คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บันทึกบทที่ 8: วันอันมืดมน (เตรียมพิมพ์)
บันทึกบทที่ 8 :
เธอยังคงร้องไม่หยุด น้ำตาของเธออาบแก้มตั้งสองข้าง โจทำได้เพียงเป็นที่ให้เธอเช็ดน้ำตาเท่านั้น แม้ตัวเขาอยากจะปลอบเธอแต่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไรดี ตอนนี้ฝนได้เทกระหน่ำลงมาแล้ว ราวกับฟ้าจะร้องได้ไปกับเธอด้วย น้ำอุ่นๆไหลซึมไหล่ของโจ เมื่อเหลือบมองเธอ คนที่เขาอยากจะพบมาตลอดตอนนี้ก็อยู่ข้างๆแล้ว แม้ว่าเธอจะตาบวมช้ำแต่ก็ไม่ทำให้ความน่ารักของเธอลดลงแม้แต่น้อย ใจของโจเองอยากจะโอบเธอไว้ แต่เขาไม่อยากเป็นคนฉวยโอกาสในเวลาที่เธออ่อนแอเช่นนี้ และยิ่งกังวลกับท่าทีของเกดที่จากไปเมื่อครู่ ที่เหมือนว่ามีอะไรค้างคาใจกันทั้งสองฝ่าย
บริเวณนี้มีเพียงเสียงฟ้าที่ร้องครวญเป็นระยะ และเสียงฝนกระทบหลังคาเท่านั้น โจและเธอไม่ได้พูดอะไรกันเลย ทั้งคู่เงียบ ปล่อยให้เสียงฝนระบายความรู้สึกที่เศร้าของเธอออกมา
“ฉันขอโทษ ขอโทษนะ” เธอเงยหน้ามองโจด้วยตาที่ช้ำไปด้วยน้ำตา “วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้เนอะทำไมฉันถึงเศร้าแบบนี้ จู่ๆฉันทำอะไรลงไปเนี่ย”
เมื่อนึกถึงหน้าเธอที่สดใสร่าเริง กับสีหน้าที่เศร้าในวันนี้ ทำให้โจรู้สึกสลดไปด้วย อากาศวันนี้ก็เป็นใจเสียจริงๆ โจไม่ได้พูดอะไรเพียงยิ้ม และมองเธอเท่านั้น เขาอยากเอาคำพูดดีๆทั้งหมดที่เขารู้มาบอกให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่ว่ากลับพูดไม่ออกแม้แต่น้อย
เธอซบที่ไหล่โจ “ขออยู่อย่างงี้อีกพักนึงได้มั๊ย” เธอเสียงสั่น น้ำตาเธอไหลพรูลงมาอีกครั้ง
โจทำได้แค่เป็นไหล่ให้เธอซบและเช็ดน้ำตาเท่านั้น เขารู้สึกปวดใจกับเธอไปด้วย และนึกเจ็บใจที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้
ฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ละอองฝนพัดปลิวมาตรงที่โจและเธอนั่ง แต่ทั้งคู่ก็ยังคงนั่งอยู่เช่นนั้นไม่ได้ลุกไปไหน อากาศเริ่มเย็นขึ้นทีละน้อย แต่โจกลับไม่รู้สึกหนาวเลย คงเป็นเพราะน้ำตาของเธอทำให้เขารู้สึกเย็นเยือกในใจยิ่งกว่า เขาไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ แล้วจะทำยังไงให้เธอดีขึ้นดี เขาได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา
“มิ้น ทำไมมาอยู่ตรงนี้” เสียงนุ่มลึกเสียงหนึ่งพูดขึ้น ชายในชุดชุดวอร์มนักกีฬาถือร่มสีเขียวยืนท่ามกลางสายฝนหน้าหอพัก โจรู้สึกคุ้นหน้าชายคนนี้มาก ราวกับเคยเจอมาแล้วหลายครั้งแต่ตอนนี้เขานึกไม่ออกว่าคือใคร เพราะข้างนอกมืดมากและฝนก็ตกหนัก
“บอล ฉะ ฉัน” มิ้นลุกขึ้น เธอยังคงสะอื้นพูดกับชายที่ยืนอยู่หน้าหอพัก สายฝนโปรยลงมากั้นขวางระหว่างสองคน แต่ว่าก็ไม่อาจกั้นความรู้สึกที่เธอมีต่อคนๆนี้ได้เลย โจรู้สึกได้เช่นนั้น สายตาเธอจับจ้องที่เขาได้สะท้อนสิ่งหนึ่งออกมา เป็นสายตาที่โจไม่เคยเห็นเธอมองใครแบบนี้มาก่อน อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยมองโจด้วยสายตาเช่นนี้
ลมเย็นที่พัดเอาความหนาวและละอองฝนเข้ามาหนักขึ้นทุกที แต่ว่าใจของโจกลับร้อนรุ่มและไม่อยากให้สิ่งที่เขาคิดเป็นจริง ในตอนนี้เหมือนมีเพียงเขาและเธอเท่านั้น ถึงแม้ว่าโจจะอยู่ข้างเธอด้วยก็ตาม
“มิ้น ฉันขอโทษนะ” เสียงของชายคนนั้นพูดขึ้นเรียบๆ “ที่ฉันพูดแรงกับเธอไป ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ”ชายคนนั้นพูดพร่ำแต่คำว่าขอโทษ แข่งกับเสียงฝนที่ตกกระหน่ำลงมา คำขอโทษของเขาที่โจได้ยินแม้จะเป็นเพียงคำสั้นๆแต่กลับรู้สึกกินใจยิ่งนัก ราวกับว่านี่เป็นฉากที่พระเอกกำลังตามมาง้อนางเอกในละครก็ไม่ปาน แล้วตัวโจล่ะตอนนี้เขาเป็นอะไรกันแน่
มิ้นน้ำตาร่วงพรูลงมา วิ่งไปหาชายคนนั้นอย่างไม่กลัวเปียกสายฝนที่ตกกระหน่ำ เธอสวมกอดชายคนนั้นแน่นจนร่มที่เขาถือร่วงลงกับพื้น
“พอแล้ว พอแล้ว” มิ้นยกมือขึ้นปิดปากเพื่อให้ชายคนนั้นเงียบ ทั้งคู่กอดกันกลมท่ามกลางสายฝนนั่นเอง โจได้แต่ยืนมองภาพนั้นอย่างเหม่อลอย ฉากนี้น่าจะเป็นฉากที่มีความสุขแต่ทำไมกันนนะ น้ำตาเจ้ากรรมถึงได้ไหลอาบแก้มโจไม่ยอมหยุด เขาควรจะมีความสุขกับภาพที่เห็นไม่ใช่หรือ “เธอมีความสุขแล้ว เราต้องยิ้มไว้” โจพร่ำบอกกับตัวเองแต่ว่าร่างกายไม่ยอมเชื่อฟังเลย...
ภาพที่เธอกอดชายคนนั้นกลางสายฝนยังคงตรึงอยู่ในใจโจอย่างไม่เลือน แม้แต่ในฝันโจก็ยังคิดถึงเรื่องนี้ หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้พบมิ้นอีก ซึ่งอาจจะดีสำหรับตัวเขาเองเพราะว่าหากโจได้พบมิ้นอีกครั้ง ต่อมน้ำตาเขาอาจควบคุมไม่ได้ก็เป็นได้ เขาเคยอยากจะรู้จักชื่อเธอ แต่ไม่คิดว่าจะได้มารู้ในสภาพเช่นนี้เลย แม้ช่วงเวลานี้ควรจะเป็นช่วงเวลาที่สดใส เพื่อนในห้องของโจก็สนิทกันมากขึ้น แต่สำหรับโจแล้วช่างมืดมนและดูหดหู่ยิ่งนัก
เมื่อก่อนที่จะมาสอบชิงทุนที่นี่เขาเคยปฏิญาณตัวเองว่าจะไม่ขอมีความรักกับใคร จนกว่าจะผ่านช่วง ม.ปลายนี้ไป แต่คำปฏิญาณได้สลายไปทันทีเมื่อโจพบกับมิ้นครั้งแรก เธอเปรียบเหมือนกับน้ำที่มาเติมหัวใจเขาให้เต็ม ความรักก็เป็นเช่นนี้ยิ่งรักมากแค่ไหนเมื่อสูญเสียไปก็จะยิ่งเสียใจมากแค่นั้น เขาอยากจะพูดและรู้จักเธอให้มากกว่านี้ แต่ทำไมกันนะ ทำไม ทำไมตัวเขาถึงไม่พบเธอให้เร็วกว่านี้ โจได้แต่โทษความโชคร้ายของตัวเอง
สิ่งเดียวที่ทำให้โจลืมมิ้นได้คือการซ้อมในแต่ละวัน ความเหนื่อยจากการซ้อมเทนนิสทำให้ลืมเรื่องราวไปชั่วคราว ตัวเขาซ้อมเทนนิสหนักขึ้น เพราะไม่อยากจะคิดฟุ้งซ่าน แต่ต่อให้โจซ้อมหนักเพียงไหนแต่จิตใจไม่อยู่กับตัว ผลการซ้อมที่ออกมาก็ทำให้โค้ชผิดหวังทุกครั้ง
“สมาธิเป็นสิ่งสำคัญ หากเธอไม่มีมัน ต่อให้เธอซ้อมหนักกว่านี้อีกสิบเท่า การซ้อมก็ไม่มีความหมายหรอก เพราะเมื่อเธอแข่งจริงมันจะใช้สิ่งที่เตรียมมาไม่ได้เลย” โค้ชส่ายหน้าก่อนจะเดินจากไปอย่างผิดหวัง
นี่ก็อีกวันเดียวจะแข่งแล้ว แต่โจก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ในใจของเขายังคงจมดิ่งไปกับความเศร้า แม้เขาจะพยายามบอกกับตัวเองว่า “เธอไปดีแล้ว” ก็ตาม
ในชั้นเรียนเกดไม่ได้พูดกับโจเลยแม้แต่น้อยยกเว้นจะคุยเรื่องงานเท่านั้น แต่เธอก็ยังเป็นคนที่ใจดีกับเขาเสมอ หากงานไหนโจทำไม่ทัน เธอก็จะส่งให้โจลอก เขารู้สึกผิดต่อเกดมากมายตัวเขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรถึงจะถึงจะคุ้มกับสิ่งที่เกดทำให้เขา แม้เขาเองพอจะเดาสิ่งที่เกดจะพูดในวันนั้นได้ แต่ตัวเขาในตอนนี้ไม่อาจมีหัวใจให้ใครได้อีกแล้ว
ตลอดสัปดาห์แม้โจจะนั่งข้างเกด แต่มีความรู้สึกเหมือนอยู่ห่างกันไกลแสนไกล โจอยากให้เกดกลับมาคุยกับเขาเหมือนตอนที่พบกันวันแรกเหลือเกิน แต่คงจะยากเสียแล้ว
“พยายามเข้านะ สู้ๆ” เกดพูดขึ้นหลังจากแยกทางกับโจในวันศุกร์ นี่คือคำพูดที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุดของเธอตลอดสัปดาห์
“เห้ โจพรุ่งนี้แข่งแล้วนะ ฉันกังวลแทนจริงๆ” โค้ชทำท่าหัวเสีย หลังจากโจเสิร์ฟลูกพลาดเป็นลูกที่ 10 โจพยายามจดจ่อกับการซ้อมให้มากที่สุด เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไป อย่าว่าแต่จะทะลุไปถึงรอบสุดท้ายเลย แค่รอบแรกอาจจะไม่ผ่านด้วยซ้ำ แม้เขาพยายามเพ่งสมาธิเต็มที่กับการซ้อม แต่ใจเขาก็ไม่ยอมเชื่อฟังเสียที ตลอดการซ้อมในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ มีแต่เสียงบ่นของโค้ชอยู่ตลอด จนกระทั้งเย็น
“โจ โค้ชซีเรียสจริงๆ วันพรุ่งนี้พยายามมีสมาธิสุดๆเลยนะ ย้ำเลยว่าสุดๆ ถ้าเป็นแบบวันนี้รับรองตายสถานเดียว”
โค้ชส่ายหน้า “พรุ่งนี้ออกจากนี่ 7 โมงนะ แข่งรอบแรก 10 โมงอย่าสายล่ะ” โค้ชเดินจากไปพร้อมกับปิดประตูสนามเสียงดังสนั่นอย่างหัวเสีย
แม้ตัวเขาเองอยากจะซ้อมต่อ แต่ร่างกายนี้ล้าเต็มที แค่จะจับแร็คเก็ตก็ไม่มีแรงแล้ว จึงได้แต่จำใจเลิกซ้อม อากาศช่วงเย็นเป็นช่วงที่ลมพัดเย็นสบายแต่กลับไม่ทำให้โจสบายใจเลย ตัวเขารู้สึกกดดันมากเมื่อคิดถึงการแข่งในวันพรุ่งนี้ และเรื่องของมิ้นอีก “เห้อ” โจถอนใจยาวๆ เดินทอดน่องจากสนามเทนนิสไปไปยังหน้าประตู เมื่อออกข้างนอกโจต้องผ่านหอพักหญิง ทำให้ภาพของมิ้นกอดกับชายคนนั้นผุดเข้ามาอีก เขาเหม่อที่ตรงนี้อยู่นาน น้ำตาค่อยซึมออกจากตา
“เห้ มายืนทำไรอยู่ตรงนี้วะเนี่ย” ชัยมาข้างหลังโจตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ
เขารีบเช็ดคราบน้ำตาออก “อะ ออ ไม่มีไรแค่ยืนรับลมน่ะ “
“แกเอ๊ย มัวแต่เศร้าเรื่องผู้หญิงแบบนี้ พรุ่งนี้จะรอดป่าวว้า” ชัยสั่นหัว พร้อมกับกอดคอโจเดินไปด้วยกัน
“เออ เอาเหอะเดี๋ยวก็รู้เอง” โจตอบเรียบๆ
ทั้งคู่เดินมาร้านอาหารตรงข้ามหอที่พัก ทีวีเปิดข่าวในช่วงเย็นพอดี
“ขณะนี้เรามาที่สถานเตรียมแข่งขันเทนนิสเยาวชน ครั้งที่ 23 กันนะครับ เป็นการแข่งขันเทนนิสที่ยิ่งใหญ่ไม่เป็นรองรายการเทนนิสอย่าง ไทยแลนด์โอเพ่นเลยแม้แต่น้อย และรายการนี้ยังเป็นการเฟ้นนักกีฬาเพื่อไปยังเส้นทางมืออาชีพต่อไป...” เสียงในทีวียังคงรายงานเกี่ยวกับการแข่ง
“เห้ย สถานที่ทำไมใหญ่โตจังวะ “ ชัยสะกิดหลังจากโซ้ยผัดไทเสร็จไปคำนึง “ตื่นเต้นแทนจิงๆ แกโชคไม่ดีเลยว่ะโจทำไมเรื่องซวยๆถึงมาลงที่แกหมดวะ เหอะๆ”
โจได้แต่ยิ้ม เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าสิ่งที่เขาเจอคืออะไรกันแน่นะ หรือว่าเป็นเพราะความฝันในตอนก่อนเปิดเรียน เป็นจุดเริ่มแห่งความโชคร้ายของเขาหรือ
หลังจากกินอาหารเสร็จ ทั้งคู่ก็กลับห้องพัก โจแทบจะล้มตัวนอนในทันทีที่ถึงเตียง ความเมื่อยล้าจากการซ้อมทำให้โจหลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบได้
เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขากลับอยู่ในที่มืดๆแห่งหนึ่ง เดินไปเท่าไร ก็ไม่พบแสงสว่างเลย นี่คงเป็นความฝันสินะ โจพยายามหยิกตัวเองในฝัน แต่เขานั้นก็ยังอยู่ที่เดิม เจ็บก็ไม่เจ็บ สถานที่นี้จะมีทางออกที่ไหน เป็นที่ๆมืดที่ไม่ที่สิ้นสุดเสียจริง เขาคิด
โจลองร้องตะโกนดังๆว่ามีใครได้ยินสิ่งที่เขาพูดไหม แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบ
“ผู้ถูกเลือกเอ๊ย “ เสียงเย็นเยือกลอยเข้ามาในหูโจ “วันเวลาที่คอยเจ้าอยู่กำลังจะถึงแล้ว จำไว้ เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตก สายน้ำไหลย้อนกลับ ...” เสียงนั้นได้ขาดหายเพียงเท่านี้
“นั้นใครคับ แล้วที่พูดคืออะไร” โจตะโกน แต่ก็มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา
“เห้ยๆ” โจถูกเขย่าตัว “เป็นอะไรวะร้องลั่นเลย” ชัยพูดขึ้น
“อ่าว เห้ยเสียงนั่นละ แล้วนี่อยู่ไหนวะเนี่ย” โจมึนงงไม่หายกับสิ่งที่ได้เห็นเมื่อครู่
“ไปสะแล้วเพื่อน นี่แกอยู่ที่หอพักงายวะ เป็นเอามากนะนี่ รีบนอนเหอะนี่ก็ ตี 1 แล้วนะ” ชัยกลับไปที่เตียงของตนและล้มตัวลงนอน
ความฝันแปลกๆที่หายไปพักใหญ่ ทำไมถึงได้กลับมาช่วงนี้นะ เป็นช่วงที่ชี้ชะตาชีวิตสะด้วย
วันที่พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตก สายน้ำไหลย้อนกลับคืออะไร โจยังคงนั่งทบทวนฝันอยู่เช่นเดิม
To be continues
ความคิดเห็น