ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] 10th I - Only Me ผมเท่านั้นที่จะขย้ำผืนนภานี้ได้

    ลำดับตอนที่ #20 : SKY IS MINE & HAPPING ENDING

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.59K
      12
      27 เม.ย. 55

                 “ว้าว คนเยอะจังแฮะ อ่ะ นั้นมันโกคุเทระคุง มาร่วมงานด้วยเหรอเนี่ย แล้วยามาโมโตะล่ะ คงจะมาดูเฉยๆล่ะมั้งล่ะนั้น แต่ว่าสมกับเป็นงานสวมหน้ากากจริงๆ ทุกคนต่างสวมชุดราตรีคล้ายๆเรากันหมดเลย”

                แซ่ด...แซ่ด...แซ่ด

                “ปีนี้ก็น่าเบื่อตามเคยเนอะ...”

                “ใช่ หลังจากที่ซือโนะต้องตามไปอยู่กับเจ้าสึนะเนี่ย...”

                “รู้สึกว่าโรงเรียนของเราจะดูเหี่ยวเฉ่าลง แถมหัวหน้ากรรมการคุมกฎยังโหดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอีกตังหาก”

                โหดเหรอ...ฮิบาริซังเนี่ยนะ แล้วเขามาหรือเปล่าเนี่ย สีผมก็ไม่ได้ดูได้ง่ายๆเหมือนโกคุเทระคุงซะด้วยสิ...

                “คร้าบๆๆ วันนี้ผมจากชมรมประชาสัมพันธ์ก็จะขอกล่าวเปิดการจับคู่คนรักกันนะครับ เชิญวัดดวงกันเลยครับว่า ใครคือคนที่โชคชะตาลิขิตของพวกคุณเป็นใครกันแน่ เริ่มได้!!!

                “ระ...เริ่มแล้วเหรอ! แล้วฮิบาริซังล่ะ ทางไหนกัน เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน...” ฮิบาริซังเป็นคนที่ไม่ชอบการรวมกลุ่ม แสดงว่าต้องอยู่คนเดียวไม่อยู่ในหมุ่ผู้คนแบบนี้แน่นอน แล้วตรงไหนกันล่ะ ที่ไม่มีคนวิ่งให้พล่านแบบนี้ หรือว่า...จะไม่ได้มา โธ่...

                หมั่บบบ

                “เอ๊ะ ฮิบา... มะ ไม่ใช่ คุณเป็นใครกัน”

                “มาเถอะ...”

                ใครกัน ฮิบาริซัง อยู่ที่ไหนกัน ฉันจะถูกฉุดไปแล้วน้า...

                ซือโนะที่ถูกใครไม่รู้ฉุดไป ซึ่งกำลังจะไปที่จับคู่ลงทะเบียน แต่ทว่า...

                “หยุดเลย...”

                สะ...เสียงแบบนี้ มือแบบนี้ แล้วก็นกตัวนั้น “ฮะ...ฮิบาริ...ซัง ฉัน...”

                “มาทางนี้เร็ว!

                “คะ...ค่ะ!!!

                ฮิบาริคว้ามือของซือโนะและพาวิ่งออกจากงานกิจกรรม โดยที่ซือโนะยังคงไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร...

                ณ ห้องกรรมการนักเรียน

                “แฮ่กๆๆ ทำไม...ฮิบาริซัง ถึงได้...”

                “ฉันไม่มีทางลืมเธอหรอก ฉันเชื่อว่าเธอยังไม่มีทางที่จะตายแน่ๆ แล้วก็ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ดูสวยขึ้นเยอะเลยนะ”

                “ฮะ..ฮิบาริซัง ชิส์ รู้งี้ไม่กลับมาจากโลกเวทมนตร์ก็ดีซิ”

                ฮิบาริที่กำลังมองอย่างชื่นชมในความสวยขึ้นของซือโนะ ได้เปลี่ยนสีหน้าไปอย่างรวดเร็ว และดันตัวซือโนะเข้าพิงกับกำแพงและใช้มือของสองข้างปิดกั้นทั้งสองข้าง เพื่อไม่ให้ซือโนะหนีออกไปได้

                “อย่าคิดนะว่าฉันจะยอมง่ายๆ ถ้าหากเธอไม่กลับมาฉันก็จะตามตัวเธอกลับมา ถึงแม้จะไปห่างสักแค่ไหน ฉันก็จะตามหาเธอให้เจอ”

                “ฮะ...ฮิบาริซัง อ่ะ ยะ...อย่าจ้องแบบนี้สิค่ะ ฉัน...ฉัน ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ”

                “ฮึ งั้นคงต้องขอของปลอบใจฉัน เรื่องที่เธอไม่ยอมบอกว่าหายตัวไปไหนซะหน่อยแล้ว”

                ซือโนะที่ถูกฮิบาริพันธณาการตัวไว้ ถูกขโมยจูบแรกไปโดยฮิบาริ ความรู้สึกของซือโนะราวกับว่าจะหลอมละลายไปตรงหน้าของฮิบาริในทันที หลังจากที่ฮิบาริพอใจกับของปลอบใจก็ปล่อยซือโนะจากการพันธณาการ ทำให้ซือโนะต้องทรุดก่อลงไปกับพื้น ราวกับว่าพลังแรงกายทั้งหมดนั่นหายไปเอาดื้อๆ

                “อ้าว โทษที ไม่นึกว่าจะเป็นถึงขนาดนี้”

                “ฮิ...ฮิบาริซัง ไป...ไปทำแบบนี้ได้อีท่าไหนละค่ะ”

                “ก็เพื่อนเธอ ยามาโมโตะ ทาเคชิบอกมาน่ะ ว่าเวลาคิดถึงผู้หญิงก็ให้ทำแบบนี้ จะว่าไปพักนี้เพื่อนเธอทั้งสองคนดูแปลกๆนะ ทุกเย็นมักจะแยกทางไปหาใครก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเรื่องผู้หญิงก็ได้”

                แปลกแฮะ อย่างยามาโมโตะน่ะ ไม่แปลก แต่โกคุเทระคุงนี่สิถึงจะเรียกว่าแปลก

                “อ้อ ใช่...ฉันรู้นะว่าเธอมีความลับหลายอย่าง พอจะบอกฉันได้หรือเปล่าละ ยังไงเราก็เป็นถึงแฟน ไม่สิ ซักวันก็ต้องเลื่อนขั้นไปเป็นสามีภรรยานี่นะ”

                ง่ะ สะ...สามี ภรรยาเหรอ ก็ใช่อยู่หรอกนะว่าเราเองก็ชอบฮิบาริซังเหมือนกัน แต่ถ้าบอกไปว่าเราเป็นสึนะ ไม่จะออกวิปลาสไปเลย ฟังๆแล้วมันออกแนววิตถารอ่า

                “ไม่บอกงั้นเหรอ งั้นอีกซักทีเป็นไงละ ช่วงนี้ฉันยิ่งชาดน้ำตาลเพราะพวกสัตว์กินพืชซะด้วยสิ”

                “ยะ...อย่าเลยค่ะ...ก็ได้ ฉันจะยอมพูด แต่ว่าฮิบาริซังต้องไม่ซัดฉันนะค่ะ”

                “เรื่องอะไรที่ฉันต้องซัดเธอด้วยละ...บอกมาได้แล้ว”

                “คือ...ฉัน ตัวจริงของฉันคือ...”

                “ซาวาดะ สึนะโยชิ ยังไงละฮิบาริ”

                เสียงคำตอบนั้นไม่ได้มาจากปากของซือโนะแต่มาจากอีกคนหนึ่ง คนที่ซือโนะรู้สึกอยากจะอัดให้ได้สักเปรี้ยง

                “รีบอร์น!!! นาย.... ฮะ...ฮิบาริซัง คือว่า...อย่าตีฉันเลยนะค่ะ”

                ซือโนะร้องขอพร้อมกับนำแขนมาป้องตัวเอาไว้ เพื่อกันการฟาดทอนฟาจากฮิบาริ แต่ว่าใบหน้าของฮิบารินั้นเป็นในรูปแบบโล่งใจซะมากกว่า

                “เฮ้อ ดีแล้ว...ฉันจะได้ไม่ทรยศตัวเอง ดีแล้วละที่ซือโนะคือเธอสึนะโยชิ”

                “เอ๊ะ หมายความว่ายังไงกันค่ะ”

                “ฉัน...แอบชอบเธอ ชอบตั้งแต่เธอเป็นสึนะโยชิแล้ว ถึงขั้นอยากจะเก็บเธอเอาไว้ข้างฉัน ไม่อยากให้ใครหรืออะไรมายุ่มย่ามหรือสัมผัสเธอได้”

                อ่า... ไม่จริงใช่มั้ย นี่เป็นความฝันเราหรือเปล่า ที่ฮิบาริซังจะ...จะชอบเราตั้งแต่ตอนเป็นผู้ชาย

                “ละ...แล้วฮิบาริซังไม่คิดเหรอว่ามันแปลกน่ะ เราเป็นผู้ชายทั้งคู่นะค่ะ แล้วอีกอย่างเรื่องสามีภรรยาเนี่ย มันคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเราทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชายนะค่ะ”

                “ซือโนะ ไม่สิ สึนะ ลืมไปแล้วเหรอว่าร่างกายของนายในตอนนี้เป็นผู้หญิง ยังไงซะเรื่องส่วนภายในของร่างกายของร่างกายก็ต้องเป็นแบบผู้หญิง เพราะงั้นฮิบาริ ไม่ต้องกลัวเรื่องเข้าหอในอนาคตละ เพราะยังไงหมอนี้ก็ต้องทะ...อุ๊บบบ”

                “พอๆๆ รีบอร์น เดี๋ยวก็กลายเป็น ฉ+ หรอก เฮ้อ แต่ฉันก็ดีใจนะที่ฮิบาริซังชอบฉัน เพราะว่าฉันเองก็ชอบฮิบาริซังจริงๆนั้นแหละ ถึงขั้นไม่อาจปฏิเสธได้เลย”

                “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ต่อไปนี้ห้ามเรียกฉันว่า ฮิบาริซัง เป็นอันขาด”

                “งะ...ไหงงั้นละค่ะ!!!

                ซือโนะไม่เข้าใจในคำสั่งห้ามของฮิบาริ เพราะถ้าหากเจ้าตัวไม่ให้เธอเรียกเขาว่าฮิบาริแล้วเธอจะเรียกคนที่เธอรักว่าอะไร

                “เพราะว่า ต่อไปนี้เธอต้องเรียกฉันว่าเคียวยะ จะไปเรียกฮิบาริไปทำไม ทำในอนาคตฉันจะต้องได้ตัวเธอมาและมาอยู่ในตระกูลฮิบาริ เพราะฉะนั้นจะเรียกไปก็เท่านั้น อีกเดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นนามสกุลของเธอด้วยนี่นา”

                “มะ...หมายความว่า...”

                “ใช่ ไม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องแต่งงานกับเธอ อ้อ ถ้าเป็นไปได้อย่าเพิ่งกลับไปเป็นสึนะโยชิเลยนะ เพราะว่าไม่งั้นเราคงจะไม่มีเด็กๆวิ่งเล่นในบ้านเอานะ ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงจะน่ารักมากเลยละ ฮึ...”

                อึ๋ย นึกสภาพออกเลยว่าเราจะเป็นยังไง... “เอ่อ ฮิบา เอ้ย! คะ...เคียวยะ คือ...ขอถามอะไรหน่อย ฉันก็พอจะรู้นะค่ะว่าการที่จะมี เอ่อ คือ...ฉันอยากรู้ค่ะ ว่าถ้าหากฉันแต่งกับเคียวยะแล้วจะปล่อยฉันหรือเปล่าค่ะ หมายถึงไม่ต้อง เอ่อ เรื่องเตียงอ่ะค่ะ”

                ซือโนะถามไปก็หน้าแดงไป เพราะเรื่องที่กำลังถามนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจกรรมยามค่ำคืนของชายหญิง ฮิบาริ เอ้ย! เคียวยะได้ยินแบบนั่นก็ขำได้ตอบไปพร้อมกับรอยยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ไปว่า

                “แน่นอนว่าหากวันนั้นมาถึงฉันคงจะไม่ให้เธอออกจากห้องนอน เอาเป็นซักประมาณสามสี่วันก็คงจะดีนะ”

                เง้อ นี่เราไปตกหลุมรักกับปีศาจร้ายได้ยังไงกันละเนี่ย

                “เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ทำเรื่องนั้นก่อนดีกว่า ไหนๆชุดที่เธอใส่มันก็ละม่ายคล้ายๆอยู่ซะด้วย ซือโนะ...ฉันจะไม่ทรยศหรือทอดทิ้งเธอ เพราะงั้นแหวนวงนี้เก็บมันไว้กับเธอ มันเป็นแหวนที่ฉันหามาแล้วคิดว่าต้องเหมาะกับเธอแน่นอน”

                เคียวยะหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และค่อยสวมเข้าไปในนิ้วนางซ้ายเป็นเหมือนกับการตีตราว่า ซือโนะเป็นของเคียวยะ หรือง่ายๆก็คือหมั้นนั่นเอง

                แหวนที่เคียวยะมาหามอบให้ซือโนะนั้นเป็นแหวนทองคำขาว มีอักษรอยู่ภายในตัวแหวน ถูกสลักเอาไว้ว่า SKY IS MINE ความหมายคือนภาซึ่งแทนตัวซือโนะ หรือก็คือซือโนะเป็นของเขาเพียงผู้เดียว

                “ฮึก... ฉัน...ฉัน ฉันพูดไม่ออกเลยเคียว เอ่อ เคียวจัง... แฮะๆๆ คงไม่ว่ากันนะที่จะเรียกแบบนี้น่ะ”

                “ไม่หรอก ฉันเองก็ชอบที่เธอเรียกฉันว่า เคียวยะ ไม่ใช่ฮิบาริ เพราะแบบนั้นไม่ดูห่างเหินไป เราก็น่าจะกลับเข้าไปในงานได้แล้วละ ไปกันเถอะนะ ซือโนะ”

                ฮิบาริยื่นมือมาหาซือโนะ เพื่อที่จะได้เดินจูงมือเข้าไปในงานด้วยกัน

                “ค่ะ...”

                “ฮึ สรุป...ดูเหมือนว่า เมฆก้อนนี้จะไม่มีทางสลายหายไปจากนภาผืนนี้ได้เลยสินะ เหมือนกับพวกท่านเลยนะ ท่านรุ่นที่ 1 สมกับเป็นสายเลือดของท่าน ไม่ผิดไปจากท่านแม้แต่น้อย เราเองก็จะช้าไม่ได้แล้วสินะ เดี๋ยวยัยนั่นจะรอนานเกินไป”

                รีบอร์นพูดจบก็เดินหายไปในทางเดินออกหลังโรงเรียน เพื่อมุ่งตรงไปหาคนที่ตนรักเป็นที่สุด ซึ่งกำลังรอคอยอยู่พร้อมกาแฟเอสเพรสโซ่อุ่นๆและคุกกี้ของถนัดของเธอผู้นั้น

                ผ่านไป 9 ปี

                ฮาจิเมะ ผู้สืบทอดออนเซ็นที่ซือโนะเคยไปเที่ยว ตอนนี้กำลังมองหาสาวๆมาอยู่ข้างๆ ถึงแม้ว่าจะปิ๋วเรื่องซือโนะไปเรียบร้อย แต่ก็ยังคงมีความพยายามในการตามหาหัวใจของตน

                โกคุเทระ ยังคงค่อยๆเป็ยค่อยๆไปกับแฟนสาวที่เป็นถึงน้องสาวของคู่กัดคู่แค้น และอีกทั้งนังดำรงในตำแหน่งมือขวาของวองโกเล่ รุ่นที่ 10 ซึ่งเป็นบุคลากรที่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าระดับล่างลงไป

                ยามาโมโตะ อาศัยอยู่ในอิตาลีเพื่อทำงานร่วมอยู่กับสควอโล่และสำนักงานใหญ่วองโกเล่ คอยทำงานข้ามไปมาระหว่างทางวาเรีย และ กองบัญชาการ ตอนนี้ก็มีแฟนสาวไปแล้วเป้นที่เรียบร้อย ซึ่งเธอคนนั้นกำลังช่วยงานร้านของพ่อที่ญี่ปุ่น พร้อมกันดูแลพ่อของแฟนไปในตัว

                เรียวเฮ แต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อย และสามารถคว้าแชมป์มวยไปอย่างสวยงาม แน่นอนว่ามีเพื่อนที่คุยถูกคออยู่ในวงการของเหล่าวาเรีย มักจะไปมาหาสู่เพื่อพูดคุยกันบ่อยๆ

                แรมโบ้ กำลังอยู่ในช่วงศึกษาเล่าเรียน แต่หากว่ามีเหตุด่วย เหตุร้ายอย่างใด ก็มักจะตรงดิ่งมาช่วยวองโกเล่เป็นอันดับแรก เลยทำให้ผลการเรียนตกไปเป็นบางครั้ง เลยต้องให้โกคุเทระมาคอยช่วยติวอยู่บ้าง

                มุคุโร่ ได้รับอิสรภาพจากคุกวินดีเช่ ทั้งเคนและจิคุสะนั้นต่างดีใจที่ถูกปล่อย ซึ่งมุคุโร่ยังคงจ้องหวังจะยึดร่างของ วองโกเล่รุ่นที่ 10 แต่ในใจจริงนั้นเลิกคิดไปแล้ว เลยทำเป็นปากไม่ตรงกับใจและการกระทำ ที่คอยมายุ่งเรื่องวองโกเล่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริหารหรือเรื่องปฏิบัติการ

                โคลม ความสามารถในเรื่องการใช้มายานั้นดีขึ้น แม้แต่มาม่อนหรือมุคุโร่ไม่มีอะไรจะสอนไปมากกว่านี่อีกแล้ว เรื่องอวัยวะภายในทางวองโกเล่ได้ทางแพทย์ที่มีความสามารถปลูกถ่ายอวัยวะจริงลงไป ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้มายาในการสร้าง และไม่เป็นปัญหาในเวลางานด้านปฏิบัติ

                รีเทิร์น ยังคงทำงานในวองโกเล่ร่วมกับพี่ชายของเธอ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านวาเรียซะมากกว่า เพราะว่าคนรักของเธอก็ดำรงในตำแหน่ง ผ.บ. เลยต้องคอยอยู่ช่วยเหลือเสมอๆ

                รีบอร์น คอยดูแลคนรักและหลานผู้น่ารักที่เป็นถึงบอสของแก๊ง แต่ก็ยังคอยอยู่ในคำสั่งของรุ่นที่ 9 แต่ในตอนนี้รุ่นที่ 9 ได้ลงจากตำแหน่งไปแล้ว จึงต้องคอยรับคำสั่งจากรุ่นถัดมา ซึ่งก็คือรุ่นที่ 10 แต่บางครั้งก็มักจะไปเยี่ยมรุ่นที่ 9 ก็บ่อยๆ

                จางนีนิ สามารถสร้างกระสุนแก้กระสุนแปลงเพศได้เป็นเวลานานแล้ว แต่เจ้าตัวบอกว่าอยากจะเป็นแบบนี้มากกว่า แต่ซักวันก็อาจจะกลับไปเป้นแบบเดิม เลยต้องเก็บกระสุนนี้เข้าคลังเก็บไป แต่ก่อนจางนีนิเป็นเพียงแค่ช่างไร้ฝีมือ แต่ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นยานพาหนะ อาวุธ หรือเครื่องอำนวยต่างๆในกองบัญชาการ ต่างก็จากฝีมือของจางนีนิล้วนๆ

                ทุกคนต่างประสบความสำเร็จกันทุกคน และในวันนี้ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ญี่ปุ่นในโรงเรียนนามิโมริ

                แปะๆๆๆๆ...แปะๆๆๆ

                ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความยินดี ทุกคนต่างยินดีและพูดกับคู่บ่าวสาว

                ซือโนะที่กำลังอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ และ เคียวยะก็อยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีดำทั้งตัว

                “คุณซือโนะ!!! ยินดีด้วยนะค่ะ!!!

                “ซือโนะจัง!! ยินดีด้วยนะจ๊ะ!

                “ยินดีด้วยนะทั้งคู่ ฉันนึกว่าต้องแต่งไปคนเดียวแล้วซะอีก อย่างงี้ฉันกีคนไม่โสดเหมือนฉันแล้วสิเนี่ย”

                “ซือโนะนายดูสวยมากเลยละ! ฉันละอิจฉาเจ้าบ่าวของเธอซะแล้วสิ”

                “ท่าน ไม่สิ รุ่นที่ 10 ขอให้มีความสุขนะครับ”

                “ในที่สุดก็มีวันนี้สินะ มาหม้าอย่าร้องไห้ไปเลยฮ่ะ”

                “รีบอร์นคุง ขอบใจนะจ๊ะ ซือโนะ ในที่สุดแม่ก็ได้เห็นหนูในชุดนี้”

                “นานะ... เอิ่ม เคียวยะ ฉันฝากซือโนะด้วยนะ ฝากดูแลลูกชะ...เอ่อ ลูกสาวฉันด้วยละ”

                “อืม หวังว่าฉันจะได้เล่นกับเด็กๆของพวกเธอ เหมือนฉันกับเธอเมื่อก่อนนะ ซือโนะคุง”

                “สวยมากเลยละซือโนะ นี่ๆสควอโล่แล้วเมื่อไรจะเป็นทีของเรามั้งละ”

                “ฮึ เดี๋ยวก็มาเองแหละน้า ไม่ต้องห่วงไปหรอก แต่...ไม่นึกเลยนะว่าแกจะมาร่วมงานของยัยนี้ด้วยน่ะ แซนซัส...”

                “.....”

                “บอส สวยจังเลย ว่ามั้ยค่ะ ท่านมุคุโร่”

                “อืม นั้นสินะ อย่างงี้ผมก็แกล้งเธอไม่ได้ง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนแล้วละสิเนี่ย”

                “ซักวัน...ฉันจะพาผู้หญิงของฉันมาแนะนำให้ทั้งสองรู้จักนะ ยังไงก็..ยินดีด้วยก็แล้วกันนะ”

                ทั้งคู่เดินมาจนถึงประตูหน้าโรงเรียนและกำลังมองหน้ากันและกัน

                “ซือโนะ ต่อไปนี้ทุกวัน ทุกเวลา ทุกวินาที ฉันจะไม่ออกห่างจากเธอ เป็นอันขาด รู้มั้ย 7 วันที่ถือว่าไม่ให้เจ้าบ่าวมาเห็นหน้าเจ้าสาวเนี่ย ฉันรู้สึกทรมานจังแฮะ”

                “เคียวยะ ฉันเองก็เหมือนกันแต่ว่า...ฉันคิดไว้แล้วว่าแค่ 7 วัน แต่ตอนนี้เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปใช่มั้ย...”

                “ใช่ เราต้องมารอคอยตัวเราเองในอดีตด้วยนะ อย่าลืมซะละ”

                “นั้นสินะ เอาละ ได้เวลาไปแล้วมั้ง”

                “นั้นสิ...”

                ฮิบาริพูดจบก็คว้าซือโนะมาแนบชิดอ้อมอก แล้วคว้าเอาช่อดอกไม้มาจากมือของซือโนะ และโยนออกไปกลางอากาศและลงดิ่งกลางฝูงชน

                “ฮ่าๆๆ ไปกันเถอะ...ซือโนะ”

                “คะ เคียวยะ ฉันอยากโยนเองนะ อีกอย่างฉันก็อยากรู้ว่าใครจะได้เป็นคู่แต่งงานถัดจากฉันนะ”

                เคียวยะไม่สนใจจับซือโนะอุ้มพาขึ้นรถสีดำ โดยมีคุซาคาเบะที่เป็นคนขับรถให้

                “จะสนไปทำไม ตอนนี้เธอต้องสนฉันมากกว่านะ”

                “อื้ออ อืม นั้นสินะ... ใครจะได้แต่งงานนั้นคงต้องเป็นชะตาลิขิตนี่เนอะ”

                เคียวยะไม่รอช้าที่จะค่อยบรรจงจุมพิตซือโนะที่กับนั่งอยู่บนตักของตน เพื่อรับและมอบความรักที่มีต่อกันและกัน

                ฮิบาริ เคียวยะ ดำรงตำแหน่งผู้พิทักษ์สายหมอกของรุ่นที่ 10 แห่งวองโกเล่ อีกทั้งยังเป็นคนรักหรือสามีของรุ่นที่ 10 ในยามต่อสู้เขาจะคอยระวังแหวนบนมือ หากแต่ไม่ใช่ที่นิ้วกลางขวาแต่เป็นที่นิ้วนางซ้าย

                ฮิบาริ ซือโนะ (สึนะโยชิ) บอสวองโกเล่แฟมิลี่ รุ่นที่ 10 ผู้คนต่างคิดไปเองว่าเธอเป็นเพียงน้องสาวของว่าที่บอสตัวจริงแห่งวองโกเล่ ซาวาดะ สึนะโยชิ แต่แท้จริงแล้ว ทั้ง ซาวาดะ สึนะโยชิ และ ฮิบาริ ซือโนะ ก็คือคนๆเดียวกัน ซึ่งในบางครั้งซือโนะก็ต้องกลับไปเป็นสึนะโยชิเพื่อทำงานในด้านการลงสนามสู้

    ทั้งคู่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ส่วนตัวที่อิตาลี ซึ่งรุ่นที่ 9 มอบให้เป็นของขวัญแต่งงานของทั้งคู่ และในยามว่างเวลาพักร้อนก็มักจะกลับไปญี่ปุ่นทุกๆฤดู เพื่อชมความงามของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ พักผ่อนในบ้านหน้าร้อน ซึ่งบ้านที่ไปอยู่ในญี่ปุ่นนั้นเป็นบ้านของเคียวยะเอง และบางครั้งก็จะไปเยี่ยมพ่อและแม่อยู่เป็นครั้งคร่าว

     

    EXTRA

    เวลาอาหารเช้าที่คฤหาสน์สองสามีภรรยาฮิบาริ

                “เคียวยะ ขอถามอะไรหน่อยสิ...”

                “ว่ามาสิ...”

                ฮิบาริพูดในขณะที่กำลังยกกาแฟที่ศรีภรรยาชงให้ขึ้นดื่ม

                “ถ้าหาก...เรามีลูก...เคียวยะอยากให้เป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายละ”

                “อืมม ก็ต้องเป็นผู้หญิงอยู่แล้วละ ก็เธอออกจะสวยแล้วก็น่ารัก ลูกสาวคงจะต้องน่ารักมากๆเหมือนเธอแน่ๆ”

                “อืม...แล้วถ้าเป็นลูกชายละ...”

                “ลูกชายเหรอ ก็คงจะมีนิสัยเหมือนฉันละมั้ง เดี๋ยวสิ ถ้าหากว่าเหมือนฉันละ อย่างนี้จะไม่มาแย่งเธอไปจากฉันเหรอ”

                “คะ...เคียวยะ ใจเย็นๆ เอิ่ม...งั้น ง่ายๆเลย ลูกแฝดชายหญิงละ”

                “อืม น่าสน งั้นอย่ารอช้า...”

                เคียวยะอุ้มซือโนะและพาขึ้นชั้นสองไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรื่องจะเป็นยังไงก็คงจะสามารถเดากันได้....

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Writer's Say
    ในที่สุดก็ HAPPY ENDING ไปในคู่แรก หลังจากที่ถูกเร่งในการเขียนและอัพลง
    ไรต์เตอร์ก็ดีใจนะเออ ที่มีคนคอยติดตามงานน่ะ อ่าน Comment แล้วน้ำตาไหลทุกที
    เอาละๆๆ เลิกดราม่าดีก่า ตอนนี้ก็กำลังเขียนเรื่องของ สควอโล่ x รีเทิร์น อยู่
    ว่างๆก็ลองไปอ่านกันบางเน้อ
    *** สำคัญฉุดๆ Comment ในเค้าบ้าง เค้าเห้นแล้วมันมีกำลังใจในการเขียนอ่าาาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×