ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Resident Evil : ผีชีวะ 1-2
รถไฟเริ่มแล่นลงอย่างช้าๆจนกระทั่งหยุดลง ทหารรับจ้างออกจากรถไฟอย่างระมัดระวัง ชายผมดำเป็นคนแรกที่ตามทหารรับจ้างไป เด็กสาวใส่แว่นมองไปที่เจิงและคนอื่นๆจากนั้นก็ตามพวกเขาไป เมื่อเห็นชายผมดำเริ่มห่างไปมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เหลือก็ทำตาม
ด้านนอกของรถไฟเป็นชานชาลา เจิงนึกถึงฉากในหนังและจำได้ว่าจุดนี้เป็นจุดแรกในหนีงที่คนกลุ่มนี้ต้องการเข้าไปในรังผึ้ง บนประตูมีสัญลักษณ์พิเศษสลักไว้อยู่ซึ่งบ่งบอกถึงบริษัทที่เป็นเจ้าของห้องแลปนี้และความอันตรายของสถานที่นี้
เจิงและคนอื่นๆตามทหารรับจ้างไปที่ประตู ผู้หญิงใส่กระโปรงสีแดงที่อยู่ตรงประตูหันมาที่หัวหน้าทหารที่ชื่อวันและพูดขึ้นว่า "ฉันต้องการรู้ว่าพวกนายเป็นใครและเกิดอะไรขึ้นที่นี่"
ทหารวันมองมาที่เธอและส่ายมือให้ทหารรับจ้างคนอื่นๆ พวกเขาหยิบอุปกรณ์ออกมาจากกระเป๋าและเริ่มปลดล็อคประตู จากนั้นวันก็หันมาคุยกับผู้หญิงคนนั้น "เธอและฉันต่างก็มีเจ้านายคนเดียวกัน คฤหาสน์ที่อยู่เหนือหัวพวกเราเป็นทางออกฉุกเฉินจากรังผึ้ง เธอเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ตรงนั้นมีหน้าที่ในการป้องกันทางเข้า
เจิงจำได้ถึงฉากนี้ดี นี่เป็นฉากที่อลิส(Alice)ถามถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ถึงแม้เขาจะเคยเห็นฉากนี้ในหนังมาแล้วและรู้เหตุผลที่เบื้องหลังแท้จริงแต่การที่มาเห็นภาพนี้ด้วยตาตนเองทำให้เขารู้สึกว่าอยู่ในความฝัน
อลิสสับสนเล็กน้อยก่อนที่จะถูมือไปที่แหวนแต่งงานและพึมพำว่า "แล้วสิ่งนี้ละ"
แมทพูดออกมาว่า "การแต่งงานของเธอเป็นเรื่องหลอกลวง มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการในการป้องกันความลับของรังผึ้ง"
"แล้วรังผึ้งคืออะไร?" หนึ่งในคนที่ไม่ใช่ทหารรับจ้างถามขึ้นมา เจิงจำได้ดีว่าคนๆนี้คือ สเปนซ สปารค์(Spence Sparks) เขาเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นจารชนที่ถูกส่งมาจากคู่แข่งธุรกิจเพื่อขโมยไวรัสที (T virus)
วันหันไปหาทหารรับจ้างและพูดว่า "แสดงให้พวกเขาดู"
เขาตอบรับและแสดงหน้าจอบนเครื่องแลปทอบ
"คฤหาสน์นี้ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของเมืองแรคคูณ พวกเราเจอนายอยู่ตรงนั้นและเข้าถึงรถไฟจากตรงนั้น มันพาพวกเรามาที่รังผึ้งแห่งนี้"
สิ่งก่อสร้างที่คล้ายกับรังผึ้งปรากฎบนหน้าจอ
"รังขึ้นตั้งอยู่ในใต้ดินของเมืองแรคคูณ มันเป็นสถานที่วิจัยลับสุดยอดที่มีบริษัทอัมเบลล่า(Umbrella)เป็นเจ้าของ... ที่อยู่ของพวกเราบนแผนที่แสดงจากสัญญาณความร้อนของพวกเรา"
อย่างที่วันบอก สถานที่ของพวกเราปรากฎบนแลปทอป พวกเรายืนอยู่บนชานชาลาที่อยู่เหนือรังผึ้ง เจิงรู้ดีว่าที่ตรงนี้ปลอดภัยแต่หลังจากนี้มันจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป สถานที่นี้จะกลายเป็นเขตมรณะในภายหลัง
"แล้วพวกเขาละ" อลิสชี้ไปที่เจิงและคนอื่นๆ
เจิงสะดุ้ง เขาคิดว่าเขาเป็นแค่แขกของโลกใบนี้และตัวแสดงจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเขาเสียอีก สิ่งที่พวกเขาต้องทำมีเพียงแค่หลบหนีจากซอมบี้พวกนั้น ใครจะไปคิดว่าตัวแสดงหลักจะเข้ามาคุยกับพวกเขา
วันตอบกลับ "พวกเขาเองก็เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย บริษัทมีข้อมูลของพวกเขาอยู่แต่ฉันคิดว่ามีนมีอะไรผิดพลาดซักอย่างกับคำสั่งของบริษัท ยกเว้นคนๆเดียว นอกนั้นเป็นคนธรรมดาทั้งหมด"
นี่อาจจะเป็นตัวตนของพวกเขาที่พระเจ้าทำให้
สแปนซถามต่อ "ทำไมผมจำอะไรไม่ได้เลย?"
"รังผึ้งมีระบบรักษาความปลอดภัยของตัวมันเอง คอมพิวเตอร์ทั้งหมดถูกควบคุมและแก็สระบบประสาทถูกปล่อยออกมาทั่วบริเวณบ้าน ผลกระทบหลักของแก็ซระบบประสาททำให้ผู้สูดดมหมดสติเป็นเวลาสี่ชั่วโมง ผลกระทบรองนั้นแตกต่างกันไปซึ่งมันรวมถึงการสูญเสียความทรงจำ"
"นานเท่าไหร่?"
"หลากหลาย อาจจะเป็นวัน,เดือน, หรือสัปดาห์"
หนึ่งในคนที่ไม่ใช่ทหารรับจ้างถามขึ้นมา "นายจะบอกว่าสถานที่นี้ถูกโจมตี?"
วันหันไปมองเขาและตอบว่า "เกรงว่าจะยุ่งยากมากกว่านั้น"
เจิงจำตัวละครตัวนี้ได้ดี เขาคือ แมท แอดดิสัน(Matt Addison) เขามาที่นี้เพื่อตามหาน้องสาวที่เป็นนักวิจัยอยู่ในรังผึ้งแห่งนี้ เธอพบว่าบริษัทพยายามค้นคว้าวิจัยไวรัสทีและพยายามติดต่อกับรัฐบาล คนที่เธอติดต่อด้วยคืออลิสแต่สแปนซขโมยไวรัสและแพร่มันออกมาเสียก่อน เธอติดเชื้อในภายหลังและกลายเป็นซอมบี้
เจิงรู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่เขาดูหนังมาเยอะมากเพราะชีวิตของเขานั้นมันน่าเบื่อ หนังไซไฟและหนังสยองขวัญเป็นหนังที่เขาชอบ การที่รู้ว่าบทมันจะเป็นยังไงต่อและใครเป็นตัวเอกจะทำให้โอกาศในการรอดชีวิตของเขาเพิ่มมากขึ้น เป็นที่รู้ดีกันว่าตัวเอกจะไม่มีทางตายไม่ว่าจะเป็นหนังหร้อนิยาย
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงมาจากประตู "ท่านครับ! พวกเราฝ่าเข้าในรังผึ้งได้แล้ว"
วันพยักหน้ารับและหันไปมองที่กลุ่มของเจิงและถอนหายใจออกมา เขาหันกลับไปและนำทหารรับจ้างไปที่ประตู
ประตูเปิดจากการควบคุมของคอมพิวเตอร์ ข้างในนั้นมืดสนิท วันเรียกทหารรับจ้าง "เจดี!(JD)"
ชายคนนั้นพยักหน้ารับและใส่แว่นมองในที่มืด เขาหยุดเล็กน้อยจากนั้นก็หันไปที่ชายผมดำและพูดขึ้นว่า "จางเจี๋ย(เจี๋ย)!"
เจี๋ยหยิบdesert eagleขึ้นมาและเดินเข้าไป เจิงรู้ว่าชายผมดำเองก็รู้ถึงเนื้อเรื่องนี้ดีเหมือนกัน ในผีชีวะภาค1ตราบเท่าที่ศูนย์กลางระบบคอมพิวเตอร์ยังคงอยู่ พวกเขาจะยังคงปลอดภัย แต่เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ปิดลง สถานที่นี้จะเต็มไปด้วยซอมบี้และฮันเตอร์(TL :ขอใช้ทับศัพท์เลยนะครับแปลเป็นนักล่าแล้วรู้สึกแปลกๆ)
มันใช้เวลาไม่นานนักสำหรับเจี๋ยที่จะเปิดไฟ ทั้งห้องสว่างขึ้นและสามารถเห็นภาพของเมืองสมัยใหม่ผ่านหน้าต่าง ภาพที่เจิงรู้สึกเอียนในชีวิต
ทหารรับจ้างและคนอื่นๆเดินเข้าไปในห้อง ทหารรับจ้างหญิงพูดขึ้นมาว่า" สารเคมีระเหยไปหมดแล้ว"
ในตอนที่สแปนซขโมยไวรัสที เขาทำมันแตกไปอันนึง จากนั้นระบบระบายอากาศก็กระจายไวรัสทีไปทั่วรังผึ้ง ในตอนที่ศูนย์กลางคอมพิวเตอร์ค้นพบ มันตัดขาดรังผึ้งกับภายนอกและฉีดแก็ซเข้าไป สิ่งที่เหลืออยู่ในรังผึ้งตอนนี้มีแค่ซอมบี้และฮันเตอร์
ดูเหมือนว่าหนังเรื่องผีชีวะจะเป็นหนังที่ดังมาก ทุกๆคนในกลุ่มของเจิงต่างก็เคยดูเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็พิงไปที่หน้าต่างและหันไปมองด้านนอก ในตอนนี้พวกเขาไม่รู้สึกกังวลนักเพราะพวกเขารู้ดีว่าที่นี่ยังคงปลอดภัยอยู่
จู่ๆแมทก็พูดขึ้นมาว่า "ทำให้รู้สึกดีขึ้นก่อนลงไปใต้ดินจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีวิวแบบนี้"
เจิ้งลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะยกมือขึ้นมา "เจิ้งจา...เอ่อ ผมเองก็อาจจะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยเหมือนกัน"
มือของแมทถูกกุญแจล็อคเอาไว้อยู่เพราะไม่มีข้อมูลของเขาในบริษัท เขาหันกลับมาและยิ้มอย่างขมขื่น "ผมถูกล็อกมือเอาไว้และไม่คิดว่าจะจับมือในสภาพนี้ได้... และผมเองก็ลืมชื่อของตัวเอง"
เจิ้งยิ้มให้อย่างกันเอง ในหนังนั้นแมทเป็นคนที่ดี อีกทั้งเขายังเป็นผู้บริสุทธิอีกด้วย เขามาที่นี่เพื่อตามหาน้องสาวและพยายามปกป้องอลิสจนจบเรื่อง เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีชีวิตรอดจนหนังจบ
อีกด้านหนึ่ง หนึ่งในทหารรับจ้างเปิดประตูลิฟท์ได้แล้ว แต่ว่ามันมืดมากข้างใน พวกเขาโยนแท่งไฟลงไปและพบว่าลิฟท์อยู่ล่างสุดและเอ็นลิฟท์นั้นถูกตัดขาด
"ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องใช้บันได"
วันหันมาหาทุกคนและพูดว่า "ผ่านทางบันได พวกเราจะไปถึงชั้นใต้ดินในสิบนาที ทุกคนตามฉันมา"
ทหารรับจ้างนั้นต่างก็ถูกฝึกฝนมาดี อลิสมีไวรัสทีอยู่ข้างใน ร่างกายของสแปนซและแมทต่างก็ไม่เลว เจี๋ยได้ผ่านหนังมาสามเรื่องแล้วและเป็นไปได้ว่าเขาจะพัฒนาตัวเองไปแล้ว
ส่วนอีกหกคนที่เหลือนั้น ถึงแม้เจิ้งจะเป็นพนักงานบริษัทแต่ขาชอบออกกำลังกายและใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในหนึ่งสัปดาห์ในการเข้ายิม เขาทำสิ่งนี้เพราะมันช่วยในการดูแลผู้หญิงเหล่านั้น
เด็กสาวใส่แว่นดูผอมบางและในฐานะที่เป็นเด็กผู้หญิง แรงกายของเธอนั้นต่ำกว่าผู้ชาย แต่เธอฉลาดพอที่จะคว้าชายเสื้อของเจี๋ยเอาไว้และนั่นทำให้เจี๋ยต้องรับน้ำหนักส่วนหนึ่งของเธอ เขาหันมามองเธอสักครู่ก่อนที่เคลื่อนที่ต่อไปหน้าเธอ
ไม่นานหลังจากนั้น ชายร่างอวบอายุประมาณ28ก็หอบหายใจและความเร็วของเขาเริ่มช้าลง
ส่วนอีกสามคนที่ประกอบไปด้วย ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะมีอาชีพแรงงาน เขาวิ่งไม่เร็วนักแต่ก็สามารถตามขบวนไปได้ ผู้หญิงวัยกลางคนนั้นร่างกายแย่กว่าชายร่างอวบเสียอีก ตอนนี้เธอกลายมาเป็นเดินแทนแล้ว ส่วนคนสุดท้ายคือเด็กวัยรุ่น หน้าตาของเขาดูธรรมดาและดูไม่ค่อยแข็งแรง แต่แตกต่างจากชายวัยกลางคน เขาสามารถตามติดไปกับคนอื่นๆได้
หลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง ชายร่างอวบและหญิงวัยกลางคนก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เจิ้งที่ตามหลังเจี๋ยตั้งแต่แรกได้ยินเจี๋ยพูดขึ้นมาว่า "ออกไปสองคน"
เจิ้งถามด้วยความสงสัย "ออกไปสิงคนหมายถคงอะไร?"
เจี๋ยตอบด้วยท่าทางเยาะเย้ย "พวกเขา! อย่าคิดว่าคำพูดของฉันเป็นเรื่องล้อเล่น นี่เป็นโลกของจริงและพวกเราจะตายที่นี่ บางทีนายอาจจะยังไม่ๅด้คิดอย่างจริงจังและคิดว่านี่เป็นหนังถูกไหม? บอกไปแล้วว่ามีกฎว่าถ้าห่างจากตัวละครหลัก300ฟุตละก็ตัวจะระเบิด พวกเขากำลังจะตาย!"
ตูม
หลังจากที่เจี๋ยพูดจบ เสียงระเบิดสองอันก็ดังขึ้นจากข้างบน กลุ่มของเจิ้งต่างก็หันไปมองด้านบนด้วยความงุนงง แต่นอกจากบันไดแล้วไม่มีอะไรเหลือเลย
------------------------------
จบบทครับ
ถ้าผมโดนวาปเข้าไปในเกมแล้วเจอตัวละครที่ชื่อลีออนละก็คิดหนักน่าดูโดยเฉพาะกำลังนั่งพาหนะโดยสาร อย่างน้อยก็ต้องหาร่มชูชีพถ้าอยู่บนเครื่องบินละนะเพราะตกแน่นอน XD
ด้านนอกของรถไฟเป็นชานชาลา เจิงนึกถึงฉากในหนังและจำได้ว่าจุดนี้เป็นจุดแรกในหนีงที่คนกลุ่มนี้ต้องการเข้าไปในรังผึ้ง บนประตูมีสัญลักษณ์พิเศษสลักไว้อยู่ซึ่งบ่งบอกถึงบริษัทที่เป็นเจ้าของห้องแลปนี้และความอันตรายของสถานที่นี้
เจิงและคนอื่นๆตามทหารรับจ้างไปที่ประตู ผู้หญิงใส่กระโปรงสีแดงที่อยู่ตรงประตูหันมาที่หัวหน้าทหารที่ชื่อวันและพูดขึ้นว่า "ฉันต้องการรู้ว่าพวกนายเป็นใครและเกิดอะไรขึ้นที่นี่"
ทหารวันมองมาที่เธอและส่ายมือให้ทหารรับจ้างคนอื่นๆ พวกเขาหยิบอุปกรณ์ออกมาจากกระเป๋าและเริ่มปลดล็อคประตู จากนั้นวันก็หันมาคุยกับผู้หญิงคนนั้น "เธอและฉันต่างก็มีเจ้านายคนเดียวกัน คฤหาสน์ที่อยู่เหนือหัวพวกเราเป็นทางออกฉุกเฉินจากรังผึ้ง เธอเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ตรงนั้นมีหน้าที่ในการป้องกันทางเข้า
เจิงจำได้ถึงฉากนี้ดี นี่เป็นฉากที่อลิส(Alice)ถามถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ถึงแม้เขาจะเคยเห็นฉากนี้ในหนังมาแล้วและรู้เหตุผลที่เบื้องหลังแท้จริงแต่การที่มาเห็นภาพนี้ด้วยตาตนเองทำให้เขารู้สึกว่าอยู่ในความฝัน
อลิสสับสนเล็กน้อยก่อนที่จะถูมือไปที่แหวนแต่งงานและพึมพำว่า "แล้วสิ่งนี้ละ"
แมทพูดออกมาว่า "การแต่งงานของเธอเป็นเรื่องหลอกลวง มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการในการป้องกันความลับของรังผึ้ง"
"แล้วรังผึ้งคืออะไร?" หนึ่งในคนที่ไม่ใช่ทหารรับจ้างถามขึ้นมา เจิงจำได้ดีว่าคนๆนี้คือ สเปนซ สปารค์(Spence Sparks) เขาเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นจารชนที่ถูกส่งมาจากคู่แข่งธุรกิจเพื่อขโมยไวรัสที (T virus)
วันหันไปหาทหารรับจ้างและพูดว่า "แสดงให้พวกเขาดู"
เขาตอบรับและแสดงหน้าจอบนเครื่องแลปทอบ
"คฤหาสน์นี้ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของเมืองแรคคูณ พวกเราเจอนายอยู่ตรงนั้นและเข้าถึงรถไฟจากตรงนั้น มันพาพวกเรามาที่รังผึ้งแห่งนี้"
สิ่งก่อสร้างที่คล้ายกับรังผึ้งปรากฎบนหน้าจอ
"รังขึ้นตั้งอยู่ในใต้ดินของเมืองแรคคูณ มันเป็นสถานที่วิจัยลับสุดยอดที่มีบริษัทอัมเบลล่า(Umbrella)เป็นเจ้าของ... ที่อยู่ของพวกเราบนแผนที่แสดงจากสัญญาณความร้อนของพวกเรา"
อย่างที่วันบอก สถานที่ของพวกเราปรากฎบนแลปทอป พวกเรายืนอยู่บนชานชาลาที่อยู่เหนือรังผึ้ง เจิงรู้ดีว่าที่ตรงนี้ปลอดภัยแต่หลังจากนี้มันจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป สถานที่นี้จะกลายเป็นเขตมรณะในภายหลัง
"แล้วพวกเขาละ" อลิสชี้ไปที่เจิงและคนอื่นๆ
เจิงสะดุ้ง เขาคิดว่าเขาเป็นแค่แขกของโลกใบนี้และตัวแสดงจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเขาเสียอีก สิ่งที่พวกเขาต้องทำมีเพียงแค่หลบหนีจากซอมบี้พวกนั้น ใครจะไปคิดว่าตัวแสดงหลักจะเข้ามาคุยกับพวกเขา
วันตอบกลับ "พวกเขาเองก็เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย บริษัทมีข้อมูลของพวกเขาอยู่แต่ฉันคิดว่ามีนมีอะไรผิดพลาดซักอย่างกับคำสั่งของบริษัท ยกเว้นคนๆเดียว นอกนั้นเป็นคนธรรมดาทั้งหมด"
นี่อาจจะเป็นตัวตนของพวกเขาที่พระเจ้าทำให้
สแปนซถามต่อ "ทำไมผมจำอะไรไม่ได้เลย?"
"รังผึ้งมีระบบรักษาความปลอดภัยของตัวมันเอง คอมพิวเตอร์ทั้งหมดถูกควบคุมและแก็สระบบประสาทถูกปล่อยออกมาทั่วบริเวณบ้าน ผลกระทบหลักของแก็ซระบบประสาททำให้ผู้สูดดมหมดสติเป็นเวลาสี่ชั่วโมง ผลกระทบรองนั้นแตกต่างกันไปซึ่งมันรวมถึงการสูญเสียความทรงจำ"
"นานเท่าไหร่?"
"หลากหลาย อาจจะเป็นวัน,เดือน, หรือสัปดาห์"
หนึ่งในคนที่ไม่ใช่ทหารรับจ้างถามขึ้นมา "นายจะบอกว่าสถานที่นี้ถูกโจมตี?"
วันหันไปมองเขาและตอบว่า "เกรงว่าจะยุ่งยากมากกว่านั้น"
เจิงจำตัวละครตัวนี้ได้ดี เขาคือ แมท แอดดิสัน(Matt Addison) เขามาที่นี้เพื่อตามหาน้องสาวที่เป็นนักวิจัยอยู่ในรังผึ้งแห่งนี้ เธอพบว่าบริษัทพยายามค้นคว้าวิจัยไวรัสทีและพยายามติดต่อกับรัฐบาล คนที่เธอติดต่อด้วยคืออลิสแต่สแปนซขโมยไวรัสและแพร่มันออกมาเสียก่อน เธอติดเชื้อในภายหลังและกลายเป็นซอมบี้
เจิงรู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่เขาดูหนังมาเยอะมากเพราะชีวิตของเขานั้นมันน่าเบื่อ หนังไซไฟและหนังสยองขวัญเป็นหนังที่เขาชอบ การที่รู้ว่าบทมันจะเป็นยังไงต่อและใครเป็นตัวเอกจะทำให้โอกาศในการรอดชีวิตของเขาเพิ่มมากขึ้น เป็นที่รู้ดีกันว่าตัวเอกจะไม่มีทางตายไม่ว่าจะเป็นหนังหร้อนิยาย
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงมาจากประตู "ท่านครับ! พวกเราฝ่าเข้าในรังผึ้งได้แล้ว"
วันพยักหน้ารับและหันไปมองที่กลุ่มของเจิงและถอนหายใจออกมา เขาหันกลับไปและนำทหารรับจ้างไปที่ประตู
ประตูเปิดจากการควบคุมของคอมพิวเตอร์ ข้างในนั้นมืดสนิท วันเรียกทหารรับจ้าง "เจดี!(JD)"
ชายคนนั้นพยักหน้ารับและใส่แว่นมองในที่มืด เขาหยุดเล็กน้อยจากนั้นก็หันไปที่ชายผมดำและพูดขึ้นว่า "จางเจี๋ย(เจี๋ย)!"
เจี๋ยหยิบdesert eagleขึ้นมาและเดินเข้าไป เจิงรู้ว่าชายผมดำเองก็รู้ถึงเนื้อเรื่องนี้ดีเหมือนกัน ในผีชีวะภาค1ตราบเท่าที่ศูนย์กลางระบบคอมพิวเตอร์ยังคงอยู่ พวกเขาจะยังคงปลอดภัย แต่เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ปิดลง สถานที่นี้จะเต็มไปด้วยซอมบี้และฮันเตอร์(TL :ขอใช้ทับศัพท์เลยนะครับแปลเป็นนักล่าแล้วรู้สึกแปลกๆ)
มันใช้เวลาไม่นานนักสำหรับเจี๋ยที่จะเปิดไฟ ทั้งห้องสว่างขึ้นและสามารถเห็นภาพของเมืองสมัยใหม่ผ่านหน้าต่าง ภาพที่เจิงรู้สึกเอียนในชีวิต
ทหารรับจ้างและคนอื่นๆเดินเข้าไปในห้อง ทหารรับจ้างหญิงพูดขึ้นมาว่า" สารเคมีระเหยไปหมดแล้ว"
ในตอนที่สแปนซขโมยไวรัสที เขาทำมันแตกไปอันนึง จากนั้นระบบระบายอากาศก็กระจายไวรัสทีไปทั่วรังผึ้ง ในตอนที่ศูนย์กลางคอมพิวเตอร์ค้นพบ มันตัดขาดรังผึ้งกับภายนอกและฉีดแก็ซเข้าไป สิ่งที่เหลืออยู่ในรังผึ้งตอนนี้มีแค่ซอมบี้และฮันเตอร์
ดูเหมือนว่าหนังเรื่องผีชีวะจะเป็นหนังที่ดังมาก ทุกๆคนในกลุ่มของเจิงต่างก็เคยดูเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็พิงไปที่หน้าต่างและหันไปมองด้านนอก ในตอนนี้พวกเขาไม่รู้สึกกังวลนักเพราะพวกเขารู้ดีว่าที่นี่ยังคงปลอดภัยอยู่
จู่ๆแมทก็พูดขึ้นมาว่า "ทำให้รู้สึกดีขึ้นก่อนลงไปใต้ดินจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีวิวแบบนี้"
เจิ้งลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะยกมือขึ้นมา "เจิ้งจา...เอ่อ ผมเองก็อาจจะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยเหมือนกัน"
มือของแมทถูกกุญแจล็อคเอาไว้อยู่เพราะไม่มีข้อมูลของเขาในบริษัท เขาหันกลับมาและยิ้มอย่างขมขื่น "ผมถูกล็อกมือเอาไว้และไม่คิดว่าจะจับมือในสภาพนี้ได้... และผมเองก็ลืมชื่อของตัวเอง"
เจิ้งยิ้มให้อย่างกันเอง ในหนังนั้นแมทเป็นคนที่ดี อีกทั้งเขายังเป็นผู้บริสุทธิอีกด้วย เขามาที่นี่เพื่อตามหาน้องสาวและพยายามปกป้องอลิสจนจบเรื่อง เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีชีวิตรอดจนหนังจบ
อีกด้านหนึ่ง หนึ่งในทหารรับจ้างเปิดประตูลิฟท์ได้แล้ว แต่ว่ามันมืดมากข้างใน พวกเขาโยนแท่งไฟลงไปและพบว่าลิฟท์อยู่ล่างสุดและเอ็นลิฟท์นั้นถูกตัดขาด
"ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องใช้บันได"
วันหันมาหาทุกคนและพูดว่า "ผ่านทางบันได พวกเราจะไปถึงชั้นใต้ดินในสิบนาที ทุกคนตามฉันมา"
ทหารรับจ้างนั้นต่างก็ถูกฝึกฝนมาดี อลิสมีไวรัสทีอยู่ข้างใน ร่างกายของสแปนซและแมทต่างก็ไม่เลว เจี๋ยได้ผ่านหนังมาสามเรื่องแล้วและเป็นไปได้ว่าเขาจะพัฒนาตัวเองไปแล้ว
ส่วนอีกหกคนที่เหลือนั้น ถึงแม้เจิ้งจะเป็นพนักงานบริษัทแต่ขาชอบออกกำลังกายและใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในหนึ่งสัปดาห์ในการเข้ายิม เขาทำสิ่งนี้เพราะมันช่วยในการดูแลผู้หญิงเหล่านั้น
เด็กสาวใส่แว่นดูผอมบางและในฐานะที่เป็นเด็กผู้หญิง แรงกายของเธอนั้นต่ำกว่าผู้ชาย แต่เธอฉลาดพอที่จะคว้าชายเสื้อของเจี๋ยเอาไว้และนั่นทำให้เจี๋ยต้องรับน้ำหนักส่วนหนึ่งของเธอ เขาหันมามองเธอสักครู่ก่อนที่เคลื่อนที่ต่อไปหน้าเธอ
ไม่นานหลังจากนั้น ชายร่างอวบอายุประมาณ28ก็หอบหายใจและความเร็วของเขาเริ่มช้าลง
ส่วนอีกสามคนที่ประกอบไปด้วย ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะมีอาชีพแรงงาน เขาวิ่งไม่เร็วนักแต่ก็สามารถตามขบวนไปได้ ผู้หญิงวัยกลางคนนั้นร่างกายแย่กว่าชายร่างอวบเสียอีก ตอนนี้เธอกลายมาเป็นเดินแทนแล้ว ส่วนคนสุดท้ายคือเด็กวัยรุ่น หน้าตาของเขาดูธรรมดาและดูไม่ค่อยแข็งแรง แต่แตกต่างจากชายวัยกลางคน เขาสามารถตามติดไปกับคนอื่นๆได้
หลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง ชายร่างอวบและหญิงวัยกลางคนก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เจิ้งที่ตามหลังเจี๋ยตั้งแต่แรกได้ยินเจี๋ยพูดขึ้นมาว่า "ออกไปสองคน"
เจิ้งถามด้วยความสงสัย "ออกไปสิงคนหมายถคงอะไร?"
เจี๋ยตอบด้วยท่าทางเยาะเย้ย "พวกเขา! อย่าคิดว่าคำพูดของฉันเป็นเรื่องล้อเล่น นี่เป็นโลกของจริงและพวกเราจะตายที่นี่ บางทีนายอาจจะยังไม่ๅด้คิดอย่างจริงจังและคิดว่านี่เป็นหนังถูกไหม? บอกไปแล้วว่ามีกฎว่าถ้าห่างจากตัวละครหลัก300ฟุตละก็ตัวจะระเบิด พวกเขากำลังจะตาย!"
ตูม
หลังจากที่เจี๋ยพูดจบ เสียงระเบิดสองอันก็ดังขึ้นจากข้างบน กลุ่มของเจิ้งต่างก็หันไปมองด้านบนด้วยความงุนงง แต่นอกจากบันไดแล้วไม่มีอะไรเหลือเลย
------------------------------
จบบทครับ
ถ้าผมโดนวาปเข้าไปในเกมแล้วเจอตัวละครที่ชื่อลีออนละก็คิดหนักน่าดูโดยเฉพาะกำลังนั่งพาหนะโดยสาร อย่างน้อยก็ต้องหาร่มชูชีพถ้าอยู่บนเครื่องบินละนะเพราะตกแน่นอน XD
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น