ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EVENT : เก่งทะลุฟ้าล่าทะลุมิติ

    ลำดับตอนที่ #4 : บันทึกบทที่ 3: คำตัดสินโทษ (เตรียมพิมพ์)

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 52


    บันทึกบทที่ 3

    ผ.อ.ยิ้มต้อนรับโจอย่างเป็นมิตร  เขาอายุราว ห้าสิบปี  ผมหงอกทั้งหัว  ไว้หนวดเข้ม  ใบหน้าให้ความรุ้สึกน่ายำเกรง   เดี๋ยวให้จักรกฤษกล่าวอะไรให้พวกเราฟัง  ว่ารู้สึกอย่างไรกับการได้รับรางวัล

    โจอ้าปากค้าง   ในใจของเขาตอนนี้ความคิดตีกันอยู่สองอย่างคือ  ผสมโรงไปเลยไหนๆก็ไหนแล้ว  กับบอกความจริงตรงนี้   ซึ่งความคิดอันหลังนี้ดูจะยากซักหน่อย  เพราะหากเขาบอกความจริงไปอาจจะเจอโทษหนักก็ได้  และตอนนี้ตัวเขาก็มาอยู่หน้าเวทีแล้ว  

                เมื่อมองลงไปด้านล่างนักเรียนจำนวนมากที่เข้าแถวเต็มลานกว้างต่างจ้องโจเป็นสายตาเดียว     ซึ่งให้ความรู้สึกที่กดดันยิ่งนัก   ถ้าเปรียบก็คงเหมือนตัวเขาเป็นนักแสดงแต่ลืมว่าตัวเองต้องแสดงอะไรเมื่อขึ้นเวทีแล้ว

    สิ่งที่โจทำได้เพียงอย่างเดียวคือยิ้มแห้งๆ   และเดินไปหา ผ.อ.  ในใจคิดว่าจะบอกตอนนี้หรือตอนไหนคงมีค่าเท่ากันเพราะเขาคงเดินกลับไปด้านล่างไม่ได้เสียแล้ว    ดังนั้นจึงตัดสินใจที่จะบอกความจริงให้ ผ.อ.ได้รับรู้ 

    ผ.อ. ครับ   โจพยายามข่มเสียงให้เป็นปกติที่สุด  ความจริงแล้วนี่เป็นการขะ. 

    ผ.อ.เดินมาโอบไหล่โจพร้อมกับพูดออกไมด์ว่า  เอาล่ะเดี๋ยวครูจะให้จักรกฤษพูดแล้วนะ  ผ.อ.ยื่นไมด์ให้โจ และส่งยิ้มให้   โจนั้นไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะว่าพอจะบอกว่านี่เป็นการเข้าใจผิด  แต่ผ.อ.ก็ยื่นไมด์มาให้สะงั้น      เขาพยายามมอง ผ.อ.  แต่ ผ.อ.เองทำท่าให้โจพูดและไม่สนใจท่าทีเขาเลย

      ผ.อ.ครับผมไม่ใช่ โจใช้ความพยายามอีกครั้งหนึ่ง  

    นักเรียนข้างล่างต่างทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไปตามกัน  เพราะเห็นโจทำท่ายึกยักไม่ยอมกล่าวอะไร   เสียงจ็อกแจกเริ่มดังขึ้นหนาหู ทั้งหมดมองกดดันโจเป็นสายตาเดียวว่าเมื่อไหร่เขาจะพูดเสียที    ส่วน ผ.อ. เองก็เริ่มหมดความอดทนที่โจไม่ยอมพูด  จึงเดินมาเอาไมด์จากโจคืน   พลางหัวเราะกล่าวขึ้นแก้สถานการณ์

    สงสัยว่าจักรกฤษของเราจะเหนื่อย   ไม่เป็นไรเดี๋ยวครูทำหน้าที่สัมภาษณ์เองและกันนะ  

    ไงจักรกฤษ   เรียนที่โน่นยากไหม   ผ.อ.มองมาทางโจ

    โจพยายามบอกว่าไม่ใช่จักรกฤษ พร้อมกับส่ายหน้าอีกครั้ง  ผม  ไม่.

    ครูก็ว่างั้นแหละ  สมเป็นเธอนะไปเรียนถึงเยอรมันยังบอกไม่ยาก   ครูทางโน่นยังชมเลย”

    ผ.อ.ยังคงพูดน้ำลายแตกฟองโดยที่โจก็พยายามส่ายหน้าว่าตัวเขาไม่ใช่คนที่ ผ.อ.พูดถึง  แต่แม้เขาจะพยายามอย่างไรผ.อ.ก็ไม่ใส่ใจกับท่าทีที่โจแสดงออกมา   และตีความทุกครั้งว่าสิ่งที่โจทำคือคำตอบที่ ผ.อ.ถาม   จนกระทั้งอาจารย์หญิงคนที่พาโจมา   ขึ้นเวทีไปกระซิบบอกผ.อ.   หลังจากกระซิบอยู่พักใหญ่  ผ.อ.จึงมองมาทางเขาจากสายตาที่เป็นมิตรกลายเป็นมีรังสีอัมหิตออกมาแทน  จนเขาเห็นสายตานั้นถึงกับขนลุกสู้  และเดาเหตุการณ์ตามมาได้อย่างไม่ยากนัก

    ตัวเขานั้นคงจะโดนไล่ออกแน่ๆ  ชีวิต ม.ปลายเราจะมาจบโดยที่ไม่ได้เริ่มเลยหรือ  โจจิตนาการไปสารพัดเรื่องเท่าที่ใจจะจิตนาการผลเลวร้ายที่ตามมาออก

    “เอาล่ะ”  ผ.อ.กลับมาพูดไมด์อีกครั้งหลังจากอาจารย์หญิงลงจากเวที  คือเกิดการเข้าใจผิดกันนิดหน่อยนะ  พอดีจักรกฤษตัวจริง  ไม่สบายตัวเขาพึ่งออกจากหลังเวทีเมื่อไม่นานมานี้เอง   ทำให้สลับตัวกับนักเรียนคนนี้    เอาเป็นว่าเดี๋ยวพวกเราแยกย้ายกันเรียนแล้วกัน   ผ.อ.กล่าวเรียบๆ   ก่อนเดินผ่านโจพร้อมกับฉุดแขนเขาให้เดินลงไปด้วยกัน

    นี่เธอจะเล่นตลกอะไรกัน   ทำไมไม่บอกว่าผิดคนปล่อยให้พูดอยู่ได้ตั้งนาน  จะแอบอ้างใช่มั๊ย  ผ.อ. พูดเสียงเข้ม      

    คือผมพยายามบอกแล้ว  โจพูดด้วยน้ำเสียงอุบอิบ  แต่พอเหลือบตาขึ้นไปสบสายตา ผ.อ. แล้ว ทำให้เขารู้สึกใจแป้วขึ้นมา เพราะรังสีที่แผ่ซ่านออกมาทางสายตา ผ.อ.นั้น บ่งบอกว่า ต่อให้เขาพูดอะไรออกมาก็คงยากที่จะแก้ตัวได้

    เธอไม่ต้องแก้ตัวหรอก  หนวดบนใบหน้าผ.อ. กระตุก  ถ้าเธอพยายามบอกแล้วทำไมถึงตอบคำถามฉันล่ะ

    แต่ว่าผมจะบอก ผ.อ. ก็...   แม้จะรู้ว่าเปล่าประโยชน์แต่โจก็ไม่ละความพยายามแก้ข้อกล่าวหา

    ไม่มีคำแก้ตัวสำหรับคนทำผิด   เดี๋ยวเธอไปที่ห้องฉันเราจะมาพิจารณาโทษเธอกัน  ,อ.คลายมือจากแขนโจ  พร้อมกับเดินนำไปด้านหน้า   เขาถูกนำมายังตึกอำนวยการที่เขาผ่านมาในตอนแรก    ความจริงสีเหลือแสบตาของตึกให้ความรู้สึกสดใส   แต่ตอนนี้สีที่เขาเห็นที่ตึกกลับเป็นสีเหลืองหม่นหมองเสียมากกว่า เมื่อนึกถึงอนาคตอันไม่น่าโสภาที่กำลังจจะตามมาไม่ช้า  

    เมื่อขึ้นบันไดเข้ามาด้านในตึก   ก่อนทางเข้าชั้นหนึ่งจะมีลิฟต์ที่เขียนไว้ว่า “สำหรับ ผ.อ.”  และข้างลิฟต์จะมีบันไดไปยังชั้นถัดไป

    ขึ้นไปชั้น 3   ใช้บันไดนะเดี๋ยวฉันจะรอในห้อง  ให้เวลาหนึ่งนาที   ผ.อ.กล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปในลิฟต์ 

    โจได้แต่มองตาปริบๆคิดในใจว่า ผ.อ.คนนี้คงแค้นเขามากกว่าที่คิด   ซึ่งยิ่งทำให้เขามั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคาดเดาได้  แต่ว่าการขึ้นบันไดแค่สามชั้นในเวลาหนึ่งนาที สำหรับโจที่วิ่งเป็นประจำย่อมไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว จะแกล้งกันหรือลงโทษเรื่องแค่นี้คง จิ๊บๆ สำหรับเขา 

    เมื่อเริ่มวิ่งได้ถึงจุดพักบันไดชั้นแรก  ความเมื่อยล้าที่ขาก็เริ่มเกิดขึ้น  เพราะบันใดแต่ละขั้นชันกว่าที่โจคิด และช่วงห่างแต่ละชั้นสูงกว่าตึกทั่วไป   กว่าจะขึ้นแต่ละขั้นจะใช้แรงมากกว่าบันไดขึ้นตึกธรรมดาทั่วไปเป็นสามเท่า ยิ่งขึ้นสูงความรู้สึกที่อยากจะก้าวไปยังขั้นต่อไปก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆตามความเมื่อยล้าของขาที่มากขึ้นทุกที หากไม่ใช่เขาวิ่งเป็นประจำคงจอดตั้งแต่ทางขึ้นชั้นหนึ่งแล้วแน่นอน  

    ทางขึ้นแต่ละชั้นจะมีที่พักบันไดสองที่  และจะมีป้ายบอกเป็นระยะว่า   ออกกำลังกายวันละนิดจิตแจ่มใส    เมื่อขึ้นไปอีกก็จะมีป้ายลักษณะแบบนี้อีก   วิ่งกันแจ๋วจริง ลองดิ  แม้ข้อความเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นข้อความที่ให้กำลังใจ แต่สำหรับโจแล้วเปรียบเหมือนกับข้อความเย้ยหยันหรือสมน้ำหน้าที่ต้องมาวิ่งเสียมากกว่า  ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยมากยิ่งขึ้น  บวกกับความกังวลในเรื่องเวลา  เพราะตัวเขานั้นยิ่งวิ่งความเร็วก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ จนตอนนี้ตัวเองแทบอยากจะคลานขึ้นอยู่แล้วอย่าว่าแต่ก้าวต่อเลย  หากไม่ใช่เพราะมีความผิดเป็นชะนักติดหลังละก็ โจเองคงนอนแผ่หลาไปนานแล้ว  

    ด้วยแรงใจที่กลัวความผิดและโทษจะเพิ่มมากกว่าเดิมได้หอบเอาสังขารอันแทบสิ้นเรี่ยวแรงมาถึงห้อง ผ.อ.จนได้     ซึ่งถือว่าเป็นความรู้สึกที่เป็นการขึ้นบันไดสามชั้นที่นานที่สุดและทรมานที่สุดในชีวิตเขา   ตึกนี้ออกแบบไว้ฆ่าคนขึ้นบันไดแท้ๆโจพึมพัมในใจ พร้อมกับเดินโซซัดโซเซไปถึงประตู    ที่มีเพียงประตูเดียวบนชั้นตรงสุดทางเดิน มีป้ายเขียนบอกว่า

    ห้องผู้อำนวยการ  

    เมื่อโจเคาะประตู  ก็มีเสียงข้างในตอบทันที  เข้ามา

    พอเปิดประตูออก  ผ.อ.นั่งอยู่ตรงในสุด   โดยมีโต๊ะไม้สำหรับนั่งทำงาน    บนโต๊ะมีเอกสารกองอยู่หลายกองจนไม่มีพื้นที่ว่างบนโต๊ะ  ภายในห้องมีชั้นหนังสือวางอยู่ริมกำแพงทั้งสามด้าน   ทุกชั้นจะมีหนังสือวางเรียงอยู่เต็ม    ด้านหลังของผ.อ. แขวนรูป ผ.อ. รุ่นก่อน  และรูปโรงเรียนสมัยก่อตั้ง   ส่วนเพดานทำเป็นสกายไลท์เพื่อให้แสงส่องถึงโดยไม่ต้องใช้ไฟในเวลากลางวัน  

    ผ.อ.ชี้ให้โจนั่งตรงกันข้าม   ข้างในห้องเมื่อสังเกตดูแล้วยังมีอาจารย์หญิงอีกคนซึ่งเป็นคนดียวกับที่ฉุดแขนเขาขึ้นเวทีนั่นเอง แต่ครั้งนี้มาในมาดเจ้าระเบียบ  ถือหนังสือเล่มหนายืนอยู่ข้างผ.อ.    เธอเอานิ้วชี้ดันแว่นขึ้นเป็นระยะ  พร้อมกับมองเขาด้วยสายตาที่รู้สึกทะลุไปถึงรูขุมขน จนโจรู้สึกเหมือนโดนอะไรกำลังทิ่มแทงทั่วร่าง

    “ช้าไปสิบห้าวิ” ผ.อ.กล่าวทำลายบรรยากาศอึมครึม โจได้แต่ยิ้มแหยงๆรับ พลางคิดว่าแค่ขึ้นมาได้ก็ขอบคุณสวรรค์แล้วยังจะเอาอะไรนักหนา

    เดี๋ยวฉันและอาจารย์วรภา  ฝ่ายปกครองจะพิจารณาโทษเธอนะ   ผ.อ.กระตุกหนวด หันไปมองอาจารย์อีกคน

    นักเรียนนพภัทร  ชิงชิดดี   ทำความผิดดังต่อไปนี้อาจารย์หญิงขยับแว่น ก่อนจะเปิดหนังสือหนาเล่มที่เธอถืออยู่  “ หนึ่งมาสาย ในวันเปิดเรียนวันแรก   ผิดข้อบังคับหน้า หนี่ง ข้อ สาม  สองหลบอาจารย์ไม่ยอมมารายงานตัว ผิดข้อบังคับหน้าหนึ่ง ข้อแปด     สามแอบอ้างตัวเป็นผู้อื่นผิดข้อบังคับหน้าที่ สาม  ข้อ สี่    โทษทั้งหมดรวม สาม กระทง   กระทงที่หนึ่งมีโทษให้ทำทัณฑ์บนไว้   กระทงที่สองให้ตัดคะแนนความประพฤติ  และกระทงสุดท้ายแอบอ้างตัวเป็นผู้อื่นมีทั้งโทษทางอาญาตามกฏหมายและโทษขั้นสูงสุดของโรงเรียน  อนึ่งเนื่องจากเหตุเกิดในโรงเรียนจึงตัดสินให้พ้นสภาพนักเรียนแทน   ทางโรงเรียนจะไม่นำเรื่องนี้แจ้งความแต่อย่างใด  อาจารย์วรภาปิดหนังสือ  พร้อมกับเอานิ้วชี้ดันแว่นขึ้น  เธอทำราวกับพึ่งอ่านหนังสือตามร้านหนังสือเสร็จ  สีหน้าเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    โจนั้นฟังคำพิจารณาโทษอย่างเหม่อลอย แม้จะคาดเดาผลที่ตามมาอยู่แล้ว แต่ตัวเขาเองก็พึ่งเจอกับเหตุการณ์ที่ซวยที่สุดในชีวิตแบบนี้ครั้งแรก  พลางคิดในใจว่าเรื่องไร้เหตุผลและซวยแบบนี้มันยังมีอยู่ในโลกด้วยหรือ  นี่เกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้กันแน่นะ  อุตส่าห์ได้เข้าเรียนตามที่ตนใฝ่ฝันมานาน  อยากเป็นนักกีฬาเทนนิสที่ทำชื่อเสียงให้ประเทศ  แต่ทั้งหมดจะมาจบลงง่ายๆที่นี่วันนี้น่ะหรือ  เขาเองยังไม่ได้เริ่มเรียนในโรงเรียนนี้เลย หากเป็นเพราะเขาทำตัวเลวร้ายก็ว่าไปอย่าง   แล้วนี่เขาจะทำอย่างไรต่อไปดีหนอ

    อะ แฮ่ม   ตามกฏโรงเรียนควรที่จะลงโทษตามที่อาจารย์วรภาอ่านให้ฟังน่ะแหละ  ผ.อ.กระตุกหนวด พร้อมกับหยิบเอกสารบางอย่าง  ออกมาจากกองหนังสือ   ฉันรู้สึกเสียดายความสามารถเธอ  ตะกี้ฉันยังคิดอยู่ถ้าเธอไม่วิ่งมาล่ะก็คงลงโทษตามกฏ  แต่เห็นแก่ที่เธอสำนึกผิดวิ่งมาเพื่อให้ทันเวลาให้ได้ แม้จะช้าไปก็เถอะ แต่ถือว่ามีความพยายามดี  ฉันจึงคิดว่าจะให้เธอลองแก้ตัว  เพราะฉันถือว่าการแก้ไขในสิ่งผิดย่อมดีกว่าเสมอ

    อะไรกัน ผ.อ.คนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรอย่างที่คิดนี่นา ถึงแม้จะดูโหดไปหน่อยตอนแรก เขาเริ่มใจชื้นขึ้นหน่อย  จะ จริงเหรอครับเสียงโจดีใจจนออกนอกหน้า 

     ผ.อ.ยิ้ม พร้อมยื่นเอกสารให้  จงพิสูจน์ตนเองในการแข่งครั้งนี้ซะ

    โจรับเอกสาร พร้อมกับอ่าน  การแข่งขันเทนนิสเยาวชนระดับประเทศ  ครั้งที่ 23   วันที่ 26 มิถุนายน               โจมองอีกครั้ง 26 มิถุนายน เหรอ ! ผ.อ.ครับ  มีเวลาแค่ 2 อาทิตย์เองนะครับ  

    ถ้าเธอทำไม่ได้จะทำตามกฏก็ได้นะ  จะได้ไม่ต้องเหนื่อยด้วยไง   ผ.อ.หันไปทางอาจารย์วรภา  

    เดี๋ยวก่อนครับ  ผมจะลองดูครับ  โจยกมือขึ้น กล่าวอย่างรุกรี้รุกรน

    มันต้องอย่างงี้    ในการแข่งเธอต้องเข้ารอบ 4 คนสุดท้ายให้ได้เป็นอย่างน้อยเท่านั้น โทษเธอถึงจะหมดไป เอาล่ะหมดธุระเธอแล้ว  ผ.อ.ทำมือเชิญให้โจออกไปนอกห้อง  เออ อีกอย่างนักกีฬามือหนึ่ง  ของเราที่ได้แชมป์ปีที่แล้วก็จะลงแข่งด้วย  ขอให้โชคดีนะ  นพภัทร  ครูจะรอดูผลงานของเธอ   ผ.อ.กระตุกหนวด พร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    โจเดินออกจากห้องพร้อมกับคอตก  เมื่อเสียงปิดประตูปิดสนิทไปแล้ว หลังจากเงียบอยู่พักหนึ่ง ผ.อ. จึงพูดขึ้น 

    “ตั้งแต่อยู่นี่ อาจารย์เคยเห็นคนที่ขึ้นบันได ด้วยเวลา หนึ่งนาทีสิบห้าวิรึเปล่า “ผ.อ.หันมามองหน้าอาจารย์หญิง 

    เธอส่ายหน้าแทนคำตอบ

     

    โจเดินออกมาจากห้องของผู้อำนวยการ  ในใจของเขายังคงคิดถึงเรื่องที่จะแข่งในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้านี้  แม้รายการนี้จะเป็นรายการที่มีเกียร์ติใครๆก็อยากลงแข่ง  แต่สำหรับโจนั้น  เขาคิดว่ายังเร็วเกินไป  เพราะแต่ละคนที่แข่งรายการนี้ต้องเตรียมพร้อมตัวเองเป็นอย่างดี   ไม่ใช่แค่ใช้เวลาเพียงอาทิตย์ สองอาทิตย์ก็แข่งได้    นี่เหมือนเป็นการกลั่นแกล้งชัดๆ อุตส่าห์ดีใจที่คิดว่า ผ.อ.คนนี้ก็มีเหตุผลเหมือนกัน   ที่ไหนได้สิ่งที่ให้เขาทำ บางทีการให้วิ่งขึ้นลงบันใดสักร้อยรอบยังดีเสียกว่า   คงต้องถือว่าตัวเขาเองโชคร้ายก็แล้วกัน  อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีโอกาสแก้ตัว  โจคิดขณะเดินลงบันใดจากชั้นสาม  ผ่านป้าย  ออกกำลังกายวันละนิด จิตแจ่มใส 

    โจต้องเดินไปเพื่อที่เรียนวิชาแรกของวันนี้   ซึ่งได้ล่วงเลยเวลามามากแล้ว    เขาเดินผ่านตึกอำนวยการไปยังลานกว้าง   ทะลุไปยังด้านตรงข้ามของตึกอำนวยการ   ซึ่งตึกเรียนอยู่ไม่ห่างจากลานกว้างนี้มากนัก   โชคดีที่ช่วงก่อนเปิดเรียนโจได้สำรวจตึกเรียนมาแล้ว  จึงใช้เวลาไม่นานในการเดิน   

    ตึกเรียนของที่นี่จะเป็นตึกของ ม.ปลาย  ส่วนตึกม .ต้นจะอยู่อีกแห่งหนึ่ง     ตัวตึกจะมีทั้งหมด 5  ชั้น  แบ่งเป็นห้องที่เป็นโฮมรูม   และห้องเรียนวิชาต่างๆ   ม.4 ห้องที่โจเรียนจะอยู่บนสุดของตึก    ทุกตึกในโรงเรียนจะมีลักษณะบันไดที่คล้ายตึกอำนวยการ   ความห่างของชั้น ต่อชั้นจะมากกว่าตึกธรรมดาหนึ่งถึงสองเท่า   และช่วงที่พักของบันไดก็จะมีป้ายติดสนับสนุนให้ออกกำลังกายอยู่ตลอด ซึ่งเจ้าป้ายพวกนี้โจแทบอยากจะดึกทิ้งให้หมดเสียจริงๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งเหมือนมีคนมาสมน้ำหน้ายังไงชอบกล   จะส่งเสริมให้ออกกำลังอะไรกันนักหนา  โจบ่นในใจ หลังจากวิ่งขึ้นบันไดด้วยความเหนื่อยหอบถึงชั้น 5

    ห้องเรียนในชั้นนี้มีอยู่สิบกว่าห้อง   โจเดินไล่ไปทีละห้องเพื่อหาห้อง  ม.4/7    เดินจนกระทั้งไปจนเกือบสุดทางเดินชั้นห้า จึงพบ   

    ขออนุญาตครับ  โจเลื่อนเปิดประตูห้อง   ห้องเรียนที่โจเข้ามาเป็นห้องแบบนั่งแยกเป็นคู่ๆ   แบ่งเป็นสามแถว    ในห้องเรียนมีนักเรียนอยู่ประมาณยี่สิบกว่าคน    ภายในห้องเรียนติดแอร์เย็นสบาย   บรรยากาศดีกว่าโรงเรียนที่โจเคยเรียนมาอย่างลิบลับ  อาจารย์หญิงมีอายุไว้ทรงผมตั้ง    หน้าตาคงแก่เรียนดูจะไม่เข้ากับทรงผม  อยู่ในชุดสีชมพูดสดใส ยืนอยู่ตรงหน้าห้องกำลังชี้แผนที่ทวีปยุโรป   มองมาทางโจ     เสียงในห้องที่คุยจอกแจ็กในตอนแรกเงียบลง  นักเรียนในห้องหันมองโจเป็นสายตาเดียวตามเสียงที่เปิดประตูออกมา

    ทำไมมาเอาป่านี้  ไม่มาซะเลิกเรียนเลยล่ะ  อาจารย์กล่าวอย่างเย็นชา  แล้วไปทำอะไรมา

    โจยิ้มแหยงๆ  คือว่าผมไปพบกับผ.อ.มาครับอาจารย์      อาจารย์ทำท่าไม่ใส่ใจ  รู้สึกข้ออ้างนี้มันจะเป็นมุขปีมะโว้แล้วนะ   คิดว่าฉันไม่รู้หรอ  ถ้าผ.อ.จะเรียกใครไปพบจะแจ้งให้อาจารย์ประจำชั้นหรือประจำวิชาทราบก่อน 

    โจลอบด่าผ.อ.ในใจ  ผ.อ.ทำเรื่องให้เขาอีกแล้ว สงสัยจะจริงที่บอกว่าเมื่อพบเรื่องร้ายๆเรื่องหนึ่งแล้วจะมีเรื่องร้ายตามมาอีกเป็นพลวน  

     แต่ว่าจานครับ ผมไปพบมาจริงๆนะครับ  โจอธิบาย

      ไม่ต้องพูดมาก  คนเราทำผิดก็ต้องยอมรับสิ  จะบอกว่าตื่นสายยังดูดีกว่านี้อีกนะ”   เสียงอาจารย์เริ่มฉุน     ทั่วทั้งห้องไม่มีสักคนเดียวที่จะส่งเสียงออกมา เพราะรู้ดีว่าบรรยากาศเช่นนี้ถ้าร้องขึ้นมาสักแอ่ะหนึ่งละก็ ไฟที่กำลังปะทุใส่คนหน้าใหม่ จะหันมาแผดเผาคนในห้องแทน 

    โจทำท่าหัวเสีย  นึกในใจดังว่า  อาจารย์โรงเรียนนี้เป็นอะไรกันหมดนะไม่เคยฟังนักเรียนอธิบายอะไรเลย

    แนะๆ ยังทำท่าไม่พอใจอีกเหรอ   อาจารย์เคาะไม้ที่ใช้ชี้แผนที่เสียงดัง ตึง!  เธอไปทำแบบฝึกหัดท้ายบทเรียนนี้ก็แล้วกัน ส่งเย็นนี้นะ  ถ้าไม่ส่งเธออย่าหวังผ่านวิชานี้เลย   โจหันหน้าไปด้านหลังอุทานเบาๆ ยายแก่ไร้เหตุผล

    ฉันได้ยินนะอยากเพิ่มอีกบทเหรอ


    to be continue

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×