ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EVENT : เก่งทะลุฟ้าล่าทะลุมิติ

    ลำดับตอนที่ #7 : บันทึกบทที่ 6: องค์กร UNL (เตรียมพิมพ์)

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 52


     To be continue

    บันทึกบทที่ 6 :
                  แต๊ก แต๊ก แต๊ก  เสียงกดคีย์บอร์ดดังเป็นระยะจากห้องที่ปราศจาคแสงไฟ  มีเพียงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น   ชายในชุดนักวิจัยสีขาว  หัวล้านเกลี้ยง   กำลังง่วนกับการพิมพ์อะไรบางอย่าง   หน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยที่แสดงถึงการแบกรับความเครียดต่างๆนานา    ในห้องนี้ก็เหมือนกับห้องของคนทำงานทั่วไปแต่เต็มไปด้วยเอกสารกองเป็นภูเขาจนไม่มีที่ว่าง   จะมีเพียงแต่ช่องสำหรับเดินออก และพื้นที่นั่งตรงโต๊ะคอมพิวเตอร์เท่านั้น

    ติ๊ง ต่องศาสตราจารย์ครับ ผ.อ.เรียกไปพบครับ  เสียงจากลำโพงตรงเพดานห้องดังขึ้น

    ได้  เดี๋ยวฉันไป  เขากดปุ่มตรงใต้โต๊ะ   หลังจากกดปิดคอมพิวเตอร์เขาก็เก็บของ  เดินออกจากห้อง

    เมื่อเดินออกมา   แสงไฟจากทางเดินเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติตามทางที่เขาผ่าน   ทางเดินสีขาวทอดยาวไปด้านหน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   ด้านข้างเป็นกระจกมองเห็นคนในชุดวิจัยสีขาวกำลังทำการทดลองอะไรบางอย่างแบ่งเป็นห้องๆ            และทุกห้องจะขวักไขว่ไปด้วยคนในชุดวิจัยสีขาวทั้งนั้น   

    ศาสตราจารย์เดินไประยะนึง  ก็ถึงทางแยกมีป้ายเขียนไว้ว่า   ผู้อำนวยการศูนย์ UNL       เขาเลี้ยวไปด้านขวาและหยุดที่ประตูกลมบานใหญ่ที่ทำด้วยเหล็กหนา   ด้านบนประตูมีกล้องคล้ายกล้องวงจรปิดอยู่สองเครื่อง  แต่ว่าเป็นกล้องที่เคลื่อนไหวได้   เมื่อศาสตราจารย์ถึง    กล้องด้านซ้ายเลื่อนต่ำลงมาใกล้เขา   

    ไอแซก  เซเนฟอน     ศาสตราจารย์พูดและมองกล้อง

    ยืนยันรหัสเสียง  ถูกต้อง   เสียงจากกล้องดังขึ้น  ประตูบานกลมได้เลื่อนเปิดขึ้นด้านบน   เมื่อเดินไปด้านในเป็นทางเดินกลมๆ  ได้มีแสงสีเงินผ่านตัวศาสตราจารย์วิ่งจากด้านหน้าผ่านไปด้านหลัง   ปลอดอาวุธ  เสียงคอมพิวเตอร์ดังขึ้น   ประตูบานในสุดเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ    ด้านในเป็นห้องที่กว้างพอๆกับครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอล  ตกแต่งเหมือนกับห้องโถงบ้านหรูๆแห่งหนึ่ง   มีเตาผิงตรงกำแพงด้านข้าง และฟอร์นิเจอร์วางไว้เหมือนกับห้องรับแขก อุณหภูมิในห้องถูกปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่เย็นและร้อนเกินไป    ด้านในมีโต๊ะทำงานไม้  มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งเอนหลังเอาเท้าพาดบนโต๊ะอย่างสบาย  

    มาแล้วเหรอ  ชายหนุ่มทักขึ้นพร้อมกับ  เชิญให้ศาสตราจารย์ไปนั่งตรงโซฟาร์

    เรียกผมมามีธุระอะไรเหรอคับ  ศาสตราจารย์เอ่ยเข้าเรื่องทันที

    ฉันจะพูดตรงๆเลยนะศาสตราจารย์  โปรเจค EVENT น่ะ ได้ข่าวว่าจะดึงเด็กหนุ่มคนนึงมาเข้าทดลองเหรอ

    ชายหนุ่มกล่าวขึ้นพร้อมกับเอนหลังพิงโซฟา   แสงจากเตาผิงสะท้อนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา   ผมหยักโศกสีน้ำตาล   คะเนจากหน้าตาแล้วอายุไม่น่าเกิน 30 ปี

    ขอโทษที่ผมไม่ได้แจ้งให้ ผ.อ.ทราบก่อน   แต่ครั้งนี้เพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แล้วเราจำเป็นต้องมีการเสียสละกันบ้าง    สีหน้าของศาสตราจารย์ยังคงเรียบเฉย 

    หึๆ  เหมือนกับคนๆนั้น่ะเหรอ  เป็นคุณที่นำมาทดลองในโปรเจคนี้  แล้วเป็นไงล่ะ เขากลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ไปแล้ว  คนที่ทำนายวันสิ้นโลกน่ะ  ผ.อ.เสียงเริ่มฉุน

    มันต้องเป็นไปตามประวัติศาสตร์อยู่แล้ว   ผมแค่ทำให้ละครดำเนินตามเนื้อเรื่องแค่นั้น  ชายที่ชื่อนอสดาตามุสน่ะ  ใครจะรู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจคของเรา   ศาสตราจารย์ยังคงเสียงเรียบต่อไป

    คราวที่แล้วผมไม่น่าอนุมัติคุณเลย   หากพวกมนุษยชนรู้เข้าองค์เราจะป็นยังไง  ดีนะที่กลบเกลื่อนว่าเป็นการลักพาของพวกมนุษย์ต่างดาวน่ะ   คนโดนลักพามากเกินไปแล้วนะ  ผมไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้อีก ผ.อ.โยนเอกสารปึกนึงมาตรงหน้า ศาสตราจารย์ 

    เมื่อศาสตราจารย์เปิดดู  ในเอกสารมีรูปถ่ายพร้อมประวัติทั้งชายทั้งหญิงอยู่เป็นจำนวนมาก  มาจากชาติต่างๆ  แต่ละภาพจะถูกประทับตราว่า อนุมัติทั้งสิ้น   และมีหมายเหตุแต่ละรายว่า  การกลบเกลื่อน  มนุษย์ต่างด่าวลักพา     เมื่อเปิดหน้าสุดท้ายมีรูปถ่ายของเด็กหนุ่มชาวเอเชียผู้หนึ่ง  มีรหัสเขียนไว้ว่า XE02  ประทับตราว่า ไม่อนุมัติ

    จะเป็นไรครับ ผ.อ.  คุณลองคิดสิว่าผลที่ได้ตามมามันจะยอดเยี่ยมแค่ไหนกัน  เมื่อก่อนใครจะคิดว่าเราบินได้แล้วตอนนี้ล่ะเราก็บินได้จริงๆ  ทุกอย่างมันต้องใช้ระยะเวลา   คนนี้ผมสัญญาว่าจะเป็นคนสุดท้ายและรับรองว่าต้องสำเร็จ ศาสตราจารย์เก็บเอกสารใส่ซอง ยื่นให้ผ.อ.

    คุณไปได้แล้ว  จงหาวิธีอื่นที่ไม่ใช้มนุษย์มาทดลอง หรือไม่ก็ยกเลิกโครงการนี้เสีย ผ.อ. ลุกขึ้นพร้อมยกมือให้ศาสตราย์ออกจากห้อง

    ศาสตราจารย์ยังคงทำหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม  และออกจากห้องนั้นไป  

    เมื่อมาถึงห้องศาสตราจารย์กดตรงนาฬิกาข้อมือ   และนำสายมาเชื่อมเข้ากับคอมพิวเตอร์  

    ถ่ายโอนข้อความเสียง  จากเครื่องบันทึก  ศาสตราจารย์พูดขึ้น 

    กำลังเชื่อมโยง....  แสงจากหน้าจอแสดงภาพถ่ายโอนไฟล์ ไม่นานก็มีเสียงดังขึ้น การเชื่อมโยงเสร็จสมบูรณ์

    ศาสตราจารย์คลิกเข้าไปในไฟล์ที่ถ่ายโอนมา     คุณไปได้แล้ว  จงหาวิธีอื่นที่ไม่ใช้มนุษย์มาทดลอง หรือไม่ก็ยกเลิกโครงการนี้เสีย   เสียงผู้อำนวยการ UNL พูดขึ้น   ศาสตราจารย์จะนำเสียงของผ.อ.ไปทำอะไรกันนะ..

                เปลี่ยนค่าพารามิเตอร์เสียง   ปรับเปลี่ยนค่าโหนดและแอนติโหนด  เปลี่ยนเนื้อความ ศาสตราจารย์พิมพ์อย่างรวดเร็ว   ตัดข้อความยกเลิกโครงการนี้เสีย แปลงไฟล์สกุลเสียงใหม่   

    ให้ดำเนินการโครงการนี้ต่อไป โดยให้ไอแซกมีอำนาจเต็ม  เสียง ผ.อ.ยังเหมือนเดิมแต่ว่าเนื้อความได้เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ   ศาสตราจารย์ทำการเซฟและส่งข้อมูลโดยใช้ดาต้าเบสคอมที่เชื่อมไปยังห้องของ ผ.อ.  ซึ่งเขาได้ทำการ             แฮกระบบในองค์กรนี้มานานแล้วแต่ว่ารอเวลาจำเป็นที่จะใช้  และตอนนี้ก็ได้เวลานั้นแล้ว

    ไฟล์ได้ถูกส่งไปยังแผนกต่างๆที่เกี่ยวข้อง   และมีเมลส่งมาทางศาสตราจารย์เพื่อให้ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ  

    ฮัลโหล   ผมไอแซกนะ  ช่วยติดต่อให้โจนาธานส่งไฟล์ที่ได้จากการสังเกตมาให้ผมดูหน่อย ศาสตราจารย์ยกหูโทรศัพท์   ไม่นานเท่าไหร่ไฟล์ก็ได้ถูกโอนมายังเครื่องของเขา   เมื่อศาสตราจารย์กดเปิดก็เป็นภาพวีดีโอของเป้าหมาย และมีเสียงโจนาธานผู้สังเกตบรรยายเป็นระยะ

    เป้าหมายที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นคนที่เราค้นพบในบันทึก    รหัสคือ XE02   เป็นชาวไทย  อายุ 16 ปี     อยู่พิกัด  58.6 ฟาร์อีส   หน่วยมาตรฐานจีเอส      ยืนยันแล้วว่าเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง    เราจะตามสังเกตเขาเป็นระยะ  เสียงโจนธานบรรยาย  พร้อมกับภาพนักเรียนชายกำลังหวดเสิร์ฟเทนนิส  ในเวลากลางคืน 

    ตอนนี้เราจะตามโดยใช้เวลาสังเกต 16 วัน   ก่อนจะถึงวันกำหนด  ไฟล์ทั้งหมดได้ถูกส่งไปให้เรียบร้อย ถ้ามีความคืบหน้าจะรายงานตลอด   เสียงของโจนาธานหยุดเพียงเท่านี้ 

    ศาสตราจารย์หัวเราะลั่น  เพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แค่เสียสละเด็กธรรมดาคนเดียวก็เกินคุ้มแล้ว   เขานึกถึงสมัยอดีตที่ยังเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย    เขาเข้ามหาวิทยาลัยท๊อป 5 ของโลกได้ด้วยอายุที่น้อยที่สุด  ใครๆก็หาว่าเขาเป็นอัฉริยะ  แต่ว่าตัวเขาเองไม่คิดอย่างนั้น  ชีวิตในมหาลัยมีแต่ความน่าเบื่อ  เรียนก็เรียนตามตำรา  เขาจึงไม่ค่อยเข้าเรียนเท่าไรนัก   จนกระทั้งมีชายชุดดำสองคนในชุดสูตรสีดำ  มีสัญลักษณ์ UNL  อยู่ที่แขนเสื้อ   มาบอกชวนให้เขาเข้าองค์กรนี้     องค์กร Unlimited  Organization  หรือชื่อย่อว่า UNL เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นอย่างลับๆสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกาตระหนักถึงภัยจากอาวุธสงคราม  และเทคโนโลยี     เพื่อค้นคว้าทั้งทางด้านอาวุธและเทคโนโลยีใหม่ๆ   หลายครั้งที่สิ่งที่ค้นคว้าหลุดรอดออกไปสู่ภายนอก  เช่นยานเหนือแสงที่ถูกคนถ่ายรูปไว้ได้   จนทางรัฐบาลต้องกลบเกลื่อนโดยกล่าวว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์บิดเบือนของแสงบ้าง  เป็น UFO บ้างเป็นต้น  ยิ่งช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ข่าวด้าน UFO  และการหายตัวไปของผู้คนอย่างลับๆ ก็มีหนาหูขึ้น   แต่ทางรัฐบาลก็ไม่เคยตอบคำถามเรื่องเหล่านี้

    ปัจจุบัน UNL ก็ยังไม่เป็นที่รู้จัก  และยังคงวิจัยอย่างลับๆอยู่  มีเพียงชนชั้นระดับกุมชะตาประเทศเท่านั้นที่จะรู้ว่ามีองค์กรนี้      สิ่งที่เขาคิดค้นนั้นก้าวหน้ากว่าเทคโนโลยีที่เห็นในปัจจุบันมากมายนัก ไม่ว่าจะเป็นรถที่ใช้พลังงานสนามแม่เหล็ก  แบตเตอรี่ไม่ต้องชาร์ต  แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถนำออกสู่ภายนอกได้ด้วยเหตุผลทางการตลาด  สหรัฐต้องการที่จะใช้สิ่งเหล่านี้กุมชะตาทุกประเทศเมื่อน้ำมันหมดโลก   นอกจากสิ่งประดิษฐ์แล้ว  ยังมีเชื้อโรคที่หลุดจากห้องปลอดเชื้อขององค์กรออกไป  กลายเป็นโรคใหม่ๆมากมาย   ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องบังเอิญแต่ว่าทางสหรัฐต้องการใช้วัคซีนที่ทางตนมีอยู่แล้ว เป็นเพียงระเทศเดียวที่สามารถรักษาโรคเหล่านี้ได้  เพื่อให้ประเทศสหรัฐเป็นเหมือนกับพ่อพระมาโปรดนั่นเอง   

    ตอนนี้ทางองค์กรได้มีโครงการใหม่ ชื่อว่า EVENT  และอาจจะเป็นสิ่งที่กำหนดชะตามวลมนุษยชาติทั้งโลกได้  หลังจากได้บันทึกลับของ อัลเบิร์ด ไอซไตน์   เรื่องการขจัดข้อกำจัดเรื่องเวลา   ทางองค์กรได้ศึกษาทฤษฏีนี้อยู่นานนับสิบปี  แต่ก็ไม่ได้ผลการทดลองที่น่าพอใจ  องค์กรได้ทำการลักพาผู้คนมาเพื่อใช้ในโครงการนี้หลายราย  แต่ไม่มีใครได้กลับมา หลังจากทำการย้อนเวลาไปแล้วเลย     จนกระทั้งล่าสุดสิ่งที่ทำให้องค์กรปวดหัวที่สุดคือการส่งชายที่ชื่อ                นอสดาตามุส  กลับไปยังโลกอดีต  ทำให้เขากลายเป็นนักพยากรณ์ชื่อดังของโลกโดยปริยายทำให้ทั้งหมดได้ข้อสรุปว่า   ประวัติศาสตร์เกิดการเปลี่ยนแปลงแม้จะเป็นการเปลี่ยนของคนคนเดียวก็ตาม  นับแต่นั้นองค์กรก็ยกเลิกโครงการนี้ เพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์โลกต้องเปลี่ยนแปลงโดยควบคุมไม่ได้อีก  จนกระทั้ง ศาสตราจารย์ไอแซกได้ค้นพบสมุดบันทึกลึกลับแถบเทือกเขาร็อกกี้    ทำให้โครงการนี้ถูกจุดประกายอีกครั้งหนึ่ง  เพราะเป็นบันทึกของคนที่ไปยังโลกอดีตมาแล้วนั่นเอง

    หากโครงการ นี้สำเร็จ  ก็เป็นทั้งดาบสองคม  เพราะจะสามารถย้อนไปแก้ไขอดีตทำให้โลกของเราดีขึ้นก็ได้  หรืออาจจะตรงข้าม...

     

    เห้ย  โจตื่นเร็ว  ชัยรีบสะกิดหลังจากโจฟุบหลับไป  เพราะอาจารย์ประวัติศาสตร์ยุโรปคู่กรณีโจเดินเข้าห้องมา

    ตลอดอาทิตย์  โจได้ซ้อมเทนนิสไม่ได้ขาด  และหนักขึ้นทุกวันที่ซ้อม   พอวันเสาและอาทิตย์เขาก็ต้องซ้อมอีกโดยไม่ได้หยุดพักเหมือนนักกีฬาอื่นๆ   เนื่องจากใกล้เวลาในการแข่งขันทุกที     ทั้งอาทิตย์มีสิ่งที่ทำหลักๆคือ  เรียน  ซ้อม  กลับหอ   และยิ่งเรียนก็ยิ่งมีงานมากขึ้น  ซ้อมก็ยิ่งหนักขึ้น  ทำให้เวลานอนของโจแทบไม่พอ  ดังนั้นเมื่อถึงวันจันทร์  โจจึงฟุบตั้งแต่คาบแรก   ส่วน เกดแม้จะไม่ค่อยพูดกับโจเหมือนวันแรกๆ  แต่เธอก็มีน้ำใจกับเขาเสมอ  ถ้าไม่ได้เกดโจคงไม่มีต้นฉบับลอกงานส่งแน่นอน   เขานึกขอบคุณเกดมากๆ และตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสจะตอบแทนเธอ    ส่วนเธอคนนั้นเวลาโจเดินผ่านโรงอาหาร  หรือเดินเปลี่ยนไปเรียนวิชาข้างนอกห้อง  โจจะพยายามมองหาตลอด  แต่ก็ไม่พบเธออีกเลยตลอดอาทิตย์  แต่ด้วยโปรแกรมที่แน่นตลอดทำให้โจลืมความอยากจะเจอไปชั่วคราว  ส่วนช่วงหลังเวลาเดินกลับหอ  ตอนนี้เขาไม่รู้สึกว่าถูกคนตามอีกแล้ว   โจคิดว่าสิ่งที่เขารู้สึกนั้นคงคิดไปเองมากกว่าจึงไม่สนใจและลืมเรื่องนี้ไป

    ตอนหลับความฝันช่วงนี้โจไม่ได้ฝันเรื่องเดิม   แต่กลายเป็นว่าฝันแต่หน้าเธอคนนั้นแทน  และมีหน้าเกดแทรกเข้ามาตอนไหนไม่รู้เป็นระยะ   ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเป็นอย่างนั้น    

    ขณะที่โจตั้งท่าจะหลับอยู่นั่นเอง เสียงอาจารย์ได้แทรกหูเข้ามา

    เอาละ เรามาเริ่มทดสอบก่อนเรียนดีกว่า  เก็บคะแนนในห้อง แยกโต๊ะๆ  อาจารย์สอนประวัติศาสตร์ยุโรปพูดอย่างกับเป็นเรื่องปกติ 

    นักเรียในห้องต่างบ่นกับอุบ   หรือจะเปลี่ยนเป็นรายงาน 50 หน้าดีละ  ...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×