัวและไม่ตอบอะไร เขาไม่รู้ว่าเขาควรบอกพวกเธอเรื่องรางวัลนี้ดีหรือเปล่า รางวัลภารกิจรองระดับB? มันหมายถึงอะไร? มันคือการที่เปลี้ยนเนื้อเรื่องหรือช่วยชีวิตตัวละครที่จะต้องตายหรือเปล่า? หรือว่าจะเป็นจากการที่รอดจากสถานการณ์ฉากอันตราย?

    เขาไม่รู้ เมื่อกี้มันอันตรายสุดๆ เมื่อกี้เขาเกือบจะตายตรงที่แห่งนั้น และชายวัยกลางคนคนนั้นตายเพราะเขา มันทำให้เขากลัวที่จะเปลี่ยนเนื้อเรื่องนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปและเจี๋ยอาจจะไม่ยอมให้เขาทำอะไรแบบนั้นอีกแล้วเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับตั้งแต่นี้ไป ซึ่งมัยรวมถึงผู้เล่น, ตัวแสดง ,และแม้แต่ตัวละครหลัก

    นี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นหนังสยองขวัญ ไม่มีใครปลอดภัยทั้งนั้น ทุกๆคนสามารถตายได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีค่าอะไรเลย

    =============================
    จบตอนครับ

    ตอนหน้าจะเริ่มเข้าสู่เทศกาลซอมบี้ครับ XD
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×