ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    until death? จนกว่าจะตาย? (นิยายแปล)

    ลำดับตอนที่ #6 : บทสนทนาที่ถูกผูกมัด?

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 58


    ตอนนี้ข้านั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไมม์และพวกเราถูกผูกติดไว้กับเก้าอี้ หลังจากหายนะการแนะนำตัวนั่น พวกเขาตัดสินใจที่จะให้พวกเราคุยกันเพื่อสงบสันติระหว่างกันและกัน เนื่องจากครอบครัวของพวกเรากลัวความปลอดภัยในชีวิตของพวกเราถ้าปล่อยไว้ตามลำพัง พวกเขามัดพวกเราไว้เหมือนกับมัมมี่ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังร่ายเวทไม่ให้ใช้เวทในห้องนี้ได้อีกด้วย

    จากนั้นพวกเขาก็บอกกับเราว่าจะไม่ได้ออกไปจนกว่านิสัยของพวกเราจะดีกว่านี้และนั่นผ่านมาเจ็ดชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ข้ามีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องจัดการ!
    แต่ข้าจะไม่ยอมทำให้ตัวเองอับอายด้วยการฉี่ราดตัวเองเป็นอันขาด! ไม่มีวัน! ข้ายอมตายดีกว่าจะเป็นแบบนั้น ไมม์เองน่าจะมีปัญหาเหมือนกันกับข้า ข้าเพียงแค่ต้องอดทนมากกว่านางเท่านั้น

    พวกเราไม่ได้พูดกันแม้แต่คำเดียวตั้งแต่เริ่ม สองชั่วโมงแรกพวกเราต่างจ้องมองตากันและกันจนกระทั่งไมม์หลบตาไปมองหน้าต่างแทน ฮ่า! ข้ารู้สึกว่ารอบนี้ข้าจะชนะ
    จากนั้นข้าก็เริ่มนับของต่างๆในห้องนี้เพื่อฆ่าเวลา มีสิ่งประดับทั้งหมด2334ชิ้นบนเพดาน มีไม้ทั้งหมด789ชิ้นในการใช้ทำพื้น มีหนังสือ534เล่มบนชั้นหนังสือด้านหลังของไมม์ มีนก13ตัวบินผ่านห้องไประหว่างนั้น

    ตอนนี้ข้าหมดสิ่งที่จะนับได้แล้ว โอ, ครอบครัวของพวกเราเป็นปีศาจจริงๆใช่ไหม! พวกเขาจะปล่อยให้พวกเราอดตายหรือเปล่าถ้าพวกเราไม่ยอมคุยกัน? พวกเขาไม่น่าจะทำใช่ไหม? หรือพวกเขาจะทำ? ไม่, พวกเราจะหิวน้ำตายก่อน! ข้าจะออกจากสถานการณ์นี้อย่างไรดี? 
    ข้าหันกลับไปมองไมม์อีกครั้ง แคเธอรีน สตริก รักษาบริเวณที่เธอถูกดึงผมไป ส่วนแม่ของข้าช่วยรักษาบาดแผล

    พวกเขาคุยกับพวกเราอย่างยาวนานแต่ไม่สนใจในสถานการณ์ของพวกเรา พวกเราเป็นผู้สืบทอดของพวกเราและถูกกำหนดจากเทพธิดาให้สานต่องานของพวกเขา
    จากการประกาศของพวกเขา พวกเขาประกาศให้มิดโฮลเป็นเมืองหลวงของประเทศและตั้งรกรากถาวรที่นี่

    แม่ของข้าบอกกับข้าว่า พวกเขามีหลายอย่างที่ต้องสั่งสอนพวกเรา เธอได้คำนวนไว้หมดแล้ว! พวกเขาทำอย่างนี้เพื่อให้พวกเราอยู่ร่วมกันให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
    "ถ้าพวกเขามีอำนาจถึงขนาดนี้ พวกเขาน่าจะรวมทวีปกันไปเลยโดยไม่ต้องยุ่งกับข้า........" ข้าพูดกับตัวเอง

    "กฎของชนชั้นสูงบนโลกนี้กำหนดไว้ว่าจะต้องต้องเชื่อฟังอย่างเคร่งครัดกับตระกูลหลักที่เป็นสายเลือดเดียวกัน และยึดมั่นในประเพณีและระบบการปกครอง ถ้าพวกเขาบอกต่อตระกูลเหล่านั้นว่าให้เชื่อฟังประเทศอื่น มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการก่อกบฎ การให้พวกเราแต่งงานกัน พวกเขาสามารถทำตามคำทำนายและประกาศให้ทั้งสองตระกูลกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ใช้ช่องว่างนี้ในการรวมทั้งสองประเทศ" ไมม์พูดขึ้นมาโดยไร้ประกายตา

    ไมม์พูดกับข้างั้นเหรอ?

    "โอ, และฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำเกินเหตุ ถ้าฉันสงบสติลงและกำจัดเจ้าอย่างสะอาดหมดจด พวกเราคงไม่ต้องมาทนแบบนี้ แย่จังที่นักฆ่าพวกนั้นไม่สามารถทำตามคำสั่งได้" เธอยิ้มให้ข้าอย่างบริสุทธิ

    ชิ! ข้าเกือบลืมไปแล้วว่านี่คือไมม์! ไม่มีเด็กสาวน้อยน่ารักอยู่ที่นี่ คิดซิ! นี่มันผู้ชาย! เขาต้องการโหม่งหัวไปยังอะไรก็ได้

    "หยุดมองสกปรกแบบนั้นได้แล้ว! บอกฉันหน่อยซิว่าทำไมถึงหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อเห็นฉัน! ชุดมันดูน่าเกลียดอย่างนั้นเลยเหรอ?" ไมม์ถาม
    สมองข้าหยุดคิด หรือว่าไมม์หันไปในแนวทางนั้น? "เราหัวเราะเพราะเธอเกิดมาเป็นผู้หญิง! เธอคงจะโชคร้ายมากที่เกิดมาเป็นเพศนั้น แต่จริงๆมันก็เกอดขึ้นบางครั้ง เราสงสัยว่าซีเรียเป็นคนทำ" เขาพูดกับตัวเอง

    ไมม์มองข้าด้วยอาการตกตะลึง จากนั้นเธอก็ปิดปากและเปิดปากอีกครั้งและปิดปากอีกครั้ง นี่ข้าพูดอะไรโง่ๆไปหรือเปล่า? ทำไมเธอถึงมีปฎิกิริยาแบบนั้น?
    "ฉันเป็นผู้หญิงตลอดเวลาไอ้สมองกลวง! นรกเอ๊ย! พวกเราสู้กันมามากกว่าแปดร้อยปีและนายคิดตลอดมาในช่ววเวลานั้นว่าฉันเป็นผู้ชายงั้นเหรอ!?"

    "เธอหมายความว่าอย่างไร? เธอเป็นผู้ชายเต็มตัวมาก่อน! ใส่เสื้อเกราะเต็มตัวตลอดเวลาและสู้อย่างโง่ๆเพื่อความยุติธรรมและความมีระเบียบ! และสาวกของเธอเองก็บอกว่าเธอเป็นเทพผู้ชาย!" 
    เธอจะต้องไม่ต้องการที่จะบอกว่าข้ามองเพศผิดพลาดอย่างแน่นอน

    "พวกนั้นมันโง่ที่มองเพศข้าผิดในตอนที่ข้ารับตำแหน่งนั้น! พระเจ้าองค์อื่นๆก็รู้ว่าเราเป็นผู้หญิง นายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" เธอเริ่มร้องไห้
    โอ! หยุดร้องไห้นะ! เธอกำลังทำให้ฉันกลายเป็นตัวร้ายที่นี่
    "นายมันเป็นศัตรูของผู้หญิงทุกคน! ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะมีอกใหญ่และชอบโชว์เหมือนซีเรียที่เกือบตลอดเวลาสวมชุดกึ่งโปร่งแสง" ตอนนี้เธออยู่ในโหมดจิกกัด!

    "เธอคิดว่าฉันเป็นคนยังไง!? พวกเราอายุยังไม่ถึงสออขวบเลย! อันดับแรกฉันไม่เชื่อถือสิ่งที่บอกอย่างเต็มที่ สอง, ฉันไม่มีอารมณ์กับเด็ก!" ข้าไม่สามารถทนให้ถูกมองแบบนี้!
    "ฉันไม่เชื่อถือกับคนแก่ที่โรคจิต, โง่, และต่อต้านผู้หญิงแบบนายที่อยู่ในร่างเด็ก! ฉันพนันได้เลยว่านายจะต้องลามกกับแม่ของนายทุกๆครั้งที่นายเกิดใหม่!" เธอเถียงกลับ

    "หยุดก่อน! ถ้าฉันเป็นคนแก่ เธอก็เป็นยายแก่! เธออายุเท่าไหร่กันแน่!? เธออาจจะมีอายุมากกว่าฉันสองเท่าก็ได้! เธอไม่มีสิทธิที่จะกล่าวหาฉันว่าเป็นคนแก่นะ!" ข้าทำอะไรนอกจากบ่น
    "ฉันเห็นนายมองก้นของซีเรียบ่อยๆไป! นายเองก็คงเป็นผู้ชายแบบนั้นที่คิดเรื่องลามกในสมองตลอดเวลา!" -ไมม์

    "ผู้ชายทุกคนที่ไม่ถูกผูกมัดและมีสมองปกติจะต้องมองตามเธออย่างแน่นอน! เหอะ, ถ้างั้นก็จงดีใจที่ฉันฆ่าเธอเถอะ! ฉันทำให้เธอได้รับประโยชน์! สิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดกับเธอเมื่อฉันมองไปที่แม่เธอ เธอจะต้องได้รับยีนที่ดีที่สุดสำหรับในอนาคต" -ข้า
    ตาเธอโตขึ้น "พระเจ้า! นายเล็งแม้แต่แม่ของคู่หมั้น นายพยายามจะนอนกับพวกเราทั้งสองคนพร้อมกัน?"

    ไม่, ไม่ๆ, นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าพยายามจะบอก "เธอมองฉันเป็นคนยังไง? เธอเคยเห็นฉันเป็นแบบนั้นไหม? เธอ, ในฐานะศัตรูที่อยู่ร่วมกันมานานที่สุดน่าจะรู้อย่างน้อยนะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!"
    เธอเงียบคิดไปซักครู่ "ฉันมั่นใจว่าไม่เคยได้ยินนายหรือเห็นนายอยู่กับคนอื่นตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้แต่พระเจ้าเองอย่างน้อยก็น่าจะมีความสัมพันธุ์ในระดับหนึ่ง จิตนายมีปัญหา? พระเจ้าควรที่จะคิดเหมือนกับคนอื่นๆทั่วไป

    อืมมมม.............

    เธอหรี่ตามองข้าและแสยะยิ้ม "ฉันไม่คิดว่าเป็นเพราะนายเป็นพวกหลุดพ้นที่ละทิ้งกิเลสทั้งหมดไป หรือว่ามันจะเกี่ยวกับฉายาของนาย? เด็กน้อย? ฮุๆๆๆ ฉันสงสัยจัง"
    "ม่ายยยยย!" ข้าร้องออกมาอย่างเต็มเสียง "มันไม่มีทางเป็นแบบนั้น ฉันได้ฉายานั้นเพราะแม่ของฉันเรียกชื่อนั้นเป็นชื่อเล่น เธอไม่มีสิทธิที่จะใช้!"

    "โอ, ฉันเข้าใจละนายเป็นเด็กติดแม่ งั้นนอกจากฉันและแม่นายยังเล็งแม่ของนายด้วย? หรือว่านายทำเรื่องนั้นสำเร็จแล้ว ฉันยอมรับว่าฉันเริ่มกังวลเล็กน้อยแล้ว" -ไมม์
    ข้าสูดหายใจอย่างรุนแรง! ไมม์! หยุดคิดถึงข้าแบบนั้นในใจของเจ้าได้แล้ว! ข้าเป็นผู้ชายที่ไม่ชอบพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวเอง จริงๆแล้วข้าคิดว่าข้าเป็นผู้ชายที่ใช้ได้เลยทีเดียว! ข้าไม่ใช่คนที่จะนอนกับผู้หญิงทุกคนที่พบ
    ข้าต้องการความสัมพันธ์ที่รักกันและกัน เพียงแต่มันยากที่ข้าจะหาคนที่สามารถพูดคุยปกติธรรมดาต่อกันและกันได้"
    ข้าหมดแรงแล้วจากการจิกกัดของเธอ

    "หยุดเรียกฉันว่าไมม์ได้แล้ว! ไมม์นั้นมันชื่อพระเจ้า! ตอนนี้ฉันคือเซเลสแห่งสตริกแล้ว" เธอพูดออกมาเหมือนกับว่าเธอสูญเสียสิ่งสำคัญไป
    ข้าเข้าเข้าใจความรู้สึกดีเพราะข้าเองก็สูญเสียเหมือนกัน
    "ถ้าอยางนั้นเธอก็ควรเรียกฉันว่าแอนกรอดแห่งเธอร์น่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเราเรียกได้ว่าสงบศึกกันแล้วได้ไหม?"

    "อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันยังเกลียดนายเข้ากระดูกดำ!" เธอยังคงจ้องมองข้า ข้าเองก็บ่นอะไรไม่ได้เหมือนกัน  "เชื่อเถอะฉันก็คิดเหมือนกัน"

    พวกเรารอครอบครัวของพวกเราเข้ามาอย่างเงียบๆ

    เหมือนจะผ่านมาตลอดกาล ในที่สุดประตูก็เปิดและแคธรีนก็ก้วเข้ามา หลังจากนั้นไอเร็ทก็ก้าวตามมา
    "ทั้งสองมีความคืบหน้าไหม?" แคธรีนสบถามโดยหางตาขยับเล็กน้อย

    "พวกเราสัญญาว่าจะไม่ฆ่ากันและกัน!" ข้าบอกออกไปและเซเลซพยักหน้าเห็นด้วย
    "ไม่ทำให้บาดเจ็บ, ช้ำใน, และความรุนแรงอื่นๆใส่และกัน?" เราทั้งสองพยักหน้าให้อีกครั้งและแคธรีนมองไปยังไอเร็ท แม่ของข้าถอนหายใจและส่ายมือ จากนั้นเชือกที่มัดพวกเราไว้ก็ขาดออกและหล่นไปบนพื้น

    ข้ากระโดดขึ้นและพุ่งออกจากห้องและลงไปชั้นล่างเพื่อเข้าห้องน้ำ ในตอนที่ข้าเอื้อมไปที่ลูกบิด ข้าถูกผลักจากบางสิ่งข้างหลังและล้มลง อ็อก!

    "ผู้หญิงมาก่อน! นายไม่เคยเรียนการปฎิบัติตัวมาก่อนหรือไง!" *ปึง* *คลิก*

    ประตูถูกปิดและล็อก! ข้ากำลังจะร้องไห้แล้ว ข้าต้องการฆ่าอะไรก็ได้! อะไรก็ได้ขอเพียงแค่มันตายอย่างช้าๆและทรมาน!




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×