ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลูบคมกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #6 : แน่หรือว่าเธอคือ The One 2

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 67


    ในวันถัดมาซึ่งเป็นวันของการไปงานปาร์ตี้ แดเนียลขับรถเช่ามุ่งหน้าไปยังโรงแรมห้าดาวติดแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นจุดขึ้นเรือดินเนอร์ตามที่การะเกดแจ้งมาทางกล่องข้อความ พนักงานของโรงแรมที่รอต้อนรับลูกค้า รี่เข้ามากล่าวคำต้อนรับและผายมือเชื้อเชิญให้เขาเดินทะลุตัวตึก ผ่านสวนด้านหลังจนกระทั่งเห็นเรือดินเนอร์ลำใหญ่ที่ติดไฟประดับอย่างน่ามอง

    “สวัสดีค่ะ เชิญที่ดาดฟ้าของเรือเลยนะคะ พนักงานเจ็ดคนที่แต่งกายคล้ายกับเกดรอต้อนรับท่านอยู่บนเรือแล้วค่ะ ระวังลื่นด้วยนะคะ” การะเกดต้อนรับลูกค้าคนแล้วคนเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ข้างกายของเธอมีร่างสันทัดของผู้จัดการหนุ่มแผนกอาหารและเครื่องดื่ม

                “เหนื่อยไหมครับคุณเกด” ปราชญ์ หนุ่มใหญ่วัย 37 มองเสี้ยวหน้าหวานด้วยประกายตาชื่นชม เขาเฝ้ามองสาวสวยคนนี้มานานนับปีแล้ว หล่อนสดใสราวกับดอกไม้แรกแย้มและทำให้เขารู้สึกว่าการทำงานในคืนวันเสาร์คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด

                “ไม่เลยค่ะ คุณปราชญ์ไม่จำเป็นต้องรอรับลูกค้ากับเกดก็ได้นะคะ แค่ดีลกับคิวปิดฮัทและคอยอำนวยความสะดวกให้ทุกครั้งแบบนี้ เกดก็ไม่รู้จะขอบคุณคุณปราชญ์ยังไงแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวยิ้มอ่อนหวานจากน้ำใสใจจริง

    เธอรู้ว่าผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มอย่างปราชญ์คิดอย่างไร เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนใจ ทว่าเธอก็ไม่อาจเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อเขาได้เช่นกัน สาเหตุหลักก็คงมาจากหน้าตาตี๋สุดๆ กับส่วนสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรของหนุ่มใหญ่คนนี้นี่เอง  

                “พรุ่งนี้คุณเกดว่างไหมครับ ผมอยากจะชวนไปทานข้าวสักมื้อ เพื่อนของผมคนหนึ่งเปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่สุขุมวิท ก็เลยอยากเชิญคุณเกดไปสักครั้งครับ” หนุ่มใหญ่รีบรุกเมื่อสบโอกาส

                “เอ่อ เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าค่ะคุณปราชญ์ คือ… ช่วงนี้เกดค่อนข้างงานยุ่งค่ะ” หญิงสาวหาข้ออ้างมาบอกไม่ต่างจากครั้งก่อนๆ แล้วรีบหันไปทักทายลูกค้าหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง

                “ผมไม่ได้มาเลทใช่ไหมครับ” ผู้ชายคนนั้นถามด้วยภาษาไทยแปร่งหู เขาสูงอย่างต่ำร้อยแปดสิบเซนติเมตร และดูไร้ที่ติตั้งแต่เส้นผมยันปลายเท้า

                “ไม่ค่ะ อีกสามนาทีเรือถึงจะออก เชิญข้างบนเลยนะคะ พนักงานเจ็ดคนรอต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้คุณอยู่ข้างบนแล้วค่ะ” การะเกดยิ้มกว้างให้เขาพลางหยิบปากกามาขีดเพิ่มจำนวนลูกค้าฝ่ายชาย ซึ่งในสมุดโน้ตขนาดเท่าฝ่ามือนั้นบอกว่าฝ่ายหญิงมาครบแล้ว เหลือเพียงฝ่ายชายอีกคนเดียวก็จะครบห้าสิบคน

                “งั้นผมขอตัวกลับไปดูแลความเรียบร้อยในห้องอาหารต่อก่อนนะครับ” ปราชญ์บอกเสียงแผ่ว แววตาฉายความผิดหวังแบบปิดไว้ไม่มิด

                “ค่ะ” แม้จะรู้สึกผิดที่ปฏิเสธเขามาโดยตลอด แต่กามเทพสาวก็ทำได้เพียงยิ้มให้กำลังใจ หลังจากยืนกระสับกระส่ายรอการมาของผู้โดยสารคนสุดท้ายจนเกือบจะตัดสินใจขึ้นเรือและบอกให้กัปตันออกเรือได้ นัยน์ตากลมโตก็สะดุดเข้ากับร่างสูงที่ทำให้ใจเต้นถี่เร็วยิ่งกว่าการเห็นลูกค้าคนไหน

                แดเนียล… เขาหล่อเหลา ดูดีทุกกระเบียดนิ้วจนคนอยากได้แฟนจนตัวสั่นอย่างเธอถึงกับประหม่าเวลามองร่างสูงอยู่ในชุดสูทสากลทันสมัยในมาดของนักธุรกิจแบบนี้ ปกติเธอมักจะหาจุดบกพร่องของผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ตั้งแต่สามนาทีแรกที่เห็น แต่เคสนี้กลับยากเสียจนคิดว่าต้องอาศัยแว่นขยาย 

                “สวัสดีครับเคท” แดเนียลโค้งศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงทักทายอย่างให้เกียรติ “ผมเดาว่าผมน่าจะมาถึงเป็นคนสุดท้าย”

                “สวัสดีค่ะคุณแดน” การะเกดสั่งใจไม่ให้เต้นแรงเกินกว่าเหตุ “คุณเดาถูกแล้วล่ะค่ะว่ามาถึงเป็นคนสุดท้าย เชิญข้างบนเลยค่ะ คืนนี้นอกจากเกดแล้วก็มีกามเทพจากคิวปิดฮัทมาช่วยดูแลความเรียบร้อยอีกเจ็ดคน พวกเขาแต่งตัวเหมือนเกดนะคะ”

                “เชิญคุณสุภาพสตรีก่อนดีกว่าครับ” หนุ่มลูกครึ่งผายมือให้เธอเป็นคนก้าวนำ 

                กามเทพสาวไม่มีทางเลือกนอกจากหมุนตัวและเดินนำเขาขึ้นไปเรื่อยๆ แต่เพราะมัวพะว้าพะวังจะให้ท่วงท่าการเดินแลดูสง่างามเหมือนนางหงส์เหิรในสายตาของเขา ส้นแหลมของรองเท้าส้นสูงเจ้ากรรมจึงดันไปติดในช่องว่างระหว่างไม้จนหน้าคะมำ 

                “ว้าย !”

                “เคท !” แดเนียลอุทานพลางคว้าเอวคอดไว้ได้ทันก่อนที่ร่างสมส่วนจะเสียหลักหน้าทิ่ม“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”

                “มะ ไม่ค่ะ แค่ส้นรองเท้ามันติดในช่องไม้เท่านั้น” การะเกดหันมาบอกเสียงสั่น ยิ่งรู้ว่าอยู่ใกล้เขาชนิดที่ได้กลิ่นโคโลญจน์ ก็ยิ่งกระอักกระอ่วนจนทำตัวไม่ถูก มือสั่นเทาเกาะราวเหล็กไว้มั่นยามเอวถูกมือแข็งแรงปล่อยเป็นอิสระ 

                “ผมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปเป็นเจ้าชายในเรื่องซินเดอเรลล่าอย่างไรอย่างนั้นเลย” ชายหนุ่มกล่าวกลั้วหัวเราะขณะทรุดลงไปดึงรองเท้าส้นสูงเจ้ากรรม แล้วดึงเท้าเปลือยของกามเทพสาวมาบรรจงสวมรองเท้าให้ด้วยสัมผัสอ่อนโยน  

                “ขอบคุณค่ะ น่าเสียดายที่ค่ำคืนนี้เกดก็ไม่ใช่ซินเดอเรลล่า เพราะซินเดอเรลล่ายี่สิบห้าคนรอให้เจ้าชายอย่างคุณแดนขึ้นไปทำความรู้จักอยู่บนดาดฟ้าแล้วค่ะ เกดคิดว่าพวกเขาน่าจะเห็นความน่ารักของคุณแดนที่อุตส่าห์ช่วยเกดเมื่อกี้ แล้วก็คงจะพากันภาวนาขอให้สุภาพบุรษอย่างคุณเข้าไปทำความรู้จัก”การะเกดทำใจดีสู้เสือตอบโต้ไปด้วยไหวพริบการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

                แดเนียลลุกขึ้นเต็มความสูง ไล่สายตาไปทั่วดวงหน้ารูปไข่เหมือนจะเก็บรายละเอียดของทุกรูขุมขน คืนนี้การะเกดรวบผมขึ้นในสไตล์เก๋ไก๋ อวดใบหน้ากับลำคอระหง รวมถึงเนินอกเพียงเล็กน้อยพอให้เห็นว่าหล่อนเซ็กซี่อย่างมีคลาส ผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนอยู่ภายใต้แสงไฟสีเหลืองอ่อน

    ต่างหูสีแดงห้อยระย้าลงมาคลอเคลียกับไหล่ ตัดกับชุดนางฟ้าสีขาวแบบเปิดไหล่และหลังซึ่งชายยาวกรุยกรายอย่างน่าดูชม ทว่าสิ่งที่สะดุดตาเขามากที่สุดกลับเป็นปีกสีขาวคล้ายปีกกามเทพหรือปีกของนางฟ้าที่อยู่ด้านหลังของชุด เมื่อนำคะแนนของเสื้อผ้าหน้าผมมารวมกัน ก็ได้ข้อสรุปว่า การะเกดสวยจนเขาไม่อยากละสายตาไปทางอื่นเลยทีเดียว

    “เอ่อ ได้เวลาเรือออกแล้วค่ะ” หญิงสาวเร่งฝีเท้าเดินนำขึ้นไปสมทบกับทุกคนด้วยความระมัดระวัง เมื่อถึงดาดฟ้าของเรือก็เป่าลมร้อนๆ ผ่านริมฝีปากอย่างโล่งอกที่ไม่ซุ่มซ่ามหกล้มหน้าคะมำให้อายเป็นครั้งที่สอง

                หลังจากเรือลำนั้นแล่นออกจากท่าน้ำของโรงแรม การะเกดกับเพื่อนร่วมงานทั้งเจ็ดก็เริ่มแนะนำตัว ก่อนที่จะขอให้ผู้เข้าร่วมปาร์ตี้แนะนำตัวทีละคนระหว่างชั่วโมงค็อกเทล 

    ลูกค้าทุกรายยิ้มแย้มแจ่มใสและเข้าขากันดีกับฝ่ายตรงข้าม ทุกคู่ที่เธอกับเพื่อนร่วมงานทั้งเจ็ดคนแวะเวียนเข้าไปถามไถ่ ต่างก็ตอบเป็นเพียงเสียงเดียวกันว่าชื่นชอบบรรยากาศและดื่มด่ำกับวิวของสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

                “คุณเกดจัดปาร์ตี้แบบนี้ แฟนไม่บ่นเหรอครับว่าไม่มีเวลาให้เขา” ฟิลิปป์ หนุ่มฝรั่งเศสที่พูดไทยได้พอสมควรถามกลับระหว่างที่เธอเดินเข้าไปพูดคุยกับเขาและสาวสวยคนหนึ่ง

                “พอดีเกดไม่มีแฟน ก็เลยรอดตัวไปค่ะ” การะเกดหัวเราะในลำคอ ตอบเขาแล้วก็หันไปส่งยิ้มให้ลูกค้าสาวที่ยืนขนาบหนุ่มหล่อ “รับไวน์เพิ่มไหมคะคุณนุช เดี๋ยวเกดจัดการให้”

                “เดี๋ยวผมบริการคุณนุชเองครับ คุณเกดไม่ต้องเป็นห่วง” ฟิลิปป์เสนอตัวตามแบบฉบับของสุภาพบุรุษ ซึ่งท่าทีสนิทสนมของคนทั้งคู่ทำให้กามเทพสาวพอใจอย่างยิ่งยวด เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่เธอจะประสบความสำเร็จและได้โบนัสพิเศษย่อมสูงขึ้นไปอีก 

                “คุณฟิลิปป์พูดแบบนี้ เกดไม่ขออยู่เป็นก้างขวางคอแล้วนะคะ” นัยน์ตาหวานซึ้งเจิดจ้าอย่างมีความหวัง เธอถือแก้วไวน์ที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วตรงไปพูดคุยกับลูกค้ารายอื่น ทว่าพอเหลือบเห็นแดเนียลยืนคุยกับสาวสวยสองคนอยู่ทางหัวเรืออย่างออกรสออกชาติ ขาก็พานจะหมดแรงลงดื้อๆ 

                “บ้าจริง ! หวังอะไรกันนะเรา เขามางานปาร์ตี้นี้ก็เพื่อจะหาแฟนนะ” เรียวปากอิ่มผรุสวาทสมองที่คิดไม่เข้าท่าของตน 

                “บ่นอะไรน่ะพี่เกด” เสียงหวานใสของผู้ช่วยสาวทำให้การะเกดหันขวับ รู้ว่าเผลอตัวหลุดปากเผยไต๋ให้อีกฝ่ายรู้เสียแล้ว 

    “พี่แค่ปลงตกกับโชคชะตาของตัวเองเท่านั้น” ตอบไม่เต็มเสียงและเผลอมองไปหาต้นตอของความหงุดหงิด

    “ให้โอกาสคุณแดนเขาได้คุยกับสาวๆ และเปรียบเทียบหน่อยสิว่าสาวสองคนนั้นไม่ได้สวยน่ารักเท่าพี่เกด เพราะตอนขึ้นเรือที่รองเท้าของพี่เกดติด เขาก็ทำตัวน่ารักกับพี่เกดเชียวน้า” สาวเปิ่นกล่าวปะเหลาะให้กำลังใจ

    “พี่ไม่อยากหวังอะไรแล้ว หนูษาเข้าไปทักทายพวกเขาหน่อยสิ พี่จะลงไปดูว่าข้างล่างเรียบร้อยดีหรือยัง” หญิงสาวหาเรื่องจะปลีกตัวหนี แต่กลับได้รับการส่ายหน้าจากผู้ช่วย

    “พี่เกดเข้าไปทักทายคุณแดนกับสองสาวนั่นดีกว่า เดี๋ยวหนูษาลงไปเช็กให้เอง ไปให้คุณแดนเขาเห็นหน่อยว่าบนเรือลำนี้ใครสวยสุด” คนพูดคะยั้นคะยอ

    “ใส่ชุดติดปีกอย่างกับเด็กอนุบาลแบบนี้ ใครมองแล้วคิดว่าสวยก็ต๊องแล้ว เอาล่ะ…หนูษาลงไปเช็กความเรียบร้อยข้างล่างก็ได้ เดี๋ยวพี่จะไปทักทายสามคนนั้นเอง” การะเกดกล่าวด้วยใบหน้างอง้ำกับชุดที่เจ้านายสุดโหดบังคับให้เธอกับเพื่อนร่วมงานใส่ในงานปาร์ตี้ เธอสูดหายใจเอาอากาศเย็นสบายเข้าเต็มปอด แล้วเดินเข้าไปหาแดเนียลกับอีกสองสาวด้วยท่วงท่าของสาวมั่น

                “เป็นยังไงบ้างคะ เฮ้าส์ไวน์ของที่นี่ใช้ได้ไหม” เธอเอียงคอถามและพยายามให้ความสนใจแก่ทั้งสามเท่ากัน ไม่อยากให้ ‘เขา’ คิดว่าเธอให้ความสนใจกว่าใครอื่น

                “ลื่นคอมากเลยค่ะ เอิงคิดว่าไวน์แก้วนี้คงจะทำให้เจริญอาหารผิดปกติแน่เลยค่ะ” สาวสวยอายุน่าจะไล่เลี่ยกับเธอตอบพลางปรายตาหวานซึ้งให้แดเนียล

                “ใช่ค่ะ ทั้งไวน์ทั้งของว่างถูกปากไม่ต่างจากครั้งก่อนเลยค่ะคุณเกด” อีกหนึ่งสาวซึ่งการะเกดจำได้ว่ามาร่วมงานปาร์ตี้แล้วครั้งหนึ่งยิ้มเยือนมาเช่นกัน

                “ได้ยินคุณเก๋บอกอย่างนี้เกดก็เบาใจค่ะ เกดหวังว่าคืนนี้คุณเก๋กับคุณเอิงจะพบคนถูกใจบ้างนะคะ”กามเทพสาวแสร้งหลิ่วตาล้อเลียนสองสาวซึ่งพากันหัวเราะร่วน

                “เรื่องแบบนี้ปรบมือข้างเดียวยังไงมันก็ไม่ดังหรอกค่ะ จริงไหมคะคุณแดน” สาวผู้มีนามว่าเอิงส่งยิ้มยั่วเย้าให้หนุ่มเพียงคนเดียว

                “จริงครับ” แดเนียลยิ้มที่มุมปาก ทว่าสายตากลับจ้องตากลมโตของการะเกดนิ่ง “เรื่องของหัวใจ ปรบมือข้างเดียวยังไงมันก็ไม่ดัง ใช่ไหมครับเคท”

                “ค่ะ เอ่อ… เกดขอตัวไปหาท่านอื่นๆ ก่อนนะคะ อีกสักครู่เกดจะเชิญทุกคนลงไปทานอาหารด้านล่างค่ะ” หญิงสาวกล่าวเสร็จก็หมุนตัว เดินห่างออกไปจากทั้งสาม หัวใจเต้นโครมครามกับคำพูดสองแง่สองง่ามของแดเนียล

    เขาจงใจทอดสะพานให้เธออยู่หรือเปล่านะ ?

                คงไม่หรอกมั้ง… ไปหาผู้ชายเอาดาบหน้าดีกว่ายายเกด ถ้าหมดปัญญาจริงๆ คว้าคุณปราชญ์มาควงในช่วงโค้งสุดท้าย ยอมคบหากับเขาสักระยะให้พ้นช่วงวิกฤติค่อยขอเลิกก็ยังได้” การะเกดสั่งตัวเองให้เลิกคิดเข้าข้างตัวเอง เธอมีจรรยาบรรณมากพอที่จะไม่แย่งลูกค้ามาจากลูกค้าสาวๆ 

    ประมาณห้านาทีหลังจากนั้น หญิงสาวกับเพื่อนร่วมอาชีพทั้งเจ็ดก็ช่วยกันต้อนลูกค้าลงไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่ชั้นล่างของเรือซึ่งมีนักร้องสาวเสียงใสร้องเพลงรักหวานซึ้งขับกล่อมให้บรรยากาศของการรับประทานอาหารโรแมนติกยิ่งขึ้น

    “ซินเดอเรลล่าเคทไม่ทานอะไรแบบนี้ ระวังจะหิวจนหน้ามืดนะครับ” แดเนียลซึ่งลุกมาเติมอาหารที่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์เย้าด้วยตาเป็นประกาย เขาแอบโล่งใจที่ยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติในการปฏิบัติงานของหล่อนกับคนอื่นๆ เพราะหากการะเกดให้ความสนิทสนมกับลูกค้าชายรายไหนเป็นพิเศษ ก็อาจส่อเค้าว่ามีลับลมคมในกัน

                “ปกติคืนวันเสาร์ที่ต้องดูแลงานปาร์ตี้แบบนี้ เกดทานตอนห้าทุ่มค่ะ คืนนี้มีสาวสวยหลายคนมากๆ คุณแดนถูกใจใครเป็นพิเศษไหมคะ” กามเทพสาวกลั้นใจถามกลับพร้อมกับถือโอกาสมองเพื่อนร่วมงานทั้งเจ็ดคนว่ามีใครมองมายังจุดที่เธอกับเขายืนคุยกันอยู่หรือเปล่า โชคดีที่แต่ละคนง่วนกับการพูดจาปราศรัยกับลูกค้า 

                “ให้คุณเดาว่าคนไหนถูกใจผมที่สุด” ชายหนุ่มกวาดตามองลูกค้าสาวยี่สิบห้าคนก่อนจะหยุดสายตาลงที่คู่สนทนา

                “อืม…ก่อนตอบ เกดขอถามคุณแดนก่อนละกันค่ะว่าสเปกของคุณแดนเป็นแบบไหน” เธอจ้องตาคมแบบไม่ยอมหลบ ใจจริงก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงในอุดมคติของเขารูปร่างหน้าตาประมาณไหน 

                “สเปกของผมเหรอครับ” แดเนียลรำพึงรำพัน ทำหน้าเหมือนคนใช้ความคิดอย่างหนักอยู่เกือบหนึ่งนาทีจึงตอบเสียงเอื่อย “ตัวเล็ก ตาคม ผมยาว และก็ผิวสีน้ำผึ้งมั้งครับ ถ้าเจอเมื่อไรช่วยกระซิบบอกด้วยนะครับ ผมจะรอคำตอบ”

                เขาชะโงกหน้าเข้ามาส่งยิ้มล้อเลียนก่อนจะถือจานอาหารกลับไปนั่งลงที่เดิม คนมองตามเม้มปากแน่น ไม่ต้องเสียเวลาคิดหรือเสาะหาว่าผู้หญิงลักษณะดังกล่าวอยู่มุมไหน เธอก็รู้อยู่เต็มอกแล้วล่ะว่าเขากำลังหมายถึงใคร 

    “คนบ้า !”  

                “เอ่อ คุณเกดด่าผมหรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหลังทำเอาหญิงสาวสะดุ้งโหยง รีบหันกลับไปหาเขาและสั่นหน้าปฏิเสธ

                “ปละ เปล่านะคะคุณฟิลิปป์ เกดไม่ได้หมายถึงคุณเลยค่ะ” หน้าตาที่หล่อเหลา โดดเด่นในกลุ่มของลูกค้าผู้ชายของเขา ทำให้กามเทพสาวจดจำได้แม่น

                “แล้วไป ผมตกใจแทบแย่ นึกว่าทำอะไรไม่เข้าท่าให้คุณเกดเกลียดขี้หน้าเสียอีก” หนุ่มหล่อแกล้งถอนหายใจออกยาว “ปาร์ตี้คืนนี้วิเศษมากเลยครับ”

                “เกดดีใจที่คุณฟิลิปป์ชอบค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวาน การเข้ามาคุยด้วยของลูกค้าระหว่างงานปาร์ตี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะพวกเขาเห็นว่าเธอรู้จักทุกคนในนี้ดีและน่าจะช่วยในการตัดสินใจได้ “แล้วมีสาวไหนที่คุณฟิลิปป์สนใจมากเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”

                “ก็หลายคนนะครับ” หนุ่มฝรั่งเศสหัวเราะ “ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายหลายใจยังไงก็ไม่รู้”

                “อย่าคิดแบบนี้สิคะ นี่เป็นปาร์ตี้ที่ทุกคนมีสิทธิ์หลายใจหรือลังเลได้ค่ะ เกดเข้าใจว่าทุกคนต้องการเลือกคนที่เราเห็นว่าดีที่สุด ซึ่งบ่อยครั้งอาจจะลังเลเพราะมีตัวเลือกที่ถูกใจใกล้เคียงกันหลายคน คุณฟิลิปป์ต้องให้เวลาตัวเองได้คิดและตัดสินใจสักนิดค่ะ” การะเกดตอบไปตามเนื้อผ้า 

                “ถ้าคุณเกดเป็นหนึ่งในลูกค้าสาวๆ ผมคงไม่ต้องลังเลขนาดนี้” สายตาคนพูดจ้องมองมายังเธอราวกับจะละเลียดลงกระเพาะอาหาร 

                “คุณฟิลิปป์เก็บคำพูดหวานๆ แบบนี้ไว้พูดกับสาวโชคดีสักรายดีกว่าค่ะ” กามเทพสาวแสร้งหัวเราะหน้าระรื่น แม้จะไม่คิดอะไรกับเขา แต่เจอคำชมกับสายตาแบบนี้เข้า ใจสาวโสดก็เต้นไม่เป็นส่ำได้เหมือนกัน ไม่เสียทีที่เธอให้น้องสาวนวดหน้า มาร์กหน้าให้เป็นชั่วโมง ออร่าความสวยมันถึงเตะตาสองหนุ่มหล่อกินกันไม่ลงอย่างแดเนียลและฟิลิปป์

                “พูดแบบนี้แสดงว่าคุณเกดมีคนรู้ใจแล้วใช่ไหมครับ” ลูกค้าหนุ่มยังไม่ยอมเลิกรา 

                “ถ้าเกดตอบว่ายัง คุณฟิลิปป์จะเชื่อไหมล่ะคะ” การะเกดถามกลับด้วยประกายตาหยอกเย้าเมื่อความคิดบางอย่างผุดวาบขึ้นมากลางมันสมอง

    พ่อเอ๊ยแม่เอ๊ย ! ในเมื่อลูกค้าหน้าตาหล่อน่าลากมารุกขนาดนี้ ยายเกดขอหลวมตัวลองหว่านเสน่ห์ดูสักตั้งเถอะ  

                “เชื่อสิครับเพราะผมก็ภาวนาขอให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน” ชายหนุ่มกล่าวพลางหยิบนามบัตรสีดำ ฉลุตัวหนังสือสีทอง จากกระเป๋าเสื้อสูทมายื่นให้

                “ผมรู้คุณเกดคงไม่สะดวกที่จะคุยกับผมมากกว่านี้เพราะตอนนี้เราสองคนอยู่ในฐานะแม่งานกับลูกค้า เอาเป็นว่าผมจะรอสายของคุณเกดนะครับ” เขาส่งยิ้มโปรยเสน่ห์มาให้แล้วหันไปมองโต๊ะที่เดินจากมา “ผมหวังว่าเราจะมีโอกาสไปดินเนอร์และทำความรู้จักกันสักครั้งนะครับ”

                “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยอมรับนามบัตรมาเก็บไว้แต่โดยดี ยิ้มแก้มแทบปริเมื่อเห็นว่าแม้หนุ่มหล่อจะกลับไปสมทบกับสาวๆ แต่เขาก็ยังส่งสายตามาให้เป็นระยะ

              ชั่วโมงสุดท้ายของงานปาร์ตี้เป็นการกลับขึ้นไปเต้นรำบนดาดฟ้าซึ่งการะเกดตั้งชื่อช่วงเวลานั้นว่า‘สามนาทีที่มีความหมาย’ โดยให้ลูกค้าสลับสับเปลี่ยนคู่เต้นรำทุกสามนาที จนกระทั่งได้เต้นรำกับเพศตรงข้ามครบทุกคน

                “ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานปาร์ตี้ในคืนนี้นะคะ พวกเราหวังว่านอกจากท่านจะได้รู้จักเพื่อนใหม่แล้ว ท่านจะรู้ใจตัวเองมากขึ้นด้วยค่ะ เกดจะส่งข้อความไปขอฟีดแบ็กของทุกท่านทางกล่องข้อความ หวังว่าทุกท่านจะให้ความร่วมมือกรอกแบบสอบถามนะคะ ถ้าหากท่านสนใจจะร่วมงานปาร์ตี้อีก อย่าลืมกดสายหาเกดที่คิวปิดฮัทนะคะ” 

                หญิงสาวกล่าวปิดท้ายงานปาร์ตี้ขณะที่เรือแล่นเข้าไปจอดเทียบท่า ก่อนจะยืนเรียงแถวทิ้งระยะห่างเป็นระยะกับกามเทพสาวอีกเจ็ดคนบนทางเดินลงไปยังท่าน้ำเพื่อขอบคุณลูกค้าแบบรายตัว  

                “เป็นยังไงบ้างครับคุณฟิล คืนนี้แจกนามบัตรให้สาวๆ ไปกี่ใบครับ” แดเนียลก้าวมายืนข้างหนุ่มเมืองน้ำหอมและถามด้วยใบหน้ายิ้มๆ 

    ตลอดเวลาระหว่างงานปาร์ตี้ เขาพยายามพูดคุยและสังเกตท่าทีของลูกค้าผู้ชายทุกคน แล้วพบว่าฟิลิปป์กับหนุ่มหล่ออีกคนเข้าข่ายผู้ต้องสงสัยที่สุด เพราะสองหนุ่มแข่งกันแจกนามบัตรให้สาวสวยนับสิบราย

                “แย่จัง มีคนแอบเห็นด้วยว่าผมทำแบบนั้น” ฟิลิปป์หัวเราะในลำคอ มองซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็นสายตาของใคร ก็ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้คู่สนทนา “เผอิญคุณเกดบอกว่างานนี้ผมมีสิทธิ์หลายใจ ผมก็เลยทำตามคำแนะนำของเธอ ด้วยการแจกนามบัตรให้สาวๆ ที่คิดว่าน่าสนใจครับ คิดว่าค่อยคัดออกทีละรายสองรายดีกว่า คุณแดนสนใจใครเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ ถ้าหากเราใจตรงกัน ผมจะได้เป็นฝ่ายขอสละสิทธิ์”

                “ขอบคุณครับ แต่ผมชอบการแข่งขันแบบแฟร์ๆ มากกว่า” แดเนียลยิ้มที่มุมปาก “คุณฟิลเป็นสมาชิกของคิวปิดฮัทมานานหรือยังครับ ผมเพิ่งสมัครสมาชิกได้ไม่กี่อาทิตย์ ก่อนบินมาทำงานวิจัยที่เมืองไทยเอง”

                “ก็ประมาณสามเดือนแล้วครับ” ฟิลิปป์ตอบเสียงเอื่อย “คุณแดนทำงานวิจัยเกี่ยวกับอะไรเหรอครับ หน้าตาของคุณไม่เหมือนนักวิจัยเอาเสียเลย”

                “หึ” ตำรวจสากลหัวเราะในลำคอ “เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์น่ะครับ คุณฟิลทำงานด้านไหนครับ แล้วประจำอยู่ที่เมืองไทยตลอด หรือว่าบินไปๆ กลับๆ”

                “เข้าใจแล้วครับ ผมทำงานเกี่ยวกับชิปปิ้งครับ ปกติก็บินมาเมืองไทยปีละสี่ห้าครั้ง” ฟิลิปป์กล่าวถึงเท่านั้นก็เดินไปหยุดตรงหน้าของกามเทพสาวและก้มลงฝังจูบลงบนแก้มนุ่มหนึ่งครั้ง “ขอบคุณสำหรับปาร์ตี้คืนนี้ครับ ผมมีความสุขมาก”

                “ด้วยความยินดีค่ะ” การะเกดข่มความขวยเขิน เงยหน้าส่งยิ้มอ่อนหวานให้เขา

                “ผมจะรอสายของคุณนะครับ” หนุ่มเมืองน้ำหอมกล่าวทิ้งท้ายพร้อมกับส่งยิ้มกระชากใจแล้วเดินตามหลังคนอื่นๆ ลงไปกล่าวคำอำลากามเทพสาวอีกเจ็ดชีวิต เหลือเพียงลูกค้าคนสุดท้ายที่ผายมือและก้มศีรษะให้การะเกด

                “เลดี้เฟิร์สครับ”

                “เกดชักอยากรู้เสียแล้วสิคะว่าหนุ่มๆ จากเมืองผู้ดีเขาเป็นสุภาพบุรุษแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่า”การะเกดกล่าวเสียงกลั้วหัวเราะ แต่ก็ยอมเดินนำเขาลงไปอย่างระมัดระวัง 

                “ดูเหมือนฟิลิปป์จะสนใจเคทมากกว่าลูกค้าสาวยี่สิบห้าคนอีกนะครับ” แววตาคมเหมือนเหยี่ยวของแดเนียลฉายแววล้อเลียนยามคนถูกถามมองหน้าเขาด้วยประกายตาหวาดระแวง

                “คุณแดนหมายความว่ายังไงคะ”

                “หมายความว่าท่าทางเขาสนใจเคทกว่าสาวอื่นน่ะสิครับ” มุมปากคนพูดแย้มยิ้ม “ไม่ได้จ้องจะจับผิดนะครับ แต่บังเอิญผมเห็นเขาพยายามขายขนมจีบและเอานามบัตรให้เคท ไหนจะจูบเมื่อกี้อีก”

                “เมื่อกี้ไม่ใช่จูบค่ะ มันเป็นแค่หอมแก้มแสดงความขอบคุณและกล่าวอำลาเท่านั้น คุณแดนก็น่าจะเห็นว่าคุณฟิลิปป์เขาทำอย่างนั้นกับเพื่อนร่วมงานของเกดทุกคน” หญิงสาวแสดงอาการโกรธจัดอย่างลืมตัวเพราะคิดว่าเขากำลังดูถูก

                “โอเคครับ ไม่ใช่จูบ เพราะถ้าจูบคงต้องปากประกบปาก” ตอบโต้พลางหลุบตาลงมองเรียวปากอิ่มพลางด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ 

                “เวลาลูกค้าให้นามบัตร เกดไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอยู่แล้วค่ะ มันเป็นมารยาทว่าต้องรับไว้” กล่าวพลางเหลือบมองอีกสามสาวเพราะกลัวว่าจะเห็นสิ่งผิดปกติระหว่างเธอกับสุดหล่อ

                “รวมทั้งจูบ เอ่อ การหอมแก้มจากลูกค้าด้วยงั้นเหรอครับ” แดเนียลเล่นลิ้นบ้าง อยากรู้นักว่าหากเขาขอบคุณและอำลาในวิธีเดียวกัน หล่อนยังจะยิ้มระรื่นรับเหมือนกรณีของฟิลิปป์หรือเปล่า

                “ใช่ค่ะ อย่าหาว่าเกดเสียมารยาทกับคุณแดนเลยนะคะ แต่เกดต้องรีบเข้าไปคุยธุระกับทางโรงแรมอีก ขอตัวก่อนนะคะ” การะเกดพูดเร็วปรื๋อก่อนจะก้าวฉับๆ นำเขาและบอกเพื่อนร่วมงานทั้งเจ็ดชีวิตว่าหากส่งแขกเสร็จให้แยกย้ายกันกลับได้เลยเพราะเธอต้องเข้าไปคุยธุระกับผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม

                แท้จริงหญิงสาวไม่ได้แวะเข้าไปคุยกับปราชญ์ แต่เข้าไปหลบฉากในห้องน้ำใกล้ล็อบบี กระทั่งมั่นใจว่าทุกคนกลับหมดแล้วจึงเดินโผเผออกมา ทว่าสิ่งที่เธอคิดก็กลับตาลปัตรสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงของแดเนียลที่ยืนอยู่แถวล็อบบี

                 “อ้าว ยังไม่กลับอีกเหรอคะคุณแดน” ฝืนส่งยิ้มให้เขาตามมารยาทแม้ว่าจะยังหงุดหงิด

                “ผมคิดว่าผมทำให้เคทโกรธ ก็เลยอยากอยู่รอครับ” ชายหนุ่มตอบตามตรง

                “เปล่าค่ะ เกดไม่ได้โกรธอะไรคุณแดนเลย เกดแค่เหนื่อยและอยากเคลียร์งานให้เสร็จก่อนกลับไปพักผ่อนเท่านั้น” หญิงสาวแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ขณะเดินเคียงกันออกจากล็อบบีของโรงแรม 

                “I see” ชายหนุ่มงึมงำในลำคอ “เคทพอจะจำได้หรือเปล่าครับว่ามีลูกค้าคนไหนที่เคยมาร่วมงานปาร์ตี้คราวก่อนๆ”

                “ถ้าเป็นผู้ชายก็มีแค่สองคนคือคุณพอลกับอีวานค่ะ พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันและเป็นลูกค้าพรีเมี่ยมของคิวปิดฮัทมาหลายเดือนแล้วค่ะ ส่วนผู้หญิงรู้สึกจะมีคุณมนต์ คุณโอ๋ คุณแต้ว คุณจูน และก็คุณอี้ดค่ะ”

                “คุณพอลกับอีวานทำงานที่ไหน เคทพอจะรู้ไหมครับ” แดเนียลซักต่อ

                “พวกเขาเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่งค่ะ แต่เกดคงบอกคุณมากกว่านี้ไม่ได้” การะเกดกล่าวถึงตรงนี้ก็มองหน้าคนถามด้วยแววตาค้นคว้า “ทำไมคุณแดนถึงสนใจพวกเขานักล่ะคะ หรือว่าความจริงแล้วคุณไม่ได้สนใจสาวๆ แต่สนใจ…หนุ่มๆ”

                “โอ้ว โน !” ผู้สืบราชการลับลนลานทำไม้ทำมือปฏิเสธ ในขณะที่หล่อนหัวเราะร่วน 

                “อืม…เกดมาคิดๆ ดูแล้ว ตลอดงานปาร์ตี้ คุณแดนคุยกับหนุ่มๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหนุ่มหน้าตาดีอย่างคุณพอล คุณอีวาน คุณสตีฟ คุณเจคอบและคุณฟิลิปป์” กามเทพสาวทำหน้าทำตาเหมือนรู้ทัน

                “ผมเป็นผู้ชายล้านเปอร์เซ็นต์ครับ เคทจะให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้” แดเนียลแก้ตัวเสียงเครียด แววตาที่มองมากลายเป็นดุดันจริงจัง

                “เกดจะพยายามเชื่อก็แล้วกันค่ะ อุ๊ย ! คุณ!” หญิงสาวอุทานเสียงหลง เพราะจู่ๆ ใบหน้าหล่อเหลาฉกวูบลงมาหา จูบเฉียดปากของเธอเพียงนิดเดียว เนื่องจากเธอผลักออกตามสัญชาตญาณ “ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ!”

                “ไม่ถึงยี่สิบนาทีที่แล้วเคทยังชมผมอยู่หยกๆ เลยนะว่าเป็นสุภาพบุรุษ” คราวนี้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายกล่าวยั่วเย้าบ้าง แต่ก็ต้องรีบก้าวยาวๆ ตามคนโกรธจัดที่เร่งฝีเท้าเกือบเป็นวิ่งไปยังลานจอดรถ

                “เคท… เดี๋ยวก็ได้ล้มหน้าคะมำเพราะรองเท้าส้นสูงกับชุดรุ่มร่ามนั่นหรอก” เขาร้องตามเสียงกลั้วหัวเราะ ไม่คิดว่าเจ้าหล่อนจะโกรธและวิ่งหนีเหมือนเด็กๆ จากการถูกขโมยหอมแก้มเพียงฟอดเดียวแบบนี้

                “มันเรื่องของฉัน ตอนนี้งานปาร์ตี้เลิกแล้ว เราไม่มีอะไรต้องเกี่ยวกันอีก” มือบางรูดซิปกระเป๋าถือ ควานหากุญแจรถและกดปลดล็อกด้วยมือไม้สั่น พอเปิดประตูเข้าไปขังตัวเองอยู่ข้างในเหมือนกลัวเขาตามมากระชากประตู

                “ผมขอโทษที่ล่วงเกินคุณ ผมแค่อยากยืนยันว่าผมไม่ชอบผู้ชายเท่านั้น” แดเนียลก้มลงเคาะประตู แล้วบอกด้วยสีหน้าเสียใจ

                “โอเคค่ะ เกดเชื่อแล้วว่าคุณเป็นผู้ชายล้านเปอร์เซ็นต์” ตอบเขาพลางเสียบกุญแจและสตาร์ทเครื่องยนต์ แต่จู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าดินกลั่นแกล้ง เพราะรถคู่ทุกข์คู่ยากมันดันสตาร์ทไม่ติดขึ้นมาดื้อๆ “บ้าที่สุดเลย มารวนอะไรเอาตอนนี้นะ ติดสิ !”

                     “รถเป็นอะไรไปครับคุณผู้หญิง” นายตำรวจหนุ่มก้มลงมาเลิกคิ้วถาม เสียงแช้ด..แช้ด..แช้ด เวลาการะเกดสตาร์ทรถ มันฟ้องว่ารถของหล่อนกำลังมีปัญหา

                “สงสัยแบตเตอรี่จะมีปัญหาอีกแล้วค่ะ เกดเพิ่งเปลี่ยนมาเมื่อไม่ถึงปีนี่เอง” เจ้าของใบหน้างอง้ำหมุนกระจกลงมาตอบ 

                “อืม ลองบีบแตรดูสิครับ” เขาบอกเสียงทุ้มพร้อมกับเดินไปหน้ารถของเธอ 

                “แตรไม่ดังค่ะ” ใบหน้าสวยหงิกงอขึ้นไปอีก อารมณ์เสียจนทุบพวงมาลัยระบายความหงุดหงิด

                “งั้นลองเปิดไฟหน้าดูสิครับ” ชายหนุ่มสั่งเสร็จก็เดินไปหน้ารถ แล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพบว่าไฟหน้ารถหรี่ลงผิดปกติ “สงสัยขั้วแบตเตอรี่ที่ต่อไว้จะไม่เรียบร้อย เปิดกระโปรงรถให้ผมเช็กหน่อยครับ” 

               การะเกดรีบทำตามคำสั่ง แล้วเปิดประตู ก้าวลงจากรถไปยืนกอดอกชะเง้อชะแง้มองร่างสูง “คุณซ่อมรถเป็นเหรอคะ”

                “เรียกว่าเช็กเป็นดีกว่าครับ ถ้าให้ถึงกับต้องซ่อมจริงๆ ผมก็ไม่เป็นเหมือนกัน ลองสตาร์ทดูอีกทีสิครับ” เขายืดตัวขึ้นเต็มความสูงและบอกด้วยสีหน้ายิ้มๆ ยืนรอฟังผลเพียงไม่กี่อึดใจก็เห็นว่ารถสตาร์ทติด

                “ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ถ้าคุณแดนไม่อยู่ เกดคงแย่เพราะทำอะไรไม่เป็นเลย” หญิงสาวละล่ำละลักขอบคุณ

                “ว้า...รู้งี้ผมแกล้งทำเป็นบอกว่ามันเสียจนแก้ไขไม่ได้ดีกว่า จะได้หลอกให้เคทนั่งรถกลับด้วย” มือข้างหนึ่งของคนพูดยกขึ้นลูบท้ายทอยตัวเอง

                “เสียใจค่ะ เพราะถึงรถมันจะสตาร์ทไม่ติด เกดก็ไม่คิดจะนั่งรถกลับกับคุณหรอก เกดยอมรับว่าไม่ไว้ใจคุณค่ะ” นัยน์ตาดำขลับทอประกายขบขันอย่างน่ามอง

                “หน้าผมเหมือนอาชญากรนักเหรอครับคุณกามเทพ” เขายิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก เริ่มสนุกกับการต่อปากต่อคำกับสาวสวยตาคม 

                “ถ้าเหมือนก็คงเหมือนพวกอาชญากรข้ามชาติที่หลอกสาวไทยไปขายยุโรปเหมือนในข่าวมากกว่าค่ะ” การะเกดโพล่งด้วยความคะนองปาก แล้วก็ใจหายวาบเมื่อจู่ๆ ใบหน้ายิ้มแย้มตอนแรกของเขาเปลี่ยนเป็นถมึงทึง ชวนให้คิดว่าที่สีหน้าเขาเปลี่ยนไปแบบปัจจุบันทันด่วนเพราะเธอพูดจี้ใจจำ

                “เคทได้อ่านข่าวนั้นด้วยเหรอครับ” แววตาคนถามทั้งคาดคั้นทั้งหวาดระแวง

                “อ่านค่ะ เอ่อ...ดึกมากแล้ว เกดขอตัวกลับก่อนนะคะ บายค่ะ” คนพูดหลบตาคมกริบเป็นพัลวัน 

    อย่าบอกนะว่าข้อสันนิษฐานของเธอเป็นจริง เขาถึงได้ทำหน้าทำตาน่ากลัวแบบนั้น

                “เดี๋ยวสิครับเคท ! เคท !” ชายหนุ่มร้องตามเมื่อสาวเจ้าใส่เกียร์ถอย ขับรถหนีราวกับกลัวการเผชิญหน้า “อะไรของเขานะ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย ตอนนี้กลับทำท่าเหมือนเจอผีเสียงั้น”

                แดเนียลพึมพำแล้วก็หน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อใจกระหวัดคิดไปว่า หรือว่าหล่อนรู้ความจริงบางอย่างที่เขาไม่รู้ ‘หรือว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกอาชญากรนะเคท’

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×