ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลูบคมกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #5 : แน่หรือว่าเธอคือ The One

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 67


    “สวัสดีค่ะคุณแดเนียล ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ” การะเกดยกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มอ่อนหวานให้ลูกค้าที่มานั่งรอเธออยู่ในห้องรับรองอยู่เกือบห้านาทีแล้ว ใจสาวสั่นขึ้นมาดื้อๆ ยามคนรอส่งยิ้มมหาเสน่ห์พร้อมกับยื่นมือขวาออกมาหา เขาดูดีในเวลาทำหน้านิ่งๆ เหมือนในรูปถ่าย แต่พอยิ้มกว้างอวดไรฟันแบบนี้ก็เหมือนจะทำให้โลกทั้งใบสว่างไสวขึ้นมาทันตาเช่นกัน

                “สวัสดีอีกครั้งครับเคท ผมคือคนที่คุยโทรศัพท์กับคุณเรื่องงานปาร์ตี้เมื่อเกือบหนึ่งชั่วโมงที่แล้วพอดีผมมาทำธุระแถวนี้ ก็เลยถือโอกาสเข้ามาทักทายครับ” แดเนียลบีบมือบางที่ยื่นมาเบาๆ แล้วยอมปล่อยเมื่ออีกฝ่ายค่อยๆ ขืนมือออกอย่างละมุนละม่อม หล่อนสวยน่ารักจนเขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมตามประสาผู้ชายที่ยังหนุ่มแน่น

    “ทักทาย ?” กามเทพสาวหน้านิ่วกับเหตุผลของเขา แต่พอเห็นว่าเขาเป็นหนุ่มลูกครึ่งก็ตีความเอาเองว่าภาษาไทยอาจจะยังไม่แข็งแรง จึงใช้คำผิดๆ ถูกๆ “เอ่อ คุณแดเนียลมีอะไรสงสัยหรืออยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานปาร์ตี้หรือเปล่าคะ”

    “เรียกผมว่าแดนดีกว่าครับ แดเนียลมันดูเป็นทางการเกินไป” ชายหนุ่มยกแก้วน้ำเย็นขึ้นจิบแล้วส่งยิ้มให้อีก 

    “งั้นเรียกเกดว่า ‘เกด’ เฉยๆ ก็ได้ค่ะ” การะเกดยิ้มแหย แปลกเหลือเกินที่ครั้งนี้เธอรู้สึกแตกต่างจากการนั่งสนทนากับลูกค้าทุกราย มันเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน ราวกับการออกเดตครั้งแรกในชีวิต

                “ผมรู้ครับ แต่ผมอยากเรียกคุณว่า ‘เคท’ มากกว่าเพราะมันจำง่าย” แดเนียลยืนกรานความต้องการเดิม เอนหลังพิงพนักโซฟาหนานุ่มด้วยท่วงท่าสบายอารมณ์ “เคททำงานที่นี่มานานแล้วเหรอครับ”      

                “ก็ห้าปีแล้วค่ะ”

    “ก็ถือว่านานพอสมควร” คนถามพยักหน้ารับรู้ “แล้วปกติเคทรับผิดชอบอะไรบ้างครับ หรือว่าเฉพาะงานปาร์ตี้ล่องเรืออย่างเดียว”

                “เกดอยู่ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ค่ะ นอกจากปาร์ตี้ล่องเรือดินเนอร์ที่จัดขึ้นเดือนละสองครั้งซึ่งเกดเป็นคนดูแลโดยตรงแล้ว ก็ช่วยดูแลความเรียบร้อยเวลามีปาร์ตี้น้ำชาหรืออีเว้นต์ต่างๆ ค่ะ นอกเหนือจากนั้นก็ดูแลลูกค้าวอล์กอินและประชาสัมพันธ์ออกสื่อต่างๆ ด้วยค่ะ” ตอบเขาแล้วก็แอบงงว่าตกลงพ่อเทพบุตรต้องการจะมาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับงานปาร์ตี้ หรือจะมาสัมภาษณ์ประวัติการทำงานของเธอกันแน่ “คุณแดนล่ะคะ ทำงานด้านไหน แล้วบินมาเมืองไทยบ่อยหรือเปล่าคะ”

                “ผมทำงานด้านการลงพื้นที่หาข้อมูลและประมวลผลงานวิจัยครับ ผมไม่ได้มาเมืองไทยหลายปีพอสมควรแล้ว” เขาตอบแบบไม่ติดขัดเพราะถูกถามทำนองนี้มาหลายครั้งเวลาปฏิบัติงาน “แล้วลูกค้าที่ไปล่องเรือส่วนใหญ่เป็นคนไทยหรือว่าต่างชาติครับ ถ้าให้ผมเดา ส่วนมากน่าจะเป็นหนุ่มต่างชาติที่อยากปาร์ตี้กับสาวไทยใช่ไหม”

                “ก็ประมาณนั้นค่ะ แต่เป็นปาร์ตี้ที่ฝ่ายชายซีเรียสเรื่องการหาคู่มากกว่าอยากเฟิล์ตกันธรรมดานะคะ ผู้หญิงที่เกดเชิญไปงานปาร์ตี้ล้วนมีหน้าที่การงานและการศึกษาดีทุกคนค่ะ หลายรายแต่งงานและเชิญเกดไปงานแต่งของพวกเขา” กามเทพสาวเล่าให้เขาฟังด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ

                “Your job is to trust in me. My job is to fulfill your dream. True love is within your reach”แดเนียลหยิบยกประโยคที่กำกับอยู่ใต้ชื่อของเธอในอีเมลขึ้นมากล่าวด้วยแววตาล้อเลียน

                “คุณแดนคงคิดว่าสโลแกนการทำงานของเกดมันน่าขำใช่ไหมคะ” ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นงอง้ำโดยไม่รู้ตัวเมื่อรู้สึกว่าเขาเห็นเป็นเรื่องขบขัน          

                “เปล่าครับ ผมว่ามันน่ารัก ชวนให้ศรัทธามากกว่าครับ” ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนท่าที “ผมเดาว่าชีวิตรักของเคทคงหวานชื่น ไร้อุปสรรคกระมัง”

    “ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ” การะเกดจ้องตาคมไม่หลบ

                “ประการแรกเพราะเคทเป็นผู้หญิงที่สวย ประการที่สองเพราะทำงานด้านนี้โดยตรง ฉะนั้นเคทน่าจะเอ็กสเปิร์ตเรื่องรักๆ ใคร่ๆ” เขากล่าวด้วยใบหน้ายิ้มพราย แล้วก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายหัวเราะในลำคอและส่ายหน้าจนผมกระจาย

                “ข้อสันนิษฐานของคุณผิดตั้งแต่เริ่มต้นแล้วล่ะค่ะ เพราะเกดไม่มีแฟน” ตอบเขาเสร็จหญิงสาวก็อยากกัดลิ้นตัวเองให้ขาด เพราะคิดอีกที มันเหมือนกับว่าเธอกำลังให้ท่าเขาอย่างไรอย่างนั้นเลย 

                “จับได้แล้ว!” แดเนียลทั้งดีดนิ้วทั้งหลิ่วตา        

                “แต่เรื่องไม่มีแฟน มันไม่เกี่ยวอะไรกับงานของเกดเลยนะคะ เพราะสำหรับเกดแล้ว งานก็คืองาน เรื่องส่วนตัวก็ส่วนเรื่องส่วนตัว แล้วที่เกดไม่มีแฟนก็เพราะทำงานจนไม่มีเวลามากกว่าค่ะ” การะเกดลนลานแก้ตัวเพราะไม่อยากให้เขามองว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหาคู่ แต่ไม่มีปัญญาจะหาคู่ให้ตัวเอง

                “ผมเข้าใจครับ เพราะผมก็เข้าข่ายเดียวกันกับคุณ เพราะอย่างนี้นี่แหละผมถึงอยากไปงานปาร์ตี้ที่เคทจัดขึ้น เผื่อว่าจะเจอคนที่ใช่บ้าง” ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นยิ้มเศร้ายามนึกถึงอดีตรักร้าวของตน หลังจากเลิกรากันไปและได้คิด เขาก็ยอมรับว่ามีส่วนผิดที่ไม่มีเวลาให้ฝ่ายหญิง “ผมเคยมีความรัก แต่ก็ไปกันไม่รอดเพราะผมเอาแต่ทำงานจนไม่ค่อยมีเวลาให้ เขาเหนื่อยที่จะรอก็เลยเลือกคนอื่น”

                “ขอบคุณที่แชร์เรื่องของคุณให้เกดฟังนะคะ เกดเชื่อว่าปาร์ตี้ครั้งนี้คุณแดนจะต้องเจอคนที่ถูกใจสักคนแน่ค่ะ หวังว่าคุณแดนจะอยู่เมืองไทยนานพอที่จะรู้ใจตัวเองนะคะ” การะเกดส่งยิ้มบางๆ เพื่อให้กำลังใจ วิญญาณกามเทพเข้าสิงเมื่อรู้ว่ามาเจอหนุ่มสิ้นหวังในความรัก

                หญิงสาวนั่งคุยกับเขาเรื่องรายละเอียดของงานปาร์ตี้ต่อประมาณสิบนาทีและรับบัตรเครดิตของแดเนียลไปส่งให้มิลินตัดบัตรค่าเข้าร่วมงานปาร์ตี้ล่องเรือ

                “มะรืนนี้เจอกันนะครับ” แดเนียลยิ้มอ่อนโยนตามแบบฉบับ

                “ค่ะ” กามเทพสาวยืนมองจนกระทั่งร่างสูงออกจากหน้าบริษัทจึงทำหน้าม่อย เดินกลับโต๊ะทำงาน

                “เป็นไงบ้างพี่เกด โอเครึเปล่า” หรรษาชะโงกหน้าข้ามที่กั้นมาถามด้วยอาการอยากรู้

                “ก็เหมือนลูกค้ารายอื่น เขาอยากรู้มากกว่าว่าสาวๆ ที่จะไปเจอในงาน รูปร่างหน้าตาจะเป็นแบบไหน” ความไม่แน่ใจว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ ทำให้การะเกดได้แต่ยักไหล่และตอบตามเนื้อผ้า

    ถึงจะถูกตาต้องใจกับรูปลักษณ์ภายนอกของแดเนียลขนาดไหน แต่สุดท้ายเธอก็ได้แต่บอกตัวเองว่าเขาเป็นลูกค้า ซึ่งหากไม่ได้แสดงท่าทีว่าสนใจเธอออกนอกหน้า เธอก็ไม่มีสิทธิ์จะทอดสะพานให้ก่อน ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะดูถูกเอาได้ว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ 

                “ว้า…แย่จัง นึกว่าเจอกันปุ๊บจะสปาร์กกันปั๊บเสียอีก” ผู้ช่วยสาวหน้าม่อย ผิดหวังที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามคำภาวนาของเธอ

                “อย่าทำหน้าแบบนี้สิ ความจริงพี่ไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับลูกค้าของบริษัทอยู่แล้ว ทำงานต่อกันเถอะนะ”หญิงสาวตัดบทสนทนาและหันไปจัดการงานที่ค้างอยู่ต่อ ปลอบใจตัวเองว่าเธอยังมีเวลาหาแฟนอีกหลายเดือน และควรเลิกสนใจแดเนียลมากกว่าสนใจรายอื่น 

     

                ไม่ไกลจากตึกอันเป็นที่ตั้งของบริษัทคิวปิดฮัทมากนัก แดเนียลตัดสินใจเลือกร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นที่นัดพบปรัชวินทร์ซึ่งหลังจากโทรบอกประมาณยี่สิบนาที อีกฝ่ายก็เดินทางมาถึง นายตำรวจไทยอายุไล่เลี่ยกับเขา รูปร่างสูงเกือบร้อยแปดสิบเซนติเมตร และมีหน้าตาที่จัดว่าดูดีสำหรับคนไทย         

    “ในนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่ผมเพิ่งได้มาครับ เราพยายามมอนิเตอร์คิวปิดฮัทมากเป็นพิเศษในระยะนี้ แต่ก็ยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติ แต่ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าต่างชาติที่เข้าร่วมงานดินเนอร์ล่องเรือย้อนหลังหนึ่งปีตามที่คุณแดเนียลขอมานั้น ผมไม่สามารถหาให้ได้ครับเพราะมันขัดกับหลักการประกอบการธุรกิจเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค ถ้าหากเราไม่สามารถชี้ตัวลูกค้าเป็นรายคนนั้นว่าทำอะไรผิด เราก็บังคับให้บริษัทปล่อยข้อมูลออกมาไม่ได้” ปรัชวินทร์ส่งธัมไดรฟ์ให้อีกฝ่ายนำไปดาวน์โหลด

                “ไม่เป็นไรครับ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น” คนพูดยิ้มเยือน ก่อนที่ประกายตาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขณะกล่าวต่อ “ข่าวฝั่งยุโรปมันอึกทึกครึกโครม ผมคิดว่าพวกมันคงระวังตัวมากขึ้นและคงไม่ส่งคนเดิมมาเป็นนกต่อหรอกครับ เพราะอย่างนี้ผมถึงอยากไปงานปาร์ตี้ล่องเรือเพื่อสังเกตการณ์ เผื่อจะได้เบาะแสเพิ่มเติม”

                “มีข้อมูลอะไรที่คุณแดนอยากให้ผมช่วยหาอีกไหมครับ” นายตำรวจไทยถามหลังจากปล่อยให้อีกฝ่ายดูข้อมูลในไฟล์ที่เพิ่งโหลดไปแบบลวกๆ 

                “ผมต้องการประวัติของพนักงานที่ดูแลปาร์ตี้ทั้งหมดที่คิวปิดฮัทจัดขึ้นครับ”

                “ไม่มีปัญหาครับ ผมสามารถส่งข้อมูลนั้นให้คุณแดนได้ภายในพรุ่งนี้เลย” ปรัชวินทร์ยิ้มเยือน “คุณแดนสงสัยว่าคนในบริษัทจะมีนอกมีในกับเรื่องนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอครับ”

                “ผมไม่อยากปักใจเชื่อนัก แต่ก็อยากเช็กเพื่อความมั่นใจครับ” แดเนียลยิ้มขรึมตามแบบฉบับ เขานั่งรับประทานอาหารกลางวันไป สนทนากับอีกฝ่ายไปจนกระทั่งปรัชวินทร์ขอตัวกลับไปทำงาน ชายหนุ่มใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับการซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่ไปงานล่องเรือดินเนอร์

    ในวันถัดมาแดเนียลใช้เวลาไปศึกษาข้อมูลในไฟล์ที่ได้มาอย่างละเอียดและติดต่อกลับไปหาผู้บังคับบัญชาที่ลอนดอนเพื่อแจ้งความคืบหน้า ก่อนจะโทรหามารดาเพื่อส่งข่าวว่าเวลานี้เขาเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ที่เมืองไทย

    “อย่ามัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาหาความสุขใส่ตัวนะแดน ความจริงแม่ว่าแดนน่าจะถือโอกาสที่อยู่เมืองไทย หาสะใภ้คนไทยให้แม่สักคนนะ บอกตามตรงว่าแม่ไม่อยากได้สะใภ้อังกฤษ ผู้หญิงไทยอ่อนหวาน เป็นแม่บ้านแม่เรือนกว่าผู้หญิงทางนี้” นางดาริกาเปรยมาตามสาย แม้จะไม่เคยบังคับเรื่องเนื้อคู่ตุนาหงัน แต่ก็แอบหวังลึกๆ ไม่ได้ว่าหากบุตรชายคนนี้พาสะใภ้คนไทยเข้าบ้านจะดีขนาดไหน

    “ผมมาทำงานนะครับแม่ ไม่ได้มาเที่ยว” ตาสีน้ำตาลทองกลอกไปมา

    “แม่รู้ แต่แม่ก็อดห่วงอนาคตของแดนไม่ได้ แม่อยากเห็นแดนแต่งงานกับผู้หญิงน่ารักสักคนและสร้างครอบครัวที่อบอุ่น บอกตามตรงว่าแม่ไม่อยากเห็นแดนบินไปนั่นไปนี่และทำงานเสี่ยงๆ แบบนั้นอีกแล้ว”

    “ผมรู้ครับว่าแม่เป็นห่วงและหวังดี แต่แม่ต้องเข้าใจนะครับว่างานของผมมันไม่ได้เสี่ยงมากเลย ผมมีหน้าที่รวบรวมหลักฐานข้อมูลให้ตำรวจท้องที่เท่านั้น ไม่ได้ไปสู้รบปรบมือกับพวกอาชญากรเสียหน่อย”เขาจำไม่ได้ว่าบอกมารดาแบบนี้ไปกี่สิบครั้งแล้ว

    “แม่ขี้เกียจเถียงกับแดนแล้ว” ผู้เป็นมารดาส่งเสียงกระเง้ากระงอด 

    “ผมรักแม่นะครับ” ริมฝีปากได้รูปหยักยิ้มอย่างขบขัน 

    “ถ้าแดนรักแม่จริงก็รีบหาสะใภ้ไทยให้แม่สิ เดี๋ยวแม่เป็นคนจัดการเรื่องค่าสินสอดให้แดนเอง” นางดาริกาต่อรอง

    “คร้าบ ผมจะพยายามครับ แม่มีอะไรจะเรียกร้องเอาจากลูกชายคนนี้อีกไหมครับ” ชายหนุ่มยอมความเหมือนทุกครั้ง 

    “ไม่มีแล้วจ้ะ” ผู้เป็นมารดายิ้มหน้าระรื่น “แม่รักแดนนะ”

    “ผมก็รักแม่ครับ ฝากเซย์ไฮทุกคนด้วยนะครับ” ตอบเสียงทุ้มแล้วส่ายหน้าเมื่อนึกถึงคำขอของนาง ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือจู่ๆ ใบหน้าสวยผุดผาดของกามเทพสาวที่เพิ่งไปเจอมาเมื่อวานก็ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงสวย เวลายิ้มเหมือนจะทำให้ดอกไม้ตูมๆ ทุกดอกเบ่งบานได้อย่างนั้นจะยังไม่มีแฟน

    “เอาอะไรกับน้ำคำของผู้หญิง” แดเนียลหาบทสรุปให้ความคิดของตัวเองด้วยสีหน้าบึ้งตึงเมื่อนึกถึงอดีตสาวคนรักอย่างแคเธอรีน หรือ ‘เคท’

    บางทีมันอาจจะเป็นสัญชาตญาณให้เขาจะได้ระวังตัวระวังใจก็ได้ที่ตัดสินใจเรียกการะเกดด้วยชื่อเล่นเดียวกับผู้หญิงคนนั้น

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×